Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์ - Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์ นิยาย Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์ : Dek-D.com - Writer

    Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์

    เรื่องราวของเทพบุตรสุดหล่อ ที่ต้องฝืนกฎสวรรค์ มาตามหารัก ความรักระหว่างเค้าเเละเธอจะเป็นยังไงติดตามได้ใน Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์

    ผู้เข้าชมรวม

    583

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    583

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 พ.ย. 57 / 22:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


     

             สวัสดีค่ะ ชาว iD  นิยายสั้นเรื่อง Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์ ก็เป็นเรื่องแรกของปลาไหลเลยน่ะจร้า ยังไงก็ขอฝาก ในอ้อมอกอ้อมใจช่วยอ่านคอมเมนต์และติชมกันด้วยเน่อ~~.^___^

     

     

     

     



     

    แนะนำตัวละคร
     




    ชื่อในร่างนก:จิ๊บจ๊อย

    ชื่อในร่างมนุษย์+เทพ:แจสเปอร์

    ฉายา:เทพบุตรหน้าตาย

    สูง: 175 CM

    น้ำหนัก: 45 KG

    นิสัย:มุ่งมั่น หน้าตาย


    ชื่อบนโลก:โมท่า

    ชื่อบนสวรรค์:แมรี่<อดีตเคยเป็นเทพบนสวรรค์>

    ฉายยา:เบิ้ง/ เตี้ยหมาตื้น/ แว่น

    สูง: 150 CM

    น้ำหนัก: 50 KG

    นิสัย: ปากร้าย แต่ใจดี อ่อนโยน ขี้ใจอ่อน

     


     

    เเจสเปอร์หล่อเเบบมนุษย์_น่ารักเเบบนกค๊อกคาเทล
    By ปลาไหลใส่เกือก

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

      Hi MY deity_ปาฎิหารรักจากฟ้า เทวดาตกสวรรค์

       

      ฉันชื่อแมรี่เป็นเทพสาวแสนสวยแห่งสวรรค์ หน้าที่ของฉันก็คือ  เป็นนางกำนันของนางแม่ขลา  แต่ล่ะวันก็คอยปรนิบัติรับใช้นาง กับ ทำหน้าที่ดั่งเลขาส่วนตัวของนางเกี่ยวกับงานเช็กเรื่องฝนฟ้าอากาศบนโลกมนุษย์

       

      “แมรี่ แย่แล้วววว!!!!. >[]<

       

                  “อะไรของนายห่ะแจสเปอร์   โหวกเหวกโวยไปได้ฉันกำลังทำงานอยู่ดูซ่ะบ้าง”

       

                  “คือออ..คือ..”

       

                  “ตั้งสติก่อนแจสเปอร์ ถ้านายไม่มีอะไรจะพูด เชิญกลับด่วน get up

       

                    เอ๋อ! คุยกันมาเนิ่นนาน ของแนะนำคนที่ฉันกำลังคุยด้วย เค้าเป็นเทพบุตรสุดหล่อบนสวรรค์ หน้าที่เป็นเทพองครักษ์ขององค์อินทร์ มีฉายาด้วยเน๋อ “เทพบุตรหน้าตาย” ไม่ต้องบรรยายเรื่องสรรพคุณความหล่ออะไรมากมาย รับรู้แค่ว่าโผ่ลหน้ามาเมื่อไหร่  ทำหัวใจเทพสาวๆเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่เรื่อยเลย  กับสีหน้าที่ดูเย็นชาสไตย์พระเอกเกาหลี ยิ่งทวีคูณความ HOT ให้เพื่อนรักของฉัน “แจสเปอร์ “

       

                     “แมรี่เธอฟังให้ดีๆน่ะ”  “ในบัญชีฟ้า ชื่อเทพที่ถูกส่งไปเกิดบนโลกมนุษย์มีชื่อเธอ แมรี่

       

                    “โถ่ ! ก็ แค่มีชื่อฉัน”

       

                    “ห่ะ! มีชื่อฉัน~~~~ // O[]O

       

                    คำพูดของเค้าทำฉันแทบหยุดหายใจ มือที่กำปากกาสั้นไร้เรี่ยวแรง ในใจคิดแต่เพียงว่า ฉันต้องจากที่นี่ไปจิงๆเหรอ ฉันจะไม่ใช่เทพอีกต่อไป เป็นเพียงมนุษย์ ดาวดึงส์คงหากไกลจากชีวิตมนุษย์ธรรมดาๆ และฉัน...ฉันจะไม่ได้เจอ ไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะจดจำนายไว้ในสมอง จากนั้นร่างที่ไร้วิญญาณหมดเรียวแรงที่-จะยืน  ก็โดนประคองโดย----เพื่อน---ที่----ฉัน----รัก

       

                    “เทพแมรี่ ท่านพญายมให้เจ้าไปพบ” ลูกน้องของพญายมเรียกฉัน

       

                    “ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ “

       

                    ฉันตอบปากรับคำอย่างหนักแน่น  แม้มันจะตรงข้ามกับใจก็ตามเมื่อเบื้องบนสั่ง เทพเล็กๆอย่างฉัน  ก็ไม่มีแม้แต่สิทธ์ที่จะหนี เพราะไม่ว่ายังไง  ก็หนีไม่พ้น

       

                    “แมรี่” เสียงเรียกของเทพหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ  ทำฉันหยุดชะงัก

       

                    “ฉันไม่ให้เธอไปแมรี่”

       

                    “นายไม่สิทธ์สั่งฉัน  และ นายก็ไม่สิทธ์ขัดคำสั่งฟ้าแจสเปอร์” “นายไม่ต้องเป็นห่วงฉันน่ะ อีกไม่นานนายคงได้พบฉัน 1 วันบนสวรรค์เท่ากับ 1 ปีของมนุษย์ นายคงรอฉันไม่นานหรอกถึงวันสิ้นอายุขัยบนโลกแล้วฉันจะกลับมาหานาย”

       

                    “ฉันจะทนให้เธอไปไม่ได้แมรี่  ถึงวันนั้นแล้ว  ฉันคงรอเธอไม่ไหว”

       

                    “อย่าพูดแบบนี้สิ”

       

                    “เธอมันใจร้าย  ทิ้งฉันได้จิงๆเหรอแมรี่”

       

                     ดวงตาอันแสนเย็นชาจองมองมาตรงตาฉัน มันอ้อนวอนฉัน ทำให้ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ  ฉันไม่อาจทนมองมันได้อีกต่อไป เค้าคือเพื่อนๆ ท่องให้ขึ้นใจน่ะแมรี่ เราเป็นเทพ  ฟ้าห้ามให้เทพมีความรัก  จำให้ขึ้นใจ  ได้โปรดอย่าทรมานใจฉันอีกเลยน่ะ....แจสเปอร์

                    เมื่อละสายตาออก ก็มีร่างกายอันอบอุ่นโผ่มาโอบกอดเข้าจากด้านหลัง แผงอกอันแสนอบอุ่นของแจสเปอร์กับเสียงหัวใจของเค้าทำน้ำตาผู้หญิงเย็นชาอย่างฉันแทบไหล

       

                     “แมรี่ฉันรักเธอ แม้ฟ้าจะคัดค้าน  แต่ฉันก็รักเธอ”

       

                    “นายพูดเล่นใช่ไหม~~

       

                    “ฉันพูดจิง”

       

                    “ไม่ว่ายังไงนายคือเพื่อนฉันเสมอ~~

       

                    “นี้คือการบอกเลิกขอเธอใช่ไหม เธอมันไม่มีหัวใจ แมรี่”. T___T

       

                    น้ำตาของเค้ามันทำให้ฉันเจ็บจิงๆ  ฉันไม่มีคำตอบใดให้ชายผู้เป็นที่รัก  มี่แต่คำปฎิเสธที่ทิ้งไว้ให้คนที่ตนรักเจ็บใจเล่น กับการสะบัดมือ และ ร่างกายชายที่โอบกอดออกอย่างไร้ใยดี โดยไร้คำจากลา แล้วหายตัวไปเข้ากรีบเมฆ

                    ฉันเข้าเฝ้าพญายมตามคำสั่งแต่โดยดี  แล้วเทพที่ชื่อแมรี่ก็ไม่มีอีกต่อไป ไม่มีแล้วดินแดนสวรรค์จะมีแต่โลกมนุษย์เท่านั้นที่ฉันเรียกว่า ”บ้าน” ลาก่อนแจสเปอร์ เพื่อน-ที่-ฉัน-รัก. Y___Y

      .................................................................................................

                    หลังจากแมรี่จากไป  ชีวิตของฉันมันหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง ชีวิตบนสวรรค์มันผ่านไปอย่างไร้ความหมาย วันแล้ววันเล้า มีแต่ความคิดถึงที่มีต่อแมรี่ 18 วันแล้วแมรี่ ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน ความคิดถึงที่ฉันมีต่อเธอ  มันทำให้ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่ชื่อเธอแมรี่ แม้ฉันจะเย็นชาขนาดไหนแต่เมื่อคนรักจากไปไม่มีแม้แต่วิ้แววจะพบเจอ ชายผู้เย็นชาก็พร้อมที่จะหลั่งน้ำตาออกมาได้เหมือนกัน เธอทิ้งแผลให้กับฉันรู้ตัวบ้างไหม แมรี่. T___T

       

                    “เทพแจสเปอร์” 

       

                    “มีอะไรหรือ ท่านเทพองค์รักษ์”

       

                    “องค์อินทร์เรียกท่านไปพบ”

       

                    “ขอรับ”

       

                    เมื่อผมไปพบองอินทร์  สิ่งที่ผมได้รับฟังมันทำให้เทพที่หมดอะไรตายอยากอย่างผม อึ้งเอามากๆ

       

                    “เทพแจสเปอร์พักหลังมานี้เจ้าไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่ของเทพเลย”

       

                    ”เจ้าจะโดนลดขั้น” -_____-

       

                     นี้ไม่ใช่ประโยคที่องค์อินทร์พูด แล้วทำให้ผมตกใจแม้แต่น้อย  เท่ากับประโยคที่ผมจะได้ยินต่อไป

       

                    “ข้าจะให้เจ้าเป็น เทพประจำตัว”.// O[]o

       

                    “ เทพประจำตัว “ผมพูดทวนคำพูดขององค์อินทร์

       

                    “ใช่  ข้าจะส่งเจ้าไปบนโลกมนุษย์เพื่อปฎิบัติหน้าที่ เป็นเทพประจำตัว แทนเทพสบาต้าที่ต้องไปช่วยงานของท่านเทพารักษ์ที่ลอสแองเจอริส ข้าจะให้เจ้าอยู่ในร่างของนกค็อกคาเทล ที่มีดอกไม้อยู่บนหัว เพียงเมื่อเจ้าดึงมัน ร่างนกของเจ้าจะสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้ดั่งใจเจ้าต้องการ”

       

                    นี้คือคำพูด ของฟ้าสั่ง หรือ สวรรค์ลงมาโปรดกันแน่ ผมจะได้ไปบนโลกมนุษย์ และยิ่งไปกว่านั้นจนทำให้ผมแทบช็อกตาตั้งคือ ถ้าเทพตายได้ ผมคงอยู่ไอซียู ถึงขั้นโคม่าเลยมั่งเนี่ย... และยิ่งไปกว่านั้น คนที่ผมจะได้ไปเป็นเทพประจำตัวคือ ผู้หญิงที่ชื่อ “โมท่า” นั้นก็หมายถึงแมรี่ในร่างมนุษย์ ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมดีใจไปมากกว่านี้แล้ว ใบหน้าที่เย็นชาก็ได้เบิกยิ้มออกอย่างมีความหวัง พร้อมดวงตาสีดำกลมโตอย่างเป็นประกาย. ^  ^

       

      ...................................................................................

      ณ .เกาะนางคำ

       

                    เฮ่!  “พวกมึง เร็วเข้า”   “จับมันมาให้ได้”   “หลบเก่งจิง น่ะมึง”   “อย่าคิดว่าจะรอดจากเนื้อมือพวกกูไปได้”

       

                    เสียงเด็กผู้ชายวัย 14 ,15 ปี  วิ่งไล่ผมมาติดๆ อยากจะบ้า เคยแต่หนีจากพวกเทพสาวๆ ไม่เคยคิดเลยว่าเทพอย่างผมต้องมาหนีพวกเด็กติ่งต้องวัยกระเปาะ สงสัยคงเป็นกรรม กรรมแท้ๆ และผมก็หวังว่าต้นไม้ต้นนี้จะคุ้มชีวิตผมให้รอดไปได้หน่ะ

       

                    “แก้ว แก้ว”

       

                    เสียงใครหน่ะ  ผมมองลงไปใต้ต้นไม้เห็นหญิงวัย 40  ทำท่าทางเหมือนเรียกผมอยู่

       

                    “แม่....ทำอะไรอยู่คับ

       

                    “นกแก้ว ดูเชื่องมากเลย แก้ว.... แก้ว มานี่..... แก้ว.... แก้ว... “ หญิงวัย 40 พูด

       

                    เมื่อทอดสายตาไป  ผมเห็น เด็กผู้ชายวัย 15 ปี กำลังคุยกับเธอ และด้านหลังเป็น เด็กผู้หญิงอุ้มแมวขนฟู ยืนดูอยู่ เธอคือแมรี่ แมรี่จริงๆด้วย<ในสภาพที่เรียกว่าจากสูงยาวขาวอึมเป็นแว่นตัวเตี้ย จากความสวยเต็มสิบเป็นติดลบ แต่ก็มีโครงร่างหน้าเดิมให้เห็น> แต่ผมจะไปหาเธอได้ยังไงกัน เมื่อในมือเธอนั้นมันแมวส่วนผมหน่ะนก  ขืนไปหา มีหวังต้องได้กลับสวรรค์แง๋มๆ

                    เมื่อผมหันไปมองเด็กผู้ชายคนนั้น   เค้ายืนมือแล้วเรียกผมว่า “แก้ว” เหมือนว่าจะให้ผมเกาะแขน ผมตัดสินใจบินไปหาแล้วเกาะบนแขนเด็กคนนี้ ทันได้นั้นแมรี่ ก็ปล่อยแมวตัวนั้นออกจากมือ ด้วยความคิดถึงเธอมาก  ผมเลยตัดสินใจบินไปเกาะบนหัวเธอ

       

                    “โมท่าสงสัยมันจะชอบลูก” หญิงวัย 40 พูด

       

                    “แต่ฉันว่ามันคงเห็นหัวแกเป็นรังนกว่ะ 555

       

                    “หุบปาก แล้วจัดการเลยดีกว่า ผี~~~

       

                    “จัดไปอย่าให้เสีย”

       

                    ไม่ทันขาดคำมือเกือบสิบก็พุ่งเข้ามาที่ตัวผม นี่มันอะไรกัน สุดท้ายชีวิตผมก็กลายเป็นนกกระจอกที่โดนขัง ในกรงไม้สี่เหลี่ยมที่สภาพจะพังแหล่ไม่พังแหล่ กรรม. Y___Y

                    “แก้ว”

       

      “แก้วบ้านป้าแกดิ นี้มันนกค็อกคาเทล” “ผี”  “แกมั่วมาก”

       

      “ก่อนจะว่าคนอื่นว่าคนอื่นมั่ว” “เรียกผิด” “ช่วยเรียกชื่อฉันให้ถูกก่อนดีไหม” “ฉันชื่อเพสเทล OK You Know”   “อีกอย่างจะด่าป้า โปรดสังเกต  ป้าฉันกับป้าแกก็คนเดียวกันน่ะเว้ย”

       

      “ที่แกยังไม่เรียกฉันว่าพี่เลย ก็ฉันจะเรียกแกว่าผี..... ผี.... ผี ผี มีปัญหาไหม ไอ้ผี”

       

      “นางครก”

       

      “ไอ้สาก”<เนื่องจากแม่ของโมท่าเป็นเภสัชกรเลยตั้งชื่อ โมท่า=ครก / เพสเทล=สากที่ใช้บดยา>

       

                  ที่แท้เค้าก็เป็นพี่น้องกันนี่เอง โล้งอก เอ๋ะ! แล้วเค้าเถียงกันแบบงี้อย่าบอกน่ะว่าจะวางมวยกันหน่ะ ไม่น่ะ O____O

       

                  “จบไหมไอ้ผี”

       

      “จบ”

       

      “เออ จบก็จบ”  “ขี้เกียจเถียงแกแล้วหว่ะ”

      อ่าวไหงจบง่ายแบบนี้เนี่ย  เอ่อ! แปลกพี่น้องคู่นี้... ////OUo

       

      “นกตัวนี่ก็แปลกดีเน่อะมีดอกไม้บนหัวด้วย”

       

      “ลองดึงหน่อยดิ”

       

      “จะบ้าเหรอ”   “ไอ้ผี... เดียวมันก็เจ็บหลอก”

       

      เพสเทลลูก..... เพสเทล..... มากินข้าวลูก~~~

       

      “ไปไอ้ราชา แม่เรียกแกไปกินข้าวแล้ว ไปดิ”

       

      แล้วเราก็อยู่กันสองต่อสอง

       

      “ไงเจ้านก ไม่กลัวฉันเหรอ เอ้าเดินเข้ามาใกล้อีก ลองเอานิ้วใส่ไปหน่อยดิแกจะกลัวป่าว  อย่าจิกฉันน่ะเว้ย!   อึย!น่ารักจัง  ขี้อ้อนน่ะเนี่ยเรา แกชื่ออะไรดีหน่อ....  จิ๊บจ๊อย ชื่อแกล่ะกัน  น่ารักจัง โอ๋ลูก...มาๆเดี๋ยวเกาคอให้ เหมือนแมวเลยยยย มีเคลิ้มด้วย น่ารักช่ะมัด”

       

      “ไงเป็นบ้าไปแล้วเหรอ”   “ยืนคุยกับนก”

       

      “ที่แกคุยกับแมวทุกวันฉันยังไม่เคยว่าแกประหลาดเลย ไอ้ผี”  “แกดูดิมันขี้อ้อนมากเลยให้ลูบหัวด้วยน่ารักเน๋อ~~~////^_____^

       

      ในที่สุด 9 เดือนผ่านไปวัยเหมือนโกหก

       

      ฉันกับครอบครัวนี้ก็ได้มีความสัมพันธ์สนิทสนมแน่นแฟ้น  มากยิ่งขึ้น เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน มีแม่ น้องชาย และคนรัก<แมรี่> ทุกๆวันเธอคอยมาให้อาหารฉัน ลูบหัวฉัน คุยกับฉัน และบ้างครั้งเธอก็ให้ฉันขี่บ่า เกาะแขน นั้งบนตัก./// - . , - ///  เวลาฉันร้องเรียกเธอ เธอก็รีบวิ่งมาหาฉัน   ตอนเป็นเทพเรายังไม่เคยสนิทกันขนาดนี้มาก่อนเลย ฉันมีความสุขเหลือเกินแมรี่ นางฟ้าของฉัน สวรรค์ห้ามให้เทพมีความรักแต่ตอนนี้เธอคือมนุษย์  ฉันอยากให้เธอบอกรักฉันในฐานะคนรักซักคำจะได้ไหมแมรี่

      ................................................................................

      วันต่อมา

      แม่ไปงานแต่งที่ต่างจังหวัด ส่วนเพสเทลไปเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ ก็มีแต่ฉันกับเจ้าจิ๊บจ๊อย และ เจ้ามก<ชื่อแมว> อยู่ที่บ้าน น่าเบื่อชะมัด.///-O-

       

      “ไอ้มก<ชื่อแมว>/// o[]O “ อี๋แกมาอึ ในบ้านทำไมเหนี่ยเดือดร้อนฉันต้องเอาไปทิ้งอีก ฝนก็ตก ถ้าฉันไข้จะด่าถึงปู่แกเลยคอยดู”

       

      สมพรปาก ตัวร้อน สงสัยไข้แน่เลย   เพราะแกไอ้มก จะด่าแมวจิงๆก็เสียปาก หากมีคนเห็น  ไม่มองว่าฉันใจร้ายรังแกสัตว์ ก็ต้องมองว่าฉันบ้าแหง่ๆ ฝากไว้ก่อนเห่อไอ้ตัวแสบ.///o[]O      

      แย่ชะมัด ข้าวก็หมด ออกไปซื้อของมากินก็ไม่ได้ ดึกแล้วด้วย แถมฝนยังตกอีก   งั้นต้มมาม่ากินล่ะกัน หิว หิว หิว  จากนั้นฉันก็จัดการเปิดแก๊สตั้งหม้อเต็มน้ำ ช้าชะมัดเลยเมื่อไหร่จะเดือดเนี่ย ไปดูหนังดีกว่า เซง./// -___-

       

       

      1 ชั่วโมงผ่านไป

       

      เชี่ย! .///o[]O  ซวยแล้วไงล่ะ หม้อละเบิดแล้วหมั่งเนี่ย ม่ามา เอ๊ะ! แก๊สปิดได้ไง แล้วม่ามา รู้สึกว่ายังไม่ฉีกซองเลยหนิ แล้วไหง มาเป็นถ้วยพร้อมเสริฟ เอ๋อ.... ชั่งเหอะสงสัยไข้จนเบลอแน่ะเลย...

      เชี่ย! .///o[]O ซวยอีกล่ะ ฝนตก ไฟก็ดับ ให้มันได้อย่างงี้สิ เวรกรรมอะไรของแกเนี่ย ยายโมท่า                เอ๋อใช่! บนโต๊ะเสื้อผ้ามีไฟฉายนิหว่า

      สูงชะมัด  กรรมของฉันจิงๆที่เกิดมาเตี๊ยหมาตื้นแบบงี้<ประหลาดว่ะตูด่าตัวเองก็เป็น>

       ตู้ม!

      โอ๊ย! ขณะที่ฉันหยิบไฟฉายบนโต๊ะที่โคตรสูง   โต๊ะก็ล้มลงมาทับฉัน แปลกแฮ่ะ  ตูรอดมาได้ไงหว่า ชั่งเหอะ  คงเป็นกรรมดีของฉันล่ะมั้ง...ที่ไม่เป็นอะไร เอ๊ะ! รู้สึกว่าพื้นบ้านฉันมันนิ่มๆแปลกแฮะ

       

      ทันใดนั้นไฟก็ติด

       

      เมื่อมองผ่านเลนแก้วใสวิ้งๆ ก็เห็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาล เค้าเป็นใครกันน่ะ หล่อชะมัดยากเลย   เป็นดารา นายแบบหรืออะไรกัน ยิ่งโดยเฉพาะดวงตาสีดำที่ตัดกับใบหน้าที่ได้รูป  ชวนมองจนฉันไม่อาจจะหยุดล่ะสายตาไปจากเค้าได้เลยหน่ะ หน้าตาแบบเนี่ยเทพบุตรชัดๆ. O////////O

       

      “เป็นอะไรรึปล่าว แมรี่ แมรี่”

       

      “ทำไมหน้าถึงแดงแบบนั้นล่ะ เป็นอะไรรึปล่าว”

      ตื้นได้แล้วโมท่า ตื้นได้แล้ว นี่…. หยุดเพ้อได้แล้ว มีผู้ชายแปลกหน้ามาอยู่ในบ้านแถมยังมากอดเราไว้แน่นแบบนี้ เขิลจะตายชัก.  -////////-

       

      “เมื่อกี่นายเรียกฉันว่าไงน่ะ”

       

      “แมรี่ แมรี่ ไง”

       

      “ฉันไม่ใช่แมรี่ ฉันโมท่า”

       

      โห่...แล้วจะไปบอกเค้าทำไมเนี่ยยายบ้า ไอ้หน้าหล่อเหนี่ยไม่รู้เป็นใครมาจากที่ไหน ความหล่อมันไม่ได้บอกเปอร์เซ็นความเป็นคนดี โจรรึปล่าวก็ไม่รู้ เธอควรไล่เค้าไปน่ะ.โมท่า ตั้งสติให้ได้สิยายบ่องเอ๋ย

       

      “ออกไป”/// oMMMo

       

      “ฉันช่วยเธอไว้ไม่คิดจะขอบใจฉันหน่อยเหรอ”

       

      “ขอบใจ ไปซ่ะ”

       

      “ยังใจร้ายไม่เปลี่ยนเลยน่ะ” ^ ^

       

      “ยิ้มทำไม คนไล่แล้วยังไม่ไปอีก หน้าด้าน อีกอย่างอย่าพูดเหมือนว่าเราสนิทกัน ฉันไม่รู้จักนาย”

       

      “เธอไล่ฉันไม่ได้น่ะ ฉันเป็นลูกของพี่สาวแม่เธอ”

       

      “อย่ามาโกหกให้ยาก  ป้าฉันไม่มีลูก ออกจากบ้านฉันซ่ะ ประตูอยู่ทางนั้น เชิญ”

       

      แล้วชายหนุ่มรูปงามก็พาร่างเดินออกจากประตูไปท่ามกลางสายฝนที่ซัดมาอย่างหนัก ฉันไม่ได้อยากจะไล่นายน่ะแต่เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเอง   ฉันจำเป็นต้องทำจิงๆ วินาทีนี้ฉันเชื่อใจใครไม่ได้  เข้าใจฉันด้วยน่ะ ไอ้หน้าหล่อ

       

      “กริ๊งๆ ๆ ๆ ”

       

       “สวัสดีค่ะคุณป้า”

       

      “หนูโมท่า ป้าขอสาย แจสเปอร์หน่อยน่ะ ตามมาคุยกับป้าหน่อยสิลูก”

       

      “แจสเปอร์ ไหนค่ะหนูไม่รู้จัก”

       

      “ก็ลูกชายป้าไง เค้าไปบ้านหนูไม่ใช่เหรอ”

       

      “หนูจำได้น่ะค่ะว่าคุณป้าแต่งงานตอนอายุ60 แล้วคุณป้าก็ไม่มีลูกด้วย”

       

      “อยากโดนคนแก่ด่าเหรอหนู” “แจสเปอร์ ลูกบุญธรรมป้าเอง”

       

      “ค่ะ”

       

      หลังจากนั้นฉันก็เปิดประตูบ้าน เห็นนายแจสเปอร์ชายผู้หมดสภาพไม่ต่างอะไรไปจากลูกหมาตกน้ำเลย  จากนั้นแม่ลูกก็คุยกัน ส่วนฉันก็จัดการเก็บเสื้อผ้าที่หล่นจากตู้ แต่ตู้เนี่ยโคตรหนักเลยอ่ะ หมดความพยายามแล้ว  ไปดูทีวีดีกว่า เซง

       

      “เจมจิ นายจะหล่อไปไหนเนี่ย ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ มองทีไรก็ฟินตลอดเลย นางเอกก็หน่อปากแข็งจิงๆเชี่ยว เค้าบอกรัก ก็รีบรับๆซิ  คิดว่าสวยเลือกได้หรือไง ปากกแข็งนัก ต้องใช้ปากงัดหรือไงถึงจะออก”

       

      อยู่ดีๆก็มีหยดน้ำไหลติ่งๆใส่แขนฉัน   เมื่อหันไปมองก็เห็นแจสเปอร์มานั้งแบบระยะประชิดรูขุมขน แอบอมยิ้มบางๆ ให้หน้าชะหงน.

       

      แต่ฉันว่าเธอปากแข็งกว่าน่ะ

       

      “พูดอะไรของนาย”

       

      “แค่ฉันอยากบอกเธอว่า วิธีที่เธอแนะนำมันคงได้ผล”

       

      ฉันนั้งทวนคำพูดของเค้า ”วิธีที่เธอแนะนำมันคงได้ผล นั้นก็หมายถึง “ปากกแข็งนัก ต้องใช้ปากงัดหรือไงถึงจะออก” อย่าบอกน่ะว่านายจะ....-///////-   แจสเปอร์ขยับร่างเข้ามาใกล้ฉัน ใกล้จนลมหายใจเค้ารดต้นคอฉัน วงแขนของเค้าพาดผ่านแผ่นหลังของฉัน หน้าอกเค้าแนบกับแขนขวาฉัน ใบหน้าทื่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนทำให้ฉันต้องหลับตาปี๋. +///////+

       

      “ซกมกจิงๆ ม่ามาติดแก้มยังไม่รู้ตัวอีก”

       

      “ก็แล้วไป” ///-O-

       

      “ยังไงก็แล้วไป แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย”

       

      “อย่าเซ้าซี้ถามฉันได้ไหม อีกอย่างก่อนที่จะว่าใครซกมก ดูสภาพตัวเองก่อน  นั่งเปียกเดียวก็ไม่สบายหรอก”

       

      “เป็นห่วงฉันใช่ไหม”

       

      “หลงตัวเอง”

       

      “เอาอีกล่ะน่าแดงอีกล่ะไม่เข้าใจทำไมเธอต้องชอบทำน่าแดงด้วย โมท่า”

       

      อีตาบ้าก็เพราะนายไงฉันถึงเป็นแบบงี้ อีกอย่างใครมันจะสามารถห้ามความเขิลได้กันย่ะ. ’//////’

       

      “นี่เสื้อผ้านายเปลี่ยนซ่ะ”

       

      ฉันโยนเสื้อผ้าของไอ้ผีให้แจสเปอร์ใส่ จากนั้นเค้าก็ถอดเสื้อออกทีล่ะชิ้นๆต่อหน้าฉัน จนเห็นซิกแพ็กของเค้า จากนั้นก็รูดซิปกางเกงออก แล้วก็.....

       

      “หยุดก่อนแจสเปอร์ถามจิง นายจะแกผ้าให้ฉันดูจิงๆเหรอ บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้านายกล้าแก้ ฉันก็กล้าดู  ฉันไม่ใช่พวกอินโนเซ้น โลกสวย ถ้าไม่อายก็เชิญตามสบาย หากหน้านายยังมียาง ห้องน้ำซ้ายมือเชิญ”

      โถนึกว่าจะแน่สุดท้าย  เค้าก็รีบวิ่งไปทางซ้ายมือหาห้องน้ำแทบไม่ทัน จากนั้นเราก็แยกย้ายไปนอนตามสภาพห้องใครห้องมัน

      <แจสเปอร์ใช่มนต์สะกดจิตคุณป้าและยังแปลงกายแอบมาทำม่ามาให้โมท่ากิน ขี้เอาใจน่ารักเนอะ!>

      .................................................................................

       

      8.00

      “อย่าบอกน่ะว่านายจะไปโรงเรียนด้วย”

       

      “ใช่ต่อไปนี้ฉันจะไปโรงเรียนกับเธอทุกวันเลย”

       

      ณ. โรงเรียนภาษิตไฮสคลู

       

      “กริ๊ดๆๆๆ”

       

      เสียงเปรตขอส่วนบุญที่ไหนเนี่ยหนวกหูชะมัดยาด อ้อ  พวกแก๊งน้ำแข็งใส่ นิเอง แก๊งที่รวมกลุ่มพวกเด็กติ่ง บ้าเกาหลีประจำโรงเรียน

       

       “โทษทีฉันไม่ใช่นักร้องเกาหลี เธอจะกริ๊ดหาอะไรมิทราบ”

       

      “พูดอะไรอย่างนั้นล่ะโมท่า...พวกเราออกจะสนิทกับเธอ ไปดูซีรี่ส์เกาหลีบ้านฉันไหม?” คนหนึ่งในกลุ่มพูด

       

      “ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นหัวฉัน กินยาเกินขนาดมารึป่าว”

       

      “อย่าหยาบคายกับพวกเราสิ ว่าแต่ผู้ชายที่ยืนข้างเธอใครเหรอ” ^//////^

       

      “รู้ต้นเหตุแล้ว ถามเค้าเองสิเค้ามีปาก”. O[]o

      จากนั้นฉันก็เดินจากพวกเด็กติ่ง แล้วมุ่งหน้าเข้าโรงเรียน เสน่ห์แรงจิงๆน่ะนาย คงมีความสุขสิน่ะ การที่มีสาวๆมารุมล้อม นายมันก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นแจสเปอร์

       

      “ตรงนี้ฉันนั้งน่ะ” แจสเปอร์พูด พร้อมมานั้งตรงโต๊ะข้างๆ

       

      “เป็นไงไปกับพวกน้ำแข็งใส พวกนั้นมันลูกคุณหนูสวยๆทั้งนั้น คงชอบสิน่ะ”.

       

      “ทำไมหึเหรอ”

       

      “หุบปากแล้วเรียนซ่ะ”

       

      12.00

       

      “จะไปไหน เที่ยงแล้วไปกินข้าวซิ ถามอะไรโง่ๆ” “นายไม่หิวรึไง”

       

      “ไม่อ่ะ”

       

       “เป็นเทพบุตรลงมาจุติ  อิ่มทิพหรือไง”

       

      “ใช่”

       

       “ขำตายล่ะ”

       

      “ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมเธอไม่มีเพื่อนเหรอโมท่า”

       

       “ยุ่งหน่ะ”

       

       “ฉันถามจริงๆน่ะ”

       

       “มันจำเป็นต้องมีด้วยเหรอ”

       

       “เธอไม่มีเพื่อนจิงๆด้วย”

       

      “หยุดพูดแล้วกินซ่ะ”

       

       “ดูอีนางเบิ้งสิ” ”วันนี้อัปเกรดโว้ย! พาหนุ่มเกาหลีมากินข้าวซ่ะด้วย” “อีเตี้ยหมาตื่น” “หน้ามันหนากว่าที่คิดหว่ะ” “จะไปไหนอีเตี้ย” “ป๊อดหนิมึง” “แน่จิงมึงด่ากูสิอีเตี้ย”

       

      “เธอไม่คิดจะตอบโต้พวกเค้าหน่อยเหรอ”

       

       “ไม่อ่ะพูดกับพวกนี้มีแต่เสียกับเสีย แค่หมาเห่า อย่าไปสนใจ เราไปกันดีกว่า”

       

      ฉันหนิมันแย่จริงๆเป็นถึงเทพประจำตัวเธอ.แต่กลับไม่รู้เรื่องของเธอเลย ฉันเสียใจที่ไม่ได้ดูแลเธอ ฉันเสียใจที่ไม่ได้ปกป้องเธอ

       

      “น่าสงสารหนุ่มเกาหลีหว่ะ” “สงสัยคงโดนอีนี่ฉุดมาแน่ะๆแถมตังค์ซักล้านก็ไม่มีใครเอา อีแว่น”

       

      “ฉันเอา ตังค์ล้านถ้าซื้อเธอได้ฉันยอมจ่าย เธอไม่ต้องให้ฉัน  ฉันต่างหากที่ควรให้เธอ"

       

      ฉันได้แต่มองหน้าและอึงกับคำพูดของเค้า. O___o

       

      “นายพูดอะไรออกไปรู้ตัวรึป่าว”

       

      “ปกป้องกันด้วยโว้ย” “สงสัยไอ้นี่คงโดนอีเตี้ยทำเสน่ห์หว่ะ 555

       

      “มานี่”

       

      “ สงสัยคงลากไปตับๆแน่เลยหว่ะ หลีกทางให้อีเบิ้งหน่อยพวกมึง”

       

      จากนั้นฉันก็ดึงตัวนายเจสเปอร์ออกจากพวกปากปีจอ

       

      “ที่นายพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง” “ฉันเอา ตังค์ล้านถ้าซื้อเธอได้ฉันยอมจ่าย เธอไม่ต้องให้ฉัน ฉันต่างหากที่ควรให้เธอ” “ฉันไม่ใช้ของแปลกให้นายปั่นหัวเล่น น่ะเว้ย”

       

      “ฉันไม่ได้ปั่นหัวเธอเล่นฉันคิดแบบนั้นจิงๆ”

       

      “ฉันรู้จักกับนายแค่ 2 วัน นายรักฉันแล้ว งี้เง่าไปหน่อยไหม ฉันไม่สวยเหมือนนางฟ้าน่ะเว้ย แต่ฉันเป็นอีเตี้ย อีเบิ้ง อีแว่น ในสายตาที่ใครๆก็รังเกียจ อย่ามาปั้นหัวฉันเล่นได้ไหม ทุกๆวันนี้ ฉันก็ทรมานมากพอแล้ว ที่ต้องทนกับไอ้พวกนั่น ไม่มีใครอยู่ข้างฉันเลย หยุดทำร้ายฉันได้ไหม” 

       

      “แต่...”   “ถ้านายหวังดีกับฉันจิงๆหยุดพูด ไม่อย่างงั้นนายจะไม่ได้พูดกับฉันอีก”

       

      4.00 น  ณ บ้านของโมท่า

       

      “แม่คิดถึงจังเลยค่ะ”  “จ้า...เป็นไงบ้างอยู่บ้าน” “ก็ดีค่ะ”

       

      “กลับมาแล้วเหรอไอ้ผี” “ถ้าไม่กลับมา  ที่ยืนอยู่ตรงหน้าหมาหรึไง” “เอ๋อกูก็ว่าอยู่ 555

       

      “ว่าแต่คนข้างๆนี่ใครอ่ะแฟนเหรอ” “มอมเหล้าเค้ามารึปล่าวเนี่ย”

       

      “ลูกของป้าแม้นไง” แม่อธิบาย

       

       “แต่ป้าแม้นแกไม่มีลูกไม่ใช่เหรอคับแม่แล้ว...”

       

       “สงสัยต้องคุยกันยาว หนูไปก่อนน่ะค่ะ”

       

      แปลกจังวันนี้ไม่เห็นจิ๊บจ๊อยร้องซักแอ่ะ มันไปไหนน่ะ จากนั้นฉันก็วิ่งไปหลังบ้านเพื่อตามหาเจ้าจิ๊บจ๊อย แต่มะม่วงตรงหน้ามันดึงดูดสายตาจนลืมเรื่องของจิ๊บจ๊อยไปเลยเฮะ. ^U^

       

      “เฮ่แจสเปอร์” “ยืนบื้ออยู่ได้ไปเก็บม่ะม่วงให้ฉันหน่อยดิ” “หรือจะให้ฉันปีนเอง”

       

      K” แจสเปอร์ตอบปากรับคำ

       

       “โมท่ามานี่หน่อยลูก”

       

      “ค่ะแม่”

       

      หลังจากฉันตามเสียงของแม่ไป  ก็ปล่อยให้แจสเปอร์เก็บม่ะม่วง และ สิ่งที่ไม่คาตรฝันก็เกิดขึ้นเมื่อกิ่งมะม่วงที่อยู่บนหัวแจสเปอร์หล่นลงมา ฉันวิ่งสุดแรงเกิด เพื่อไปช่วยเค้า แจสเปอร์หล่นลงบนพื้นแล้วมีมดแดงบนหัวเค้าเต็มไปหมดเค้าใช่มือปัดป้ายมดแดงที่อยู่บนหัวทันใดนั้นสิ่งผิดปกติก็เกิดเล่นจนฉันยืนแทบไม่ไหว เมื่อบนหัวของแจสเปอร์มีดอกไม้สีชมพู เค้าดึงมันและร่างกายของเค้าก็ถูกย่อให้เล็กลงกับตา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือนกค็อกคาเทล นายคือ จิ๊บ……จ๊อย.

       

      “เป็นอะไรไป”

       

      เสียงผู้หญิงกำลังเรียกฉัน เมื่อลืม ตาขึ้นก็เห็นแม่ เพสเทลและ ก็...แจสเปอร์ ฉันยังรู้สึกอึ้งไม่หายได้แต่นั้งตาค้าง ไม่พูดไม่จ้า

       “สงสัยลูกคงเหนื่อยนอนพักซ่ะน่ะ...ลูกหน่ะ”

       

      24.00

       

      เรื่องวันนี้ การที่ฉันเห็นคนกลายเป็นนกทำซ่ะฉันนอนไม่หลับ นายเป็นตัวอะไรกันแน่แจสเปอร์ นายต้องการอะไร นี้มันอะไรกัน ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดขึ้น มีชายร่างสูงเดินเข้ามา เค้าทำฉันกลัว จนไม่กล้าจะสบตา

       

       “เป็นไงบ้าง”

       

       เค้าเข้ามาใกล้ฉันจนฉันรู้สึกอึดอัด “เธอกลัวฉันเหรอ”  ฉันไม่พูดอะไรได้แต่จองหน้าเค้า

       

       “ถ้าเธอไม่อยากคุยด้วย ฉันไปล่ะหน่ะเธอจะได้พักผ่อน   โมท่าหายไวๆน่ะ”

       

      “ เดี่ยวก่อน”   ทันใดนั้นฉันก็โผ่กอดเข้ากับร่างชายหนุ่ม ฉันทำเค้าตกใจ

       

       “นี้มันอะไรกันโมท่า”

       

      “อยู่นิ่งๆไม่ต้องพูดนั่งลง”   ฉันมองหน้าเค้า หน้าที่ดูเย็นชา ดวงตาสีดำคู่นี้เหมือนจิ๊บจ๊อยมากมันดูอ่อนโยน ฉันลูบใบหน้าเค้าเบาๆ  มันทำให้เค้าหลับตาพริ้มเอียงหูเล็กๆดูออดอ้อนน่าเอ็นดู จากนั้นฉันก็ลูบหัวของเค้า เค้าก้มหน้าให้  ทันใดนั้นฉันก็เจอดอกไม้สีชมพูบนหัวเค้า เค้าคือจิ๊บจ๊อย จิ๊บจ๊อยจิงๆ

       

      “โมท่า นอนรึยังลูก” ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก

       

      “แม่มีอะไรหรือปล่าวค่ะ”

       

       “คือแม่เอายามาให้” “เอ๊ะนั้นมันเจ้าจิ๊บจ๊อยหนิ” “เดียวแม่เอามันออกไปให้หน่ะ”

       

       “ไม่เป็นไรค่ะแม่เดี๋ยวหนูเอามันออกไปเอง”

       

      “จ้า”

      หลังจากแม่ออกไป เจ้าจิ๊บจ๊อย ก็กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม “เธอรู้” “ใช่ฉันรู้” “เธอไม่กลัวฉันเหรอ” “ไม่” ร่างชายหนุ่มเข้ามาใกล้จนตัวฉันโน้มตัวล้มลงกับพื้นห้องจากนั้น เค้าก็เข้ามาประกบปากฉันอย่างเร้าร้อน มือของฉันสัมผัสกับร่างกายชายหนุ่มซิกแพ็กของเค้ามันทำให้อยากจะกัดให้จมเขี้ยว เมื่อเค้าถอนจูบ ฉันพลิกตัวเค้า แล้วกระโจนถอดกระดุมของเค้าออก ฉันรูปไร้ร่างกายเค้าแล้วประทับเขี้ยวลงบนแผงอก จากนั้นเค้าก็ผลักฉันออกจากร่าง สายตาเค้าดูเขินอาย แก้มเค้าแดงร้อนฉ่า ดอกไม้ที่อยู่บนหัวก็สั้นระริกๆ จากนั้นเค้าก็รีบใส่เสื้อวิ่งออกจากห้อง นี่ฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ยยายโมท่าเธอจะปล้ำเค้าเหรอไร้ยางอายจิงๆยายบ้าเอ๋ย

       

      แต่ไม่ทันไรชายหนุ่มที่วิ่งออกไป  ก็วิ่งกลับเข้ามาพร้อมกับคำพูดที่ทำให้ฉันใจสั้น

       

       “โมท่าฉันรักเธอ” “ฉันมาที่นี่เพื่อรอคำว่ารักจากเธอ” “เธอรักฉันไหมโมท่า”

       

      “ฉันรักเธอ แจสเปอร์”

      จากนั่นเขาก็จูบฉันด้วยริมฝีปากอมชมพูเรียวบางอย่างทะนุถนอมมันเป็นรสสัมผัสที่ละมุน หอมหวานจิงๆ เรามองหน้ากันแล้วสบสายตา อย่างหวานซึ้ง  จากนั่นดอกไม้ที่บนหัวของแจสเปอร์สั้นระรัว กลีบดอกร่วงหล่น ทีละกลีบๆ ร่างกายที่อยู่ตรงหน้าก็กลายเป็นขนนกลอยไปในอากาศ ฉันได้แต่นั้งคุกเข่าไม่อาจทำอะไรได้ 

      <สุดท้ายแจสเปอร์ก็ต้องกลับสวรรค์เพราะทำผิดกฎสวรรค์ที่มีความรักกับมนุษย์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการที่เค้าได้ฟังคำว่ารัก จากปากโมท่าหรือแมรี่ มันก็คุ้มแล้ว>

      THE END

      .....................................................................



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×