ศรีอาริย์ ดั่งสวรรค์บนพสุธามนตราปาริชาติ
นิยาย เทิดพระเกียรติคุณของสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย
ผู้เข้าชมรวม
3,184
ผู้เข้าชมเดือนนี้
13
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นิยายเทิดทูนพระเกียรติคุณขององค์สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรย
ศรีอาริย์ ดั่งสวรรค์บนพสุธามนตราปาริชาติ
ทั่วทั้งแผ่นดินบังเกิดสิ่งพิเศษเป็นมหัศจรรย์แตกต่างจากโลกเดิมภพเดิมที่จากมาเพียงชั่วครู่ ทำไมให้ทั้งหัวใจและบ่งบอกถึงความรู้สึกตนเองเยี่ยงนั้นแทบทุกผู้หมู่เหล่าของราษฏร โอ ปาฏิหาริย์จากพรพระเจ้าเป็นแน่แท้ แผ่นดินที่เคยขรุขระเว้าแหว่งแต่ครั้งที่เคยเห็นครั้งในอดีตชาติเดิมกลับมลายกลายเป็นถนนหนทางที่เรียบตรงเสมอ ฟากหนึ่งสายน้ำที่ไหลไปในทิศทางเดียวกันไม่ย้อนทวนกระแสไม่มีขึ้นลง ไม่พร่อง หากแต่บริบูรณ์เต็มคลอง บัวหรือปทุมบานเบ่งรับแสงอรุณมีชีวิตชีวาสดใสร่าเริงหมู่แมลงภูผึ้งร่ายระบำโลมคลุกเคล้าอยู่เหนือกลีบบัวและเกสร ดั่งสัตว์ที่มีความสุขปราศจากทุกข์
เมล็ดข้าวหอมที่ทิ้งร่วงหล่นบนพื้นดินเพียงเม็ดเดียว ฉับพลันให้ปาฏิหาริย์ปรากฏต้นข้าวจากเพียงแค่สูงเหนือเข่าขยายใหญ่สูงเท่าลำต้นไผ่ หากแต่ให้ผลผลิตเป็นเมล็ดข้าวได้เป็นเกวียน และรวงข้าวก็โน้มต่ำลงสู่ดินชาวนาเหล่านั้นไม่มีการเก็บเกี่ยว แต่จะผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวอย่างอัตโนมัติ เพียงแค่ชาวนาทุกคนพนมมืออธิษฐาน พลันเมล็ดข้าวเปลือกบนต้นข้าวสูงเท่าลำไผ่ก็ถูกบรรจุอยู่ในถุงกระสอบ และพร้อมด้วยรถที่รอลาก
นิวาสถานของมนุษย์แต่ละหลังล้วนงดงามราวกับปราสาทราชวิมานระยิบระยับด้วยยอดปราสาทแวววาวด้วยแสงแห่งรัตนะ ต่างมีครอบครองทุกครัวเรือนมิมีหลังไหนที่ด้อยค่างดงามต่างกันหากแต่เสมอเหมือนทั้งสิ้น เรือนและปราสาทเหล่านี้เจ้าของผู้ครอบครองได้มาจากการตั้งจิตอธิษฐานปรารถนา เรือนและปราสาทดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
คฑากรจ้องมองเงียบๆโลกที่เขาได้ผุดกายขึ้น รู้โดยบัดดลว่าไม่ใช่ของเทียมแต่เป็นของแท้ ผิวกายแต่ครั้งอดีตชาติที่แล้วนั้นดูคล้ำเผือด จัดว่าเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ มิใช่งามหมดจด ซ้ำหล่อเหลายิ่งในเวลานี้ เหตุที่ทราบอดีตชาติของตนเองได้ มีพลังคล้ายแม่เหล็กจากที่หนึ่งดึงดูดใจจนเขาก้าวเดินมาถึง ต้นไม้ประหลาดบันดาลผลตามกิ่งก้านเป็นเงินทอง เพียงเขาก้าวพาตัวเองมาหยุดพร้อมระลึกอธิษฐาน สิ่งต่างๆมากมายดลบันดาลให้เกิดขึ้นสามารถระลึกนึกย้อนไปหาอดีตที่ผ่านมาของเขาได้หลายภพหลายชาติ บวกกับเหตุปัจจุบันที่อานิสงส์ผลาบุญนั้นได้ส่งเขามาเกิดยังดินแดนที่เรียกว่าสวรรค์บนพื้นพสุธา
แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์คล้ายเลื่อมประภัสสรอบอุ่นหาได้ร้อนอ้าวและรุ่มร้อนจนดูกระวนกระวาย ใจแผดของรังสีอุ่นเรืองค่อยๆโลมทาไปทั่วแผ่นดิน ผิวกายของหนุ่มในชาติปัจจุบันกลับมีภาพสง่างามไม่แตกต่างไปจากองค์เทพบุตร จนเมื่อมองแล้วรู้สึกหลงในรูปของตนเอง ไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นกายของเรา ทั้งที่อดีตชาตินั้นกลายเป็นคนขี้ริ้วขี้เหร่ เพียงแต่จิตใจมีความปรารถนาใฝ่ซึ่งบุญกุศลอยู่ตลอดเวลาทั่วทุกลมหายใจเข้าออก
ย่ำรุ่งของวันนี้แสงสาดไล้ผ่านทางทิศตะวันออกคือแสงอร่ามเรืองที่เขาเห็นดุจเลื่อมประภัสสรเช่นเมื่อครู่นี้เอง จิตใจที่อิ่มเอิบใบหน้าของมนุษย์ด้วยกันที่แผ่เต็มบริบูรณ์ไปด้วยพรหมวิหารสี่ อันมี เมตตา กรุณา มุทิตาอุเบกขา ไม่พร่องแต่เต็มเต็มใจทั่วบุคคลที่เขาได้ผ่านพบคนเหล่านั้นส่งรอยยิ้มเย็นมาให้ด้วยความจริงใจแย้มจากริมฝีปากได้รูปหมดจดงามเช่นเดียวกับเขาทั้งบุรุษและสตรี
ที่ผ่านพบหน้า ใบหน้าที่ปราศจากความหมองทุกข์ใด หากแต่เปล่งปลั่งด้วยเลือดฝาดของมนุษย์ผู้อิ่มเอิบด้วยศีลธรรม ปราศจากความหยาบความชั่วร้าย จึงทำให้ใบหน้ามีความผุดผ่องใสอยู่ตลอดเวลา อีกประการหนึ่งด้วยวาจาที่หลุดพุดออกมานั้นช่างเสนาะเพราะพริ้งมิแตกต่างไปจากกังสดาลแว่ว ถ้อยแต่ละถ้อยปราศจากการปดเท็จ มีแต่เถรตรงตามคำนึงนึก จะปิดบังซ่อนเร้นก็มิมี คนในยุคที่เขาได้บังเกิดมา จึงเป็นคนที่ไม่มีเหลี่ยมเล่ห์ ไม่ต้องมีตีหน้าขมวดคิ้วให้เมื่อย เป็นบุคคลที่ยิ้มแย้มอย่างเปิดเผย ไม่มีหวาดระแวง ไม่มีการกระทำเช่นวัวสันหลังหวะ เพราะผู้ที่ถูกคัดเลือกให้มาบังเกิด เป็นผู้ที่บริบูรณ์ด้วยศีลธรรมเพียงพอแล้ว
เพราะบุคคลเหล่านี้รวมทั้งเขาไม่มีทุกข์ รวมทั้งเขาด้วยเป็นผู้มีสุข อาหารก็ได้จากทิพย์ เพียงแค่ตั้งจิตระลึกอธิษฐาน ความอิ่มก็ซาบซ่านเข้าไปในทรวง นึกปรารถนาอาหารรสใดก็ได้ดังนั้น แม้นิวาสถานที่หลับที่นอนก็ให้เนรมิตดุจดั่งปราสาทแก้วเรือนทอง เป็นไปตามอำเภอน้ำใจที่เจ้าของปรารถนา อีกประการที่รายรอบก็มีเสียงสังคีตกวีและท่วงท่าการร่ายระบำฟ้อน เสนาะไพเราะจับใจ มีหมู่ชนให้ความสนใจจนเข้าไปร่วมวงดีดสีตีเป่าระบำขับร้องเป็นทิวแถว จนยากที่จะหาความทุกข์สลดใจทางใดได้
เพราะนี่ถือว่าเป็นโลกของผู้มีความอภิรมย์อย่างแท้จริง นกแต้ว นกขุนทอง แก้วเกาะกิ่งไม้คอนเริงระบำไปด้วยอย่างมีความสุข เมื่อเงยมองหมู่มนุษย์ที่สราญเบิกบานใจ คฑากรเดินเรียบเรื่อยพบเจอผู้คนก็ยกมือไหว้ทายทักอย่างอ่อนน้อม มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ จากความรู้สึกที่กระทำแท้โดยจิตใจ และการตอบสนองจากผู้รับก็ให้เช่นเดียวกัน มีแต่รอยแย้มยิ้มทักทายอย่างเข้าใจขนบ ผู้น้อยยกมือไหว้ผู้อาวุโสด้วยใจนอบน้อม ปราศจากน้ำเสียงที่ประชดประชันตำหนิติเตียนผู้อื่น ก็หาได้บังเกิดจากริมฝีปากทิพย์ของมนุษย์สมัยนี้ไม่ หากแต่เพียงแย้มก็ดุจกลีบก็ดั่งมวลบุปผชาติเกสรที่ร่วงหล่นวาจาออกมาด้วยหอมกรุ่นตลบดังดอกพิกุลมะลิสด
ที่นี่มีแต่คนดี คนดีที่เรียกว่าสัตบุรุษ สายน้ำที่มองเห็นใสสะอาดมิพร่อง ฝนนั้นหากจะตกเลือกตกเฉพาะค่ำคืนตอนดึก ซึ่งเมื่อคืนนี้หนึ่งในสัตบุรุษผู้มีบุญเกิดในยุคศรีวิไล หรือกตยุค เป็นยุคของความเจริญทางจิตใจสูงส่งกว่าวัตถุ เหตุที่คฑากรรับรู้ เพราะเวลาผันผ่านวันคืนหมุนเปลี่ยนจวบจนวัยของเขาย่างเข้าสู่หนุ่มรุ่นกระทง อีกไม่นานนักหรอก ความรักก็กวักมือเรียก
เอ ไปที่โคนต้นกัลปพฤกษ์ดีกว่า มีสิ่งประสงค์ที่เขานึกปรารถนา อยากได้เครื่องประดับตกแต่งเรือนร่างใหม่ รู้สึกเบื่อชุดนี้แล้ว ปราสาทของผู้คนแต่ละหลังนั้น ปลูกติดชิดกับริมน้ำ ท้องทุ่งกว้างที่มีแต่ทุ่งข้าวต้นโตเท่าลำไผ่ ดูเหมือนจะเกิดและเติบโตเองให้ผลิตผลเองทันทีเบ็ดเสร็จทั้งเกี่ยวเป็นข้าวในโภชนาหารประณีต เมื่อเก็บเกี่ยวโดยอัตโนมัติแล้วก็งอกเงยขึ้นมาดังเดิม คฑากรรู้ว่าเขาและหมู่ผู้คนในเมืองนี้ยุคแห่งนี้ด้วยกัน กินทิพย์ อิ่มทิพย์
ลำคลองที่เห็นหน้าบ้านหรือปราสาท ไม่ตื้นเขินไม่ขุ่น หากใสแลเห็นตัวปลาว่ายซุกซนไปมาตามวิถี เขามองดูพวกมันอย่างเอ็นดูรักใคร่ ไม่นึกปรารถนามาเป็นอาหารใดๆทั้งสิ้น เพราะหมดสิ้นความรู้สึกการทำบาปทำกรรมกับสัตว์ใดทุกชีวิต แม้แต่มนุษย์ก็ตาม ยังจะหาจิตใจเบียดเบียนทำร้ายยากยิ่งนัก ความชั่วร้ายไม่บังเกิดในจิตใจ ไม่มีแม้แต่สักนิดหรือสักละอองธุลีเดียว อีกประการคือมนุษย์ยุคเช่นเดียวกับเขากินทิพย์อิ่มทิพย์ ยามเดินไปไหนไม่มีคำว่าไกลหรือเหนื่อยล้า แม้แต่กระทั่งความผิดหวัง ราชรถทิพย์พร้อมที่จะเป็นพาหนะตลอดเวลา
ลิ้มชิมรสของน้ำหรือก็หวานนัก ไม่จืดไม่ขุ่น หาความสกปรกใดๆไม่เจอ ลำน้ำเป็นของสาธารณะไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือห้ามหวง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นของผู้บารมีแห่งยุค พ่อแสงแม่งามผู้เป็นบุพการีเรียกเขาแล้ว เรียกไปทำไม เรียกไปทำบุญ
ไปทำบุญด้วยกันลูกงานบุญฝังทองลูกนิมิตกับบุญกฐิณ
แค่มารดาพูดถึงงานบุญงานกุศลจิตใจก็อิ่มเอิบซาบซ่านแล้ว อยากไปทันที เป็นเพราะผลบุญจากอดีตชาติที่ระลึกผ่านอารมณ์ ความเคยชินต่อการทำบุญทำทาน ทำให้ตอบสนอง ผงกศีรษะตอบรับ แล้วก้าวเดินตามไปอย่างว่าง่าย จัดเป็นลูกที่อยู่ในโอวาทของบุพการี ลูกทุกคนจะเป็นอย่างนี้ ดูตัวอย่างคฑากรเพื่อนสนิทของเขาคนอื่น ไม่มีใครดื้อรั้น แสดงกิริยาบึ้งตึงไม่พอใจก้าวร้าว
มีแต่ผ่องใสยิ้มละไมบวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาปานเทพบุตรเท่าเทียมกัน ความหม่นหมองมิพบเจอ นอกจากถลาร่าเริงยินดี
ยังไม่พบพานรักกับว่าที่เจ้าสาวแสนสวย
นัยน์ตาใสสีนิลดุจมฤคีอาภรณ์ที่สวมใส่งามระยับสีส้มอ่อนๆออกโอโรส ประทินด้วยเครื่องหอมจนโฉมนั้นพิลาศลักษ์ นางกำลังผินหน้าไปทางสระบัวโบกขรณี ที่มีดอกบัวหลายดอกชูช่อผลิสะพรั่งบานรับแสงแดดอ่อนๆ กรอบหน้าล้อมด้วยเส้นผมที่นุ่มราวกับเนื้อไหมสีดำสนิทวงหน้างามหมดจด กิริยาอ่อนหวานแลดูเป็นกุลสตรียิ่งนัก ฝัน ฝันอีกแล้วหรือนี่ ถ้าเป็นจริงก็จะดีมากเลย แต่แม่บอกว่า ญาติพี่น้องเรานี่ โดยเฉพาะสาวจะแต่งงานกันต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู ฝ่ายชายอดทนรอจนถึงแปดพันปีโน่น ถึงจะปลงใจแต่งงานกับชายหนุ่มคนรัก
แหมมันนานจัง แต่ไม่ทดท้อรอได้ เพราะวัตถุสุขที่ได้รับก็มากมายเสียเหลือเกินรู้สึกเพลินเจริญใจ
ในเมื่อตัวเราคล้ายมีอิทธิฤทธิ์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขอพรใดอยากได้สิ่งใดท่านก็ประทานให้ เรื่องความรักความใคร่เหมือนมนุษย์ยุคที่เพิ่งจากมาอดีตชาติ ยุคที่คบชู้สู่ชาย ชิงสุกก่อนห่าม แต่ยุคพระมหาเมตตากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรยมิมี กลุ่มพวกเขานั้นเป็นสัตบุรุษ นั้นย่อมต้องละอายและเกรงกลัวต่อบาป ในเมื่อเป็นธรรมสำหรับผู้เป็นเทวดานางฟ้ามาก่อน ก่อนที่เขากับหมู่เพื่อนๆและครอบครัวจะพากันลงมาจุติเกิดในยุคพระศรีอาริย์ ในระยะเวลาที่ผ่านมาก็เสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั่วระยะหนึ่ง
บุญเหล่านี้จึงติดตามเทวดานางฟ้าที่ลงมาเกิดด้วย ทุกคนมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ศรัทธาต่อศีลธรรม และพระพุทธศาสนาอันดับหนึ่ง ดังนั่นคนที่จะแต่งงานได้นั้นหญิงชายมีอายุแปดพันปีขึ้นไป ส่วนพวกเขากับเพื่อนหนุ่มสาววัยรุ่นก็ท่องเที่ยวสนุกเล่นตามประสา ก็ในเมื่อมีความบันเทิงเบิกบานใจมากมายนี่ สุดแท้ใครจะปรารถนา เหาะเหิรเดินอากาศได้ทุกคน ของสวยงามอยากได้ก็ ไปขอจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ท่านมีหน้าที่ประทานความสมหวังให้แก่มนุษย์ทุกคน ไม่เคยหยุดทำหน้าที่ ไม่มีหมด คลังสมบัติพระศรีอาริย์ ใช้เท่าไหร่ไม่มีวันหมด
โลกยุคนี้มีแต่คนดีมีศีลสัตย์ ทุกคนเคร่งครัดในตัวเองศีล คุณธรรม อยู่ในโอวาท การให้เกียรติดูเหมือนจะมีเกิดขึ้นเอง บวกรวมกับบารมีในอดีต บวกรวมกับบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่เรียกว่าจักรแก้ว กำลังอุบัติมาบังเกิด หิริ คือความละอายแก่บาป โอตัปปะหมายถึงเกรงกลัวซึ่งบาป เป็นคุณธรรมประจำใจมนุษย์ยุคนี้
เหตุที่จักรแก้วบังเกิด ผู้มีบุญย่อมบังเกิด จักรแก้วบังเกิดนั้น ทำให้สะดุ้งสะเทือนไปถึงบัลลังก์นาคราช ทั่วทุกทิศชั้นฟ้าจนถึงพรหมโลก เทพเทวาทั้งสี่หมื่นในจักรวาลมาอาราธนาเชื้อเชิญพระมหาโพธิสัตว์ มาจุติเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาองค์สุดท้ายในภัททกัปนี้ ภัททแปลว่าห้า เป็นข่าวที่ปรีดามนสิการแซ่ซ้องสรรเสริญไปทุกทั่วทุกพิภพหมู่มนุษย์ ที่ถูกจัดวางอย่างลงตัวว่าต้องมีศีลประเสริฐ์ โครงการมหัศจรรย์ของพระดำเนินล่วงหน้าไปนานแล้ว หมู่ผู้คนเหล่านี้คือพุทธบริษัทในอดีตชาติที่เคยบังเกิดในโลกมนุษย์ อันประพฤติชอบด้วยสัมมาทิฏฐิ
เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เชื่อบุญบาป เห็นภัยแห่งการเกิดที่เวียนว่ายในวัฏสงสารไม่มีที่สิ้นสุดเพียรพากหวังจะมีบุญขอนิพพานในศาสนาของสมเด็จพระศรีอาริย์เจ้า โลกที่มืดบอดผ่านไปนานครัน แล้มล้างพินาศภพไปด้วยเปลวบรรลัยกัลป์ คนชั่วถูกพิพากษาใต้นรกพื้นแผ่นดิน คนดีถูกเชื้อเชิญให้พักรับรองมีความสุขอยู่ในนคราอันแสนประเสริฐ์เมืองเทพแดนเทพแดนธรรม อันมีสวรรค์ชั้นที่สองเป็นอาทิ ก่อนที่บรรลัยกัลป์จะถูกทำลายและรองรับการอุบัติขึ้นอีกครั้ง เหล่าเทพเทวดาก็ถูกอพยพขึ้นไปอยู่สวรรค์ชั้นสูงลำดับถัดต่อไป ที่สุดถึงคราวมาถึงกับร่วมจุติในภพเดียวกับสมเด็จเจ้าจักรพรรดิ์
จักรพรรดิผู้ประเสริฐ์เป็นที่สักการะของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาพรหมวิหารสี่ และทศพิธราชธรรม แปดพัน อสงไขยกับอีกแสนมหากัป มีบารมีมากเหลือคณานับ ที่ยังให้บุคลได้มีผลบุญมาบังเกิดในชาตินี้ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นมนุษย์ล้วนซึ่งมีความสมบูรณ์หน้าตาหล่อเหลาสวยทั้งชายหญิงไม่มีที่ติทัดเทียมกัน
ปราศจากอาภัพบุคลคนเข็ญใจไร้ทรัพย์ในชาติขี้ริ้วก็จักหาบังเกิดมี ง่อยเปลี่ยนพิการก็ไม่บังเกิดมี เป็นเพราะบารมีที่สั่งสมไว้แต่ปางชาติเมื่อจัดแจงพระองค์เป็นพระมหาโพธิสัตว์ ช่วยเหลือมนุษยชาติเหลือคณานับทุกภพทุกชาติ ปราศจากการทะเลาะวิวาทบาดหมางบีฑาให้ร้ายเสียดสียุแยง สงครามเข่นฆ่าโจรผู้ร้าย ก็จักมิบังเกิดมี เหตุผลดังกล่าวจากบารมีที่ทรงกระทำไว้ถึงแปดพันอสงไขย
บุคลที่มีโอกาสบังเกิดในยุคนี้ย่อมมีอายุยืนยาว อายุของศาสนายาวนานถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นถึงสิ้น ภายหลังพระองค์เสด็จปรินิพพาน นี่แหละคือที่เสวยสุขเพราะบุญกุศลอำนาจบารมีแห่งพระผู้เป็นณใหญ่ เป็นศาสนาที่มนุษยชาติรอคอยมานานถึงพันหมื่นปี
นามกตยุค เกิดแทนกาลียุคอย่างยุคปัจจุบัน กตยุคหมายถึงยุคของความเจริญศิวิไลซ์ ทั้งทางด้านจิตใจและวัตถุ หากแต่จิตใจสูงงาม คุณงามความดี ผู้ทรงศีล สอนกล่าวในเรื่องหนทางอันจะนำไปสู่หนทางหลุดพ้นคือนิพพาน คนดีมากมาย แตกต่างไปจากปัจจุบันอดีตกาล (กาลียุคยุคเราที่ผ่านมา ผู้เขียนลัดตัดเรื่องราวให้สู่ยุคกตยุคที่แท้จริง ) บุคคลที่เป็นคนดีมีส่วนเดียว ส่วนคนชั่วที่ไปอบายมีทั้งหมดสามส่วน หากแต่ถึงยุคพระศรีอาริย์แล้ว ทุกคนได้ไปสู่นิพพานกันหมดทั้งสี่ส่วน มีส่วนน้อยที่ไปถึง คนเหล่านั้นย่อมเป็นบุคคลที่เกิดปลายใต้ศาสนาของพระศรีอาริย์ที่กำลังจะถึงคราวสิ้น เป็นไปตามกฎแห่งกรรม การอวสานของกัปกัลป์ที่ผ่านมา พระพุทธเจ้าผ่านมาทุกพระองค์ ซึ่งมีมากสามสิบเจ็ดพระองค์ แต่คิดว่ามีมากกว่านั้น บางพระองค์ที่ยังไม่ระบุนาม แต่ที่ปรากฏให้เห็นเอาง่ายๆที่ทราบกับมีเพียง ยี่สิบแปด พระองค์เฉพาะในอาฏานาฏิยปริตร อันมีพระนามดังนี้
ร่มแห่งดอกเงินดอกทองผุดพรายเต็มทุกประตูสี่มุมเมือง รอผลรอความปรารถนาการอธิษฐาน จากพสกนิกรผู้อิ่มเอิบไปด้วยความร่าเริงแจ่มใส ใคร่อยากได้สิ่งใดก็อธิษฐานขอสิ่งนั้น ศาสนาของพระศรีอาริย์ เป็นศาสนาแห่งการอธิษฐาน ผู้คนชินเสียแล้วกับการอธิษฐานในอดีตชาติ หากเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกัลปพฤกษ์นั่นเองเป็นไม้มงคลที่รองรับต่อความอยากปรารถนาของพสกนิกรของพระองค์ รัตนะทั้งเจ็ด
ผู้มีบุญ บังเกิดมาพร้อมด้วย
1.จักรแก้ว
2.แก้วมณี
3. ม้าแก้ว
4. นางแก้ว
5. ขุนนางแก้ว
6. ขุนคลังแก้ว
แผ่วเบาแช่มชื่นช่างเต็มไปด้วยความสุขเหลือกระไร มองไปทางไหนพบพานแต่รอยยิ้มอิ่มอาบเอิบ คนที่ละห้อยเศร้าทุกข์มิมีพบพานเลยในยุคนี้ พวกท่านทั้งหลายขับขานครื้นเครงบรรเลงเพลงด้วยเครื่องสังคีต เขาเหล่านั้นร้องรำฟ้อนเพลงอย่างสุขใจ เหตุด้วยอาหารก็เป็นอันที่รับรู้ ใครปรารถนากินได้กินแค่นึกอธิษฐาน ไม่มีการทำงานให้เหนื่อยยาก โภชนาหารเหล่านั้นก็ประณีตนักไม่มีหยาบไม่มีของเลว มีแต่ของบริบูรณ์ ข้าวก็ไม่ต้องปลูก คนในยุคนี้หากจะมีโรคภัย ก็คือโรคเกียจคร้าน โรคกระหายบริโภคกามสุข
บ้านเรือนหรือปราสาทที่ปลูกติดกันที่เอ่ยเรียกว่าชั่วไก่บินถึงเป็นระเบียบมีลำคลองตลอดสายเป็นระเบียบแม่น้ำมีรสชาติหวานสะอาด บึงโบกขรณีต่างๆก็ผุดบานสะพรั่ง รอให้สาธุชนในยุคนี้นำไปกราบไหว้บูชาพระสงฆ์องคเจ้า ผู้มีหน้าที่สั่งสอนธรรม
แม้แต่ถนนหนทางก็ปราศจากเว้าแหว่งมีแต่เรียบตรง เปรียบดังจิตใจขององค์มหาจักรพรรดิผู้เพียบพร้อมบารมีมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นพระมหาโพธิสัตว์ ซึ่งมิเคยกล่าวโป้ปดมดเท็จ บารมีผลดังกล่าวทำให้ผู้มีศีลธรรมมีบุญได้มาบังเกิดในยุคของพระองค์พลอยรับอานิสงส์ไปด้วย
เวโรจน์เป็นหนึ่งหนุ่มที่มีผิวพรรณงดงามเหลืองอร่ามดั่งทองคำ หน้าตาที่หมดจดงดงามทัดเทียมกับชายหนุ่มคนอื่น ที่แต่งองค์ทรงเครื่องแพรวพราย เป็นอันทราบว่ายุคเราทุกสิ่งทุกอย่างนี้ มาด้วยการอธิษฐาน เป็นบุญกุศลที่กระทำมาตั้งแต่ดั้งเดิมบวกกับบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ สหายคนสนิทของเวโรจน์ ชื่อ คฑากร ทั้งคู่มีแววตาทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส ถามไถ่อย่างสุภาพ เนื่องจากถูกจัดเป็นสัตบุรุษ เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ที่มีศีลธรรมและความดีงาม ถ้อยวาจาของทั้งคู่ให้เกียรติเพราะพริ้งเป็นไปในทางธรรมและความงามความจริงใจ ปราศจากถ้อยอกุศลเจือปน ความบาดหมางแม้แต่ริ้วริษยาก็ไม่บังเกิด
ทั้งคู่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อตนเอง ต่อพ่อแม่ ต่อญาติพี่น้อง ต่อครูบาร์อาจารย์ มีโรงเรียนสอนอบรมด้านศีลธรรม ไม่มีโรงเรียนสอนการปกครอง สอนธุรกิจ สอนเพื่อการแข่งขันแก่งแย่ง หรือกฎหมาย เป็นอันทราบแล้วว่า พวกเราไม่ทำมาหากินก็อยู่ได้อย่างสบาย ผิดไปจากยุคก่อนหน้านั้นที่ทนอยู่อย่างกระเบียดกระเสียร พบเจอแต่ข้าวยากหมากแพง การเอารัดเอาเปรียบของคน เหมือนเมื่อห้าพันปียุคก่อน หนึ่งในกัปที่สี่ของภัททกัปนี้จะมาเยือนถึง ในกัปป์ปัจจุบัน
เหตุที่เวโรจน์พึงทราบได้เพราะอธิษฐานสืบค้นหาอดีตชาติของตนเองภายใต้ต้นกัลปพฤกษ์ ที่บังเกิดมาพร้อมกับผู้มีบุญ ในชาติยุคนี้ จึงไม่มีคำว่าอด และลำบาก มีแต่ความสมบูรณ์พรั่งพร้อม นอกจากเป็นบุตรที่กตัญญูต่อพ่อแม่ เฉกเช่นเพื่อนสนิททุกคน
ผลงานอื่นๆ ของ ดอกหางนกยูงสีส้ม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ดอกหางนกยูงสีส้ม
ความคิดเห็น