ลูคาสทา เมย์ เวอร์น่า - นิยาย ลูคาสทา เมย์ เวอร์น่า : Dek-D.com - Writer
×

    ลูคาสทา เมย์ เวอร์น่า

    เธอตืนขึ้นและไม่รู้ว่าที่ที่เธออยู่คือที่ไหน?โลกที่เธอนึกว่ามีแต่ในนิยายเท่านั้น จากที่เป็นหญิงสาวธรรมดาที่ทำงานในบริษัทเอกชน ต้องกลายมาเป็นบุคคลสำคัญของอานาจักรที่เหมือนในเทพนิยายเธอจะต้องทำยังไง..

    ผู้เข้าชมรวม

    41

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    41

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.ค. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

        จิ๊บ..จิ้บ เสียงของนาฬิกาที่หัวเตียงที่กำลังทำงาน...

    ไม่สิ! เสียงนก?นกที่ไหน?

    ชั้นค่อยๆกระพริบตาและลืมตาตืนในที่สุด เมื่อมองไปรอบๆโดยที่ยังไม่ลุกจากเตียง ก็ต้องขมวดคิ้วเพราะมันไม่มีอะไรซักอย่างที่บอกว่าเป็นห้องของตัวเอง  มันเป็นห้องที่ใหญ่โตหรูหรา มีโต๊ะตู้กระจกที่ดูอลังกา  เตียงที่มีขนาดใหญ่ขนาดว่านอนสี่คนได้สบายๆ หน้าต่างบานใหญ่ที่มีมานสีขาวโปรง ที่กำลังสะบัดไปกับสายลมเอื่อยๆ อาการที่ไม่ร้อนและเย็นจนเกินไปทำให้ไม่ต้องอาศัยแอร์คอนดิชั่น   ชั้นค่อยๆยันตัวลุกขึ้น นั่งอย่างช้าๆ..และมองไปรอบๆ  

     

                    แปลกจริง..ทำไมเหมือนไม่มีแรงอย่างนี้ล่ะ..

     

    สายตาของชั้นไปสะดุดกับ รูปวาดหญิงสาวที่มีใบหน้าอ่อนหวานรอยยิ้มที่มองสบายตาเส้นผมสีดำสนิดและนันตาสีเขียวมรกตใส  

     

    อึม....น่าจะเป็นเจ้าของห้องนี้สินะ สวยอะสวย

     

    ระหว่างที่มองดูรูปของผู้หญิงคนนั้น ชั้นก็เริ่มทบทวนสิงที่เกิดขึ้นกับชั้นเมื่อวาน  ชั้นจำได้ว่าชั้นกลับจากการทำงานและรถที่แสนติดในเมืองหลวงทำให้เหนื่อยถึงกับหมดแรง อาบน้ำและเข้านอนในคอนโดของชั้น ที่ที่ชั้นสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

    ก็ได้! แม่ช้วยดาวให้ครึ่งหนึงก็ได้!....

    แต่กลับห้องมาแล้วนี่?..แล้วชั้นมานอนทำบ้าอะไรที่นี้!!

     

    ความคิดของชั้นต้องหยุดลงเมื่อมีเสียงประตูเปิดเข้ามา เมื่อหันไปมอกก็ต้องขมวดคิ้วอีกรอบ เมื่อคนที่เข้ามาเป็นหญิงสาวอยู่ในชุด..

    จะอธิบายยังไงดีล่ะ ... เหมือนพวกที่ชอบแต่งคอสเพล  พวกชุดสาวใช้อะไรอย่างนั้น  แต่ว่ากระโปรงของเธอยาวถึงข้อท้าวได้  

    เธอมองมาที่ชั้นด้วยสายตาที่เปิกกว้าง เหมือนดีใจและตกใจไปพร้อมๆกัน จากนั้นก็เข้ามาประคองแล้วพูดภาษาอะไรที่ชั้นไม่เข้าใจเลยสักนิด เธอคนนั้นเข้ามาจัดหมอนหนุนหลังให้เพื่อชั้นจะนั่งได้สบายๆ  จากนั้นก็สำหรวจชั้นด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับพูดอะไรที่ชั้นฟังไม่รู้เรือง แต่พอจะอ้าปากถามเธอคนนั้นก็วิ้งออกไปที่ประตูพร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง

     

     เดี๋ยวนะ!ภาษาอะไรน่ะ ไม่ใช้ทั้งอังกฤษและดัตซ์ จะว่าเป็นโซนเอเชียก็ไม่ใช้  

     

    ชั้นจมอยู่ในความสงใสไม่นาน  ก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนึงวิ่งถลาเข้ามาในห้อง   แล้วยืนนิ่งที่หน้าเตียงชั้นด้วยสีหน้าที่หลากหลายอารมณ์มากๆ  ชั้นเลยได้พิจรณาชายคนนั้นไปด้วย ใบหน้าคมคายที่มองยังไงก็เป็นซุปตาได้สบายๆ   เส้นผมสีดำสนิดและดวงตาสีเขียวมรกตที่ถอดพิมพ์มาเหมือนผู้หญิงในรูปแป๊ะ   

    ไม่ต้องใช้ความคิดก็รู้วาต้องเป็นพี่น้องหรือไม่ก็ญาติกับคนในรูปแน่ๆ   ไม่นานนั้กก็เห็น ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาด้วยฝีท้าวที่เร่งรีบ ตามมาด้วยหญิงที่วัยไกล้เคียงกัน   ลักษณะของชายกลางคนที่พึ่งเข้ามาในห้องมีสวนคล้ายกับชายหนุ่มที่พึ่งเข้ามาก่อนหน้านั้น   สีของดวงตาของพวกเค้าเป็นสีเดียวกัน  สีเขียวมรกตที่สวยงาม  

     ถึงจะมองรู้ว่าอายุคงมากแล้วแต่ก็ยังดูดีถึงดีมาก   ตอนหนุ่มๆคุณลุงคนนี้น่าจะหล่อเข้มน่าดู   จากการสังเกต พวกเค้าน่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ความหล่อที่แตกต่างกันอยู่บ้าง  ชายหนุ่มคนนั้นหล่อ  แต่หล่อแบบคุณชายสูงศักดิ์  ดวงหน้าดูละมุนกว่า   ซึ่งพอลองมองแล้วความละมุนและเค้าโครงหน้าของชายคนนั้น เหมื่อนกับหญิงวัยหลางคนที่พึ่งเข้ามา ดวงหน้าที่หวานและดูอบอุ่นใจเมื่อได้อยู่ไกล้ๆ  ความงามแบบเจ้าหญิงเกินจินตนาการ

     

     แม่เจ้า!!!เกิดมาด้วยอะไรค้า...จะหล่อสวยกันไปไหน..

    พันธุกรรมชนะเลิศ ค้า .

     

    พวกเค้ามองชั้นด้วยสายตาที่ปิติยินดี  ชั้นได้แต่มองพวกเค้าอย่างสงใส  แล้วก็ส่งยิ้มบางๆไปเป็นการทักทายก่อน

      แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ถลาเข้ามากกอดชั้นด้วยน้ำตา  แล้วพูดอะไรอีกมากมายโดยที่ชั้นไม่สามารถจะเข้าใจได้   แต่พอชั้นจะอ้าปากถามคนเหล่านั้น กลับไม่สามารถเปร่งเสียงได้  เมื่อเห็นท่าทางที่อยากจะพูดของชั้นแล้วไม่สามารถพูดได้ ต่างคนก็ตางมองหน้ากัน   ชายคนที่มีอายุมากที่สุดก็หันไปพูดคุยอะไรกับสาวใช้ที่เข้ามาตอนแรก  แล้วเธอคนนั้นก็รีบวิ้งออกจากห้องไป  จากนั้นชายวัยกลางคนก็เข้ามากอดและลูบหัวชั้นอย่างอ่อนโยน  แล้วชายหนุ่มที่ชั้นคิดว่าเป็นพี่ หรือน้อง ของเจ้าของรูป ก็เข้ามากอดและหอมแก้มชั้น   ชั้นไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่หนีการกอดและสัมผัสของคนแปลกหน้า  ทั้งที่ก่อนหน้านั้นชั้นเป็นคนที่ไม่ยอมแตะต้องตัวใครง่ายๆนอกจากคนในครอบครัว 

    บุคคลทั้งสามและสาวใช้อีก หนึ่งหองทัพ..ยังคงอยู่ในห้องที่ชั้นอยู่   ชั้นเองก็งงไปหมดไม่สามารถบอกหรือสื่อสารกับใครได้   ได้แต่ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามและหวาดหวั่น ไปหาหญิงวัยกลางคนคนนั้น   หญิงคนนั้นได้แต่กอดชั้นเอาไว้และพยายามพูดอะไรอีกมากมาย   ซึ่งชั้นสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่มากับสายตาและน้ำเสียงของพวกเค้า

     มันเดาได้ไม่ยากเลยว่านี้เป็นอารมณ์ของคนที่เป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง คนในครอบครัว  ที่กำลังปลอบใจซึ่งกันและกัน   ระหว่าที่กำลังสับสนอยู่นั้น ชั้นก็ขอสรุปเข้าข้างตัวเองไปก่อนว่าฝันอยู่แล้วกัน  ด้วยความเป็นคนที่ไม่อยากคิดอะไรมาก  ในเมื่อที่นี่ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร   ถ้าอย่างนั้นอีกเดี๋ยวนาฬิกาที่ตั้งไว้คงปลุกเองนั้นแหละ 

     ในระหว่างที่คิดแบบนั้น   ก็มีบรรดาสาวใช้ เข้ามาจัดการเช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้   ชั้นพยายามจะห้ามพวกเธอเหล่านั้นแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะชั้นเหมือนกับไม่มีเรี่ยวแรงอะไรเลย  คุณเคยเป็นไหม๊ ? เหมือนเวลาอยู่ในความฝันแบบขยับตัวไม่ค่อยได้ดั่งใจอะ  ชั้นก็เลยสรุปกับตัวเองว่าฝันไง   เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วสาวใช้คนกนึงก็ยื้น กระจกมาให้ชั้นตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองเป็นแน่  แต่เมื่อมองเงาที่สะท้อนในกระจกชั้นก็ได้แต่เปิกตากว้าง  และพิจรณาคนในกระจดอย่างไม่เชื่อสายตา  

     

    ให้ตายสิ!!

    เงาที่สะท้อนกลับมามันเป็นหญิงสาวที่อยู่ในรูป  รูปใบใหญ่ที่อยู่กลางห้องน่ะสิ   นี่มันไม่ใช่เงาของชั้นเงาของผู้หญิงคนนึงที่หน้าตาธรรมดาๆ  ดีตรงที่ชั้นมีตาสองชั้นที่กลมโตสวยพอไปวัดไปวากับเค้าได้บ้าง   

     

    นี้ชั้นอยากสวยถึงกับเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะเลยเหรอเนี้ย

     

    พอพวกสาวใช้เห็นสีหน้าของชั้นก็เข้ามาทำท่าว่าจะทำผมทรงใหม่ให้ ชั้นเลยต้องยิ้มให้อย่างอ่อนโยนพร้อมกันส่ายหน้าให้กับเธอเหล่านั้น แล้วซุบอุ่นๆก็มาอยู่ตรงหน้า  ในเวลานี้ชั้นถึงรู้สึกว่าท้องของชั้นต้องการสารอาหาร

     

    เอาน่ะ..ลองตามน้ำไปดูสักตั้ง ถ้าพูดไม่ได้จริงๆก็ทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้ไปซะก็สิ้นเรื่อง  ไหนๆก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่แล้วนี่

     

    ในระหว่างที่คุณป้าใจดีป้อนซุบให้ชั้นเงียบๆ   ซึ่งชั้นเองจมอยู่ในความคิดอยู่ของตัวเองอยู่  ก็มีคนมาแจ้วข่าวอะไรสักอย่างให้กับคุณลุงใจดีที่ดูท่าว่าจะเป็นเจ้าของปราสาท  แล้วจากนั้นคุณลุงคนนั้นก็รีบออกจากห้องไป 

    ชั้นได้แต่มองตามความเครื่องไหวต่างๆไปเรื่อยๆ   ในระหว่างนั้นชั้นก็รู้สึกได้ว่าตนเองมีกำลังมากขึ้นจนน่าจะสามารถขยับลุกได้แล้ว  แต่ก็แปลกทำไมชั้นถึงรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่รู้สึกได้ว่า เหมือนมีพลังบางอย่างที่มีแรงกดดันมากมาย   เป็นแรงกดดันที่มีรัศมีเป็นวงกว้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่ดี....เป็นพลังที่เหมือน....ไอร้อนของแดดที่มาพร้อมกับสายลมในช่วงหน้าร้อน...เป็นความร้อนของดวงอาทิตย์ แต่อบอุ่น...

     

       

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น