SF : GxxodJo <ความสบายใจมาพร้อมใครบางคน>
โจ “ก็อตเป็นไร ไมโพสต์แบบนั้น” ที่ตัดสินใจโทรถามมันเพราะไอ้ข้อความทวิตแปลกๆ นั่นที่เหมือนไม่ใช่มันนั่นแหละ
ก็อต “.......โจ” เสียงปลายสายแผ่วเบา แปลกจริงด้วย
โจ “หืมมมม ว่าไง เป็นอะไรว่ามาทำไมดูแปลกๆ”
ก็อต “ยิ้มไม่ออกเลยว่ะ ยิ้มให้ดูหน่อยดิ๊” ยังมีน่ามาทำเล่น เสียงมึงนิมันใช่เวลาเล่นรึไง ไอ้คนกวนมันก็ยังคงมีความกวนอยู่นั่นแหละ
โจ “ไอ้บ้ายังมีน่ามาเล่น ละเป็นอะไรยิ้มไม่ออก ปวดฟันไง”
ก็อต “โอ่ยมึงอะ มีเรื่องเครียดๆนิดหน่อย ก็เลยบ่นๆไปงั้นแหละ” โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ มึงมันคนดูง่ายไอ้คนกาก แต่แมร่มหล่อ
โจ “จริงปะเหอะ ปกติเห็นมีแต่กากโชว์ไปวันๆ มีไรอยากพูดมั้ย” ละกูนี่ก็ทำไมต้องไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องมันด้วยวะ
ก็อต “.......หึ ไม่อะ ไม่มี แค่ไม่สบายใจเดี๋ยวก็หาย” ละไอ้หวงความสบายใจของมึงนี่คืออะไร ละทำไมกูต้องไม่สบายใจกับเรื่องของมึง
โจ “ให้มันจริงเหอะ คืนนี้ว่างมั้ย” ปากน้อปากเคยห้ามตัวเองได้มะ จะถามมันทำไม่เนี่ย
ก็อต “ถามทำไม ถ้าว่างจะมาหาเหรอ” นั่นไงกูว่าแระ รู้สึกเหมือนงานจะเข้า แต่กลัวเสียฟอร์มยอกย้อนมันคืนซะหน่อย
โจ “จะให้ไปหามั้ยล่ะ” ไอ้เหี้ยนี่กูเต๊าะมันเหรอ ตลกตัวเอง
ก็อต “ไม่ต้อง....เดี๋ยวไปหาเอง อยากเจอ” เอาแล้วไงกูล้อมึงเล่น ซวยเพราะปากแท้ๆ แต่ไอ้บ้านี่ก็ดันแปลกจริง ปกติมีแต่จะเกรียนใส่
โจ “แปลกแบบนี้มีเรื่องอะไรจริงๆใช่มั้ย นึ่มึงตัวจริงปะเนี่ย เงียบไมวะ เออ ถ้ายังไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ไว้ค่อยอยากพูดเมื่อไหร่กูพร้อมรับฟังนะ”
ก็อต “โจ.....เดี๋ยวไปหาตอนนี้เลย รอนะ”
โจ “ดะ...เดี๋ยวๆ ก็อตๆๆ เฮ้ย!” เฮ้ยๆๆๆ ไอ้ก็อตเดี๋ยวๆๆ มึงไอ้ห่าตัดสายกู มันจะมาหาจริงเหรอวะเนี่ย
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่นึงในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง
ดิว “โจมึงเป็นไร ทำไมดูหน้าเครียดๆ น้ำหนักขึ้นรึไง รึพุงออกวะ” ไอ้ปากเสีย
โจ “ไอ้ดิว เดี๋ยวปั๊ดฆ่าเลยนิ”
ดิว “อ้าว!ก็เห็นไปคุยโทรศัพท์มาละหน้าเครียดๆ มีไรปะวะ”
โจ “เรื่องไอ้ก็อตอะ ไม่รู้ว่าวันนี้มันเป็นไรมันดูแปลกๆว่ะวันนี้”
ดิว “หืมมม อะไรทำให้คิดว่าแปลก มันก็ปกติดีฮอตเว่อร์สาวๆกรี๊ดทั้งเมืองเหมือนเดิม”
โจ “เออน่า เซ้นกูมันบอก เออมึงมีธุระไปต่อไม่ใช่เหรอ แยกกันตรงนี้เลยก็ได้มั้ง”
ดิว “ไรวะ ปกติทุกทีมีแต่อ้อนให้กูไปส่ง กูว่ามึงอะแปลกไม่ใช่มันละล่ะมั้ง” ไอ้นี่แมร่งรู้จักกูมากกว่าตัวกูเองอีกมั้งเนี่ย
โจ “สรุปจะไปธุระต่อมะไม่ไปเดี๋ยวกูไปก่อนนะ พูดมากอะมึงน่ะ”
ดิว “เอ๊า!ไอ้นี่ ก็กูเป็นห่วงมึงจะกล่บยังไง ปกติมีแต่กูรับส่ง มึงบอกบ่านมึงละเหรอ” นี่เพื่อนหรือพ่ออีกคนคับไอ้คุณดิว
โจ “เออ เดี๋ยวกูกลับเอง มึงไปเหอะ”
ดิว “ไอ้นี่มีพิรุธจริงด้วย บอกกูมาไม่งั้นกูจะตามมึงอยู่นี่แหละ” ไม่จบไม่จบ เดี๋ยวไอ้บ้านั่นก็โผล่มาความแตกพอดี
โจ “ไอ้ดิว แมร่มมม มึงไม่เชื่อเหรอว่ากูจะกลับเอง”
ดิว “ไม่เชื่อ(พูดแบบไม่คิดเลยมึง รู้จักกูดีจัง) ถ้ามึงไม่กลับกะกูมึงจะก็ต้องให้ที่บ้านมารับ รึว่ามึงนัดใครไว้ ไอ้โจ” ไอ้คนรู้ทัน
โจ “....(มีเพื่อนรู้ทันแมร่มโกหกไม่ได้เลย ไอ้เวรนี่) เออกูมีนัด พอใจยังทีนี้มึงก็ไปทำธุระมึงได้แล้ว” (มันนิ่งมองหน้าผมค้าบมองทำแป๊ะไร)
ดิว “นั่นใช่มั้ย นัดของมึงอะ หน้าหล่อมาตั้งแต่ 100 เมตร หึหึ” ไอ้นี่มีความยิ้มกวนตีนกูมากกกก ละคิ้วนี่จะยกสูงไปไหน ไอ้บ้านี่ก็มาอะไรตอนนี้วะ
ก็อต “โจ....อยู่นี่เอง อ้าวดิวดีว่ะ” หัวกระเซิงเหมือนหนีใครมา แต่แมร่งก็ยังหล่อชิบหาย
ดิง “เออ...ดี”
โจ .........
ก็อต “ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะตามหาตั้งนาน ยิ่งกลัวคนเห็นอยู่” ผมมองมัน และก็มองไอ้ดิวสลับกัน รู้สึกเหมือนกูเป็นหลุมระหว่างมันสองคนปกติกะไอ้ดิวคือสูงไม่ต่างมาก แต่พอไอ้เด็กยักษ์นี่มา กูอยู่ในหลุมเลยไอ้ห่า รู้สึกว่า 178 cm. กูมันเตี้ยเพราะพวกนี้เนี่ยแหละ
โจ “เออกูเพิ่งกินข้าวกันเสร็จเลยไม่ได้ยินมั้ง” กูแถไปงั้นแหละที่จริงกูคิดว่ามึงจะไม่มาคับไอ้คุณก็อต ใครจะรู้ว่าแมร่งจะมาเร็วขนาดนี้ สายตาไอ้ดิวแมร่งจับผิดคับละไอ้นี่ผมไม่เคยโกหกมันได้เลย มันรู้นิสัยใจคอผมมากกว่าตัวเองอีก
ดิว “งั้นถ้ามึงมีนัดแล้ว กูก็จะไปทำธุระก่อนละกัน (ยืนหน้ามากระซิบข้างหู) ไว้คุยกันทีหลังคืนนี้กูจะคอลหา รับสายกูด้วยนะมึง
โจ “อะเอออ ขับรถดีดีนะ” ไอ้เหี้ยขนลุก แมร่งกวนตีนผมคับ ไอ้เพื่อนเลว
ดิว “กูไปละนะ” เออ ไปซะที ไอ้ห่า อ้าวชิบหายแระลืมไปว่ายังมีไอ้นี่อีกตัว หน้ามันเหมือนหมีสงสัยเลยคับ ขมวดคิ้วซะย่นเลย
ก็อต “มะกี้มันพูดว่าไร ไอ้ดิวมันบอกว่าไร” ยิงคำถามเหมือนจะบังคับให้กูตอบ เด่นไปละมึงคนเริ่มมอง
โจ “ไม่มีไรหรอก ไปยังอะเดี๋ยวแม่ๆมึงเค้าก็แห่ตามมาหรอก คนเริ่มมองแล้ว ไอ้คนฮอต”
ก็อต “เออ ไปดิ ถึงรถละค่อยคุยกัน”
โดนไอ้เด็กยักษ์ลากมาถึงรถแคมรี่สีขาวแบบกึ่งเดินกึ่งวิ่งละไอ้คนลากมันขายาวไง ไอ้เราก็วิ่งตามไปสิ ลำบากชะมัดไอ้คนฮอตเอ็ย มันฮอตมากคับเลยต้องคอยหลบแฟนคลับมัน ที่จริงก็อาจมีของผมด้วยมั้งแต่ไม่ฮอตแบบมันหรอกคับมันหล่อไงหล่อมากกกกกกกกก _*_
ก็อต “ทีนี้บอกมาว่าไอ้ดิวมันบอกว่าอะไร กระซิบกันว่าอะไร” ไอ้ห่าคำถามงี่เง่านี้มันเอาอะไรคิดวะ ผมเลยขมวดคิ้วใส่มัน
โจ “ก็บอกว่าไม่มีไร มึงเป็นไรมากปะเนี่ย มาหงุดหงิดอะไรกับกูวะ” ไอ้นี่ท่าจะเครียดจนเป็นบ้า ดูหน้ามันคิ้วนี่จะผูกกันละ แต่แมร่งก็ยังโครตหล่อ เออกูยอม
ก็อต “ก็แล้วถ้ามันไม่มีอะไรทำไมต้องกระซิบด้วยวะ หรือมันเป็นความลับของมึงกับมันเหรอ” เสียงมันอ่อนลง
โจ “ก็.....ไม่มีอะไรจริงๆ มึงอย่างี่เง่าดิ ทำยังกะเป็นแฟนกูไปได้” ไอ้เหี้ยกูพูดอะไรออกไป ไม่ทันละดูตามันคับดูมันมอง กูอยากตบปากตัวเองดีนัก กูหลุดพูดอะไรออกไป
ก็อต “มึงอยากให้กูเป็นแฟนมึงเหรอ” หน้าตาตื่นขึ้นมาเลยมึงเมื่อยังกะหมีกินผึ้ง ทีงี้เหมือนหมีสะเดิด
โจ “เฮ้ย! ไม่ใช่ กูแค่เปรียบเทียบว่ามึงอะนิสัยเหมือน ผู้หญิง เหมือนเด็กแมร่งชอบงี่เง่า แค่นั้นโว้ย”
ก็อต “มีกูเป็นแฟนไม่ดีตรงไหน กูหล่อนะมึง น่ารักก็ได้ แถมตลกได้ด้วย” มั่นหน้ามากพ่อคุณมึง
โจ “เก็บไว้ให้ผู้หญิงเค้าเรียงคิวยื่นใบสมัครแคสมาเป็นเมียมึงเหอะ ไอ้มั่นหน้า” หมั่นมันคับแต่เถียงไม่ได้ ก็มันหล่อจริง
“หยุดพูดมากได้แล้วมึงมาหากูเพราะมีเรื่องอะไรไม่ใช่รึไง ถ้าไม่มีจะได้กลับ”
ก็อต “เดี๋ยวดิ เออๆ แต่พาไปหาไรกินก่อนนะ กูหิวอะ”
โจ “แต่กูกินกับไอ้ดิวมาแล้วนะ”
ก็อต “ก็นั่นกินกะไอ้ดิวปะ นี่กินกับกูคับคุณโจ”
โจ “แต่กูไม่อยากกินแล้วอะ เดี๋ยวอ้วนแมร่งมีพุงมันลดยากนะเว้ย เดี๋ยวเหมือนมึงอะไม่เอาหรอก” ขำหน้ามันคับ เว๋อชะมัดไอ้เด็กเด๋อเอ๊ย
ก็อต “เออไม่กินก็ไปนั่งเป็นเพื่อนกูหน่อย และแซะจังพุงกูเนี่ย เดี๋ยวกูเข้าฟิตเนสแป้บเดียวก็กลับมาละน่า”
โจ “หรา......ไปดิ จะไปกินไหนก็ไปหิวไม่ใช่ไง”
มันขับรถมาจอดที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่มีคนพลุกพล่านแต่บรรยากาศดีทีเดียว เหมือนเป็นมุมอับไม่ค่อยมีคนเห็น ยังกะร้านอาหารแบบพวกป๋าๆเด็กมานั่งดริ๊งเลยว่ะ ไอ้นี่ดูท่ามาบ่อย มันเป็นร้านอาหารกึ่งผับมีส่วนด้านนอกและมีด้านในที่ปิดทึบ มันพาผมมานั่งริมน้ำตรงมุมพอดี วิวดีดนตรีเพราะ บรรยากาศโรแมนติกไปไหนวะ ละไอ้นี่ก็หน้าหล่อเข้ากับบรรยากาศเหลือเกิน ถ้าผมเป็นผู้หญิงนี่คิดว่ามันคงพามาเดทหรือไม่ก็พากิ๊กมากินข้าวหลบเมียมัน ฮา คิดละก็ขำ สงสัยจะออกทางสีหน้าไปหน่อย
ก็อต “ยิ้มขำอะไรวะ มะกี้ยังตึงๆ ใส่กูอยู่เลย” สังเกตกูดีจังนะมึง
โจ “เปล๊า ก็แค่คิดละก็สงสัยมึงรู้จักร้านแบบนี้ได้ไง ปกติเห็นแต่มึงสายตื๊ดสายย่อตลอด” แก๊งค์มันขี้เหล้าทั้งนั้นคับ
ก็อต “กูกินข้าวนะคับคุณโจ ไม่ได้แดกแต่ยอดข้าว แล้วเป็นไง บรรยากาศดีมั้ย”มันสั่งอาหารไม่กี่อย่างเพราะผมไม่กิน และไม่มีแอลกอฮอล์นะคับ ผิดวิสัยคุณก็อตขี้เมาไปมั้ย
โจ “ก็ดี” ผมยิ้มให้มันและเผลอมองออกไปริมน้ำที่มีคลื่นเงียบสงบ มีแสงไฟรอบกาย มันดูสวยมากเลยในยามราตรีนี้
ก็อต “แค่นั้น???” ผมมองเสี้ยวหน้าเรียวๆ ที่หันมองน้ำมองคลื่นเพลินจนอาหารมาเสิร์ฟ แบบไม่ได้พูดอะไรกัน ผมกินอาหารไปเรื่อยๆ มันก็ยังเงียบชื่นชมกับบรรยากาศละอมยิ้มไป ฮำเพลงตามที่ร้านเปิด ผมมองมันทุกการกระทำ เหมือนความเคยชินที่ผมชอบมองมันแบบนี้ ชอบมองมาซักพักแล้ว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
โจ “เอ้อ ที่มึงออกมาเจอกู มึงอยากพูดอะไรมั้ย” ผมหันมามันจ้องตาผมอยู่แล้ว สะดุดกับสายตาที่มันมองแว่บนึงเหมือนกับมันมองผมนานแล้วตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ อาหารที่มันกินก็หมดเกลี้ยงจาน นี่สงสัยผมจะกินบรรยากาศนานไปนิดมันก็ไม่เรียกผมจนผมกลับนึกได้เองว่ามันมาหาผมทำไม
ก็อต “ไปเหอะ เดี๋ยวคิดตังค์ก่อน ไว้ไปคุย เดินเล่นกันบนสะพาน”
โจ “ห๊ะ! สะพานนู่นอะนะ”
ก็อต “เออ นั่นแหละ ไปเหอะ” ละมันก็ขับรถมาจอดริมสะพานที่มองเห็นท้องฟ้าเห็นแม่น้ำทุกมุมทุกด้าน เราเหมือนมดตัวน้อยๆ ในสถานที่นี้เลย มันเกาะขอบสะพานและมองไปสุดสายตา ผมสังเกตว่าแววตามันมีความกังวลและเหมือนคิดอะไรอยู่ และมันก็ถอนใจ
โจ “พูดได้ยังอะ จะเก็กหล่อเป็นนายแบบอีกนานมั้ย ที่นี่ไม่ใช่สตูดิโอเอาท์ดอร์นะไอ้นายแบบ” ปฏิกิริยาตอบกลับคือยิ้มกลับมา ยิ้มแบบมีอะไรในใจ ทำไมกูคิดเยอะกว่ามันอีกวะ
ก็อต “ถ้าสิ่งที่เราเลือกมันกำลังทำให้เราลำบากใจ มันทำให้ความสบายใจเราหายไป เราควรเลือกมันมั้ยวะ” ผมเดินเข้าไปใกล้มันจนเห็นสีหน้ามันชัดว่ามันมีความกังวลจริง
โจ “อยู่ที่ว่าสิ่งที่มึงเลือกมันดีกับมึงรึเปล่า ถ้าเป็นผลดีก็ลองทำดูไม่น่าเสียหายอะไร แต่ถ้ามันทำให้มึงลำบากใจ ก็แค่ให้โอกาสตัวเอง” มันทำหน้างง
ก็อต “โอกาสอะไรวะ”
โจ “โอกาสในการเลือกของตัวเองไง ใช่ว่าเค้าจะเลือกมึงได้ข้างเดียวมึงก็มีสิทธิ์เลือก เลือกโอกาสให้ตัวเอง”ผมตบบ่ามันเบาๆ มันจับมือผมที่ตบบ่ามันแล้วเอามือมันกุมมือผมไว้ ผมปล่อยให้มันทำเพราะผมไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไร สิ่งที่ผมทำได้มีแค่นี้ เป็นแค่กำลังใจและผู้รับฟังที่ดีให้มัน ผมรู้ว่ามันกำลังเผชิญกับอะไรก็อยากแค่ขอภาวนาให้มันผ่านไปด้วยดี
ก็อต “อื้อ........กูขออยู่แบบนี้ซักพักนะ” มือคนตัวเล็กกว่านิ่มมากและอุ่นมากสำหรับผม มันอุ่นมาถึงที่หัวใจเลย มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจและโล่งใจขึ้น
โจ “บิ๊วอารมณ์เป็นพระเอกมิวสิคอยู่เหรอคับไอ้หมอไพร พอละมั้ง” ดูสีหน้ามันดีขึ้นกว่าตอนมา
ก็อต “กูจะให้โอกาสเลือกกับตัวเอง” ผมจับมือมันแน่นขึ้นและมองไปที่มัน สายตามันอ่อนโยน มันกำลังให้กำลังใจผมสินะ
โจ “ปะ กลับได้ยัง มันดึกแล้ว”
ก็อต “เด็กอนามัยจังวะ แค่เที่ยงคืนเองไม่ดึกหรอก” ไม่ดึกกับแป๊ะสิคับ ผมต้องเข้าบ้านแล้วนะจริงๆ เวลานี้อะ ถ้านอกเหนือเวลานี้จะต้องบอกที่บ้านก่อน ป๊าผมดุคับดุมากกกกก และคาดว่าจะโทรตามในอีกไม่ช้านี้ ผมไม่ใช่ลูกคุณหนูนะ แค่ที่บ้านอาจมีความเจ้าระเบียบตามแบบฉบับบ้านคนจีนนิดนึงอะ
โจ “กูไม่ใช่มึงจะได้นอนสว่างเป็นนกฮูก ไหนจะมีเรียน มีงานชุกขนาดนั้น มึงก็ยังปาร์ตี้ได้เกือบทุกคืนสิน่า หน้าพังขึ้นมาจะสมน้ำหน้าให้” เห็นมันเที่ยวหนักขนาดนี้แต่หน้ามันใสมากนะคับ มันต้องคอยเสริมหล่อตลอดไง ผจก มันพามันเข้าสถานเสริมความหล่อประจำคับ เป็นคนหล่อที่ฮอตมันดีงี้แหละ แต่แมร่มเสือกขี้เหล้า ละกูจะบ่นมันทำไมเนี่ย
ก็อต “ห่วงกูอะดิ ห่วงว่ากูจะไม่หล่อเหรอ”
โจ “เอาที่คุณมึงสบายใจเลยคับ กูง่วงนอนแล้ว กลับเหอะ” นั่นไม่ทันเดินถึงรถด้วยซ้ำข้อความไลน์จากไอ้ดิวคับมันบอกมันจะคอลมาสงสัยคงคอลแล้วแหละแต่ผมไม่ได้เปิดไง แสงไฟแจ้งเตือนรัวมาเลย งานเข้าแล้วไงไอ้นี่ยิ่งเหมือนพ่ออีกคน
ก็อต “ที่บ้านรึไง แต่เอ....ทำไมที่บ้านไม่โทรล่ะ”
เปิดอ่านข้อความไอ้ดิวรัวมาเป็นพรืด
“ไอ้โจ”
“ไอ้คุณโจ”
“เฮ้ย! ไมไม่รับวะ”
“อยู่ไหนเนี่ยมึง”
“อ้าว ไอ้นี่เงียบ เพื่อนกูหายคับ”
Sticker หัวฟูยีหัวหลายตัว
“มึงกลับบ้านรึยัง”
“อ่านละตอบกูด้วย ไม่ตอบเดี๋ยวกูโทร”
ไอ้นี่นี่ขี้โวยวายเป็นคนแก่ ป๊ายังไม่บ่นเท่ามันเลย ผมเลยกดตอบข้อความมันไป โดยที่ไอ้เจ้าของรถร่างยักษ์นั่งมองการกระทำผมทุกการเคลื่อนไหว ที่สัมผัสได้เพราะสายตามันจ้องมาที่ผมสตาร์ทรถไว้แต่ไม่ยอมออกตัวนี่สิ
“กำลังกลับแล้ว ไม่ต้องเสือกโทร” มันตอบมาอย่างไว ไอ้คนข้างๆนี่มึงจะนั่งมองกูพิมพ์ตอบแชทกับไอ้ดิวทำไมวะ ขับรถไปสิโว้ย ถ้ากูคุยถึงเช้ามึงจะไม่นั่งมองกูถึงเช้าเหรอ _*_
โจ “ออกรถสิมึง นั่งมองกูตอบแชทจะถึงบ้านกูตอนไหนวะ” มันทำหน้ากวนตีนคับ กวนจริงนะ ไอ้คนในแชทเงียบไปแล้วหลังจากที่บอกมันไปว่าพุ่งนี้เจอกัน การสนทนาก็จบลง
ก็อต “มึงก็คุยให้เสร็จไปดิ กูขับรถมีแสงไฟแว้บๆ เข้าตากูไม่มีสมาธิ กูจอดรอมึงอยู่นี่แหละ” ไอ้บ้านี่แสงมันอยู่กับกูมั้ยล่ะ รบกวนสมาธิไรมึง ไอ้ประสาท
โจ “กูคุยจบแล้ว ทีนี้ไปได้ยัง” มันยังมองหน้าผมอยู่ เดี๋ยวมึงเจอฤทธิ์กู
ก็อต “ถ้ากูไม่รู้มาก่อนว่าพวกมึงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ และที่บ้านสนิทกันนี่กูคิดนะว่าไอ้ดิวมันเป็นผัวมึงรึเปล่า ไปรับไปส่ง กลับบ้านต้องแชทคุย กินข้าวต้องไปด้วยกัน ไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอดแบบนี้”
ปากเหรอที่พูดเนี่ย ไอ้บ้านี่ แมร่งไม่พูดกับมันแล้วแมร่มมันบ้า เสียงโทรศัพท์เข้านั่นของผมเอง เบอร์ที่บ้านเลยคับ งานงอกอีกมั้ยล่ะกู ไอ้คนตรงหน้าก็ยังไม่ออกรถ กูจะบ้าตาย
“คับม๊า ยังไม่นอนอีกเหรอดึกแล้วนะ”
[ก็รู้ว่าดึก ละทำไมยังไม่เข้าบ้าน เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนไม่บอกที่บ้านแล้วเหรออาโจ] ม๊าร่ายยาวเลยคับ ดีที่เป็นม๊าถ้าป๊าผมคงตายแน่ถ้าตอนนี้ไอ้เจ้าของรถมันยังไม่ขับออกไปอีก ตายแน่
“กำลังกลับแล้วคับม๊า นี่นั่งอยู่ในรถกำลังจะถึงละคับ” ผมหันมองมันเพื่อสั่งทางสายตาว่าให้มันออกรถได้แล้ว มันรู้ว่าผมคุยกับที่บ้านมันถึงได้ออกตัว
[ไม่ได้กลับกับอาดิวใช่มั้ย เห็นอาดิวไปทำธุระให้ที่บ้านเมื่อหัวค่ำเนี่ย ละเรามากับใคร]
“เพื่อนนะคับม๊า เดี๋ยวก็จะถึงแล้ว ม๊าวางเถอะคับมันดึกแล้ว นะคับโจเป็นห่วงเดี๋ยวถึงแล้วจริงๆ” ทำไมต้องทำเสียงขี้อ้อนม๊าต่อหน้ามัน ดูมันยิ้มขำผมดิ ไอ้เด็กเปรต พอวางสายผมเลยทำหน้าตึงใส่มัน ละมันจอดรถข้างทางอีกทำไมเนี่ย กูรีบคับคุณมึง
โจ “จอดทำไมวะ เฮ้ย!” มันเอื้อมแขนยาวๆมาดึงเบ๊วล์ฝั่งผมที่ผมมัวแต่คุยโทรศัพท์กับม๊าเลยทำให้ลืมคาดไป มันลากผ่านตัวผมแต่หน้ามันคือมึงจะใกล้ไปไหน มามองหน้ากูอีก ไอ้เหี้ยท่าทางล่อแหลม ละกูทำไมนั่งตัวแข็งทื่อใจเต้นแรงงี้ล่ะ ที่จริงกูคาดเองก็ได้มึงบอกกูสิคับ หน้ากูขึ้นสีมั้ยไม่รู้รู้แค่ตอนนี้รู้อุณหภูมิในรถจะร้อนไปแระ คาดละก็ปล่อยสิคับ ใกล้ขนาดนี้หลุมสิวกูมึงคงเห็นหมดอะ
ก็อต “ก็แค่คาดเข็มขัด โวยวายไรมึง จับดีๆ กูจะเหยียบมิดไมล์ มึงดันบอกม๊าว่าจะถึงแล้วนี่อีกครึ่ง ชม.จะถึงมั้ยเนี่ย”
โจ “เดี๋ยวๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ไอ้เหี้ยกูยังรักชีวิตอยู่ กูยังไม่มีแฟนเลยนะมึง ช้าๆก็ได้”แมร่มขับไมล์รถขึ้นจนผมหลับตาหยีจนปิดไม่อยากมองบนถนนเลย ตีนผีโครตไอ้บ้านี่
ก็อต “หึ อยากมีปะล่ะแฟนอะ กูเสนอตัวให้เอามั้ย”
โจ ………… เงียบคับผมเงียบใส่มัน งอนมันนี่แหละตั้งแต่เรื่องไอ้ดิวละ กูเป็นเพื่อนเล่นมึงเหรอ
ก็อต “กูคุยด้วยไมไม่พูดวะ”
โจ ………… เงียบ
ก็อต “เฮ้ย! โกรธกูเหรอ”
โจ “ขับรถไป อย่าพูดมาก” ผมนิ่งคับมันเริ่มขับรถช้าลง
ก็อต “โกรธไรกูอะ มะกี้ยังคุยดีดีอยู่เลย” กลายร่างเป็นหมียักษ์ขี้อ้อน
โจ “ไม่ได้โกรธ” เห็นหน้ามันละขำ กลั้นไว้เก็กขรึมห้ามหลุด
ก็อต “ไม่โกรธกุ แต่อาการมึงมันเหมือนคนงอนอะ มึงไม่โกรธแต่งอนกูเหรอ” จะบ้าตายกับไอ้เด็กยักษ์นี่
โจ “ไม่ได้ทั้งโกรธทั้งงอน มึงเห็นกูเป็นผู้หญิงรึไง ขับๆรถไปเหอะน่า สนใจถนนด้วย”
ก็อต “กูไม่ได้เห็นมึงเป็นผู้หญิงซะหน่อย ถึงจะขาวก็เหอะ”
โจ “อะไรนะ มะกี้มึงพูดว่าไร”
ก็อต “เอ่อ....เปล๊า ไม่มีไรหรอก มึงไม่โกรธไม่งอนกูจริงนะ ไม่งั้นกูจะง้อมึงอยู่นี่แหละ”
โจ “เออ ไม่โกรธไม่งอนพอใจยัง”
ก็อต “พูดแบบพูดกับม๊ามะกี้ให้ฟังหน่อยดิ บอกว่าโจไม่ได้โกรธก็อตแล้ว ไหนพูดดิ๊” ไอ้บ้านี่ท่าจะบ้า ใครจะพูดง๊องแง๊งแบบนั้นกับมึง ประสาท
โจ “กวนตีนละไอ้คุณก็อต เพื่อนเล่นมึงเหรอ”
ก็อต “โห่ แค่พูดแค่เนี้ยทำไม่ได้ไง เดี๋ยวแมร่มพาวนเลยนิ”
โจ “อ้าวไอ้นี่ มาพาลไรแค่กูไม่พูด มึงบ้าปะเนี่ย รึไม่ได้รับแอลกอฮอล์เข้าเส้นเลยเพี้ยนเหรอ”
ก็อต “เออ แมร่มไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด” ละไหงเป็นผมล่ะที่ต้องมาง้อมันดูมันทำหน้า ไอ้หมีหน้าบูด โอยละสรุปกูต้องพูดรึไงวะเนี่ย
โจ “ก็อต” มันเงียบคืน อะโหยอกย้อนนะมึง
โจ “ก็อต อย่างี่เง่าดิวะ เออพูดก็ได้” มันยังนิ่ง พูดก็ได้วะ เดี๋ยวพุ่งนี้แมร่งก็ลืม
โจ “ก็อตกู เอ้ย! ก็อตโจไม่ได้โกรธไม่ได้งอนก็อตแล้ว ก็อตจะงอนโจกลับทำไมเนี่ยขี้เกียจง้อนะเว้ย” =*= ช่างแมร่งแระแมร่มอายไอ้ห่าทำอะไรลงไป มีแอบอมยิ้มนะมึงเออ ฝากไว้ก่อน ละนี่กูทำบ้าอะไรลงไป
ก็อต “ก็แค่เนี้ย ทำเป็นเก็กไปได้ มึงพูดอ้อนๆ น่ารักดีออก พูดบ่อยๆนะกูชอบ”
สะอึกเลยสิคับ มาชอบกูอ้อนทำไมไอ้เหี้ยหน้ากูทำไมรู้สึกร้อนอย่าบอกนะว่านี่คือกูเขินเหรอ สัสเขินกับคำพูดมันแค่นี้นะ โจมึงอย่าหน่อมแน๊ม มึงควรไปเขินกับสาวๆ นู่นมาเขินบ้าไรกับไอ้หมียักษ์นี่ด้วยวะเนี่ย
โจ “ถะถึงบ้านแล้ว ส่งแค่นี้พอ” ติดอ่างทำไมมึง
ก็อต “โจ.....” ผมดึงข้อมือเล็กขาวๆ นั่นไว้ก่อนมันจะลงจากรถผม
โจ “หืมมม มีไรอีกอะ”
ก็อต “ขอบใจนะ ที่อยู่กับกูในวันนี้ ขอบใจที่ทำให้ความสบายใจของกูกลับมา”
โจ “อื้อ สู้สู้ล่ะ คิดมากตีนกาขึ้นนะมึง ต้องเสียเวลาไปลบอีก แค่นี้ก็หน้าแก่ก่อนวัยละมึงอะ” แซะให้มันยิ้มไปงั้นแหละ ที่จริงก็ไม่อยากให้มีใครคิดมากหรอกรวมถึงตัวเองด้วย แต่ของผมมันผ่านมาแล้วไง ยังเหลือคือมันต้องสู้ต่อถึงอยากให้มันผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ออกมายืนหน้าบ้านตัวเองแล้วมันลดกระจกลงหันมาพูดก่อนจะไป
ก็อต “ดึกแล้วอาบน้ำนอนห้ามห้ามเล่นโทรศัพท์ ใครโทรมาห้ามรับ รับแค่กูคนเดียวพอ”แมร่งเป็นวิธีที่งี่เง่าดีแต่ก็ทำให้มันยิ้มเขินผมได้อีกล่ะวะ
โจ “ไอ้บ้า รีบๆไปเลยนะ” หนอยมาทำเป็นสั่ง ละกูจะเขินทำไมอีกเนี่ย ให้ตายเหอะ รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองกำลังยิ้ม กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ สงสัยวันนี้สมองกูคงทำงานหนัก กูควรต้องพักผ่อน ไอ้เด็กบ้า
End
CakeZaa^^
ความคิดเห็น