เมื่อคนที่คุณรักมาบอกว่า “เราเลิกกันเถอะ” จะรู้สึกอย่างไร
สำหรับฉัน มันแย่มาก ทั้งๆที่เรากำลังไปกันได้ดี 
ฉันจะขอเล่าตั้งแต่แรกเริ่มเลยละกัน  ฉันชื่อ นาเดีย หรือที่เพื่อนเรียกกันว่า เดีย ใครๆก็บอกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่งามแบบสาวไทย ผมดำยาวสลวย ตากลมโตสีดำ ผิวขาว
ฉันเรียนอยู่ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ในวันเปิดภาคเรียนที่สองวันแรกบรรยากาศในห้องยังเหมือนเดิม เพราะพวกเรายกกันมาทั้งชั้น
จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงคาบแรก โฮมรูม
อาจารย์ได้แนะนำให้รู้จักกับนักเรียนใหม่ชื่อวิล เป็นหนุ่มลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ ผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีฟ้าที่ดูมีเสน่ห์ และอาจารย์ได้สั่งให้ฉันคอยดูแลวิล ในฐานะที่ฉันเป็นรองหัวหน้าห้อง
ในช่วงพักกลางวัน มีแต่คนไปรุมล้อมวิล แต่เขาไม่สนใจ และเดินมาหาฉันที่กำลังเดินลงไปกินข้าว แล้วพูดว่า
“ฉันหิวแล้ว พาไปโรงอาหารทีสิ”
“ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ คนอื่นที่อยากไปกับนายก็มีเยอะ”ฉันสงสัย
“ก็ฉันสนใจเธอนี่ ว่าแต่เธอชื่ออะไรน่ะ”เขาถาม
“ฉันชื่อนาเดีย นายจะเรียกว่าเดียก็ได้” แล้วฉันก็พาเขาไปโรงอาหาร
พอเข้าไปในโรงอาหารก็มีเสียงมาว่า “นาเดียครับมาทานกับผมไหมครับ”
“ผมดีกว่า”
“ฉันต่างหากพวกนายไม่ต้องไปชวนนาเดียเลย” และมีหลายเสียงตามมาอีก
“เอ่อ.. ไม่ล่ะค่ะ ฉันนั่งกับเพื่อนดีกว่า” แล้วรีบพาวิลไปหาที่นั่ง
หลังจากกินข้าวเสร็จก็พากันขึ้นห้อง ซึ่งยังไม่มีใครขึ้นมาเลย
“เธอนี่เนื้อหอมจังนะ” อยู่ๆวิลก็พูดขึ้นมา
“ฉันไม่ได้ดีใจหรอกนะที่เนื้อหอมน่ะ แล้วพวกเขาชอบฉันเพราะหน้าตาฉันต่างหาก ไม่ได้ชอบที่จิตใจสักหน่อย” ฉันอธิบายแล้วถอนหายใจ
“เฮ้อ เมื่อไรจะมีคนที่รักฉันที่จิตใจ ไม่ใช่ที่หน้าตา ไม่ว่าเขาจะหน้าตาอย่างไรขอเพียงรักฉันด้วยความจริงใจเท่านั้น ฉันก็จะรักเขาคนเดียว” ฉันพึมพำ     
“หึ หึ เธอนี่น่าสนใจจริงๆด้วย ผู้หญิงสมัยนี้มีน้อยคนนักที่แคร์เรื่องของจิตใจมากกว่าหน้าตา แล้วสนใจจะคบกับฉันไหมล่ะ ฉันชักชอบเธอเข้าแล้วสิ” วิลพูด
“ฉันขอปฏิเสธบอกแล้วใช่ไหมว่าต้องการคบกับคนที่จริงใจกับฉันเท่านั้น”ฉันบอก
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ไหนๆเธอก็ไม่ได้คบกับใคร มาคบกับฉันดีกว่าแล้วอีกอย่างฉันชอบเธอที่ความคิดที่ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปต่างหาก” วิลบอก
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ ผู้หญิงที่คิดเหมือนฉันคนอื่นก็มี” ฉันถาม
วิลหน้าแดงเล็กน้อยแล้วบอกว่า “เธอไม่เคยได้ยินคำว่ารักแรกพบหรือไง ฉันปิ๊งเธอตั้งแต่แรกแล้ว  แล้วยิ่งเธอมีความคิดที่ไม่เหมือนใครทำให้ฉันยิ่งชอบเธอมากขึ้นอีก”
ฉันหน้าแดงมากแล้วบอกว่า “งะ.. งั้นเหรอ พวกเราลองคบกันก่อนก็ได้”
ยังไม่ทันที่วิลจะพูดอะไร จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า
“ดีใจด้วย ในที่สุดเธอก็ได้สละโสดสักที นาเดีย”
แล้วผู้พูดก็ปรากฏตัวออกมาให้เห็น เพื่อนๆทั้งห้องของฉันนี่เอง
“ทำไมพวกนายถึงพร้อมใจกันมาแอบฟังพวกฉันด้วย แล้วมากันเมื่อไร มาแล้วก็ไม่รู้จักบอก แถมยังพาห้องอื่นมาอีก”
ฉันพูดออกไปโดยหน้าที่แดงมากถึงมากที่สุด
“แหม ก็พวกเราไม่อยากขวางการสารภาพรักกันนี่นา จริงไหม เพื่อนๆ”
เพื่อนที่นั่งข้างฉันพูดขึ้นมา มีเสียงตอบรับมาพร้อมกันว่า
“ใช่”แล้วเพื่อนที่แสนดีก็พากันหัวเราะกันใหญ่รวมทั้งวิลด้วยปล่อยให้ฉันหน้าแดงอยู่คนเดียว
“พอ..พอกันได้แล้วจะหัวเราะอะไรกันเล่า” ฉันตะโกนออกไปด้วยความอาย
เพื่อนๆพากันกลั้นหัวเราะแล้วออดก็ดังขึ้นเพื่อนๆจึงพากันไปนั่งที่ตัวเองแต่ก็ยังล้อเลียนฉันอยู่
จนอาจารย์เดินเข้ามาสอน จึงหยุดล้อ 
วันรุ่งขึ้น ข่าวที่ฉันคบกับวิลก็แพร่ออกไปมีทั้งคนที่ร้องไห้เพราะเล็งวิลไว้
และพวกผู้ชายที่ชอบฉันก็เข้ามารุมถามว่าข่าวลือเป็นจริงรึเปล่า
ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
จนวิลเดินเข้ามา “ไม่ทราบว่ามายุ่งอะไรกับแฟนคนอื่น”
“นาเดียครับที่หมอนี่พูดเป็นความจริงหรือครับ” หนึ่งในกลุ่มผู้ชายที่มาล้อมฉันพูด
“จริงค่ะ ฉันเป็นแฟนกับเขาแล้วค่ะ” ฉันบอกออกไป ทำให้พวกผู้ชายทำหน้าเศร้าแต่ก็อวยพรให้ฉันคบกับวิลอย่างราบรื่น “ขอให้มีความสุขนะครับ นาเดีย”
เวลาผ่านไป 2 เดือนที่ฉันคบกับวิล ในวันเสาร์ ฉันจะไปเรียนพิเศษจนเที่ยง แล้ววิลจะนัดไปดูหนังด้วยกัน หลังจากนั้นก็ไปเดินดูของตามห้าง หรือบางครั้งจะไปร้องคาราโอเกะ
แต่พอ 6โมง ฉันจะขอตัวกลับเพราะแม่จะเป็นห่วง และในวันอาทิตย์ฉันจะอยู่กับครอบครัว เพราะพ่อถือว่าวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว
แต่มีบางอาทิตย์ที่ฉันออกไปเที่ยวกับวิล ตั้งแต่ที่ได้คบกับวิลฉันมีความสุขมาก แต่เราไม่เคยทำอะไรเกินเลย นอกจากจับมือกันเท่านั้น เพราะแม่สอนอยู่เสมอว่า
“จำไว้นะลูกเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว อย่างไรซะผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอ ถ้ายังไม่ได้แต่งงานกันเราไม่ควรทำอะไรที่มันเกินเลยไม่งั้นฝ่ายที่เสียใจจะเป็นเรานะลูก”
ฉันจำที่แม่สอนไว้เสมอและปฏิบัติตามที่แม่บอก
จนกระทั่งวันอาทิตย์ฉันไปสวนสาธารณะกับวิล โดยอยู่ในที่ลับตาคน วิลขอจูบฉัน แต่ฉันไม่ยอม และพยายามขัดขืนจนสำเร็จ ฉันจึงรีบวิ่งกลับบ้าน
ในวันรุ่งขึ้น ฉันไปโรงเรียนตามปกติ และพยายามหลบหน้าวิล
จนถึงเวลาพักกลางวัน วิลพาฉันไปหลังโรงเรียน เราเงียบกันไปสักพัก
วิลก็พูดขึ้นว่า “เราเลิกกันเถอะ”
ฉันอึ้งไปสักพักแล้วพูดขึ้นว่า “ทำไม” 
“ฉันว่าเราไปกันไม่รอดหรอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงในอุดมคติของฉัน” วิลอธิบาย 
ถ้าป็นผู้หญิงทั่วไปคงร้องไห้อ้อนวอนว่า ‘ฉันจะพยายามปรับปรุงตัวนะ เราอย่าเลิกกันเลย”
แต่สำหรับฉันแล้วไม่ใช่!
ฉันหยิ่งในศักดิ์ศรีของฉัน
“ก็ได้ในเมื่อเราไปกันไม่รอด ก็อย่าทนคบกันไปอีกเลย” ฉันบอกอย่างพยายามไม่ให้เสียงสั่น
วิลอึ้งไปเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าเธอยอมให้ฉันมีอะไรด้วย ฉันคงไม่เลิกหรอก”
พอฉันได้ยินจึงโกรธ แล้วพูดเสียงเรียบอย่างพยายามข่มอารมณ์
“อ๋อ ถ้าฉันยอมให้นายมีอะไรกับฉัน นายจะไม่เลิกกับฉันงั้นเหรอ เฮอะ ฝันไปเถอะ! ถึงนายจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายในโลก ฉันจะไม่มีวันยอมให้นายมีอะไรกับฉันแน่  ถ้าต้องคบกับนายต่อไป ฉันยอมขึ้นคานดีกว่า” พอพูดจบฉันก็เดินหนีออกมา
โชคดีที่วันนี้เรียน รด. จึงเรียนครึ่งวัน ฉันจึงรีบกลับบ้าน  พอถึงบ้านฉันรีบเข้าห้องนอน ซุกหน้าลงกับหมอน แล้วร้องไห้
คิดในใจว่า ‘ทำไมวิล ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ พอผู้หญิงไม่ยอมให้มีอะไรด้วยก็ขอเลิก หรือว่าที่นายพูดก่อนที่ฉันจะคบกับนายเป็นเรื่องโกหก’
แล้วแม่ก็เปิดประตูเข้ามา “เป็นอะไรไปลูก ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ”
ฉันไม่ตอบ แล้วแม่ก็เข้ามากอด “เอาเถอะ อยากร้องก็ร้องออกมาให้พอ ให้ความเศร้าออกมาพร้อมน้ำตา แล้วลูกจะรู้สึกดีขึ้น” ฉันร้องไห้หนักขึ้น แล้วผล็อยหลับไป 
เช้าวันต่อมา แม่ขึ้นมาปลุกบนห้อง พอเห็นสภาพฉันแม่ก็พูดขึ้นว่า
“เป็นอย่างไรบ้างลูก รู้สึกดีขึ้นหรือยัง ไหนลองเล่ามาให้แม่ฟังซิว่าทำไมลูกถึงร้องไห้” ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่เงียบไปสักพัก แล้วพูดว่า “ลูกเสียใจในสิ่งที่ทำหรือเปล่า”
ฉันส่ายหน้า  “แล้วลูกจะไปโรงเรียนมั้ย” ฉันพยักหน้าแล้วตอบว่า
“ไปค่ะ ลูกจะไม่มีวันยอมแพ้กับเรื่องเพียงแค่นี้เด็ดขาด” ฉันทำหน้ามุ่งมั่น
แม่จึงบอกว่า “ดีแล้วล่ะจ้ะที่ลูกไม่ยอมแพ้ และลูกก็ตัดสินใจได้ถูกต้องที่เลิกกับเขา ในโลกนี้ยังมีคนอีกมากมาย สักวันหนึ่งลูกจะต้องได้เจอกับคนที่รักลูกจริงแน่ เอาล่ะ ลูกไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน แล้วแม่จะแต่งหน้าปกปิดรอยคล้ำให้” ฉันจึงรีบไปแต่งตัว เสร็จแล้วแม่ก็แต่งหน้าให้ หลังจากนั้นฉันก็ไปโรงเรียน ข่าวลือที่ฉันเลิกกับวิลแพร่ออกไปเร็วมาก ยิ่งกว่าตอนที่เพิ่งคบกันใหม่ๆซะอีก และวิลไปคบกับผู้หญิงคนใหม่ที่ต่างจากฉัน แต่ฉันไม่ได้สนใจนัก เพื่อนๆพยายามปลอบใจฉัน และทำให้ฉันร่าเริงขึ้น ถึงแม้ภายนอกฉันอาจดูร่าเริงเพื่อให้เพื่อนสบายใจ แต่ภายในยังคงเศร้าอยู่เพราะยังต้องอยู่ห้องเดียวกันกับวิล จนถึงเวลาสอบแข่งขันไปต่างประเทศ ฉันดูหนังสืออย่างหนัก จนลืมความเศร้า ในที่สุดฉันก็สอบได้ ได้ไปประเทศอังกฤษ ฉันดีใจมาก  เวลาผ่านไปถึงวันที่ฉันต้องไปอังกฤษ เพื่อนๆพากันมาส่ง รวมทั้งวิลด้วย คราวนี้เขาเปลี่ยนผู้หญิงอีกแล้ว เวลาที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้ว่าวิลเป็นเสือผู้หญิงที่ร้ายกาจคนหนึ่ง แล้วฉันก็เดินทางไปอังกฤษ ได้อยู่กับ host ที่ใจดี เขาพาฉันไปเที่ยวแทบทุกวันเพราะยังอยู่ในช่วงปิดเทอม จนกระทั่งวันเปิดเทอม  ฉันมีเพื่อนใหม่หลายคนและทุกคนก็ดีกับฉันมาก วันหนึ่ง ขณะที่ฉันเดินอยู่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาชน ฉันเกือบล้ม ถ้าเขาไม่จับแขนฉันไว้ก่อน
แล้วเขาก็พูดว่า “ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”
ฉันตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้”
แล้วฉันจึงเงยขึ้นไปมองหน้า พร้อมๆกับที่เขาก้มหน้าลงมา ทำให้ตาเราประสานกัน ฉันรู้สึกหัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อจ้องไปในดวงตาสีเขียวของเขา แล้วเขาก็ถามว่า “คุณชื่ออะไรครับ ผมชื่อแดนครับ”
“นาเดียค่ะ” ฉันตอบ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” แดนพูด
“เช่นกันค่ะ”
หลังจากนั้นพวกเราก็สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ แดนเป็นคนดีมาก เรียนก็เก่ง
เวลาผ่านไป 1เดือน
แดนก็มาขอเป็นแฟนกับฉัน ฉันก็ตกลงเพราะเท่าที่ดูแดนเป็นคนรักเดียวใจเดียว ฉันมีความสุขมาก เวลาฉันคิดถึงความหลังที่คบกับวิล ก็คิดว่าดีแล้วที่เลิกกันไป ไม่งั้นคงเสียใจหนักกว่าตอนนี้แน่ 
เพื่อนๆก็อย่าเสียใจไปเลยนะค่ะ ถ้าถูกอกหักคิดซะว่า เขาไม่ใช่เนื้อคู่ของเรา ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง สักวันเราจะพบเนื้อคู่ที่แท้จริงของเราแน่นอน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น