คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : 26 Days ♡
26 Days ♡
#เพื่อนรักเตียงสั่น
“เรากลับไปเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิมนะปาร์คชานยอล..”
ประโยคที่คนตัวเล็กพูดออกมาเมื่อครู่วนอยู่ในหัวผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า.. มันอาจจะดูเป็นประโยคธรรมดาๆเพียงประโยคหนึ่งหากมันคือประโยคที่เพื่อนรักใช้บอกกันทั่วไป.. แต่นี่มันคือคำพูดจากคนที่ผมคิดว่าเขาไม่ใช่แค่เพื่อนรักธรรมดาๆของผมเหมือนคนอื่น..แต่เขาเป็นมากกว่านั้น..
เขาคือคนสำคัญ..
พยอนแบคฮยอนสำคัญที่สุดสำหรับผม..
และแน่นอนว่าคำพูดเหล่านั้นมันทำให้หัวใจของผมรู้สึกวูบโหวงและเจ็บปวดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน..
เจ็บและชาจนแทบจะทรงตัวไม่ไหว.. นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้..
“ป.. ป๋าย..”
ผมพยายามเอ่ยรั้งคนตัวเล็กด้วยเสียงอันแหบพร่า ผมอยากเรียกเขาให้ดังมากที่สุดแต่ทำไมเสียงของผมมันถึงดังได้แค่นี้ พยายามยื่นมืออันไร้เรี่ยวแรงเพื่อหวังจะสัมผัสไหล่เล็กตรงหน้าที่กำลังห่างจากมือผมไปเรื่อยๆแต่กลับคว้าได้เพียงอากาศ..
ผมอยากจะดึงเขาเข้ามากอด.. อยากจะขอโทษกับคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเขาต่างๆนาๆ..
แต่ยิ่งหัวใจและสมองของผมบังคับร่างกายให้ก้าวเข้าไปหาคนตัวเล็กมากเท่าไหร่ เรี่ยวแรงของผมมันก็ดูเหมือนจะต่อต้านและตรงข้ามกับจิตใจมากเท่านั้น..
ผมอยากกอดเขา..
อยากพูดว่าขอโทษ..
อยากขอร้องให้เขาหยุดอยู่ตรงนั้นและอย่าก้าวออกห่างผมไปมากกว่านี้..
แต่ผมก็ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งๆมองดูแผ่นหลังบอบบางและเท้าเล็กๆเดินห่างออกไปเรื่อยๆเพียงเท่านั้น..
“กูขอโทษนะโย่ง.. ที่ทำหน้าที่เพื่อนได้ไม่ดีเหมือนที่เราเคยสัญญากันเอาไว้ในตอนนั้น..”
“แต่กูสัญญา.. สัญญาว่าถ้าวันไหนกูหายดี.. กูจะกลับมาอยู่กับมึง.. และเรา..”
“เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม.. ระหว่างเรา.. ความเป็นเพื่อนระหว่างเรา.. มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม..”
ผมหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลลงมาอาบแก้มอย่างไม่คิดจะห้าม ก่อนจะค่อยๆก้าวออกมาจากที่แห่งนั้นโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองมันอีก..
ผมเจ็บ..
เจ็บกับคำพูดของตัวเอง เจ็บเพราะผมไม่คิดว่าจะได้พูดคำๆนี้ คำบอกลาที่ผมไม่เคยคิดจะใช้กับมันกับปาร์คชานยอล แต่สุดท้ายกลับเป็นผมเองที่เป็นคนพูดมันออกไป เพียงเพราะหัวใจของผมมันคงเจ็บจนเกินที่จะรับไหว..
ผมเจ็บและอยากเดินออกมา.. อยากเดินออกมาจากความเจ็บที่ผมเป็นคนเริ่มต้นสร้างมันขึ้นมาเอง..
และผมรู้ดีว่าตอนนี้ปาร์คชานยอลคงไม่กล้าเข้ามาแตะผมแม้แต่ปลายนิ้ว เพราะหากเขาก้าวเข้ามาหาผมอีกเพียงแค่ก้าวเดียว ร่างกายและหัวใจของผมอาจจะแตกเป็นเสี่ยงๆไปในทันที..
ถึงผมจะคิดไม่ออกว่าวันพรุ่งนี้กับการตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอปาร์คชานยอลนอนอยู่ข้างๆ บนเตียงผืนใหญ่และบรรยากาศในห้องนอนของผมมันจะเงียบเหงาแค่ไหน.. หัวใจผมจะรู้สึกยังไง.. มันจะทรมานแค่ไหนหากผมไม่ได้มีคนตัวโตคอยอยู่ข้างๆและทำทุกอย่างด้วยกันเหมือนสิบกว่าปีที่ผ่านมา..
แน่นอนว่าแค่คิดหัวใจของผมมันก็เจ็บและทรมานจนแทบจะหยุดเต้น.. ผมอาจจะอยู่ไม่ได้หากวันพรุ่งนี้ไม่มีปาร์คชานยอล แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าปาร์คชานยอลจะอยู่ไม่ได้โดยไม่มีผม..
เพราะในความคิดของเขาในตอนนี้ ไม่สิ.. ที่ผ่านมา.. ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาบางทีปาร์คชานยอลอาจจะมองผมเป็นแค่ของเล่นแก้เหงา.. ไม่ใช่คนพิเศษ.. ไม่ใช่คนรัก.. ไม่ใช่แม้กระทั่งเพื่อนรัก..
พยอนแบคฮยอนคนนี้คงไม่เคยสำคัญสำหรับปาร์คชานยอลและไม่อาจเป็นได้..
เพราะในสายตาเขา.. ผมคงเป็นได้แค่คนสกปรกและไม่มีค่าคนหนึ่ง แค่นั้น..
“เฮีย.. มารับ.. ฮึก.. มารับหมวย ฮึก.. ที..”
“หมวยอยากกลับ.. อยากกลับ.. บ้าน.. ฮึก..”
“ไอ้ประธานมึงฟังนะ!! ฟังพวกกูนะเว้ย!!”
“คือว่าเรื่อง.. แฮ่ก เรื่องหมด.. แฮ่ก มะ..มึง.. มึงกำลัง.. ” เข้าใจผิด..
อี้ชิงกับมินซอกที่วิ่งกระหืดกระหอบผลักประตูห้องน้ำเข้ามาเพื่อหวังจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนรักฟัง แต่สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงไปในคอด้วยความยากลำบาก เมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรักตัวสูงในตอนนี้..
ปาร์คชานยอลนั่งกอดเข่าพิงผนังห้องน้ำในสภาพที่พวกเขาไม่เคยมาก่อน.. ดวงตาแดงก่ำช้อนขึ้นมองพวกเขาด้วยความว่างเปล่า.. หากแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นั่นทำให้จางอี้ชิง คิมมินซอก โอเซฮุนและอู๋อี้ฟานต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่อาจทนมองสภาพเพื่อนของพวกเขาในตอนนี้ได้..
“กะ..เกิดอะไรขึ้นไอ้ประธาน.. ละ..แล้วหมาล่ะ หมามันหายไปไหนวะ..”
“ยะ.. อยู่ในห้องน้ำหรอ.. มะ..มึงไม่ต้องห่วงนะ ดะ เดี๋ยวพวกกูไปตามมันออกมา..”
คิมมินซอกพยายามเอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้มยิ้มแห้งๆ คนตัวเล็กพยายามแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนความตกใจของตัวเองและเพื่อนๆและอยากให้บรรยากาศหายตึงเครียด.. แต่บางทีคำพูดที่เหมือนกับโกหกตัวเองและคนอื่นแบบนั้นทั้งๆที่รู้ดีว่ามันไม่อาจเป็นจริงได้.. มันก็ยิ่งตอกย้ำความเจ็บให้กับใครอีกคน..
พยอนแบคฮยอนจะอยู่ในห้องน้ำได้อย่างไร.. ในเมื่อประตูห้องน้ำเปิดกว้างทุกห้อง..
พยอนแบคฮยอนจะอยู่ในห้องน้ำได้อย่างไร.. ในเมื่อด้านในไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงหายใจของพวกเขา..
และพยอนแบคฮยอนจะอยู่ในห้องน้ำได้อย่างไร..
ในเมื่อคนตัวเล็กพึ่งเดินจากเขาไปเมื่อครู่โดยที่ไม่มีแม้แต่จะหันหลังกลับมา..
“ไปแล้ว..”
“เขาไปแล้ว..”
“ไม่มีใครอยากอยู่กับกู..”
“ไม่มีใครอยากอยู่กับผู้ชายเลวๆอย่างกูหรอก..”
เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาเบาๆ หากแต่มันกลับทำให้เพื่อนๆทุกคนได้ยินมันอย่างชัดเจน ปาร์คชานยอลไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพวกเขาในขณะพูด คนตัวสูงเอาแต่นั่งจ้องมือตัวเองและกำมันเอาไว้แน่น..
สองมือนี้ที่เขาใช้มันบีบไหล่เล็กเมื่อครู่อย่างเต็มแรง..
สองมือนี้ที่เขาเคยใช้ปกป้องดูแล แต่วันนี้เขากลับเป็นคนใช้มันทำร้ายคนตัวเล็กอย่างไม่น่าให้อภัย..
“มึงทำอะไรเพื่อนกูปาร์คชานยอล!!”
“มึงทำอะไรเพื่อนกู บอกกูมาปาร์คชานยอลมึงทำอะไรมัน!!”
เป็นอี้ชิงที่ทนแบกรับความกดดันในครั้งนี้ไม่ไหว นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับกลุ่มพวกเขา แค่ฮวางจื่อเทาบอกว่าพยอนแบคฮยอนเพื่อนรักของเขาโดนทำร้ายแค่นี้หัวใจของอี้ชิงก็เจ็บมากพออยู่แล้วที่ไม่สามารถปกป้องเพื่อนได้..
แล้วนี่มันอะไร.. กะว่าจะมาปลอบเพื่อน กะว่าจะมาบอกมาเคลียร์ให้มันเข้าใจกัน แต่พอวิ่งเข้ามาก็เจอปาร์คชานยอลอยู่ในสภาพไม่เหลือซากเพียงคนเดียว มิหนำซ้ำมันยังมาพูดว่าพยอนแบคฮยอนไปแล้ว..
ซึ่งปกติคนอย่างพยอนแบคฮยอนจะไม่มีทางไปไหนโดยไม่บอกใคร.. และไม่มีทางที่ไอ้ประธานจะไม่รั้งมันไว้ ไม่มีทางที่ไอ้ประธานจะปล่อยให้พยอนแบคฮยอนจากไปแบบนี้ง่ายๆแน่..
หากมันไม่เกิดเรื่องเลวร้ายจนถึงที่สุด..
“กูด่าพยอนแบคฮยอน..”
“ด่าว่ามันอยาก.. และกูให้มันไม่พอ.. มันเลยต้องไปทำแบบนั้นกับผู้ชายคน..”
ผลั้ว!!
“ไอ้สารเลว.. มึงมันเลวปาร์คชานยอล!! มึงไม่น่าเกิดมาเป็นเพื่อนกูเลย..”
“เพราะถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูป่านนี้กูคงฆ่ามึงไปแล้ว คงไม่ปล่อยให้มึงมาพูดจาดูถูกเพื่อนกูแบบนี้..”
“มึงรู้อะไรไหม..”
“รู้ไหมว่าหมามันเจออะไรมา.. ฮึก.. มันโดนไอ้พวกรุ่นพี่เฮงซวยนั่นทำร้าย..”
“มันเกือบจะโดน ฮึก เกือบจะโดนไอ้ชั่วพวกนั้นทำร้าย.. แต่โชคดีที่ ฮึก.. โชคดีที่ฮวางจื่อเทามาช่วยมันไว้..”
“ฮวางจื่อเทาคนที่มึงเกลียดนักหนา ฮวางจื่อเทาคนที่มึงไปต่อยเขาเพียงเพราะเขาเข้ามาช่วยเพื่อนกู..”
“มึงต่อยเขาโดยที่ไม่ถามเหตุผล.. ที่สำคัญมึงยังทำร้ายคนที่มึงรักโดยไม่คิดจะถามมันสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น..”
“มึงรู้ไหมว่าตอนที่มันโดนทำร้าย.. คนที่มันพยายามร้องเรียกอยู่ตลอดเวลาคือมึง..”
“ทุกเวลาพยอนแบคฮยอนมันคิดถึงแต่มึง มึงเป็นคนแรกที่มันนึกถึงตลอดเวลา.. แล้วมึงล่ะปาร์คชานยอล..”
“แม้แต่ความเชื่อใจมึงยังไม่เคย.. มึงไม่เคยมีให้มันด้วยซ้ำ..”
“มึงไม่เคยเชื่อใจมัน ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกมันเลย ทั้งๆ.. ทั้งๆที่มันเชื่อใจและไว้ใจมึงมาตลอดปาร์คชานยอล.. ฮึก..”
!!!!
35%
“เฮีย.. มารับ.. มารับหมวย ฮึก.. ที..”
“หมวยอยากกลับ.. อยากกลับ.. บ้าน.. ฮึก..”
มือเรียวข้างที่ถือโทรศัพท์ยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มอย่างน่าสงสาร คนตัวเล็กยัดเครื่องมือสื่อสารลงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยความอ่อนล้า.. เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าโทรศัพท์ที่หย่อนลงไปนั้นมันจะลงไปในกระเป๋ากางเกงหรือหล่นลงไปกองกับพื้น..
พยอนแบคฮยอนที่จิตใจกำลังเลื่อนลอยไม่ได้สนใจสิ่งรอบกายใดๆทั้งนั้น..
เรียวเท้าเล็กก้าวไปบนพื้นซีเมนต์อันเย็นเฉียบ.. ทุกย่างก้าวของคนตัวเล็กเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พยอนแบคฮยอนไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังจะเดินไปทางไหนหรือจุดหมายปลายทางของตัวเองอยู่ที่ใด..
คนตัวเล็กไม่มีจุดหมายปลายทาง รู้แค่ว่าต้องเดินออกไปให้ห่างจากผู้ชายที่ชื่อปาร์คชานยอลให้ได้มากที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บอีก รู้แค่ว่าอยากจะเดินไปเรื่อยๆแล้วปล่อยให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลลงมาอย่างไม่คิดจะห้ามเพียงเท่านั้น..
ทว่า..
เสียงและภาพเหตุการณ์บางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้เรียวเท้าของคนตัวเล็กถึงกับหยุดชะงัก ดวงตาคู่สวยที่กำลังแดงก่ำเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่สมองของเขาจะสั่งให้ร่างกายทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยผู้หญิงที่กำลังโดนพวกรุ่นพี่อันธพาลรังแกอยู่ตรงหน้า..
“ปล่อยฉันนะพี่ซึงกิ!! นี่พวกพี่จะทำอะไรฉัน!! ฉันบอกให้ปล่อยไง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!! โอ้ย!!”
“จะปล่อยได้ไงจ๊ะน้องสาว.. คิดว่าพวกพี่จะยอมมาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์อย่างนั้นหรอหืม..”
“ในเมื่อเป็นผัวพยอนแบคฮยอนไม่ได้.. พี่ก็ขอเป็นผัวน้องแทนละกันนะจ๊ะคิมซูยอน..”
!!!!
พยอนแบคฮยอนเบิกตากว้าง ก่อนจะตัดสินใจถอยหลังออกมาหลบอยู่บริเวณพุ่มไม้แถวนั้นก่อน เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยคิมซูยอนรุ่นน้องในคณะที่กำลังจะถูกพวกรุ่นพี่ที่รังแกเขาก่อนหน้านี้รังแก ก่อนที่พวกรุ่นพี่อันธพาลพวกนี้จะทำอะไรหล่อนไปมากกว่านี้..
“อ๊ะ!! ปล่อยฉันนะพี่ซึงกิ.. ปะ.. ปล่อย ฮึก.. / นี่อย่ามาทำเป็นไม่เคยหน่อยเลย.. ของก็เคยๆกันอยู่..”
“อีกอย่างเธอจะได้รู้รสชาติไง..ว่าการมีผัวพร้อมกันหลายๆคนมันเป็นยังไง..”
“อุดส่าจ้างให้พวกพี่มารุมโทรมพยอนแบคฮยอนถึงที่นี่.. ไม่อยากลองเองบ้างเหรอครับน้องสาว J ”
!!!!
พยอนแบคฮยอนที่กำลังจะตะโกนร้องเรียกให้คนมาช่วยถึงกับยืนยิ่ง.. ขาของคนตัวเล็กไม่สามารถขยับได้เพียงแค่ได้ยินประโยคบางอย่างที่ออกมาจากปากรุ่นพี่เมื่อครู่..
คิมซูยอนเป็นคนจ้างพวกรุ่นพี่ซึงกิให้มาทำร้ายเขาถึงที่นี่อย่างนั้นเหรอ.. นี่หล่อนเกลียดเขามากถึงขนาดต้องสั่งคนมาทำร้ายเขาขนาดนี้เลยหรือไงกัน.. แค่คิดหัวใจของรุ่นพี่อย่างพยอนแบคฮยอนก็รู้สึกปวดหนึบไปหมด..
เขาไม่เคยเกลียดหล่อน..
ไม่เคยโกรธหล่อนจริงๆจังๆด้วยซ้ำ..
แต่ทำไมหล่อนถึงได้เกลียดเขามากขนาดนี้..
ทำไม.. คิมซูยอนถึงได้เกลียดพยอนแบคฮยอนมากถึงเพียงนี้..
“ตะ.. ตรงนั้นครับการ์ด”
“มีคนกำลังโดนทำร้ายอยู่ตรงนั้น”
!!!!
“หนีเร็ว!! ไอ้พวกการ์ดมาแล้ว จะมัวแต่ยืนหาพระแสงอะไรวะ โถ่เว้ย!!”
อีซึงกิกับพักพวงรีบปล่อยตัวหญิงสาวลงกับพื้นแล้ววิ่งหลบหนีไปทางหลังร้านทันทีหลังได้ยินเสียงคนตะโกนและเสียงฝีเท้าหนักๆย่ำตรงมาทางพวกเขา..
พยอนแบคฮยอนถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก.. เขาไม่คิดว่าแผนการบ้าบอในครั้งนี้จะสามารถจัดการกับคนพวกนั้นได้ง่ายดายขนาดนี้..
เขาเพียงแค่ทำเป็นย่ำเท้าหนักๆกับที่และใช้โทรศัพท์ส่องไฟให้ระยิบระยับเหมือนไฟฉายของพวกการ์ดประจำผับชื่อดังแห่งนี้ก็เท่านั้น แต่มันก็สามารถทำให้รุ่นพี่พวกนั้นสติแตกและวิ่งหนีป่าราบไปได้โดยไม่คิดเอะใจ..
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม.. ทีหลังอย่ามาที่มืดๆคนเดียวแบบนี้อีกนะมันอันตราย..”
“กลับเข้าไปด้านในเถอะ.. ป่านนี้ยอล.. เอ่อ.. คือฉันหมายถึงพี่รหัสของเธอเขาคงเป็นห่วงเธอแย่แล้ว..”
คิมซูยอนเงยหน้ามองผู้มีพระคุณที่ช่วยหล่อนจากคนพวกนั้นเอาไว้.. ดวงตาสวยเคลือบอายลายเนอร์ถึงกับแน่นิ่ง.. ก่อนที่มันจะปรับเปลี่ยนเป็นความเศร้าโศกในแววตาคู่นั้น..
หญิงสาวก้มสำรวจเนื้อตัวรุ่นพี่ตัวเล็กในคณะตั้งแต่หัวจรดเท้า..
พยอนแบคฮยอนมีสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก.. ดวงตาเรียวที่เคยสดใสเวลาพบเจอบัดนี้กลับกลายเป็นสีแดงช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนที่รุ่นพี่ตัวเล็กใส่เต็มไปด้วยรอยยับยู่ยี่และมีกระดุมบางเม็ดที่ฉีกขาดคงเพราะจากการถูกกระชากก่อนหน้านี้ ลำคอระหงส์ที่เคยเป็นสีขาวราวกับน้ำนมในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยรอยแดง..
ทั้งหมดมันคือฝีมือหล่อน.. ทั้งหมดคือฝีมือของคิมซูยอน หล่อนเป็นคนจ้างให้รุ่นพี่พวกนั้นมาทำร้ายรุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้า รุ่นพี่พยอนแบคฮยอนที่หล่อนคิดแผนทำร้ายอยู่ตลอดเวลา รุ่นพี่พยอนแบคฮยอนที่คิมซูยอนเกลียดนักหนา..
คือคนๆเดียวกับคนที่ช่วยหล่อนจากผู้ชายจิตใจต่ำทรามพวกนั้น..
“พี่แบคฮยอนคะ.. คือฉัน.. ฉัน.. ฮึก..”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก ฉันได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว..”
“คะ.. แค่ฉัน.. ค.. แค่พี่.. พี่ไม่คิดว่าเธอจะเกลียดพี่ได้ถึงขนาดนี้..”
“ฉันขอโทษ.. ขอโทษ.. ขอโทษนะคะพี่แบค ฮึก..”
คิมซูยอนทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง.. หล่อนเอาแต่พูดคำว่าขอโทษและกอดขาของรุ่นพี่ตัวเล็กเอาไว้อย่างนั้น.. ทุกอย่างมันเป็นความผิดของหล่อนหล่อนรู้ดี.. และที่สำคัญ..
หล่อนก็รู้แล้วว่าการคิดร้ายกับคนอื่นผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร.. หล่อนจ้างคนพวกนั้นมาทำร้ายรุ่นพี่ สุดท้ายตัวหล่อนเองก็โดนคนพวกนั้นทำร้ายไม่ต่างกัน..
นี่สินะที่เขาเรียกว่า.. กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง..
“ปะ ป๋าย!! ซูยอน!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!”
พยอนแบคฮยอนและคิมซูยอนหันไปตามเสียงเรียก.. กลุ่มของพวกเขาทั้งหมดที่มาด้วยกันในวันนี้กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ปาร์คชานยอลที่เดินรั้งท้ายและอยู่ในสภาพไม่ต่างจากเขากำลังวิ่งตรงมาทางนี้ด้วยความรวดเร็ว..
ประจวบกับที่..
“เบบี้ลูกหมา.. กะ เกิดอะไรขึ้น!!”
“ใครหน้าไหนมันบังอาจมาทำร้ายน้องอั้วแบบนี้!!”
“ใคร.. ใครมันบังอาจมาทำร้ายหัวใจของพวกอั้วแบบนี้!!”
พยอนอึนฮยอกแจและพยอนอึนทงแฮรีบวิ่งเข้าไปโอบกอดลูกหมาตัวน้อยของพวกเขาเอาไว้อย่างหวงแหน หัวใจของพวกเขาถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก สวยตาของแฝดทั้งสองเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น..
พยอนแบคฮยอนที่พวกเขาเฝ้าฟูมฟักราวกับไข่ในหินตั้งแต่น้องลืมตาขึ้นมาดูโลก..
พวกเขาทั้งรักและหวงแหนน้องยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ความรักของคนเป็นพี่แน่นอนว่ามันย่อมยิ่งใหญ่เสมอ.. และแน่นอนว่าคนเป็นพี่ย่อมเจ็บปวดกว่าหลายร้อยหลายพันเท่าเมื่อเห็นดวงใจของพวกเขาถูกย่ำยีอย่างไม่มีชิ้นดีเช่นนี้..
“ปาร์คชานยอล!! มันเกิดอะไรขึ้นบอกพวกอั้วสิ บอกพวกอั้วสิว่าทำไมเบบี้ลูกหมาของพวกอั้วถึงเป็นแบบนี้..”
“บอกพวกอั้วสิว่าทำไมลื้อถึงไม่ดูแลเบบี้ลูกหมาของพวกอั้ว..”
“บอกสิ.. ว่าทำไมน้องของพวกอั้วถึงเป็นแบบนี้..”
พยอนอึนทงแฮกำหมัดแน่น เขาโมโหจนแทบจะหักคอคนตรงหน้าทิ้งเมื่อเห็นสภาพน้องของตัวเองเป็นแบบนี้ ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเต็มไปด้วยคำถามปรายมองรุ่นน้องข้างบ้าน..
ว่าทำไมปาร์คชานยอลถึงได้ปล่อยให้น้องของพวกเขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้..
“ฮึก.. เฮียอย่า.. อย่าว่าไอ้โย่งเลยนะ..”
“หมวยผิดเองที่ชอบไปยั่วคนอื่น..”
“หมวยผิดเองที่อ่อนแอและสู้พวกมันไม่ได้..”
“หมวยผิดเองที่ดูแลตัวเองไม่ดีและไม่ระวังตัวให้มากพอ..”
“ทุกอย่างเป็นความผิดของหมวย.. ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา”
“เพราะถ้าหมวยไม่ออกไปเข้าห้องน้ำคนเดียว.. ทุกอย่าง.. ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้ ฮึก..”
พยอนอึนฮยอกแจและพยอนอึนทงแฮกำหมัดแน่น.. ถึงพวกเขาจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น มันอาจเป็นแค่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถึงยังไงชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของน้องก็ควรปกป้องและดูแลน้องของพวกเขาให้ดีกว่านี้..
เพราะปาร์คชานยอลเองก็น่าจะรู้ว่าสถานที่สังสรรค์ยามค่ำคืนแบบนี้แน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับใครแน่ๆ โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอและด้อยประสบการณ์ทางโลกอย่างพยอนแบคฮยอน..
และปาร์คชานยอลเองก็สมควรที่จะดูแลและปกป้องน้องของพวกเขาให้ดีที่สุดในฐานะของคนรักมิใช่หรือ..
“แล้วทำไมถึงออกไปห้องน้ำคนเดียว..”
“ปาร์คชานยอลลื้อมีสิทธิ์ปล่อยให้น้องอั้วไปเข้าห้องน้ำคนเดียวในสถานที่แบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่..”
“รู้ไหมว่าการจะเข้ามาเป็นลูกเขยตระกูลพยอนได้ลื้อต้องทำอะไรบ้าง..”
“นี่ขนาดยังไม่แต่ง ขนาดยังเป็นแค่แฟนลื้อยังไม่สามารถดูแลปกป้องหัวใจของพวกอั้วได้เลย..”
“แล้วแบบนี้คิดว่าพวกอั้วจะไว้ใจ.. คิดว่าพวกอั้วจะกล้ายกหัวใจของตระกูลให้ลื้อดูแลตลอดชีวิตหรอวะ..”
ตี๋คนพี่เอ่ยออกมาอย่างใจคิด.. ถึงแม้ที่ผ่านมาพวกเขาจะดูไม่ชอบขี้หน้าและพยายามกีดกันปาร์คชานยอลให้ออกห่างเบบี้ลูกหมาของพวกเขามากแค่ไหน แต่ลึกๆแล้วมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่..
แต่คนเป็นพี่แค่อยากพิสูจน์ความอดทนของผู้ชายตรงหน้า..
ว่าจะรักและดูและน้องที่เปรียบเสมือนกล่องดวงใจต่อจากพวกเขาได้จริงหรือไม่ก็แค่นั้น..
“คือผม.. ผม..”
“ไม่มีหรอกฮะเฮีย.. รู้ไหมฮะว่าเฮียของหมวยกำลังเข้าใจผิด..”
“หมวยกับไอ้โย่งหูกางข้างบ้านเราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย..”
“ระ..เราเป็นแค่เพื่อน.. เป็นเพื่อนรักกันเหมือนสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยมีอะไรเปลี่ยน.. และ..”
“และมัน.. ก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไปต่างหากละฮะ..”
“กลับบ้านเราเถอะฮะ.. หมวยอยากกลับบ้านแล้ว..”
“ต่อไปนี้หมวยจะกลับไปอยู่กับพวกเฮีย.. กลับไปอยู่บ้าน.. ไปอยู่บ้านของเราไงฮะ.. ฮึก..”
!!!!
คนตัวเล็กคลายอ้อมกอดจากคนเป็นพี่ พยอนแบคฮยอนยิ้มทั้งน้ำตา.. ก่อนจะตัดสินใจก้าวไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลอย่างคนไร้ซึ่งชีวิตโดยไม่คิดที่จะหันหลังกลับไปอีก.. เขาไม่รู้ว่าตอนนี้บรรยากาศรอบข้างเป็นอย่างไร ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงร้องเรียกของใครบางคนที่กำลังเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดและทรมานราวกับเจ้าของเสียงกำลังจะขาดใจ..
ปาร์คชานยอลทรุดฮวบขุกเข่าลงกับพื้น.. เขาไม่มีแรงแม้แต่จะร้องเรียกคนตัวเล็กให้ดังกว่านี้.. มือใหญ่ที่พยายามจะเอื้อมคว้าไหล่เล็กกลับคว้าได้เพียงอากาศ.. แผ่นหลังบอบบางที่แสนคุ้นเคยค่อยๆห่างจากสายตาของเขาไปเรื่อยๆจนเขาไม่สามารถมองเห็นมันชัดเหมือนเดิมได้อีกต่อไป..
ภาพตรงหน้าที่เคยฉายชัด.. แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเรือนรางลงไปทุกที.. หัวใจของปาร์คชานยอลเต้นช้าลงจนมันแทบจะหยุดทำงาน.. แขนขาของเขารู้สึกชาราวกับขาดเลือดและเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยง..
หน่วยตาคมพร่าเรือนลงเรื่อยๆเนื่องจากอะไรบางอย่างที่กำลังเอ่อล้นออกมาบดบังม่านตา..
และในตอนนี้.. ผู้ชายที่ชื่อปาร์คชานยอลกำลังร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรกในชีวิต..
“ปะ.. ป๋ายได้โปรด.. ได้โปรดอย่าไป..”
“ยะ..อย่าไปนะครับคนดี.. ได้โปรดอยู่กับ.. อยู่กับคนโง่.. อึก.. คนนี้..”
“ได้โปรดอยู่กับ.. อยู่กับยอล.. อยู่กับยอลนะครับ..ที่รัก.. ฮึก..”
^^ มาแล้ว ^^
ถ้าตอนนี้มันแปล่งๆก็ขออภัยด้วยนะคะ ตอนนั่งแต่งไรท์ไม่ค่อยมีสมาธิเลย มันเป็นไรไม่รู้
ถ้าอ่านแล้วไม่อินก็ขอโทษด้วยนะเค้าพยายามแล้วจริงๆ รักคนอ่านทุกคน T___T
ต่อไปอาจจะอัพช้าหน่อยน๊า เพราะจะเริ่มทำรูปเล่มแล้ว อย่าลืมเป็นกำลังใจให้ป๋ายป๋ายกับยอลยอลของเราต่อไปจนจบด้วยน๊า เลิฟฟ
สั่งจองฟิค >>คลิก
ความคิดเห็น