ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศรีอาริย์ ดั่งสวรรค์บนพสุธามนตราปาริชาติ

    ลำดับตอนที่ #4 : ต่อจากเดิม

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 52


    เอิบอิ่มแช่มชื่นในรสธรรมะ.. วันนี้เสพทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมเพรียงแล้วนี่  .อิ่มทิพย์แล้วเรื่องอาหารไม่อยากสิ่งใดเลย อะไรที่อยากได้ก็ดลบันดาลให้หมดไม่มีขาดตกพร่อง ไม่มีคำว่าไม่ได้ มีแต่ได้ ขอเท่าไหร่...สิ่งเหล่านั้นข้าวของเครื่องใช้ก็เติมเพิ่งบริบูรณ์มาอย่างดี.. นี่แหละรู้จักไหม? โลกพระศรีอาริย์เป็นได้ด้วยเช่นนี้แหละ โลกแห่งกุศล..บารมีที่เปี่ยมล้นเกินพรรณนา.. ทำให้ข้ารองบาทของพระองค์ทุกคนที่เป็นพลโลกในยุคนี้ สุขเสมอภาคเท่าเทียม  ..ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญถึงพระองค์เป็นการใหญ่

                    เวโรจน์กับเพื่อนก็ชักหน่ายความสุขในบางครั้ง ก็แปลกเหมือนกันนะ บางครั้งสิ่งที่มีเกิดและได้ครอบครองเหล่านั้นมันมีมากมาย แต่พอนานวันเข้าอาการเบื่อก็เกิดทุกข์.. แต่มันย่อมไม่ถูกเรียกหรือว่าใช่ความทุกข์ ..เพราะความทุกข์จะไม่บังเกิดในศาสนาพระศรีอาริย์ ..ความสุขต่างหากล่ะ ที่เกิด สุขอย่างยั่งยืน  ..และสุขนี่เองที่คนทั้งหลายเมื่อรับไปแล้วอิ่มเอมจนเพียงพอแล้ว  มันเกิดความรู้สึกไม่ดี ..ซึ่งไม่เรียกว่าทุกข์

                    ทันที่สมเด็จผู้ยิ่งใหญ่ที่พลโลกรอคอยก็มาเสด็จอุบัติเบื้องหน้า  ..เสด็จอุบัติด้วยวรกายงดงาม พระฉวีผุดผ่องดั่งทารกแรกพระพักตร์ดั่งดวงจันทราหมื่นพันดวงกอบเอื้อถึงพระผู้มีเมตตาผิวพรรณดั่งดอกมะลิสดบุปผชาติบริสุทธิ์  ประสูติไม่นานเท่าใดนัก พระราชมารดาก็ทิวงคต  ทรงประสูติติต้นใต้กากระทิง  พรหมยมเทวดาทั่วโกฏิแสนโกฏิหมื่นโลกธาตุในพิภพจักวาลพากันแซ่ซ้องสรรเสริญประโคมเครื่องดนตรีแตรสังข์อันเสนาะไพเราะพริ้งทั่วชั้นฟ้าสวรรค์แผ่พริ้งกังวลมาถึงโลกมนุษย์.. ที่เป็นยุคที่เทวดานางฟ้ามาบังเกิดโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เพราะรับรู้อย่างแน่แท้ ..ผู้ที่มาบังเกิดจักได้บรรลุนิพพานทุกคน   และเกิดมาในยุคนี้ย่อมไม่พบความยากลำบากจึงพากันทูลลาต่อท้าวสักกะมาตั้งแต่ชั้นจาตุมก็ทูลลาเทวราชผู้เป็นใหญ่  ดาวดึงส์ก็ทูลลาท้าวสักกะ  ดุสิต  ก็ทูลลา ท้าวสันดุสิต  ยามาก็ทูลลาเทวดาผู้เป็นใหญ่ในนั้น   รวมถึงชั้นสูงต่อไปจนถึงพรหมชั้นสูงสุด   ต่อไปภาระกันสร้างเทวดานางฟ้ารูปใหม่ก็นำมาจากมนุษย์ที่มีบุญกุศลถึงขั้น  ..  ส่วนเทวดานางฟ้าที่ทูลลาต่อผู้เป็นใหญ่แห่งนั้นหมายมั่นในใจตลอดเวลา  ตั้งหทัยไว้คราวนี้ได้พบพระพุทธชินสีห์รูปใหม่   ในภัททกัปสุดท้าย  ..แม้ว่าจะเคยพานพบพระองค์จนเคยชิน ในนามของเทพบุตรที่ชื่อ นาถ  กับ เทพบุตรที่ชื่อสมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรยมาแล้ว พรรณนาถึงสรีระพระสิริโฉมงดงามของพระองค์แล้ว เมื่อครั้งกระโน้น   ..  แต่ยังมิเคยเห็นพระองค์ในรูปโฉมของปุถุชนอันนามว่ามนุษย์วิสัย    ..ซึ่งพระองค์จะสั่งสอนธรรม เรียนรู้ให้เวไนยสัตว์หลุดพ้นจากความเมามัวของการเวียนว่ายตายเกิดและกองกามที่ร้อยรัดตัวจนต้องตกเป็นทาสอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   บังเกิดเมื่อเป็นมนุษย์ปุถุชนที่ไม่ต้องพบพานความลำบากแร้นแค้นอิจฉาริษยา  ..เพราะยุคนี้เมื่อมนุษย์มีความเท่าเทียมยุติธรรม อิจฉาริษยาหล่อเหลาสวยงามพร้อมเพรียง ..ละโมบมิบังเกิดได้  หากเป็นเช่นนั้นก็หาใช่..ยุคพระศรีอาริย์

                   พระศรีอาริย์มีวรองค์งดงามดุจแก้วผลึกพระฉวีราวกับดวงจันทราหมื่นดวง มีดวงตายิ้มแย้มพระโอษฐ์เองก็แย้มแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์..ตลอดเวลาหล่อเหลาคมคายสง่างามเกินเทพบุตรองค์ใดจะมาเปรียบเทียบ  ในครั้งกระโน้นบรรดาเทพบุตรนางฟ้าจดจำภาพลักษณ์ของพระองค์ด้วยดี   ..รวมทั้งเหล่านางฟ้าบริวารที่แวดล้อมของพระองค์ด้วย มักจะเสด็จไปนมัสการพระจุฬามณีเจดีย์  เจดีย์สีเขียวแท่งทึบ ภายในบรรจุพระโมลีและพระทาฐธาตุ (มวยผมและพระเขี้ยวแก้ว)ณ ดวงดึงส์ ทรงเสด็จเหาะจากชั้นดุสิตวิมานสถานที่พระองค์ประทับ  ..เสมอมา ตลอดจนทรงถูกเชิญให้เป็นองค์ประธาน    ที่ประชุมของสภาธรรมเทวา  บ่อยหน  ..และทุกครั้ง

                    คำรำพึงรำพันขององค์เทพผู้อีกนามหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์..ทรงดำริปรารถนาที่จะช่วยพลโลกให้พ้นจากความทุกข์แท้จริง  ..มีมาตั้งแต่อดีตกาล..ครั้งบรรพบุรุษของชนชาติมนุษย์  จวบจนยุคปัจจุบัน.. เพราะพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น อุบัติขึ้นมา ย่อมนำความสำเร็จแก่ปัญญาให้ถึงวิมุติสุขและความหลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการที่ร้อยรัดอันชื่อกิเลส  ..ดวงจิตของมนุษย์ทุกคนไปสู่ดินแดนที่ตัดการเวียนว่ายตายเกิดเป็นอมตะสุข  ทุกพระองค์  แต่ละองค์ก็ชักพาดวงจิตของมนุษย์ผู้มีความเห็นชอบ ไปเป็นแสนๆดวง สี่แสนดวง  ห้าแสนดวง  พระองค์เองทราบในหทัยในการตั้งมโนปณิธาน อีกทั้งอนาคสตังญาณอันเป็นญาณเฉพาะพระพุทธเจ้า   ..ได้รับการพยากรณ์จากสำนักพระพุทธเจ้าในอดีต  อีกทั้งบารมีที่พากเพียบมายาวนานเป็น  เวลาสิบหกอสงไขยย่อมถ่องแท้ลึกลงเข้าไปในจิตวิญญาณของเวไนยสัตว์ที่กำลังเริงร่าว่ายแหวกทุกข์ระทมกับคำว่าโลกแห่งการเกิดที่ไม่มีการจบสิ้น..  โดยการติดยึดในการหลงชอบว่านั้นคือความสุข

                    ความสุขที่แท้จริงพระพุทธเจ้าทุกยุคทุกสมัยสอนเอาไว้แล้วเป็นแนวทางเดียว คือนิพพานเท่านั้น..แม้ยุคจะหมดสิ้นเกิดขึ้นอีกยุคใหม่..ยุคแล้ว ยุคเล่า..  ก็ตาม แต่ให้ทราบหลังจากนี้หายนะครั้งยิ่งใหญ่จะมาเยือนแก่พลโลกและมนุษยชาติในภพหลัง..     พ้นจากอายุศาสนาพระศรีอาริย์สิ้นสุดที่แปดหมื่นปี  ซึ่งจะเป็นกัปว่าง   และว่างอีกนาน ถึงอสงไขย   ..กัปป์ที่ปราศจากพระพุทธองค์สักหนึ่งองค์เสด็จมาอุบัติเพื่อโปรดมนุษย์

                    ณปัจจุบันนี้โลกสถิตซึ่งพระพุทธองค์ คุณงามความดีที่ทรงให้ไว้แก่ชาวโลกคือพระธรรม  ยังเป็นไปได้ขนาดนี้ ยุคปัจจุบัน..ถ้าหากโลกว่างพระสรรพพัญญูพุทธจ้าแล้ว  ..มันมิยิ่งกว่ากลียุคหรือสันถันตรกัปป์กัปป์ที่เต็มไปด้วยสงครามอาวุธจับแตะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอาวุธประหัตประหารกันอย่างโหดเหี้ยม..ไร้การรับรู้ผิดชอบชั่วดี ในเวลานั้นนรกคงเนืองแน่นนองด้วยคนบาปจนนรกไม่มีที่ลงโทษสำหรับผู้มีบาป..จำเป็นต้องปล่อยให้มาเกิดในโลกมนุษย์  ..และใช้วิถีชีวิตเยี่ยงสัตว์นรกด้วยกัน  คือประทุษร้ายแย่งคร่าเชือดเนื้อเถือหนังกันเอามาแล่กิน  ยุคที่พ้นหลังจากศาสนาพระศรีอาริย์.. จะมีสภาพเช่นนี้  ดังนั้นจึงได้บอกกล่าวถึงมหันตภัยขนาดหนักแก่ชาวโลกไว้แทนกาลเบื้องหน้า  พระศรีอาริย์เองสนองรับสั่งเป็นไปตามประเพณีพระพุทธเจ้าที่ต้องช่วยฉุดเวไนยสัตว์ให้พ้นบ่วงกิเลสจนกระทั่งตัดสิ้นอาสาวกิเลสสู่นิพพานอันเป็นโลกบรมสุข

                    ทรงตะหนักถึงหน้าที่โพธิสัตว์เสมอมายินยอมทั้งเสียแขนขาอธิษฐานอวัยวะทุกส่วนของพระองค์เพื่อเป็นตัวยารักษาโรคร้ายให้แก่มนุษย์ในอดีตภพที่ผ่านไปแล้วช่วงหนึ่ง..ไม่มีอะไรที่โพธิสัตว์ชั้นสูงผู้เปี่ยมล้นด้วยบารมีจะกระทำมิได้..  ทรงตั้งสัตย์เปล่งดำริแล้วกระทำผ่านการช่วยเหลือของคณะเทพผู้มีหน้าที่สร้างโลกสวรรค์ในยุคของพระองค์

                    ดวงจิตเป็นแสนล้านๆดวงแหวกว่ายมาเกิดยังภพภูมิมนุษย์สถิตเพื่อสั่งสอนแนะนำแนวทางให้ไปสู่โลกพระศรีอาริย์  ส่วนจะอุบัติ ไหนใด เป็นผู้ใดนั้น บางท่านรู้บางท่านก็ทราบ  แต่บางท่านก็ไม่รู้.. แต่ขอให้รู้พระศรีอาริย์อยู่ใกล้มนุษย์ที่สุด ถ้าเธอทำดีเป็นไปในแนวทางของบุญกุศล  ตั้งอยู่ในศีล  ..นั่นแหละเป็นผู้พบพระศรีอาริย์แล้ว..ถ้าคำตอบจะเป็นว่า ส่วนมากชาติภพที่พระศรีอาริย์ปรารถนาจะบังเกิดมักเป็นสมณะล้วนๆ ในแผ่นดินไทยนี้ นับอดีตกาลสู่ปัจจุบัน      ส่วนที่ปรากฏอุบัติเป็นมนุษย์ธรรมดาก็มากมีเช่นกัน เป็นพระมหากษัตริย์  เป็นชายเข็ญใจ เป็นชายอัปลักษณ์ นั่นข้อนี้สุดจะกล่าวอ้างได้  อาจเป็นเพราะพระองค์ปรารถนา ..เหตุแห่งจิตโพธิสัตว์ดำดิ่งสูงเกินกว่า..เข้าใจใคร่ถึงอย่างละเอียดลออในกิเลสของมนุษย์ธรรมดา ทรงปราศจากการยึดติดด้วยกิเลสแล้ว   พระโพธิสัตว์เช่นพระองค์เลือกที่เกิดได้   การสร้างบารมีน่าจะมาจากสิ่งที่ยากลำบากยากเย็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่ปรารถนาและมองข้าม  สิ่งเหล่านั้นต่างหากเล่าเป็นบุญกุศลสูงเยี่ยมเทียมฟ้า  .. เพศสมณะผู้ประพฤติธรรมต่างหาก  ที่นอกจากเสริมสร้างบารมีแล้วยังคุณประโยชน์ให้แก่พระองค์ เพราะพระองค์พ้นและไม่ยึดติดกับสรีระสังขารแม้แต่ความสวยงามหล่อเหลาเช่นเทพชั้นสูงก็ไม่ทรงปรารถนา..เทพบุตรเทพธิดาณเบื้องบนย่อมรู้ในโลกภพและเป็นวิสัยของภพภูมิทิพย์ว่า  เมื่อถึงคราบารมีแห่งกุศลเทพเทพบุตรนางฟ้าหมดสิ้นเมื่อไหร่  ..จำต้องมาบังเกิดอีกครั้งในโลกมนุษย์

                    เพราะสิ่งนี้สำหรับเทพและนางฟ้าทุกองค์ยังยึดถือว่าสิ่งนี้เป็นภาพลวงตา เทพสุขโดยสถิตอยู่ในโลกที่แท้จริงยิ่งกว่ามนุษย์..ไม่ใช่นิมิตหรือความฝัน  แต่ความจริงเหล่านั้นคือภพภูมิแห่งกายละเอียดและประณีตนักสามารถจับต้องได้ แต่ต้องเป็นด้วยความรู้สึกที่ละเอียดยิ่งกว่าละเอียดนัก เป็นภาวะโปร่งใสสุกสกาว  มีกายที่ระยับเรืองรองของรัศมีพวยพุ่งตลอดเวลา  ไม่ว่าท่วงท่าปรารถนาการกระทำความต้องการ  ..หากว่าเป็นชั้นสูงขึ้นไปอีกเช่นดุสิต ยามา ปรนิมมิตะสวตีก็ยิ่งละเอียดประณีตมากกว่าเดิม  ..สิ่งเหล่านี้อุบัติมาจากกุศล.. ที่เรียกว่ากุศลสวรรค์ และต้องกระทำมาตั้งแต่คราวบังเกิดเป็นมนุษย์

                    กลไกเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือโลก..เหนือการรับรู้และความจริง.. ของมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่มองผ่านข้ามความเป็นจริงเหล่านี้..  ในยุควิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อความจริงเหล่านี้  ดังนั้นพระศรีอาริย์จึงทำให้ทุกคนตื่นขึ้นมารับรู้ความจริง.. เชื่อในความมีอยู่จริงของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระผู้ช่วยโลก..สถานที่สถิตซึ่งคุณงามความดีทั้งหลายในโลก เป็นอำนาจที่สร้างขึ้นโดยทิพย์

                    สถิตอยู่ณ สวรรค์  เป็นที่เกิดของมนุษย์และดวงวิญญาณทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต  ไม่ว่าต้นไม้ใบหญ้าสัตว์เดรัจฉาน

                                                                                                    *****

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×