ตอนที่ 4 : บุพเพสันนิวาส ตอนที่4 คนเพิ่งสวย...เครียด!
บุพเพสันนิวาส ตอนที่4 คนเพิ่งสวย...เครียด!
เสียงท้องร้องของเกศสุรางค์ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปในพริบตา สองบ่าวปิดปากหัวเราะก่อนจะกล่าวอาสา
บ่าวจักลงไปเอาสำรับมาให้แม่นายท่านนะเจ้าคะ
อ้าว ที่นี่เขาไม่กินพร้อมกันหรือคลับคล้ายคลับคลาว่าคนไทยสมัยไหนๆก็ล้วนแต่รอรับประทานข้าวพร้อมกันทั้งนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม
เอ่อ...นางผินมองตาที่สงสัยใคร่รู้ของนายด้วยความงุนงงไปพักใหญ่ ก่อนจะแสดงท่าทีอึดอัดขึ้นมาทันที
สามสี่วันมานี่ แม่นายท่านรับสำรับในห้องเจ้าค่ะ
อ๋อเพราะไม่สบาย แต่ตอนนี้สบายแล้วนี่นา ไว้รอกินพร้อมหน้าพร้อมตากันก็ได้
จักไม่ใคร่ดีเท่าใดสิเจ้าคะ ท่าทีพิลึกของบ่าวทั้งสองทำให้เกศสุรางค์เริ่มรำคาญ
ขอร้องล่ะ อย่าอึกอักได้ไหม เห็นแล้วพลอยอึดอัดไปด้วย มีอะไรก็พูดมาเลย เพราะข้าจำไม่ได้หรอกนะถ้าพี่ผินหรือพี่แย้มไม่บอก
เป็นเพราะ...อีแดงตายอย่างไรเจ้าคะ
ใครอีกล่ะอีแดง
บ่าวของแม่หญิงจันทร์วาด ลูกสาวเจ้าพระยาโกษาธิบดีอย่างไรเจ้าคะนางแย้มรีบบอกด้วยเห็นท่าทีอึกอักของบ่าวร่วมนายเช่นนางผิน ส่วนนางผินที่ทุกข์หนักจากสิ่งที่เคยกระทำลงไปถึงกับน้ำตาตก
พี่ผินร้องไห้ทำไม นี่มันเกิดอะไรขึ้น ช่วยบอกให้ชัดๆหน่อยได้ไหมอีแดงตายแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า สองบ่าวตาเบิกโพล่งเหลือกลาญก่อนจะพากันหมอบตัวสั่นเป็นลูกนกด้วยคำที่นายเคยย้ำขู่ว่าไม่ให้กล่าวถึงเรื่องนี้ยังคงก้องอยู่ในหู
มิมีอันใดเจ้าค่ะ มิมีอันใด
อ้าวเป็นอะไรไปทั้งสองคนเลย เฮ้อ...แล้วนี่จะรู้เรื่องกันไหมเนี่ย เกศสุรางค์ส่ายหน้าอย่างสุดเซ็งก่อนจะลุกขึ้นจับผ้านุ่งผ้าห่ม โดยมีนางผินและนางแย้มรีบถลามาช่วยจัดแจงให้เรียบร้อย ชะรอยกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จะโชยเกินพอดีนางผินเบือนหน้าพลางเสนอแนะ
อาบน้ำก่อนดีไหมเจ้าคะ
ก็ดีนะ อาบน้ำกินข้าว หิวมากขอบอกร่างบอบบางเดินนำหน้าก่อนจะเบรกดังเอี๊ยดเมื่อเห็นว่านางผินกับนางแย้มกำลังตระเตรียมเสื้อผ้ากองใหญ่
โอ้โห เอาไปทั้งหมดนี้เลยเนี่ยนะ
ผืนนี้ไว้ผลัดเจ้าค่ะ ผืนนี้ไว้ห่ม ผืนนี้ไว้อาบนางผินจัดแจงกองผ้าวางซ้อนแล้วเดินออกจากห้องไป ส่วนนางแย้มนำสไบและผ้าพิมพ์ลายสีเข้มออกมาวางไว้บนเตียงก่อนจะคว้ากล่องไม้ที่ใส่ผอบหลายใบอยู่ด้านใน
นั่นอะไรน่ะ
ขมิ้น ไพลสด มะขามเปียกเจ้าค่ะ ส่วนอันนี้แม่ขันเอาไว้ผสมเครื่องอาบเจ้าค่ะ เกศสุรางค์เริ่มเห็นลางความยุ่งยากประการแรกที่ต้องพบเจอเข้าแล้ว เพียงครู่นางผินก็เดินเข้ามาพร้อมชามดินเผาบรรจุมะกรูดลนไฟที่ฝานมาเสร็จสรรพ เกศสุรางค์ยืนอึ้งอยู่พักใหญ่กับการตระเตรียมที่ยุ่งยากอลังการตรงหน้า เมื่อนางผินกางผ้าให้ทำท่าจะช่วยถอดเครื่องนุ่งห่มให้เธอถึงกับร้องลั่น
เฮ้ยไม่ต้องปลด ข้าปลดเองได้ เอ่อ เอางี้ดีไหมออกไปรอข้างนอกก่อนเดี๋ยวข้าผลัดผ้าเอง แม้นางผินและนางแย้มจะงุนงงอยู่บ้างหากแต่ก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี หลังจากผลัดผ้าเสร็จเกศสุรางค์จึงเดินกระมิดกระเมี้ยนออกมา ความรู้สึกหวั่นใจเกาะกุมอยู่นิดๆ ตั้งแต่เกิดมาเคยแต่แก้ผ้าอาบน้ำในห้องน้ำแต่วันนี้คงต้องหัดกระโจมอกให้ดี เธอใช้วิธีปลิ้นทบชายด้านบนให้กระชับหลายชั้นเพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดเวลาใด
ว่าแต่ที่อาบน้ำแต่ไปทางไหนหรือพี่
เดินไปทางด้านหลังเจ้าค่ะ แล้วจักเห็นลำคลองอยู่ไม่ไกลดอกเจ้าค่ะนางผินชี้ทางให้ก่อนจะยืนคอยให้เกศสุรางค์เดินนำหน้าออกไป หญิงสาวขอผ้าสำหรับห่มมาคลุมไหล่ก่อนจะเดินอย่างไม่ใคร่แน่ใจนัก แต่ในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จ เมื่อลงบันไดก็มองเห็นท่าน้ำอยู่ไม่ไกลจริงดังที่นางผินบอก ริมฝั่งน้ำมีเด็กและผู้ใหญ่อาบบ้างก็ขัดถูถ้วยชามและซักผ้า
มิใช่เจ้าค่ะ ทางนั้นเป็นที่ของพวกบ่าวพวกทาส ต้องไปท่านี้เจ้าค่ะท่านี้จึงเป็นท่าของนาย
โอ้ว มีแยกท่ากันด้วย
แยกหลายท่าเจ้าค่ะ มีท่าระวางเรืออยู่ด้านหน้าเรือนด้วยเจ้าค่ะ นางแย้มคล้ายจะปลงตกแล้วว่าต้องอธิบายทุกสิ่งที่เจ้านายลืมไปให้หมดสิ้นจึงแจกแจงให้ฟังทีละน้อย
ขมิ้น ดินสอพอง ผสมน้ำมะขามเปียก ไว้ล้างหน้าเจ้าค่ะ มะขามเปียก ไพลผสมกับขมิ้นไว้ขัดตัว มะกรูดไว้ล้างผม แม่นายท่านมิได้ลงมาท่าหลายวันล่วงมาแล้ว ผมเผ้าจึงเหนียวแลมีกลิ่นเยี่ยงนี้ เกศสุรางค์จัดแจงนั่งพร้อมทำท่าจะลงคลองไอ้ครั้นจะพุ่งหลาวลงไปเลยเหมือนที่เคยพุ่งลงสระว่ายน้ำในยุคของเธอก็เกรงว่าจะเอิกเกริกไปสักนิด ยิ่งถ้าผ้านุ่งที่กระโจมอกหลุดตามแรงเสียดสีของน้ำ...แทบไม่อยากจะคิด
ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ บ่าวอาบให้ก่อน
หา แต่ข้าโตแล้วนะอาบเองได้
มิได้เจ้าค่ะ มาเถิดหนาอาบเองจักไม่สะอาดบ่าวสองคนจัดแจงรั้งเธอไว้ก่อนจะเอาขันที่ทำด้วยเงินมาตักน้ำรดตัวของเธอโดยเกศสุรางทำได้เพียงทำตาปริบๆ สักพักมะขามเปียกที่ผสมขมิ้นไพลและดินสอพองถูกนำมาล้างหน้าขัดคอบ่าไหล่ด้วยรังบวบอันใหญ่เป้ง
แล้วลงคลองได้ไหม ในคลองมีจระเข้ไหม ปลิงล่ะนางผินและนางแย้มหัวเราะคิกเมื่อได้ยินเสียงถามรวดเดียวนั้น
มิมีจระเข้ดอกเจ้าค่ะ น้ำคลองเป็นน้ำไหลมิใช่บึงนิ่งมิมีปลิงดอกเจ้าค่ะ หากแม่นายท่านจักลงไปอาบเล่นก็ได้เจ้าค่ะแต่รอให้ขัดตัวให้เสร็จก่อนนะเจ้าคะ ถึงว่ามันจะสะอาดไปได้อย่างไร ถึงยังไงเธอก็ต้องขัดข้างในเองอยู่ดีที่แท้ต้องลงไปอาบทั้งตัวในขั้นตอนสุดท้ายนี่เอง เกศสุรางค์มองรอบกายด้วยความสนใจ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มมองไปทางใดก็เขียวสดใสสบายตา น้ำในลำคลองใสไหลเรื่อยลมเย็นพัดพากลิ่นดอกไม้หอมระรื่นชื่นโชยทำให้จิตใจที่วุ่นวายผ่อนคลายลงชั่วครู่
อาบอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เพลินดี แต่ถ้าให้ดีต้องมีฝากั้นจะได้อาบน้ำสะดวกๆ อย่างนี้ใครพายเรือผ่านไปผ่านมาก็เห็นกันหมดพอดี
มีเจ้าค่ะ ผู้ชายห่าม มาแอบดูผู้หญิงอาบน้ำ
เหรอ แล้วเคยมีใครมาแอบดูข้าหรือพี่ๆบ้างไหมล่ะเกศสุรางค์ยิ้มซุกซนถามหยอกพี่เลี้ยง
วุ้ย มิมีผู้ใดกล้าดอกเจ้าค่ะ มิว่าผู้ใดก็รู้ว่าเรือนนี้เป็นเรือนผู้ใด ออกญาโหราธิบดีเป็นถึงพระยาราชครูของพระเจ้าอยู่หัว แม่นายท่านเป็นลูกท่านหลานเธอมิว่าผู้ใดก็ต้องเกรงเจ้าค่ะส่วนบ่าวก็ต้องไปอาบท่าโน้น ก็...มีบ้างเจ้าค่ะ ท่าทีเอียงอายยิ้มจนเห็นฟันดำนั้นน่าขันจนเธอต้องหัวเราะลั่นออกมา สองพี่เลี้ยงฟังก็ให้ตกใจอย่างหนักทำกิริยาเลิกลั่กมองซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นผู้ใดก็ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก
มิบังควรหัวร่อดังปานนี้นะเจ้าคะ ผู้อื่นจักก่นว่าเอาได้ว่าหัวร่อดั่งม้าล่อ
อ้าวซะงั้น จะพยายามเก็บเสียงก็แล้วกันนะ เอ๊ะ อย่างนี้ออกญาโหราธิบดี ผู้หญิงที่ดุๆนั่นกับหมื่นสุนทรเทวาก็ต้องมาอาบท่านี้เหมือนกันใช่ไหม
ควรเพรียกออกญาท่านว่าคุณลุงเจ้าค่ะ ออกญาเป็นคำเรียกพระยาที่อาวุโสใกล้ได้เป็นเจ้าพระยา หากเป็นคุณพระฤๅท่านหมื่น ก็จักเพรียกว่าออกพระ ออกหมื่น ส่วนแม่นายจำปาต้องเพรียกว่าคุณป้า แล้วท่านหมื่นก็จักต้องเพรียกว่า คุณพี่เจ้าค่ะ แลหากท่านเห็นว่าแม่นายท่านอาบอยู่ ท่านก็จะเคร่าก่อนเจ้าค่ะมิมาอาบด้วยเพราะ..เกรงว่าจักเป็นที่ครหาได้เจ้าค่ะเกศสุรางค์นั่งฟังอย่างตั้งใจแล้วก็ให้สะดุดบางคำที่เดาความหมายได้ยาก
เคร่า?
รอท่าไว้มิมาก่อนเพลาอันควรเจ้าค่ะนางแย้มอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีทีท่าไม่เข้าใจ
อ้อ คำโบราณนี่ยากเหมือนกันนะ ถ้ามีอะไรที่ข้าต้องรู้อีก พี่ทั้งสองก็ช่วยบอกข้าด้วยก็แล้วกัน เพราะข้าลืมไปจนหมดแล้วจริงๆ
เอ่อ แม่นายท่านเจ้าขา หากผู้ใหญ่มิได้กล่าววาจาด้วย ก็มิบังควรถามไถ่ฤๅเอ่ยปากก่อนหนาเจ้าคะนางผินเตือนด้วยน้ำเสียงที่กริ่งเกรง
แล้วถ้าสงสัยมากๆๆอยากถามล่ะ
ก็ต้องขออภัยก่อนเจ้าค่ะ กล่าวเยี่ยงนี้นะเจ้าคะ ขออภัยด้วยเถิดหนา ฤๅ ขออภัยด้วยเถิดเจ้าค่ะ ข้าใคร่ถาม จึงรอให้ผู้ใหญ่ท่านอนุญาตแล้วจักถามได้เจ้าค่ะ
โห น่าอึดอัดนะเนี่ย เอาเป็นว่าถ้าไม่จำเป็นจะไม่พูดเลยดีกว่าไหมมีอะไรสงสัยก็ค่อยมาถามพี่ผินกับพี่แย้มก็แล้วกันเนาะ สองบ่าวก้มหน้าหัวเราะเบาๆอีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่นางทั้งสองรู้สึกชื่นใจสบายใจที่ได้รับใช้ใกล้ชิดนายผู้นี้ ท่าทีคล้ายเด็กหญิงที่ไม่รู้ความและไม่เจ้ายศเจ้าอย่างเช่นดั่งเคยชวนให้เอื้อเอ็นดูเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า
หลังจากล้างผมล้างตัวจนสะอาดเกศสุรางค์ก็ต้องใจหายใจคว่ำกับการผลัดผ้าอีกครั้งทว่าก็เป็นไปอย่างคล่องขึ้น อย่างน้อยก็ไม่หลุดลุ่ยให้อายสองพี่เลี้ยง ผมยาวดำหอมมะกรูดจางๆพาให้สดชื่นยิ่งกว่าเดิม แม้โดนเข้าครั้งแรกจะทั้งแสบทั้งคัน เนื้อตัวที่ถูกขัดครั้งแรกนั้นก็เช่นกันหากเมื่อได้ลงน้ำอาการคันอาการแสบก็หายไปจนหมดสิ้น
ทั้งหมดพากันเดินขึ้นเรือน นางแย้มตักน้ำในโอ่งเล็กริมบันไดเรือนมารดล้างเท้าให้แม่นายของตน ส่วนนางผินน้ำผ้าไปซักตาก ปล่อยให้เกศสุรางค์เดินขึ้นเรือนไปกับนางแย้มเพียงสองคน
นางแย้มจัดแจงยกเครื่องประทินมาชโลมทาผิวลออนั้นอย่างเบามือ ทั้งน้ำอบน้ำปรุงและแป้งร่ำผงกฤษณาถูกทาอย่างกระหน่ำในความรู้สึกของเกศสุรางค์ นางแย้มนำพัดใบตาลมาพัดวีจนแห้งแล้วจึงทำท่าจะทาซ้ำอีกรอบ
เย้ย พี่แย้มรอบเดียวก็พอแล้ว
มิได้ดอกเจ้าค่ะ จักมิหอมติดเนื้อติดตัว
ไม่ต้องให้หอมนักก็ได้ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่กับ...เรือนไม่ใช่หรือ
ท่านหมื่นอยู่ด้วยหนาเจ้าคะท่าทีพูดที่อ้อมแอ้มทำให้เกศสุรางค์นึกรู้
เป็นคู่หมั้นกันแล้ว ยังต้องให้ท่าอีกเหรอ เพียงได้ยินนางแย้มถึงกับตบอกตัวเองด้วยความตกใจ
กล่าวเยี่ยงนั้นได้กระไรเจ้าคะ อีกทั้งท่านหมื่นเป็นแค่คู่หมายเจ้าค่ะ มิได้หมั้นฤๅตกลงความกันเป็นมั่นเหมาะ แลนี่ก็ครบขวบปีแล้วที่แม่นายท่านมาอยู่เรือนนี้ ยังมิมีผู้ใดกล่าวถึงเรื่องนี้เลยเจ้าค่ะ ได้ยินเช่นนั้นเธอก็พอรู้แล้วว่างานนี้มีเหนื่อย
อ้าว เอ้างั้นก็ประโคมเข้ามาน้ำหงน้ำหอม อย่างน้อยหากการะเกดยังไม่ได้ตายและสามารถกลับมาร่างนี้ได้เธอจะได้ไม่ต้องตกเป็นจำเลยว่าไม่ทำตามอุดมการณ์เดิมของเจ้าของร่าง คราวนี้เจ้าตัวเลยกางแขนกางขาให้นางแย้มได้ทาถูๆกันอย่างเต็มที่
ครบสามครั้งสามคราถึงได้ฤกษ์แต่งองค์ทรงเครื่อง คราวนี้เกศสุรางค์ขอแต่งเอง หากหลังจากพยายามแต่งเนื้อแต่งตัวเองอยู่พักใหญ่ก็ต้องยอมแพ้ให้นางแย้มมาช่วย
เวรเอ๊ย เสื้อผ้าสมัยนี้ใส่ยากใส่เย็นจริงๆเสียงบ่นพึมพำนั้นเริ่มเป็นที่เคยชินต่อผู้ฟัง นางแย้มจับจีบผ้าให้อย่างคล่องแคล่วในขณะที่เกศสุรางค์กุมชายพกไว้อย่างมั่นมือ
มีเสื้อไหมพี่แย้ม
มีเสื้อเครื่องเจ้าคะ แต่เอามาทำไมเจ้าคะหนาวฤๅเจ้าคะ นางผินที่ซักผ้าตากเสร็จสรรพเดินเข้ามาในห้องก็เดินเข้ามาช่วยอย่างรู้งานพร้อมออกปากถามเมื่อได้ยิน
ก็ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่หรอก แต่ถ้ามีก็ขอหน่อยสิพี่ผิน ข้ากลัวผ้าหลุด ผ้าแถบเนี่ยนุ่งลำบากจะตายไปเกศสุรางค์ก้มมองผ้าแถมที่แม้จับมาพันๆตัวอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับเธอได้เลย
ตวัดห่มเป็นสไบก็ได้เจ้าค่ะแล้วเหน็บเก็บ จักได้มิรุ่มร่ามหลุดออก สองพี่เลี้ยงลอบถอนหายใจขณะที่ช่วยห่มผ้าให้ผู้เป็นนาย หายเจ็บหายไข้ครานี้แม่นายของตนลืมเลือนแม้กระทั่งวิธีนุ่งผ้านี่คงเป็นเพราะฤทธิ์มนตร์กฤษณะกาลีโดยแท้
แล้วนุ่งโจงกระเบนอย่างพวกพี่ไม่ได้เหรอ
มิได้เจ้าค่ะ เป็นแม่หญิงยังมิได้ออกเรือน อีกทั้งเป็นถึงลูกหลานพระน้ำพระยาควรแต่งกายให้เหมาะสมเจ้าค่ะ
เฮ้อ...มันโล่งโจ้ง เข้าใจป่ะพี่ว่ามันโล่ง กางเกงในก็ไม่มี เกศสุรางค์รู้สึกเหนียมๆชอบกลเมื่อก้าวเท้าแล้วผ้าจีบหน้านางนี้พะเยิบพะยาบให้ลมโกรกด้านในได้
กางเกงในคือสิ่งใดเจ้าคะ คำแปลกหูทำให้นางผินต้องเอ่ยปากถาม ฝ่ายเกศสุรางค์ได้ฟังคำถามแล้วก็ให้ถอนหายใจอีกหลายเฮือก แต่แล้วแววตาสุกใสนั้นก็เปล่งประกายขึ้นมา
พี่มีผ้าหรือเปล่า ผ้าที่ยังไม่ได้ใช้ หรือว่าใช้จนนุ่มแล้วก็ได้ ที่พอจะเอามาตัดได้น่ะ ถ้ามีก็ขอกรรไกร กับเข็มแล้วก็ด้ายด้วยนะ สงสัยว่าเธอจะต้องตัดเย็บเองเสียแล้ว ยางยืดสมัยนี้คงไม่มีใช้เป็นไส้ไก่รูดเอาก็แล้วกันอย่างน้อยก็คงพอแก้ขัดได้
ผ้ามีเข็มกับด้ายก็มีเจ้าคะ แต่กรรไกร...ใช่กรรไตร ฤๅไม่เจ้าคะ นางผินทวนคำของเกศสุรางค์ด้วยไม่แน่ใจนัก หญิงสาวส่งยิ้มแหยๆพร้อมพยักหน้าให้ กรรไตรก็กรรไตร คำโบราณแต่ละคำสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเธอเป็นที่สุด หากเธอปรับตัวไม่ได้โดยเร็วไม่เธอก็คงเป็นสองพี่เลี้ยงที่จะต้องโดนโรคประสาทเล่นงานเอาแน่ๆ
แต่เอาไว้ก่อนก็ได้ กลับจากกินข้าวแล้วค่อยว่ากันท้องที่ร้องจ๊อกๆทำให้ล้มเลิกความคิดที่จะหากางเกงในใส่ชั่วคราว ผมยาวเริ่มแห้งหมาด นางผินจูงมือแม่นายของตนมานั่งหน้ากระจกทองเหลืองก่อนจะยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือมาจับผมและหวีให้อย่างเบามือ
ทำไมต้องไหว้ด้วยล่ะจ๊ะพี่ผิน
หัวเป็นของสูงเจ้าค่ะ หากมิมีเหตุบังควรก็มิควรแตะต้อง
อ้อ ผอบน้ำมันจันทน์ถูกเอามาวางไว้ตรงหน้า ก่อนจะนำน้ำมันมาลูบบางๆจัดปีกผมแบ่งอย่างคล่องมือ
ไม่เอาทรงนี้ได้ไหมพี่ผิน คนเรื่องมากเริ่มมากเรื่อง
กระไรเจ้าคะ
เกศสุรางค์แย่งเอาหวีเสนียดมาแบ่งผมให้แสกข้างแล้วหวีปรกซ้ายขวาโดยพยายามให้เรียบแปล้มากที่สุด ทำให้วงหน้าที่สะท้อนกระจกค่อยดูคล้ายคนสมัยเธอมากขึ้นอีกนิด
พอแล้วทรงนี้ล่ะ ไปกินข้าวกัน ร่างบางลุกผลุงขึ้นอย่างคล่องแคล่วก่อนจะเปิดม่านกั้นเดินหนีเสียงบ่นงึมงัมของพี่เลี้ยงทั้งสองที่ไม่ถูกใจกับทรงผมทรงใหม่ที่ไม่อินเทรนด์สำหรับสมัยนี้
เมื่อเดินออกมาถึงกลางลานใหญ่เกศสุรางค์ก็มองเห็นบ่าวไพร่พากันชักแถวกันเข้ามาพร้อมสำรับในมือคนละถาดแทบทุกคนเหลือบมองเกศสุรางค์ก่อนจะพากันหลบตาด้วยท่าทีสงสัยระคนกริ่งเกรง
วันนี้ออกมารับข้าวได้แล้วฤๅเสียงถามเรียบเฉยของสตรีสูงวัยที่ยืนควบคุมบริวารอยู่นั้นได้รับคำตอบรับเพียงสั้นๆเพราะเกศสุรางค์ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะพูดให้น้อยพร้อมกับฟังให้มากที่สุดเพื่อรับกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น กลิ่นน้ำอบฟุ้งตลบของคุณหญิงจำปาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ผิดพวกพ้องนัก หากภาพที่ไม่คาดคิดว่าจะเห็นคือออกญาโหราธิบดีกับหมื่นสุนทรเทวาที่เปลือยอกประแป้งที่อกลายพร้อยเช่นกัน ออกญาโหราธิบดีนั้นไม่เท่าไหร่แต่หมื่นสุนทรเทวา...เกศสุรางค์ถึงกับครางในใจ ล่ำสุดยอดดด พร้อมกับนึกเสียดายที่หน้าตาคมสันนั้นบึ้งไปสักนิดและทรงผมก็ดูเชยไปสักหน่อย
ทั้งสองคนนั่งบนเสื่อกกที่ถูกปูลาดกลางศาลาใหญ่ ตามมาด้วยพานหลายขนาดที่ใส่กับข้าวผักปลา เกศสุรางค์ทรุดตัวลงนั่งเลียนแบบคุณหญิงจำปาอย่างเก้ๆกังๆ ตั้งแต่เกิดมาเธอเพิ่งเคยนั่งพับเพียบรับประทานข้าวก็คราวนี้เอง ข้างกายของแต่ละคนจะมีชามดินเผาเล็กๆที่บรรจุน้ำและมีเปลือกมะนาวลอยอยู่ชิ้นสองชิ้น เว้นเพียงเกศสุรางค์
อีจวงไปเอาชามล้างมือมาให้แม่หญิงการะเกดสิ
เจ้าค่ะแม่นายท่าน หนึ่งในบ่าวที่นั่งรอท่ารับใช้อยู่สี่ห้าคนคลานปราดออกไปก่อนจะกลับมาพร้อมชามดินเผาที่บรรจุน้ำและเปลือกมะนาว
มิรู้ว่าออเจ้าจักออกมารับข้าวด้วยเลยมิได้เตรียมไว้
สบายดีแล้วฤๅหลาน ถ้อยคำที่พระยาโหราบดีถามไถ่นั้นมีสำเนียงของความไม่แน่ใจอยู่ลึกๆพร้อมกันนั้นท่านก็ได้สังเกตรูปลักษณ์ของหลานท่านอย่างถี่ถ้วน
เจ้าค่ะเกศสุรางค์จ้องเป๋งไปที่คนถามจนฝ่ายนั้นอึ้งไปชั่วครู่ เมื่อมองเห็นสีหน้าสดใสและแววตาเป็นประกายของหลานท่านที่ไม่มีวี่แววของความวิปลาสหรือการเจ็บไข้ใดๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความโล่งใจ
ดี..ดีจริงๆ กินข้าวกันเถิดหนา เกศสุรางค์เริ่มเล็งกับข้าวในพานไม้ ก็มองเห็นว่าถ้วยชามทั้งหมดที่วางอยู่บนพานไม้นั้นเป็นจานและถ้วยกระเบื้องเนื้อละเอียดซึ่งน่าจะมาจากเมืองจีน ล้วนบรรจุอาหารอยู่เต็มปริ่มหากถ้วยชามพวกนี้ไปอยู่ในสมัยเธอมิแคล้วต้องไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์เป็นแม่นมั่น
ถ้วยหนึ่งนั้นน่าจะเป็นน้ำพริกเพราะมีจานผักจิ้มเป็นผักสดและผักลวกผสมกันวางอยู่ข้างๆ อีกจานจึงเป็นปลาลักษณะเป็นปลาแดดเดียวปิ้ง อีกสองชามเป็นอาหารประเภทยำ มีน้ำพริกและยำเท่านั้นที่มีช้อนกระเบื้องเข้าชุดกับจานชามวางไว้ให้ตักใส่ชามข้าวของตัวเองได้และแน่นอนว่าทุกคนต่างเปิบข้าวกันด้วยมือ
ชามดินเผาที่มีประจำตัวแต่ละคนเอาไว้จุ่มเพียงข้อนิ้วเพื่อไม่ให้ข้าวติดมือเท่านั้น และคงเอาไว้ล้างมือยามรับประทานข้าวเสร็จด้วย อาหารรสชาติอร่อยถูกปากแต่กว่าจะเปิบข้าวเข้าปากตามที่ใจต้องการได้ ก็เมื่อได้สังเกตดูคุณหญิงจำปาอย่างละเอียดจึงเห็นทริคในการเปิบ
นิ้วสี่นิ้วที่ใช้ปั้นข้าวเป็นก้อนพร้อมใช้นิ้วโป้งดันข้าวเข้าปากทำให้การกินเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้นจนอดไม่ได้ที่จะปลื้มใจในตัวเองที่การกินข้าวด้วยมือครั้งแรกในชีวิตนั้นไม่อเนจอนาถนัก ข้าวสุกของที่นี่เป็นสีคล้ำซึ่งคงเกิดจากการตำข้าวด้วยครกไม่ได้ใช้เครื่องจักรสีข้าวอย่างยุคของเธอ อีกทั้งมีความเหนียวนุ่มมากกว่าปกติแสดงถึงความเป็นข้าวใหม่ที่ยังมียางข้าวเยอะทำให้สามารถเกาะกลุ่มเข้าปากได้อย่างไม่ร่วงหล่น
รับข้าวได้มากเห็นทีออเจ้าจักหายดีแล้วจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเงยหน้ามองก็รู้ว่าผู้ที่พูดเป็นออกญาโหราธิบดี เมื่อเธอเหลือบไปมองหมื่นสุนทรเทวาก็พบว่าฝ่ายนั้นจ้องมองมาด้วยสายตาที่มีความสงสัยและขุ่นเคืองอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ทำผิดคิดชั่ว หากแต่ยังกินข้าวได้คล่องปากคล่องท้อง ช่างใจคอเหี้ยมโหดเกินใครเสียงเปรยนั้นทำให้บรรยากาศเริ่มมาคุโดยคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเกศสุรางค์ก็รู้สึกได้
พ่อเดช มนต์กฤษณะกาลีก็ร่ายจนจบบทแล้ว อันเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าแม่การะเกดมิได้กระทำการสิ่งใดอันไม่ควรลงไป แล้วออเจ้าจักกล่าวเพรื่อไปอีกด้วยเหตุอันใด
ปะเหมาะเพียงใดลงเวจเพลาเยี่ยงนั้น จักมิให้ลูกคิดได้อย่างไรขอรับ เรื่องริษยาทุกผู้ก็ต่างเห็นกันถ้วนทั่ว มิว่าเช่นใดก็ยากจักปัดทิ้งได้ว่ามิได้ยุ่งเกี่ยวจนคนตาย ออกญาโหราธิบดีถอนหายใจยาวละข้าวในมือ
คุณพี่เจ้าขา รับส้มสูกลูกไม้สักหน่อยเถิดเจ้าค่ะคุณหญิงจำปาผู้เป็นคนกลางกล่าวเสียงเครือคล้ายจะอ้อนวอน หากออกญาโหราธิบดีก็ล้างมือล้างไม้แล้วเดินเข้าห้องไปโดยไม่พูดสิ่งใดสักคำ คนที่รับบทหนักจึงเป็นเกศสุรางค์ที่ต้องถูกคุณหญิงจำปามองอย่างตำหนิที่ทำให้พ่อลูกต้องมาขัดแย้งกันกลางวงกินข้าว
คงสาสะใจแล้วสิหนาเสียงทุ้มเข้มนั้นเอ่ยออกมาพร้อมดวงตาอริที่จ้องมองมา
พูดกับข้าหรือ คำถามอย่างงุนงงของเกศสุรางค์เหมือนน้ำมันที่ราดกองไฟ ดวงตาสีเข้มนั้นส่งประกายดุดันเกลียดชังขึ้นมาทันที
มิเคยพบมิเคยเห็นผู้ใดจักหน้าด้านหน้าทนเยี่ยงนี้ ลางสิ่งลางอย่างแม้มิยอมรับหากแต่ผู้อื่นก็พอคิดได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น เกศสุรางค์อ้าปากค้างกับคำว่ากล่าวที่ฟังแล้วยังงงๆนั้น อะไรกันวะเนี่ย
พอเถิดหนาพ่อเดช แม่การะเกดกลับเข้าห้องไปได้แล้ว ช่างมีแต่เรื่องมิรู้จักหยุดจักหย่อน เกศสุรางค์ได้แต่อึ้งกิมกี่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยอมลุกเดินไปยังห้องของตนแต่โดยดี เมื่อปรายตามองบ่าวไพร่ที่นั่งรอกันอยู่จำนวนไม่น้อยก็มองเห็นถึงสายตากินแหนงแคลงใจชิงชังผสมปนเปกันไปจนคนถูกมองเริ่มหนาวๆร้อนๆ การะเกดทำอะไรมาหว่า?
เพียงเข้าห้องเกศสุรางค์ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องถามพี่เลี้ยงทั้งสองให้รู้เรื่องว่าการะเกดทำอะไรลงไปบ้าง และเท่าที่คาดเดาดูคงเป็นเรื่องร้ายแรงมิใช่น้อยและอาจจะไม่ใช่เรื่องเดียวเสียด้วยเมื่อมองจากสายตาเอือมระอาที่คุณหญิงจำปามองเธอ
พี่ผิน พี่แย้ม
เจ้าคะ สองพี่เลี้ยงขานรับเสียงค่อยพร้อมกันก่อนจะก้มหน้านิ่ง
พี่ก็รู้ใช่ไหมว่าข้าจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้าก็ไม่โง่พอที่จะไม่เห็นว่าคนอื่นเขาเกลียดข้ากันแค่ไหน ถ้าพี่ทั้งสองรักและเอ็นดูข้าก็ขอให้บอกตามตรง ตามจริง ไม่อย่างนั้นข้าคงมีชีวิตอยู่อย่างลำบากแน่ๆ
แม่นายท่าน!
ว่าอย่างไรล่ะ ถ้าพี่สองคนไม่บอกข้าจะออกไปถามหมื่นสุนทรเทวาและคุณป้าด้วยตัวเองนะ นางผินเงยหน้าอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
อย่าเชียวหนา จักเป็นความใหญ่โตได้เจ้าค่ะ
ใหญ่เป็นใหญ่ เรื่องหนักกว่านี้ข้าก็เจอมาแล้ว
แม่นายท่านเจ้าขา อย่าได้คิดเลื่อนเปื้อนไป ทุกอย่างล้วนยากจักกำหนดได้
แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ ทำไมทุกคนถึงได้มองข้าเหมือนข้าเป็นตัวร้าย หรือว่าเมื่อก่อนข้านิสัยไม่ดีเอามากๆ
ทุกผู้ทุกคนเลยฤๅเจ้าคะ คำพูดอ้อมแอ้มกับท่าทีกระอักกระอ่วนของนางแย้มและนางผินยิ่งทำให้แน่ใจว่าฤทธิ์ร้ายของการะเกดคงเยอะมากจนแจกแจงไม่หวาดไม่ไหว
เอาเรื่องแรกก่อน คนชื่อแดงตายเพราะอะไร ไม่ต้องสืบให้มากความก็รู้ว่าตรงเผ็งเมื่อสองพี่เลี้ยงเงยหน้าอ้าปากตกใจหน้าเปลี่ยนสีไปในพริบตา
ถ้าไม่บอกก็ไม่ต้องมาพูดกันอีกเลย ข้าจะไปถามหมื่นสุนทรเทวาเอง
บอกเจ้าค่ะ แต่..แม่นายท่านสั่งบ่าวไว้ว่ามิให้ปริปาก
ตอนนี้สั่งใหม่แล้วให้ปริปากได้ รีบบอกมาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วไปเวจแปลว่าอะไรเธอยังจำคำแดกดันที่ชายหนุ่มผู้นั้นพูดใส่หน้าได้ แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็พอจะรู้สึกได้ว่าหมื่นสุนทรเทวาชังน้ำหน้าเธอจนแทบไม่อยากเห็นหน้าเสียด้วยซ้ำ
ไปเวจ ก็ไปถ่ายหนักอย่างไรเล่าเจ้าคะ ผิดคาดอย่างหนักและพาให้งงเพิ่มขึ้นไปอีกสำหรับคำตอบของนางผิน
หา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการตายของคนชื่อแดงล่ะ
เมื่อสามสี่วันก่อน แม่นายท่านกับบ่าวลงเรือนไปที่คุ้งน้ำโค้งสวนยายกุยที่เช่าที่ดินของพระยาโหราท่านก่อนออกจากคลองแกลบนั้นแลเจ้าค่ะ เอ่อ แม่นายท่านให้บ่าวไปล่มเรือแม่หญิงจันทร์วาดลูกสาวเจ้าพระยาโกษา... อีแดงมันเป็นบ่าวใหม่ของแม่หญิงจันทร์วาดเพิ่งมาจากหัวเมืองทางเหนือยังว่ายน้ำไม่แข็งมันเลยจมน้ำตายเจ้าค่ะนางผินพูดพลางน้ำตาตกก่อนจะก้มหมอบร้องไห้จนตัวสั่นทั้งกลัวบาปกรรมและกลัวนายจะกริ้วโกรธทุบตีเหมือนที่เคยเป็น ส่วนนางแย้มได้แต่ค้อมตัวก้มหน้าน้ำตาคลอด้วยความสงสารเพื่อน
ล่มเรือ คนตายเลยเหรอ การะเกดเล่นหนักไปแล้วจริงๆ ตอนนี้เกศสุรางค์โคตรจะแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เธอเห็นก่อนที่จะมาอยู่ในร่างของการะเกดนั้นคือสิ่งใด คนนุ่งโจงกระเบนสีแดงนั่นน่าจะเป็นยมบาล และไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมการะเกดถึงถูกยมบาลลากไปนรกในเมื่อคนตายทั้งคนเช่นนี้
แล้วก็ให้ฉุกคิดขึ้นอีกว่าหากการะเกดตายไปจนลงนรก แล้วเธอล่ะเป็นวิญญาณหรือไม่ หรือจะเป็นเพราะจิตที่ต้องการแก้ไขในสิ่งที่ทำ วิญญาณของการะเกดจึงได้ไปปรากฏให้เธอเห็นที่วัดไชยวัฒนาราม และแรงกล้าถึงขนาดดึงวิญญาณเธอให้มาพบจนผลักเธอให้มาอยู่ในร่างของตัวเองเช่นนี้ จิตใจของเกศสุรางค์ที่พอจะรับเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้แล้วเริ่มหนักอึ้งขึ้นอีกครั้งเมื่อได้แต่คาดเดาสะเปะสะปะโดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่คิดจะผิดหรือถูก
อีกทั้งดูเหมือนว่าความหวาดกลัวกริ่งเกรงของบ่าวคนสนิททั้งสอง รวมกับสายตาของบ่าวไพร่คนอื่นๆที่มองเธออย่างตำหนิชิงชังจะทำให้รู้ว่านิสัยของการะเกดคนที่เธอมาอาศัยร่างนี้คงร้ายกาจไม่เบาเลยทีเดียว
เออเนาะเขามีแต่ข้ามภพมาเป็นนางเอก กรูดันข้ามมาเป็นนางร้ายซะงั้น เฮ้อ เครียดได้โล่!เกศสุรางค์อุทานไปแล้วถึงได้มองเห็นว่านางผินยังคงหมอบสั่นงันงกก็อดที่จะสงสารเห็นใจไม่ได้ มีนายผิดคิดจนนายตายเลยนะเนี่ยพี่ผิน
พี่ผินอย่าร้องไห้ไปเลยร่างบางทรุดตัวลงนั่งใกล้นางผินก่อนจะดึงร่างนั้นมากอดปลอบ
เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ข้า...ข้าเองก็คงไม่ตั้งใจให้มันเกิดเรื่องร้ายอย่างนี้ขึ้น เรามาเริ่มใช้ชีวิตกันใหม่ทิ้งเรื่องเก่าๆไปเถอะ ถ้าพี่ผินไม่สบายใจเดี๋ยวเราไปทำบุญให้คนชื่อแดงกันนะ ข้อเสนอนี้คงเป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้ทำบุญให้การะเกดไปด้วย นางผินแม้จะแปลกใจอย่างหนักกับท่าทีของนายแต่ก็ปาดเช็ดน้ำตาโดยไม่พิรี้พิไร
ดีเจ้าค่ะ งานศพอีแดงก็มิได้ไปเผามัน หากได้ทำบุญให้มัน ลางทีมันคงรับรู้ได้ว่าบ่าวกับแม่นายท่านมิได้ตั้งใจ
ตกลงตามนั้น ว่าแต่ ข้าสงสัยในมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นแล้วไม่มีใครเอาผิดอะไรเลยเหรอ หรือว่าเขาไม่รู้ว่ามีคนมาล่มเรือ
ทุกผู้ล้วนเกรงในออกญาโหราธิบดีเจ้าค่ะ เพราะว่าท่านเป็นพระยาราชครูของพระเจ้าอยู่หัวอีกหนึ่งคำรบ มิมีผู้ใดกล้าหักหาญดอกเจ้าค่ะอีกทั้งพระยาโหราฯท่าน ร่ายมนต์กฤษณะกาลีได้ยินไปทั่วคุ้งน้ำเป็นการสาปแช่งผู้กระทำ มิว่าผู้ใดก็รับรู้ว่ามนต์อันนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ผิแม้ว่ามีผู้คิดร้ายทำให้อีแดงตายผู้นั้นก็จักตายตกตามกัน ฤๅมิเช่นนั้นก็..ถึงแก่สติวิปลาสเจ้าค่ะ นางแย้มค่อยๆอธิบายแล้วก็ให้หน้าซีดเผือดลงไปอีกครั้ง
อ้อ มิน่า ไม่น่าเล่ามีแต่คนคิดว่าเธอเป็นบ้าแต่มันก็น่าให้คิดอย่างนั้นอยู่หรอกเพราะเธอดันโผล่มาอยู่ในร่างของการะเกดเสียอย่างนี้ หรือบางทีมนต์กฤษณะกาลีนั่นคงศักดิ์สิทธิ์จริง การะเกดอาจจะยังไม่ได้ตายจริงๆแค่ถูกลากไปทรมานด้วยเวทย์มนต์ก็เป็นได้ แล้วตูไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยวะถึงต้องมารับบทหนักขนาดนี้
คิดแล้วก็ให้เพลียฮาร์ทเสียดายที่อุตส่าห์มาอยู่ในร่างของคนที่ผอมสวยสะเด็ดออกขนาดนี้กลับต้องมาแก้ปัญหาใหญ่โตที่ติดมาด้วยมิหนำซ้ำมาอยู่ในยุคที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือร้าย และที่สำคัญมาอยู่ในตระกูลขุนนางที่ค่อนข้างใกล้ชิดเป็นถึงราชครูเสียด้วย...ว่าแต่คุ้นๆแฮะ..ราชครู..
จากที่เคยร่ำเรียนมาแต่ละยุคของกรุงศรีอยุธยากษัตริย์มีแต่ครองราชย์กันในช่วงสั้นๆ นอกจากขุนนางจะชิงดีชิงเด่นชิง เชื้อพระวงศ์ก็ยังชิงบัลลังก์กันเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่สมัยพระนารายณ์มหาราชที่ว่ากันว่าเจริญรุ่งเรืองสุดขีดจากการค้ากับต่างประเทศ
โปรดติดตามตอนต่อไป
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งานหนัก คุณเอ๊ยยยย
ภาษาสละสลวย
อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆค่ะ
หนุกดีจ้า
นางเอกเราจะแก้ปัญหายังไงนะ
งานเข้าแล้ว...นางเอกเรา
เจงๆๆๆๆๆ
อ๋า >< อ่านแล้วติดแฮะ 555+
เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ >
เราก็เพลียฮาร์ตแทนเลยนะนิ แทนนี่จะข้ามภพมาเป็นนางเอกดันมาสวมบทนางอิจฉาก่อนชะนิ อิอิ
โอ้ลัคกี้ ตอนใหม่มาแว้ว ต้องรอ รอ อีก นานแค่ไหน เธอจะออกตอนใหม่ๆ มาหนอ
โค้งงามๆ ขอบคุณมากค่ะ เอาใจช่วยให้ 2 เกด เปลี่ยนจากนางร้าย และ นางร้ายจำเป็น มาเป็นนางเอกค่ะ
ตอนจบจะได้กลับไปพบอีตาเรืองฤทธิ์ ป่าวนี่ XD
ดีใจมากเลยที่เห็นพี่รอมแพงอัพ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
ดีใจจังค่ะ ที่อัพ อัพบ่อยๆนะคะ ชอบเรื่องนี้มากมาย :)
ว่าแต่ว่าอยากเห็นจังพระเอกจะล่ำแค่ไหน อิอิ
อย่าลืมมาอัพต่อนะค่ะ
สู้ๆ ค่ะ