แต่งงานนี้ เพื่อชดใช้หนี้รัก - นิยาย แต่งงานนี้ เพื่อชดใช้หนี้รัก : Dek-D.com - Writer
×

    แต่งงานนี้ เพื่อชดใช้หนี้รัก

    แต่งานนี้ชดใช้หนี้รัก เรื่องแปลกของคนที่ถูกบังคับให้แต่งงาน แต่ไม่ยักกะได้แต่ง แต่คนที่ไม่อยากจะให้แต่ง กลับได้แต่ง งานนี้เลยมันต้องป่วนกลางงานวิวาห์ให้ เรื่องของลมภ์ กับภีมมัส และสุคนธ์ลดา ลายแพร

    ผู้เข้าชมรวม

    2,859

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    2.85K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 มิ.ย. 56 / 06:22 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    แต่งานนี้ชดใช้หนี้รัก เรื่องแปลกของคนที่ถูกบังคับให้แต่งงาน แต่ไม่ยักกะได้แต่ง แต่คนที่ไม่อยากจะให้แต่ง กลับได้แต่ง งานนี้เลยมันต้องป่วนกลางงานวิวาห์ให้ เรื่องของลมภ์ กับภีมมัส และสุคนธ์ลดา ลายแพร


     บทที่ หนึ่ง

    จะไม่มีได้ยังไง จะให้พลาดได้ยังไง ในเมื่อวันนี้ คนที่แอบเก็บกลั้นในใจเก็บมันเอาไว้ลึกที่สุด ถึงคราวที่เขาจะต้องแสดงละครโชว์ออกมาให้คนได้รู้จักและพบเห็นว่าเขามันแน่กว่าเดิมที่สุด
     คนเหล่านั้นจะไม่คาดคิดสักนิดเลย งานนี้บอกตรงๆมีแต่แค้นกับแค้น เล่นกันถึงเพียงนี้เลยเชียวนะ
     มันหยามหน้า หยามน้ำใจเกินควร
    ก็ถึงได้ว่าเกลือมันสมควรจะจิ้มด้วยเกลือ ถ้าบอระเพ็ดมันต้องใช้สมอ  
    ไม่พอยังร่อนการ์ดรับเชิญมาในงานปวดใจนี้ให้จงได้
    มันจะแกล้งกันไปถึงไหนวะ คงจะเป็นงานแต่งที่ทุเรศที่สุดของมันนั่นแหละ
    ระบุชื่อไว้ด้วย คล้ายกับแกมบังคับด้วยลายมือปากกาจะฝีมือใครล่ะ ลายมือแบบนี้เจ้าบ่าวชัวร์
    แค้นไม่รู้จะแค้นยังไง
    กรามทั้งสองบดเป็นสันนูนขึ้น  แล้วขบอีก
    และมือก็กำแน่น 
    ร็สึกหดหู่ ห่อเหี่ยวในใจ 
    จึงได้แต่หลับตา  และพยายามนับหนึ่งให้ถึงสิบทุกครั้ง
    ก็เพื่อไม่ให้ตบะแตก  เตลิดไปมากกว่านี้

    แค่นี้คนอย่างนายลมภ์ มันเสียขวัญจะแย่อยู่แล้ว
    หรือว่ากะจะเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ถึงจะสมใจไอ้เจ้าบ่าวจอมวางแผน แหม จีบแฟนเพื่อนจนสำเร็จ
    เหมือนสุนัขคาบเอาไปรับประทาน เอ้ย ด่าเจ็บกว่านั้นต้องแดก
    เอาแฟนของเพื่อนไปแดกลงคอ
     แบบนี้มันน่าอยากจะมาคบค้าสมาคมอีกหรือเปล่า?
    มันน่าจะตัดหางปล่อยวัด ทำในสิ่งตรงกันข้ามมากกว่า เขายิ่งโมโหเดือดจัดด้วย

    การพูดคิดแบบนี้เหมือนกับการท้าทายคนที่ไม่มีทางสู้นี่หว่า
    โธ่เอ๋ยไอ้คนสมอง ฉลาดแบบโกงกินเพื่อนน่ะ   คนอย่างกูน่ะถีบกระเด็นไปแล้ว    แล้วอย่ามาใช้คำนี้กับกูเลยเชียว   แม่งพูดคิดทีไร ให้เลือดขึ้นหน้าทุกทีเลย
      โธ่เอ๋ย ไอ้เพื่อนเฮงซวย   ไม่รู้กูหลงคบมึงมาได้ยังไงวะ ตั้งห้าปีเต็มๆ    ไม่รู้ว่ามึงจะแนบเนียน    คิดหักหลังกูได้อย่างหน้าตาซื่ออย่างนี้    กูมันโง่เองว่ะ หลงกลคน  มากเกินไป มันเลยเห็นความดีของกูดูเป็นสิ่งที่ควรเหยียบย่ำ
    ต่างๆนาๆเมื่อประดังประเดเข้ามาสุมในจิตใจ มันก็กลายเป็นโรคเครียด และแล้วว่าบ้าได้มาเยือนผ่านสมองเขาด้วย  เพราะเขาเริ่มจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

     ขบคิดมาก็นมนานแล้ว ตอนนี่เสียเพื่อนไปแล้ว  เพื่อนระยำ เสียไปเขาก็ไม่เสียดาย ยิ่งไปไกลๆก็ยิ่งดี อยากจะตัดขาดมันให้รู้แล้วรู้รอด
     เหมือนมันมาขี้มาราดรดลงในจิตใจเขา ไอ้เลวชาติมันทำกับเขาได้ลงคอ  วันนี้เขามาเพื่อแก้แค้น คำตอบน่ะหรือเตรียมให้ตัวเองไปล่วงหน้าก่อนนั้นแล้ว
     รู้แต่ว่าจะมาในงานนี้
    งานวันนี้ดั่งที่ว่านั้น เป็นงานระดับช้าง ใหญ่โตถึงขนาดจัดกันในโรงแรมหรูหรา
    สืบเท้าเข้ามาแล้ว ใครจะว่าเขาแต่งตัวยังไงก็ช่าง ไม่สน
    ก็แต่งมาแล้วนี่หว่า แต่รู้ไหม ลึกๆนี่ทำไปก็เพื่อประชดไอ้คนที่มันกำลังมีความสุขความซึ้งนักหนานี่แหละ
    ไอ้เพื่อนตัวแสบ ไอ้หมาภีม

    หยุด อยู่อยู่ตรงนั้นนะลุง ใครให้เข้ามาในงานนี้ รู้ไหมว่านี่งานอะไร?
    เสียงแหววแหลมนั่นพร้อมกับสายตาที่คบกริบของแม่เด็กสาว ตอนแรกเขานึกว่าเป็นใคร เขาดูแก่ขนาดเป็นลุงไปแล้วหรือ ขณะที่ลมภ์อายุจริงก็สามสิบห้ากว่าๆเท่านั้น
    โดนว่าอย่างนั้นก็นึกฉุนกึกขึ้นมาทันที
    สายตาไม่มีแววเลยอีหนู ใครลุงกันแน่ว่ะ
    นาติมายิ่งหัวเสีย โดนว่าเข้าอย่างนั้น จึงเพ่งและจ้องสายตาที่คบกริบมองไปยังสารรูปที่ยับยู่ยีแม้ว่าหน้าตาจะสะอาดสะอ้านหล่อเหลาอยู่มากเหมือนกัน
     แต่ว่าแต่งกายดีกว่านี้ คงไม่สะดุดสะกิดลูกกะตาของนาติมาเหมือนแขกคนอื่นๆหรอก ที่ปล่อยให้ผ่านฉลุย ก็เนื่องจากนาติมาเป็นน้องสาวแท้ๆของเจ้าบ่าวในงานนี้เอง

    คนที่บ้านในครอบครัวปล่อยให้รับหน้าที่นี้เต็มที่
    คิดว่านาติมาทำได้ นาติมาก็สำรวจถ้วนทั่วดูแขกไปเรื่อย
    ล้วนแต่เป็นแขกคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งนั้น ไม่มีแปลกปลอม
    แล้วลุงคนนี้ล่ะ นี่ล่ะ วัตถุแปลกปลอมของเธอ
    นาติมาก็เลยชะงัก จะเอาเรื่อยเลยล่ะ บทนางร้ายนางเฮี้ยบสำหรับเธอเป็นที่ประจักษ์
              จนใครๆก็พูดกันว่าหน้าสวยหวานแต่ดุไปนิด

    ประตูมีนะลุงถ้าไม่อยากให้ร.ป.ภ.ของโรงแรมมาจัดการหิ้วลากตัวลุงออกไป ก็เชิญเสียดีๆก้าวออกไปจากงานนี้เดี๋ยวนี้ ที่นี่เขามีงานแต่งงาน ไม่ใช่งานของภารโรงหรือว่าพวกขี้เมา
    เพราะนาติมาไม่รู้ว่าตาลุงคนนี้จะขี้เมาด้วยหรือเปล่า
    จึงคาดคิดไปอย่างนั้น  และปากเธอมันไวนัก
    สำหรับพวกที่พยายามมีเรื่องกับเธอ และก็ได้เรื่องอย่างในที่สุด
    แววตาของนาติมาในตอนนี้บอกได้เลยว่า ไม่ยอมแพ้ใครเลย

     ตาลุงคนที่ว่าแววตายิ่งฉายถึงความกระด้างเอาเรื่องเหมือนกัน เมื่อจ้องมองลึกๆเหมือนประสานสบ
     นาติมาตั้งท่าก่อน ตาคนนี้ทำท่าชักจะหาเรื่อง
    ดวงตาคมกริบสีสนิมเหล็กยังกร้าวจัดและเอ่ยเสียงดุดันเข้ม
     ก็ ไม่มีอะไรหรอกอีหนู  เฮอะ    หากว่าไอ้เจ้าบ่าวในงานวันนี้  มันชื่อไอ้ภีมมัสล่ะก็     ใช่แน่นอน   ฉันมาไม่ผิดงานแน่
    เสียงของเขาเข้มเช่นกัน
    และก็ทำให้  นาติมานั้นต้องถลึงตาใส่อย่างไม่ไว้ใจ
    นี่อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ   พวกแอบอ้างน่ะมีเยอะแยะ เดี๋ยวนี้  หน้าตาแบบนี้ล่ะ แล้วลุง มีหลักฐานอะไรล่ะ  ที่พอจะทำให้ฉันเชื่อได้
    นายคนนี้ไม่ยอมพูดอะไรอีก เอาแต่เงียบกริบ
    แต่ดวงตาสิคล้ายกับมีเพลิงพยาบาท     ดูเหมือนไม่ไว้ใจใครเสียเลยในดวงตาคู่นั้น 
    เป็นสิ่งที่นาติมาคาดคิดว่า นายคนนี้คงจะมาแบบไม่ใช่มิตร
    เมื่อ เขายังตัดสินใจสืบเท้าก้าวเดินต่อไปอีก  ภายในงาน 
    แต่นาติมาก็ยังตามเข้ามาขวางร่างสูงของเขา ด้วยการที่เอาตัวหล่อนกางกั้น  พร้อมยกมือทำสัญลักษณ์ ไม่อนุญาต
    ดังนั้นชายหนุ่มจึงโกรธจัด
    ที่เด็กสาวคนนี้ บอกแล้ว  ไม่คิดเชื่อฟังเขาสักนิด
    เสียงจึงเข้มตามมา ด้วยคำขู่
    ที่ดูเหมือนเขาไม่ได้เกรงกลัวใครสักนิด
    และมีแววจะสะทกสะท้านให้เห็น
    นาติมาได้แต่ยืนมองด้วยความรู้สึกที่อึ้ง
    ที่หล่อนทำอะไรไม่ได้
    ตอนนี้นะ ฉันคิดว่า  ไม่อยากจะตบหน้าผู้หญิงให้เสียมือ แล้วเสียเกียรติความเป็นผู้ชายของตัวเองเลยนะ   แต่ถ้าเธอ อีหนู  วอนจะโดนตบ    อยากหาเรื่อง  ก็ได้  แต่ว่าเก็บเอาไว้ก่อน   หามุมเหมาะดีๆเจอกัน
    เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แค่นเยาะหยัน
    แต่ฮันว่านะ  ตอนนี้ ทางที่ดี  ก็รีบหลีกไปไกลๆเลยจะดีกว่า  เพราะมัน ไม่มีอะไรหรอกนะ อีหนู  ที่ฉันมาที่นี่   ฉันก้แค่เป็นเพื่อนกับไอ้ภีมมัน   และมันก็เชิญฉันมาในงานนี้ด้วย  ถ้าเกิด ไม่เชื่อก็เอาการ์ดนี้ไปอ่านดูสิ
    เขาไม่อยากจะพูด แต่ก็ต้องพูดโดยลดเสียงเบาลงอีกนิดหน่อย
    แต่น้ำเสียงที่ฟังยังดูแข็งๆ พร้อมกับควักการ์ดใบนั้นส่งไปให้แม่สาวน้อย มีเพื่อนสนิทของนาติมา
    หรือนิดน้อย   รับเอาไปเอง
    พออ่านพิจารณาได้ชั่วครู่จึงพยักหน้ากับนาติมา เด็กสาวรับไปอ่าน
    ลุง เขาไม่ได้เป็นลุง ของใคร สักหน่อย กลับยัดเยียดให้เขาเป็นลุง แบบนี้ฉุนหนักชิบหาย ลมภ์มาถึงนี่แล้ว เขาไม่รามือแน่
    แต่ก็ไม่ได้มาป่วนงานวิวาห์หรอกนะ
    ความคิดแบบนี้คนสิ้นคิดเท่านั้นที่จะทำ
    แต่เขาแค่อยากออกจากป่า เพื่อมาอวยพรให้แก่คนรักเก่า กับอดีตเพื่อน
    และ อยากจะดูน้ำหน้าของทั้งสองคนนัก ว่า
    เมื่อมันมาเห็นหน้าตาของเขาแล้ว  มันจะรู้สึกอย่างไร?
    อย่างน้อยล่ะ  เขาคิดว่า ความละอายแก่ใจ ของมันมีบ้างไหม ?
    สุมหัวกันหลอกเขา ทั้งคนรัก และเพื่อนแบบนี้
     ลมภ์จึงไม่สะทกสะท้านใดๆ
    นาติมาเองก็ต้องเลยตามเลย เมื่อเขาเข้ามาที่นี่เพราะถูกรับเชิญเข้ามาในงานด้วย
    ใครกันนะ ทำพิเรนทร์อย่างนี้ พี่ชายของหล่อนหรือเปล่า
    เพราะเขาประกาศปาวๆออกมาว่า เขาเป็นศัตรูหัวใจของพี่ชายของหล่อน 
    ก็ทำให้หล่อนเกรงกลัว ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี   มันจะเกิดขึ้น
    และทำให้พี่ชายของหล่อน นั้นได้รับอับอายขายหน้า

    แต่นาติมาจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเรื่องนี้ พี่ชายของเธอเป็นคนผูก 
    หาเรื่องให้กับตนเอง หรือเปล่าหนา
    ในเรื่องพี่ใหญ่ของเธอ
     นายคนนี้ก็ทำท่าจะไว้ใจไม่ได้เสียด้วย  เอาเป็นว่า นาติมาคอยยืนประกบดูเขาไม่ให้คลาดสายตาเลยจะดีกว่า ขืนมีอะไรไม่ชอบใจ หล่อนจะได้เรียกยามจัดการลากเอาตัวเขาออกไปในงาน
    ฐานมาก่อความวุ่นวายที่นี่ คอยดูฤทธิ์ของยายนาติมาสิ
    ฉัน ชื่อ ลมภ์ ไปเรียก ไอ้เจ้าบ่าววันนี้หน้าด้านๆมาดูหน้าดูตาหน่อยสิ ไอ้เพื่อนทรยศ อุตส่าห์ร่อนการ์ดมาเชิญถึงที่ ต้องการจะเหยียบย่ำให้สะใจไปถึงไหน 
    เสียงนั้นดังพอที่คนในงานจะได้ยิน และแตกตื่น นาติมาจ้องหน้าเขม็ง  หล่อนเครียด ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถ้าใครคิดจะมาพังงานแต่งงานของพี่ชาย
    พี่ชายของหล่อนภีมมัส ไปรู้จักผู้ชายคนนี้ได้ยังไง ทั้งต่ำทราม กัฬขระ
      ร.ป.ภ. อยู่ไหน มาลากตัวคนพาลที่นี่ออกไปเร็วๆด้วย
    เสียงของนาติมาเข้มและชัดเจน
     หล่อนกล้าต่อกรกับเขาแน่
    เขาเป็นใคร ที่หล่อนจะต้องกลัวด้วย/p>

    เอ๊ะ ตาลุงคนนี้ พูดยากจริงๆ เห็นทีหล่อนจะต้องจัดการเองแล้ว นาติมาลืมไป เ
    ขาคงไม่อยากให้ใครๆไปเรียกเขาว่าลุง
    ทั้งที่สารรูปแบบนั้น ผมเผ้าหรือ ก็เหมือนโจรป่าเพิ่งออกจากมาถ้ำ   นาติมาพยายามสะกดอารมณ์อย่างอดทน
    ตราบใดที่ภีมมัสพี่ชายของหล่อน ยังยืนยันไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร พี่ชายของหลห่อนไม่ออกมาชี้ข้อกล่าวหา  ว่าเป็นจริงอย่างที่นายคนนี้ไหม?
    หล่อนก็ยังนึกอาย  แขกเหรื่อเหมือนกัน จึงยังไม่กล้าทำอะไรที่รุนแรง
     ได้แต่มองด้วยสายตาขุ่นเคืองและหยามเยาะ

    สุดที่จะอดรนทนได้ หล่อนกระแทกเท้าเดินออกไปจากตรงนั้นทันที มีนาราดาเพื่อนสาวตามออกไปด้วยอีกคน
    นาติมาอุตส่าห์แต่งชุดมาสวย หลห่อนจะกระทำกิริยาแบบนี้ในงานของพี่ชายหรือ  นาราดายังพูดให้ฟังว่า
       เธอ ทำแบบนี้ ในงานนี้ไม่เหมาะ  บางทีเขาอาจจะรู้จักกันจริงๆ ถ้างั้นเขาคงไม่กล้ามา 
    นาติมานิ่งคิด ฟังตามที่นาราดาพูดเหมือนกัน เพราะหล่อนชั่งใจอยู่นี่แหละ เจ้าบ่าวยังแต่งตัวไม่เสร็จ เช่นเดียวกับเจ้าสาว
    ไม่งั้น คนที่จะบอกกับทุกคนได้คือภีมมัส   แต่การรอคอยทำให้หลห่อนไม่ชอบ หล่อนใจร้อนแล้วในตอนนี้ พี่ชายก็ยังทำชักช้า
     มันน่าอาย เหมือนกัน กับการที่มาตู่กล่าวหาอย่างนี้
      ช่างรั้น ดื้อจริงๆ เขาเรียกว่า ดื้อเหมือนควายถึก
    หล่อนคิดว่า พี่ชายของหล่อน คงไม่คบคนที่มีสารรูปแบบนี้เป็นเพื่อนหรอก 
    แบบนี้น่ะเหมือนหมดสภาพคนแล้ว 
    และที่หล่อนไล่ไป ก็คงไม่ผิดนัก
    เนื่องจากหล่อนก็ว่า  หล่อนทำดีด้วยซ้ำ
    แต่คนอื่นจะเข้าใจยังไง  ก็ตามเถอะ 
    ขอให้ทุกคนรู้ไว้แค่ว่า   ที่หล่อนทำไปนั้นเพื่อปกป้องเกียรติของพี่ชายและนามสกุลของตนเอง

     แค่นี้ก็รู้สึกอับอายแขกเหรื่อจะแย่อยู่เหมือนกัน  
    ดังนั้นหล่อนจึงเลือกที่จะถอยออกห่างออกไปก่อน
    แต่ นายคนนั้น  ก็ยังไม่ยอมออกไปเสียที         
    นายหน้าตาเหมือน มหาโจรคนนี้
    นาติมาได้แต่ขุ่นแค้นเคืองใจ
     ไว้รอให้ ภีมมัสพี่ชายหล่อนออกมาจัดการเสียก่อน
    จะได้รู้ว่า ของจริง หรือแอบอ้าง

    และเมื่อ ภีมมัสออกมาแล้วจริงๆ
    และเขาก็ได้พบกับผู้ชายคนนั้น  ที่ได้ชื่อว่าเพื่อน
    สนิทสนมกันเมื่อครั้งก่อน
    เขาจำได้ไม่ผิด เพื่อนคนนี้ ชื่อสมภ์
    ตามมาทวงสัญญา  ที่มีต่อกัน  
    ดังนั้นเมื่อมองดูแล้ว  นาติมาคิดว่า   พี่ชายของหล่อนนั้นดูเหมือนให้เกียรติแก่นายมหาโจร ที่หล่อนกล่าวหานั่นมากทีเดียว  เหมือนเขาเกรงใจ
    แต่หล่อนคิดว่  เขาทำตัวสกปรก ขยะแขยงมากที่สุด    และการแต่งเนื้อแต่งตัวก็เช่นกัน  
    มีกลิ่นเหล้าโชยหึ่ง
    นี่เขามาในงานนี้เพื่อฉีกหน้าพี่ชายของหล่อนแน่  ดูเข้าสิ พี่ภีมมัสยังดึกเขาเข้ไปคุยข้างในอีก ห้องนั้นหรูนะ สำหรับแขกคนพิเศษ
    แต่นายขี้เหล้าหึ่งคนนี้ยังเข้าไปได้  หล่อนไม่เข้าใจ  พี่ชายของหล่อนไปยอมรับกับมันทำไมว่าเป็นเพื่อนไล่ออกไปก็สิ้นเรื่อง งานจะได้เดินหน้า ไม่ต้องมีตกมาสะดุดขวางงานมงคล
    แสดงว่าภีมมัสยอมรับว่า หมอนี่เป็นเพื่อนของเขาจริงๆ โอ๊ย หล่อนจะบ้าตาย อุตส่าห์ขวางกางกั้นมาตั้งแต่ประตูทางเข้า ยังเอาเขาไม่อยู่
    สุคนธ์รดาว่าที่พี่สะใภ้ของหล่อนล่ะ  รู้ข่าวเรื่องนี้หรือเปล่า ทราบอยู่ก่อนมั๊ย เขาเคยพาดพิงถึงพี่รดาด้วย แสดงว่าต้องรู้จักกันมาก่อน

     นาติมาไม่รู้ว่าพี่ชายของหล่อนจะเอายังไงกันแน่
    เท่าที่ดูแล้ว เป็นการยอมรับจริงๆ ว่านายคนนี้เป็นเพื่อนของเขา แต่นาติมาคนหนึ่งล่ะไม่ต้อนรับ พี่ชายของหล่อนอ่อนแอเกินไปแล้ว ทำไมก็ไม่รู้
    นาติมามีสัญญาณของการระแวดระวังตนเอง เพราะมันบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หล่อนไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนที่หล่อนได้เผลอเรียกลุง
     หล่อนเรียกเขาตามสารรูปที่โทรมครบสูตรเหมือนพวกคนบ้าคนป่าที่ไม่มีอารยธรรมของความเจริญ
     ไว้หนวดเคราจนเขียวเฟิ้มอย่างกับมหาโจร
    และหน้าตาที่ดูยิ่งเข้มก็ผสมดุเข้าไปอีกต่างหาก 
    เวลานี้  เขาเหมือนพวกเมาสุราข้างทาง  ที่เที่ยวโวยวายหาเรื่องชาวบ้านเขาไปทั่ว  
    และเมื่อมาเห็นหน้าอย่างนี้แล้ว 
    ก็ทำให้นาติมา ต้องร้องยี้ใส่อีกรอบ
    และหล่อนได้รีบฉุดแขน วรบุตร เพื่อนรักอีกคน ที่เพิ่งตามมาตอนหลัง กับนาราดาเพื่อนรัก   เพื่อที่จะหลีกออกไปจากตรงนั้น 
     เป็นสัญญาณที่บอกว่า หล่อนแสดงอาการรังเกียจอย่างเด่นชัด
      ฉันแทบทนไม่ได้  นี่แทบจะจะคลื่นไส้อาเจียนออกมา ใส่นายขอทานนั่นเลย 
    คำพูดที่เน้นการชิงชังต่อชายหนุ่มที่อยู่ห่างจากหล่อนพอประมาณ
    ทำเอาวรบุตรเพื่อนสาวอีกคนให้ตกใจเหมือนกัน
    กับฤทธิ์อารมณ์ที่ร้อนจนเกินเหตุ
    เท่าที่รู้แล้วนั้น นิสัยของนาติมาเพื่อนรัก
    ไม่ใช่อย่างนี้นี่    ปกติก็เป็นคนที่ใจเย็นโข 
    แต่นี่คงเกลียดเข้าไส้

     วรบุตรเงยสายตาหันไปมองบ้าง ผู้ชายคนนั้น ที่เพื่อนรักกล่าวคำดูถูกอย่างฉกาจ จนวรบุตรกลัวว่า และเกรงว่าฝ่ายนั้นจะได้ยินคำถางถากเยาะเย้ยเต็มคำ
     แล้ววรบุตรก็ได้เห็นร่างของบุรุษที่ดูโทรมคนนั้น
    เห็นว่าเขาไม่ได้หวีผม ไม่ได้ตกแต่งทรง   เพราะมาในลักษณะที่เรียกว่า  ผมทั้งหัวนั้นดูกระเซิงไปหมด  คงไม่ได้อาบน้ำด้วย
    แค่เข้าไปยืนใกล้ชิดสักครู่นี้
    วรบุตรก็พอได้กลิ่นเหล้าโชยหึ่งออกมาจากชายหนุ่มที่ทำตัวทุเรศ

      เขากำลังยืนขบกรามหันมาทางนาติมา วรบุตรเห็นภาพนั้นเข้า  ก็ตกใจกลัวเหมือนกัน จนต้องถอยหลบตาไปทางอื่น
      ฉันว่า ออกไปจากตรงนี้ก่อนดีกว่า  บรรยากาศ ไม่ค่อยดีเลย 
    วรบุตรเอ่ย  แต่นาติมาไม่ยอมอย่างแน่นอน  ใครกันล่ะ ที่ทำให้เพื่อนของหล่อนเสียความรู้สึกอย่างนั้น

    เขาชื่อลมภ์ ชายผู้มาโวยวายในลักษณะของคนที่สารรูปโทรมไปหมด
     ทั้งผมเผ้าหน้าตา  และเสื้อผ้าที่สวมใส่  ยับยู่ยี่ไปหมด 
    เมื่อสุคนธ์ลดาจำเขาได้
    แต่นี่  ทำไมลมภ์ดูเปลี่ยนไปอย่างนี้
    เหมือนว่า ที่เขาทำตัวอย่างนี้  เป็นคนที่หล่อนไม่เคยพบเห็นมาก่อน
    ปกติลมภ์เป็นคนที่สะอาดสะอ้านผิวพรรณดี  การปล่อยปละละเลยของเขานั่นเองที่ส่งผลให้ตัวเองเป็นอย่างนี้
    ทำไมสุคนธ์ลดาจะจำเขาไม่ได้
    เพราะเขานั้นเคยเป็นอดีตคนรักของหล่อนมาก่อน
    ก่อนที่หล่อนจะแต่งงานกับภีมมัสสามีของหล่อนในปัจจุบันนี้
    และทั้งคู่ ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี
    เพราะเคยเป็นเพื่อนกันถึงขนาดเรียกได้ว่าสนิทมาก
    เพื่อนเป็นเพื่อนตายร่วมกัน

     หล่อนไม่อยากสวมชุดสีขาวเข้ามาใกล้เขาเลย กลัวนักกลัวรังสีความบาดหมางจากพยาบาทของเขา หล่อนรู้จักเขาดี   
    เขาเป็นคนที่มุทะลุดุดันยิ่งในตอนนี้เขาเหมือนคนบ้า แต่หล่อนกับภีมมัสก็ยอมให้เขาเข้ามาในงานนี้ด้วยเพราะว่าเป็นคนร่อนการ์ดเชิญกับภีมมัสเพื่อนทางคนรู้จักของเขาอีกที
    สุคนธ์ลดารู้เหมือนกัน และกลัวว่า ลมภ์จะเป็นไฟ
    หัวใจที่ลุกโชนอยู่ในกองไฟของเขา ร้อนด้วยแรงพยาบาท
    ที่เข้ามาในงานนี้    แล้วก็เป็นจริงอย่างที่หล่อนและภีมมัสคาดเอาไว้ไม่มีผิด
    ลมภ์มาแบบคนระราน 
    แต่หล่อนสั่งให้พนักงานที่อยู่ข้างหน้า คนของหล่อน และร.ป.ภ.ของโรงแรมอนุญาตให้เขาเข้ามา
    มีแต่ยายนาติมาน้องสาวของสามีเท่านั้นที่ไม่ได้รู้เรื่อง

     เพราะหล่อนไม่อยากจะบอกนาติมานั่นเอง และรู้ดีว่านาติมามีนิสัยเป็นเช่นไร และแล้วเขาก็มาพบเจอหล่อนเป็นด่านที่สอง
     เลยกลายเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อ เพราะนาติมากับเพื่อนตั้งท่าจะไล่ตะเพิดเขาออกจากงาน 
    นี่เองคือสิ่งที่หล่อนเห็นใจต่อลมภ์มากที่สุด
    แม้ว่าหล่อนจะไม่ได้รักเขา
    เพราะว่าเวลานี้  หล่อนนั้นหมดรักในตัวเขาแล้ว
    ซึ่ง มันก็เหมือนกับว่า หล่อนนั้นหลอกลวงเขาอย่างมหันต์ 
    หลอกให้เขารักแล้วมาสลัดตัดเยื่อใยไมตรี
    เพื่อที่จะไปคว้าเอาเพื่อนของเขามาแทน
    ซึ่งหล่อนและภีมมัสก็แอบรักกันด้วยนั่นเอง
     รักกันในตอนหลัง
    หล่อนเพิ่งรู้ว่าหล่อนเลือกภีมมัสเพราะรักเขาด้วย


    เรื่องนี้จึงกลายเป็นรักสามเส้า ที่น่าเจ็บปวด
    ลมภ์จึงเป็นคนที่ไม่ใช่สำหรับหล่อน 
    การบอกลาบอกเลิกกับเขา     ทำโดยหล่อนทั้งนั้น ภีมมัสไม่รู้ 
    แต่ภีมมัสก็เหมือนคนที่พ่วงความผิดมาด้วย
    ถ้าเขาไม่ใช่เจ้าบ่าวของหล่อน
    และเคยเป็นเพื่อนสนิทซี้กับเขามากในอดีต 
    อย่างนี้แหละมันจึงกลายเป็นความบาดหมางมองหน้ากันไม่ติด

      และสงครามระหว่างเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด จึงถูกจุดให้ลุกโชนเหมือนเปลวไฟ
    เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน 
    คนที่พ่ายแพ้คือลมภ์นั่นเอง
     หล่อนสามารถบอกได้
    ดังนั้นหล่อนจึงสงสารเขาเหลือเกิน
              ในฐานะที่ลมภ์เป็นคนแรกที่สอนให้หล่อนรู้จักความรัก
    ซึ่งมาก่อนภีมมัสอีก
    แต่ว่า   ที่หล่อนลือกภีมมัส ก็เพราะว่าหน้าตาและฐานะของเขาด้วย
    ที่เพียบพร้อมมาก่อนอื่น
    ซึ่งลมภ์นั้นหน้าตาดีมาก แต่ฐานะเขาไม่ได้เอื้อเหมือนกับภีมมัส
    ที่พอหล่อนได้ออกเรือนจดทะเบียนแต่งงานกับเขาแล้ว
    หล่อนเชื่อว่าหล่อนมีความสุขเป็นอย่างแน่
    เพราะได้แต่งงานเป็นภรรยาขงลูกชายมหาเศรษฐี


    ดังนั้นหล่อนจึงพยายามบังคับตัวเอง     ไม่ให้เข้าไปใกล้ลมภ์มากที่สุด
    คือได้แต่เพียงยืนมองเขาอยู่ห่างๆ
     และในขณะเดียวกันนั้น หล่อนก็ไม่ต้องการให้เขาได้เห็นหน้าของหล่อนด้วย
      เรื่องนี้จะได้จบกันไป  หล่อนคิด 
    แต่ลมภ์จะคิดอย่างนั้นหรือเปล่า
    หล่อนไม่รู้
    เพราะเห็นเขาทำท่าจะอาละวาดในงานมาอย่างนี้ด้วย
    ภีมมัสให้คนห้ามปรามแล้ว ขอพบและคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
    มีแต่หล่อนคนเดียวที่คอยหลบหน้าเขา
    การที่หล่อนเป็นสาเหตุรักสามเศร้าครั้งนี้
    หล่อนก็ไม่อยากจะเผยตัวเอง    เพราะรู้ดีว่าในการสวมแต่งชุดราตรีสีขาวปักดิ้นเงินดิ้นทองงามระยับประณีตอย่างนี้
    หล่อนรู้ว่า มันได้สร้างความยอกแสยงใจปวดใจสำหรับใจของลมภ์แค่ไหน
     เคยคิดเหมือนกันว่าหลังจากที่ร่อนการ์ดไปแล้ว เขาคงไม่มา
    ไม่อยากให้เขามา
    แต่แล้วเขาก็โผล่ตัวออกมาในงานได้  
    และสร้างความอับอายขายหน้าให้แก่หล่อนกับภีมมัสอย่างมาก
     แต่ทั้งสองรู้ตัวดี
    และไม่รู้จะทำอย่างไร 
    เหมือนฉีกหน้าหล่อนกับสามีกลางแขกเหรื่อเพื่อนฝูงที่ต่างเตรียมใจมาในงานแต่งที่โรงแรมหรูแห่งนี้
    ตอนนี้ก็ มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นระยะ  จึงเป็นเรื่องที่สุคนธ์ลดาต้องทำใจเสียแล้ว

    พลอยทำให้นาติมา ไม่สบายใจเรื่องนี้ด้วย พี่ชายของหล่อนช่วยเหลือคนแปลกหน้าที่เขาอ้างว่าเป็นเพื่อน พี่ชายของหล่อนไปใจดีช่วยทำไม
    ประเดี๋ยวเถอะ หล่อนคิดว่า คงเหมือนชาวนาช่วยงูเห่า  นายคนนี้มีท่าทางไม่ไว้ใจแต่แรกแล้ว ข้อตกลงอะไรกันที่ทำให้พี่ชายของหล่อนยินยอมง่ายดายอย่างนี้
     หรือว่า นายหนวดเคราเฟิ้ม เหมือนคนบ้านี่    ข่มขู่พี่ชายของหล่อนมาก่อน
     แน่นอน คงจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่ 
    ไม่งั้น พี่ชายของหล่อน คงไม่หงอ กลัวใครง่ายอย่างนี้หรอก

    ส่วน พี่สุคนธ์ลดาพี่สะใภ้ของหล่อนในปัจจุบันวันแรก  ก็เหมือนคนกังขาในใจ   มีความหวาดระแวง
    พี่สุคนธ์ลดารู้เรื่องอะไรด้วยหรือ
     หรือน่าจะรู้มาก อาจจะรู้เท่าๆกับพี่ชายของหล่อน
     แต่ก็ทำท่าเหมือนเงียบกริบ ปดบัง  หล่อนไม่ชอบใจเลย  มีอะไรก็น่าจะเปิดเผย หล่อนจะช่วยคิด ช่วยหาทางออกให้
    แต่งานนี้ดูเหมือนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอ้ำอึ้ง   ไม่มีใครสักคนที่ยอมพูดออกมา
     ก็เลยไม่รู้ว่า สาเหตุที่แท้จริงนั่นคืออะไร
    แต่ที่แน่ๆ หล่อนแค้นใจนายป่าเถื่อนนั้น แค่เห็นหน้าก็ยี้แล้ว
    คนอะไรเหมือนมหาโจรหลุดออกมาจากรงขัง  ออกจากป่า  สารรูปดูไม่ได้ กลิ่นเหล้าก็คละคลุ้ง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ หยาบ ไม่มีราศี และดูดีเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาเสียเลย
     แล้วยังสะเออะมาในงานแต่งของพี่ชายหล่อน
    แบบนี้เป็นเพื่อนประสาอะไร ต้องการมาฉีกหน้าให้พี่ชายหล่อนอับอายชาวพาราเขาน่ะสิ   ดูซิ อับอายกันไปทั่ว คงวิจารณ์กันแซ่ด
    ที่มีมหาโจรหลุดออกมากลางป่า ร่วมงานพิธีสมรสที่เริ่ดหรู อลังการ์
    ทั้งหน้าแตก ทั้งได้ความอับอายประจานเป็นของแถม
    คิดดุซิ มันเหลืออดเหลือทนแค่ไหน สำหรับหล่อน
    นาติมาไม่ยอมแน่ เพราะหล่อนแข็งแกร่ง ยิ่งกว่าพี่ชายหล่อนอีก  ไม่งั้นหล่อนไม่เป็นนาติมาอย่างทุกวันนี้หรอก  ที่ไม่เคยกลัวใครสักนิด
     หล่อนไม่อาจที่จะอดรนทนอยู่ได้  ต้องให้สถานการณ์ตรงนี้ผ่านไปก่อน
    ไม่รู้ว่าพี่ชายของหล่อนกับเจ้าสาวจะแก้หน้ากู้ชื่อเสียงหน้าตาของตนเองกลับมาอย่างไร แต่นาติมาไม่อยากจะรู้แล้ว ถ้ายังมีผู้ชายคนนั้นเวียนวนอยู่ใกล้ๆ
     แต่ไม่รู้เป็นยังไง    พี่ชายหล่อนเหมือนแสดงอาการดีใจเป็นอย่างมาก ที่ผู้ชายคนนี้ก้าวเข้ามา
    ทั้งๆที่ผู้ชายคนนี้มีพฤติกรรมคุกคามพี่ชายของหล่อนชัดๆ  ยังเห็นดีเห็นงาม ต้อนรับมันอีก

    แต่งตัวสกปรกเหมือนอยู่กลางป่ากลางเขา หนวดเคราก็ไม่ได้โกน  จะมากินเลี้ยงแบบสังคมหรูๆเขาได้ยังไง
    นาติมายังดูถูกเขาอีก
    แต่ลมภ์กัดฟัน
    เขากลายเป็นพวกคนเถื่อน  อยู่ในป่าในเขาอย่างที่หล่อนเอ่ยแล้ว
    ก็ทำไมล่ะ จะไม่ทำให้สมจริงขึ้นมาเสียเลย
    ถึงฉันจะแต่งตัวสกปรกเหมือนมหาโจร  แต่ฉันก็ได้รับเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้มางานแต่งในวันนี้
    จบคำเขาโชว์การ์ดออกมาให้หล่อนดู
    นาติมาตาค้าง
    ไม่นึกว่าจะเป็นไปได้
    พี่ชายของหล่อนจะเชิญผู้ชายสกปรกคนนี้ มาร่วมงานแต่งที่หรูหราได้อย่างไร?
    ไม่เชื่อ  ไม่มีทางเป็นไปได้
    หล่อนค้านออกมา ปากคอสั่น  กับชายหนุ่มตรงหน้า
    แต่เขาก็สะแยะยิ้มไม่ยี่หระ
    แต่มันก็เป็นไปแล้ว
    บ้าที่สุด มันต้องไม่เป็นอย่างนั้น
    นาติมาค้านอีก
    แต่ว่ามันเป็นไปแล้วครับ คุณคนสวย
    นาติมาแทบจะร้องกรี๊ด ที่เขาทำตัวสนิทชิดเชื้อกับหล่อนอย่างนั้น
    เข้าใกล้เนื้อตัวก็เหม็น  ไม่รู้ได้อาบน้ำมาหรือเปล่า ที่จะเข้ามาในงานแต่งหรูหราในวันนี้


    ริมแม่น้ำแคว  จังหวัดกาญจนบุรี ที่ธุรกิจแพให้เช่ากำลังเป็นที่บูม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ หนีความเครียด  จากหน้าที่การงาน 
    มาหาธรรมชาติบริสุทธิ์  อยู่ท่ามกลางสายน้ำ
    แต่เรือนแพให้เชฃ่าเป็นลำถึงสิบหลังนี้
    มีตระกูลภูริภัทพงศ์เป็นเจ้าของ
    ทายาทคนโตคือ ลมภ์  ภูริภัทพงศ์
    ที่เขากลับมาดูแลกิจการอีกครั้ง
    หลังจากที่เข้าไปอยู่ในป่า เพราะกิจการเหมืองแร่  ที่อ.บ่อพลอย
    เสร็จจากงานแต่งของเพื่อนรักที่ทรยศ
    ลมภ์รู้สึกสะใจที่ได้ทำอย่างนี้
    ทางด้านภีมมัสที่กล้าร่อนยการ์ดแจก และเชิญตัวเขาให้มาด้วย
    นี่คงนึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้ามา
    และลมภ์ก็มาอย่างคนที่หัวใจเจ็บปวด
    มาดูหน้าตาของผู้หญิงผู้ชายทั้งสองคน ที่ช่วยกันทรยศหักหลัง
    เขา
    มันก็พอกันนั่นล่ะ  หยิงชั่วกับชายเลว
    ไอ้ภีมมันคิดทำเรื่องสะใจ  กล้าเชิญเขามา
    คอยดูเถอะเขาจะตอกมันกลับให้หายเก๋ง
    ให้มันสะอึกในสิ่งที่เขาจะทำ
    ในเงื่อนไขตกลงไง
    เอาแฟนไป แต่ต้อง
    มีการแลกเปลี่ยน
    มันถึงขนาดบอกว่าให้เอาน้องสาว
    เห็นแล้ว ยัยผู้หญิงปากจัด หน้าหวาน คมสวยอย่างมาก
    สวยแต่กัดเจ็บอย่างที่เขาได้เจอมาแล้ว
    อ๋อรู้แล้ว
    ชื่อเพราะ นาติมา  เหมือนนางเอกหนังแขก
    นี่ล่ะที่จะเป็นเจ้าสาวแก้ขัด  หรือสำรองของเขา
    มันจะใช้ด่านนี้ตีกระทบเขานะหรือ
    ลมภ์คิด รู้ทันทีว่า คนอย่างไอ้ภีม มันต้องเล่นตุกติก
    แม่น้องสาวคนเก่งของมันก็เถอะ เดี๋ยวจะได้เจอฤทธิ์เดชของเขากลับไปบ้าง  จะได้รู้รสกันคราวนี้
    จะซาบซึ้งหรือแสบทรวงแค่ไหน  นายลมภ์รับประกันอย่างดี
    แถมการันตีให้อีก ถึงความร้ายกาจของเขา 

    หลบมาพักผ่อนที่บ้านของเขาเสียชั่วคราว
    ก่อนที่จะมีลมหายใจไปเรียกร้อง และขอสิทธิ์ในสิ่งที่ตัวเองจะต้องได้
    ในเมื่อคนรักหรือแฟนสาวก็ทิ้งไปแล้ว
    และสิ่งที่เขาต้องได้คือ เจ้าสาวคนใหม่
    ที่มาจากน้องสาวของไอ้ภีมมัส
    ที่มันแกล้งพูดเล่นๆ ว่าจะยกน้องสาวของมันให้แทน 
    ถ้าเกิดว่าเขาพลาดหวังความรักที่เกิดขึ้นกับสุคนธ์ลดา
    แต่ภีมมัสพูดเหมือนรู้ว่า มันจะต้องเกิด
    ทั้งๆที่ตอนนั้น ยังไม่ใช่ และไม่รู้
    แต่ลมภ์ก็ยึดถือว่า นี่คือความจริง
    คนอย่างลมภ์ไม่อยากจะคุยหรือพูดอะไรเล่นๆ
    เขายึดจริงจังเสมอ
    เมื่อภีมมัสทำให้เขาเจ็บปวด  พร้อมด้วยสุคนธ์ลดา
    คนรักที่ไม่จริงใจหน่ายเร็ว
    เขาย่อมได้รับบำเหน็จที่ตกลงกันไว้
    แม่สาวปากกล้าคนนั้น ที่บังอาจเรียกเขาว่า ลุง
    จะต้องไม่พลาดเป้าหมายอย่างแน่นอน
    ที่จะต้องตกเป็นเจ้าสาวของคนบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างเขา
    ก็ใช่ย่อยที่ไหนเล่าเขา
    ระดับผู้มีอิทธิพลในเมืองกาญจน์เลยทีเดียว
    ที่จริงครอบครัวเป็นถึงคหบดี
    ไม่ใช่ลูกตาสีตาสายายมายายมีที่ไหนหรอก
    เพียงแต่เขาปกปิดในเรื่องนี้
    ไม่ให้ใครรู้ฐานะแท้จริง
    แม้แต่สุคนธ์ลดาที่คบหาเป็นแฟนนั้น ก็ไม่เคยรู้มาก่อน
    เพราะหล่อนคงไม่รู้ว่า เขาเป็นประเภท ผ้าขี้ริ้วห่อทอง
    แม้แต่จะแต่งกายเชยๆ เฉิ่มติดดิน
    แต่นั่นเพราะเขาชอบใช้ชีวิตแบบราบเรียบ สะดวกง่าย
    มากกว่าพิธีรีตอง
    แต่เขาก็หรู และหล่อเป็นเหมือนกัน
    ถ้าเขาอยากจะให้ตัวเองเป็นแบบนั้น
    และเขาสามารถเปลี่ยนโฉมให้กับตัวเองได้ทุกเมื่อ
    ธุรกิจที่บ้าน มีทั้งเหมืองแร่
    แล้วก็สัมปทาน เป็นเจ้าของเรือนแพนับสิบลำ
    แค่นี้ มูลค่าของมันก็มหาศาล ขนาดนอนกินชาตินี้ไม่หมด
    แต่อย่างว่า ลมภ์ รักชอบชีวิตที่ติดดิน
    เขากินบนแพ และนอนบนแพ
    ส่วนที่คฤหาสน์หรู ในตัวเมืองกาญจน์ กับที่บ่อพลอย
    นานๆถึงแวะกลับไปค้าง และไปเยี่ยมพ่อแม่
    ดังนั้นชีวิตของเขาก็ลอยเร่ไปตามลำแพอย่างเดียว
    ที่เป็นอย่างนี้ เขาต้องควบคุมและดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย
    ขณะนี้แพนับสิบลำของเขาถูกบริการอย่างเต็มที่
    เม็ดเงินที่เข้ามาอย่างมหาศาล
    ลูกค้าต้องจองล่วงหน้า
    และมัดจำก่อน
    เช่นในเวลานี้
    ส่วนมากเป็นหนุ่มสาวจากนิคมโรงงานแถวกรุงเทพ และปริมณฑล ที่ต้องการใช้วันเวลาท่หยุดพักผ่อน มา ผ่อนคลายสมอง บนเรือนแพกลางแม่น้ำแคว
    และเรือนแพของเขาไม่เคยขาดลูกค้า
    ต่างประทับใจในบริการทุกครั้ง
    และมักจะแวะมาใช้บริการอีกเสมอ

        

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น