หลันเสวี่ยซู สาวน้อยที่มีอายุเพียงสิบหนาวผู้อาภัพที่มีครอบครัวใหญ่อยู่ด้วยกันหลายคน หลันเสวี่ยซูนั้นเป็นบุตรคนที่สามของหลันเปียว แม้ว่าครอบครัวนี้จะอยู่กันมากและทว่ากลับยากจน แต่ความสามัคคีนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งมีท่านปู่หลันชุน ท่านย่าหลันจูจิน ท่านลุงหลันปู้ ท่านอาหลันซินเว่ย ท่านพ่อที่เป็นบุตรชายคนกลาง หลันเปียว ของนาง และยังมีภรรยาของท่านลุงปู้ และลูกๆอีกสี่คนของท่านลุงใหญ่หลันปู้ ปีนี้ครอบครัวของนางประสบกับภัยแล้งเช่นกับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นปีที่สามเจ้าแล้ว ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ภัยแล้งทำให้ต้นข้าวและผักล้มตาย ชาวนาทุกครอบครัวมีแต่จนลงๆ ที่ทำได้ก็คือเข้าป่าขึ้นเขาเพื่อไปหาผักป่าและสัตว์ป่าเพื่อนำมาทำอาหารหรือหากโชคดีก็คงพอได้นำไปขายในเมือง แต่ส่วนมากก็ได้แค่พอกินกันในครอบครัวเท่านั้น ….
จนอยู่มาวันหนึ่งหลันเสวี่ยซูนั้นเกิดอาการหน้ามืดหมดสติไปขณะที่นางขอตามบิดาขึ้นเขาเพื่อไปเก็บผักป่านั้น นางก็ได้เสียชีวิตลงอย่างไม่ทันได้รู้ตัว และมีวิญญาณของหลันเสวี่ยซูจากอีกโลกหนึ่งมาแทนที่ โดยที่หลันเปียวนั้นไม่ได้รับรู้เลย เพราะจณะที่เกิดเหตุนั้นเขาแยกตัวออกไปดูกับดักที่วางไว้เมื่อวาน โดยปล่อยให้บุตรสาวนั่งขุดหัวมันเทศที่เจอรอตนก่อน
ส่วนทางด้านหลันเสวี่ยซูที่ได้เสียไปแล้วนั้น วิญญาณของนางก็ยังคงไม่รู้ตัว เพียงแต่ว่าคลับคล้ายว่านาจะมองเห็นตัวเองแต่นางคิดว่าตัวนางนั้นได้ฝันไป
ตอนนี้ร่างของหลันเสวี่ยซูได้มีการขยับเขยื้อน และยังมีเสียงแผ่วๆเล็ดรอดออกมาด้วยเบาๆ
“คุณแม่คะเสวี่ยหิวน้ำจังค่ะ คุณแม่ช่วยหยิบแก้วน้ำให้เสวี่ยหน่อยได้ไหมคะ” มีเสียงแผ่วๆลอดออกมา ขณะที่คนพูดนั้นยังไม่ลืมตาขึ้น แต่รู้สึกแปลกใจที่ตนเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มแต่ทำไมตอนนี้มันเหมือนระคายยังไงไม่รู้ เหมือนนอนบนหญ้าอย่างไรอย่างนั้น
…… ไม่มีเสียงขานรับของผู้เป็นแม่อย่างที่เคย หบันเสวี่ยซูนั้นก็ได้แต่คิดว่าท่านคงออกไปทำธุระระหว่างที่ตนหลับหลังทานยาแน่นอน
“โอยยย..ซี๊ดดด….ทำไมปวดหัวอย่างนี้เนี่ย เมื่อเช้าก็ดีขึ้นแล้วนะ” หลันเสวี่ยซูยังคงไม่ลืมตาขึ้นมาดูในสิ่งที่ตนสงสัยเพราะเริ่มปวดหัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีเหตุการณ์ต่างๆบุคคลต่างๆเข้ามาในหัวของเธอจนแทบจะระเบิดออกมา
“ไม่นะ…ไม่นะ …เป็นไปไม่ได้ …ไม่จริง…!?” หลังจากที่ทมีอาการปวดหัวอน่างรุนแรงไปเมื่อสักครู่ และมีเหตุการณ์ต่างๆแบะหน้าตาชื่อของบุคคลที่เธอไม่เคยรู้จักเข้ามาในหัว จนหลันเสวี่ยซูเริ่มที่จะเข้าใจอะไรๆมากแล้วนั้นก็ได้แต่ตะโกนออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อและคิดว่าตนนั้นฝันไป “ไม่จริ้งงงงงงงงง….“ เสียงกรีดร้องนี้ทำให้หลันเปียวได้ยินก็รีบวิ่งกลับมาหายังทิศทางที่ยบุตรสาวอยู่ในทันที
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น