ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 16 การฝึกโหดในหนึ่งสัปดาห์บนหุบเขาเหนือฟ้า แปดพี่น้องยอดฝีมือ ดาบแห่งความยุติธรรมปรากฎ บทซามูไรศักดิ์สิทธิ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 29
      0
      13 ก.ย. 64

              "ไวซ์แลงค์รายงานมา ว่าตอนนี้พวกพีวิลและเจเนไซด์ทีมลงมาจากที่ซ่อนกันแล้วละ" ไวซ์ไมเซลบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "ดี งั้นก็เริ่มแผนกันได้เลย ท่านโครเต้ แจ้งให้ขุนพลเฟอคาน่าทราบแล้วหรือยัง"
              "แจ้งไว้แล้ว เฟอคาน่ากับกองรบจะสแตนด์บายเอาไว้กันน่ะ" โครเต้บอก
              ครองคอร์ดตอบ "ถ้าเช่นนั้น ถึงเวลาทัณฑ์ประหารพวกคนทรยศเพื่อตัดกำลังใจของพวกโคเคสกันได้แล้วละ"
              "ฟ้าวววว ฟ้าววววว" เจ้าอาคาชิคและไทฟูลบินมาโดยที่เจ้าอาคาชิคพาทั้งพีวิล มาสวาร์ทาร์ สเปียริท โฟรซ่า ไซโครเนีย บรอนเซอรูท เซเทธ เลอแชนและกริมเบอรี่ (โดยที่อุ้งเท้ามีคลอเวฟและสเตฟอร์ดเกาะอยู่) ส่วนเจ้าไทฟูลพาเจเนล จิล พลัสเชอริท ทินเหมาลี โมคุโตะ ทอฟคานิคและฟันดิวเรคไปด้วย ซึ่งไทฟูลก็ใช้อุ้งเท้าจับตัวจายด์เอาไว้ และบินไปโดยไม่รู้สึกหนักเลย "แว้ง แว้ง แว้ง" ฉับพลันก็มีแสงสว่างขึ้นที่ตราอยู่ในชุดเกราะของมาสวาร์ทาร์ ตราแผนที่ของอาทรัลเตอร์นี้เอง "ตราของบุรุษเคราหยกทำงานแล้วสิน่ะ" บรอนเซอรูทบอก มาสวาร์ทาร์พยักหน้าและแตะบนด้านบนของตราซึ่งก็... "แว้งงงง" ฉายภาพแผนที่ที่ตั้งของสุสานแห่งดาบไว้ โดยที่มีลูกศรสองเส้นปรากฎบนแผนที่ แทนพวกพีวิลที่ยังบินอยู่ แล้วแผนที่ก็ลากเส้นประมาจบลงที่จุดกากบาทไว้ "มันบอกให้พวกเราตรงไปทางทิศตะวันตกกันน่ะ" แล้วตราแผนที่ก็ "แวบบบบ" ยิงลำแสงไปยังทิศทางที่ระบุไว้ "มันคงจะชี้ทางให้นายไปที่นั้นจริงๆเลยสิน่ะ" บรอนเซอรูทบอก
              "และนั้นหมายถึง ครองคอร์ดก็น่าจะอยู่ที่นั้นด้วยแหละ เพราะถ้ามันส่งไฮดร้ามาตามหาพวกเราใกล้กับหุบเขา มันก็หาเรื่องดักทางพวกเราได้กันน่ะ" เจเนลบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "ความเป็นไปได้ 100 เปอร์เซนต์เต็มที่ผู้สร้างจะดักรอพวกเราแน่นอน"
              "ตอนนี้พวกเราก็พร้อมอยู่แล้วละ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันด้วยน่ะ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกนายทั้งหมดเองก็ระวังตัวด้วยละ ทั้งการมาของพวกครอสตรีม และกับดักของครองคอร์ดกันน่ะ" แล้วก็ควบนกยักษ์สตอร์มฮอวค์ทั้งสองบินตรงไปที่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว และแล่นมาในระดับความสูง 400 เมตรกันแล้ว "ไทฟูล อาคาชิค ส่งตรงนี้แหละ พวกเจ้ารีบบินกลับไปเดียวนี้เลย" มาสวาร์ทาร์สั่ง
              "กวี้กก กวี้กกกกก" นกยักษ์ทั้งสองกล่าวแล้วก็บินเลี้ยวโค้งอย่างรวดเร็ว และหย่อนคลอเวฟ สเตฟอร์ดและจายด์ลงพื้นไป.... "หวืออออออออ" "ตรึงงงงง ตรึงงงงง โครมมมมมม" สองดอกแรกกระทบอย่างแรงจนเกิดเสียงดังไว้ แต่ดอกสามที่จายด์ลงมานั้น นอกจากเสียงจะดังกว่าเดิมยังปล่อยคลื่นสั่นสะเทือนมา "ตรึงงง" ทำเอาพวกครอสตรีมตกใจกันไม่น้อย จากนั้นก็ "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆ" พวกพีวิลและเจเนลโดดลงจากหลังไทฟูลและอาคาชิค โดยที่โฟรซ่าประคองไซโครเนียให้ถึงพื้น ซึ่งไซโครเนียก็ลงพื้นมาด้วยเท้าจรวดไว้ เช่นเดียวกับพวกบรอนเซอรูทด้วย "พวกศัตรูมากันแล้วละ ท่านทราเวยน์" พาราไดน์กล่าว
              ทราเวยน์ตอบโดยที่ยังอยู่ในสุสานไปว่า "พวกเจ้าจัดการกับพวกพีวิลกันได้เลย ส่วนมาสวาร์ทาร์ ปล่อยให้มันมาที่สุสานเดียวนี้เลย"
              "รับทราบ" พาราไดน์บอก แล้วก็ชูธงเพื่อให้.... "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกยูนิคอร์นไนท์จำนวนมากมากับพวกพลปืนยาวและพลดาบถือโลห์ไว้ ซึ่งพวกพีวิลเตรียมตั้งท่าไว้ นายกองพาราไดน์กล่าว "หยุดก่อน นอกเหนือจากดาบมือหนึ่งแล้ว ที่เหลือไม่ต้องตามเข้ามาเป็นอันขาด"
              เลอแชนบอก "แล้วถ้าเราไม่ฟังซะอย่าง จะเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ" ไม่ทันไรก็ "แชดดดด" พลปืนพาราไดน์ยิงครอสเซียมมาสเก็ตเข้าใส่อย่างจังๆ ซึ่งก็เกือบโดนเลอแชนไปแล้ว
              "ดูเหมือนว่าทราเวยน์อยากจะจัดการกับฉันมากสิน่ะ เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเองดีกว่า" มาสวาร์ทาร์กล่าวและเอาครอสเซียมมาสเก็ตส่งให้ "พีวิล เจเนล บรอนเซอรูท ระวังตัวไว้แล้วกันน่ะ"
              พีวิลบอก "มาส กลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ด้วยละ"
              "นายไม่ต้องห่วงพวกเราหรอก เพราะแค่ดาบเดียวของนายก็สามารถจัดการกับเรื่องนี้อยู่แล้วน่า" เจเนลกล่าว
              บรอนเซอรูทบอก "นายมีเรื่องที่ต้องทำอยู่น่ะ หวังว่าสิ่งที่นายได้รู้จากท่านอาจารย์คงจะได้ใช้กันบ้างละน่ะ"
              "อืมมม" มาสวาร์ทาร์ก้าวเดินไปยังกลุ่มพวกครอสตรีม ซึ่งแหวกกองรบให้มาสวาร์ทาร์เดินไปยังปากทางเข้าสุสานแห่งดาบ พร้อมกับ... "แว้งงงง ควับๆๆๆๆๆๆ ปั้กกก วึ้งงงงงง" ตราแผนที่ของอาทรัลเตอร์บินขึ้นไปเสียบกับโครงประตูด้านบนที่มีช่องเสียบไว้จนโครงประตูเรืองแสง เพื่อยืนยันว่า มาสวาร์ทาร์มาเพื่อท้าชิงกับทราเวยน์กันแล้ว มาสวาร์ทาร์เลยกำดาบและก้าวเดินลงไปเบื้องล่าง แล้วก็.... "ครืดดดด ตรึงงงง" บานประตูที่เปิดอ้าออกก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว "ประตูปากทางเข้าออกสุสานแห่งนี้จะไม่เปิด จนกว่าจะมีผู้ชนะที่คู่ควรกับดาบอันทรงพลังปรากฎ ประตูจะเปิดออกมาเองแหละ" นายกองพาราไดน์บอก และชักดาบออกมา "ซึ่งพวกเจ้าจะไม่มีทางได้เห็นผู้ชนะไปได้หรอก เพราะสุสานแห่งนี้ ท่านทราเวยน์ตั้งใจจะฝังคนทรยศกันอยู่แล้วน่ะ"
              พีวิลตั้งท่าไว้ "เดียวก็รู้เองละน่า ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะกัน เข้ามาเลย" แล้วการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น

              "ตึกๆๆๆๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์ก้าวเดินลงบันไดก็เห็นเส้นทางที่มีดวงไฟสีเขียวสว่างตามทาง เผยให้เห็นถึงแผ่นหินพร้อมกับดาบที่ปักคาแผ่นหินเหล่านั้นไว้ ทั้งหมดนี้คือพวกนักรบครอสตรีมที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เอง พอผ่านตรงส่วนแผ่นหินไว้ ก็คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยดาบที่ปักเรียงรายเอาไว้หลายเล่มด้วยกัน ซึ่งดาบทุกเล่มก็คือดาบครอสเซียมที่แตกร้าวและพุกร่อนตามกาลเวลาและสภาพแวดล้อมกันด้วย จากนั้นก็เดินมาถึงห้องสุดท้ายที่เป็นห้องโถงกลาง ซึ่งก็...ปรากฎซากเกราะของนักรบครอสตรีมที่กองระเนระนาดเป็นจำนวนมากบนพื้นไว้ "ก่อนที่จะได้รับเกรซคาลิเบอร์ อาทรัสเตอร์เคยว่าไว้ ดาบที่ทรงพลังนั้นย่อมเป็นที่หมายปองของเหล่านักรบครอสตรีมทุกคนทุกระดับด้วยกัน ก็เลยจัดตั้งกองอารักขาสุสานส่วนในนี้ไว้ โดยทำให้เป็นเหมือนรูปปั้นที่ตั้งสักการะบูชากันอยู่" เสียงของทราเวยน์ดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟสีเขียวส่องสว่างจนเห็นตัวอย่างชัดเจน "เพื่อพิสูจน์ว่านักรบผู้นั้นคู่ควรกับดาบเล่มนี้จริง จะต้องผ่านเหล่านักรบอารักขาเฝ้าสุสานนี้ไว้ให้ได้ ซึ่ง สองวันที่ผ่านมา กับการต่อสู้อย่างต่อเนื่องนั้น ก็จบลงตรงที่ข้าได้ในสิ่งที่ข้าหวังมานานแล้วละ" แล้วเจ้าตัวก็ก้าวเดินพร้อมกับดาบเทพที่เก็บไว้ด้านหลัง
              มาสวาร์ทาร์บอก "ถ้าให้เดา นายใช้ดาบเล่มนั้นจัดการกับพวกนักรบอารักขาจนมีสภาพเช่นนี้เลยสิน่ะ"
              "ถึงข้าได้ดาบมาไว้ในมือ แต่ข้ากลับออกไปจากนี้ไม่ได้นั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะนายเองแหละ" ทราเวยน์บอก "อาทรัสเตอร์รู้ดีว่าหากข้าได้ดาบมานั้นจะต้องนำออกมาจากสุสานกันอย่างแน่นอน เลยหาทางป้องกันอีกชั้นเอาไว้ นั้นก็คือตรากุญแจและตราแผนที่ ซึ่งจำต้องส่งให้กับอีกคนหนึ่งไว้เพื่อให้คนๆนั้นเป็นผู้ท้าชิง และนั้นก็ดีแล้วละ เพราะว่าข้าต้องการจะกำจัดนายลงตรงนี้ด้วยมือของฉันเองแหละ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "สรุปคือ นายคิดจะดวลโดยไม่ใช้กฎราวนด์ดูอัลกันเลยสิน่ะ"
              "การดวลแบบเก่าอย่างงั้นมันไม่ควรมีหรอก เอชมาสวาร์ทาร์ เพราะต่อจากนี้ไป ยุคสมัยของพวกเราจะเริ่มต้นขึ้นกันในเวลานี้แหละ ชักดาบออกมาสิ" ทราเวยน์กล่าวพร้อมกับชักดาบของตนออกมา มาสวาร์ทาร์เลยต้องชักดาบของตนที่ตอนนี้มีรอยร้าวขึ้นมากันแล้ว "น่าสมเพชจริงๆ เฟอคาน่าให้พลังนายอยู่ได้สิบวัน นายกลับไม่ใช้มันเพื่อซ่อมดาบให้ดีเสียเลย ซึ่งมันก็ดีแล้วละ เพราะฉันจะทำลายดาบของนายให้แตกกระจุยกันนี้แหละ"
              มาสวาร์ทาร์โยนฟักดาบลงกับพื้นและตั้งท่าดาบไว้ "ทราเวยน์ ยุคสมัยของนายที่ก้าวข้ามอาทรัลเตอร์แบบนั้น มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงหรอก เข้ามาเลย!!" ทราเวยน์กระโดดตรงมายังมาสวาร์ทาร์และ "แกร้งๆๆๆๆๆๆๆ" หวดดาบใส่มาสวาร์ทาร์อย่างรวดเร็วและดุดัน แม้มาสวาร์ทาร์จะปัดดาบที่ร้าวอยู่ได้ทุกดอกก็ตาม "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" ทราเวยน์ซัดเครเซนต์เอจด์สามอันพุ่งเข้าใส่ "ฮึย ฮือ ฮ่า..." มาสวาร์ทาร์ตะเบ่งเสียงสามครั้งพร้อมกับสบัดดาบฟันทำลายคลื่นคมดาบของทราเวยน์สลายไปกันหมด โดยไม่ห่วงว่าดาบจะร้าวหนักกว่าเดิม
              "เป็นอะไรไปกันละ มาสวาร์ทาร์ มัวแต่ยืนนิ่งเพื่อรอตั้งรับสวนกลับเองสิน่ะ แต่...มันก็แค่นั้นแหละ" ทราเวยน์บุกเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงเพื่อจ้วงดาบแทงใส่ "เคร้งงงงงงง" มาสวาร์ทาร์ใช้ดาบที่ร้าวกดดาบของทราเวยน์ให้คมแตะกับพื้น "....ที่บอกว่าแค่นั้นเกรงว่ามันจะไม่ใช่ชีวิตของฉันหรอก แต่เป็นฝีดาบของแกเองแหละที่มาได้แค่นั้นน่ะ" แล้วก็กดดาบของทราเวยน์จน "เปร๊าะ เปรี้ยงงง" ปลายดาบหักไปส่วนหนึ่ง ทราเวยน์เลยใช้ดาบที่ทื่อฟันเข้าใส่มาสวาร์ทาร์เพื่อหวังทำให้ดาบร้าวจนแตกลง "บะ บ้าน่า ทำไม ฉันฟันทำลายดาบของมันให้แตกกระจุยไปไม่ได้เลย ทั้งๆที่สภาพดาบนั้น โดนแค่ทีเดียวก็กระจุยไปแล้ว แต่ทำไมกันละ..." ทราเวยน์คิดด้วยความเจ็บใจไป
              "นักรบที่แท้จริง หากเตรียมใจที่จะเป็นฝ่ายเสียดาบและพร้อมจะถูกฆ่าฉันใด นักรบผู้นั้นก็จะสามารถใช้ดาบร้าวนี้ฆ่าคนลงได้เช่นกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าวและหวดดาบเข้า "ป้ากกกก แกร็กๆๆๆๆๆ" ใส่ดาบของทราเวยน์ไว้ ซึ่งทราเวยน์เป็นฝ่ายตั้งรับกัน
              "หนอยยย จะมาแพ้แค่นี้กันเลยหรือ ฮึยยยย" แถมถูกกดดันจนต้องคุกเข่าไว้ มือทั้งสองข้างถูกใช้จับด้ามดาบกันทั้งหมด จะใช้มืออีกข้างคลายจากด้ามดาบก็ไม่ได้ จน... "แกร็กๆๆๆ เปรี้ยงงง" ดาบของทราเวยน์แตกกระจุยจนหักครึ่งไปเต็มๆ ส่วนของมาสวาร์ทาร์นั้นรอยร้าวยิ่งเพิ่มมากขึ้น
              "ดาบของนายไปพร้อมกันกับฝีดาบและทักษะที่มีเพียงแค่นี้กันแล้ว การที่นายทุ่มเททุกอย่างเพื่อดาบนั้นคงจะทำให้พลังของนายถดถอยลงไปเช่นนี้ จึงไม่แปลกเลย ที่นายจะแพ้ฉันลงได้อย่างรวดเร็วเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              "ฉันดูถูกพลังและความสามารถของนายกันไปหน่อยน่ะ มาสวาร์ทาร์ และรู้ว่าแค่นั้นคงชนะนายไม่ได้แน่ๆ" ทราเวยน์กล่าว แล้วก็ "ฟึ่บบบบ แว้งงงงง" ชักดาบเกรซคาลิเบอร์ที่อยู่กลางหลังออกมา "แต่กับเกรซคาลิเบอร์ที่ทรงพลังเล่มนี้ ไม่ถึง 3 วินาที นายก็เป็นอดีตกันได้แล้วละ"
              มาสวาร์ทาร์บอกและตั้งท่าดาบไว้ "คนอย่างนายใช้ดาบเล่มนี้ได้จริง แต่คงได้ไม่นานนักหรอกน่ะ ทราเวยน์ เพราะพลังที่ใหญ่ยิ่งต้องจ่ายด้วยชีวิตไปมากมายกันด้วยน่ะ"
              "เดียวก็รู้ เพราะวาระสุดท้ายของนายมาถึงแล้วละ" ทราเวยน์บุกเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ ในจังหวะที่.... "ฟ้าววว ฟ้าวว ฟ้าววว ฟ้าววว" พลปืนพาราไดน์ระดมยิงลำแสงเข้าใส่เซเทธที่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เร็วกว่าลำแสงที่จะยิงใส่จน... "เปรี้ยงงงง" พาราไดน์เขาตัวอีถูกเซเทธถีบเข้าตรงหน้าจนหน้ากากแตกกระจุยไป พร้อมกับ "เข่าฟันเงา" พุ่งแทงเข่าอัดใส่ท้องของพาราไดน์จนตัวกระตุกไปถึงหลังที่แตกกระจุย ก่อนจะจับโอบหลังและทุ่มส่งไปอัดใส่พวกพลปืนอีกสองตน
              "โครมมมมมม" ทอฟคานิคชกพื้นให้แผ่นหินพุ่งขึ้นอัดใส่พลหอกจนเกราะหน้าอกบุบเข้าในไป แล้วก็... "โกลเด้นโบลว์" ซัดลูกตุ้มทองคำที่สร้างขึ้นจากก้อนหินที่แตกออกมา "เปรี้ยงงง" พุ่งทะลวงร่างของพาราไดน์จนกลวงเป็นรูอย่างจังๆ "ปึกก ป้ากก โครมมม เปรี้ยงง" โมคุโตะถีบและต่อยใส่พวกพาราไดน์ที่ถือโลห์พร้อมดาบเข้ามาจนโลห์บุบคาฝ่าเท้า จากนั้นก็หมุนตัวแทงศอกใส่พลดาบที่บุกเข้ามาจากข้างหลังจนแน่นิ่งแล้วก็เตะดาบที่กองกับพื้นให้ลอยขึ้นและเตะส่งไป "ปั้ก" เข้าไปแทงใส่พาราไดน์ที่ถือหอกมาเพื่อแทงใส่เลอแชนที่ใช้มีดติดแขนฟาดฟันใส่พวกพาราไดน์ถือดาบถึง 3 คนจนร่วงไว้ "เปรี้ยงงงง" สเตฟอร์ดฟาดค้อนเป่าพวกยูนิคอร์นไนท์กองหนึ่งให้ปลิวกระจายไปตามแรงทุบที่ปะทุขึ้นมา แต่พวกพาราไดน์ที่เสียม้ามีเขาก็กระโดดพุ่งเข้ามาเพื่อใช้หอกแทง "ว้ากกกกก โรลลิ่งสโตนโบลว์" จายด์หมุนตัวเป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาดยักษ์เข้า "เปรี้ยงงง" อัดกับพวกพาราไดน์ที่ใช้หอกกลางอากาศปลิวไปพร้อมกับกองรบยูนิคอร์นไนท์ที่ตามหลังมาสไตร์คไปกันหมด
              "เอาบ้างสิวะ" คลอเวฟพุ่งเข้าโจมตีใส่พวกยูนิคอร์นไนท์ด้วย "วอร์ชีฟดรอป" ท่าพุ่งถีบขาคู่เป่าพวกยูนิคอร์นไนท์กระเจิดกระเจิงไป แต่กองรบทหารม้าปกติที่ถือทวนยาวครอสเซียมแลนซ์เข้ามา "หมับ ฟ้าว ฟ้าว ฟ้าว" จายด์จับตัวพาราไดน์ซัดเขวี้ยงอัดใส่กองทหารม้าประจัญบานจนล้มไปเป็นบางคน แล้วก็ "โอเชี่ยนเกย์เซอร์" คลอเวฟชกลงพื้นสร้างเสาน้ำพุเป่าพวกทหารม้าประจัญบานจนแถวหน้าแตกกระจายไป ส่วนกองกลางและกองหลังนั้น "แครกเกอร์บอมส์" จายด์ยิงระเบิดเข้าถล่มจนแดดิ้นไปในทันที ส่วนที่เหลือนั้นก็... "ป้ากกก เปรี้ยงงง โครมม" โดนสเตฟอร์ดหวดค้อนอัดใส่ม้าให้ล้มและทุบทวนให้แตกกระจุยไป "แชดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พาราไดน์ยิงครอสเซียมมาสเก็ตเข้าใส่กริมเบอรี่และจิล แต่... "ฟิ้วๆๆๆๆ เปร้งๆๆๆๆๆๆๆ" จิลใช้ไซโครบิทตั้งเป็นโลห์สามแฉกป้องกันลำแสงไว้ได้ทัน แต่พวกพาราไดน์ถือหอกบุกมาพร้อมกับพวกพลดาบไว้ "ย้า" ทินเหมาลีกระโดดถีบเข้าใส่พวกพลหอกซึ่งป้องกันด้วยโลห์ไว้จนถูกถีบปลิวกระเด็นไป "ย้า ครอสชาร์จเจอร์" โฟรซ่าโพเข้าไขว้แขนกากบาทปะทะใส่พลดาบจนถูกฟันเป็นกากบาททั้งหมด "เบิร์ดชู้ตเตอร์" ไซโครเนียพุ่งทะยานเสยเป่าพวกพลหอกกระเจิงก่อนที่พวกมันจะแทงใส่
              "จัดการกับสเปียริทเดียวนี้เลย เจ้านั้นไม่มีทางโจมตีด้วย..." พาราไดน์หัวหน้าหน่วยพลหอกบุกเข้าใส่ด้วยหอกยาวและง้าว แต่พวกนี้ต้องคิดผิด เพราะ... "ย้า.....ลูกถีบมังกรบิน" สเปียริทกระโดดถีบเข้า "เปรี้ยงงงง" จนพวกพลหอกโดนถีบจนล้มกลิ้งไปเต็มๆ "บะ บ้าน่า มันรู้วิธีโดดถีบได้ไง" หัวหน้ากองที่ถูกถีบล้มก็รีบลุกขึ้นในขณะที่บางส่วนถูกถีบเข้าเต็มๆจนแดดิ้นไปกันหมดแล้ว สเปียริทเลยทิ้มหอกลงแล้วก็ "ควับๆๆๆๆๆๆ" เหวี่ยงตัวเองเข้าเตะใส่พวกพลหอกที่บุกเข้ามารอบทิศจนล้มลงแล้วก็ "ควับๆๆๆๆ ปึ้กๆๆๆๆๆ" ในระหว่างที่เหวี่ยงตัวนั้นก็กระหน่ำถีบใส่พวกพาราไดน์ที่ล้อมรอบจนโดนหมดทุกดอก จากนั้นก็ "ควับๆๆๆๆ ฉั้วะ" หยุดเหวี่ยงตัวเองแล้วก็ดึงหอกมาฟันรอบทิศใส่พวกพาราไดน์พลหอกจนแดดิ้นลงไปกันหมด
              "นี้แน่" กริมเบอรี่หมุนตัวสบัดขาที่แยกท่อนกระดูกเป็นครึ่งส่วนและมัดคอพาราไดน์พร้อมกับสบัดตัวพาราไดน์จนบิดเกรียวล้มลง พร้อมกับ "ปึกกก หมับบบ กร็อบบบบ" ถีบใส่พาราไดน์อีกตัวที่บุกมาให้ล้มคุกเข่าและจับหักแขนให้หลุดออกจากกันไป "ท็อปสปินนิ่งแอทแทค" จิลโจมตีใส่พวกพาราไดน์พลปืนที่ใช้มีดสั้นครอสเซียมแดกเกอร์จนล้มกลิ้งไปกันหมด แล้วก็ "จีนีดเดิ้ลสไปค์" พุ่งเข้าแทงใส่พาราไดน์ถือปืนยาวตรงหน้าอกและ "เปรี้ยงง" ตอกซ้ำจนตัวทะลุไป พร้อมกับเทเลพอร์ตหนีมาก่อนที่พาราไดน์อีกตัวยิงใส่จนถูกพวกเดียวกันไป "ฟ้าววว" พลัสเชอริทมาอยู่ตรงหน้าพาราไดน์ถือดาบอย่างทันควันและ "ปึกกก" ต่อยเข้าที่ท้องไปจนผลึกครอสเซียมที่ท้องแตกแล้วก็ "สปีดเพคเกอร์" รั่วทิ้มดรรชนีทั้งสองข้างเข้าที่ลำตัวก่อนจะยกขารั่วถีบใส่แบบไม่ยั้งแล้วก็ "หวับบบ เปรี้ยงงง" ถีบด้วยขาซ้ายที่อัดพลังไฟฟ้าเป่าให้กระเด็นไป
              "วาโช้ววววว" บรอนเซอรูทบุกเข้ากระโดดถีบขาจักรยานเข้าใส่พาราไดน์ที่ถือดาบเรียวยาวเข้าพร้อมกับ "หวับบบ ป้ากกก" เหยียดขาถีบใส่จนหัวหลุดไปเต็มๆ แล้วก็ "หวับบบ ป้ากกก" ก้มตัวและหมุนตัวเตะกวาดไปด้านหลังจนทำให้พาราไดน์ถือหอกถูกเตะล้มแล้วก็ "เปรี้ยงงงงงง" บรอนเซอรูทฟาดฝ่ามือจนเป่าปลิวกระเด็นไป แต่ทว่า.... "ตรึงงง ตรึงงงง" เฮอคูลอนสองตัวพุ่งเข้ามา "เฮ้ พวกนายไม่ใช่พวกเดียวกันกับเกราะหยกเลยนิน่า" บรอนเซอรูทบอก
              เฮอคูลอนตนหนึ่งกล่าว "แล้วแกก็ดูแปลกหน้ามาขนาดนี้ เตรียมตัวตายได้เลย" แล้วก็นำตะบองหนามซัดส่วนหัวพุ่งเข้า "หวับบบบ หวับบบ" บรอนเซอรูทเอี้ยวตัวหลบโยกซ้ายหลบลูกมาทางขวา แล้วหลบลูกซ้ายกลับมาทางขวาโดยเร็ว จนลูกตุ้มกลับมาที่ด้ามเหมือนเดิม แต่ก็.... "เอนเนอจี้โบลท์" "เฟรมบลัสต์" พีวิลและเจเนลซัดกระสุนเพลิงอัดใส่เฮอคูลอนไป แม้ไฟจะไม่แผดเผาเฮอคูลอนไปมากนัก แต่ก็ทำให้ทั้งสองหันมาบุกเข้าด้วยลูกตุ้ม "หวึมมมม แฉบบบบบ" พีวิลเลยใช้เอนเนอจี้ร็อดฉาบพลังจนเรืองแสงตัดแขนขวาขาดและ "ฮาร์ดนัคเคิ้ล" ชกทะลวงหน้าอกจนแบ็คแพ็คแทงค์หลุดจากหลังไป ในขณะที่อีกตัวนั้น "ฉั้วะ" เจเนลเสยเมทัลเบลดฟันจนลูกตุ้มขาดพร้อมกับแขนซ้ายถูกสับขาดแยกจากกัน แต่มันก็ใช้หมัดขวาชกใส่ เจเนลเลยถอยหลังแล้วก็ "ชาร์จคิกกกกกก" พุ่งถีบใส่เฮอคูลอนจนทะลุร่างไปอย่างจังๆ และเท้าเหยียบแทงค์ที่หลังสไลด์กับพื้นไปด้วย จนเฮอคูลอนล้มหน้าคว้ำกับพื้นอย่างจังๆ
              "พวกครอสตรีมเริ่มใช้บริการสมุนของเกซเฟลิคแล้วน่ะ" เจเนลบอก
              พีวิลกล่าว "ทั้งๆที่เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องของครอสตรีมเช่นนี้ ความเป็นไปได้หนึ่งเดียวก็คือ...."

              "ฟ้าววววว ตรึงงงง" แมนิเกเตอร์หุ่นหัวแหลมทิ้งดิ่งลงมาที่พื้นไว้ และยืนขึ้นมาตรงหน้า ซึ่งเจเนไซด์ทีมเห็นหน้าแล้วถึงกับยั้วะอย่างมาก "ไอ้หมอนั้น หรือว่านั้นคงจะ..." สเตฟอร์ดบอก
              เจเนลกล่าว "ใช่เลย ลูกพี่ ไอ้หัวแหลมนี้แหละ ขุนพลครองคอร์ดล่ะ"
              "ครองคอร์ดนะหรือ....จำได้แล้วละ แมนิเกเตอร์ที่เป็นหัวหน้าบดขยี้พวกเฮลดรอยที่ปรากฎตัวขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งฉันเป็นคนช่วยชีวิตเอาไว้ในตอนนั้น เป็นแกเองสิน่ะ" พีวิลกล่าวโดยที่ยังจำความในตอนที่ถูกชิปควบคุมสมองครอบงำอยู่
              ครองคอร์ดกล่าว "ยังจำได้สิน่ะ พีวิล ฉันคิดว่าผลของชิปควบคุมสมองนั้นจะทำลายความจำในช่วงที่แกรับใช้แพทรีออทกันไปเสียอีกน่ะ ซึ่งการที่แกจำได้นั้น คงเพราะจิตที่คิดจะช่วยเหลือผู้อื่นตอนเป็นมนุษย์มันยังมีผลอยู่สิน่ะ ถึงทำให้แกช่วยฉันไว้น่ะ"
              "ถ้าจะอ้างบุญคุณเพียงเพื่อช่วยให้แกจัดการกับพลัสเชอริทหรือว่าเจเนไซด์ทีมละก็ อย่าได้แม้แต่คิดดีกว่าน่า ครองคอร์ด" พีวิลกล่าว
              คลอเวฟเลยก้าวมาด้วย "ในเมื่อแกโผล่หัวมาแบบนี้ ก็ดีแล้ว ฉันจะได้คิดบัญชีกับแกนี้แหละ"
              "ผู้สร้างครองคอร์ด ถ้าคิดจะควบคุมฉันละก็ คิดผิดคิดใหม่ได้น่ะ" พลัสเชอริทกล่าว
              ครองคอร์ดบอก "สิ่งที่สร้างความเจ็บแค้นไปกว่านักรบที่ฉันสามารถไว้วางใจได้ทรยศนั้นก็คือ สิ่งที่ฉันสร้างมาหันมาแว้งกัดฉันเช่นนี้ ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถจัดการกับแกได้ แต่กับคนอื่น มันไม่แน่นักหรอกน่ะ" แล้วก็กำหมัดขึ้น "กะ อั้กๆๆๆ อ้ากกกก" เจเนลรู้สึกเจ็บหน้าอกเช่นเดียวกับ "ว้ากกกก โอ้ยยย" จายด์รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง เช่นเดียวกับจิลที่ปวดหัวจนกุมขมับไปด้วย
              "เกิดอะไรขึ้นน่ะ เจเนล เป็นอะไรไปกันน่ะ" บรอนเซอรูทบอก
              เจเนลบอก "นั้นแหละ คือความเจ็บปวดที่อยู่ในร่างยังไงละ บรอนเซอรูท ความเจ็บปวดที่ถูกกระตุ้นโดยไอ้หัวแหลมนั้นน่ะ"
              "เพนฟีดแบ็คอย่างงั้นสิน่ะ" พลัสเชอริทบอก
              สเปียริทบอก "ถ้าอย่างงั้น ที่ทำให้พวกเจเนไซด์ทีมถูกดึงตัวกลับมาเพราะรู้สึกเจ็บเอาดื้อๆนั้น เป็นฝีมือแกละสิ"
              "ถูกต้องแล้ว ว่ากันตามตรง ข้าคิดจะใส่ระบบนี้ให้กับพลัสเชอริทอยู่แล้ว หากแต่...ข้าพึ่งมารู้ถึงขีดความสามารถของระบบปัญญาประดิษฐ์ของพลัสเชอริทที่ไปไกลถึงขั้นที่สามารถระวังภัยถึงตัวเองทั้งนอกและในอยู่ ข้าเลยเปลี่ยนมาใส่ระบบกับทีมสังหารทั้งสามนี้เองแหละ" ครองคอร์ดกล่าว
              โฟรซ่าบอก "นั้นคงเป็นวิธีที่แกล่ามโซ่เจเนลและพวกสิน่ะ แต่ก็แค่นั้นแหละ" แล้วก็ "ปังๆๆๆๆ" ชักปืนเดริงเจอร์แมกนั่มเข้าใส่ แต่ครองคอร์ดหลบได้ทันและ "แชดดด" "ตรูมมม" ยิงลำแสงจากฝ่ามือเข้าใส่ แต่สเตฟอร์ดเข้ามาป้องกันด้วยเกราะหัวไหล่ไว้ได้ทันพอดี "ดูเหมือนว่าข้าจะต้องจัดการกับพวกเจ้าเสียแล้วละ" แล้วก็ทะยานขึ้นด้วยเท้าเจ็ทเข้า... "ฟ้าววววว" "ป้ากกกกก" พุ่งอัดใส่คลอเวฟจนล้มลง "วินด์สแลช" ไซโคลเนียซัดคมมีดอากาศเข้าใส่ครองคอร์ด แต่ครองคอร์ดไม่เพียงปัดสลายทิ้งยังพุ่งเข้ามาเพื่อแทงใส่ไซโคลเนียที่ใช้เจ็ทบู้ทไม่ได้ "ฟ้าววววว หมับบบ" พลัสเชอริทรีบพุ่งเข้าคว้าตัวมาได้อย่างทันควัน พร้อมกับ "แฟงค์สไลเซอร์" ซัดดาวกระจายขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่ครองคอร์ด แต่ "ป้ากกก หวับๆๆๆ ปั้ก" ครองคอร์ดปัดด้วยฝ่ามือจนดาวกระจายหล่นปักพื้นไว้
              "ขอบใจมากที่มาช่วยไว้น่ะ" ไซโคลเนียบอก
              พลัสเชอริทพยักหน้า "ไม่แปลกใจแล้วที่ผู้สร้าง สามารถโต้ตอบอาวุธนั้นได้เลยน่ะ"
              "อย่าลืมสิ ว่าฉันสร้างแกเองกับมือ เลยรู้ว่าจะรับมือกับเจ้าเช่นไรกันน่ะ" ครองคอร์ดกล่าวแล้วก็ยิงลำแสงจากหน้าผากจนระเบิดไป "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลและสเตฟอร์ดกราดยิงใส่ครองคอร์ดขึ้นฟ้า แต่ครองคอร์ดก็บินหลบได้ทั้งหมด "ฟ้าวววว ป้ากกกก" จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่สเตฟอร์ดเข้าที่หลัง แล้วก็พุ่งเข้าชกใส่พีวิลที่พยายามหลบและสวนกลับจน "เปรี้ยงงง โครมมมม" ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างจังๆ ครองคอร์ดเลยก้าวเดินมาพร้อมกับแบมือเพื่อยิงใส่พีวิล ไม่ทันไร กระสุนพลังขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้าใส่ครองคอร์ดเข้า "แชดดด ตรูมมมม" ครองคอร์ดเลยหันมายัง "เพนฟีดแบ็คเอาเจ้าไม่อยู่เลยหรือ เจเนล ยังกล้าฝืนทนได้อีกหรือ"
              เจเนลพยายามลุกขึ้นใช้จีบัสเตอร์ชาร์จช็อตเข้าใส่ "แม้ความจริงที่ว่าแกคืนชีพฉัน จายด์และจิลขึ้นมาหลังจากที่แกได้สังหารพวกเราไปนั้นจะไม่มีทางบิดเบือนไปได้จริง แต่แกไม่มีสิทธิ์ที่จะบีบบังคับพวกเรากันเช่นนี้หรอกน่ะ"
              "การกระทำของแกแม้คิดที่จะซื้อใจพวกเราหวังจะให้อภัยต่อแกที่ทำผิดอย่างเลวร้ายกันเช่นนี้ แต่การกระทำของแกมันไม่น่าให้อภัยเอาเสียเลยน่ะ" จิลบอก โดยพยายามลุกขึ้นแม้จะปวดหัวมากก็ตาม
              จายด์กล่าว "แม้ว่านั้นจะเป็นการเนรคุณต่อคนที่มีพระคุณ แต่ผู้มีพระคุณที่ไหนจะส่งคนมาสร้างความเดือดร้อนจนพวกเราถึงแก่ชีวิต แล้วชุบชีวิตพวกเราขึ้นมา มันไม่เป็นการตบหัวลูบหลังเลยหรือ" แล้วก็ลุกขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดด้วย
              "พึ่งจะมาคิดต่อต้านข้าตอนนี้ มันไม่สายไปหน่อยหรือ...แต่น่าเสียดายที่พวกเจ้าโอหังกับข้าได้เท่านี้แหละ" ครองคอร์ดเลยกำหมัดขึ้นมาอีก ซึ่งก็ทำให้พวกเจเนไซด์ทีมโอดโอยขึ้นมา เลอแชนเลยคิดจะบุก แต่... "ตึงๆๆๆๆๆ" สปาดาไนซ์ 20 ตัว มิลมีซอน 15 ตัว และเฮอคูลอน 10 ตัวโผล่มาพร้อมกับ...
              "ทอฟนิคซ์ เมดลิคซ์ กริมลิคซ์ของอีเนอไมนด์ บ้าน่า สมุนของแพทรีออทถูกกวาดล้างไปจนหมดแผ่นดินแอฟริกาแล้วนิ" พีวิลกล่าว เมื่อเห็นกองรบอีเนอไมนด์โผล่มาด้วย
              "ยังไม่หมดหรอกน่ะ เพราะว่ามีบางส่วนเหลือรอดจากการต่อสู้ในโฮปป้าสคาโพรนอสกันน่ะ พีวิล ดังนั้น....ฉันเลยรวบรวมพวกนี้มาเพื่อแก้แค้นแกกับพวกเองแหละ เพราะว่าฉันเป็นขุนพลสามกองรบไว้" ครองคอร์ดกล่าว และหันมายังพวกเจเนไซด์ทีม "เอาละ เจเนไซด์ทีม น่าเสียดายน่ะที่ฉันต้องทำลายมาสเตอร์พีชอย่างพวกเจ้าทิ้งทั้งสามตนแบบนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกแกเลยน่ะ" แล้วก็กำหมัดเพื่อทำให้เพนฟีดแบ็คทำงานหนักข้อไปอีก
              เจเนลที่รู้สึกเจ็บนั้นก็ยิ้มขึ้น "น่าสมเพชจริงๆเลยน่ะ ครองคอร์ด ที่แกไม่รู้เลยหรือ ว่าสิ่งที่แกสร้างมา ตั้งแต่พลัสเชอริทไปจนถึงพวกเรานั้น หักหลังคนอย่างแกกันเช่นนี้ มันไม่แปลกหรอก ที่มันจะต้องลงเอยเช่นนี้ เพราะว่าแกมันไม่ไว้ใจใครอย่างแท้จริง และเผลอหักหลังคนอื่นเอาไว้เองต่างหากละ"
              "ถึงแกคิดว่าสมุนหรือนักรบที่แกสร้างหรือส่งเสริมให้นั้นจะไม่มีทางทรยศหักหลังต่อแกกันก็จริง แต่การที่แกไปขัดขวางหรือแปรเปลี่ยนความตั้งใจของคนๆนั้น หรือแม้กระทั่งหลอกลวงคนอื่นให้หลงเชื่อและทำในสิ่งที่แกทำอยู่ เพื่อหวังจะให้คนๆนั้นยอมฟังคำสั่งของแกเสียแต่โดยดี แม้คนๆนั้นจะยอมทำตามที่แกสั่งโดยไม่มีการไต่ถามกันก็ตาม แต่การกระทำของแกในตอนนี้ มันก็คือการทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจของคนที่แกหลอกใช้กันนี้แหละ" จายด์กล่าว
              จิลบอก "แม้กระทั่งทรมานกายของพวกเราด้วยเพนฟีดแบ็คเช่นนี้ นั้นไม่ได้ทำให้พวกเราก้มหัวให้เพราะต้องการหยุดแกไม่ทำร้ายเรากันหรอก แต่จะยิ่งเพิ่มความโกรธที่มีต่อแกมากไปด้วย ซึ่งมันก็เหมือนกับการที่มาสวาร์ทาร์หักหลังแกไปอยู่กับโคเคสเองแหละ"
              "จะยังไงก็ช่าง แค่ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาก้มหัวก็ถือว่าดีแล้วละ และที่สำคัญก็คือ พวกแกไม่มีทางฝืนต่ออำนาจของเพนฟีดแบคนี้ไปได้หรอก" ครองคอร์ดกล่าว     
              เจเนลยิ้มพร้อมกับบอกว่า "ถึงแกทรมานพวกเราได้ก็จริง แต่มันก็แค่ทางกายเท่านั้นแหละ เพราะแกไม่มีทางทรมานจิตใจของพวกเราไปได้หรอก" แล้วก็ฮึดสู้ต่อระบบทรมานร่างกายจากภายในไว้ "เฮ้ยยยยยย ว้ากกกกกกก" เช่นเดียวกับจายด์ที่... "กรอดดดดด ว้ากกกกกกกกก" กู่ร้องขึ้นเพื่อต้านทานความเจ็บปวดตามร่างไว้ ส่วนจิลนั้น... "เอ้....ย้า!!!!!" กู่ร้องสุดเสียง ซึ่งชิฟระบบเพนฟีดแบ็คพยายามต้านทานอยู่ แต่ก็... "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" ข้อมือขวาที่ครองคอร์ดใช้กำก็ไฟช็อตจนระเบิดขึ้นมา
              "นี้พวกแก พวกแกทำอะไรกับระบบที่ฉันฝังเอาไว้นละ" ครองคอร์ดถาม
              "แกคงไม่รู้หรอกนะ ว่าพวกเราสามารถควบคุมร่างกายของเราได้ด้วยตัวเอง โดยไม่หวังพึ่งแกกันอีกแล้วน่ะ" เจเนลบอก โดยตอนนี้ชิฟระบบเพนฟีดแบ็คได้ถูกพลังงานในร่างของตนควบคุมเอาไว้แล้ว
              จิลกล่าว "ในเมื่อระบบนี้กระตุ้นร่างกายให้เกิดความเจ็บปวดใช่มั้ยละ แล้วทำไม เราไม่แปรเปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ไปเสียเลยละ เพราะแม้ว่าเราจะถอนชิฟออกไปไม่ได้เลยก็ตามน่ะ"
              "ในเมื่อแกใช้ความเจ็บปวดมาบีบบังคับพวกเรา งั้น เราจะเปลี่ยนความเจ็บปวดที่เราได้รับทั้งด้านนอกและในให้เป็นประโยชน์เองแหละ แน่นอน ว่าเราเปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นพลังและสะท้อนมันกลับไปยังตัวควบคุมที่แกใช้จนโอเวอร์โหลดกันไปแล้ว แม้ความเจ็บปวดอาจจะร้ายแรงถึงแก่ชีวิต แต่หากเรายอมรับในความเจ็บปวดด้วยจิตใจที่มองโลกในแง่ดีขึ้นมา บาดแผลร้ายแรงก็แค่รอยขีดข่วนเล็กๆเท่านั้นเองแหละ" จายด์บอก
              ครองคอร์ดกล่าว "ฉันไม่รู้หรอกน่ะ ว่าพวกแกทั้งสามไปทำอะไรมาถึงสามารถโต้ตอบข้ากันได้ แต่ในเมื่อข้าทรมานพวกเจ้าด้วยเพนฟีดแบ็คไม่ได้แบบนี้จริง นึกหรือว่าพวกเจ้าจะรอดจากพวกนี้ไปได้น่ะ" แล้วก็ให้พวกอีเนอไมนด์สามตัวบุกเข้ามา ส่วนตัวเองก็บินถอยไปตั้งหลักไว้ กริมลิคซ์บุกเข้าใส่เจเนลด้วยความเร็วสูง ซึ่งโจมตีด้วยกงเล็บอีเนลเซียมไว้ "ฟ้าวววว ป้ากกกก" ทอฟนิคซ์พุ่งเข้าชกใส่จายด์ที่ป้องกันด้วยแขนข้างเดียวไว้ "ฟ้าวๆๆๆๆ ฟึ่บๆๆๆๆ" เมดลิคซ์ใช้ดาบหลังแขนรั่วฟาดฟันใส่จิลที่หลบหลีกอย่างรวดเร็วไปด้วย
              "สมแล้วที่เป็นกองกำลังต้นสังกัดของพีวิล แต่ที่มันเร็วกว่าที่คาดไว้นั้นเพราะแกอัพเกรดให้ละสิ" เจเนลกล่าว
              ครองคอร์ดบอก "พวกนี้เป็นหมากตัวสำรองที่ฉันเตรียมไว้เพื่อจัดการกับพวกแกโดยเฉพาะ หากมีเรื่องนี้เกิดขึ้นกันน่ะ คราวนี้เตรียมตัวตายได้แล้ว ด้วยเอนเนอจี้คิลเลอร์กันน่ะ" แล้วสมุนสามแบบของอีเนอไมนด์ที่ผ่านการอัพเกรดของครองคอร์ด โดยเมดลิคซ์บุกวนรอบจิลเพื่อโจมตีด้วยความเร็วสูง แต่...
              "แว้ง" จิลเทเลพอร์ตมาดักหน้าพร้อมกับ "เอานี้ไปเลย กระบวนท่าโจมตีต่อเนื่อง จีนันสตอป" จิลบุกเข้าต่อยเตะถีบใส่เมดลิคซ์อย่างรวดเร็วและผลุบๆโผล่ๆวนรอบตัวเมดลิคซ์เพื่อประเคนอาวุธใส่ แล้วก็ "ท็อปสปินนิ่งแอทแทค" หมุนตัวเป็นลูกข่างเสยใส่เมดลิคซ์เข้าจน "ป้ากกก" วงแหวนต้นแขนหวดเข้าตรงหน้าเมดลิคซ์จนก็อกเกิ้ลอีเนลเซี่ยมแตกกระจุยไป ตามด้วย
              "โครมๆๆๆ" ทอฟนิคซ์รั่วชกด้วยหมัดอีเนลเซี่ยมที่ตกผลึกเข้าใส่จายด์ แต่ก็... "ป้ากกก" หมัดของจายด์เข้าถึงก่อนเพราะท่อนแขนที่ใหญ่และยาวกว่าของทอฟนิคซ์อัดเข้าตรงหน้าอกจนทำให้มันชะงัก และ... "โว้ววว เจอนี้หน่อยสิ จีนันสตอป" จายด์กระหน่ำต่อยไป 4 ที เตะใส่ 2 ที จากนั้นก็อัปเปอร์คัตและกวาดแขนฟาดใส่แบบไม่ยั้ง แล้วก็ปิดท้ายด้วย "หมับบ โครมมม ป้ากกก" จับตัวทอฟนิคซ์มาฟาดกับพื้น และจับกระแทกกับเข่าก็จะโยนขึ้นมา และ "เปรี้ยงง" เสยหัวโขกใส่ทอฟนิคซ์ที่ร่วงลงมาจนหัวของมันที่ถูกโขกแตกกระทบไปถึงสมองกลอย่างจังๆ
              ส่วนเจเนลกับกริมลิคซ์ที่บุกมาด้วยกงเล็บนั้น "แชรบบบบ ฉั้วะ" โดนเจเนลสวนกลับด้วยเมทัลเบลดจนตัดมือของกริมลิคซ์ขาดแล้วก็ "หน้าฟันยื่นอย่างแกนั้น สมควรโดนยำเละไปข้างหนึ่งแล้วกัน ลิมิตเตอร์อันล็อค จีนันสตอป" แล้วเจเนลก็พุ่งเข้า "วะย้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำทั้งเตะและต่อยใส่กริมลิคซ์อย่างไม่ยั้งมือแล้วก็ "หวับ ป้ากๆ เปรี้ยงงง" ปิดท้ายด้วยเครเซนต์คิกเตะเสยไปสองทีก่อนจะฟาดส้นเข้าที่หัวของกริมลิคซ์ให้ร่วงลงกับพื้น ซึ่งเอนเนอจี้คิลเลอร์ที่โดนยำเละก็เป็นอัน "เปรี้ยะๆๆๆๆ บรึมมม ตรูมมม เปรี้ยงงง" ระเบิดกระจุยไปอย่างจังๆ
              "นั้นคงเป็นท่าไม้ตายของพวกเจเนไซด์ทีมที่คิดขึ้นเองละสิ" สเปียริทกล่าวโดยใช้หอกแทงใส่กริมลิคซ์และฟาดกระแทกกับพื้น แต่เมดลิคซ์บุกเข้ามา เลยโดนกริมเบอรี่หมุนตัวเตะกวาดแบบคาโปเอล่าเล่นงานไปอย่างจังๆ
              ทินเหมาลีบอก "การฝึกฝนของท่านอาจารย์ทำให้พวกเขาคิดสร้างไม้ตายของพวกเขาขึ้นมาเอง แม้จะไปเหมือนไม้ตายที่เคยใช้เมื่อศตวรรษที่ 20 ก็ตามน่ะ"
              "แต่ในเมื่อเจเนลใช้ไม้ตายเช่นนี้ มีหรือที่ฉันจะไม่ลองใช้กันบ้างน่ะ" พีวิลกล่าวแล้วก็กระโดดหลบการโจมตีของทอฟนิคซ์ที่ใช้ตะบองอีเนลเซี่ยมฟาดใส่ แล้วก็ไขว้แขนเพื่อตั้งท่าดึงพลังอีเนลเซี่ยมจากในตัวออกมา "กระบวนท่าไม้ตายร้อยแบบ ฮันเดรทแรมเพจ" แล้วก็พุ่งเข้าใส่ทอฟนิคซ์ที่บุกเข้ามา "ปึกๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆ" พีวิลเปิดนำด้วยการถีบแล้วก็ต่อยหมัดซ้าย ฮุกซ้ายและกระหน่ำต่อยแบบไม่ยั้งแล้วก็ "ทอเนโดวสไปค์" ปิดท้ายด้วยท่าหมุนแขนฟาดใส่ทอฟนิคซ์อย่างต่อเนื่องจนร่วงลงพื้นและ "กะๆๆๆ อั้ก" "ตรูมมมม" ร่างระเบิดไปในทันทีที่อ้าปากร้องด้วยความเจ็บปวดจนพูดไม่ออกไว้
              "ว้าววว ไม้ตายนายแจ่มมากเลยวะ" คลอเวฟบอก พร้อมกับใช้หัวโขกใส่ทอฟนิคซ์พร้อมกับจับกระแทกใส่หัวเข่าไปเต็มๆ
              "ส่วนหนึ่งเพราะได้ฝึกฝนจากนายและอาจารย์เฟยหลงละสิ" สเตฟอร์ดบอกโดยใช้ค้อนหวดใส่พวกทอฟนิคซ์และกริมลิคซ์ที่ดาหน้ากันเข้ามา ส่วนบรอนเซอรูทปะมือกับพวกเมลลิคซ์ที่บุกมาด้วยฝ่ามือเส้นหลินไว้
              "แต่อีกส่วนนั้นคือความตั้งใจของทั้งสี่ไว้เองแหละ"
              "ปานนี้มาสวาร์ทาร์กำลังสู้อย่างยากลำบากอยู่น่ะ" ไซโคลเนียไม่เพียงสู้กับพวกอีเนอไมนด์ที่โผล่เข้ามา แต่ยังมีพวกครอสตรีมเข้ามาผสมโรงไปด้วย
              พลัสเชอริทบอก "ถึงจะคำนวณไม่ได้ว่า มาสวาร์ทาร์ในสภาพนี้จะชนะได้หรือเปล่า แต่ บางครั้ง เรื่องเหนือความคาดหมายมักจะมาโดยไม่ได้อยู่ในการคำนวณเสมอน่ะ"

              ตัดมาทางมาสวาร์ทาร์บ้าง โดยตอนนี้ได้ปะดาบกับทราเวยน์ที่ใช้ดาบเกรซคาลิเบอร์ไว้ "หวับๆ แกร้ง แกร้งงง ปริ" เพียงแค่สองดาบเทพของทราเวยน์ปะกับคมดาบของมาสวาร์ทาร์ที่ร้าวอยู่ก่อน รอยร้าวยิ่งเพิ่มความสึกกร่อนมากขึ้นเรื่อยๆ "เป็นอะไรไปละ มาสวาร์ทาร์ ใจเสียไปส่วนหนึ่งเพราะดาบของแกจะไปก่อนงั้นสิ" ทราเวยน์พูดดูถูกไปพร้อมกับหวดดาบฟันใส่มาสวาร์ทาร์เบลดอย่างเรื่อยๆ
              "ฉันรู้อยู่แล้วละ ถึงความกลัวที่จะสูญเสียดาบเล่มนี้ไป และยอมรับว่ามันไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะนายได้กันก็จริง" มาสวาร์ทาร์เลยหวดดาบเข้า "แกร้งงงง" ฟันใส่เกรซคาลิเบอร์ที่ทราเวยน์ใช้ซึ่งแม้จะไม่ทำให้ทราเวยน์สะทกสะท้านเลยก็ตาม "แต่ผู้ชนะที่ได้ชัยมาด้วยอุบายและการกระทำอันไร้ศักดิ์ศรีอย่างนายนั้น ชัยชนะที่ได้มันไม่เพียงไม่ทำให้คนอื่นยอมรับในตัวนาย แต่ยังทำให้คนอื่นสมน้ำหน้า ไม่เคารพและดูหมิ่นนายมากยิ่งขึ้น เผลอๆ นายเองแหละที่จะประสบเคราะห์กรรมเดียวกันกับที่อาทรัสเตอร์เป็นกันน่ะ"
              "อาทรัสเตอร์รนหาที่เองน่ะ ถ้ามันไม่มาช่วยแก ก็คงไม่จบเห่ลงไปได้หรอก" ทราเวยน์พูดโดยไม่สำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย "....อีกอย่าง พวกเราทำได้ทุกอย่างเพื่อชัยชนะและบรรลุเป้าหมายกันอยู่แล้ว จะสนไปทำไม เกียรติยศและศักดิ์ศรีกันน่ะ ในเมื่อเราเป็นแมนิเกเตอร์ที่ทรงพลัง สมกับที่พวกเราเป็นดาบหอกและโลห์ของท่านโอเวอร์เดสกันนี้แหละ ดาบที่เก่าเก็บอย่างอาทรัลเตอร์นั้น ควรจะถูกทำลายไปได้ เช่นเดียวกับแกด้วยแหละ มาสวาร์ทาร์" แล้วก็หวดดาบเข้าใส่ดาบของมาสวาร์ทาร์ ซึ่งก็... "แกร็ก แกร็ก" มาสวาร์ทาร์พยายามกดดาบต้านไว้ แต่สุดท้ายก็... "ปริๆๆๆ เปรี้ยงงงงง" เกรชคาลิเบอร์ของทราเวยน์ฟันทำลายดาบครอสเซียมมาสวาร์ทาร์เบลดจนแตกกระจายไป เหลือเพียงคมดาบเล็กๆที่ยังติดตัวดาบไว้อยู่ ส่วนเศษคมดาบที่แตกกระจุยก็สูญสลายไปแล้ว แต่มาสวาร์ทาร์ก็ชูดาบเอาไว้
              "ทราเวยน์ นายคิดว่า นายสามารถสู้กับโครเต้ได้จริงโดยที่มีดาบของอาทรัสเตอร์อยู่ในมืออย่างงั้นละสิ" มาสวาร์ทาร์ถาม
              "อย่าว่าแต่สู้ได้เลย แค่โค่นโครเต้ลงก่อนที่มันจะอ้างการดวลงี่เง่าของอาทรัลเตอร์ไปได้ซะ ฉันก็จะได้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ของครอสตรีมเอง แน่นอน แกไม่เพียงแค่เป็นเบอร์สาม ไม่สิ แกไม่ใช่เบอร์สามแต่แรกหรอก เพราะแกเป็นคนทรยศต่อพวกเรามาแต่ต้นแล้วละ" ทราเวยน์กล่าว "มีอะไรสั่งเสียก่อนที่ฉันจะปลิดชีพแกกันมั้ยละ"
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "หึ ฉันไม่จำเป็นจะต้องสั่งเสียใดๆหรอก เพราะในเมื่อฉันเตรียมใจจะต้องตายอยู่แล้ว ถึงไม่ตายเพราะน้ำมือนาย แต่ถึงกระนั้น นายไม่มีทางชนะโครเต้อย่างแน่นอนหรอก"
              "หมายความว่า แกคิดว่าโครเต้เหนือกว่าฉันงั้นหรือ" ทราเวยน์บอก
              มาสวาร์ทาร์บอก "โครเต้มีแรงแค้นต่อแทแรนเซียอย่างใหญ่หลวง กับการที่เขาถูกคนเลวๆหักหลังและสังหารทิ้ง เขาจึงมีแรงกระตุ้นที่รุนแรงและมหาศาลมากพอที่จะทำให้เขาเป็นศัตรูกับทุกๆคน ไม่เว้นแม้แต่ฉันหรือนายด้วย และยิ่งมารู้ว่า นายจัดการกับอาทรัสเตอร์ด้วยวิธีสกปรกด้วยแล้ว ต่อให้นายมีเกรชคาลิเบอร์อยู่ในมือหรือมีความสามารถในการคืนชีพหลายสิบครั้ง โครเต้ก็ชนะนายได้ซะทุกครั้งกันนี้แหละ"
              "นั้นก็แค่แรงแค้นเท่านั้นแหละ และเป็นเหตุผลที่หมอนั้นไม่คู่ควรกับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ด้วยน่ะ อีกอย่าง แกมีดาบแค่คมเล็กๆแบบนี้ คิดจะสู้กับฉันมันยังเร็วไปหลายร้อย หลายพันปีเลยน่า" ทราเวยน์ดูถูกอีกรอบ
              มาสวาร์ทาร์ยิ้มขึ้น "ถึงดาบของฉันจะมีสภาพเช่นนี้ แต่...ฉันเหลือเวลาเพียงวัน 2 วันที่อยู่บนโลกใบนี้ไว้ และฉันตั้งใจจะหยุดยั้งนายไว้ด้วย แน่นอน ว่าฉันตัดสินใจที่จะทำเช่นนี้เองแหละ" แล้วก็ชูดาบขึ้นพร้อมกับ "แวบบบบบ ซูมมมมมมมมมมม" ปล่อยพลังครอสเซียมขึ้นที่คมดาบที่เหลืออยู่ สร้างเป็นคมดาบแสงขึ้นมา "หวับบบบ" "ฉึบบบ" แล้วก็หวดฟันใส่ทราเวยน์ ซึ่งถากโดนแก้มซ้ายได้แผลเป็นเอาไว้อย่างจังๆ
              "เป็นอย่างงั้นเองนะหรือ แกใช้พลังครอสเซียมที่เฟอคาน่ามอบให้มาสู้กับฉันเลยหรือ ช่างไม่เจียมกะลาหัวเสียเลยน่ะ" ทราเวยน์กล่าว
              "ใช่ เพราะการทำเช่นนี้ อายุขัยของฉันจะสั้นลงกว่าเดิมก็จริง แต่ในเมื่อฉันตัดสินใจที่จะสู้ด้วยการแลกชีวิตที่มีอยู่ไว้ แม้จะแพ้อย่างยับเยิ่น ฉันก็สู้อย่างเต็มที่แล้ว ตามความตั้งใจที่ให้ไว้กันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์บอก "ระหว่างชีวิตของฉันกับความจองหองโอหังของนาย มันต้องมีหนึ่งคนที่ต้องพ่ายแพ้ลงกันด้วยนี้แหละ"
              ทราเวยน์บอก "เกรงว่าจะเป็นแกมากกว่าน่ะ มาสวาร์ทาร์ ฉันจะทำให้แกสิ้นชีพตามตาแก่นั้นไปซะ" แล้วก็บุกเข้าหวดดาบเกรชคาลิเบอร์เข้า "แชบบบ แชบบ แชบๆๆๆๆ" ฟาดฟันใส่ดาบแสงพลังครอสเซียมของมาสวาร์ทาร์ไว้ ซึ่งก็ตั้งรับอย่างใจเย็นและสุขุมรอบคอบไว้ "หึยยยย" ทราเวยน์เลยหวดดาบเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ ซึ่งก็ตั้งรับไว้ได้ทุกดอก จน... "ปึกกกก" ทราเวยน์เลยถีบใส่ต้นขาซ้ายของมาสวาร์ทาร์เพื่อให้เสียหลักและล้มคุกเข่าลง แต่มาสวาร์ทาร์ก็ตั้งดาบต้านรับเอาไว้
              "ถึงแกจะใช้พลังที่แกเหลืออยู่ แต่แกรนหาที่เองน่ะ มาสวาร์ทาร์ เพราะว่าฉันจะบดขยี้แกลงด้วยดาบเล่มนี้แหละ" ทราเวยน์เลยอัดพลังเพื่อทำให้คมดาบเกรซคาลิเบอร์กดทะลุคมดาบพลังแสงไว้ แต่... "บะ บ้าน่า ทำไม ทำไมถึงฟันไม่เข้า เกรซคาลิเบอร์สำแดงพลังให้มากไปกว่านี้สิ" ทราเวยน์ตะโกนลั่นพร้อมกับอัดพลังไปอีก ซึ่งมาสวาร์ทาร์นั้นเลือดสีเขียวได้ไหลออกจากมุมปากแล้ว
              "ป่วยการเปล่าน่า ทราเวยน์ จิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความอิจฉา ริษยา โอหัง ทะเยอทะยาน อวดดี และไร้ศักดิ์ศรีของนาย ได้ทำให้เกรซคาลิเบอร์ไม่ทำตามที่นายสั่งกันได้หรอก" แล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับใช้แรงต้านดาบเทพด้วยดาบพลังแสงไว้
              "บ้าน่า ฉันนะหรือจะทำให้ดาบที่ทรงพลังไม่ทำตามคำสั่งกันน่ะ เป็นไปไม่ได้ ก็ฉันเป็นเจ้าของดาบกันแล้วนิ" ทราเวยน์บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เกรซคาลิเบอร์ ไม่เพียงเป็นดาบที่ทรงพลังและไร้เทียมทานอย่างที่นายคิดหรอก แต่มันรู้ได้ว่าใครคู่ควรที่จะเป็นเจ้าของและใช้มันได้นั้นด้วย แน่นอน ว่ามันรับรู้ได้แม้กระทั่งคนที่ถือดาบนั้น ไปทำอะไรและก่อกรรมอะไรมากันด้วย แม้นายจะปิดบังเรื่องเลวๆเอาไว้ แต่ดาบของอาทรัสเตอร์ที่นายได้มาด้วยการไปฆ่าเขาด้วยวิธีสกปรกแบบนั้น ต่อให้ตะคอกจนเป็นใบ้ก็ไม่มีทางทำให้มันสำแดงเดชได้หรอก ทราเวยน์ เพราะว่านาย ทำพลาดตั้งแต่ตอนนั้นไปนานแล้วละ" แล้วก็หวดดาบจนเป่าทราเวยน์ให้เซผงะและ "ฉั้วะ" ฟันใส่เกราะหน้าอกของทราเวยน์จนเป็นรอยฟันที่ยาวและลึกมาก
              "แกจะบอกว่าดาบเล่มนี้มันรู้ว่าฉันไปทำอะไรมาน่ะหรือ หึ แกเองก็พอกันละน่า ตอนนี้แกแทบไม่เหลือพลังในตัวกันแล้ว เพราะการต้านดาบที่ทรงพลังนั้นจำต้องใช้พลังไปไม่น้อย ตอนนี้แกมีเวลาเพียงแค่ 12 ชั่วโมง ไม่สิ เหลือเพียงแค่ชั่วโมงเดียว กว่าแกจะฟันหรือพิฆาตฉันลงได้ แกก็เป็นแค่ศพยืนได้กันไปนานแล้วละ" ทราเวยน์กล่าวและบุกเข้าใส่มาสวาร์ทาร์พร้อมกับหวดดาบไปด้วย มาสวาร์ทาร์จึงไม่หลบและไม่ตั้งรับด้วย เนื่องจาก "เก้ง เกร้ง แกร้งๆๆๆ" ดาบเกรซคาลิเบอร์กลับไม่ทำอันตรายต่อมาสวาร์ทาร์เลย แม้ทราเวยน์จะหวดดาบแรงๆไปก็ตาม
              "ยอมรับเสียเหอะ ทราเวยน์ การหักหลังอาทรัลเตอร์และลบหลู่เขาไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ตาม เกรซคาลิเบอร์รู้และไม่ทำตามคำสั่งของนายกันแล้วน่ะ" พร้อมกับ "เคร้งงง" สบัดดาบเข้าใส่ทราเวยน์ไปดอกหนึ่งจนทำให้มันเสียหลักถอยหลังไป
              "ฮึยยย ดาบบ้านี้ลำเอียงละสิ แต่ ถ้าไม่มีแกสักอย่าง ฉันจะได้เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง ไม่ว่าอาทรัลเตอร์ แก เฟอคาน่า แรมลอช หรือแม้กระทั่งโครเต้ ทั้งหมดนี้ต้องสยบแทบเท้าข้ากันทั้ง...." ทราเวยน์แค้นและตัดสินใจบุกเข้าเพื่อแทงดาบใส่ แต่ก็... "แว้งงงง ฉึกกกก" เกรซคาลิเบอร์สำแดงเดชบางอย่างที่คาดไม่ถึงขึ้นมา "บะ บ้าน่า นี้มัน ไม่จริงใช่มั้ยละ" ทราเวยน์อุทานเพราะดาบเกรชคาลิเบอร์ที่อยู่ในมือของตนได้พุ่งเข้าแทงใส่ท้องเสียเอง
              "กรรมติดจรวดตามสนองนายกันแล้วละ ทราเวยน์ อย่าโทษใครเลยดีกว่า เพราะมันเป็นความผิดของนายเพียงฝ่ายเดียวเองแหละ เอดจ์สแลชเชอร์" มาสวาร์ทาร์หวดดาบฟันใส่ทราเวยน์ไปอย่างจังๆ จนเป่าดาบเกรซคาลิเบอร์หลุดออกจากท้องกระเด็นมายังมาสวาร์ทาร์ แต่ทราเวยน์ที่ถูกฟันไปนั้นก็บุกเข้าใส่ "เชสโทวววววว" มาสวาร์ทาร์จึงใช้เกรซคาลิเบอร์กับมาสวาร์ทาร์เบลดแบบดาบแสง "ฉั้วะ" ตวัดเป็นกากบาทเข้าใส่ร่างทราเวยน์ไปเต็มๆ
              "เป็น เป็นไปไม่ได้น่า....มันไม่ใช่ความจริง ใช่มั้ย...." ทราเวยน์กล่าวก่อนล้มหน้าคว้ำกับพื้นและ "ตรูมมมมมม" ระเบิดตรงหน้ามาสวาร์ทาร์อย่างจังๆ จนเหลือไว้เพียงแค่ชุดเกราะ ส่วนร่างได้แหลกสลายไปแล้ว
              "น่าสังเวชจริงๆ ทราเวยน์ นายไม่น่าทำลายตัวเองลงไปได้เลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์สังเวชต่อหนึ่งในสามขุนพลที่ต้องมาตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้ และมองมายังเกรชคาลิเบอร์ไว้ ซึ่งก็ "ครืดดดดด" เสียงดังมาจากข้างนอกบ่งบอกถึงประตูปากทางเข้าออกได้ปลดล็อกออกแล้ว "เวลานั้นมาถึงแล้วละ" แล้วมาสวาร์ทาร์ก็ก้าวเดินต่อ โดยเดินผ่านเกราะของทราเวยน์และไม่หันกลับมามองอีกเลย

              "ครืดดดด ตรึงงงง" ในระหว่างที่พวกพีวิล เจเนลและบรอนเซอรูทรับมือกับศึกสองกองนั้น ปากประตูทางเข้าออกสุสานแห่งดาบได้เปิดออกมา "การต่อสู้รู้ผลแล้วสิน่ะ" พีวิลกล่าว โดยตอนนี้พวกอีเนอไมนด์และครอสตรีมหยุดมือไว้
              พาราไดน์ตนหนึ่งบอก "แสดงว่า ท่านทราเวยน์เป็นฝ่ายชนะกันละสิน่ะ" โดยที่พวกพาราไดน์ของทราเวยน์ต่างลุ้นอย่างใจจดใจจ่อไว้
              "ขุนพลเฟอคาน่า รู้ใช่มั้ยว่าจะต้องทำเช่นไรกันน่ะ" ครองคอร์ดกล่าว
              เฟอคาน่าบอก "รู้อยู่แล้ว และเป็นไปตามที่ท่านแม่ทัพใหญ่คาดไว้ ไม่มีผิดจริงๆ" ซึ่งไม่ช้า ก็มีเสียงก้าวเดินขึ้นบันไดไป แน่นอนว่า เฟอคาน่าคาดไว้ไม่มีผิด ผู้ที่ขึ้นมานั้น ก็คือเอชมาสวาร์ทาร์นี้เอง
              "มาสวาร์ทาร์" ทั้งหมดกล่าวขึ้นอย่างดีใจมาก ต่างจากพวกครอสตรีมที่ตอนนี้
              "บ้า บ้าน่า นี้ท่านทราเวยน์พ่ายแพ้แล้วหรือไงกันน่ะ" พาราไดน์ชายตนหนึ่งกล่าว
              พาราไดน์หญิงอุทานขึ้น "เป็นไปไม่ได้น่ะ ก็ท่านทราเวยน์เป็นผู้ได้ดาบเกรชคาลิเบอร์ก็ต้องเป็นฝ่ายชนะกันบ้างสิ แต่ แต่ทำไมกัน..."
              "นั้นก็พิสูจน์ให้เห็นกันแล้ว ว่าขุนพลของพวกเจ้านั้น พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์แล้วละ" เฟอคาน่ากล่าวโดยก้าวเดินมาพร้อมกับกองรบของเธอ "เห็นแก่ที่พวกเจ้าติดตามทราเวยน์มา และท่านแม่ทัพใหญ่ยังเห็นพวกเจ้าเป็นกำลังสำคัญอยู่ ดังนั้นพวกเจ้าควรจะเตรียมตัวไว้เพื่อสู้กับมาสวาร์ทาร์กันได้แล้วน่ะ" เหล่าพาราไดน์ที่ติดตามทราเวยน์ได้ฟังเลยจำต้องยอมจำนนไว้ ซึ่งฝั่งของมาสวาร์ทาร์นั้น
              "ดูเหมือนว่านายจะเจอศึกหนักมากเลยน่ะ แม้นายจะได้ดาบเทพมาก็ตามน่ะ" คลอเวฟบอก
              "นั้นนะหรือ สุดยอดดาบของอาทรัลเตอร์ที่ว่ากันว่าเป็นอาวุธที่ทรงอำนาจมากเลยน่ะ" เจเนลกล่าว
              จิลกล่าว "แค่มองเห็นดาบก็รู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่ด้วย นับว่าโชคดีมากแล้วที่ได้มันมาน่ะ"
              "แต่ดาบของนายเองก็คงเหลือแค่นี้แล้วสิน่ะ" สเปียริทบอก มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              บรอนเซอรูทกล่าว "แล้วนายคิดจะทำยังไงกับมันเลยละ"
              "มาสวาร์ทาร์ สมแล้วที่ท่านโครเต้เชื่อมั่นว่าเจ้าสามารถเอาชนะทราเวยน์ ยอดขุนพลที่โอหังมากที่สุดในครอสตรีมของพวกเรา แม้ว่าดาบของเจ้าจะพังพินาศลงไปแล้วก็ตาม" เฟอคาน่ากล่าว "เกรชคาลิเบอร์เองก็มีพลังครอสเซียมอันมหาศาลอยู่ในคมดาบ ซึ่งท่านอาทรัลเตอร์ได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจสร้างมันขึ้นมาจนเป็นดาบที่เจ้าถืออยู่นี้ ดังนั้น เจ้าคงจะอยู่บนโลกได้อีกยาวเลยละน่ะ"
              คลอเวฟบอก "เฮ้ย ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ดีละสิ ไม่เพียงนายอยู่ช่วยพวกเราสู้ต่อ แต่ยังมีอาวุธที่ไร้เทียมทานเช่นนี้ เราก็ชนะพวกโอเวอร์เดสได้สบายบรือเลยละ"
              "เออ ทำไมนายไม่พูดอะไรเลยละ มาสวาร์ทาร์" บรอนเซอรูทถาม
              พีวิลบอก "ว่าแต่ นายตัดสินใจจะทำเช่นไรกับชัยชนะที่นายได้มากันละ"
              "....ยกโทษให้ด้วยน่ะ ทุกๆคน....ฉันจำต้องทำเช่นนั้นจริงๆ" มาสวาร์ทาร์กล่าว โดยที่มองดาบทั้งสองเล่ม นั้นคือมาสวาร์ทาร์เบลดที่เหลือคมเพียงนิดเดียวและปรากฎรอยร้าวออกมา กับเกรชคาลิเบอร์ที่เขาได้มันมาด้วยชัยชนะอันภาคภูมิใจไว้ แล้วก็... "ฟึ่บบบ" โยนเกรชคาลิเบอร์ให้ลอยขึ้นฟ้าและร่วงลงมา "หวืมมมมมม" มาสวาร์ทาร์ใช้ดาบของตนสร้างคมดาบแสง "หวับบบบ" "เปรี้ยงงง" ฟันทำลายเกรชคาลิเบอร์จนหักครึ่งลงกับพื้นอย่างจังๆ
              "นี้นายจะบ้าเลยหรือ มาสวาร์ทาร์ นายทำลายอาวุธเทพของแม่ทัพเก่าของนายลงแบบนี้ แล้วพวกเราจะเอาอะไรไปสู้กันวะ" คลอเวฟโวย
              "นี้คงไม่ใช่ สิ่งที่ท่านอาทรัลเตอร์สั่งเสียไว้จริงๆละสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              เจเนลบอก "ด้วยการทำลายดาบที่ทรงพลังมากที่สุดลงอย่างงั้นนะหรือ แต่นายได้มันมาด้วยชัยชนะของนายแบบนี้ มันไม่เป็นการดูถูกคุณลุงแม่ทัพที่ตายไปเลยหรือไงกันน่ะ"
              "เกรชคาลิเบอร์เป็นอาวุธที่ทรงพลังซึ่งแม่ทัพอาทรัลเตอร์สร้างขึ้นมานั้น หากใช้มันต่อสู้ด้วยความยุติธรรมและปกป้องความสงบสุขเอาไว้ได้จริง มันก็ย่อมเป็นอาวุธที่ใช้ทำลายล้างและสร้างความวุ่นวายได้เช่นกัน ซึ่งดาบเล่มนี้ เปรียบเหมือนแมนิเกเตอร์อย่างพวกเราและพวกนั้นเองแหละ" มาสวาร์ทาร์บอก "สิ่งที่มีคุณค่ามากมายมหาศาล ย่อมเป็นที่หมายปองของทุกคนไม่ว่าจะดีหรือเลวก็ตาม ถึงฉันมีไว้ในครอบครองก็ย่อมมีคนหาทางช่วงชิงแย่งมันมาเป็นของตนเองหรือใช้ไปในทางที่ผิดอย่างแน่นอน ซึ่งดาบเล่มนี้ ได้ทำให้ผู้ใช้คนก่อนเสียชีวิตไปแล้ว ถ้าฉันยังเก็บเจ้านี้ไว้ ฉันก็ไม่แคล้วมีชาตะกรรมแบบเดียวกันหากฉันสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปอยู่ดีกันน่ะ"
              ทินเหมาลีบอก "จะว่าไปก็ใช่น่ะ ขนาดคัมภีร์เคล็ดวิชาอันไร้เทียมทานเอง ยุทธภพต้องนองเลือดเพราะการแก่งแย่งชิงดีมาด้วย การมีตัวตนของสิ่งสูงล้ำค่าไม่ได้แค่ทำให้คนมีความสุข ยังยังสร้างทุกข์แบบต่อเนื่องอันยาวนานกันด้วยน่ะ"
              "แต่ นายคงไม่บ้าจี้ใช้ดาบที่เหลือเพียงนิดเดียว และใช้พลังของนายที่มีอยู่ในตัวไม่มากไปสู้กันเนี้ยน่ะ" คลอเวฟบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "นายลืมนิยามของครอสตรีมแล้วหรือ ว่าพวกเขาเปรียบเหมือนอะไรกันน่ะ"
              "เดียวก่อนน่ะ อย่าบอกน่ะ นั้นคงจะเป็น..." ไซโคลเนียได้ฟังก็เข้าใจได้ในทันที
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ใช่.... ครอสตรีมเป็นกองกำลังแมนิเกเตอร์ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นดาบหอกและโลห์ของโอเวอร์เดส ซึ่งนั้นหมายถึง แมนิเกเตอร์ทุกตนในกองกำลัง ก็คืออาวุธอันทรงพลังในคราบของนักรบ ที่ผ่านการฝึกฝนเรียนรู้และขัดเกลาฝีมือและความสามารถที่มีอยู่ ไปพร้อมกับพัฒนาทักษะใหม่ๆขึ้นมาอยู่เสมอ โดยที่ยังรักษาความรู้ดั่งเดิมที่ถ่ายทอดเอาไว้ไปด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่แค่พลังครอสเซียมที่ทรงพลัง แต่มันหมายถึง นักรบที่ได้คัดสรรให้เป็นอาวุธที่ทรงคุณค่าและทรงอำนาจมากที่สุดตามไปด้วย ซึ่งที่ว่าทั้งหมดนั้น มันกำลังจะสูญหายไปจากพวกครอสตรีมกันแล้วน่ะ"
              "แปลว่า นายคิดที่จะใช้พลังใจในการต่อสู้ละสิน่ะ" บรอนเซอรูทบอก
              เลอแชนกล่าว "แม้ว่านั้นจะเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งกันอย่างงี้ มันไม่เห็นแก่ตัวไปเลยหรือ"
              "ฉันยังมีความเชื่อมั่นที่จะสู้เพื่อปกป้องผู้อ่อนแอจากความชั่วร้ายทั้งปวงกันอยู่แล้ว แม้ว่ากายจะเสื่อมสลายไปมากแค่ไหนก็ตาม ตราบใดที่ใจยังไม่ยอมแพ้และยินยอมที่จะสู้อย่างเต็มที่ด้วยแล้ว แม้ตายก็ไม่เสียใจกันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "สปิริตของนายแรงกล้ามากเลยน่ะ มาสวาร์ทาร์ สมแล้วที่นายเอาชนะคนถ่อยนั้นลงไปได้น่ะ"
              "น่าขัน แรงใจอันกล้าแกร่งของเจ้านะหรือ จะใช้สู้กับพวกเราได้ ในเมื่อตอนนี้ เจ้าเหลือเวลาเพียงแค่ 10 นาทีอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ถึงจะโค่นทราเวยน์ลงได้ แต่เจ้าต้องสิ้นชีพลงตรงนี้โดยที่พรรคพวกของเจ้านั้นต้องพ่ายแพ้ตามไปด้วยน่ะ" เฟอคาน่าบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "เวลาสั้นขนาดนี้ ยังคิดจะชนะพวกเราได้นิ ฝันเฟื่องกันเสียจริงๆเลยน่า"
              "ฉันอาจจะแค้นที่นายทำให้ฉันเสียใจมากันก็จริง แต่ก็ต้องขอบใจนายด้วย ที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับตัวเองมากขึ้น ว่าฉันควรที่จะอยู่เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้จนถึงที่สุด แม้จะรู้ว่าตัวเองอยู่ได้ไม่นานก็ตาม เจตจำนงของฉันก็ไม่มีวันที่จะถูกทำลายไปได้หรอกน่า เฟอคาน่า แล้วก็ขุนพลครองคอร์ด" มาสวาร์ทาร์บอกพร้อมกับชูดาบเอาไว้ "....เพราะฉันตัดสินใจที่จะเป็นดาบที่มีไว้เพื่อปกป้องผู้อ่อนแอจากเงื้อมมือของพวกแกกันนี้แหละ" ด้วยคำพูดของมาสวาร์ทาร์ ซากดาบเกรชคาลิเบอร์ก็ "แวบบบบบบบ" คมดาบที่แตกหักและด้ามจับเรืองแสงขึ้นมา
              "นี้มัน เกิดเรื่องอะไรกันขึ้นละเนี้ย" ฟันดิวเรคบอก
              "เกรชคาลิเบอร์มัน...." เฟอคาน่ากล่าว

              ไม่ทันไร ชิ้นส่วนคมดาบเกรชคาลิเบอร์ก็ "แวบบบบ ฟ้าวววว แว้งงงง" กลายเป็นแสงและพุ่งเข้าไปในลูกแก้วตรงกลางโก่งดาบมาสวาร์ทาร์เบลดไว้ แล้วก็ "แว้ง แว้ง แว้ง แว้ง แว้ง" มาสวาร์ทาร์เบลดก็เรืองแสงและ "ครี้งงงงงงงง" คมดาบที่เหลือแค่ตอ ได้งอกยาวกลับเป็นคมดาบอันใหม่เป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับ "กรี้งงงง" โก่งดาบเพิ่มโก่งด้านข้างหนึ่งอันไว้ "นี้มันอะไรนิ ทำไมถึงได้..." มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่งลง
              "เจตจำนงและการตัดสินใจของเจ้าที่มีต่อเกรชคาลิเบอร์นั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ดาบที่แท้จริงนั้น หาใช่ดาบที่ข้าขึ้นมาและถูกทราเวยน์นำไปใช้จนถูกเจ้าทำลายลงไม่ แต่ เป็นจิตใจและหัวใจของเจ้าเองต่างหากละ" อาทรัลเตอร์โผล่มาตรงหน้ามาสวาร์ทาร์ในสภาพวิญญาณกล่าวขึ้น
              มาสวาร์ทาร์บอก "จิตใจและหัวใจของผมนะหรือ....แม้ว่าผมจะทำลายเกรชคาลิเบอร์ทิ้งไปแล้วเนี้ยน่ะ"
              "ใช่ เพราะเจ้ารู้สาแก่ใจแล้วว่าเกรชคาลิเบอร์เป็นเหมือนดาบสองคมที่สามารถใช้พิชิตใครต่อใครได้ก็ย่อมใช้เพื่อพิชิตเจ้าเช่นกัน หากเจ้าพลาดพลั้งถล่ำลึกเหมือนกับทราเวยน์ขึ้นมา ดาบเล่มนั้นจึงเป็นแค่เครื่องมือ หาใช่เป็นอาวุธที่แท้จริงไม่ก็เท่านั้นเอง" อาทรัลเตอร์บอก "ซึ่งพวกครอสตรีมในเวลานี้ ต่างได้หลงลืมสิ่งสำคัญที่เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าเพชร ทนทานกว่าเหล็กหรือโครมเมทาเลี่ยมกันไปแล้ว มีแต่เจ้าเท่านั้น ที่เข้าใจหลักคำสอนของข้าตั้งแต่ต้นจนจบ ว่าอาวุธที่ถูกสร้างมานั้น จำเป็นต้องใช้แรงใจและหัวใจในการสร้างเช่นเดียวกับการใช้มันด้วยน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทั้งๆที่โครเต้ในตอนนี้ หัวใจมีแต่แรงอาฆาตแค้นกันอย่างงั้นละสิครับ"
            "แต่โครเต้ก็เหมือนกับเจ้านี้แหละ ใฝ่ศึกษา เรียนรู้ ฝึกฝน รับฟังและเข้าใจในสิ่งที่ข้าสอนได้อย่างลึกซึ้งกันด้วย จึงไม่แปลกเลย ที่ข้าให้เจ้ากับโครเต้เป็นคู่ดวลของราวนด์ดูอัลไว้ เนื่องจากว่าเจ้าทั้งสองต่างมีขีดความสามารถเท่ากัน มีสถานะเสมอกัน แม้ว่าเจ้าทั้งสองจะมีเจตจำนงที่แตกต่างกัน ซึ่งนั้นก็เป็นไปตามที่ข้าคาดไว้มาแต่แรกแล้วน่ะ" อาทรัลเตอร์บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ถ้าเช่นนั้น นี้คงเป็นแผนของโครเต้ที่บีบให้ผมออกมาเพื่อพิสูจน์ว่า ผมคู่ควรจะเป็นผู้ท้าดวลอย่างงั้นสินะ"
            "ใช่ หากแต่ โครเต้ค้นพบพลังแทรนซิ่งขึ้นได้ก่อน ซึ่งเขาได้มันมาด้วยแรงแค้นเต็มเปี่ยมจนยอมรับว่าตนเองอ่อนแอและไม่พร้อมที่จะลงโทษพวกคนชั่วเหล่านั้นไว้เลยน่ะ" อาทรัลเตอร์บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "งั้นหรือครับ แต่...ผมมีความสามารถแทรนซิ่งได้จริงๆนะ..." ไม่ทันไร ส่วนเกราะหน้าอกก็ถูกถอดออกมา พร้อมกับแกนหัวใจพลังงานครอสเซียมที่มีแม่กุญแจล็อกเอาไว้ "นิ นี้มันอะไรกันละครับ" มาสวาร์ทาร์ถาม
              "ว่ากันตามตรงเลยนะ มาสวาร์ทาร์ แม่กุญแจที่ล็อกแกนหัวใจนี้แหละ คือตัวการจริงๆที่ทำให้พลังครอสเซียมถดถอยลง ซึ่งแม้จะได้รับพลังงานครอสเซียมจากเฟอคาน่าเพื่อให้เจ้าอยู่ต่อไปได้ แต่นั้นก็แค่ตามเวลาเท่านั้นแหละ เพราะฉันรู้ดีว่า เจ้าทั้งสองคงจะใช้พลังเผาผลาญมันไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะถึงแก่ชีวิตก่อนที่จะได้ทำอะไรเพิ่มเติม ฉันเลยใส่มันไว้กับพวกเจ้าทั้งสอง เพื่อที่พวกเจ้าทั้งสองจะหาทางปลดล็อกมันด้วยตัวเอง ซึ่งโครเต้ได้ปลดล็อกแม่กุญแจนั้นออกไปแล้ว เหลือแต่เจ้าเท่านั้นแหละ" อาทรัลเตอร์บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะว่า แกนหัวใจที่ท่านใส่ให้ผมและโครเต้ มันทรงพลังมากเลยสิครับ"
            "เป็นเช่นนั้น และตอนนี้เจ้าได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญมากที่สุด และพิสูจน์ให้ข้าได้เห็นกันแล้วละ" อาทรัลเตอร์นำด้ามดาบหักที่ลอยอยู่ และ "ฟ้าวววว แกร็ก กรึกกก ครี้งงงง" ซัดให้ด้ามดาบพุ่งเข้าไปเสียบกับรูแม่กุญแจ จากนั้นก็ปลดล็อกออกจนแม่กุญแจนั้นแปรเปลี่ยนเป็นวงแหวนที่ห้อมล้อมแกนหัวใจไว้ ซึ่งก็ลอยกลับมาที่ร่างมาสวาร์ทาร์ตามเดิม "นี้คือตราเกียรติยศที่คู่ควรกับเจ้า ในฐานะดาบแห่งการปกป้องกันแล้วน่ะ เอชมาสวาร์ทาร์ ต่อจากนี้เป็นต้นไป ชีวิตของเจ้าจะยาวนานพอที่จะต่อสู้และปกป้องผู้อ่อนแอกว่ากันแล้ว จงอย่าลืมสิ่งที่สำคัญมากที่สุดไปเสียละ" แล้วอาทรัลเตอร์ก็สูญสลายไป เวลาที่หยุดนิ่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไว้ มาสวาร์ทาร์มองดูดาบของตนที่กลับสู่สภาพเดิมและแบมือขึ้นมา "ขอบคุณมากนะครับ ท่านแม่ทัพอาทรัลเตอร์"
              "ตะกี้นี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ" ครองคอร์ดบอก
              เฟอคาน่ากล่าว "เกรชคาลิเบอร์ที่ถูกทำลายไปนั้น ไม่เพียงฟื้นสภาพดาบของมาสวาร์ทาร์ให้กลับเป็นอย่างเดิม แต่มัน กลายเป็นกุญแจที่ทำให้มาสวาร์ทาร์มีพลังครอสเซียมมากพอที่จะอยู่ได้นานและทรงพลังกว่าที่เป็นอยู่กันแล้วละ"
              "มาสวาร์ทาร์ นายไม่เป็นไรน่ะ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "พวกนายถอยไปก่อน ให้ฉันจัดการเองดีกว่าน่ะ" แล้วก็ก้าวเดินไปยังพวกครอสตรีมและอีเนอไมนด์ไว้
              "ถึงเจ้าจะรอดพ้นจากสภาวะอายุขัยสั้นลงไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะชนะพวกเรากันไปได้หรอกน่ะ" เฟอคาน่าบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "อีกทั้งเจ้าได้ทำลายเกรชคาลิเบอร์ไปแล้วนั้น โอกาสชนะของเจ้ากับพวกไม่มีทางเป็นไปได้กันหรอก"
              "นั้นคงเป็นความคิดข้างเดียวละสิน่ะ ครองคอร์ด คิดแบบนั้นไม่มีทางที่นายจะชนะพวกเราตามที่อ้างไว้หรอก เพราะฉันจะสำแดงให้พวกแกเห็นเอง" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็ไขว้แขนให้แขนทั้งสองข้างขนานตรงหน้าอกไว้ ซึ่งร่างของมาสวาร์ทาร์เรืองแสงพลังงานครอสเซียมขึ้น "ด้วยพลัง ทักษะ เกียรติและจิตวิญญาณ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แปลงร่าง" แล้วก็สบัดแขนบิดตัวไปทางขวาให้แขนขวาตั้งลงกับพื้นแล้วก็หมุนแขนทั้งสองข้างเยียดแขนซ้ายไปข้างหน้าพร้อมกับชูแขนขวาขึ้น "แวบบบบบบ เปรี้ยงงงง" แล้วพลังครอสเซียมก็โพยพุ่งขึ้นมา
              "นี้นะหรือ การแปลงร่างของมาสวาร์ทาร์กันน่ะ" ไซโคลเนียกล่าว
              "แวบบบบบบบ ฟ้าววววว" มาสวาร์ทาร์ลอยอยู่ในห้วงของพลังงานแสงครอสเซียมไว้ "แวบบบบ ครี้งงงงง" ส่วนเกราะขาเรืองแสงและเปลี่ยนเกราะขาให้เรียวยาว ส่วนเท้าจากเหลี่ยมเป็นรองเท้ากลมเหมือนรองเท้าของซามูไร ซึ่งท่อนขาด้านล่างนั้นหัวเข่าครอสเซียมถูกยืดให้ยาวมาถึงหน้าแข้ง เช่นเดียวกับแผงครอสเซียมติดกับข้างขาทั้งนอกและใน โดยที่ขาซ้ายแปรสภาพก่อน "แวบบบบบ ครี้งงงง" ขาขวาก็เปลี่ยนตามไปด้วย "แวบบบบบบบ" ส่วนหัวไหล่ที่เป็นแผ่นเกราะโค้งเรืองแสงครอบคลุมไปถึงส่วนแขน "ครี้งงงงง" ซึ่งส่วนแพลทหัวไหล่เปลี่ยนเป็นเกราะหัวไหล่ทรงกลมเสี้ยวไว้ โดยที่เกราะแขนนั้นเปลี่ยนไปโดยเพิ่มแพลทครอสเซียมไปด้วย "แวบบบบบบบ ครี้งงงงง" เมื่อแขนซ้ายเปลี่ยนไป แขนขวาก็เปลี่ยนทรงตามไปด้วย "ฟ้าวววว" ดาบเรืองแสงพุ่งลงมาเสียบเข้าตรงด้านหลังของเกราะลำตัวซึ่งก็ "แกร็กกก ครี้งงงงง" ทันทีที่ดาบเสียบกลางหลัง ปลายคมดาบก็แยกออกกลายเป็นปีกตัววีไป "วาบบบบบบบบ" ส่วนเกราะหน้าอกนั้นก็เรืองแสงและ "ครี้งงงง" เปลี่ยนทรงขึ้นในทันที ซึ่งแผงครอสเซียมที่อยู่ใต้อกนั้นขยายขึ้นจนปิดทาบตรงกลางหน้าอก โดยที่มีแถบครอสเซียมปรากฎขึ้นด้านข้าง ส่วนเกราะแผ่นกระโปรงหน้าก็หดสั้นลงและเปลี่ยนจากแผ่นเกราะสีเงินเป็นเกราะครอสเซียมไว้ "แว้งงงงงง แวบบบบ ฟี้วววว" มาสวาร์ทาร์หลับตาพร้อมกับส่วนหมวกที่มีผลึกครอสเซียมที่แหลม แปรเปลี่ยนหมวกที่มีส่วนบั้งครอสเซียมเล็กๆอยู่หลังหัว เช่นเดียวกับส่วนผลึกบนหัวที่หดสั้นมาอยู่ตรงหน้าผากไว้ "ครืดดด กรี้งงง" เฟสการ์ดก็ปิดหน้าของมาสวาร์ทาร์ในร่างใหม่ที่ได้ลืมตาขึ้น เผยดวงตาที่ตอนนี้เรืองแสงสีเขียวไว้ "ฟ้าวววววว ควี้งงงงง" แล้วก็ทะยานขึ้นพร้อมกับเป่าเสาพลังแสงให้หายไป เป็นอันเสร็จสิ้นการแปลงร่างของมาสวาร์ทาร์กันแล้ว
              "นั้นนะหรือ ร่างแทรนซิ่งของมาสวาร์ทาร์กันน่ะ" โฟรซ่าบอก
              เซเทธกล่าว "สุดยอด พลังเต็มเปี่ยมขนาดนี้ รู้สึกได้จากภายนอกและภายในกันด้วยน่ะ"
              "บะ บ้าน่า เจ้า ก็แทรนซิ่งเหมือนกับท่านโครเต้อย่างงั้นนะหรือ" เฟอคาน่ากล่าว
              มาสวาร์ทาร์ในร่างใหม่กล่าว "ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ฉันก็มีความสามารถนั้นอยู่ในตัว เฉกเช่นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างนี้ด้วย แต่ฉันจะไม่ละทิ้งเจตจำนงเดิมกันไว้ตรงนี้หรอกน่ะ ขุนพลเฟอคาน่า"
              "หนอยยยย อย่าคิดว่าได้ใจไปหน่อยเลย เหล่าเทมฟาร่า ครูเซเดน จัดการกับคนทรยศนั้นซะ" เฟอคาน่าสั่งเหล่านักรบให้บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ครูเซเดนเลยกระโดดเข้ามาพร้อมกับดาบใหญ่ไว้ "หมับบบบบ" แต่มาสวาร์ทาร์ในร่างใหม่ใช่ฝ่ามือขวารับดาบเอาไว้
              "ดาบนี้ลับคมไว้ให้คมพอที่จะสับเกราะรถถังลงไปได้ แต่ปราศจากพลังที่แท้จริงนั้น หาได้เอาชนะใครไม่หรอก" แล้วก็... "เปรี้ยงงง" ชกจนครูเซเดนตัวปลิวไปพร้อมกับดาบใหญ่ด้วย แถมแรงหมัดนั้น แรงถึงขั้นชกจนเกราะบุบเข้าถึงตัวเนื้อด้วย เทมพาร่าเลยสาดพลังคาออสติคสตอร์มเข้าใส่ "เปรี้ยงๆๆๆๆ" "ตรูมๆๆๆๆๆ" ซึ่งสายฟ้าก็สาดใส่จนระเบิดเป่ามาสวาร์ทาร์ไป แต่ก็... "ฟึ่บบบบบ" มาสวาร์ทาร์ในร่างใหม่กลับไม่เป็นอะไรเลยและสบัดควันระเบิดออกไปกันด้วย "ถ้าคิดจะสู้กับฉัน เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ ละก็ คิดใหม่ได้เลยน่ะ"
              "เซย์เคนนิ มันแปลว่าอะไรหรือ" สเปียริทถาม
              โมคุโตะเลยแปลให้ว่า "เซย์เคนในภาษาญี่ปุ่น มันแปลว่า ดาบศักดิ์สิทธิ์ยังไงละ" โดยในตอนนี้พวกอีเนอไมนด์บุกเข้ามาด้วยอาวุธปืน แต่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ "หึมๆๆๆๆ" ส่วนปีกด้านหลังเรืองแสงและทะยานพาตัวเขามา "เปรี้ยงงงง" เตะใส่เมดลิคซ์และเมลลิคซ์ที่พุ่งเข้ามาจนตัวปลิวตีลังกากลางอากาศไป 10 ตลบ แล้วก็... "หวับบบ ป้ากกก" เหวี่ยงหลังแหวนซ้ายไปข้างหลังเพื่ออัดทอฟนิคซ์ที่บุกมาจนตัวจุกแล้วก็ "หมับบบบ" ใช้มือซ้ายจิกตรงร่องเกราะเพื่อทุ่มข้ามหัวซัดไปอัดกับครูเซเดนที่บุกมาจนระเบิดวินาศสันตะโร "เซเบอร์ฟิสท์" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ใช้พลังครอสเซียมสร้างคมดาบพลังขึ้นที่ข้อนิ้วและ "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" ฟาดฟันใส่เทมพาร่าที่บุกเข้ามาด้วยหอกอย่างทันควัน โดยที่เทมพาร่ายิงปืนครอสเซียมเรลกันเข้าใส่พร้อมกับพวกเมดลิคซ์ที่ยิงอีเนลเซียมไรเฟิ่ลเข้าใส่ "กริตเตอร์ชิลด์" มาสวาร์ทาร์แบมือข้างซ้ายเพื่อสร้างโลห์พลังครอสเซียมเข้า "ปร้างๆๆๆๆๆ" ต้านทานทั้งลำแสงพลังครอสเซียมและอีเนลเซียมไว้ทั้งหมด แล้วเปลี่ยนจากโลห์ด้วยการประกบมือแล้วเหยียดแขนขวาไปข้างหน้าโดยที่มือซ้ายเปลี่ยนโลห์ให้กลายเป็นกระบี่ไว้ "ไชน์นิ่งเรเฟียร์ ชู้ต" และซัดฝ่ามือซ้ายเพื่อส่งกระบี่ออกไป โดยที่กระบี่นั้น "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ" แยกออกเป็นห้าอันและ "ปั้กๆๆๆๆ" พุ่งแทงทะลุใส่ร่างของเมดลิคซ์สี่และเทมพาร่าหนึ่งเข้าจน "ตรูมๆๆๆๆ" ระเบิดแหลกเหลวไป "แดกเกอร์ลันเชอร์" แล้วก็ยิงกระสุนมีดสั้นออกจากส่วนปืนที่บ่าทั้งสองข้างเข้าใส่กริมลิคซ์เอาไว้ ซึ่งกระสุนมีดสั้นเป็นมีดสั้นพลังครอสเซียม ที่เมื่อปักตามตัวไปแล้วก็ "แวบบบ ตูมๆๆๆๆๆๆ" ระเบิดใส่ร่างกริมลิคซ์ไปอย่างจังๆ   
              "ดาบศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ นั้นเป็นตำแหน่งของผู้ถูกเลือกจากแม่ทัพอาทรัลเตอร์ ซึ่งเป็นสถานะสูงสุดของนักรบครอสตรีมกันนิน่า" ครองคอร์ดกล่าว
              เฟอคาน่าบอก "และการที่มาสวาร์ทาร์ใช้สมญานี้ในสภาพแทรนซิ่งนั้น แสดงว่าคงจะพร้อมสำหรับการดวลกับท่านโครเต้แน่นอน แต่คิดหรือว่าชัยชนะเหนือทราเวยน์มันจะลงเอยแค่นั้นน่ะ" แล้วก็เสกหอกยาวออกมา โดยกระทบปลายด้ามไว้ ซึ่งพวกครอสตรีมได้ยินก็รีบถอยออกมา
              "ยัยนั้นคิดจะทำอะไรกันน่ะ" กริมเบอรี่บอก
              โฟรซ่าบอก "คงไม่คิดที่จะร่ายคาถาอะไรบ้าๆที่อาจจะทำลายพวกเรากันทั้งหมดไปหรอกน่ะ"
              "เดียวก่อนน่ะ หรือว่า เฟอคาน่าคิดจะใช้พลังของเธอ ดึงทราเวยน์ให้กลับมาสู้ต่ออีกครั้งกันน่ะ" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์บอก
              เลอแชนกล่าว "แต่ขุนพลนั้น นายจัดการกับมันเองด้วยมือ แล้วจะปลุกผีขึ้นมาได้..."
              "แต่ฉันรู้สึกได้ว่า หล่อนทำเช่นนั้นจริงๆแล้วละ เพราะฉันได้ยินเสียงโหยหวนของพวกศัตรูที่ล้มกองกับพื้นด้วยนะสิ" ทินเหมาลีบอก
              จิลกล่าว "เสียงเหล่านั้นไม่เพียงหนวกหู แต่มันกำลังหลอนประสาทอย่างมากเลยละ"
              "ทราเวยน์ ถึงเจ้าจะพ่ายแพ้ไปแล้วก็จริง แต่ข้าได้ยินเสียงความพยาบาทของเจ้าอยู่รอบๆนี้ เช่นเดียวกับลูกน้องบางคนที่ได้ตายไปแล้วด้วย ถ้าเจ้าได้ยินเสียงของข้าแล้ว ก็จงลุกขึ้นมาเพื่อบรรลุเป้าหมายสุดท้ายกันให้ได้ซะ" เฟอคาน่ากล่าวพร้อมกับควงหอกไปมารอบตัว แล้วก็ "จึกกกก" "แว้ง" ทิ้มหัวหอกลงพื้นเพื่อสร้างวงกลมอาคม โดยที่ซากเกราะของทราเวยน์ที่กองอยู่ในสุสานนั้นได้อันตราธานหายไปและมาปรากฎตรงหน้า พร้อมกับ... "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว" ดวงวิญญาณสีเขียวของพวกครอสตรีมโผล่ออกมาจากซากร่างเดิมที่ถูกโค่นลง มารวมตัวกันกับเศษเกราะของทราเวยน์จน "แวบบบบบบบ" กลายเป็นทราเวยน์ที่ตอนนี้เผยหัวกระโหลกที่มีเพลิงสีเขียวโพยพุ่งอยู่ โดยที่ส่วนเกราะถูกเชื่อมด้วยเพลิงครอสเซียมเอาไว้ พร้อมกับแขนอีก 10 แขนถือดาบครอสเซียมเอาไว้ด้วย "เหอะๆๆๆๆ บอกแล้วงาย ว่าข้าไม่มีทางตายได้หรอก มาส วาร์ทาร์" ทราเวยน์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง แต่แฝงเร้นด้วยความพยาบาทอย่างมากมายไปด้วย
              "ดูเหมือนว่าความพยาบาทของนายไม่หายตามจิตที่ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดอย่างงั้นสิ" เซย์เทนมาสวาร์ทาร์กล่าว
              ทราเวยน์บอก "จนกว่าแกจะแดดิ้นด้วยมือของข้า ในสภาพของแรธเรธ (WrathWraith) นี้เองแหละ" แล้วก็บุกเข้าใส่ด้วยดาบครอสเซียมสิบเล่มที่ประเคนฟาดฟันใส่มาสวาร์ทาร์ที่ใช้เซเบอร์ฟิสท์ทั้งสองเล่มเข้าโต้ตอบเอาไว้ แม้เซย์เคนมาสวาร์ทาร์จะเลือกที่จะบินขึ้นไป แต่แรธเรธทราเวยน์ก็บินตามไป พร้อมกับ... "ฟิ้วๆๆๆๆ" พ่นกระสุนเพลิงสีเขียวที่มีหัวกระโหลกพุ่งเข้าใส่ เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ก็โจมตีด้วยแดกเกอร์ลันเชอร์เข้าทำลายทิ้งไปหมด แต่แรธเรธทราเวยน์ก็พ่นคลื่นเพลิงออกจากปากไป "แว้งงงง ปั้กๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" แม้มาสวาร์ทาร์จะใช้โลห์พลัง แต่ก็ต้านแทบไม่อยู่ "เพลิงแค้นของข้าทำลายได้ทุกอย่าง ต้านทานหรือป้องกันก็เปล่าประโยชน์หรอก"
              "มันก็จริงอยู่น่ะ ครอสตรีมในสภาพแรธเรธนั้นให้พลังเป็นสิบเท่าจากที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่.....เพลิงแค้นนี้ยิ่งเผาผลาญมากเท่าใด นายยิ่งจะสูญสิ้นทุกสิ่งเร็วขึ้นเหมือนกันนั้นแหละ" มาสวาร์ทาร์กล่าวพร้อมกับเข้าใช้เซเบอร์ฟิสท์ฟาดฟันใส่ ซึ่งแรธเรธทราเวยน์โต้ตอบด้วยดาบสิบมือไว้ แต่ก็.... "แกร้งงงง เปรี้ยงงง" ดาบมือซ้ายข้างที่ 3 แตกด้วยการตั้งดาบแสงรับการหวดฟาดใส่ไว้อย่างจังๆ "ป้ากกก เพล้งง เพล้งงง" ดาบเล่มที่ 2-4 ถูกทำลายทิ้งแม้จะใช้ฟันจากด้านข้างและแทงพร้อมกัน แต่มาสวาร์ทาร์ทำลายดาบที่แทงเข้ามาก่อนและสบัดแขนทำลายทิ้งไป แล้วก็ "วึมมมม แชบบบบ" สร้างคมดาบแสงขึ้นที่ปลายเท้าเตะตวัดจนเกราะถูกฟันจนเป็นรอยยาวไปเต็มๆ "มันจะมากไปแล้วน่ะ มาสวาร์ทาร์ แก...." ทราเวยน์ในตอนนี้พิโรธอย่างมากถึงกับรวบดาบที่เหลือให้กลายเป็นดาบใหญ่ทั้งสองเล่ม และใช้ดาบทั้งสองกวาดแกว่งใส่มาสวาร์ทาร์ไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างด้วยกัน
              "นายบีบให้ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว ชิน มาสวาร์ทาร์เบลด" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์เลยเรียกดาบประจำของตนขึ้นมา ซึ่งเมื่อจับด้ามดาบไว้ "กรี้งงง ครี้งงงงงง วี้งงงง" โก่งด้านข้างทั้งสองก็แยกออกเป็นรูปกากบาทในทันที แล้วก็ชักดาบออกมาซึ่งตอนนี้คมดาบเปลี่ยนทรงให้ยาวจากปลายมาถึงครึ่งส่วน อีกครึ่งที่เหลือนั้นหนากว่าด้านปลายเอาไว้ แรธเรธทราเวยน์เลยบุกเข้ามาหวดดาบใหญ่เข้าใส่ "แกร้งงง เกร้งงง เกร้งง กร้างงงง แกร้งงง" มาสวาร์ทาร์เลยใช้ดาบปัดรับไปอย่างทันควัน ซึ่งการปะทะดาบของมาสวาร์ทาร์นั้น ได้ทำให้ดาบใหญ่เกิดรอยร้าวขึ้น "ตาย" แรธเรธทราเวยน์จ้วงดาบแทงใส่ แต่เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ตั้งดาบในแนวขวางในจังหวะที่ดาบใหญ่ข้างซ้ายแทงเข้ามา "แกร้กกกกกกกกกกกกกกกกกก" ดาบใหญ่กลับถูกกรีดด้วยคมดาบของเซย์เคนมาสวาร์ทาร์จนแยกคมดาบออกเป็นสองซีก แล้วก็ "หวับบบ ฉั้วะ" อัศวินดาบศักดิ์สิทธิ์ได้หวดดาบของตนฟันใส่นักรบวิญญาณแค้นจนดาบใหญ่แตกกระจุยไป แต่มันก็หวดดาบใหญ่เข้ามา "ฮึยยยย" มาสวาร์ทาร์เลยจับดาบเต็มสองมือและ "ชวี้งงงง" ตวัดดาบเสยขึ้นไปจน "เปรี้ยงงง" ดาบใหญ่ที่ยังไม่ทันฟาดลงมาถึงตัวก็เป็นอันแตกกระจุยพร้อมกับแขนทั้งห้าไว้ แล้วก็ "ก้องงงง เปรี้ยงงงง ฟ้าวววว โครมมมม" ฟาดดาบกดร่างแรธเรธทราเวยน์ส่งร่างของมันให้ลงไปกระแทกพื้น ส่วนมาสวาร์ทาร์ก็บินลงสู่พื้นโดยเร็ว
              "ฉันนะหรือจะแพ้แกอีกครั้งเลยน่ะ ไม่มีทาง ฉันจะฆ่าแก.....ตายซะเหอะ" แรธเรธทราเวยน์แค้นเลยบุกเข้าใส่ด้วยกงเล็บเพลิงแห่งความอาฆาตแค้นไว้
              เซย์เคนมาสวาร์ทาร์จึงจับดาบชินมาสวาร์ทาร์เบลดขึ้นมา "สุดยอดท่าไม้ตายพิฆาต เอเซอร์ เอ็กเซคิวชั่นเอดจ์!!!!" "แวบบบบบบบบ" อัดพลังจนคมดาบครอสเซียมเรืองแสงสีเขียวไว้แล้วก็ "ฟึ่บบบ ควี้งงงง" สะบัดดาบให้คมดาบชี้ไปข้างหน้าจนส่งเสียงดังไปทั่วทะเลทรายโกบีไว้ "หึมๆๆๆๆ ซูมมมมม" บูสเตอร์ติดปีกส่วนหลังเดินเครื่องพาเซย์เคนมาสวาร์ทาร์พุ่งเข้าใส่พร้อมกับร่างที่เรืองแสงด้วยพลังครอสเซียมอันทรงพลังไว้ เช่นเดียวกับดาบที่เรืองแสงและลากเส้นแสงตามการบุกทะลวงไปด้วย แรธเรธทราเวยน์พยายามจ้วงกงเล็บเพลิงใส่ แต่ "ป้ากกกก" เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ที่พุ่งเข้ามาสบัดดาบให้เกิดแรงปะทะอันมหาศาล จนทำให้ร่างเพลิงนั้นชะงักงัน แล้วก็ "เชสโทวววววววววววววววว" สิ้นเสียง มาสวาร์ทาร์ที่ตวัดดาบไปในแนวขวางก็ชูดาบขึ้นสูงเหนือหัวแล้วก็ "หวับบบบ ฟ้าวววว ฉั้วะ" ฟาดฟันทิ้งดิ่งลงมา "เปรี้ยงงงงง" ผ่าร่างแรธเรธทราเวยน์เข้าอย่างจังๆ จนร่างมีรอยฟันเรืองแสงไปพร้อมกับเพลิงครอสเซียมที่มอดไหม้ไป เช่นเดียวกับมาสวาร์ทาร์ที่พุ่งมาอยู่ข้างหลังแล้ว "บะ บ้าน่า พลังของแก เหนือกว่าข้าที่กลับจากความตายเลยหรือ....เนี้ย....ไม่อยากจะเชื่อเลย..." ทราเวยน์กล่าวโดยที่ตัวถูกผ่าครึ่งยังพล่ามไม่หยุด จนเซย์เคนมาสวาร์ทาร์ต้องนำฟักดาบมา "ครี้งงงงงงงง" เสียบกลับเข้าฟักซึ่งคมส่วนล่างที่ขยายนั้นหดตัวเข้าไปในฟักดาบ แล้วก็ "กริบ!!!!" เมื่อดาบเสียบเข้าฟักจนครบ "แวบบบบบ ตรูม บรึมมมมมมมมม" ร่างสุดท้ายของทราเวยน์ก็เป็นอันระเบิดแหลกเหลวไปกับเสาพลังระเบิดครอสเซียมที่โพยพุ่งขึ้นมาทะยานสู่ฟากฟ้าและสูญสลายหายไป
              "เห็นแล้วหรือยังละ ท่านขุนพลแม่มด" ครองคอร์ดกล่าวอย่างหวั่นเกรง
              เฟอคาน่าบอก "เอชมาสวาร์ทาร์ ไม่สิ เซย์เคนมาสวาร์ทาร์ เจ้าได้กำจัดขุนพลทราเวยน์ลงแบบนี้ อย่าคิดน่ะ ว่าการที่เจ้ากำแหงกันแบบนี้ แล้วจะรอดไปได้กันน่ะ"
              "กลับไปบอกโครเต้กันเดียวนี้เลย เฟอคาน่า ว่าไม่ต้องให้รอให้ฉันไปถึงแกรนฟอสเทlซิโม่หรอก เพราะฉันจะเป็นฝ่ายรออยู่ในสนามรบกันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์เปิดเฟสการ์ดเผยหน้าเอาไว้
              เฟอคาน่าบอก "....ในเมื่อเจ้าประกาศกันเช่นนี้ ย่อมได้ ถอยทัพเดียวนี้เลย"
              "เจเนไซด์ทีม พวกเจ้ากล้าเป็นปรปักษ์กับข้าแบบนี้....แต่โอกาสหน้า พวกเจ้าไม่รอดแน่ๆ" ครองคอร์ดกล่าวและล่าถอยกลับไป
              เจเนลบอก "ดูท่าว่าพวกเราจะกำชัยชนะอันใหญ่โตกันแล้ววะ พีวิล"
              "มาสวาร์ทาร์ ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ" พีวิลกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า แล้วก็ "แว้งงงงง" ร่างแปลงแทรนซิ่งแปรเปลี่ยนกลับเป็นเหมือนเดิมขึ้นมา แม้จะเดินช้าไปสักหน่อยจนเกือบล้มก็ตาม
              บรอนเซอรูทบอก "สงสัยว่านายก็ใช้แรงไปไม่น้อยเลยน่ะ พลังการแปลงร่างคงจะดึงพลังในกายมาไม่น้อยละสิ"
              "อืมมมม นั้นคงจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเปียริทกล่าว "แล้วตอนนี้ นายยังเป็นปกติดีหรือว่าอายุขัยของนายสั้นลงไปอีกกันน่ะ"  
              "ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพปกติเหมือนเช่นเดิมแล้วละ ซึ่งก็เหมือนกับพีวิลหลังจากสู้กับแพทรีออทเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              พีวิลพยักหน้า "นี้แปลว่าแกนหัวใจของนายถูกปรับให้ใช้พลังได้อย่างเต็มที่และไม่มีวันหมดเลยสิน่ะ" มาสวาร์ทาร์พยักหน้k
              "งั้นแสดงว่าแกนหัวใจของพวกเราเองก็น่าจะอยู่ในสภาพเช่นนั้นด้วยสิ" เจเนลบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "เรื่องนั้นผมเองก็ไม่รู้หรอกน่ะ เพราะผู้สร้างครองคอร์ดไม่เปิดเผยเรื่องเทคโนโลยี่ที่ใช้กับพวกนายทั้งสามเลยก็ตามน่ะ"
              "อย่างน้อย ถ้าเราติดตามพวกนายไปถึงอวกาศนั้นก็น่าจะรู้อะไรบ้างก็ได้น่า" จายด์กล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "แต่ตอนนี้ เราจะจัดการกับปากทางเข้าออกสุสานแห่งดาบนี้ยังไงกันดีละ"
              "ให้ฉันจัดการเองเหอะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วก็แบมือไปที่บานประตู "ครืดดดด ตรึงงงงง" บานประตูหินขนาดใหญ่เลื่อนมาปิดไว้ "แว้งงงง แว้งงงง แว้งงงง" ตราแผนที่และตรากุญแจที่ยังเสียบอยู่ก็เรืองแสงขึ้น ซึ่งมาสวาร์ทาร์กำหมัดไว้ "ครี้งงงง" ตราทั้งสองนั้นปล่อยโซ่ล็อกปิดบานประตูไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับ "ครืนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทางเข้าออกได้จมดิ่งลงไปในทรายไว้
              "นายปิดผนึกมันให้กลับสู่ที่เดิมเลยสิน่ะ" คลอเวฟบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "สุสานแห่งดาบควรจะอยู่ใต้ผืนทรายแห่งนี้ ไปพร้อม กับจิตพยาบาทของผู้อาฆาตแค้นที่อยู่ในพื้นทรายแห่งนี้กันด้วยน่ะ"
              "แล้วตอนนี้พวกนายจะกลับไปยังไงกันละ ในเมื่อ นกยักษ์สองตัวนั้นก็บินไปกันแล้วน่ะ" เซเทธกล่าว

              ไม่ทันไรก็... "ตื้ดๆๆๆๆๆ" เสียงดังมาจากส่วนแขนของไซโคลเนียไว้ "โอ้ว สัญญาณติดต่อดังเข้ามาด้วย ทั้งๆที่พื้นที่แถบนี้มันไม่มีสัญญาณเลยน่ะ"
              "ครืดด แครดดด ครืดดดด นี้คือบัลโต้ พวกนายได้ยินสัญญาณนี้หรือเปล่าละ ตะกี้นี้เราได้ยินเสียงระเบิดจากระยะไกลอยู่ เช่นเดียวกับสัญญาณของพวกครอสตรีมที่อยู่รอบนอกที่เคลื่อนไหวกันน่ะ" เสียงดังมาจากเครื่องติดต่อไว้
              พีวิลและพวกได้ฟังก็ดีใจมากๆ "หัวหน้าบัลโต้ นี้พีวิลเองน่ะครับ"
              "โอ้ว พีวิลเองหรือ นึกว่าจะไม่รอดเสียอีกน่ะ 9 วันที่ผ่านมานั้น พวกเราพยายามเต็มที่ในการต้านพวกศัตรูที่ครองคอร์ดส่งมากันน่ะ" บัลโต้บอก "แล้วพวกนายเป็นอะไรบ้างมั้ยละ"
              สเตฟอร์ดบอก "ไซโคลเนียปลอดภัยดีแล้วละ เช่นเดียวกับทุกๆคนด้วยน่ะ"
              "ดีเลย เดียวเราจะไปรับในทันทีแล้วละ" บัลโต้บอก แล้วยานเฮฟไดซ์ 10 ลำพร้อมกับกองรบโมบิลลอยด์ก็มาถึงในอีก 3 นาทีต่อมากันแล้ว
              ฟันดิวเรคบอก "ว้าว นั้นคงเป็นพวกพ้องของพวกนายเลยสิน่า"
              "อืมมมมม แม้จะน่าตกใจไม่น้อยที่พวกเราต้องมาเจอในฐานะพวกเดียวกัน ทั้งๆที่ก่อนหน้าเป็นฝ่ายตรงข้ามแล้วแท้ๆน่ะ" เจเนลบอก
              พีวิลพยักหน้า "และคงมีเรื่องยาวพอที่จะเล่าให้โคเคสฟังอย่างแน่นอนเลยละ"

              แล้วหลังจากนั้น 15 นาทีต่อมา พวกพีวิลก็พาพวกเจเนลและบรอนเซอรูทมายังเวลเซน่ากันอย่างปลอดภัยแล้ว และมารายงานเรื่องราวตลอด 9 วันที่ผ่านมาให้พวกโคเคสรู้
              "อืมมมมม ให้ตายสิ ใครจะไปคิดละเนี้ย ว่าปรมาจารย์วิทยายุทธ์ของแผ่นดินจีนเมื่อ 4 พันปี ผู้รวบรวมศาสตร์การต่อสู้ทุกแขนงนั้นจะยังอยู่ ทั้งๆที่น่าจะหายสาปสูญกันไปแล้วน่ะ" บัลโต้กล่าวโดยที่ฟังพีวิล มาสวาร์ทาร์และสเตฟอร์ดเล่ามา
              เฮลิคบอก "แต่เพราะหายสาปสูญไปจากสังคมมนุษย์นั้นแหละ ที่ทำให้เขารอดจากการถูกพวกโอเวอร์เดสคุกคามกันด้วย แม้จะคาดไม่ถึงเลยว่าจะอยู่สูงเช่นนี้เลยน่ะ"
              "นั้นคงเป็นการค้นพบที่เหลือเชื่อมากเลยนะครับ เพราะคนที่ชื่อลีเฟยหลงนั้นก็เคยเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้ใช้เทคโนโลยี่ที่ทำให้เขาอายุยืนยาวมาเลยก็ตาม เพราะคนๆนี้ก็เหมือนกับดร.รีไลฟ์เวอรี่เองนะครับ" เบย์แทนด์บอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ท่านอาจารย์เฟยหลงเก็บศาสตร์วิชาต่อสู้ทั้งหมดไว้ เช่นเดียวกับดร.รีไลฟ์เวอรี่ที่รวบรวมวิทยาการด้านอวกาศกันไว้ด้วยน่ะ"
              "แต่การมาเยือนหุบเขาสูงที่ยากจะมีใครปีนขึ้นไปถึงของพวกนายในตอนนี้ เผลอๆอาจจะทำให้เซียนหมัดมวยอยู่ไม่เป็นสุขเลยน่ะ เพราะนั้นหมายถึงจะมีคนมาท้าทายแบบนี้กันอีกน่ะ" บัลโต้บอก
              วูลลิเซียกล่าว "และอาจจะมีคนเจ็บตัวหรือล้มตายเพิ่มก็ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งแบบพวกเธอกันด้วยน่ะสิ"
              "อย่างน้อย พวกเราก็ได้จุดแรงบันดาลใจให้พวกเขากันแล้วละ" สเตฟอร์ดบอก
              บัลโต้กล่าว "ว่าแต่ ไม่คิดเลยน่า ว่าเราจะได้อดีตสมุนตัวเอ้ของครองคอร์ดเพิ่มมาสามหน่วยนิ ถ้าเกิดว่าพวกนายทรยศครองคอร์ดกันจริง แล้วพวกนายคงไม่คิดทำอะไรบ้าๆแบบนั้นกับพวกเราอีกเลยหรือไงกันน่ะ"
              "ที่เราทรยศครองคอร์ดไปนั้น เพราะว่าครองคอร์ดบีบบังคับพวกเราให้มาสู้กับพวกนายด้วยเครื่องทรมานที่ฝังไว้ในกายกันอยู่ และเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต่อต้านครองคอร์ดกันนี้แหละ" เจเนลบอก "แม้ฉันจะทำอะไรห่ามๆและอาจจะไม่ฟังคำสั่งของพวกนายในทีแรกก็จริง แต่....พวกเราและพวกนายเองต่างก็มีศัตรูเป็นคนเดียวกันมิใช่หรือ"
              เฮลิคพยักหน้า "มันก็จริงอยู่น่ะ เพราะถ้าครองคอร์ดเองยังปั่นหัวมาสวาร์ทาร์จนแผนการที่ควรจะไม่มีใครตายกลับตรงกันข้ามเช่นนี้ ครองคอร์ดก็ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้แผนการบรรลุกันด้วยน่ะ"
              "ครองคอร์ดเป็นขุนพลที่เจ้าเล่ห์และใช้อุบายทำให้ฉันกับพวกยอมศิโรราบไว้ ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ฉันต้องก่อตั้งกองกำลังกบฎไว้น่ะ" โคเคสบอก แล้วก็เดินมายังเจเนล "ดังนั้นเราจึงมีศัตรูเป็นคนๆเดียวกัน ฉันจึงอยากจะขอความร่วมมือจากนายอย่างเต็มที่เลยน่ะ" พร้อมกับแบมือให้
              เจเนลเลยจับมือโคเคสพร้อมกับบอกว่า "เจเนไซด์ทีมพร้อมให้บริการพวกนายแล้วละ"
              "หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องวุ่นๆตามที่สเตฟอร์ดเล่าให้ฟังกันด้วยน่ะ" บัลโต้กล่าว
              เบย์แทนด์บอก "แต่อย่างน้อย พวกคุณเจเนลก็มาช่วยทางเรากันแล้วละครับ แม้ว่า ทางเราจะตกใจในเรื่องของพวกคุณบรอนเซอรูทกันด้วยน่ะ"
              "ใช่ มันน่าตกใจเอามากๆด้วยน่ะ เพราะ...พวกเรา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์นั้น เคยมีลูกมาก่อนเลยน่ะ" โคเคสกล่าว
              เฮลิคคาดการณ์ขึ้นมา "จะว่าไปแล้ว พีวิล มาสวาร์ทาร์ สเตฟอร์ด เจเนลเองก็เป็นแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์มาก่อน ก็เท่ากับว่า ทั้งไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์ก็คงจะเป็นมนุษย์ และน่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยด้านพันธุวิศวกรรมแปลกๆอย่างแน่นอนเลยละ"
              "เรื่องนี้ผมพอจะช่วยสืบได้นะครับ เพราะดร.รีไลฟ์เวอรี่เองก็มีข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ทั้งดีและเลวรวมอยู่ในช่วงที่เขาจะหนีมาที่เอเวอเรสนะครับ" เบย์แทนด์กล่าว
              บัลโต้บอก "แต่ตามที่ฉันฟังพวกนายเล่ามานิ คุณลักษณะของพวกบรอนเซอรูทนั้น มันเข้าข่ายว่าเป็นแมนิเกเตอร์แบบมิวแทนอยด์กันทั้งนั้นเลยน่ะ"
              "และเราพออนุมานได้ว่า ไวซ์ไมเซลพยายามสร้างสุดยอดแมนิเกเตอร์มิวแทนอยด์ขึ้นมา โดยใช้เหล่าบุตรที่สร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีทางพันธุวิศวกรรม ซึ่งมีผลทำให้พวกเขาเป็นมิวแทนอยด์ขึ้นมา แต่ไวซ์แลงค์คงไม่อยากให้พวกลูกๆกลายเป็นเครื่องมือของไวซ์ไมเซล เลยทำการแย่งลูกๆไปจากไมเซล ซึ่งบรอนเซอรูทกับน้องๆอีกเจ็ดก็ถูกส่งไปยังหุบเขาหอเมฆากันด้วยน่ะ" โคเคสบอก
              เฮลิคกล่าว "และ ไวซ์ไมเซลเกือบจะตามหาพวกเขาเจอแล้ว ไวซ์แลงค์หาทางสกัดกั้นขัดขวางไว้ได้เสียก่อนน่ะ"
              "แต่ก็ยังวางใจไม่ได้กันเลยน่า เพราะว่าพวกบรอนเซอรูทปรากฎตัวต่อหน้าครองคอร์ดกันด้วยแล้วน่ะ" พีวิลบอก
              เจเนลพยักหน้า "แม้จะไม่ได้ปะทะกันโดยตรง แต่ครองคอร์ดคงได้เห็นหน้าจากระยะไกลกันแล้ว ไม่แน่ ครองคอร์ดคงจะปากโป้งบอกไวซ์ไมเซลแน่นอน"
              "แล้วเราจะให้พวกบรอนเซอรูทอยู่กับพวกเราด้วยหรือเปล่าละครับ" เบย์แทนด์ถาม
              โคเคสกล่าว "ควรอย่างยิ่ง เพราะเราเคยคิดที่จะให้ใครมาเป็นหัวหน้าฝึกสอนพวกมิวแทนอยด์ให้รู้ทักษะการต่อสู้เพิ่มเติม แม้จะไม่สามารถสอนในเรื่องการใช้อาวุธปืน แค่พวกเขามีส่วนในการสู้รบร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่พวกเราได้ ก็ถือว่าเกินพอแล้วละ"
              "หวังว่าพวกบรอนเซอรูทคงจะช่วยสอนพวกมิวแทนอยด์กันบ้างละน่ะ เพราะว่าตอนนี้ฉันมีภาระทั้งหมด 21 กว่าตนที่ต้องรับผิดชอบอยู่ด้วยน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              วูลลิเซียถาม "เห็นด้วยน่ะ แต่ พวกเจเนลไม่ได้มาพร้อมกับโมบิลลอยด์ด้วยนิ คงไม่ได้หมายความว่า ครองคอร์ดคงจะใช้มันในโอกาสต่อไปละสิ"
              "เป็นไปได้สูง เพราะเราสามคนต่อต้านครองคอร์ดกันไปแล้ว มีหรือที่ไอ้หัวแหลมนั้นมันจะไม่ราวีกันน่ะ" เจเนลกล่าว
              สเตฟอร์ดบอก "และครั้งต่อไป มันต้องเล่นอุบายแย่ๆกับพวกเธอกันแน่ๆเลยละ"
              "แล้วตอนนี้ จายด์กับจิลล่ะ" เฮลิคถาม
              พีวิลกล่าว "ยังอยู่ในห้องพยาบาล คุณเซริซ่ากำลังให้ลูกมือและผู้ช่วยเช็คร่างกายของพวกเขาเผื่อว่าจะมีอะไรแย่ๆที่นอกเหนือจากเพนฟีดแบ็คที่ถูกแปรสภาพกลับมากันนะครับ"
              "แล้วก็ ฉันพึ่งจะช่วยโฟรซ่าซ่อมเจ็ทแพ็คและเจ็ทบู๊ทของไซโคลเนียจนเสร็จแล้ว ตอนนี้ฉันอยากจะเช็คร่างกายของเธอกับมาสวาร์ทาร์กันสักหน่อยน่ะ" วูลลิเซียกล่าว
              เจเนลบอก "จะทำยังไงก็ได้ แต่หวังว่าคงไม่เผลอทำไตหรือปอดหายไปข้างกันหรอกน่ะ"
              "วูลลิเซียชำนาญในเรื่องเมคานิคตรงแขนของนายน่ะ เจเนล แต่ถ้าเป็นหมอเซริซ่าละก็ คงไม่แน่ละมั่ง" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แม้ไม่อยากจะให้ตรวจ แต่คงต้องเช็คสภาพกายกันอีกรอบเพื่อความมั่นใจเลยดีกว่าน่ะ"

              "ด้านพวกเธอเสร็จแล้วหรือยังละ" เซริซ่ากล่าวกับลูกมือของเธอที่ตอนนี้จัดการถอดชุดเกราะของจายด์ออกจนเกือบหมด เว้นแต่ช่วงกึ่งกลางของร่างกายไปด้วย
              "งานหนักเลยละครับ เกราะของลุงยักษ์นิถอดออกได้ยากมาก เลยต้องเสียเวลาไปไม่น้อยนะครับ" ลูกมือแพทย์คนหนึ่งกล่าวโดยที่นำชิ้นส่วนเกราะของจายด์ออกมากันแล้ว
              "เออ พยายามเบาๆมือกันหน่อยน่ะ" จายด์กล่าว
              ลูกมือแพทย์บอก "คำๆนี้คงใช้ไม่ได้ผลหรอกครับ เพราะเราสแกนร่างของคุณแล้ว ผิวหนังของคุณแข็งมาก แม้จุดที่เป็นข้อพับระหว่างแขนและขาจะบางก็ตาม สงสัยว่าเราคงต้องเล่นของหนักสักหน่อยนะครับ" แล้วก็เอาสว่านไฟฟ้าแบบหัวกรวยยาวมา
              "อืมมมม แทบไม่คิดเลยน่า ว่าร่างที่เห็นนิ จะเป็นร่างของผู้หญิงอายุราว 19-21 ปีกันด้วยน่า" เซริซ่ากล่าวกับจิลที่ถูกถอดชุดเกราะออกไปแล้ว
              จิลบอก "เออ นี้พูดจริงตามที่คุณคิดไว้หรือเปล่าน่ะ เพราะที่ฉันได้ยินในหัวของคุณ บอกว่าฉันน่ารักสมกับเป็นเด็กสิบขวบอย่างงั้นละสิ"
              "อ่า...งั้นที่ว่าเธอเป็นเอสเปอร์ที่มีพลังกล้าแกร่งก็เป็นเรื่องจริงนะสิ แล้วว่าแต่ ลองอ่านใจของฉันได้มั้ย ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่นะ" เซริซ่าลองเชิงจิลไว้ ซึ่งเธอก็คิดในใจไปว่า "....เอ๋ ฉันจะทำเช่นไรดี กับเคสที่อยู่ตรงหน้าฉันนี้น่า เพราะเมื่อ 4 ปีก่อน เพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นแพทย์สนามเคยไปทำแผลให้กับทหารนายหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นเอสเปอร์เข้า แถมทหารที่เจ็บก็ดันเป็นพวกเซนซิทีฟและกลัวเจ็บอย่างมากเสียด้วย รุ่นพี่เลยถูกคนเจ็บที่ร้องโอดโอยใช้พลังจิตบีบซะกระดูกแขนขวาเกือบหักจนต่อประสานไม่ได้แบบนี้ ถ้าพลาดขึ้นมา ฉันไม่โดนบีบซะหัวแบนเป็นแพนเค้ทเลยหรือ"
              จิลที่อ่านใจออกเลยพูดไปว่า "....นี้พูดจริงหรือว่าพยายามพูดให้รู้สึกเห็นใจกันละ"
              "อันนี้เป็นเรื่องจริงนะสิ และได้เห็นมากับตาด้วย แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้เลยก็ตามน่ะ" เซริซ่าบอก "และฉันเองก็อยากจะเข้าใจความรู้สึกของเอสเปอร์อย่างเธอที่เป็นแมนิเกเตอร์กันด้วยแล้ว ถ้ายังไงก็ขอความร่วมมือกันหน่อยน่ะ แม้ว่าเธอจะมีร่างเป็นเด็ก 10 ขวบกันแล้วก็ตาม"
              จิลถาม "แล้วหมอไม่มีวิธีแก้ให้ฉันกลับเป็นร่างเดิมเลยหรือ"
              "ถ้าหมอเก่งถึงขั้นนั้นคงจะรักษาพวกแมนิเกเตอร์ที่มีปัญหายากๆได้ไปนานแล้วละจ๊ะ" เซริซ่ากล่าวโดยที่ในใจก็คิดตามที่พูดไว้
              จิลบอก "นี้คงกำลังคิดว่า ฉันผ่ายากเพราะสภาพในตอนนี้เหมือนเป็นตัวจิ้กซอว์ที่แปะระเบิดเวลาที่หากต่อพลาดเพียงนิดเดียวก็ตูมเลยสิน่ะ"
              เซริซ่าได้ฟังก็พยักหน้าแทน "เอาเถอะ เพราะยังไงก็อยากจะลองเชื่อหมอสักครั้งน่า"

              "ตรวจอาการของพวกเจเนลแล้วเหนือยมากเลยสิน่ะ" วูลลิเซียกล่าว โดยเอาน้ำมะนาวเย็นมาให้เซริซ่าดื่มแก้เครียดไปด้วย
              เซริซ่าบอก "ดีที่จิลยอมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบชิปทรมานของครองคอร์ดที่ตอนนี้ถูกปรับเปลี่ยนฟังค์ชั่นใหม่ไปกันแล้ว ทั้งๆที่ชิฟนั้นถูกเซตไม่ให้มีการลบหรือเปลี่ยนแปลงฟังค์ชั่นในชิฟนี้ไม่ทางใดทางหนึ่งก็ตาม" แล้วก็นำแพดข้อมูลของทั้งสามมาดู "แต่ดูเหมือนว่า การที่พวกเขาฝึกสมาธิจนเข้าใจถึงตัวตนและจิตใจของพวกเขาได้นั้น จะทำให้พวกเขาต้านทานชิฟเครื่องทรมานนี้จนเปลี่ยนมันให้เป็นตัวคัดกรองความเจ็บปวดกันไว้น่ะ"
              "แม้จะพิสูจน์ในแง่วิทยาศาสตร์ไม่ได้ก็ตาม แต่ ถ้าเปรียบเทียบกับพลัสเชอริทที่เป็นหุ่นยนต์ทั้งตัว ซึ่งสามารถถูกควบคุมจากระยะไกลให้ทำตามโดยที่ระบบเอไอไม่สามารถควบคุมได้ ราวกับเป็นหุ่นเชิดเลยนั้น สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเจเนไซด์ทีมโต้ตอบการทรมานของครองคอร์ด ก็คือจิตใจที่แข็งแกร่งและทรงพลังมากพอที่จะต้านทานเชือกที่ผูกแขนและขาไว้จนสลัดเชือกขาดออกจากกันไป แม้ว่าจะเสี่ยงกับการที่ร่างกายขยับไม่ได้เลยก็ตามน่ะ" วูลลิเซียกล่าว
              เซริซ่าบอก "นั้นก็เป็นเช่นนั้นจริงๆละน่ะ เพราะจิตใจของมนุษย์และแมนิเกเตอร์เองก็แทบไม่ต่างกัน มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอ ถูกกับผิด ขาวกับดำ ดีและชั่ว มั่นคงกับเอียงเอน เห็นด้วยกับเห็นต่าง สิ่งเหล่านั้นแหละที่แยกกลุ่มของพวกมนุษย์และแมนิเกเตอร์อย่างเห็นได้ชัดด้วยน่ะ ดีที่พวกเราคิดตัดสินใจที่ตรงข้ามกับพวกโอเวอร์เดสไว้ มิเช่นนั้น พวกเราก็คงมีส่วนร่วมในการทำลายล้างโลกไปนานแล้วละ" และหันมาถาม "ว่าแต่ เธอตรวจสอบส่วนแขนของพวกเจเนไซด์ทีมนิ เธอค้นพบอะไรบ้างละ"
              "นั้นเป็นการค้นพบที่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า วิทยาการของแรซัลก้านั้นสามารถสร้างอาวุธที่ สามารถแปรเปลี่ยนตัวพลังงานและวัตถุสารที่ใช้ได้กันอย่างหลากหลาย ภายในส่วนแขนเพียงสองข้างได้อย่างง่ายดายกันแล้วนะสิ" วูลลิเซียกล่าว และนำแบบแปลนส่วนแขนทั้งสามแบบของเจเนไซด์ทีมไว้ "ภายในโครงสร้างของส่วนแขนนั้นมีระบบกลไกที่สามารถปรับฟังก์ชั่นการทำงานให้ส่วนแขนใช้พลังงานแบบไหนก็ได้ โดยที่ตัวกลไกนั้นเป็นกลไกแบบบิดหมุนรหัสตัวเลขโดยอัตโนมัติ ซึ่งกลไกนั้นสามารถควบคุมได้จากการสั่งการจากสมอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้านึกอยากจะให้แขนพ่นไฟ สมองก็ต้องสั่งให้ระบบกลไกนั้นปรับเปลี่ยนเป็นปืนพ่นไฟได้ โดยที่กลไกนั้นจะทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพราะจำต้องเปลี่ยนแปลงส่วนแขนให้เป็นอาวุธที่ต้องการไว้ด้วย แน่นอน ว่ามันหมายถึงการสั่งให้สะสมพลังงาน ปรับเปลี่ยนเพิ่มลดเป้าหมาย ไปจนถึงพลานุภาพกับการใช้จำนวนพลังงานด้วย"
              เซริซ่ากล่าว "งั้นแปลว่าพวกเจเนไซด์ทีมสามารถใช้อาวุธได้สารพัดนึกเลยละสิ"
              "เปล่าเลย ระบบกลไกของแขนด้านซ้ายและขวาของพวกเจเนไซด์ทีมนั้น ถูกเซตให้ใช้อาวุธได้น้อยชิ้น ราว 8-9 อย่างด้วยกัน แน่นอนว่าระบบดังกล่าวถูกเซตให้ตายตัวเป็นการถาวร กล่าวคือ เจเนลไม่สามารถเปลี่ยนมือซ้ายเป็นดาบได้ และไม่สามารถใช้แขนขวายิงจีบัสเตอร์แทนได้เสียด้วยน่ะ เช่นเดียวกับจายด์และจิลด้วยน่ะ" วูลลิเซียบอก
              เซริซ่ากล่าว "ครองคอร์ดคงเตรียมไว้เพื่อไม่ให้พวกเราไปปรับเปลี่ยนให้พวกเจเนไซด์ใช้อาวุธที่นอกเหนือจากที่เซตไว้เลยสิน่ะ" แล้วก็นำแพดออกมาวิเคราะห์ข้อมูลของจายด์และจิล "ทีมแพทย์ที่ตรวจสอบร่างกายของจายด์นั้น ไม่เพียงผิวหนังที่หนาจนต้องใช้เครื่องมือแพทย์ที่ทำด้วยโครมเมทาเลี่ยมกรีดผ่านไปได้ แต่พวกเขายังพบมวลสารที่เกาะอยู่บนผิวหนังของจายด์ด้วยน่ะ" แล้วก็เอาโหลแก้วเล็กใส่เศษผิวหนังของจายด์ ซึ่งมีเศษหินติดอยู่
              "อันนี้มันเศษหินเลยหรือ คงไม่ใช่สะเก็ดแผลละสิ" วูลลิเซียเช็คดูด้วยแว่นขยายทรงกล้องดูเพชรไว้
              เซริซ่าบอก "เศษหินนั้น ฉันตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้ว พบว่ามันมีโครงสร้างของผลึกที่ก่อตัวหนาแน่นและแฝงเร้นมวลอะตอมพลังงานเอาไว้ ซึ่งไม่เพียงทำให้ร่างกายทนทานต่อการกระทบกระทั่งจากภายนอกไว้ แต่ยังทำให้ส่วนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปด้วยนะสิ" และหันมาถาม "ว่าแต่ เธอพอจะตรวจเช็คผ่านฐานข้อมูลโมเลกุลทั้งหลายได้มั้ยละ"
              "เดียวขอเช็คดูเลยแล้วกันน่ะ ว่ามันจะแมทซ์กับอันไหนได้บ้างน่ะ" วูลลิเซียเลยใช้โฮโลแพดเช็คกับเศษผลึกที่ติดมากับเศษผิวหนังของจายด์ไว้ แต่ก็.... "โมเลกุลของเศษผลึกนี้ ไม่ตรงกับข้อมูลโมเลกุลของวัตถุสารที่มีอยู่บนโลกใบนี้เลยนะสิ" วูลลิเซียสรุปผลที่ได้รับมา
              เซริซ่าบอก "ถ้ามันไม่ตรงกับข้อมูลธาตุที่มีอยู่ในเวลานี้ ถ้าระบบอาวุธในแขนนั้นมันมาจากแรซัลก้าละก็ ตัวผลึกนั้นก็คงมาจากแรซัลก้าหรือระบบดาวใกล้เคียงอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว แม้กระทั่งระบบการควบคุมพลังจิตของจิลเองก็ด้วย ฉันตรวจสอบมาแล้ว พบว่าตัวแปรสภาพพลังจิตที่ฝังติดกับสมองของจิลนั้น ก็ไม่ตรงกับอิมแพลนท์ที่ใช้กับพวกเอสเปอร์ในช่วงยุคทองตั้งแต่ช่วงกลางถึงช่วงปลายเลยสักอย่าง เพราะตัวอิมแพลนท์นั้น แทบไม่มีชิ้นไหนที่ผลิตขึ้นบนโลกเลยน่ะ"
              "แสดงว่าครองคอร์ดสร้างเจเนไซด์ทีมขึ้นด้วยเทคโนโลยี่ที่ได้จากแรซัลก้าละสิ" วูลลิเซียกล่าว
              เซริซ่าพยักหน้า "และ เราพึ่งจะรู้ว่า พวกบรอนเซอรูทเองไม่เพียงเป็นมิวแทนอยด์ แต่ยังเป็นลูกของไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์เช่นนี้ เท่ากับว่าเรามีผู้ต่อต้านที่ตรงตัวพวกสมุนของโอเวอร์เดสกันครบแล้วนะสิ" และนำข้อมูลของมาสวาร์ทาร์มา "เช่นเดียวกับมาสวาร์ทาร์นั้น ข้อมูลตั้งแต่ก่อนที่เขาเดินทางออกจากเมืองมาจนถึงบัดนี้ พอจะเป็นข้อมูลตั้งต้นสำหรับการตรวจสอบร่างของพวกครอสตรีมกันในภายภาคหน้า แม้ว่าสภาพของเขาจะเหมือนกับพีวิลเลยก็ตามน่ะ"
              "หมายถึง เขาสามารถปลดล็อกความสามารถการแปลงร่าง ไปพร้อมกับแกนหัวใจนั้นให้พลังงานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยและอยู่ได้นานจนกว่าจะถูกทำลายเลยสิน่ะ" วูลลิเซียบอก
              เซริซ่าพยักหน้า "และนั้นก็มากพอที่เขาจะสามารถช่วยเหลือพวกเราในการสู้รบกับพวกโอเวอร์เดสได้อย่างเต็มที่แล้วละน่ะ"
              "ดีแล้วละคะที่คุณกลับมาอย่างปลอดภัยเลยนะคะ" แอนเดรียกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ต้องลำบากคุณแล้วนะ ที่ต้องมาสอนพวกเฮเรเค้นในช่วงที่ผมไม่อยู่น่ะ"
              "ไม่เป็นไรหรอกคะ เพราะว่าหน้าที่เป็นครู ย่อมเจอพวกนักเรียนที่ไม่ตั้งใจเรียนและไม่ฟังคำเตือนของครูอยู่เสมอ ซึ่งฉันก็ชินกับมันและรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้วนะคะ" แอนเดรียบอก โดยที่แฮมชัค ชาร์เครฟ เฮเรเค้นและเทรอนเร็กซ์ต้องมายืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดที่ทำด้วยโครมเมทาเลี่ยมหนักเป็นตันเอาไว้ในปาก ซึ่งก็ทำให้หัวก้มลงเพราะน้ำหนักของตัวไม้บรรทัดไปด้วยก็ตาม
              ดิเรนท์บอก "นั้นไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมพวกเฮเรเค้นถึงโดนลงโทษแบบนั้นไปเสียได้น่ะ"
              "แล้วคุณไม่เป็นไรจริงๆหรือเปล่าคะ" แอนเดรียถามด้วยความเป็นห่วง
              มาสวาร์ทาร์ตอบ "ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้วละครับ แม้ร่างกายจะต้องปรับตัวกับสภาพที่เปลี่ยนแปลงไป แค่พักสักวันสองวันก็พร้อมกลับมาทำงานตามเดิมแล้วละครับ" แล้วก็หันมายังพวกดิเรนท์และเฮเรเค้นที่ยังนั่งอยู่ว่า "นอกจากคาบวิชาเรียนในห้องแล้ว ครูจะเริ่มการฝึกฝนการต่อสู้ของพวกเธอกันสักหน่อย เพราะในช่วง 9 วันที่ครูไม่อยู่ พวกเธอคงไม่ได้ขัดเกลาฝีมือของพวกเธอกันเลยสิน่ะ"
              "ครับ และบวกกับว่าคุณโคเคสเรียกพวกเรามาช่วยกองรบสู้และต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา ทำให้ยากที่จะมีเวลาพักเลยนะครับ" ฟลาแน็กซ์บอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "....งั้นพรุ่งนี้ ครูจะต้องฝึกพวกเธอในเรื่องการใช้อาวุธและขัดเกลาวิชาการต่อสู้ให้ดีขึ้นกว่านี้ ซึ่งครูหวังว่าพวกเธอจะตั้งใจฝึกฝนโดยดีเลยน่ะ"
              "โอ้ว นี้อาจารย์มาสวาร์ทาร์คงจะไปฝึกฝนวิชาดาบจนกลับมาสอนพวกเราแล้วสิน่า" เวลลิทบอก
              ดิเรนท์กล่าว "แน่ละ ครูพึ่งจะผ่านการทดสอบที่มีชีวิตเป็นเดิมพันด้วยแล้วนิ สงสัยว่าการสอนครั้งนี้คงจะหนักหนากว่าแน่นอน"

              "พวกเธอคงจะเหนื่อยไม่น้อยสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              ไกซ์บอก "ครับ ลูกพี่ เพราะเมื่อไม่มีลูกพี่กับพวกแล้ว ผมกับมิลด์และทุกๆคนต้องพยายามปกป้องเวลเซน่าเอาไว้ แม้คุณมาสวาร์ทาร์จะมีแผนการโต้ตอบไว้ก็ตามน่ะ"
              "แต่อย่างน้อยพวกเราก็กลับมากันแล้วละ พร้อมกับอะไรใหม่ๆที่ได้เรียนรู้ด้วยน่ะ" สเปียริทกล่าว
              มิลด์บอก "หวังว่าคุณสเปียริทคงจะสอนวิชากังฟูให้พวกเราด้วย แม้จะไปอยู่บนเขาในชายแดนจีนมาตั้งหลายวันนะคะ"
              "อย่าห่วงไปเลยนะ เดียวถ้ามีโอกาสฉันจะบอกทินเหมาลีให้ช่วยสอนเลยแล้วกัน" สเปียริทบอก
              ไกซ์กล่าว "ไม่คิดเลยนะครับ ว่าลูกพี่จะช่วยพวกลูกพี่เจเนลจากเงื้อมมือของไอ้ขุนพลหัวแหลมนั้นไว้ได้นะครับ"
              "นั้นแค่ถูกครึ่งเดียวน่ะ ไกซ์ เพราะเจเนไซด์ทีมต้องการจะหลุดพ้นจากอุ้งมือเลวร้ายของครองคอร์ดด้วยตัวเอง จึงทำให้พวกเขาสามารถรอดมาถึงนี้ยังไงละ" พีวิลกล่าว
              ด็อดเจอร์บอก "ใช่ และจายด์ก็ช่วยทุ่นแรงไปได้มากโข ซึ่งก็ทำให้ทีมช่างที่ควรจะมาช่วยแบกชิ้นส่วนหนักๆนั้น จะได้มาช่วยซ่อมบำรุงกันอย่างเต็มที่เลยละ" ซึ่งจายด์ก็รีบแบกชิ้นส่วนข้อต่อแขนของการ์เซนท์ไว้
              "แล้วว่าแต่ พวกบรอนเซอรูทจะปรับตัวเข้ากับพวกเราที่เป็นพวกทหารขนานแท้ได้หรือเปล่าละคะ" มิลด์ถามด้วยความกังวล
              กริมเบอรี่บอก "เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่ะ เพราะว่าเราได้พบกับเพื่อนที่เหมือนกับพวกเราแล้ว พวกเขาเกิดความสนใจในตัวพวกเราที่อยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวายและเงื้อมมือของโอเวอร์เดส เลยหันมาถามไถ่อย่างไม่หยุดหย่อนมากๆเลยน่ะ"
              "งั้นที่เธอมาหลบอยู่นี้คงเบื่อที่จะต้องอธิบายกันยาวๆละสิ" สเปียริทบอก
              กริมเบอรี่กล่าว "เปล่าหรอก จริงๆแล้ว ฉันแค่หาที่ว่างๆมานอนกลางวันสักหน่อยน่ะ เพราะ ออกแรงสู้กับพวกศัตรูมาหลายตัว ที่แต่ละตัวแข็งๆจนต้องใช้แรงเยอะในการบิดหักคอและแขนขาด้วยน่ะ..." แล้วก็โน้มตัวลงนอนพิงใกล้ๆกับแผงคอนโซลไว้
              "ขนาดอยู่ในโรงซ่อมบำรุงยังหาเรื่องหลับเหมือนตอนอยู่บนเขาไม่มีผิดเลยน่า" สเปียริทกล่าวอย่างระอา เพราะเห็นพฤติกรรมของกริมเบอรี่แบบนี้บนเขากันแล้ว
              "จะให้แบกพาไปที่ห้องเลยมั้ยคะ" มิลด์กล่าว
              พีวิลบอก "ไม่ต้องห่วงหรอก เดียวจะมีคนมารับไปเองแหละ" ไม่ทันไร เซเทธก็โผล่มาพร้อมกับอุ้มกริมเบอรี่ออกไปโดยไม่ทักทายสักคำ
               "เขาไม่พูดกับพวกเราเลยหรือคะ คุณพีวิล" มิลด์กล่าว
              "เซเทธแค่เขินอายเองแหละที่ยังปรับตัวกับพวกเราทุกคนไม่ได้กันน่ะ แม้จะรู้ว่ามีเพื่อนแบบเดียวกันกับเขาอยู่ด้วยก็ตามน่ะ" พีวิลบอก
              ไกซ์กล่าว "นั้นสิครับ แม้จะรู้ว่าพวกเขาเป็นลูกของแม่ทัพสัตว์ประหลาดนั้นก็ตามน่ะ"
              "นั้นเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายกันด้วยน่ะ" พีวิลกล่าว
              สเปียริทบอก "แต่อย่างน้อย พวกเราก็รู้แล้วว่าแม่ทัพที่ควบคุมและสร้างสัตว์ประหลาดช่วยเหลือครองคอร์ดกับกองรบใต้บังคับบัญชานั้น เคยทำโปรเจคอะไรไว้ก่อนกันน่ะ"
              "แม้พวกเราจะตกใจไม่น้อยถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกบรอนเซอรูทและไวซ์ไมเซลกับไวซ์แลงค์ก็ตาม แต่...โชคดีมากที่พวกนายไปเจอพวกเขาก่อน ไม่เช่นนั้น เราก็ไม่ได้รับรู้ความจริงตรงนี้กันด้วยน่ะ" ด็อดเจอร์บอก
              ไกซ์กล่าว "นั้นสิครับ ถ้าไวซ์ไมเซลไม่บ้าหรือเพี้ยนหนักมากขนานนั้น ไวซ์แลงค์คงไม่พาพวกพี่เขาหนีไปขึ้นเขาสูงตั้งพันฟุต แล้วให้คุณลุงที่นั้นเลี้ยงดูและฝึกฝนพวกเขามาตั้ง 20 ปีด้วยนะครับ"
              "ใช่ และต่อจากนี้ก็คงจะเป็นการต่อสู้ระหว่างพวกเรากับแอตแลนไทซ์และครอสตรีมกันจริงๆแล้วละ" สเปียริทบอก
              พีวิลกล่าว "ตอนนี้ มาสวาร์ทาร์ก็สามารถแทรนซิ่งได้แล้ว แม้อาจจะได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามกันก็จริง แต่พวกเราจะโต้ตอบพวกมันให้ได้เลยละ"
              "เฮ้ พวกนายอยู่นี้เองหรือ โคเคสเรียกพวกนายมาโดยด่วนน่ะ" เจเนลรีบมาพอดี
              พีวิลบอก "โคเคสนะหรือ...." แล้วทั้งหมดมารวมตัวกันในห้องประชุมไว้ "โคเคส ว่าแต่ ที่นายเรียกพวกเรามานี้พร้อมกับทุกๆคนในเมืองนั้น มีอะไรกันหรือ"
              "ที่ฉันเรียกพวกนายมาพร้อมกับทุกๆคนนั้น เพราะฉันจะมาบอกเรื่องสำคัญบางอย่างไว้" โคเคสกล่าวและเกิร์นเข้าเรื่องไว้ "ในตอนนี้ กองกำลังสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ของพวกเรานั้นเข้มแข็งมากพอแล้ว หากแต่ เรายังขาดระเบียบและกฎเกณฑ์อยู่บ้าง ซึ่งทำให้มีบางครั้งที่หน่วยรบบางหน่วยไม่เชื่อฟังและทำตามคำสั่ง ทำนอกเหนือหรือเกินจากที่สั่ง รวมไปถึง ใช้ประโยชน์จากสถานะของพวกเราทำเรื่องเดือดร้อนมากมาย ซึ่งฉันได้สั่งให้หัวหน้ากองรบไปตักเตือนและลงโทษตามกฎไว้แล้วก็จริงน่ะ"
              บัลโต้บอก "แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสู้รบและเสริมความเชื่อมั่นที่มีต่อพวกเรากันนั้น เราจำต้องปรับปรุงกฎเกณฑ์และระเบียบของกองทัพเอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งนั้นหมายถึง การสังคายนาจัดระเบียบกองรบและหน่วยรบเฉพาะการณ์ไปด้วย"
              "แปลว่า พวกนายเริ่มปรับปรุงเรื่องการอยู่ร่วมกันของพวกแมนิเกเตอร์ในเมืองด้วยสิน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              เฮลิคบอก "ไม่ใช่แค่พวกเราในเวลเซน่า แต่หมายรวมไปถึงพวกแมนิเกเตอร์ที่เอเวอเรสที่จะเข้ามาประจำการณ์เพื่อช่วยงานพวกเรา พวกบีสทอยด์ที่บิดคราซิล แม้กระทั่งพวกมิวแทนอยด์ตกสำรวจที่ไวซ์ไมเซลรวบรวมรายชื่อไว้เพื่อนำตัวมาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ์ของโอเวอร์เดสกันด้วยน่ะ"
              "พวกมิวแทนอยด์ตกสำรวจอย่างงั้นนะหรือ..." ไซโคลเนียกล่าว
              เบย์แทนด์เลยอธิบายไปว่า "ตลับยาวที่บรอนเซอรูทได้รับมานั้น เราได้ทำการถอดรหัสมาแล้ว พบว่ามันเป็นแผนที่ตั้งแหล่งที่หลบซ่อนของพวกมิวแทนอยด์ ซึ่งหลบหนีจากการคุกคามของพวกมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการจับตัวไปทำการทดลอง นำไปเป็นส่วนหนึ่งของกองรบ หรือแม้กระทั่งบุกไปกวาดล้างให้สิ้นซากไว้ ซึ่งทางเราเชื่อว่า ไวซ์ไมเซลรวบรวมรายชื่อและที่ตั้งของพวกนั้นไว้ เพื่อเป็นกำลังสำรองเวลาที่สัตว์ประหลาดไม่สามารถสู้กับทางเราได้นะครับ"
              "ดังนั้น นอกเหนือจากภารกิจการต่อสู้กับแอตแลนไทซ์และครอสตรีม เรายังต้องแข่งกับไวซ์ไมเซลในเรื่องปลดปล่อยพวกมิวแทนอยด์กันด้วยน่ะ" โคเคสบอก
              คลอเวฟถาม "เรื่องนั้นเรารู้อยู่แล้วละ แต่ที่นายเรียกเรามาที่นี้ เพื่ออะไรกันน่ะ"

              "ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ ว่าพวกเราได้จัดระเบียบกองกำลังของพวกเราให้เข้าที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งนั้นหมายถึง พวกนายทั้งหมด ซึ่งรวมถึงพวกบรอนเซอรูทและพวกเจเนไซด์ทีมกันด้วย" โคเคสกล่าว "ด้วยพลัง ความสามารถและประสบการณ์ของพวกนายทั้งหมดนี้ คู่ควรจะที่เรียกพวกนายทั้งหมดว่าเป็น กองรบเวเซอร์ กันได้แล้วละ"
              สเปียริทถาม "เว เวเซอร์นะหรือ มันเป็นหน่วยแบบไหนกันน่ะ"
              "โคเคสเรียกพวกเราว่าเวเซอร์นิ มันดีหรือไม่ดีกันเลยละ" ทินเหมาลีกล่าวอย่างสงสัย
              โฟรซ่าบอก "กองรบเวเซอร์นั้น มันย่อมาจาก Veteran Elite Specialists Expert Regiment หรือ กองกำลังทหารผ่านศึกระดับหัวกระทิที่รวมเอาผู้มีความสามารถเฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆเอาไว้ด้วยกัน กองรบไหนที่ได้สถานะนี้ จะถือว่าเป็นกองรบพิเศษที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายมากกว่าหน่วยรบพิเศษที่เน้นไปในภารกิจเฉพาะเพียงอย่างเดียว เพราะในกองกำลังนั้นมีสมาชิกที่เชี่ยวชาญในด้านการรบแบบต่างๆรวมอยู่มากมาย" แล้วก็อธิบายไปอีกว่า "แต่ถึงแม้จะเป็นกองรบระดับหัวกระทิที่ทำได้ทุกอย่าง พวกเขาก็ยังต้องขึ้นตรงกับผู้บังคับบัญชาสูงสุด โดยที่ยังอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์และขอบเขตคำสั่งเพื่อมิให้ปฏิบัติการณ์ออกนอกขอบเขตไปจากที่วางไว้ด้วยน่ะ"
              "พูดง่ายๆ ว่าตอนนี้เรามีสถานะเป็นกองกำลังระดับเอกเลยละสิฮะ" โมคุโตะบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ซึ่งไม่ใช่แค่กองรบที่ถูกตั้งแต่งให้เป็นกองรบเวเซอร์อย่างเดียว ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกไม่ว่าจะเป็นบุคคลหนึ่งหรือสองสามคน หรือเป็นกลุ่มย่อยๆนั้น สมาชิกในกองรบเวเซอร์ สามารถเกณฑ์ให้เข้าร่วมในฐานะ ทหารหน้าใหม่ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพิจารณาของผู้บังคับบัญชาสูงสุด โดยในกรณีนี้ ก็คือโคเคสเองแหละ"
              "แล้วในเวลานี้มีกองรบที่ใช้ชื่อแบบนี้เลยหรือเปล่าละ" เลอแชนถาม
              สเตฟอร์ดส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "รหัสกองกำลังเวเซอร์นั้น มันได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์เมื่อยุคทองช่วงปลาย ไปพร้อมกับสมาชิกในกองกำลัง เพราะทั้งหมดล้วนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของโอเวอร์เดสกันทั้งนั้นแหละ ซึ่งสหพันธ์โลกพยายามจะก่อตั้งกองรบเวเซอร์ใหม่ ก็ไม่ทัน เพราะโอเวอร์เดสได้ทำลายสหพันธ์โลกไปเสียก่อนน่ะ ชื่อนี้จึงสูญหายไปโดยปริยายด้วยน่ะ"
              "งั้นที่นายแต่งตั้งพวกเราด้วยรหัสนี้ หมายความว่า...." พีวิลบอก
              โคเคสบอก "ใช่ ด้วยความช่วยเหลือของพวกนายที่มีต่อพวกเรานั้น ได้ทำให้พวกเราโต้ตอบพวกโอเวอร์เดสจนกำชัยเหนือกองรบของพวกมันถึงสองกองกันแล้ว ซึ่งพวกนายมีความสามารถและทักษะการต่อสู้ที่แตกต่างกันไปด้วยแล้ว การแต่งตั้งพวกนายให้เป็นกองกำลังเวเซอร์นั้น คือการสร้างความฮึกเหิมต่อพวกเราทุกๆคนและประกาศต่อพวกโอเวอร์เดสว่า พวกเราร่วมรบไปด้วยกันกับกองรบที่ครบเครื่องและเก่งกาจที่สุดอย่างพวกนายกันแล้วน่ะ"
              "ปัญหาคือ นายคิดจะแต่งตั้งใครให้เป็นหัวหน้ากองกันเลยละ" บัลโต้ถาม
              เฮลิคบอก "นั้นสิ เพราะเรามีสองตัวเลือกก็คือ มาสวาร์ทาร์ ซึ่งเป็นแมนิเกเตอร์ที่ช่วยเหลือทางเราไว้ บวกกับเก่งทั้งบุ๋นและบู้ด้วยแล้ว อีกตัวเลือกก็คือ สเตฟอร์ด ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 54 และเป็นผู้สั่งการของพีวิลและเจเนลกันด้วย การแต่งตั้งใครคนใดคนหนึ่งอาจจะส่งผลต่อทุกๆคนในกองก็เป็นได้น่ะ"
              "นั้นสิครับ ถ้าแต่งตั้งคุณมาสวาร์ทาร์ให้เป็นหัวหน้า คุณเจเนลที่เป็นลูกน้องคุณสเตฟอร์ดอาจจะไม่ฟังคำสั่งก็เป็นได้ ในทางกลับกัน ถ้าเลือกคุณสเตฟอร์ดเพื่อรักษาความจงรักภักดีต่อคุณเจเนล แต่อาจจะทำให้พวกคุณเฮเรเค้นที่เป็นลูกศิษย์ของคุณมาสวาร์ทาร์ไม่พอใจด้วยนะครับ" เบย์แทนด์บอก
              สเตฟอร์ดจึงลุกออกมาว่า "ถ้าเช่นนั้น ฉันขอสละสิทธิ์การเป็นหัวหน้าได้มั้ยละ"
              "เฮ้ ลูกพี่ เอางั้นจริงๆเลยหรือ โอกาสมันมาตรงหน้ากันแล้วน่ะครับ" เจเนลกล่าว
              สเตฟอร์ดเลยบอกไปว่า "เจเนล ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 54 เหมือนเดิมแล้วน่ะ เพราะทั้งฉัน โฟรซ่า พีวิล แล้วก็นาย ต่างก็เป็นแมนิเกเตอร์เหมือนกัน สถานะเดิมที่ติดตัวตอนเป็นมนุษย์นั้น ก็สูญหายไปกับสถานะเดิมกันแล้ว หากแต่ ความอาวุโสไม่ควรจะละทิ้งไปกันหรอกน่ะ"  แล้วก็ตบไหล่เจเนลและพีวิลไปว่า "พีวิล นายเติบใหญ่ขึ้นมากและสามารถรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเราและโคเคสโดยไม่เกี่ยงสถานะไว้ จึงมีคนเคารพนับถือนายไม่น้อย ส่วนเจเนล ตอนนี้นายมีลูกทีมสองคนที่ต้องดูแล ก็เท่ากับว่านายมีความรับผิดชอบมากขึ้นเช่นเดียวกับพีวิลด้วย ฉันจึงรู้สึกภูมิใจที่มีรุ่นน้องอย่างนายสองคนด้วยน่ะ"
              "และการได้สถานะเป็นสมาชิกกองกำลังเวเซอร์นั้น มันเป็นเกียรติสูงสุดของพวกเราที่ได้รับ แม้ว่าจะเป็นแมนิเกเตอร์ก็ตาม แค่สเตฟอร์ดไม่ได้เป็นหัวหน้าก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะไร้ความหมายกันหรอกน่ะ" โฟรซ่าบอก
              จายด์กล่าว "โฟรซ่าและสเตฟอร์ดพูดถูกแล้วละ การที่ฉันและจิลที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเป็นทหารนั้น ยังได้เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังระดับหัวกระทิแบบนี้ ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะนายด้วยน่ะ เจเนล"
              "ไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้าหรือไม่ ตอนนี้นายก็มีเราสองคนเป็นเพื่อนร่วมทีมกันแล้วน่า" จิลบอก
              เจเนลยิ้มพร้อมกับบอกว่า "ในเมื่อพวกนายสองคนพูดมาเช่นนี้ ก็ช่วยไม่ได้ละน่า..." แล้วก็บอกไปว่า "แม้ลูกพี่เป็นหัวหน้ากองหรือไม่ ผมก็ยังนับถือและให้ความเคารพลูกพี่กันอยู่แล้วละครับ"
              "ในเมื่อ สเตฟอร์ดสละสิทธิ์เช่นนี้ มาสวาร์ทาร์ นายพร้อมจะรับผิดชอบตำแหน่งหัวหน้ากองด้วยหรือเปล่าละ" โคเคสถาม
              มาสวาร์ทาร์บอก "โคเคส ถึงฉันจะได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากองกันก็จริง แต่ กองรบเวเซอร์นั้นมีผู้ชำนาญการที่หลากหลายซึ่งสามารถปฏิบัติการณ์ภารกิจที่ต้องใช้สมาชิกที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้เหมาะสมกับงานนั้น ตามกฎแล้ว คนที่ชำนาญในเรื่องนั้นควรจะเป็นหัวหน้าคุมกองกันด้วยน่ะ"
              "ถ้าเป็นกรณีนั้น ผู้เชี่ยวชาญนั้นจะมีสถานะเป็นหัวหน้าได้เฉพาะภารกิจนั้นๆ ซึ่งถ้าภารกิจนั้นจบลงไม่ว่าจะดีหรือเลวก็ตาม ตำแหน่งหัวหน้ากองจะกลับมาอยู่ที่ตำแหน่งหัวหน้ากองคนเดิมกันน่ะ" เฮลิคบอก
              โคเคสกล่าว "ตอนนี้เรายังไม่มีตัวเลือกในกลุ่มที่เหมาะสมมากนัก เจเนไซด์ทีมและบรอนเซอรูทกับน้องๆก็พึ่งจะเข้ากับกลุ่มเรา ยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันอยู่ จนกว่าจะถึงเวลานั้น นายรับผิดชอบตำแหน่งนั้นไปก่อนแล้วกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์พยักหน้า และรับตำแหน่งหัวหน้ากองรบเวเซอร์กันไว้
              "เรื่องแต่งตั้งกองรบเวเซอร์นั้น ก็เป็นอันลงเอยกันแล้ว หวังว่าต่อจากนี้ไป กองกำลังของพวกเราจะสามารถโต้ตอบพวกโอเวอร์เดสกันได้แน่นอน จึงให้ทุกๆคนร่วมแรงร่วมใจกันไว้แล้วกันน่ะ" โคเคสกล่าว
              ทั้งหมดตอบรับ "เฮ้ โอ้วววววว" บ่งบอกได้ว่า เวลาสิบวันแห่งความอดทนของฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ได้ยุติลง และถึงเวลาแห่งการโต้ตอบกลับกันแล้ว

    โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 17 การหักหลัง รักสามเส้า การท้าดวล และการโต้ตอบอันเจ็บแสบของคลอเวฟ
    ตอนหน้า คลอเวฟจับตัวพีวิล สเปียริทและมาสวาร์ทาร์ไปที่ปิรามิลด้า เพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรอง ในการท้าดวลกับไพลม์เทคกัน แต่แฝงเร้นแผนเอาคืนแอตแลนไทซ์ไว้ แม้จะรับประกันไม่ได้ว่ามันจะสำเร็จจริงหรือเปล่า ต้องติดตาม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×