ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic EXO) Secret Diary- KrisYeol HunHan

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 เริ่มต้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 180
      1
      21 เม.ย. 59





    เช้าแล้ววันนี้ยังไม่สาย ตื่นมาก็ร้องเพลงถึงเธอ

    ท่องเอาไว้ตัวโน๊ตอย่าให้หาย กลั่นมาจากหัวใจ

    ขอให้เธอโปรดฟังนะคนดี

     

     


     

    “อีปาร์ค นี่แกจะเอาจริงๆหรอ”เสียงของฮานิดังขึ้นถามเบาๆเพราะตั้งแต่ที่ไปฟังแนะแนววันนั้นจากที่นางบอกว่านางจะเข้าคณะนิเทศก็เปลี่ยนมาเป็นจะสอบเข้าคณะแพทย์ ซึ่งมันขัดกับหน้าตาของปาร์คชานยอลเป็นอย่างมาก เกรดนี่อย่าถามเลย ไม่ติด 0 นี่ถือว่าเป็นเกียรติแก่ตระกูลปาร์คแล้ว

     

     

    “จริงดิ หน้าฉันเหมือนคนล้อเล่นหรือไง”หันกลับมาตอบเพื่อนก่อนจะก้มไปทำข้อสอบ 10 ปีที่ยืมมาจากห้องสมุดต่อ ฮานิได้แต่ส่ายหน้าให้กับความบ้าบอของเพื่อน เพราะเหตุผลที่ชานยอลอยากจะเข้าเรียนคณะแพทย์นั้นเป็นเพราะว่าไปตกหลุมรักรุ่นพี่คนหล่อคนนั้น “เออ ตอนเย็นพาไปร้านหนังสือด้วยนะ พอดีอ่านชีวะเล่มนั้นจบแล้ว ต้องไปซื้อเล่มใหม่มาอ่าน” ท่าทางจะเอาจริงแฮะ ฮานิที่ไม่อยากรบกวนการอ่านหนังสือของเพื่อนก็กลับมานั่งลงที่เก้าอี้ของตน

     

    สักพักเสียงกดออดก็ดังขึ้น คาบต่อไปเป็นคาบว่างและแน่นอนว่าชานยอลจะชวนฮานิไปเข้าห้องสมุดซึ่งนั้นก็สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนในห้องเป็นอย่างมากเพราะปกติอย่าหวังเลยว่าชานยอลและฮานิจะพาร่างของตัวเองเข้าห้องสมุด และถ้าไปนี่ไปนอนตากแอร์มากกว่า หญิงสาวร่างบางลุกขึ้นเก็บของรอเพื่อนตัวสูงของตัวเองอย่างรู้งาน

     

    “ไปเถอะ เดี๋ยวจะต้องไปยืมหนังสือด้วย”เสียงหวานๆของชานยอลเอ่ยบอกก่อนทั้งคู่จะเดินไปยังห้องสมุดที่อยู่ตึกไม่ไกลมากนัก ไม่ใช่แค่เพื่อนในห้องที่รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนไปของนางสาวชานยอล แต่การเปลี่ยนไปของเธอนั้นยังความประหลาดใจให้กับคุณครูหลายๆท่านด้วย กิตติศัพท์ของชานยอลนั่นเลื่องลือไปทั่วโรงเรียน มาสาย ติดศูนย์ ขี้เกียจ เข้าห้องปกครองเป็นว่าเล่น นี่คือนิยามที่กล่าวถึงชานยอล

     

    “ทำไมคนมองมาแปลกๆวะ หรือฉันสวยขึ้น”มือบางบัดผมหางม้าของตัวเองเมื่อถูกสายตาของหลายๆคนมองมาที่เธอ แต่จะว่าไปก็คงจะไม่ใช่เพราะเธอนะสวยทุกวันอยู่แล้ว

     

    “จ้าๆๆ เอาที่แกสบายใจ”เมื่อเข้ามาภายในห้องสมุดแล้วฮานิก็ไปหาหนังสือของตนมาอ่านส่วนชานยอลก็เช่นเดียวกัน ร่างบางเดินไปยังชั้นวางหนังสือหมวดภาษามาอ่านคลายหรือเครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้ หลายคนอาจจะคิดว่าเธออยากเรียนหมอเพราะผู้ชาย นั่นมันก็แค่ส่วนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วเธอก็อยากเรียนหมอ จะได้มีความรู้เผื่อแม่หรือพี่ยูราไม่สบาย

     

    ส่วนเรื่องเกรดอย่าถามถึงมันคืออดีตไปแล้ว ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และถือว่าโชคก็ยังเข้าข้างเธออยู่นิดหน่อยเพราะมหาวิทยาลัยที่พี่คนนั้นเรียนอยู่นั้นไม่ได้สนใจเรื่องเกรดเท่าไหร่แค่สอบได้ก็พอแล้ว คือมันต้องแบบนี้แหละ เกรดแต่ละโรงเรียนเหมือนกันที่ไหน บางโรงเรียนปล่อยเกรด บางโรงเรียนนี่กลัวว่านักเรียนจะได้เกรดเยอะๆ กดกันจริงกันจัง

     

    ได้หนังสือที่ต้องการแล้วก็กลับมาที่โต๊ะที่ฮานิได้จองไว้ก่อนที่จะเดินไปเลือกหนังสือแล้ว “เออแก วันเสาร์นี่ไปบ้านฉันปะ แม่บอกว่าอยากทำขนมให้แกกิน”เอ่ยชวนเพื่อนคนเดียวที่มีอยู่ตั้งแต่เข้ารั้วโรงเรียนแห่งนี้มา ไม่ใช่เพราะเธอทำตัวไม่น่าคบหรอกนะ แค่เลือกคบคนเท่านั้นแหละ #ถุย

     

    “เอาดิๆๆๆ ของฟรีฉันชอบ”เรื่องกินนี่ขอให้บอก ให้ติดธุระใหญ่หลวงมากแค่ไหนก็จะไปให้จนได้ ยิ่งของฟรีนี่โปรดปรานเป็นอันดับหนึ่งเลยแหละ “แกๆๆ นั่นมันไอ้มาร์คหนิ”ระหว่างที่กำลังนั่งทำความเข้าใจเรื่องแกรมม่าอยู่นั้นฮานิก็สะกิดให้ชานยอลมองอดีตรักเก่าของตัวเองที่กำลังเดินมาพร้อมรุ่นน้องหน้าตาน่ารักซึ่งคาดว่าจะเป็นแฟนใหม่คนที่ 10ตั้งแต่ที่เลิกกับชานยอล

     

    “ไม่เห็นอยากจะสนใจ หน้าตาก็งั้นๆ สู้พี่คนนั้นก็ไม่ได้”ยักไหล่ไม่สนใจแม้จะเจ็บนิดๆก็เถอะ นี่เลิกกันไปเกือบจะปีกว่าๆแล้ว ไอ้บ้านั้นมีแฟนใหม่เป็น 10 แต่เธอคนที่จะเข้ามาจับยังไม่มี อย่าว่าแต่มีคนมาจีบเลย ผู้ชายที่จะหลงเข้ามาคุยด้วยยังไม่มี พูดไปก็ขอเช็ดน้ำตาเบาๆ

     

    ด้านคนสูงที่เดินเข้ามานั้นก็แอบมองแฟนเก่าของตัวเองที่ทำเป็นไม่สนอยู่เงียบๆ ก่อนจะทำเป็นเดินไปเลือกหนังสือใกล้ๆกับโต๊ะที่ชานยอลนั่งอยู่ “โอ๊ะ ขอโทษที”อยู่ๆหนังสือก็ตกลงพื้น ชานยอลที่กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้นหันไปมองก็พบว่าเป็นมาร์ค “อ้าว ชานยอลหนิ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ สบายดีไหม”นานบ้าอะไร เมื่อวานยังเจอกันที่โรงอาหารอยู่เลย

     

    “ถ้าไม่สบายดีจะมานั่งอยู่นี่ได้หรือไง ฮานิไปกันเถอะ เบื่อที่จะเห็นหน้าคนบางคน”ว่าแล้วก็ปิดหนังสือก่อนจะลุกขึ้น แต่กลับถูกมือหนาของชายหนุ่มจับที่ข้อมือเอาไว้เสียก่อน ใบหน้าหวานมองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่องที่อยู่ๆมาจับมือเธอแบบนี้ “ปล่อย อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังนะ”

     

    “ทำไม ที่หลบหน้าฉันเพราะยังตัดใจไม่ได้สินะ”

     

    “อย่ามั่นหน้าขนาดนั้น คนเลวๆแบบนายแค่ได้ยินชื่อก็ขยะแขยงแล้ว”สะบัดมือออกแล้วฟาดฝ่ามือลงที่หัวของมาร์คแรงๆในฐานที่กล้ามาแตะต้องตัวเธอ “และอีกอย่าง ฉันมีคนที่ชอบแล้วโว้ย”ยักคิ้วอย่างเหนือกว่า ยอมแพ้ไม่ได้ให้มันควงคนอื่นมาเยาะเย้ยหลายครั้งแล้ว บอกเลยครั้งนี้ชานยอลจะสู้

     

    “หรอ ใครกัน หรือว่ายัยฮานิ”

     

    “ฉันไม่ได้เบี้ยนเว้ย”

     

    “งั้นก็เอารูปมาดูหน่อยสิ ไม่ใช่นักร้องวง EXO อะไรนั่นนะ”โหยนี่กล้าพาดพิงถึงสามีในโปสเตอร์แบบนี้มันยอมได้ที่ไหนมือบางล้วงโทรศัพท์ในกระโปรงนักเรียนของตัวเองออกมาก่อนจะกดเข้าไปในโฟลเดอร์รูปภาพ ไม่อยากจะโม้ว่าได้เฟซบุ๊คพี่คนนั้นมาแล้ว

     

    หาแทบตายกว่าจะเจอ ดีที่พี่เซฮุนคนข้างบ้านเรียนคณะแพทย์ปี 3 รู้จักเลยได้โอกาสถามเรื่องราวของพี่เขา “อ่ะ ดูให้เต็มๆตา นี่แหละว่าที่แฟนของฉัน ตอนนี้กำลังคุยๆกันอยู่ คิดว่าอีกไม่กี่เดือนคบกันแน่ๆ”โม้ไปงั้นแหละ ตอนนี้รู้แค่ชื่อ แอดเฟรนไปพี่เขายังไม่รับเลยอ่ะ

     

    “ห๊ะ คนนี้นี่นะ ฮ่าๆๆๆ”เมื่อเห็นรูปผู้ชายที่ชานยอลบอกว่าชอบนั้นมาร์คก็หัวเราะออกมาเบาๆ

     

    “หัวเราะอะไร เดี๋ยวแม่ต่อยฟันร่วง”

     

    “เธอไม่รู้หรือไงว่าพี่คริสเขาไม่ชอบผู้หญิง ฮ่าๆๆ จี้ชะมัด” หัวเราะจนต้องกุมท้องตัวเองเอาไว้ “ฮ่าๆ ยัยบ๊อง เธอน่ะไปจากฉันไม่รอดหรอก อยากกลับมาเมื่อไหร่ก็โทรมานะ ฉันยังใช้เบอร์เดิม ฮ่าๆๆ”หัวเราะทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปทำให้ชานยอลได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ

     

    “ไม่มีทางที่ฉันจะกลับไปคบกับแก ไอ้มาร์คบ้า”

    +++++

     

     

    ใต้ตึกคณะแพทย์ ตอนนี้เป็นเวลาพักของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 หลังจากเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษเสร็จแล้วนั้น นักศึกษาแพทย์จำนวนกว่า 30 ชีวิตก็เดินมาหาอะไรกินที่โรงอาหารใต้ตึก บางส่วนที่ทานมาแล้วนั้นก็มานั่งปั่นการบ้านกันอยู่ที่ม้านั่งที่ทางคณะจัดไว้ให้ และในมุมหนึ่งก็มีชายหนุ่มร่างสูงจำนวน 4 คนกำลังนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียด

     

    เพราะโปรเจคงานที่ส่งไปเมื่อวานนั้นไม่ผ่าน “อะไรวะ กูทำรีพอร์ตผิดตรงไหน บอกกูที”เสียงของ พยอน แบคฮยอน หนุ่มร่างเล็กในกลุ่มดังขึ้น เพราะเมื่อวานพอเอาโปรเจคงานไปส่งอาจารย์ดังบอกว่าการคำนวณหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาของกลุ่มนั้นผิด แต่ผิดตรงไหนให้ไปหาเอาเอง

     

    “มึงจะโวยวายทำไมวะ ก็ลองทำใหม่ ถ้าไม่ได้คำตอบตอบก็หาดูว่ามันต่างกันตรงไหนก็แค่นั้นป่ะ”ถัดมาเป็น คิม จงแด ชายหนุ่มร่างสันทัดที่ใส่แว่นหนาเตอะตามประสาเด็กเรียน “โง่จริงๆเลย” พูดจบก็ต้องร้องโวยวายออกมาเมื่อถูกมือเล็กๆของแบคฮยอนฟาดเข้าให้ที่กลางหลัง


     

    “ทะเลาะกันอยู่ได้พวกมึงหนิ แล้วไอ้นั่นเป็นอะไรอีกล่ะ ทะเลาะกับแฟนอีกแล้วหรือไง” ใบหน้าคมที่ก้มทำการบ้านอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมาห้ามว่าเพื่อนที่ทะเลาะกันก่อนจะหันไปมองไอ้ตัวสูงของกลุ่มที่กำลังนั่งจ้องโทรศัพท์หน้าเครียดอยู่

     

    “เออดิ แมร่ง อี้ชิงงอนกูอีกละ” คริส หรืออี้ฟาน ชายหนุ่มสัญชาติแคนาเดียน พูดขึ้นอย่างเซ็งๆ อี้ชิงที่ว่านี่คือแฟนที่คบกันได้ประมาณเดือนกว่าๆแล้ว “แค่กูตอบแชทช้าแค่ 2 นาทีก็หาว่ากูไปมีคนใหม่ อะไรก็ไม่รู้”คือใช่ว่าเขาจะว่างจะตลอดเวลาไหม ต้องเรียนต้องทำอย่างอื่นบ้าง พอบอกไปแบบนั้นก็งอน

     

    “เอาน่ามึง เดี๋ยวมันก็หายงอน”ใบหน้าคมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า “เออมึง ตอนเย็นยัยหัวหน้าเรียกให้ไปประชุมด้วยนะ รู้หรือยัง”สักพัก หวัง จือเทาก็เอ่ยขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าหลังจากเรียนชีววิทยาเสร็จแล้ว หัวหน้าห้อง หรือที่เรียกกันว่า เจอร์ นั้นได้นัดไปประชุม คงจะเป็นเรื่องการรับน้อง เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะมีน้องใหม่เข้ามาเรียนต่อแล้ว และการรับน้องนั้นก็เป็นกิจกรรมรูปแบบหนึ่งที่สร้างความรู้จัก ความสามัคคีและอื่นๆอีกมากมายให้รุ่นพี่รุ่นน้อง

     

    “ประชุมอีกละ งานกูยังไม่เสร็จเลยเนี่ย”เสียงโวยวายนี่จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากแบคฮยอนเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่โวยวายมันไปทุกเรื่อง  

    50%


    และหลังจากที่การประชุมเรื่องการรับน้องเสร็จแล้วนั้นเดอะแก๊งค์ของคริสก็ได้ชวนกันไปกินข้าวกันที่หลังมอและในระหว่างที่เดินเข้าร้านใน เซฮุน หรือลุงรหัสของคริสนั้นก็เดินเข้ามาพอดี เห็นหลานรหัสที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบอาทิตย์แล้วชายหนุ่มเลยชวนรุ่นน้องทั้งสี่คนไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย พอเดินมาที่โต๊ะก็เห็น ลู่หาน พี่รหัสของคริสนั่งอยู่


    นี่มันเป็นวันรวมญาติรหัสของสายเขาหรือไงวะ ได้แต่คิดในใจก่อนจะยกมือไหว้พี่รหัสคนน่ารักของตัวเอง ลู่หานที่นั่งรอเซฮุนมาเกือบจะชั่วโมงแล้วก็แสดงสีหน้าไม่พอใจได้อย่างเห็นได้ชัดแต่ร่างสูงที่เพิ่งมานั้นหาได้สนใจไม่ แต่กลับหันไปคุยกับรุ่นน้องทั้งสี่มากกว่าที่จะสนใจลู่หาน


    "อยากกินอะไรก็สั่งกันเลยนะ เดี๋ยวมา"เซฮุนเอ่ยบอกก่อนจะลุกออกไปทำให้ลู่หานนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากนี่เธอเป็นคู่หมั้นของเซฮุนนะทำไมต้องทำเหมือนไม่สนใจกันขนาดนั้นด้วย ดวงตากวางคู่สวยนั้นนั้นมีน้ำตาคลออยู่ คริสที่สังเกตพี่รหัสและลุงรหัสของตนมานานแล้วก็ได้แต่ลูบแผ่นหลังบางๆของหญิงสาว


    ทางด้านเซฮุนหลังจากที่เดินออกมาแล้วนั้นก็จัดการต่อสายหาน้องสาวข้างบ้านทันที ไม่นานเสียงหวานๆของเธอก็ดังขึ้นที่ลำโพงโทรศัพท์เครื่องหรู ได้ยินเสียงเพียงแค่นี้ก็ทำให้เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว "พี่ฮุนมีอะไรหรือเปล่าคะ" เอ่ยถามขึ้นมาเมื่ออยู่ๆพี่ชายข้างบ้านก็โทรมา ปกติแล้วจะมาหาเธอที่บ้านไม่ใช่หรือไง 


    "พี่จะโทรมาบอกว่าตอนนี้พี่ออกมาทานข้าว แล้วเจอไอ้คริสด้วยนะ" ได้ยินชื่อพี่คนนั้นแล้วก็ทำให้ชานยอลติ่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ใช่แล้วล่ะ ชานยอลรู้จักชื่อคริสจากเซฮุนและบ่อยครั้งที่มาถามว่าคริสชอบทานอะไร ชอบใคร มีแฟนหรือยังจากเซฮุนอยู่เสมอหลังจากที่รู้ตัวว่าตัวเองชอบพี่สุดหล่อคนนั้น


    "ง่า พลาดมากๆๆ ทำไมพี่ฮุนไม่บอกหนูละว่าจะเจอพี่คริส"น้ำเสียงที่แสดงความเสียดายดังเล็ดออกมาเป็นเครื่องหมายว่าเธอเสียงดายจริงๆ ทั้งที่พี่เซฮุนชวนไปกินข้าวด้วยแท้ๆแต่เธอมัวแต่อ่านหนังสือเลยปฏิเสธไป ไม่น่าเลย พลาดมากจริงๆ นี่ก็ไม่เจอหน้าพี่เขาหลายเดือนแล้วนะ เซฮุนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ 


    "งั้นเดี๋ยวพี่จะรีบกลับนะ เดี๋ยวเล่าเรื่องวันนี้ให้ฟัง โอเคไหม"นี่อาจจะเป็นอีกเรื่องก็ว่าได้ที่ทำให้เซฮุนได้หาโอกาสไปเจอหน้าน้องสาวคนนี้อยู่บ่อยครั้ง เพราะหากไม่มีการบ้านหรืออะไรที่ชานยอลต้องการจะปรึกษาแล้วนั้นเขาก็ไม่ค่อยจะได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวเท่าไหร่ ยิ่งต้องมาหมั้นกับลู่หานแล้วด้วยนะ โอกาสที่จะได้เจอกันนั้นมันยากมากจริงๆ


    "โอเคค่ะ ซื้อขนมมาฝากยอลเยอะๆเลยนะคะ" น้ำเสียงที่ดูอ้อนๆของชานยอลนั้นทำให้เซฮุนยิ้มออกมา ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าก่อนจะเข้าไปในร้านอาหาร ส่วนชานยอลหลังจากที่วางโทรศัพท์จากเซฮุนเรียบร้อยแล้วนั้นเธอก็หันมาทำข้อสบอต่อ ความเปลี่ยนของลูกสาวคนเล็กของบ้านนั้นทำให้ทุกคนในครอบครัวสงสัยเป็นอย่างมาก


    ยิ่งตอนที่คุณนายปาร์คถามลูกสาวเล่นๆว่าจะสอบเข้าคณะไหนแล้วลูกสาวบอกออกมาเต็มปากเต็มคำว่าจะสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์แล้วนั้น เธอนั้นตะลึงตึงตึง มันเป็นเรื่องที่อเมซิงมาก แต่ก็ไม่อยากขัดอะไรลูกคนเล็กอยู่แล้ว ชอบสิ่งไหน ชอบอะไรเธอก็ปล่อยให้ลูกเลือกเส้นทางของตัวเอง หน้าที่ของพ่อและแม่นั้นทำเพียงแค่ดูแลอยู่ห่างๆก็เพียงพอแล้ว


    "ชานยอล มากินข้าวก่อนลูก"ผู้เป็นแม่เอ่ยเรียกลูกที่กำลังนั่งหน้ายุ่งอยู่ที่ห้องรับแขกเมื่อทำอาหารมื้อเย็นเสร็จแล้ว มือปากที่จับปากกาลายริลัคคุมะวางลงที่โต๊ะก่อนจะลุกมาหาแม่และพี่สาวที่อยู่ในห้องรับประทานอาหาร กับข้าวมากมายวางอยู่บนโต๊ะนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจานโปรดของลูกทั้งสอง 


    "โหย น่าทานจังเลย แม่รู้ใจหนูที่สุดเลยอะ"กอดที่เอวของแม่หลวมๆก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้ของตน ยูราที่เพิ่งจะกลับมาบ้านเห็นน้องสาวดูเหมือนคน?มากขึ้นนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย ปกติต้องหัวยุ่งหน้ามันลงมาไม่ใช่หรือไง "พี่มองไรอะ หน้าหนูมีอะไรผิดปกติหรอ"เห็นพี่สาวมองหน้าตนแปลกๆก็ถามอย่างสงสัย 


    "นี่แกใช่น้องสาวฉันไหม หรือว่าแม่มีลูกสาวฝาแฝด นี่คือแฝดยัยชานยอลใช่ไหม " มือบางหยิกที่แก้มของน้องสาว ก่อนที่เสียงหวานจะร้องบอกให้หยุด


    "โอ๊ยพี่ยูราหยุดเลยนะ แก้มหนูช้ำหมดแล้วเนี่ย" บอกอย่างงอนๆก่อนที่คุณนายปาร์คจะห้ามศึกของสองพี่น้องแล้วให้ทั้งสองเริ่มทานข้าวได้แล้ว พอทานข้าวเสร็จเรียบร้อยชานยอลก็ขอตัวขึ้นห้องเพราะลืมไปว่ามีการบ้านที่ต้องทำ แถมเป็นวิชาของครูฮีชอลอีกถ้าส่งช้าเดี๋ยวถูกเจ๊แกโบยหลัง 


    Rrrrrr


    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นสายจากเพื่อนสนิทอย่างฮานิ ชานยอลกดรับสายก่อนจะเปิดหนังสือเรียนของตัวเองไปด้วย "อีปาร์ค ทำอะไรอยู่คะ"เอ่ยทักเพื่อนอย่างสนิทสนม


    "กำลังจะทำหารบ้านของเจ๊ฮีชอล แล้วแกละทำเสร็จแล้วหรอ"


    "เสร็จแล้วยะ ฉันมีเรื่องจะมาเม้าท์กับแกด้วย"เรื่องนินทาชาวบ้านนี่เป็นนิสัยที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี ชานยอลปิดหนังสือลงก่อนจะมาฟังเรื่องเล่าจากเพื่อนที่ถูกถ่ายทอดออกมา ซึ่งเรื่องก็ไม่พ้นเรื่องเดิมๆที่เคยคุยกัน จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงฮานิก็ขอวางสายเพราะต้องลงไปช่วยแม่เก็บของที่ร้านแล้ว 



    และแล้วในที่สุดวันสอบก็มาถึงชานยอลในชุดนักเรียนโรงเรียนนานาชาติโซลและฮานิที่อยู่ในยูนิฟอร์มเดียวกันเดินเข้ามาภายในรั้วมหาวิทยาลัยโซล ตึกเรียนและอาคารมากมายตั้งเรียงกันสร้างความตื่นเต้นให้ทั้งคู่เป็นอย่างมาก "แกสอบตึกไหน"ชานยอลถามขึ้นพร้อมกับอ่านดูบอร์ดแผนที่ที่ตั้งอยู่เพื่อหาตึกสอบของตัวเอง


    "ตึก NU31"ค้นหากระดาษที่จดไว้ก่อนจะบอกชานยอล นิ้วเรียวชี้วนไปวนมาหาตึก NU31 ที่ฮานิบอกก่อนจะชี้ให้เพื่อนดู 


    "ตึกอยู่ข้างกันเลยอะ ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะเข้าห้องสอบไม่ทัน"เมื่อเจอตึกสอบของตัวเองแล้วนั้นก็เดินข้ามฝั่งไปยังตึกที่ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลมากนัก ดีที่วันนี้อากาศดีไม่ร้อนไม่หนาวมากจนเกินไป พอถึงหน้าถึงแล้วชานยอลและฮานิก็จับมือให้กำลังใจกัน "สู้ๆนะแก เราต้องเข้าเรียนที่มหาลัยนี้ให้ได้" ฮานิพยักหน้าเบาๆ ไม่ว่ายังไงก็ตามจะทำให้สุดความสามารถของตัวเอง


    "แกเหมือนกันนะ สู้ๆ"ชูนิ้วให้กำลังใจกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าสอบ แล้วหลังจากนั้นก้เดินเข้าตึกของตัวเอง หญิงสาวร่างบางเดินหาห้องสอบของตัวเองมาเรื่อยๆก่อนที่กระเป๋าดินสอที่ถืออยู่นั้นจะหล่นเมื่อไปชนกับนักเรียนคนหนึ่งที่หาห้องสอบเช่นกัน ชานยอลนั่งลงเพื่อเก็บกระเป๋าดินสอของตัวเองก่อนจะมีมือของใครอีกคนมากุมที่มือบางของเธอ 


    "เดี๋ยวพี่หยิบให้"เสียงที่แสนจะคุ้นเคยดังขึ้นพอเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นเซฮุนพี่ชายข้างบ้านนั่นเอง 


    "พี่ฮุน มาได้ไงเนี่ย"ถามด้วยความตกใจ 


    "วันนี้พี่มีทำแลปแล้วได้ข่าวว่ายัยเด็กข้างบ้านมาสอบเลยมาให้กำลังใจ"ลูบที่ผมนุ่มๆของหญิงสาวเบาๆ "ตั้งใจทำข้อสอบนะ มาเป็นน้องที่คณะพี่ให้ได้ ถ้าสอบได้จะพาไปเลี้ยงชาบู ตกลงไหม" ติดสินบนกันแบบนี้เห็นทีชานยอลต้องตั้งใจมากกว่าเดิมแล้ว คือไม่ได้เห็นแก่ของฟรีเลยนะ พูดจริงๆ


    "งั้น ชานยอลขอเข้าห้องสอบก่อนนะคะ ถ้าผลออกมาเมื่อไหร่จะรีบไปบอกเลย"ยิ้มให้พี่ชายข้างบ้านก่อนจะเดินเข้าไปในห้องสอบเป็นจังหวะเดียวที่คริสเดินมาทางนี้พอดี เซฮุนโบกมือให้หลานรหัสก่อนจะพาเดินไปยังรถของตัวเอง ความจริงไม่ได้มีทำแลปอะไรอย่างที่บอกชานยอลหรอก ก็แค่อยากมาให้กำลังใจก็แค่นั้นแหละ 


    +++++++

    "อี้ อย่างี่เง่าได้ป่ะวะ" เสียงทุ้มดังขึ้นมาอย่างหงุดหงิดเพราะหลังจากเอาหนังสือวิจัยกับลุงรหัสเสร็จแล้วก็มาหาอี้ชิงตามที่ร่างบางได้โทรศัพท์ไปหาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ที่คริสเห็นอยู่นี้มันไม่ใช่คุยแต่มันเป็นการชวนทะเลาะมากกว่า 


    "ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วย มีคนอื่นใช่ไหม"ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่เบือนหน้าหนี 


    "เคยคิดนะว่าผู้หญิง แมร่ง งี่เง่าเลยมาคบกับผู้ชาย แต่ถ้าเป็นแบบนี้ เราเลิกกันเถอะ"ความอดทนของคนเรามันมีจำกัดและคริสก็อดทนกับอี้ชิงมามากพอแล้ว มันคงถึงเวลาที่ต้องจบกันแล้วจริงๆ คริสเดินหันกลับไปยังตึกเรียนของตนโดยไม่สนใจเสียงเรียกจากร่างบางเลยแม้แต่น้อย เมื่อมาถึงที่ตึกแล้วเพื่อนทั้งสามของตัวเองที่มาจองโต๊ะไว้รอแล้วนั้นก็โบกมือเรียก


    "เป็นเหี้ยอะไรครับไอ้คุณชาย"แบคฮยอนเอ่ยถามทั้งๆที่ในปากนั้นมาขนมเลย์อยู่เต็ม คริสไม่ตอบอะไรก่อนจะล้วงโทรศัพท์ของตนขึ้นมาเข้าแอพเฟซบุ๊คเพื่อดูอะไรเล่นๆ 



    real__pcy ได้ส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงคุณ

    ยืนยัน    ลบคำขอนี้





    มาต่อให้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจะมาต่อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ขอบคุณค่ะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×