Christmas Wish - Christmas Wish นิยาย Christmas Wish : Dek-D.com - Writer

    Christmas Wish

    Away in a manger, no crib for a bed, The little Lord Jesus laid down his sweet head. The stars in the bright sky looked down where he lay, The little Lord Jesus asleep on the hay.

    ผู้เข้าชมรวม

    281

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    281

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ธ.ค. 49 / 21:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


            ในเมืองนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมายยิ่งกว่าทุกวัน  ทั้งบนทางเท้าทั้งบนถนนก็มีแต่คนเดินเบียดกันไปมา หากทุกใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม  ด้วยว่าอีกไม่นานเทศกาลแห่งความสุขความยินดีกำลังจะเข้ามาเยี่ยมเยือนแล้ว ฟังสิ!! เสียงระฆังเงินกำลังดังอย่างเริงร่าท่ามกลางสายลมหนาว
        
           ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้ากลับถูกบดบัง

            พื้นโลกที่อยู่แทบเท้ากลายเป็นสีขาวโพลน
       
           ฉันยืนอยู่ท่ามกลางปุยนุ่น
       
           ทั้งๆที่หิมะตกลงมามากมายขนาดนั้น………แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
       
           กำลังจะมืดแล้ว  เห็นดวงดาวมากมายกำลังทอแสงอ่อนจางอยู่เหนือท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม เงาของตึกรามบ้านช่องเห็นเป็นสีดำตัดกับขอบฟ้าสีอมส้มอมแดงตรงโน้น 
        
           แว่วเสียงกระทบกันของช้อนกับหม้อซุปดังออกมาจากครัวซึ่งอยู่ข้างตัวเขา ไออุ่นและกลิ่นหอมของอาหารที่เพิ่งปรุงสุกใหม่ๆลอยออกมากระทบจมูก  เด็กชายตัวน้อยก้มหน้าลงมองพื้น รอยเท้าเมื่อครู่กำลังถูกฝังกลบด้วยปุยสีขาวที่เพิ่งตกลงมา   "หิมะหนาขึ้นแล้ว  รอพรุ่งนี้คงปั้นสโนว์แมนได้"  เขาคิดเช่นนั้นก่อนจะออกเดินปะปนไปกับฝูงชน
       
           เด็กชายเดินมาจนถึงบ้านหลังเล็กๆซึ่งอยู่เกือบสุดถนน หิมะบนหลังคาทับถมกันจนหนา  ดูคล้ายขนมเค้กถูกโรยหน้าด้วยไอซิ่ง 
       ประตูไม้สีเข้มส่งเสียงออดแอดเล็กน้อยเหมือนจะเตือนว่าสมควรหยอดน้ำมันสักหน่อย  เมื่อเด็กชายเปิดมัน  ไฟจากบนเพดานสาดแสงขับไล่ความมืดให้ถอยร่นออกไปภายนอก เสียงฮีตเตอร์เครื่องเก่าคำรามหึ่งๆขณะที่ปลดปล่อยความอบอุ่นสู่ตัวบ้าน  
       
           "กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ เจเรมี" เสียงของหญิงสาวทักขึ้น  "เป็นยังไงบ้าง" เธอถามต่อ "โอเค ครับ"  เด็กชายตอบอย่างร่าเริงพร้อมหันมายิ้มให้  ดวงตาสีฟ้าใสพราวระยับรับกับผมสีทองอ่อนซึ่งยาวระต้นคอ "พรุ่งนี้ให้ผมออกไปข้างนอกอีกนะครับ" เด็กชายเอ่ยปากขออนุญาต  "ถ้าอากาศดีนะ"  เจเรมีหันไปมองหน้าต่างซึ่งมีหิมะสีขาวติดอยู่ตามขอบ

            ซุปร้อนๆควันกรุ่นเข้ากันได้ดีกับขนมปังอบใหม่ๆ ยาหลากสีคล้ายลูกกวาดหลายเม็ดถูกส่งให้เด็กชาย "อีกไม่นานผมก็จะหาย…..ใช่ไหมครับอายาอันนา"  เขาเงยหน้าขึ้นมาถาม "จ๊ะ"  ดวงตาสีเดียวกันของผู้เป็นอามีน้ำตารื้นขึ้นมา เธอจึงเสยกมือขึ้นลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ
       แสงดาวพราวพรายบนท้องฟ้าสีอมส้มที่สะท้อนแสงไฟของตัวเมืองนอกหน้าต่าง  เด็กชายในชุดนอนตบหมอนแล้วพึมพำเสียงเบา  "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คริสต์มาสปีนี้ขออย่าให้ซานต้าครอสมีงานยุ่งเลย  ลูกอยากพบเขาสักครั้ง" เขาภาวนาเช่นทุกวัน

                                                                                                                  *****************************
       
           เช้าวันนี้อากาศสดใส หิมะหยุดตกแล้ว เด็กๆวัยเดียวกับเขาหลายคนเริ่มปั้นตุ๊กตาหิมะกันอย่างสนุกสนาน  เด็กชายเดินก้มหน้าก้มตาอย่างไม่สนใจอะไร จนสายตาไปสะดุดเข้ากับของในตู้โชว์ นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยจ้องผ่านกระจกใสไปยังผ้าเช็ดหน้าลูกไม้สีขาวผืนงามซึ่งตั้งอยู่บนชั้นผ้ากำมะหยี่สีเข้มตัดกัน  เจเรมียืนอยู่เป็นนานจนเขานึกอะไรบางอย่างออก
       
           เด็กชายวิ่งตื๊อไปยังร้านขายของชำเล็กๆซึ่งอยู่หัวมุมถนนถัดไปทันที  เขาเคยใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนมาทำงานที่นี่อยู่พักหนึ่ง จนไม่สบายจึงจำต้องหยุดไป  

            ตู้โชว์หน้าร้านมีต้นคริสต์มาสสีเขียวสดประดับประดาด้วยเครื่องห้อยแขวนหลายสีต้นใหญ่พร้อมกล่องขนมชนิดต่างๆจัดวางเรียงกันอย่างสวยงาม ประตูไม้แขวนกระดิ่งเงินส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งเมื่อมีคนผลักเข้ามา  กระสอบแป้งขนมปังสองสามชนิดพิงอยู่ข้างๆฝาไม้  บรรดาเครื่องปรุงแห้งๆทั้งหลายแขวนกระจุกกันอยู่บนเพดานดูคล้ายเครื่องห้อยประดับสีสด  
       
           เครื่องกระป๋อง เครื่องปรุงรวมถึงสารพันข้าวของเครื่องใช้หลากหลายวางเรียงกันเป็นหมวดหมู่อยู่บนชั้นที่ติดกับผนัง คุกกี้ กับลูกกวาดแท่งในหีบห่อสวยงามตั้งเด่นอยู่หน้าร้านรอผู้มาเลือกซื้อ  "อ้าวเจเรมี หายดีแล้วเหรอ?"  คุณลุงไว้เคราท่าทางใจดีซึ่งนักอยู่หลังเคาท์เตอร์ด้านซ้ายมือทักขึ้น  
       
           "ครับลุงเอ็ดมันด์  ผมจะมาทำงาน"  เด็กชายบอกด้วยแววตามุ่งมั่น  เจ้าของร้านยิ้มให้อย่างเอ็นดู  "อยากได้ของขวัญวันคริสต์มาสละสิ"  เขาพยักหน้ารับพร้อมคำนวณราคากับค่าแรงในใจก่อนจะบอกกับชายผู้นั้น  "อย่างนี้ดีไหม?  ฉันจะเพิ่มค่าแรงให้อีกหน่อย ถ้าเธอทำงานที่นี่ครบหนึ่งสัปดาห์ก็จะเก็บเงินพอจะซื้อของที่เธออยากได้ทันคริสต์มาส" เด็กชายพยักหน้ารับอย่างยินดี
       
           เขาเริ่มลงมือทำงานตั้งแต่ทำความสะอาดร้านจนถึงจัดวางสินค้าต่างๆขึ้นชั้นพร้อมตรวจทาน  ซึ่งนับเป็นงานง่ายๆสำหรับเด็กอายุราว10-11 ปี 
       เย็นวันนั้นเด็กชายหัวเราะร่า เขากลับมาพร้อมเงินค่าแรงของวันแรก "ว่ายังไง วันนี้เราไปเล่นที่ไหน ยิ้มหน้าบานมาเชียว"  ผู้เป็นอาทักขึ้น  เจเรมีมองเธอที่กำลังเย็บผ้าแล้วส่ายศรีษะไปมา  "ความลับครับผม"  ยาอันนาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความแปลกใจ  "ความลับ?"  เด็กชายไม่ตอบอะไรเพียงรีบวิ่งเข้าห้องไป
           
           เจ้าตัวรื้อเอากระป๋องลูกกวาดเก่าคร่ำคร่าที่ซุกไว้อยู่ใต้เตียงออกมา  ก่อนจะหย่อนเงินที่ได้รับลงไป อีกหกวันเขาก็จะซื้อของขวัญให้อาได้แล้ว  เจเรมีกอดกระป๋องโลหะฟังเสียงเหรียญกระทบกันแล้วยิ้มพลางจินตนาการถึงวันที่ได้ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมา
       
           "เจเรมี อาหารเย็นพร้อมแล้วจ๊ะ"  เสียงเรียกดังขัดจังหวะความฝันของเด็กน้อย  เขารีบเก็บกระป๋องก่อนจะวิ่งออกไป

                                                                                                         **********************
       
           "ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า  ขอให้ปีนี้ซานต้าครอสมาหาผมด้วยนะครับ ผมอยากได้ของขวัญเป็นอะไรก็ได้สักอย่าง"  เจ้าตัวหลับตาพริ้มพลางอธิษฐาน  
       
           "พรึบ"
       
           เงาสีดำตัดผ่านหน้าต่างห้องนอนของเด็กชาย  เขาหันมามองด้วยความแปลกใจก่อนจะปิดไฟ  ข้างนอกนั้นขนนกสีดำสนิทราวราตรีปลิวว่อนปะปนกับหิมะอยู่ในสายลม

                                                                                                         ************************
       
           "ผมไปละครับ"  เด็กชายรีบออกจากบ้านก่อนผู้เป็นอา  ยาอันนามองตามร่างเล็กที่วิ่งไปอย่างร่าเริงจนหายลับไปในฝูงชนยามเช้า  เธอรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงอนาคต  หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็วก่อนจะหันกลับไปปิดประตูบ้าน  เธอเองก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเช่นกัน
       
           เด็กชายหยุดยืนดูผ้าเช็ดหน้าอย่างเคย  เมื่อพบว่ายังไม่มีใครมาซื้อมันไปเขายิ้มอย่างโล่งอกพร้อมกระซิบเบาๆ "ไม่นานฉันจะกลับมาซื้อแล้ว  เพราะงั้นช่วยรออีกหน่อยนะ"
       
           เจเรมีเดินผ่านร้านขายขนมหวาน  ลูกกวาดหลากสีสันแข่งกันอวดความสวยของตัวเองอยู่บนหิ้ง เด็กหลายคนกำลังหัวเราะอยู่กับเพื่อนๆพลางเคี้ยวลูกกวาดกรวมๆ  เขามองอมยิ้มลายสีแดงสลับขาวแล้วถอนหายใจก่อนจะเดินจากไป  
       
           เสียงเพลงแครอลดังออกมาจากร้านค้าที่เด็กชายเดินผ่าน  ท่วงทำนองทั้งหลายทั้งมวลผสมปนเปกันในอากาศ สายลมหนาวยะเยือกพัดผ่านมาบาดผิวกาย เด็กชายกระชับผ้าพันคอและเสื้อโคดให้แน่นเข้าอีก  เขายกมือขึ้นอังกับลมหายใจสีขาวรับไออุ่น
       
           กระจกบานใหญ่ของร้านอาหารสะท้อนเงาผู้คนที่กำลังเดินผ่านไปมา  เด็กหญิงในชุดกระโปรงสวยงามซึ่งนั่งติดกับกระจกกำลังเป่าลมหายใจรดจนเห็นเป็นฝ้าสีขาว  นิ้วเล็กๆขยับวาดเป็นรูปต้นสนบ้างสโนว์แมนบ้าง เธอมองดูผลงานของตัวเองก่อนจะหันไปหัวเราะเอิ้กอากกับพ่อแม่
       
           นัยน์ตาสีฟ้าใสจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยแววเศร้าสร้อย เกล็ดหิมะบางเบาตกลงมาต้องเรือนผมสีทอง สัมผัสใบหน้าอันอ่อนเยาว์คล้ายจะปลอบประโลม

                                                                                                    **********************
       
           ในที่ที่อากาศไม่เคยมีไออุ่น 
       
           ความมืด  ความเงียบเหงารายล้อมอยู่รอบตัว
       
           เขาซุกร่างปอนๆอยู่ตรงพื้นที่เล็กๆในมุมท่วมฝุ่น  ชุดที่เคยสะสวยของเขาขาดเปื่อยยุ่ยเพราะถูกแมลงกัดแทะ แถบสีเงินวาวตามขอบเสื้อและกางเกงหม่นหมองหลุดล่อนออกมา  
       
           เขาเฝ้าฝันมาตลอดว่า สักวันจะมีใครสักคนมารับเขาไปอยู่ด้วย  ให้โอกาสเขาได้ทำหน้าที่ของตุ๊กตาที่ดีด้วยการทำให้เจ้าของมีความสุขบ้าง 
       ตุ๊กตาทหารเฝ้ารอคอยถึงสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อใด  

            จะมีโอกาสเป็นจริงไหม?   

            แม้ไม่อาจรู้เลยว่าการรอคอยนี้จะจบลงเช่นไร สมหวัง….หรือเสียใจ
       
           เขาก็ยังยินดีจะเลือกหนทางสายนี้

                                                                                                       ********************
       
            โบสถ์ประจำเมืองยามนี้ถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัด  มีเพียงเสียงฝีเท้าคู่เล็กของเด็กชายที่เดินเข้ามา  ดอกคริสต์มาสสีแดงสดสวยตัดกับใบสีเขียวถูกประดับอยู่ตามมุมเสาและทางเดินทั้งสองด้าน  แท่นบูชาตรงกลางมีเทียนไขสีขาวจำนวนเก้าเล่มเรียงลดหลั่นกันไป  แสงเทียนของแปดในเก้าเล่มวูบไหวคล้ายกำลังเต้นรำ
       
           ด้านซ้ายเป็นต้นสนขนาดใหญ่เต็มไปด้วยสายรุ้งหลากสีสัน  เด็กชายคุกเข่าลงบนม้านั่งแถวหน้าสุด "ลูกไม่มีสิ่งใดจะนำมาถวายพระองค์  เพียงอยากขอให้อายาอันนา  ลุงเอ็ดมันด์ อัลเบิร์ต เฟรด  กับเพื่อนๆทุกคนมีความสุขตลอดไป  แล้วอย่าลืมพาซานต้ามาหาผมนะครับ"  
       
           อาทิตย์บนฟ้ากำลังจะลาลับดวง  เจเรมีเดินฮัมเพลงเบาๆอย่างร่าเริงพร้อมเขย่าเหรียญในกระเป๋าเสื้อเป็นจังหวะคลอไปด้วยกัน 
       
           "City sidewalks, busy sidewalks  .Dressed in holiday style. In the air .There's a feeling of Christmas .Children laughing ,People passing Meeting smile after smile And on every street corner you'll hear. Silver bells, silver bells .It's Christmas time in the city .Ring-a-ling, hear them sing Soon it will be Christmas day"

            ตุ๊กตาหิมะตัวอ้วนกลมยืนนิ่ง  ดวงตาที่ทำจากกระดุมอันโตส่องประกายเมื่อต้องแสง ผ้าพันคอสีเขียวสลับแดงปลิวไสวอยู่ในสายลมอย่างรื่นเริง หมวกทรงสูงสีดำถูกฉาบเคลือบด้วยหิมะเกือบทั้งใบ ปากสีแดงสดเผยอเล็กน้อยราวกับจะเอื้อนเอ่ยอะไรกับเขา
       
           กระดุมที่ทำจากลูกสนตกลงมากลิ้งโคโร่อยู่บนพื้น  เด็กชายก้มลงเก็บให้ก่อนจะติดมันกลับเข้าไปที่เดิม  เขาเอียงคอมองดูพร้อมยิ้ม  ดูเหมือนว่ามันจะยิ้มตอบเขาด้วยริมฝีปากสีสดนั้นเป็นการขอบคุณ 

            อึก!!

            เด็กชายยกมือขึ้นกุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด  "ฉันจะยังเป็นอะไรตอนนี้ไม่ได้"  เจ้าตัวกัดฟันยืนนิ่ง เมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ดูเหมือนว่าความเจ็บปวดนั้นจะบรรเทาลง  แต่ละก้าวที่ย่ำเดินดูเหมือนว่าหนทางกลับบ้านจะทอดยาวออกไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เด็กชายรู้สึกว่าเดินมานานเหลือเกินกว่าจะหยุดยืนหน้าประตูที่คุ้นเคย
       
           อากาศยามเย็นย่ำหนาวเหน็บกว่าปกติ  กลุ่มเมฆสีเทาหม่นมัวเคลื่อนตัวเข้ายึดครองท้องฟ้าบดบังแสงดาวพราวพรายของคืนเดือนมืดเอาไว้

            แกร๊ก!!
       
           เสียงเม็ดยาหลายสีในตลับตกกระจายเกลื่อนพื้นห้องนอน  พร้อมร่างของเด็กชายทรุดลงกับเตียง  "อีกแค่วันเดียวเท่านั้น  วันสุดท้ายแล้ว"  เจเรมีพยายามยันตัวลุกขึ้น  มือเล็กกำยาเอาไว้แน่น  "พระผู้เป็นเจ้าได้โปรด…..ช่วยลูก"  เขาพึมพำเบาๆ  แต่ดูเหมือนว่าคำอธิฐานของเด็กชายจะส่งไปไม่ถึงสรวงสวรรค์ สายลมภายนอกพัดแรงพาลบเลือนไป

                                                                                                    *************************
       
           เธอ…….ยืนอยู่ที่นั่นท่ามกลางผู้คน
       
           ทว่า……ไม่มีใครสัมผัสได้เลย
       
           เงาสีดำโดดเดี่ยวตัดกับหิมะซึ่งพร่างพรมลงมาราวฝนพรำ 
       
           ใบหน้าอ่อนเยาว์งดงาม  ริมฝีปากสีชมพูอ่อนรับกับผิวขาวดุจหิมะ  หากดวงตาสีดำลึกแฝงแววเศร้า  เด็กหญิงก้มลงปัดเกล็ดสีขาวติดอยู่ตามระบายลูกไม้ตรงชายชุดฟูฟ่องสีดำ  เธอสะบัดศรีษะไปมาเป็นการไล่วัตถุบางเบาที่ยังติดอยู่ตามโบว์และเส้นผมสีดำยาว  ร่างบางเดินสวนกับผู้คนมากมายบนทางเท้าแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย 
        
           เด็กหญิงเดินเรื่อยๆคล้ายไม่มีจุดหมาย รองเท้าย่ำลงบนหิมะสีขาว ก้าวแล้วก้าวเล่า นำพาร่างสีดำมาจนถึงจตุรัสกลางเมืองที่บัดนี้มีต้นตริสต์มาสต้นใหญ่ประดับประดาอย่างงดงามตั้งตระหง่าน แสงไฟกระพริบวิบวับราวกับไม่แยแสต่อความหนาวยะเยือกรอบด้าน
       
           นกสีเข้มตัวจ้อยบินมาเกาะบ่าเธอพร้อมส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วคล้ายจะพูดคุยกับเธอก่อนบินถลาขึ้นไปบนอากาศรอบต้นคริสต์มาสด้วยความสนอกสนใจ  เด็กหญิงอมยิ้มเล็กน้อย  
       
           "เราไปเดินเล่นกันเถอะ ดาร์ก" 

                                                                                               ***************************
       
           กลิ่นหอมของอาหาร  ความอบอุ่น  และแสงสว่างที่ล้อมอยู่อยู่รอบตัวเขาค่อยๆแทรกซึมผ่านความมืดเข้ามา  เด็กชายกระพริบตาถี่ๆปรับให้ภาพพร่าเลือนตรงหน้าแจ่มชัดขึ้น  ยาอันนากำลังจับมือของเขาไว้พร้อมรอยยิ้ม
       
           "ไม่เป็นอะไรแล้วนะ"  เธอถามเสียงเครือ ดวงตาสีฟ้าแดงก่ำ หญิงสาวกอดเขาพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก  "ไม่เป็นอะไรแล้วครับ"  เจเรมีตอบด้วยเสียงเบา
       
           "จ๊ะ  งั้นอาไปทำงานก่อนนะ"  ยาอันนาคลายอ้อมกอดพร้อมหันไปหยิบแก้วน้ำมาให้  เด็กชายยิ้มด้วยริมฝีปากซีดเซียวแล้วเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง  
       
           "เดี๋ยวผมก็จะ…"
       
           "ไปไหนไม่ได้นะ เจเรมี"  ผู้เป็นอาส่ายหน้าปรามเสียงเข้ม
       
           "แต่ผม……" เด็กชายทำท่าเหมือนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ทรุดลงไปอีก  หญิงสาวผวาเข้าหา  เธอลูบศรีษะเขาเบาๆ  "พักเถอะ จะคริสต์มาสแล้ว"

            ยาอันนาเตรียมอาหารและยาไว้ให้ผู้เป็นหลานก่อนจะออกไปทำงาน   แม้ใจจริงเธอจะเป็นห่วงเด็กชาย อยากอยู่ดูแลเขาเพียงใด  หากทำงานในวันเทศกาลแบบนี้จะได้รับค่าแรงเป็นสองเท่า นั่นก็หมายความว่าอาจมีเงินเพียงพอรักษาหลานชาย
       
           แม้เธอจะมองไม่เห็นอนาคตอะไร แต่ก็ยังพยายามสุดความสามารถเพื่อยื้อเวลาของผู้เป็นที่รักเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
       
           เด็กชายนั่งนิ่งอยู่บนเตียงโดยมีกระป๋องใส่เงินอยู่ในอ้อมกอด  "วันสุดท้ายแล้ว"  เขากำมือแน่น "ทำไมกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเป็นเด็กดีไม่พองั้นหรือ" พรายน้ำในดวงตาสีฟ้าไหวระยับ เจเรมีมองขึ้นไปบนฟ้าที่อยู่นอกหน้าต่างด้วยแววตาตัดพ้อ
       
           เจ็บ…..ในอก

            รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกิน
       
           คอยเป็นภาระให้กับผู้อื่นอยู่เรื่อยไป
       
            เด็กชายฝืนลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากเย็นก่อนจะรีบแต่งตัวในชุดกันหนาว  เขาเทเงินเก็บจากการทำงานทั้งหมดใส่กระเป๋าของเสื้อโคดหนา  ดวงตาปรากฏแววมุ่งมั่น

                                                                                                                ***********************
       
           วันนี้ตัวเมืองแลดูแตกต่างไปจากทุกวัน  บรรยากาศอบอวลไปด้วยความมีชีวิตชีวาและความรื่นเริงของเทศกาลคริสต์มาส เสียงหัวเราะ ระฆัง และบทเพลงสะท้อนก้องไปในอากาศ
       
           กริ๊ก
       
           ประตูหน้าร้านขายตุ๊กตาเล็กๆถูกเปิดออก หญิงชราซึ่งกำลังนั่งเอกเขนกบนเก้าอี้โยกจ้องมองด้วยท่าทางสงสัยเมื่อผู้ที่เดินเข้ามาคือเด็กหญิงในชุดสีดำสนิท
       
           "จะมาซื้อตุ๊กตาใช่ไหม  เสียใจด้วยนะฉันขายไปหมดแล้ว"  หญิงชรากล่าว "ยังมีอีก" คำพูดสั้นๆชวนงุนงง "ตุ๊กตาทหาร"  เด็กหญิงเอ่ยต่อ นางกลอกตาไปมานิ่งคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะทำท่านึกอะไรได้จึงรีบเดินกลับเข้าไปหลังร้านทิ้งให้เด็กหญิงอยู่ตามลำพังท่ามกลางชั้นวางของโล่งว่าง
       
           หญิงชรากลับออกมาอีกครั้งพร้อมตุ๊กตาเปื้อนฝุ่นในมือ  "เธอ…อยากได้มันจริงๆเหรอ"  นางถาม  ดวงตาที่ทำจากกระดุมสีดำเปล่งประกายสดใสอย่างมีความหวัง  เด็กหญิงพยักหน้าเป็นการยืนยัน  "ตุ๊กตาตัวนี้ก็โทรมเต็มที นี่ถ้าไม่มีใครมาเตือนฉันคงลืมมันไปแล้วล่ะ  จะขายก็ไม่ออก เอาเป็นว่ายกให้เธอก็แล้วกัน"  หญิงชรายิ้มให้  "Merry Christmas"

            ริมฝีปากสีชมพูสวยเผยอยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน  รอยยิ้มที่งดงามราวนางฟ้า  "ขอบคุณ"  เสียงหวานใสล่องลอยอยู่ในอากาศ 
       
           "ขอโทษครับ"  ชายไว้เคราท่าทางใจดีผลุนผลันเข้ามาอย่างร้อนใจ  "มีอะไรหรือคะ" หญิงชราเอ่ยเมื่อลูกค้าท่าทางแปลกๆเข้ามาเยี่ยมเยือนร้านเป็นรายที่สองของวัน  "ที่นี่พอจะมีตุ๊กตาหรือของเล่นเด็กผู้ชายไหมครับ"  นางส่ายหน้า  "ฉันพึ่งขายตุ๊กตาตัวสุดท้ายไปเมื่อครู่นี้เอง" เอ็ดมันด์กล่าวขอบคุณ ขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากร้านสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นลูกแก้วอันเล็กๆวางอยู่
       
           ภายในลูกแก้วเป็นเมืองจำลองขนาดจิ๋วที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ฐานของมันนูนขึ้นเป็นรูปสโนว์แมนบ้าง ต้นสนบ้างแต่งแต้มสีสันสวยงาม ชายวัยกลางคนจึงยิ้มออก

                                                                                                   *********************

            แสงไฟหลากสีสันกระพริบอยู่นอกหน้าต่างราวแข่งประชันกับแสงดาววิบวับในคืนฟ้าใส  ค่ำคืนแห่งความสุขความยินดีที่เมื่อหลายพันปีก่อนพระคริสต์ได้จุติลงมาบนโลกพร้อมนำพาความรักและพระพรของพระผู้เป็นเจ้าลงมาจากสรวงสวรรค์เพื่อมอบแด่มวลมนุษย์

            เด็กชายทอดตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง  ดวงหน้าดูซีดเซียวกว่าที่เคย  แว่วเสียงเพลงแครอลจากภายนอกดังเข้ามาเป็นระยะ
       
           วิ้ง
       
           เจเรมีหันมองต้นเสียงอย่างแปลกใจ  เขาพบว่าข้างเตียงปรากฏร่างเด็กผู้หญิงสวมชุดดำคนหนึ่ง
      เธอดูสวยงามราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบชั้นดี และในอ้อมแขนเธอเป็นตุ๊กตาทหารยัดนุ่นตัวหนึ่ง  นัยน์ตาสีดำของมันจ้องมาที่เขาด้วยความสงสัย
       
           "นางฟ้า"  เด็กชายพึมพำเบาๆ  "แล้วซานต้าละครับ  ซานต้ามาด้วยหรือเปล่า"  เขาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เด็กหญิงส่ายศรีษะแทนคำตอบ  ใบหน้าของเจเรมีสลดลง  "แต่เขาฝากฉันเอานี่มาให้เธอ" 
       
           เด็กหญิงเอ่ยพร้อมยื่นสิ่งที่อยู่ในมือให้  เด็กชายมองอย่างไม่เชื่อสายตา ตุ๊กตาทหารคล้ายยื่นมือปุปะออกมา  ใบหน้ากลมๆส่งรอยยิ้มน่าขัน  ดวงตาสีดำสนิทมีประกายคล้ายรอให้เขายื่นมือมาโอบอุ้มมัน  
       
           เด็กชายตัวน้อยรับตุ๊กตามากอดไว้ด้วยความดีใจ  เขาสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างเล็ก แขนโทรมๆเหมือนจะโอบกอดเขาตอบ ปากเล็กสีแดงอ่อนส่งยิ้มให้เด็กหญิงแทนคำขอบคุณ
       
           "ขอบคุณครับ"
       
           ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่กำลังยิ้มให้เขานั้นดูงดงาม  แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเศร้าสร้อยอย่างน่าประหลาด
       
           เด็กชายค่อยๆหลับตาลงพร้อมตุ๊กตาในอ้อมแขนด้วยความสุข  สายลมหนาวพัดพาเสียงเพลงจากโบสถ์เล็ดลอดเข้ามา 

                "Away in a manger, no crib for a bed,

           The little Lord Jesus laid down his sweet head.

           The stars in the bright sky looked down where he lay,

           The little Lord Jesus asleep on the hay. 

            The cattle are lowing, the baby awakes,

           But little Lord Jesus no crying he makes.

           I love thee, Lord Jesus! Look down from the sky,

           And stay by my side until morning is nigh. 
       
           Be near me Lord Jesus,

           I ask thee to stay.

            Close by me forever,

           And love my I pray. 
       
           Bless all the dear children,

           In thy tender care.

           And take them to heaven,

           To be with thee there. "
       
           เด็กหญิงทำหน้าเศร้า "ฉัน……คงทำอะไรให้ได้แค่เพียงเท่านี้  ขอโทษด้วยนะ"  เธอมองเด็กน้อยที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง  เขาดูสงบคล้ายตกอยู่ในนิทรารมย์อันงดงาม  "แต่ยังไงก็ขอให้เธอนั้น…..หลับฝันดี"  
       
           ร่างสีดำค่อยๆจางไปเป็นละอองแสงก่อนจะแตกกระจายพร่างพรมลงบนร่างของเด็กชายอย่างแผ่วเบา

                                                                                                                  *****************
       
           เสียงเพลงดังลอดออดมาจากบ้านเรือนสองข้างทาง  แสงไฟและดวงดาวที่ถูกประดับประดาอาคารร้านร่วงกระพริบไหว  เสียงระฆังเงินดังแผ่วๆ ขณะที่หญิงสาวก้าวเท้าอย่างรีบเร่งเพื่อให้ทันฉลองคริสต์มาสกับหลานชาย
       
           "ยาอันนา"  เสียงเรียกดังจนทำให้เธอสะดุ้ง  ชายวัยกลางคนที่หนวดสีน้ำตาลจับหิมะขาวโพลนกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ  ครั้นเห็นว่าเป็นคนรู้จักหญิงสาวจึงหยุดเดิน  
       
           "มีอะไรหรือคะ"

            ในมือเขาคือห่อของขวัญเล็กๆสองห่อ  "ฝากนี่ไปให้เจเรมีด้วย"  เอ็ดมันด์ยื่นห่อหนึ่งให้เธอ  "ส่วนนี่ Merry Christmas  ยาอันนา"  เจ้าของชื่อมองห่อของขวัญทั้งสอง  "ฉันต้องรีบไปแล้วเดี๋ยวรีเบคก้าจะงอนเอา"  ชายวัยกลางคนยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี 
       
           "Merry Christmasค่ะ"
       
           ยาอันนาตะโกนไล่หลัง  เสียงของเธอสะท้อนไปตามถนนโล่งกว้าง  เอ็ดมันด์หันกลับมาโบกมือให้ก่อนลับมุมถนนไป

                                                                                                             ******************
       
           "วาลียา"  เสียงเบาดังมาจากนกสีดำที่เกาะอยู่บนบ่า เด็กหญิงหันมายิ้มให้มัน ดวงตาสีดำคล้ายมีน้ำไหวระริก  นกตัวนั้นใช้ปากแตะแก้มเธอเบาๆเป็นการปลอบใจ "อย่างน้อย เขาก็หลับไปอย่างมีความสุข แค่นั้น……..ก็น่าจะพอแล้ว"  
       
           "ถ้าฉันยังเป็นนางฟ้า ก็คงพอจะช่วยเขาได้" วาลียาจิกเล็บแน่น  "คงจะต่อเวลาให้เขาได้…..สักนิด" หิมะสีขาวหมุนกายร่ายรำอยู่รอบๆตัวเธอคล้ายช่วยปลอบใจ  


                                                                                                      *****************************
       
           บนโต๊ะกลมกลางห้องนั่งเล่น  ลูกกวาดและช็อกโกแลตแท่งหลายชนิดสะท้อนแสงไฟอวดความสวยงามของตนอย่างเต็มที่  การ์ดคริสต์มาสที่เด็กชายลงมือทำด้วยตนเองถูกวางทับไว้ใต้กองขนมหวานเหล่านั้น  ยาอันนามองด้วยความแปลกใจก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอ่าน  
       
           "Wishing  you a  Merry Christmas" 
       
           ตัวอักษรสีแดงสลับเขียวถูกเขียนด้วยลายมือโย้เย้เล็กน้อย  เธอยิ้มก่อนจะนำมันใส่ไว้รวมการ์ดที่เด็กชายเคยทำให้ปีก่อนๆในกล่องอย่างดี 
       
           หญิงสาวเคาะประตูห้องของเจเรมี  ครั้นไม่มีเสียงตอบเธอจึงค่อยๆแง้มบานประตูเข้าไป  เด็กชายพริ้มตาหลับอยู่บนเตียง  ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มน้อยๆอย่างเป็นสุขราวกับเจ้าตัวกำลังฝันดี  

            "Merry Christmas จ๊ะ เจเรมี"
       
           ยาอันนากระซิบเบาๆด้วยกลัวว่าเด็กชายจะตื่น  เธอลูบผมนิ่มแล้วโน้มตัวลงหอมแก้มเขา  
       
           ความเย็นยะเยียบดุจหิมะค่อยๆแผ่เข้ามาเกาะกุมหัวใจ
       
           หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างผู้เป็นหลาน
       
           เมื่อเธอก้มหน้าลงหยดน้ำในดวงตาพรั่งพรูลงมาราวฝนพรำ
       

      -----------------------------------------------------
        ลงช้าไปนิดนึงค่ะ แต่ยังไงก็  Merry  Christmas  นะคะ  คุณ Ake  cramsky  ฟางน้อย บีจัง และทุกๆท่าน  ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
      ป.ล. ถ้าใครหาเพลง Final Fantasy (Christmas Version)  มาฟังประกอบ น่าจะได้อารมณ์นะ
          

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×