LIGHT - LIGHT นิยาย LIGHT : Dek-D.com - Writer

    LIGHT

    คุณมองเห็นได้ชัดในตอนที่ลืมตาหรือหลับตา ท่ามกลางแสงสว่างที่คุณมองเห็นทุกเส้นทาง คุณเคยรู้สึกไหมว่ามันมืดมิด

    ผู้เข้าชมรวม

    145

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    145

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ส.ค. 61 / 05:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    LIGHT

    มีคนบอกผมว่าคนตาบอดมีสัมผัสอื่นที่ดีกว่ามาทดแทนประสาทตาที่เสียไป ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าคนตาบอดมีประสาทสัมผัสอื่นดีกว่า ผมไม่รู้ว่าพวกเขาสามารถอยู่ได้ในความมืดหรือชินกับความมืดกันแน่

    แต่ทุกครั้งที่ผมนึกถึงคนตาบอด ผมจะนึกถึงเสียงที่พวกเขาได้ยิน พวกเขาจะรู้สึกว่าอยู่ท่ามกลางความสับสนหรือรู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังกันแน่นะ

    เสียงพูดคุย เสียงรถยนตร์ เสียงฝีเท้าที่ก้าวผ่านไป แต่ละเสียงอาจประสานกันกลายเป็นดนตรีที่ลงตัวสำหรับพวกเขา แต่สำหรับผมมันเป็นเสียงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตยังดำเนินต่อไป ผมเดินผ่านวณิพกชายหญิงสองคนที่นั่งร้องเพลงอยู่ริมถนน สุ้มเสียงที่ร่ำร้องออกมาจากส่วนลึกในจิตใจของพวกเขาจะเข้าถึงผู้คนที่เดินขวักไขว่เหมือนที่เขาได้ยินเสียงคนเหล่านั้นบ้างไหม ในความอึกทึกวุ่นวายของเมืองใหญ่ จะมีสักกี่คนที่ได้ยินเสียงของคนที่อยู่ในโลกอันมืดมิด

    บนโต๊ะเต็มไปด้วยเอกสารและงานที่รอการสะสาง เจ้านายเรียกผมเข้าพบเพื่อชี้แจงรายละเอียดต่างๆ และลำดับของงานที่เขาต้องการเร่งด่วน ผมจัดแจงปัญหาเหล่านั้นไปทีละอย่าง รอบตัวผมทุกคนกำลังทำงานกันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย มีโทรศัพท์ในสำนักงานดังไม่ขาดสาย พนักงานพูดคุยหยอกล้อกันเพื่อคลายความเครียดในการทำงาน และเพลงเบาๆ ที่เปิดคลออยู่เป็นบรรยากาศโดยรอบ แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าเสียงเหล่านั้นมีความหมายอะไรเลยจนกระทั่งจัดการงานทั้งหมดเสร็จสิ้น

    พรรคพวกชวนผมไปดื่มต่อหลังเลิกงาน ปกติผมไม่ค่อยไปดื่มกลางสัปดาห์แบบนี้เท่าไหร่ถ้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงาน แต่วันนี้นึกครึ้มๆ ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยผมก็ยังไม่ต้องกลับไปอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ ผมไปผับที่เราไปกันเป็นประจำ

    เราพูดคุยกันอย่างออกรส สนุกสนานกันจนลืมความเหนื่อยล้าและความเครียดจากงานที่ทำมาทั้งวัน ปริมาณแอลกอฮอลที่เพิ่มขึ้นในเลือดค่อยๆ ดูดซับน้ำในสมอง มันทำให้สัมปชัญญะของผมค่อยๆ ลดลงไปพร้อมกัน ดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่ในผับกับสภาพแวดล้อมที่เย้ายวนยั่วใจโดยรอบ ดูจะมีสีสันและน่าเพลิดเพลินกว่าเวลาที่ผมเดินผ่านผับแห่งนี้ในวันธรรมดา

    สายตาอันพร่ามัวของผมจับจ้องอยู่ที่น้องคนหนึ่งซึ่งเราส่งสายตาให้กันมาตลอดทั้งคืน ในความสับสนวุ่นวายของผู้คนที่เบียดเสียดและส่งเสียงเฮฮาท่ามกลางดนตรีกึกก้อง ทุกจังหวะของมันประสานเป็นหนึ่งเดียวกับการเต้นของหัวใจ ผมลุกขึ้นในขณะที่ส่งสายตาประสานเป็นหนึ่งเดียวกับน้องคนนั้น ในขณะที่สติของผมกำลังลดลง ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งอื่นเข้ามาทดแทนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ควบคุมผมเอาไว้ ผมรู้สึกเหมือนกับร่างกายเบาหวิว แสงสีที่สาดส่องไปมาราวกับไฟลุกโชนเช่นเดียวกับความลิงโลดในใจของผม

    ทันทีที่เราถูกผู้คนเบียดให้ต้องมายืนชิดติดกัน ผมยิ้มให้พร้อมกับยกแก้วขึ้นเชื้อชวนให้ดื่มด้วยกัน เหล้าเย็นเฉียบที่ไหลลงคอกลับเพิ่มดีกรีร้อนรุ่มให้ผมเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทาง ผมปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งสู่ความรื่นรมย์ เราเต้นรำกัน สายตาที่เราต่างมองกันนั้นมันบอกว่าเราทั้งคู่ต่างต้องการอะไร ในชั่วขณะหนึ่งผมรู้สึกว่าเราอยู่เพียงลำพังด้วยกันสองคนในที่ซึ่งแออัดนั้น ผมมองไม่เห็นอะไรอย่างอื่นนอกจากความปรารถนาที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาทำให้ผมรุกเข้าหาเป้าหมาย 
    สุดท้าย ผมก็ได้ในสิ่งที่ผมต้องการ

    ผมถอดเสื้อผ้า โยนกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือบนหัวนอนก่อนจะทิ้งตัวลงบนฟูกนุ่ม ความคิดของผมว่างเปล่า สิ่งเดียวที่ผมต้องการตอนนี้คือการพักผ่อน น่าแปลกที่ไฟสีส้มบนเพดานสาดแสงแยงเข้าตาให้ผมรู้สึกรำคาญ ทั้งๆ ที่ไฟหลากสีฉวัดเฉวียนในผับก่อนหน้านี้น่าเวียนหัวมากกว่า ผมปิดไฟในห้อง ความมืดเข้ามาแทนที่ แต่ความคิดของผมกลับชัดเจนขึ้นมา ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นอะไรเลย แต่ความต้องการของผมมันเด่นชัดขึ้น ทั้งๆที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ผมกลับได้ยินเสียงร่ำร้องในใจดังก้องอยู่ท่ามกลางความมืดสงัด ทั้งๆที่ผมลืมตาอยู่ แต่ผมมองไม่เห็นอะไรเลย

    ผมนึกถึงวณิพกตาบอดสองคนที่ร้องเพลงอยู่ริมถนน แสงสว่างในยามกลางวันและแสงจันทร์ในยามกลางคืนอาจไม่มีผลอะไรกับพวกเขาเท่ากับเสียงอึกทึกและความเงียบสงัด บางทีการที่พวกเขารู้ว่าต่างมีกันและกันอาจทำให้พวกเขาไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวแม้จะมองไม่เห็นใครอื่น บางทีเสียงฝีเท้า เสียงผู้คน เสียงการจราจรอาจไม่ส่งผลต่อความรู้สึกของพวกเขาเท่ากับเสียงเหรียญที่ตกกระทบลงในกระป๋องสังกะสี แต่ละครั้งที่มันดังแลกกับหยาดเหงื่อและความหวังของพวกเขา มันอาจมีค่าราวกับแสงสว่างที่สาดส่องในใจให้พวกเขาลุกขึ้นในวันใหม่แม้จะมองไม่เห็นอะไรก็ตามที

    มันคงจะดี ถ้าวันพรุ่งนี้จะมีแสงสว่างที่สาดส่องนำทางให้ผมก้าวไปอย่างมีความหวัง โดยไม่ต้องพึ่งแสงสีที่สาดฉายในยามค่ำคืนอย่างที่แล้วๆ มา
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×