ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระสนมโจ่วจิงชวู่ BaekDo

    ลำดับตอนที่ #7 : ชานเมือง100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 61


    B
    E
    R
    L
    I
    N
          
    #ชานเมือง

                   ห่อผ้าสีดำที่มีเสื้อผ้าอยู่ไม่มากนัก พอใช้เปลี่ยนตอนออกเที่ยวนอกวังตามประสาคนหาที่สงบ ร่างสูงกระโดดขึ้นขี่ม้าสีดำคู่ใจ ไปแบบที่ไม่ได้บอกใครล่วงหน้า ไปกันแค่สองคนกับเฉิน เทศกาลชมดอกไม้นอกเมื่องกำลังจะจัดเริ่ม อยากไปเยี่ยมประชาชน ว่าจะสนุกกันขนาดไหน ยกยิ้มก่อนจะควบม้าออกจากพระราชวัง เสื้อคลุมสะพริวตามแรงลมส่ง ดอกไม้สีต่างผลัดใบขึ้นสวยตามทาง 

    "หมู่บ้านข้างหน้า มีผลไม้ขึ้นชื่อนะขอรับ"     ขันทีเฉินกล่าว หลังจากควบม้าตามพระองค์ แล้วชะลอม้า

    "ผลอะไรล่ะ"     หน้าคมหันกลับไปมอง 

    "ลิ้นจีพะยะค่ะ ฮ่าๆ"    รอยยิ้มจนตาปิดของขันที  ก่อนจะยิ้มพร้อมหัวเราะในลำคอ

    "เจ้าก็รู้ว่าข้า ไม่ชอบลิ้นจี"      ก่อนจะควบม้าช้าๆ เพราะเข้าเขตชุมชน

    "หม่อมชั้น อยากแกล้งพะยะค่ะ"     ขันขีเฉินควบม้าตาม

    "เข้าเขตชุมชนแล้ว ไม่นับยศนะ เรามาแบบเงียบๆ"   สายตาหันกลับไปมองคนที่ควบม้าอยู่ข้างๆ

    "รับทราบพะยะค่ะ"   ก่อนจะเอามือปิดปากตัวเอง เพราะหลุด

    "..."     จะรอดไหมเนี้ย ถึงขันทีเฉินจะเป็นแบบนี้ ฝีมือดาบนั้นใช่ย่อยเชียวนะ ค่อนข้างที่จะผ่านมาเยอะเช่นเดียวกัน เพราะไม่แต่ล่ะที่ก็เอาตัวรอดและชนะมาได้ทุกครั้ง

                   ตาคมมองไปที่ข้างถนน ร้านเล็กๆตั้งขายของทั้งของกินพื้นบ้าน เครื่องประดับต่างๆ เสียงร้องเพลงพื้นที่ดังขึ้นเป็นระยะ ชาวเริ่มจัดเตรียมสถานที เตรียมงานที่จะเริ่มขึ้น ในตอนเย็น ซึ้งแต่ละปีจะมีเพียงครั้งเดียว ตาคมเฉียดมองปิ่นปักผมไม้เกะสลักเป็นรูปนกเกาะบนกิ่งต้นเหมย น่ารักดีแฮะ  ภาพของผู้หญิงน่าตาน่ารักแทรกเข้าวูบหนึ่ง ใบหน้าน่ารัก ที่ทำให้นึกถึงอยู่เสมอ เจ้านี่นะ เข้ามาในความคิดข้าบ่อยเสียจน ข้าตัดใจจากเจ้าไม่ได้... โจ่วจิงชวู่ ร่างสูงกระโดดลงจากม้าหยิบปิ่นผมไม้นั่นมา 
    มันจะเหมาะกับเจ้าได้ยังไง ก็ในเมื่อ..... มันเป็นแค่ไม้ธรรมดา เจ้าต้องคู่ควรกับเพรชพลอยเครื่องทอง ในวังหลวงที่ใหญ่โต นั้นมันก็เหมาะสมกับเจ้ามากเลยล่ะ 

    "ชิ้นนี้ ราคาเท่าไหร่"     ตาคมละสายตาจากปิ่นมองหน้าพ่อค้า ที่กำลังยิ้มแย้มจนแก้มจะแตก ไม่อะไรหรอก พ่อค้าอ้วนน่ะ พ่อค้าได้บอกราคา ร่างสูงเพียงจ่ายตามที่พ่อค้าบอกอย่างพอดีก็รับปิ่นไม้ซ้อนไว้ข้างในเสื้อตัวใน คิดภาพตามจิตมโนให้เห็นถึงภาพใบหน้าหวานปักปิ่นของเขาเอง ช่างเข้ากันเสียจริง


    ---ต่อ---

                   มือเล็กจัดชุดที่สามารถใส่ไปด้านนอกได้  ให้เหมือนคนสามัญ ผมที่ปล่อยยาว นางกำนัลค่อยช่วยจัดเตรียมข้าวของ 

    "คุณหนู แน่ใจแล้วหรือเพคะ ที่จะออกไปข้างนอก"  มือของผู้พูด เขามาประคองแขน

    "หื้ออ ฮ่าๆ ท่านพี่ข้าไปกับท่านและซื่อชุน ข้าก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลย"   รอยยิ้มเล็กๆของพระนาง สิ่งที่ควรทำย่อมมาก่อนความกลัวไม่ใช่หรือ บ้านของนางกำนัลทุกคนย่อมมีคนที่อยู่ด้านหลัง รอค่อยการกลับบ้าน หากนายละทิ้ง ใครเขาจะอยากให้ลูกมากันเล่า ปากผู้คนด้านนอก ชึ้งเล่าต่อกันมา ในเมื่องนั้นน่ากลัวยิ่งนัก ลูกขุ่นนางชั้นผู้ใหญ่ยิ่งแตะต้องไมได้ ความเจริญในวังหลวง ย่อมมีสิ่งที่โหดร้ายนั้นอยู่ข้างหลังซึ่งข้าก็ได้พบมาแล้ว....

    มือเล็กหยิบเอาเสื้อคลุมสีดำที่องค์รัชทายาทเคยเอาไว้ให้คลุมเมื่อครั้งนั้น เข้ามาสวมชุดสีหวานทับด้วยเสื้อคลุมลายมังกร กลับทำให้คนตัวเล็กดูน่าเคารพขึ้นไปอีก

      
    "เราไปกันเถอะ  ท่านพี่ หากช้า เดี๋ยวค่ำเร็ว"   ขาเล็กก้าวมาเร่ง ออกจากพระตำหนัก 
    มือเรียวของนางกำนัลคนสนิทสะพายสะเบี่ยงพร้อม ทั้งของตนและของคุณน้องบ้างส่วน 
    ส่วนซื่อชุนนั้นเเดินนำหน้าคุณหนู แม้จักรู้จักกับบุคคลนี้ได้ไม่นาน ซื่อชุนนั้น เป็นคนไม่ค่อยพูดหากพูดที่ กลับมีความหนักสมความเป็นชายทหาร น่านับถือ ในวังหลวงนั้น ไว้ใจกันยากนัก แม้มีเงินทองมากมาย แต่หาความสุขได้เท่าชานเมืองไม่  

                   มือเรียวของทหารหนุ่มยื่นมีดสั้นพอมักกับสตรีตรงหน้าทั้งสองพระนาง

    "ฮ่องเฮาทรงฝากมาให้ป้องกันตนพะยะค่ะ"   เมื่อพระนางทั้งสองรับมีดเสร็จเก็บไว้กับตัว ซื่อชุนก็โดดขึ้นม้า  นางกำนัลคนสนิทก็กระโดดขึ้นม้าของตน ยื่นมือรับคุณหนูให้ทรงม้าด้านหน้าตน และตนเป็นคนบังคับม้า ใบหน้าเล็กยิ้มหวาน  การไปข้างนอกพระราชวังครั้งนี้กับไม่ได้ไปเพียงแค่ไปหาพ่อแม่ของนางกำนัลที่มาเสียชีวิตแทนนางเท่านั้น แต่เป็นการออกไปเทียวข้างนอกให้สบายใจขึ้น เป็นการเปิดหูเปิดตา อย่างหนึ่ง

                        หญิงสาวใบหน้าหวานขมวดคิ้วพลางตนอยู่ในชุดนางกำนัล สังเกตการ นางจะไปไหนกัน หึ  ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกงั้นหรือ สายตาส่งไปให้ชายที่มองเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับตน ให้ตามนางไป  เมื่อถึงโอกาสเมื่อใด อย่าให้นางมีชีวิตกลับมา นางแย่งทุกอย่างไปจากข้า ก็อย่าให้นางได้อะไรอีก ข้าจะยึดเอาตำแหน่งของนางเป็นของข้า ว่าแล้วก็หัวเราะให้ดังไปทั่วทิศ นางกำนัลมากมายหันมาหาพระนางเพียงครู่ ก็หันกลับไปทำหน้าที่ตน สายตาแข็งกร่าว จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน จงฆ่าคนที่ฆ่าได้ เมื่ออำนาจกลับมา  ข้าจักเป็น'ฮ่องเฮา'




                    ตลอดทางมาผ่านชุมชนมากมาย พ่อค้าแม่ขายต่างพากันขายของเสียให้สนุก ทำให้นึกถึงบ้านช่วงเดือนประมาณนี้ ที่ร้านขายกระดาษก็ขายกันเสียสนุกเช่นเดียวกัน


                   ออกมาเที่ยวเล่นให้ลืมความวุ่นวายในเมืองหลวง แม้ข้างนอกนั้นจะไม่มีแม้แต่ทหารค่อยคุ้มกันเป็นกองทัพ ยังรู้สึกว่าปลอดภัยมากเสียกว่า ท้องฟ้าในตอนนี้ค่อยๆที่จะลดความสว่างตามแสงอาทิตย์ค่อยๆจะลับขอบฟ้า แสงสีส้มระยา กระทบกับท้องน้ำ ม้าขาวที่พี่สาวควบม้าให้ชม เป็นภาพที่สวยงามเหลือเกิน ม้าขาวที่ค่อยๆก้าวอย่างช้าๆชมทัศนิยภาพรอบตัว 

                   "คุณหนู ที่ชุมชนแห่งมีเทศกาลที่น่าให้ลองดูอยู่นะเจ้าคะ"    นางกำนัลคนเป็นพี่กล่าว

                   "จริงหรอเจ้าคะ ทำไมโชคดีขนาดนี้กัน"     คนตัวเล็กกล่าวตอบ แสงในตาวาวแววเสียทำให้คนที่โดนเรียนพี่ ก็อดขำไม่ได้

                   "งั้นหม่อมชั้นว่า เราพักที่นี่ก่อนสักคืน แล้วค่อยไปต่อดีหรือไม่ "  ซื่อชุนกล่าวถาม 

                   "ดี ดีที่สุดดเลยยย แต่ซื่อชุ่นเรามาไม่ได้บอกใคร เรามาในฐานะคนธรรมดา เป็นครอบครัวที่มาเที่ยวเล่นกันนะ ไม่ต้องหม่อมชั้นอะไรนั้นหรอก ซื่อชุนเป็นพี่ชายเราคนหนึ่งเถอะนะ  เรารู้สึกแปลกๆเวลาโดนเรียกเช่นนั้น ไม่เคยที่ชินได้เลย"    รอยยิ้มสดใสไม่เหมือนแต่ก่อนส่งมอบให้ทั้งสองคนติดตาม ซื่อชุนแทบหัวใจหยุดเต้น ความน่ารัก ความสดใสของเด็กวัยนี้ ช่าง...... น่ารัก

                   "ครับ น้องหญิง..."    เสียงที่ผ่านจากปากเพียงแผ่วเบา ตายังคงมองมาที่ตัวเล็ก





    ---------------
    เค้ามาต่อเพิ่มล่ะน้าาาา   ติดตามกันต่อไปด้วยเน๊อะ 
     ถึงเค้ามาช้า แต่เค้าแน่ๆ 5555555 
    ขอบคุณคอมเม้นของทุกคนจริงๆ มีกำลังใจในการแต่งเลย ขอบคุณมากๆนะ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×