ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #31 : ตอนที่ 15 คมสายฟ้าที่กลับด้าน นางฟ้าผู้หลงทางกับวิหคยักษ์ใหญ่ ขุนพลเฒ่าสิ้นสูญ บทแคมป์ในป่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20
      0
      13 ก.ย. 64

              วันต่อมา รถถังกราแทงค์ของกลุ่มสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ได้เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วไม่มีหยุดแวะพักเลย จนข้ามเขตทะเลทรายรอบนอกเวลเซน่าไปจนถึงเขตป่าลึกแห่งหนึ่งในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
              "สภาพข้างนอกเป็นไงบ้างละ สเตฟอร์ด" พีวิลกล่าว โดยในตอนนี้สเตฟอร์ดขี่ไทรไบค์ไปกับโฟรซ่าที่คอยสอดส่องรอบนอกเอาไว้
              "ไม่มีอันตรายปรากฎอย่างชัดเจนน่ะ พีวิล ทั้งบนพื้นและกลางอากาศกันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              "แต่ยังไงก็ระวังไว้ด้วยนะ เพราะครองคอร์ดไม่ยอมปล่อยให้พวกเราลอยนวลกันแน่นอน" พลัสเชอริทกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "....ใช่ พยายามระแวดระวังกันไว้ด้วยละ เพราะอันตรายและความเสี่ยงมักจะมาได้ทุกวินาทีอยู่แล้วละ"
              "เออนิ มาสวาร์ทาร์ นายไม่คิดจะซ่อมแซมดาบให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเลยหรือ เพราะเราไม่แน่ใจว่าดาบที่มันมีรอยร้าวนั้นจะใช้ฟันคอใครได้น่ะ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ชักดาบดูสภาพของมันในตอนนี้พร้อมกับบอกว่า "ครอสตรีมมักจะใช้พลังงานครอสเซี่ยมในการซ่อมแซมอาวุธที่ทำด้วยแร่ชนิดเดียวกัน ซึ่งดาบที่แตกร้าวและหักเสียหายไปนั้น สามารถซ่อมให้กลับสภาพเหมือนใหม่ด้วยการใช้พลังครอสเซียมในตัวฟื้นฟูได้นี้แหละ"
              "แล้วที่นายไม่ใช้มันไปนั้น คงไม่ใช่ว่า การซ่อมดาบของนายนั้นต้องจ่ายพลังไปเยอะมากละสิ" สเปียริทกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า และเสียบดาบกลับเข้าฟักตามเดิม "นิยามและเอกลักษณ์ของครอสตรีมนั้น อาวุธในมือเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา หากแตกหักหรือเสียหายขึ้นมา ก็เท่ากับว่าชีวิตถูกทำลายไปครึ่งส่วนกันแล้ว แม้เฟอคาน่าจะให้เวลาฉันเพียง 9 วัน แต่จริงๆแล้ว ฉันเหลือเวลาอยู่บนโลกเพียงแค่ 4 วันครึ่งเองน่ะ"
              "งั้นนิยามที่ว่า ครอสตรีมเป็นเหล่าดาบ หอกและโลห์ของโอเวอร์เดสนั้น ก็เป็นจริงอย่างงั้นละสิ เพราะว่านายในเวลานี้ก็เป็นเหมือนดาบหนึ่งเล่มที่ใช้สู้ร่วมกันกับโคเคสกันน่ะ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ไม่ใช่แค่ครอสตรีมอย่างเดียวที่มีสถานะเป็นอาวุธกันหรอกน่ะ แมนิเกเตอร์ไม่ว่าลำพังหรือเป็นกลุ่มที่ถูกสร้างเพื่อต่อสู้และทำสงครามกันนั้น ก็เปรียบเหมือนเป็นอาวุธสำหรับต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยกันทั้งนั้นแหละ"
              "แล้วเรื่องที่นายหงุดหงิดหัวเสียนั้น เพราะรู้ว่าสภาพของนายในเวลานี้ใกล้จะตายเต็มทนแล้ว แล้วทำไมนายถึงดันทุรังจะสู้ต่อกันละวะ" คลอเวฟถาม
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ฉันมีเหตุผลที่ฉันไม่สมควรจะตายด้วยกันทั้งสามเรื่องกันนะสิ" แล้วก็อธิบายไปว่า "เรื่องแรก โคเคสมีเจตจำนงจะนำพาพวกแมนิเกเตอร์และพวกเราทั้งหมดออกเดินทางสู่โลกใบนี้ และร่วมต่อสู้กับพวกโอเวอร์เดสและกองกำลังจักรวรรดิ์อวกาศจากแรซัลก้าที่คุกคามความสงบสุขในจักรวาลอันไกลโพ้นอยู่ ไปสู่ดาวบ้านเกิดแห่งใหม่ไว้ ซึ่งพวกนายก็น่าจะรู้ดีแล้วนิ ว่าถ้าเราทำตรงนั้นให้สำเร็จไม่ได้ ไม่เพียงพวกเราจะถูกกำจัดหรือถูกครอบงำให้เป็นส่วนหนึ่งของพวกโอเวอร์เดสอย่างเดียว แต่โลกก็จะต้องถูกทำลายลงอย่างแน่นอน เพราะพวกมนุษย์ที่ปราศจากชัยชนะที่พวกเราได้รับมา จะเป็นกลุ่มต่อไปที่ต้องออกมา ซึ่งโอกาสชนะนั้น ไม่มีทางแน่นอนที่จะชนะได้นะสิ"
              "พูดง่ายๆก็คือ ถ้าตราบใดที่เราผ่านครองคอร์ด แอตแลนไทซ์และครอสตรีมไม่ได้ ก็ไม่สามารถจัดการกับโอเวอร์เดสและพวกได้เลยละสิ" สเปียริทบอก มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              พลัสเชอริทกล่าว "เรื่องที่สองนั้น คุณคงไม่ได้ไปสัญญากับเหล่าหัวหน้าเผ่าให้ช่วยสอนสั่งพวกเฮเรเค้นให้เป็นแมนิเกเตอร์ที่ดีละสิครับ"
              "ถูกแล้วละ พลัสเชอริท คำมั่นสัญญานี้ถือว่าเป็นคำมั่นสัญญาระยะยาวที่ฉันต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อพวกเขาที่ตอนนี้มีสถานะเป็นนักรบไทรเมร่ากันไปแล้ว ถ้าทำให้พวกเขาเป็นแมนิเกเตอร์ที่ดีและทำคุณประโยชน์ต่อเผ่าบีสทอยด์ไม่ได้ ก็เท่ากับว่าทำให้พวกเขาผิดหวังกันอย่างแน่นอน อีกทั้งฉันก็ไม่สมควรจะตายตอนนี้ด้วย การที่ฉันใช้อารมณ์กับพวกเขาทั้งๆที่ไม่สมควรนั้น เพราะฉันไม่อยากให้พวกเขารู้สภาพของฉันในตอนนี้นะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "แต่นายไปแสดงอารมณ์กันแบบนี้ให้เห็นทั้งๆที่นายควรจะสุขุมรอบคอบเช่นนี้ ไม่เป็นการปล่อยให้พวกเฮเรเค้นรู้ถึงความอ่อนแอของนายไปเลยหรือ"
              "ฉันรู้ดีแล้วละน่า พีวิล แต่เรื่องนี้มันเกิดไปแล้ว ก็ยากที่จะแก้ไขอะไรได้กันแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเปียริทถาม "แล้วว่าแต่ เรื่องที่สามนิ นายไปสัญญากับใครกันอีกละ"
              "ดร.รีไลฟ์เวอรี่ขอร้องให้ฉัน ช่วยดูแลและปกป้องแอนเดรียเอาไว้นะสิ เพราะว่า เธอเป็นลูกสาวของดร.เดลวีแองนูที่ได้รับเคราะห์ จากแผนการโจมตีเรือขนส่งผู้อพยพของฉันในตอนนั้นกันน่ะ" มาสวาร์ทาร์ลังเลใจอยู่สองนาทีจนจำต้องพูดออกมา
              โฟรซ่าบอกผ่านหูฟังในหมวกของมาสวาร์ทาร์ไว้ "จริงหรือเนี้ย นี้แปลว่า แอนเดรียเป็นบุตรสาวของดร.อัลบาร์คเลยหรือ นี้นายทำบ้าอะไรของนายกันแน่น่ะ"
              "โฟรซ่า มาสวาร์ทาร์ในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าดร.เดลวีแองนูและแอนเดรียอยู่ในเรือ ซึ่งแม้รู้เรื่องก็จริง แต่ก็ห้ามไม่ทันการณ์แล้ว ทั้งหมดนั้นเพราะ...." พีวิลกล่าว
               พลัสเชอริทพูดต่อไปว่า "....เป็นคำสั่งของครองคอร์ดที่เปลี่ยนแปลงคำสั่งรอของมาสวาร์ทาร์ให้บุกโจมตีในทันทีนะสิ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลรายงานของครองคอร์ดที่ผมทราบไว้กันน่ะ"
              "แม่เจ้า นั้นคงจะเป็นสาเหตุสำคัญที่นายเข้าร่วมกับโคเคสเลยสิน่ะ มิน่าละ นายถึงไม่ยอมเปิดปากพูดออกมากันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก "แล้วนายไม่ได้บอกเรื่องนี้กับแอนเดรียเลยละสิ คงไม่อยากทำให้เธอเสียใจสิน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฉันแค่ทำตามในสิ่งที่ดร.รีไลฟ์เวอรี่ร้องขอมาเท่านั้นแหละ ไม่ได้คิดเกินเลยไปมากกว่านั้นหรอก แม้ฉันจะรู้สึกผิดที่มีส่วนไปทำให้แอนเดรียเป็นแมนิเกเตอร์ไปได้ก็ตาม ซึ่งนั้นเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของฉันที่มีต่อเธอด้วยนะสิ"
              "เอ้ เดียวก่อนน่ะ ถ้านายไม่ยอมปริปากบอกเรื่องนี้กับเธอหรือแม้กระทั่งพวกเรานิ อย่าบอกน่ะ ว่านายแอบหลงรักแอนเดรียกันแล้วน่ะ" โฟรซ่าบอก มาสวาร์ทาร์ได้ฟังเลยได้แต่กัดฟันกรอดๆไว้
              สเปียริทกล่าว "....เออ ตกลงนายโกรธที่โฟรซ่าพูดแทงใจดำจริงๆนะหรือ แล้วทำไม หน้าของนายแดงเหมือนแอปเปิ้ลอาบยาที่จะเอาไปให้สโนวไวท์กินกันละ มาสวาร์ทาร์"
              "นั้นสิ ถ้าให้เดาน่ะ อุณหภูมิหน้าของนายน่าจะเกิน 50 องศาเซลเซียสแล้วละมั่ง" คลอเวฟบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "อัตราการเต้นของแกนหัวใจสูบฉีดเร็วกว่าปกติถึง 30 เปอร์เซนต์ จากผลกระทบที่ได้ฟังคำพูดดังกล่าว นั้นคงเป็นความรู้สึกเขินอายเวลาพูดถึงความสัมพันธ์ด้านความรักของมนุษย์สิน่ะ" โดยเปิดก็อกเกิ้ลสแกนเอ็กซ์เรย์สภาพร่างมาสวาร์ทาร์ไว้
              "ตอนนี้ พวกนายไม่ได้ระแวดระวังอันตรายจากครองคอร์ดเลยหรือ ถ้ามามัวพูดแล้วอยู่ๆครองคอร์ดลงมือขึ้นมา แล้วเราไม่โต้ตอบกลับนิ มันจะไม่เป็นผลดีเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์พูดตัดบทโดยเร็ว
              พีวิลบอก "มาสวาร์ทาร์พูดตรงประเด็นเลยละ ยิ่งในตอนนี้ ครองคอร์ดต้องการเอาชีวิตพวกเรากันด้วยแล้ว เราควรจะยุติเรื่องนี้ไว้ก่อนน่ะ"

              "ตรูมมมมมม" ฉับพลัน พื้นทรายด้านหน้าก็ระเบิดขวางทางพีวิลและพวกไว้ "นั้นไง พูดไม่ทันขาดคำเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก พร้อมกับเบรคไทรไบค์เอาไว้ เช่นเดียวกับโฟรซ่าที่โดดลงจากรถ พร้อมกับพวกพีวิลที่ลงจากรถมาด้วย เพราะรู้ว่า...
              "ตรงตามที่คาดไว้ไม่มีผิด ครองคอร์ดส่งพวกนายมาราวีพวกเราละสิ เจเนล" พีวิลกล่าว เมื่อเห็นเจเนไซด์ทีมโผล่มาขวางทางไว้
              "แน่นอน แต่ถึงพวกนายจะหาเรื่องหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงไป พวกเราก็ต้องตามอยู่แล้วละ" เจเนลบอก
              จิลกล่าว "ครองคอร์ดสั่งพวกเราไว้ หากพวกนายไม่โดนพวกเราปราบลง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเราเป็นอิสระกันได้หรอก"
              "แจ่ม ไอ้หัวแหลมบีบบังคับพวกนายสามตัวไว้แล้วละสิ" คลอเวฟบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ฉันรู้สึกได้ถึงพลังครอสเซียมปรากฎมาแต่ไกลแบบนี้ รีบลงมือก่อนที่พวกนั้นจะมาทำให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้จะดีกว่า"
              "ชิงลงมือก่อนได้เปรียบกันละ" สเตฟอร์ดบอก แล้วก็บุกเข้าใส่จายด์ด้วยบรูทรัลแฮมเมอร์ แต่... "ก้องงงงง" จายด์บล็อกด้วยท่อนแขนซ้ายเอาไว้พร้อมกับ "ฮึยยยย ย้าากกกก" "ป้ากกกกก" กระโดดเตะซัมเมอร์ซอลท์เข้าใส่สเตฟอร์ดไปเต็มๆ แม้ว่าปลายเท้าจะเสยตรงขอบล่างของเกราะหน้าอกของสเตฟอร์ดไปจนเท้าไม่ถึงตรงหน้าอกเลยก็ตาม หากแต่จายด์ตัวใหญ่และหนัก เลยทำให้ร่วงลงเอาหลังฟาดพื้นไปเสียเอง ส่วนสเตฟอร์ดที่โดนเตะเสยนั้นรีบพลิกตัวเอาเท้าลงกับพื้นทรายไว้ได้ทัน
              คลอเวฟกล่าวอย่างอึ้งๆ "ตะกี้นี้ เกือบโดนแล้วมั้ยละ"
              สเตฟอร์ดพยักหน้า "ดีน่ะ ที่รีบชักเท้าหลบออกมาได้ก่อนที่เท้าจะเสยเข้าตรงหน้าอกไปเต็มๆ ไม่งั้น ท่อนบนของฉันขาดกระจุยแน่ๆ"
              "ถึงนายหลบการเตะตวัดเสยขึ้นไปได้ แต่เผลอๆนายอาจจะโดนบั้นท้ายยักษ์อัดเข้าที่หัวไปได้นะสิ" คลอเวฟกล่าว
              โฟรซ่าบอก "ฉันชักจะไม่อยากจะนึกภาพเสียแล้วละ" แล้วก็หลบการโจมตีของจิลที่เทเลพอร์ตมาอย่างเร็ว และยิงสวนกลับไป แต่จิลโผล่มาพร้อมกับยิงจีเลเซอร์กันเข้าใส่โฟรซ่าจากด้านหลัง สเปียริทเลยโผล่มาพร้อมกับสร้างบาเรียป้องกัน และยิงแสงกระจายสวนกลับไป ซึ่งจิลป้องกันด้วยไซคิกบิทที่บินมาประกบเป็นโลห์สามแฉกไว้ได้ทัน
              "จายด์ นายยังดันทุรังจะใช้เครเซนท์คิกทั้งๆที่สภาพของนายไม่น่าทำได้เลยมิใช่หรือ" เจเนลกล่าวอย่างหน่ายๆพร้อมกับกระโดดถีบใส่พีวิล เพื่อเปิดการสู้ไว้ ซึ่งพีวิลบุกเข้าต่อสู้โดยเร็ว
              จายด์กล่าวหลังจากที่ลุกขึ้นไปว่า "ก็แค่อยากลองอะไรใหม่ๆก็เท่านั้นเองแหละน่า" โดยตอนนี้คลอเวฟกระโจนถีบด้วยวอร์ชิปดรอปเข้า จนทำให้จายด์ที่พึ่งคุกเข่าขึ้นมาต้องถอยครูดไปอีก 8 เมตรด้วยกัน แล้วรีบลุกขึ้นพร้อมกับ... "ว้ากกกก" พุ่งถีบด้วยชาร์จคิกใส่คลอเวฟ ซึ่งก็... "ก้องงงงง" ใช้สองมือยันฝ่าเท้าอันใหญ่โตต้านไว้ แม้จะต้องถูกดันให้ถอยหลังไปมากกว่า 10 เมตรก็ตาม สเตฟอร์ดเลยกระโดดเข้าโจมตีด้วยค้อนเข้าใส่จายด์เอาไว้
              "ว้ากกกกกก" เจเนลใช้เมทัลเบลดเข้าฟาดฟันใส่พีวิลไปมาหลายดอก แต่... "ป้ากกก" โดนพีวิลถีบสวนกลับมาจนถอยหลังไป "เสร็จฉันละ สปาร์คช็อค" เจเนลเลยยิงกระสุนไฟฟ้าเข้าใส่ ซึ่งพลัสเชอริทบุกเข้ามา "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆ" เข้าป้องกันไว้ด้วยแขนสองข้างและ "ชูริเคน ชู้ตเตอร์" กระหน่ำยิงดาวกระจายความเร็วสูงเข้าใส่เจเนล ซึ่งรีบโดดลงมาจนดาวกระจายปักพื้นจนทำให้พื้นทรายกลายเป็นพื้นแก้วอย่างฉับพลัน "นายคงจะฉลาดมากพอที่จะทำให้ครองคอร์ดส่งฉันมาจัดการกับนายกันน่ะ" เจเนลกล่าวและยิงสปาร์คช็อตเข้าใส่ แต่พลัสเชอริทวิ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงมาอยู่ตรงหน้าเจเนลไว้
              "คุณเองก็มีท่าทีต่อต้านผู้สร้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ทำไม่ได้เพราะบางอย่างในตัวพวกคุณเป็นอุปสรรค์ละสิ" แล้วก็ถีบใส่หน้าเจเนลไปเต็มๆ
              "แรงถีบแม้ไม่แรง แต่เกือบทำกรามล่างหลุดไปแบบนี้ คงต้องจัดหนักแล้ว ชาร์จช็อต" เจเนลกระโดดถอยหลังยิงจีบัสเตอร์ลูกโตเข้าใส่ แต่มาสวาร์ทาร์บุกเข้าสวนคืนด้วย "เครเซนท์เรซเซอร์" ต้านไว้ได้ทัน จนเจเนลบุกเข้าโจมตีด้วยเมทัลเบลดเข้าใส่ "ขนาดนายใกล้ตายแล้วยังโจมตีได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนิ นายไม่ห่วงว่าดาบจะหักเลยหรือ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "ฉันรู้ดีว่านายมีอาวุธดาบที่ทำด้วยโครมเมทาเลี่ยมฉาบไว้ทั้งมือก็จริง แต่...ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ดาบกับนายก็ได้นิน่า" และแสดงให้เจเนลด้วย "หวับ ป้ากๆๆๆๆๆ" การใช้ฟักดาบฟาดใส่เจเนลไปหลายดอก แม้กระทั่งใช้ฟักดาบกระทุ้งใส่เมทัลเบลดไปด้วย จนเจเนลยั้วะและยิง "เฟรมบลัสต์" พีวิลเห็นเช่นนั้นก็สวนคืนในจังหวะที่มาสวาร์ทาร์โดดหลบออกมาด้วย "เอนเนอจี้ โบลท์" เข้าไปเต็มๆ
              ในขณะที่จิลโดนโฟรซ่าและสเปียริทรุกด้วยอาวุธยาว จนเธอต้องใช้ไซคิกบิทช่วยสู้อีกแรง ส่วนจายด์นั้น... "ฮึยยย" คลอเวฟพุ่งชาร์จเอาหัวโขกอัดกับพุงใหญ่ของจายด์ไปเต็มๆ แต่ก็โดนจายด์จับตัวไว้และ "ก้อง" จับฟาดเข้ากับเข่าอัดใส่ท้องคลอเวฟไปอย่างจังๆ ก่อนจะจับฟาดกับพื้นไปหลายดอก "โว้ววว" สเตฟอร์ดเลยกระโจนเข้าเสยลาเรียตอัดเข้าหน้าจายด์จนต้องปล่อยคลอเวฟไว้
             "แชดดด แชดดด แชดดดด ตรูมมมม" ไทรไบค์ถูกเลเซอร์สีเขียวยิงมาแต่ไกลจนระเบิดอย่างจังๆ "ครอสตรีมมาแล้วละ" พีวิลกล่าว
              เจเนลสบถ "สมุนของโครเต้จะมาขัดจังหวะกันทำไมวะ" โดยตอนนี้พาราไดน์ยูนิคอร์นไรเดอร์บุกแห่มาเข้าโจมตีใส่มาสวาร์ทาร์ พีวิลและพลัสเชอริทอย่างรวดเร็ว "ฟ้าวววว แชดๆๆๆๆๆๆ" จิลรีบเทเลพอร์ตหนีเพราะไวเบิร์นไรเดอร์ยิงเลเซอร์จากภาคพื้นเข้าใส่สเปียริทและโฟรซ่าอย่างจังๆ "กรรรรรร" อัศวินมังกรสั่งให้มังกรพ่นกระสุนเพลิงเข้าใส่จายด์ สเตฟอร์ดและคลอเวฟจน "โว้ววววว" ทั้งสามปลิวกระเด็นไปตามแรงระเบิดอย่างจังๆ ซึ่งจายด์ก็โดนเพียงผิวเพิ่นไป ส่วนคลอเวฟและสเตฟอร์ดนั้นรีบหลบออกมาได้ก่อนเลยไม่เจ็บตัวมากนัก
              "พวกเจ้าโผล่มาเล่นงานพวกเรานั้น เป็นคำสั่งของครองคอร์ดหรือว่าของโครเต้กันแน่น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พาราไดน์หัวหน้ากลุ่มยูนิคอร์นบอก "ท่านทราเวยน์สั่งให้พวกเรามากำจัดพวกแกก่อนที่จะไปถึงแกรนฟอสเทสซิโม่กันนะสิ ซึ่งเราจะปล่อยให้เอชมาสวาร์ทาร์ชนะโครเต้ไปไม่ได้เด็ดขาด"
              "ทั้งๆที่เฟอคาน่าสั่งห้ามไม่ให้พวกแกออกมากันเลยนิ" คลอเวฟบอก
              พาราไดน์หัวหน้าอัศวินมังกรกล่าว "คำสั่งของท่านเฟอคาน่าก็ของท่านเฟอคาน่าสิ เพราะพวกเราทำตามคำสั่งของท่านทราเวยน์ และคำสั่งนั้นก็คือพวกแกต้องตายทั้งหมดกันนี้แหละ" แล้วก็กระหน่ำยิงครอสเซียมเลเซอร์แกตลิ่งลงพื้นไป "อ้อ ถ้าคิดจะใช้ทริคขโมยสัตว์มาใช้ละก็ บอกตรงๆน่ะ ว่ามันไม่ได้ผลหรอก เพราะสัตว์ประหลาดเหล่านี้พวกเราเชื่อมโยงด้วยครอสเซียม และถึงจะจัดการกับเราทิ้ง แต่พลังของเราจะเป็นส่วนหนึ่งของสัตว์ประหลาดไปด้วยกันเลยน่ะ" แล้วก็ระดมยิงกระสุนเพลิงลงพื้นไป ซึ่งพวกยูนิคอร์นไรเดอร์ควบม้าเข้าเล่นงานพวกพีวิลไปอย่างรวดเร็ว "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สเปียริทกระโดดถอยหลังและกราดยิงอินแกรต้าเข้าใส่ยูนิคอร์นไรเดอร์ตรงด้านหน้า สอยตรงม้าให้ร่วงเสียหลักและ "ฉั้วะ" ตวัดหอกสับคอพาราไดน์จนแดดิ้นลง พร้อมกับแทงซ้ำเพื่อโยนทุ่มอัดใส่อีกตัวที่บุกเข้าเล่นงานพีวิลให้ร่วงไป ซึ่งพวกครอสตรีมไม่บุกมาเล่นงานพวกเจเนไซด์ทีมเลย "ป้างง ป้างง ป้างง ป้างงง" คลอเวฟสอยพวกยูนิคอร์นไรเดอร์ด้วยปืนซองแฝดอิมแพคบัคส์เข้าใส่ม้า แม้จะหุ้มเกราะครอสเซียมป้องกันไว้ แต่แรงยิงด้วยกระสุนนับร้อยที่ถูกเป่าด้วยความแรงเป็นแนวเส้นตรงทำให้เกราะแตกทะลุไปถึงตัวม้าจนล้มมาโดนสเตฟอร์ดฟาดค้อนใส่คนขี่จนปลิวไปอย่างจังๆ แล้วก็... "ป้ากก โครมมม" หวดฟาดอัดใส่ทวนครอสเซียมจนแตกกระจุยพร้อมอัดทหารม้าร่วงกระเด็นไปด้านข้างเต็มๆ
              "เอาละ เอชมาสวาร์ทาร์ เตรียมตัวตายได้..." พาราไดน์ควบม้ายูนิคอร์นให้หันเขาที่ยืดยาวด้วยผลึกครอสเซียมเข้าใส่ แต่... "ฟ้าวววว" มาสวาร์ทาร์บุกโจมตีได้ก่อนด้วยเพลงดาบสายฟ้าแลบผ่าทั้งคนทั้งม้าขาดสะบั้นลงจน "ตรูมมมมม" ยูนิคอร์นไรเดอร์ระเบิดไปอย่างจังๆ โดยที่ทวนปลิวกระเด็นมา "ฮึยยย ย้า" มาสวาร์ทาร์กระโดดเข้าคว้ารับและ "ฟ้าววววว ปั้ก" ซัดเข้าปักร่างพาราไดน์ที่ขี่ม้ายูนิคอร์นจนล้มและ... "เปรี้ยงงง" พุ่งชกใส่พาราไดน์ให้ล้มก่อนจะกระชากทวนออกและแทงซ้ำเข้าที่หน้าอกอย่างจังๆ โดยได้ดูดซับพลังงานมาไว้แล้ว จากนั้นก็หยิบครอสเซียมมาสเก็ตขึ้นมา "แชดดดด แชดดดด แชดดดด" ยิงใส่พวกไวเบิร์นไรเดอร์เข้าที่ปีกจนร่วงไปสองตนด้วยกัน แต่ไวเบิร์นไรเดอร์บุกโฉบลงมาเพื่อจัดการกับมาสวาร์ทาร์เข้า "แฟงค์สไลเซอร์" พลัสเชอริทซัดดาวกระจายสองอันเข้าอัดใส่ทั้งพาราไดน์และหัวไวเบิร์นให้ชะงัก เปิดช่องให้พีวิลกระโดดเข้าโจมตีด้วย "เอนเนลซอนแคลช" เอนเนอจี้ร็อดสองด้ามต่อกันฟาดใส่จนไวเบิร์นไรเดอร์แดดิ้นไป
              "เราสู้นานไม่ไหวหรอก มาสวาร์ทาร์" พีวิลกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า สเตฟอร์ดกราดยิงโพริด็อดซ์กันเข้าใส่พวกไวเบิร์น แต่พวกอัศวินมังกรเข้ามาป้องกันไว้เพราะเกล็ดหนาต้านกระสุนที่ยิงมาอย่างเร็วได้
              "ช่วยไม่ได้ คงต้องเล่นแรงแล้ววะ พีวิล" สเตฟอร์ดบอกโดยวิ่งมาที่ข้างรถกราแทงค์เพื่อดึงเอาแกนพลังงานอีเนลเซียมออกมาอันหนึ่ง โดยที่พีวิลและพวกรีบถอยหลังมารวมกลุ่มกัน "ฮึยยยย" สเตฟอร์ดก็โยนแกนพลังงานขึ้นกลางอากาศ โดยที่หยิบค้อนบรูทรัลแฮมเมอร์มาในจังหวะที่เจ้ามังกรอ้าปากเพื่อพ่นไฟพลังครอสเซียมเข้าใส่ "โฮมรันไปเลย" ฟาดใส่แกนพลังงานอีเนลเซียมเข้าเต็มแรง ส่งแกนพลังงานให้พุ่งเข้าใส่มังกรของครอสตรีมที่กำลังจะอ้าปากพ่นไฟออกมาพอดีจน "ซูมมม" ไฟครอสเซียมปะทะกับแกนพลังงานอีเนลเซียมอย่างจังๆ จน... "แวบบบบบบบบบบบ ตรูมมมมมมม" พลังงานสองอย่างปะทะกันจนเกิดการระเบิดกลางอากาศขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้... "วื้ววววว โครมๆๆๆๆๆๆ" มังกรและอัศวินมังกรพาราไดน์ที่ขี่อยู่ร่วงลงพื้นในสภาพตอตะโกและสูญสลายไปอย่างจังๆ เช่นเดียวกับพวกอัศวินมังกรและไวเบิร์นไรเดอร์ที่บุกฝ่าเข้ามาด้วย
              "โอ้โฮ่ ไม่คิดเลยน่ะ ว่าลุงตัวเป้งจะมือแรงมากเลยน่ะ" จิลบอก
              เจเนลกล่าว "แน่ละ ลูกพี่สเตฟอร์ดไม่เพียงชำนาญเรื่องวางระเบิด แกยังเข้าแข่งเบสบอลของกองทัพมาก่อนด้วยน่ะ" แล้วพีวิลก็รีบนำกราแทงค์พาทุกคนที่ขึ้นมากันหมด ตีฝ่าพวกพาราไดน์ไปอย่างรวดเร็ว โดยที่จายด์ เจเนลและจิลระดมยิงไล่หลังไป แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียก่อน
              "กองรบส่วนหนึ่งของทราเวยน์ต้านมาสวาร์ทาร์ไม่อยู่แล้วละ" โครเต้บอก
              ครองคอร์ดกล่าว "G-1 G-2 G-3 ตามล่าพวกคนทรยศไปให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ได้หัวของพวกมันกลับมา อย่าหวังน่ะ ว่าจะมีชีวิตรอดไปได้กันละ"
              "ดูท่าว่า ครองคอร์ดจะยั้วะมากแล้วละสิ" จายด์บอก
              เจเนลกล่าว "แน่ละ ลูกพี่และพีวิลเล่นแรงซะแบบนี้ สงสัยว่าเราคงต้องเหนื่อยกันไม่น้อยแล้วละ" แม้จะติดตามรอยของพวกพีวิลไปไม่ได้ แต่จิลก็ปักตัวส่งสัญญาณเข้ากับกราแทงค์เอาไว้แล้ว

              ส่วนพวกพีวิลนั้นก็ควบกราแทงค์แล่นตรงดิ่งมายังเขตป่า แล้วก็จอดรถทิ้งเอาไว้แบบนั้น เพื่อเดินทางเข้าป่าไป ซึ่งก็ใช้เวลาราวสามชั่วโมง กว่าจะหาทำเลตั้งเต้นท์ที่พักไว้ได้ "สมแล้วที่เป็นทหารเก่า เลยเตรียมที่พักเร็วกว่าที่คิดเลยสิน่ะ" สเปียริทกล่าวโดยช่วยโฟรซ่ากางเต้นท์ทหารไว้
              โฟรซ่ากล่าว "อย่างน้อยก็ได้ลงมือตั้งที่พักกัน แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแมนิเกเตอร์ก็ตามน่ะ เฮ้ออ ถ้าเจมส์อยู่ด้วย วันวานก็คงกลับมาเหมือนเคยนี้แหละ"
              "นี้อย่าบอกน่ะว่าหวนนึกถึงตอนที่เป็นอดีตทหารเก่าในหน่วย 54 กันน่ะ" สเปียริทกล่าว
              โฟรซ่าบอก "ใช่ ตอนที่เข้าป่าครั้งแรกนั้นเป็นช่วงที่หน่วยเราถูกส่งไปปฏิบัติการณ์ในป่าเพื่อกวาดล้างกลุ่มกองโจรปล้นสะดมชาวป่าชาวเขาที่อยู่ในเขตป่าอเมซอน ซึ่งแน่นอนว่านั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลิ้มลองอาหารป่าๆกันบ้างละ ซึ่งบอกตามตรงน่ะ ว่ามันค่อนข้างอร่อยมากเลยน่ะ"
              "ถ้าให้เดา ถ้าไม่ตะกวดก็ต้องเป็นงูละสิ ที่พีวิลและเจเนลหามาให้กิน และต้องบังคับให้กินอย่างงั้นสิน่ะ" สเปียริทบอก
              โฟรซ่าได้ฟังก็ถามอย่างสงสัย "เดียวก่อนน่ะ พีวิลพูดให้เธอฟังมาก่อนหรือว่า..."
              "ก่อนหน้าจะมาเข้าร่วมกับพวกโคเคส พีวิลหาตะกวดทะเลทรายมาให้ฉันลองกินนะสิ ซึ่งแม้จะดูแล้วไม่ปกติ แต่ถ้าไม่กินก็อยู่ไม่ได้แน่นอน ซึ่งฉันก็...ซัดเรียบแล้วละ" สเปียริทกล่าว
              โฟรซ่าที่รู้คำตอบถึงกับหัวเราะไปว่า "เธอนะโชคดี ที่เธอกินตัวเล็กตัวน้อย แต่สเตฟอร์ดนะสิ หางูตัวใหญ่มาตัวหนึ่งให้ฉันกินด้วยน่ะ"
              "งูตัวใหญ่นะหรือ คงไม่ได้มีที่ใหญ่กว่างูไฮดร้าที่พวกครองคอร์ดชอบนำมาใช้กันหรอกน่ะ" สเปียริทบอก
              โฟรซ่ากล่าว "มันไม่ได้ใหญ่เท่าไฮดร้าหรอก เพราะงูที่ว่านั้นมันคือ งูอนาคอนด้า งูเจ้าถิ่นของป่าอเมซอนที่ว่ากันว่าตัวมัน ใหญ่เท่ากับท่อพีวีซีขนาดใหญ่สำหรับใช้เป็นท่อน้ำเสียในฐานไว้ คราวนั้นน่ะ ฉันเกือบจะต้องเสียสเตฟอร์ดให้กับไอ้งูตัวนั้น เพราะมันเกือบจะกลืนสเตฟอร์ดลงท้องไป หากสเตฟอร์ดไม่ทำให้งูมันอาเจียนด้วยสเปรย์ฉีดตัวและไฟแช็คกันน่ะ"
              "เยี่ยม ไม่เพียงทำให้งูเดี้ยงยังย่างสดโดยไม่ต้องเตรียมก่อไฟเลยละสิ แล้วเธอคงไม่ได้กินอะไรที่แปลกกว่านี้ละสิ" สเปียริทบอก
              โฟรซ่าได้ฟังก็กล่าวอย่างเซ็งๆไปว่า "อย่าให้ต้องพูดเลยน่ะ ถ้าพีทไปหาพวกตะกวดหรืองูมา เจมส์ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เก่งในเรื่องจับแมลงตัวเป้งๆมาหลายตัวมาคั่วกันบนกะทะให้เห็น ตั้งแต่จิ้งหรีด ตั้กแตน แมลงปอไม่ว่า ยังไปเอาตัวอ่อนด้วงมาย่างกันให้เห็นด้วยน่ะ"
              "จริงดิ แล้วนี้คงไม่ได้โดนบังคับให้กินแมลงเลยหรือ" สเปียริทถามโดยที่เธอรู้สึกสั่นกลัวขึ้นมา
              โฟรซ่าบอก "ฉันโดนไปหลายสิบตัวเลยนะสิ ซึ่งดีแล้วที่เจมส์ไม่เอาหนอนแก้วหรือแมลงสาปมา ไม่งั้นฉันคงกรี้ดสลบไปนานสองนานแล้วละ"
              "หรือ แต่หวังว่าในป่านี้คงจะไม่มีตัวอะไรที่ใหญ่กว่างูอนาคอนด้าหรอกมั่ง" สเปียริทกล่าว
              โฟรซ่ากระแอ่มเพราะเธอรู้ว่า "...ถ้าคิดจะแซวเรื่องแมลงสาปละก็ อย่าได้แม้แต่จะคิดเลยน่ะ เพราะถ้าเธอทำอย่างงั้น ฉันจะเตะเธอให้กลิ้งเลย และไม่กลัวเธอจับทุ่มปลิวข้ามป่าไปด้วย เพราะฉันไวกว่าเธอน่ะ" แล้วก็พูดเปลี่ยนเรื่องไปถามพลัสเชอริทว่า "เออ ว่าแต่ตรวจจับหาพวกครอสตรีมหรือพวกแอตแลนไทซ์หลบอยู่ในป่าแห่งนี้ได้หรือยังละ"
              "ไม่ปรากฎอนุภาคครอสเซียมและไฮโดรฟอสที่นอกเหนือจากมาสวาร์ทาร์และคลอเวฟอยู่ในป่าเลย หากแต่ เจอสิ่งมีชีวิตทรงหมูป่า ที่มีเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตบางอย่างผสมอยู่ด้วย" พลัสเชอริทถาม
              สเปียริทกล่าว "คงไม่ได้ผสมกับเม่นจนมีเข็มบนหลังยาวเท่ากับหอกและหลาวกันหรอกน่ะ"
              "เปล่า เพราะในฐานข้อมูลที่ผมตรวจสอบจากตัวอย่างสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ทรงหมูป่านั้น พบข้อมูลดีเอ็นเอของสัตว์ที่มีลักษณะเหมือนช้าง แต่มีงาที่ยาวและมีขนที่หนาปกคลุมทั้งตัว และอาศัยอยู่ในช่วงยุคน้ำแข็งกันนะ" พลัสเชอริทบอก
              โฟรซ่าพิจารณาดู "หมายถึง ช้างแมมมอธ ที่เป็นสัตว์ใหญ่ในยุคน้ำแข็งละสิน่า...แต่ถ้าหมูป่ามันมีบางอย่างของช้างแมมมอธรวมด้วยนั้น ก็คงจะต้องเป็น...."
              "หมูป่าแมมมอธหรือวะ" คลอเวฟกล่าวโดยที่พวกเขาเดินไปหาเสบียงอาหารในป่ากัน
              สเตฟอร์ดบอก "ใช่ ในเขตป่ากาวาน่าแห่งนี้ มันเป็นสถานที่ปล่อยพวกสัตว์แปลกๆที่ถูกนักวิทยาศาสตร์สร้างขึ้นมา เพื่อหวังให้พวกมันอดตายเพราะปรับตัวกับสภาพแวดล้อมไม่ได้ ซึ่งหมูป่าแมมมอธนั้นเป็นหนึ่งในสัตว์แปลกๆที่นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งสร้างขึ้นบนความคิดที่ว่า หากสัตว์ทุกตัวมีขนฟูเหมือนช้างแมมมอธขึ้นมาจะเป็นเช่นไรกันน่ะ"
              "เปล่าเลย สเตฟอร์ด เหตุที่ต้องสร้างหมูป่าแมมมอธขึ้นมานั้น เพื่อทดสอบการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตหากเกิดเหตุที่ทำให้ยุคน้ำแข็งกลับมากันอีกครั้งหรือมีสภาพแวดล้อมที่หนาวจัดอย่างยิ่งยวดขึ้นมา โดยใช้ช้างแมมมอธซึ่งได้รับการชุบชีวิตผ่านการโคลนนิ่งและสืบค้นรหัสพันธุกรรมจนสามารถเพาะพันธุ์ขึ้นในช่วงปี 2140 นะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก "โดยเขตป่ากาวาน่าที่เรายืนอยู่ และติดกับเขตทะเลทรายในขอบเขตเส้นทางสายไหมนั้น ตอนกลางคืน อุณหภูมิจะติดลบ 10 จนถึงลบ 50 อย่างเห็นได้ชัดคือสถานที่เพาะเลี้ยงหมูป่าขนฟูแบบนี้แหละ"
              พีวิลกล่าว "แต่หลังจากนั้น คงไม่ได้มีเหตุต้องยุบโปรเจคแล้วต้องทิ้งพวกหมูป่าให้อยู่ตามลำพังละสิ"
              "ไม่หรอก ตามที่ฉันศึกษาประวัติศาสตร์มา เห็นว่าการทดลองเป็นไปได้ด้วยดี พวกเขาเลยจำต้องให้หมูป่าเหล่านี้อยู่ตามธรรมชาติในป่าแห่งนี้เช่นเดียวกับสัตว์แปลกๆที่ถูกส่งมาในป่าเพื่อให้พวกมันปรับตัว แม้จะสุ่มเสี่ยงกับการที่ระบบนิเวศน์ผิดเพี้ยนเพราะมีสัตว์พวกนี้อาศัยอยู่ก็ตาม ซึ่ง 60 กว่าปีที่ผ่านมานั้น เห็นได้ชัดว่า พวกสัตว์ดังกล่าวอาศัยอยู่ในป่าอย่างสงบเสงี่ยมกันแค่ไหนน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก ซึ่งในระหว่างทางที่เดินเข้าไปในป่านั้น ก็ได้เห็นกวางที่มีเขาซึ่งมีจุดเรืองแสงเหมือนกับไฟคริสต์มาสกินน้ำในลำธารด้วยกันเป็นฝูงเล็กๆ ถัดมานั้นก็มีสกังค์ที่ปล่อยกลิ่นเหม็นที่ผสมกลิ่นของพืชสมุนไพร ซึ่งทำให้สิงห์พยัคฆ์หรือเรียกอีกชื่อว่าไลเกอร์ ที่ป่วยนอนซมอยู่รู้สึกดีขึ้น บนต้นไม้ก็มีนกแก้วที่มีขนเป็นกระจกสีในโบสถ์คริสต์ มีนกโดโด้สีดำเดินมาพร้อมกับนกกิวี่ที่สีดำ(แต่เอาไปขัดรองเท้าไม่ได้แน่นอน) แถมด้วยกระรอกที่มีหางเหมือนกับขนมสายไหม และกระต่ายที่มีหูยาวสี่หูด้วย
              คลอเวฟถาม "แล้วนายรู้เรื่องไอ้หมูขนปุยนี้จากเพื่อนทหารหน่วยไหนกันวะ" และถามแบบกวนๆเพราะคิดว่าสเตฟอร์ดรู้จากเฟอร์นันเดอร์แน่ๆ
              "จากเพื่อนที่เข้าป่ามาด้วยกันนี้แหละ เขาเล่าประสบการณ์ตอนไปเจอหมูป่าแมมมอธให้ฟัง ในตอนนั้น เพื่อนกับลูกน้องกลุ่มหนึ่งที่ไปตั้งค่ายในป่านั้น เจอกับไอ้หมูป่าตัวที่ว่ามาเข้าอย่างจังๆ แถมตัวมันก็โตพร้อมกับมีขนหนามากๆ พวกนั้นเลยตั้งใจจะไปจับมาอวดทุกๆคนในหน่วยไว้" สเตฟอร์ดกล่าว "แต่พวกนั้นมาผิดจังหวะไปหน่อย เพราะหมูป่านั้นมันเห็นเข้าและบุกชาร์จเหมือนรถไฟวิ่งเข้ามา ซึ่งทุกๆคนในกลุ่มก็กระเจิดกระเจิงไปเลย ขนาดมีคนสวมชุดเกราะหนาเพื่อหยุดการบุก ก็ไม่วายเกือบโดนขวิดไปเต็มๆจนเกราะหนักนั้นเสียหายไปไม่น้อยเลยน่ะ"
              คลอเวฟบอก "แม่เจ้า ถ้าขนาดพวกสวมเกราะหนายังโดนขวิดจนเกราะพัง แล้วพวกเราที่เป็นแมนิเกเตอร์เองจะไปเหลือหรือ"
              "เออ เกรงว่าเราจะอยู่ใกล้กับมันแล้วละ" พีวิลกล่าว เพราะเขาเจอกับรอยเท้ากีบขนาดใหญ่เท่าเท้าช้างอยู่บนพื้นไว้ และพอเงยหน้าก็เห็นหมูป่าแมมมอธอยู่ตรงหน้าพอดี
              "โคตรลัคกี้อย่างแรงเลยวะ" คลอเวฟกล่าว เมื่อหมูป่านั้นหันมาเห็นและ "ฟู้ววว ฟู้ววว" พ่นลมออกจากจมูกพร้อมกับ "อู้ววววว" คำรามและตะกุยวิ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
              "คิดว่าคงจะวิ่งหนีไปได้มั้ยละ" พีวิลถาม
              "ถึงวิ่งหนี ก็ไปไม่พ้นหรอก หมูป่านั้นมันเร็วยิ่งกว่ารถไฟหัวจักรไอน้ำกันด้วย โดดเลยเร็ว!!!" สเตฟอร์ดบอก แล้วทั้งสี่ก็รีบกระโดดขึ้นสูงโดยเร็ว ก่อนที่หมูป่าแมมมอธจะขวิดเข้าใส่ไปได้เสียก่อน เมื่อทั้งสี่ลงสู่พื้นแล้ว "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิลเปิดนำด้วยอาร์มชู้ตเตอร์กราดยิงใส่ แต่.. "ปุ๊ๆๆๆๆๆ" ขนที่หนาทั้งตัวของหมูป่าแมมมอธ กันกระสุนสะเก็ดอีเนลเซียมไว้ได้ "ปืนไม่มีผลหรอก นอกจากขนจะหนาแล้วหนังมันก็เหนียวเอาเรื่องเลยน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "แล้วถ้าเป็นคลื่นพลังละ เรซเซอร์เอดจ์" แล้วก็สบัดดาบซัดคลื่นคมดาบเข้า "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงง" อัดใส่ตัวหมูป่าแมมมอธเข้า แต่ก็ทำได้แค่สร้างบาดแผลให้บนหน้ามันเท่านั้นเอง
              "งานนี้ต้องลงมือพร้อมกันแล้วละ หาไม่แล้ว เราจะโดนหมูป่ากระทืบเอาแน่นอน" พีวิลแนะนำ สเตฟอร์ดพยักหน้า
              คลอเวฟกล่าว "งั้นกูเปิดนำก่อนเลย วอเตอร์เวฟ" และซัดคลื่นน้ำเข้าอัดใส่เจ้าหมูป่าไปหลายดอกด้วยกัน จนทำให้มันหันมายังคลอเวฟและวิ่งเข้าใส่ "หวับ ป้ากกกก โครมมม" สเตฟอร์ดฟาดค้อนให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนเป่าหมูป่าจากใต้พื้นที่มันวิ่งมาถึงจนเสียหลักไปอย่างจังๆ แต่มันก็ยังลุกขึ้นและบุกเข้าใส่สเตฟอร์ดต่อ "เพลงดาบวงล้อพิฆาต" มาสวาร์ทาร์เสี่ยงโจมตีด้วยท่าฟันดาบวงล้อถากใส่ด้านข้างหมูป่าให้เสียหลักไปเต็มๆ แต่มันก็ยังดึงดันจะสู้ต่อ ด้วยการบุกเข้าใส่พีวิลที่ก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว "โท้ววว" พีวิลกระโดดขึ้นเกาะบนหลังของเจ้าหมูป่าเพื่อทุบหลังของมันด้วยหมัด แต่มันสะบัดตัวอย่างรุนแรงจนพีวิลเกือบจะพลัดตกจากหลัง และพยายามทรงตัวเพื่อที่จะโจมตีด้วย "ว้ากกกก" การชกลงกลางหัวหมูป่าไปเต็มๆ จนมันชะงักลงและ... "โครมมมม" ล้มลงไปอย่างจังๆ
              "โว้วว ต้องให้ออกแรงไม่น้อยเลยน่ะ" พีวิลกล่าว โดยใช้มือปาดเหงื่อที่ไหลบนหน้าออกไป
              สเตฟอร์ดบอก "และอย่างน้อย เราก็จัดการกับหมูป่านั้นไปได้แล้วละ หากแต่ เราต้องรีบแบกมันกลับที่พักแล้วน่ะ"
              "แบกมันไปหรือ ตัวหนักขนาดนี้กว่าจะไปถึงก็กินเวลาไปไม่น้อยเลยน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ก็ยังดีกว่าเรามัวยืนโอ้เอ้แล้วปล่อยให้ตัวอื่นๆที่อยู่ในอาณาบริเวณมาเจอเข้า ซึ่งลำพังพวกเราทั้งสี่คงรับมือกับทั้งฝูงไม่ได้แน่ๆน่ะ"

              "ให้ตายสิ นี้พวกนายไปล่ามันมาจริงๆเลยหรือเนี้ย" สเปียริทกล่าวอย่างอึ้งๆเมื่อพวกพีวิลแบกหมูป่าแมมมอธกลับมาที่พักไว้
              คลอเวฟบอก "ก็ใช่น่ะสิ ดีน่ะที่เรารีบแบกร่างมันมาไม่งั้น คงโดนไล่กระทืบเอาแน่นอน"
              "แต่ดูจากที่เห็นนั้น คิดว่าต้องใช้เกือบสัปดาห์หนึ่งกว่าจะกินให้หมดนี้เลยน่ะ" โฟรซ่ากล่าว
               สเปียริทถาม "แต่ปัญหาคือ พวกนายจะตัดแบ่งยังไงกันละ เพราะดูแล้วคงไม่น่าใช้มีดหรือดาบผ่าให้ขาดได้ง่ายๆเลยน่ะ"
              "มันก็น่าอยู่หรอกน่ะ เพราะดาบของมาสวาร์ทาร์ในตอนนี้ ไม่ต้องเฉือนผ่านหนังไปถึงเนื้อหรอก เพราะมันจะหักในทันทีเลยน่ะ" คลอเวฟบอก
              พีวิลเลยหยิบมีดดาบโครมเมทาเลี่ยมออกมาจากกระเป๋าเครื่องมือที่อยู่ในเต็นท์ไว้ "ถ้าโครมเมทาเลี่ยมยังผ่าไอ้หมูป่านี้ไม่ได้ เกรงว่าคงต้องไปหางูหรือตะกวดมาแทนซะแล้วละ" แล้วก็แจกแบ่งให้พวกคลอเวฟทำการชำแหละ ซึ่งโชคยังดีมาก ที่มีดดาบโครมเมทาเลี่ยมแน่กว่าขนและหนังของหมูป่าแมมมอธอยู่ เลยตัดแบ่งเนื้อออกเป็นส่วนๆเอาไว้
              "ว่าแต่ นายเก็บหญ้าหรือดอกไม้แปลกๆมาทำไมกันน่ะ" คลอเวฟถาม เมื่อเห็นมาสวาร์ทาร์เก็บดอกไม้ใบหญ้าหลากหลายสีมาไว้ในตะกร้า
              "สมุนไพรในป่ากันน่ะ ป่าแถบนี้เป็นเขตเชื่อมต่อกับทะเลสาปดานาเดน ซึ่งเป็นเขตหนองน้ำธรรมชาติของพวกสัตว์ที่อยู่แถวนี้ แน่นอนว่า หนองน้ำนั้นอยู่ในรัศมีใกล้ๆกับหุบเขาไฮด์เฟเธอร์กัน เนื่องจากว่าพวกนกยักษ์นั้นจะต้องลงมาหาอะไรดื่มกิน และมันก็รู้ว่าในป่านี้ก็มีสมุนไพรเฉพาะด้วย"
              "แปลว่าตอนนี้ เราก็อยู่ใกล้กับไซโคลเนียกันแล้วละสิ" โฟรซ่ากล่าว โดยตอนนี้พีวิลจัดการย่างเนื้อหมูป่า ซึ่งนำหม้อมาต้มน้ำที่สเปียริทและโฟรซ่าไปหามาจากลำธารไว้ เพื่อทำการต้มเนื้อหมูป่ากับผักที่เป็นเสบียงกองกลางไว้
              มาสวาร์ทาร์บอก "แค่เดินผ่านป่าไปประทางทิศตะวันออกเรื่อยๆ ก็จะเจอหนองน้ำและทะเลสาปอยู่ใกล้ๆด้วย พอข้ามทะเลสาปนั้นไปแล้ว ก็จะถึงหุบเขาไฮด์เฟเธอร์กันละ"
              "ถึงมันจะง่ายตามที่นายว่ามา แต่เรื่องมันกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดมาสิน่ะ" สเตฟอร์ดบอก มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              พีวิลกล่าว "พลัสเชอริท ว่าแต่ นายตรวจจับหาพวกเจเนไซด์ทีมในป่านี้ได้หรือเปล่าละ"
              "ดูเหมือนว่าครองคอร์ดจะปิดบังสัญญาณของพวกเขาไม่ให้ฉันตรวจจับหรือสแกนค้นหาภายในรัศมีรอบนอกกันนะสิ ซึ่งนั้นเป็นข้อได้เปรียบที่ครองคอร์ดสามารถสั่งให้พวกเขามาหาพวกเรากันได้นะ" พลัสเชอริทกล่าว
              โฟรซ่าบอก "แถมเจมส์เองก็ชำนาญเรื่องเดินป่าพอๆกันกับพวกเราด้วยแล้ว เฮ้อ ปานนี้ไซโคลเนียจะเป็นยังไงบ้างน่า"

              ตัดกลับมายังเจเนไซด์ทีม ที่ตอนนี้... เข้ามาในป่ากาวาน่ากันแล้ว "โอ้ว นายพาหลงจนได้เลยน่า" จิลบ่นเมื่อเจเนลพาทั้งจายด์และจิลเข้าป่าไป
              เจเนลบอก "ทำไงได้ละ เส้นทางที่ระบุไปหาพวกพีวิลนั้น ดันมีอุปสรรค์เป็นลำธารและมีต้นไม้ใหญ่หนาแน่นแบบนั้น ถ้าขืนฝ่าออกไปด้วยการตัดต้นไม้ทิ้ง มันไม่ยิ่งทำให้พวกพีวิลรู้ตัวเลยหรือ"
              "มันก็จริงอยู่น่ะ แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปซะลึกก็ตาม แถมป่านี้ก็ไม่เคยเข้ามา หวังว่าคงไม่น่าจะมีอันตรายมากหรอกน่ะ" จายด์บอก
              เจเนลกล่าว "แน่ละ พวกสัตว์คงจะกลัวร่างอันใหญ่โตของนายที่เข้าป่ามาอย่างแน่นอนเลยละ"
              "นั้นสิ เพราะจายด์ตัวโตกว่าอยู่แล้ว อย่างน้อยคงได้นอนหลับสบายใจแล้ว..." จิลกล่าว แต่ไม่ทันไรก็... "ตรึง ตรึง ตรึง ตรึง" จิลได้ยินเสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น "ป่าแห่งนี้ ไม่น่าจะมีช้างโผล่มากันหรอกน่ะ" แต่สิ่งที่ใหญ่กว่าช้างนั้นมันโผล่มาแล้ว
              เจเนลถึงกับสบถ "เจริญ นึกแล้วเชียวว่ามันต้องเป็นป่าแห่งนี้จนได้สิน่า...."

              แล้วเกิดอะไรขึ้นกับไซโคลเนีย ที่ตอนนี้ ถูกสตอร์มฮอว์คไทฟูลจับตัวไปไว้ที่ถ้ำบนยอดเขาไฮด์เฟเธอร์กันแล้ว
              "แย่ชะมัดเลย ฉันไม่น่าทำปืนหายไปเลยน่า แถมแบ็คแพ็คเองก็ไม่น่าเจ็งตอนนี้เสียด้วย" ไซโครเนียบ่นโดยเธอพยายามติดต่อกับพวกโคเคสหรือพวกพีวิล แต่ก็ติดต่อไปไม่ได้เลย เนื่องจาก ในหุบเขานั้นนอกจากสตอร์มฮอว์คแล้ว ยังมีนกฟินิกซ์ ฟรอเซนวิงค์ ซันเดอร์เบิร์ดและเฟเธอร์ร็อคอยู่ ซึ่งด้วยประกายไฟฟ้าจากการสบัดขนของธันเดอร์เบิร์ดนั้น ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าที่เข้าไปรบกวนระบบการสื่อสารของไซโครเนียอยู่ แถมพวกนกเองก็อยู่ในถ้ำเพื่อหลับพักจากการโบยบินไปหาอาหารกันเสียด้วย ซึ่งแม้จะไม่ได้สบัดขน แต่ประจุไฟฟ้าตามตัวนกนั้นยังเกิดขึ้นได้อยู่ จนกระทั่ง... "กวี้กกก" สตอร์มฮอว์คไทฟูลก็เข้ามาในรังพอดี ไซโคลเนียเห็นเช่นนั้นเลยชักมีดออกมา "อย่าเข้ามาน่ะ ไม่งั้นฉันแทงจริงๆด้วยน่ะ"
              "กวี้กกก ฟู้วววว" ไทฟูลพ่นลมเป่าไซโครเนียไปเต็มๆจนทำให้เธอล้มเพราะแรงเป่าของมันนั้นแรงมาก
              "คราวนี้จะจิกฉันเพื่อกินเป็นอาหารงั้นละสิ เนื้อฉันไม่อร่อยเลยนะยะ" ไซโคลเนียกล่าวและยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น เมื่อไทฟูลยื่นหัวและจงอยเข้ามาใกล้ในระยะ 2 มิลลิเมตรด้วยกัน "ฟืดๆๆๆๆ" ไซโครเนียรู้สึกได้ถึงลมที่ถูกดูดออกจนปอยผมที่ยาวปิดทัดดอกไม้ทั้งสองข้างของเธอขยับไปข้างหน้าอย่างจังๆ แล้วไทฟูลก็ก้าวถอยหลังไป "กรืออ กวี้กๆๆๆๆ กวี้กๆๆ กวี้กก แคว้กๆๆๆ"
              "นี้แกร้องอะไรกันแน่น่ะ" ไซโครเนียบอกด้วยความไม่พอใจ จนไทฟูลต้องหันมายังผนังและ "จึกๆๆๆๆๆๆ" ใช้จงอยจิกตรงกำแพงไป ซึ่งมันไม่ได้จิกแบบนกปกติ หากแต่มัน... "เดียวก่อนน่ะ หนึ่ง สาม หนึ่ง หนึ่ง สอง หยุด หนึ่ง นี้นายรู้วิธีใช้สัญญาณรหัสมอสหรือ งั้น นายกำลังบอกว่า ฉันฟังรู้เรื่องใช่มั้ยละ" ไทฟูลหันมาพร้อมกับผงกหัวลง ทั้งนี้ ไทฟูลเป็นนกยักษ์ที่พวกบีสทอยด์นกฝึกฝนและเลี้ยงดูมา เวลามันจะสื่อสารกับพวกบีสทอยด์นกที่พูดคุยด้วยภาษามนุษย์กันนั้น มันใช้วิธีร้องแบบที่มันทำในครั้งแรก แต่พอไซโครเนียฟังไม่รู้เรื่อง มันเลยใช้จงอยจิกกำแพงไปด้วยรหัสมอส ซึ่งพวกบีสทอยด์นกเป็นคนสอนวิธีสื่อสารกับ คนที่ฟังนกสื่อสารไม่รู้เรื่องไว้ อีกทั้งรหัสมอสนั้นก็เป็นการสื่อสารแบบเก่าที่ถูกลืมเลือนไปนานแล้ว (เช่นเดียวกับการส่งโทรเลข ส่งจดหมายและไปรษณีย์กระดาษก็ไม่มีเช่นกัน) ซึ่งโชคดีมาก ที่ไซโคลเนียได้รู้วิธีการส่งและอ่านสัญญาณรหัสมอสเหมือนกับพีวิล สเตฟอร์ด โฟรซ่า (และเจเนล) ที่เป็นทหารเก่าซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีส่งสัญญาณแบบเก่า ในกรณีที่เครื่องสื่อสารอันทันสมัยหรือรุ่นใหม่ล่าสุดใช้การไม่ได้ขึ้นมา เลยสามารถฟังสิ่งที่ไทฟูลสื่อสารไว้ได้
              "กรืออ กวี้กๆๆๆๆ กวี้กๆๆ กวี้กกก แคว้กๆๆๆ กวี้ก กวี้ก กรือออ กวี้กๆๆ แกร็กกกกก" ไทฟูลร้องไปตามปกติ เมื่อมันรู้ว่าไซโครเนียฟังมันร้องและสื่อสารอย่างรู้เรื่องแล้ว
              ไซโคลเนียได้ฟังก็กล่าวไปว่า "....นายช่วยฉันมาอยู่ในถ้ำนี้ เพราะรู้ว่า ฉันตกที่นั่งลำบากจากเงื้อมมือของพวกไวเบิร์นสิน่ะ ทั้งๆที่รู้ว่า ฉันเป็นมนุษย์สวมแว่นดำบินได้ที่มากับหุ่นบินได้ โดยมากับพวกสวมหน้ากากยิ้มน่ากลัว ในตอนที่บุกมาที่หุบเขาหิมะใหญ่อย่างงั้นสิน่ะ"
              "กวี้กกกก กรืออ กวี้กๆ กวี้กๆๆๆๆๆๆ กรืออออ แคว้กๆๆๆๆๆๆ กรือ กวี้กๆๆๆ" ไทฟูลร้องต่อ
              ไซโคลเนียกล่าว "....ที่นายทำเช่นนี้ เพราะนายรู้ว่า ฉันไม่ได้เป็นคนเลวอีกแล้ว แต่เป็นสหายที่ร่วมรบกับพวกฟลาแน็กซ์ และเป็นเพื่อนกับมาสวาร์ทาร์ที่เป็นอาจารย์ของพวกฟลาแน็กซ์และเป็นคนที่ฟาลเคน่อนให้ความเคารพกันสิน่ะ"
              "กวี้กกก กรือออ กวี้กๆๆๆๆ กวี้ก แกร็กกกก" ไทฟูลร้อง แล้วก็ส่ายหน้าไว้ จนไซโครเนียได้ฟังอย่างละเอียดก็ต้องตกใจ
              "เอ้ ที่นายไม่ให้ฉันไป เพราะว่า....พวกขี่มังกรนั้นอาจจะอยู่แถวนี้ เนื่องจากนายได้ยินเสียงระเบิดที่ดังมาแต่ไกล จนรู้ว่า พวกมันต้องโผล่มาแถวนี้นะหรือ" แล้วก็คาดเดาขึ้นมาว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้นต้องเป็นพวกพีวิลที่พาสเตฟอร์ดและโฟรซ่ามาแน่ๆ และคิดว่าน่าจะอยู่แถวๆนี้ด้วยสิ"
              "กวี้กๆๆ กวี้กๆๆๆๆๆๆๆ กวี้ก กวี้กๆๆๆ กวี้กกกก แกร็กๆๆ" ไทฟูลร้องเป็นจังหวะทีละนิด
              ไซโคลเนียบอก "นายบอกว่า ตอนนี้พวกเขาอยู่ในป่ากาวาน่าที่อยู่ใกล้ๆหนองน้ำที่ติดกับหุบเขาแห่งนี้นะหรือ โล่งอกไปที นึกว่าพวกเขาจะไม่มาเสียแล้ว..."
              "กวี้ก กวี้กๆๆๆ กวี้กๆๆๆๆๆ กวี้กๆๆๆๆๆ กวี้กๆๆๆๆๆๆ" ไทฟูลร้องพลางหันหัวไปยังหินก้อนใหญ่ แล้วก็หินก้อนเล็กไปด้วย
              "เอ้....อย่าบอกน่ะ ว่านายเห็นพวกเจเนไซด์ทีมอยู่ในป่านี้ด้วย และเห็นพวกนั้นเล่นงานหมูป่ามอมมอธมาหยกๆสิน่ะ" ไทฟูลเลยหันหลังและจิกเอาเนื้อมาโยนให้ไซโคลเนียไว้ "นายเลยไปเอาเนื้อกวางในป่านั้นมา เพราะรู้ว่าฉันไม่ได้กินอะไรเป็นวันละสิ" ไทฟูลพยักหน้า แล้วก็บินออกไปก่อน
              "ขนาดนกยังมีความเห็นอกเห็นใจถึงเพียงนี้ เฮ้ออออ ถ้ามนุษย์ธรรมดายังเป็นเหมือนกับเจ้านกนี้ก็คงดีสิน่า" ไซโคลเนียกล่าว แล้วก็ใช้แอร์ฟอสคัตเตอร์มาตัดเนื้อไว้ ซึ่งเธอใช้ส่วนเท้าเจ็ทที่ยังจุดไฟอยู่ จัดการย่างเนื้อที่กองบนหินไว้ให้สุกเพื่อกินได้ไว้ "อี้ววว ร้อน น่าจะเป่าให้เย็นสักหน่อยน่า" ไซโคลเนียแตะเนื้อด้วยนิ้วมือกลก็รู้สึกร้อนเพราะเธอเร่งไฟจากไอพ่นแรงไปหน่อย ทางด้านพวกพีวิลเองก็ได้พักผ่อนหลังจากที่ทานมื้อเย็นไปแล้ว สเปียริทและโฟรซ่าหลับในเต้นท์ ส่วนพีวิล มาสวาร์ทาร์ คลอเวฟ สเตฟอร์ดยังนั่งพิงไฟอยู่ ในขณะที่พลัสเชอริทยังนอนพิงเต้นท์อยู่ในโหมดชาร์จไฟด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่นำมาด้วย
              "นายมั่นใจหรือ ว่าจะชนะโครเต้กันได้ด้วยดาบร้าวแบบนั้นน่ะ" คลอเวฟบอก
              "นั้นสิ อย่างน้อยก็ให้ฉันไปสู้จะดีกว่าน่ะ ถ้าหาจังหวะที่โครเต้เปิดช่องว่างให้เห็น ฉันจะจัดการด้วยเอนเนอซอนแคลชโดยเร็วนี้แหละ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "ไม่ได้หรอก พีวิล นายอย่าลืมสิ ว่าโครเต้ไม่เพียงเป็นอัศวินของอาณาจักรแทแรนเซียอย่างเดียว แต่ยังช่ำช่องเรื่องอาวุธทุกประเภทจนถึงระดับพระกาฬด้วยแล้ว นายซึ่งถนัดการโจมตีด้วยมือเปล่าและการจู่โจมที่ว่องไวนั้น ยังไม่ทันออกหมัด ดาบของโครเต้จะฟันและแทงใส่นายได้ก่อนน่ะ"
              "พูดง่ายๆ แม้กระทั่งพละกำลังก็เอาชนะโครเต้ไม่ได้ด้วยสิ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ถ้าฉันไม่ได้ถูกจับดัดแปลงเป็นส่วนหนึ่งของครอสตรีมหรือถูกดัดแปลงไปอยู่กองอื่นขึ้นมา ปานนี้โครเต้คงได้เป็นแม่ทัพไปนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำพิธีราวนด์ดูอัล จนแม่ทัพอาทรัลเตอร์ต้องถอนตัวกันได้หรอก"
              "ราวนด์ดูอัลนิ เป็นการประลองของพวกครอสตรีมสิน่ะ แล้วมันเป็นการดวลแบบไหนละ" พีวิลถาม
              มาสวาร์ทาร์อธิบายไปว่า "ราวนด์ดูอัลนั้นเป็นการประลองระหว่างนักรบทั้งสอง ซึ่งนักรบทั้งสองนั้นจะต้องมีฝีมือ ความสามารถ และพลังที่เท่าเทียมกัน แน่นอนว่า นักรบทั้งสองนั้นก็ต้องมีสถานะเท่าเทียมกันด้วย พาราไดน์ต้องดวลกับพาราไดน์ เทมพาร่ากับเทมพาร่า ครูเซเดนกับครูเซเดน เพศต้องเหมือนกัน ตำแหน่งก็ต้องเท่าเทียมกันด้วย ทั้งนี้ เพื่อกันมิให้พวกนักรบชั้นผู้น้อยไปดวลกับชั้นผู้ใหญ่ เช่นเดียวกันกับผู้ใหญ่ไปสู้กับผู้น้อย จนทำให้มองได้ว่าเป็นการดวลที่ไม่ยุติธรรม เนื่องจากผู้น้อยจะไม่เคารพผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะรังแกผู้น้อย และอาจจะสร้างความขัดแย้งขึ้นมาได้ ซึ่งแน่นอน ว่าอาวุธที่ใช้นั้น ต้องเหมือนกันด้วย" แล้วก็เล่าไปว่า "ในการดวล ทั้งสองฝ่ายจะต้องดวลกันต่อหน้าเหล่านักรบทั้งหลายอย่างเป็นทางการ ซึ่งแน่นอนว่า การดวลครั้งนี้จะไม่ต้องไม่มีมือที่สามยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ว่าสถานการณ์ของผู้ดวลจะเสียเปรียบหรือไม่ก็ตาม การดวลต้องดำเนินต่อไป จนกว่า อีกฝ่ายจะพ่ายแพ้ ตั้งแต่อาวุธหลุดมือหรือถูกทำลาย มีการยอมแพ้ หมดสภาพต่อสู้ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตจากการดวล ซึ่งการตายด้วยการสังหารในการดวลจะไม่ถือว่าฝ่ายที่ฆ่านั้นผิด เพราะถือว่าฝ่ายที่ถูกฆ่ายอมรับความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการแล้ว คนที่เกี่ยวข้องจะได้ไม่ต้องมาแก้แค้นหรือหาเรื่องกับฝ่ายชนะได้นี้แหละ"
              "แล้ว ถ้าเกิดนายไปดวลกับโครเต้ในสภาพนี้ ผลการดวลจะออกมาเป็นยังไงละ" พีวิลถาม
              มาสวาร์ทาร์ตอบ "นักรบผู้ที่สังหารฝ่ายตรงข้ามที่ไม่พร้อม ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะบาดเจ็บสาหัสก่อนจะมาดวล อาวุธหรือชุดเกราะไม่อยู่ในสภาพใช้การ ไม่ว่าจะโดนอะไรมาก็ตาม หรือแม้กระทั่งมีการโกงในระหว่างการดวล ไม่ว่าจะแนบเนียนหรือไม่ก็ตาม การดวลนั้นก็จะถือเป็นโมฆะ แม้ทั้งสองฝ่ายจะตั้งใจจะดวลหรือมีการบีบบังคับให้มีการดวล ฝ่ายแม่ทัพใหญ่ที่เป็นผู้ตัดสินจะยุติไม่ให้มีการดวล ใครฝ่าฝืนจะต้องรับโทษระดับหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถือว่ามีเจตนาดูหมิ่นผู้ออกกฎการดวลกันแต่แรกแล้ว แน่นอน ว่าคนที่ชนะฝ่ายตรงข้ามที่ไม่พร้อมจากที่ว่ามาข้างต้นนั้น ก็จะถือว่าเป็นนักรบที่ไร้เกียรติและศักดิ์ศรีต่อพี่น้องทั้งหลายไว้กันน่ะ"
              "งั้นแปลว่าตอนนี้ โครเต้ก็เป็นผู้นำเช่นนี้ก็เท่ากับว่า ไม่มีใครในครอสตรีมรักษากฎการดวลที่ว่านั้น ถึงขั้นที่นักรบหญิงระดับสูงไปดวลกับนักรบชายระดับต่ำกันละสิ" คลอเวฟบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ส่วนหนึ่งเพราะว่าโครเต้มีเจตนาจะใช้ครอสตรีมเป็นเครื่องมือแก้แค้นกันอยู่แล้ว นับแต่นั้น เหล่านักรบของครอสตรีมก็แทบไม่มีใครยึดถือกฎเกณฑ์ที่อาทรัสเตอร์มอบหมายให้ แม้กระทั่ง คำสั่งของฉัน พวกเขาก็ไม่ทำตามและรับฟังคำสั่งกันด้วยน่ะ"   
              "แล้วอาทรัสเตอร์นั้น เป็นคนยังไงกันหรือ" สเตฟอร์ดถามด้วยความสงสัย
              มาสวาร์ทาร์บอก "แม่ทัพอาทรัสเตอร์เป็นยอดนักรบที่เก่งกาจ ทรงอำนาจ และเป็นที่เคารพนับถือของเหล่านักรบในกองกำลังไว้ ซึ่งฉันโชคดีมากที่ได้เข้าร่วมกองรบในช่วงที่เขาบัญชาการกันน่ะ" แล้วก็มองดาบมาสวาร์ทาร์เบลดไว้ "เขาไม่เพียงสอนวิชาและวิธีการใช้พลังให้กับฉันและโครเต้ด้วยกัน หากแต่ เขายังสอนหลักการเป็นยอดนักรบให้ ซึ่งแม้หลักการนั้นจะตรงกับที่คุณตาและคุณพ่อสอนเอาไว้แล้วก็ตาม และอาทรัสเตอร์เองก็เป็นแมนิเกเตอร์ด้วยแล้ว สำหรับฉัน เขาคือครูคนที่สามที่สอนให้ฉันยอมรับในสถานะความเป็นแมนิเกเตอร์ ไปพร้อมกับสอนให้ย้ำเตือนถึงกฎเกณฑ์ความเป็นนักรบให้ฉันจดจำเอาไว้และปฏิบัติตามมาโดยตลอด ดาบของฉันเล่มนี้ คือประกาศนียบัตรของอดีตแม่ทัพของครอสตรีมที่มอบให้กับฉัน ผู้เป็นศิษย์ที่เข้าใจและรับเอาหลักคำสอนของเขามาใช้"
              "และพอดาบของนายมีสภาพเช่นนี้ นายก็รู้สึกผิดที่ไปทำให้ของดูต่างหน้ายอดนักรบที่นายเคารพนับถือเสียหายเลยสิน่ะ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ถูกครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งเพราะว่าฉันอ่อนแอมากต่างหากละ ที่ไม่ปกป้องตัวตายตัวแทนของอดีตแม่ทัพ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน แม้ว่า เขาไม่อาจจะกลับไปหยุดยั้งความเหลวแหลกของกองรบที่เขามอบให้โครเต้สั่งการไว้ได้เลยก็ตามน่ะ"
              "งั้นที่นายเข้าร่วมกับโคเคสนั้น คงเพราะต้องการจะกลับไปกำจัดความเหลวแหลกของครอสตรีมที่เกิดขึ้นละสิ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "เพราะว่าฉันไม่อาจจะจัดการกับพวกโครเต้ลงเพียงลำพังแน่นอน โครเต้มีพวกพ้องที่คล้อยตามเจตจำนงแห่งความอาฆาตแค้นอยู่มาก ในขณะที่ฉันไม่มีใครเลย นอกจากตัวเองและดาบ แม้ว่านั้นเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ฉันถูกพวกครอสตรีมตราหน้าเป็นคนทรยศ แต่จริงๆแล้ว พวกเขาเองต่างหากที่เป็นผู้ก่อตั้งครอสตรีมอย่างอาทรัลเตอร์ ด้วยการกระทำของพวกเขาเองน่ะ"
              "นายไม่ได้สู้เพียงลำพังหรอกน่ะ มาสวาร์ทาร์ เพราะว่านายยังมีพวกเราอยู่น่ะ" พีวิลกล่าว
              คลอเวฟบอก "นายไม่มีทางบุกไปดวลกับไอ้โครเต้ โดยไม่มีพวกเราหรือพวกโคเคสช่วยยันพวกครอสตรีมได้หรอกน่ะ"
              "เราต่างรู้แล้วน่ะ ว่านายมีเจตจำนงยังไง ตอนนี้นายควรจะสู้ได้ตามปกติแล้ว แม้ว่าเวลาจะเหลือเพียงแค่ 7-8 วันก็ตามน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ขอบใจมากน่ะ ที่พวกนายยังเห็นใจฉันอยู่บ้าง ซึ่งนั้นคงเป็นข้อได้เปรียบของฉันที่มีต่อโครเต้กันบ้างน่ะ"

              เช้าวันต่อมา... พวกพีวิลรีบเก็บเต็นท์และที่พักโดยเร็ว เพราะว่าพวกเขาต้องรีบออกจากป่าไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว
              "ด้านหลังแทบไม่มีสัตว์ร้ายหรือพวกศัตรูตามหลังมาแล้วละ" โฟรซ่ากล่าวโดยทำหน้าที่ระวังหลัง ซึ่งเธอถือฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลเตรียมไว้คอยสอดส่องจากระยะไกลกันอยู่
              พลัสเชอริทที่นำหน้าบอก "....ด้านหน้าแทบไม่มีอันตรายโผล่มาเลยกันน่ะ"
              "แต่ก็อย่าลืมน่ะ ว่าพวกครอสตรีมมีพวกกองรบอัศวินมังกรอยู่ ถึงเราจะซ่อนในป่าที่ทึบและลึกมากจนมันมองเราจากด้านบนไม่เห็น พวกมันก็หาเรื่องเผาป่าได้อยู่แล้วน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "เพราะตอนนี้ พวกนั้นเริ่มจะทำทุกอย่างโดยไม่สนแผนการกันด้วย แม้กระทั่งเรื่องซุ่มโจมตีในป่าก็ย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอน" พร้อมกับชูแขนที่เปิดอาร์มชู้ตเตอร์เอาไว้
              "ฟืดๆๆๆๆ" สเตฟอร์ดทำเสียงขึ้นที่จมูกเข้า "เดียวก่อน ตะกี้นี้ฉันได้กลิ่นซากหมูป่าแมมมอธลอยมาจากตรงโน่นน่ะ"
              คลอเวฟบอก "คงไม่ใช่กับดักกันหรอกมั่ง เราไม่จำเป็นต้องไปดูกันหรอกน่า"
              "แต่ยังไงเราก็หลีกเลี่ยงการปะทะกันไม่ได้อยู่แล้วนะ คลอเวฟ ทราเวยน์มองทุกวินาทีของพวกเราเป็นโอกาสที่จะลอบกัดพวกเรากันได้น่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก แล้วให้สเตฟอร์ดนำหน้าไปดูที่เกิดเหตุกัน
              "โอ้ว....ดูเหมือนว่า หมูป่าตนนี้จะไม่เหลือซากกันแล้วละ" โฟรซ่าบอก เพราะเห็นสภาพของหมูป่า ที่เหลือเพียงแค่กองกระดูกโตๆกันไว้
              "อย่าบอกน่ะ ว่ามีตัวประหลาดที่กินหมูป่าตัวโตๆเป็นอาหารหลบซ่อนอยู่ในป่ากันน่ะ" สเปียริทกล่าว
              คลอเวฟบอก "ง้านหรือ งั้นไอ้ตัวประหลาดที่ว่านั้นก็คงจะหาตัวประหลาดที่มีผิวเป็นเหล็กผสมเซรามิกมาเป็นไม้แคะขี้ฟันอยู่ละสิ" สเปียริทได้ฟังก็โมโหใส่
              "ไม่ต้องกลัวหรอก สเปียริท มันไม่มีตัวประหลาดที่คลอเวฟว่ามาหรอก....เพราะ....รอยเท้าบนพื้นกับร่องรอยกองไฟนี้บอกได้น่ะ" พีวิลกล่าว และชี้มาที่กองไฟ พร้อมกับเศษท่อนไม้สองอันวางกองไว้
              สเตฟอร์ดกล่าว "รอยเท้าสามขนาด รอยหนึ่งเท่ากับของนาย อีกสองรอย ใหญ่เล็กต่างกันอย่างสิ้นเชิง เจเนลและพวกอยู่ในป่าอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิดน่ะ"
              "และ ไอ้หมูป่านั้น ถ้าให้เดา คงจะเสร็จไอ้ยักษ์ไปแล้วละสิ" คลอเวฟบอก
              มาสวาร์ทาร์แตะไปที่กระดูกซี่โครงพร้อมกับกล่าวว่า "ใช่ มันคงจะเห็นจายด์ที่เป็นศัตรูตัวที่ใหญ่กว่า มันเลยคิดจะบุกโจมตีโดยไม่ได้รู้เลยว่า จายด์อันตรายกว่ามันตั้งหลายเท่าด้วยกันน่ะ เพราะในทันที ที่มันบุกเข้าปะทะใส่จายด์ จายด์ก็ใช้พละกำลังอันมหาศาลยันเอาไว้ แล้วเจเนลและจิลก็บุกเข้าโจมตีใส่อย่างรวดเร็วจนจัดการกับมันไปเลยน่ะ"
              "แจ่ม นายคงจะใช้พลังอ่านเศษวิญญาณของหมูป่านั้นด้วยละสิ" คลอเวฟกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              พีวิลกล่าว "ถ้านายหรือพวกครอสตรีมสามารถดึงพลังชีวิตมาเพื่อฟื้นฟูและเยียวยาได้ งั้นนายก็สามารถรู้และเข้าใจในสิ่งที่สิ่งมีชีวิตรู้ก่อนตายได้ละสิ"
              "ใช่ นั้นคืออีกเอกลักษณ์หนึ่งของพลังครอสเซียมกันนี้แหละ การอ่านและเรียนรู้จากซากศพของผู้ที่ตายไปแล้วนั้น คือสิ่งที่พลังนั้นมอบให้ แม้จะทำให้ได้รู้เพียงแค่ชั่วระยะสั้นๆและอาจจะสูญหายกลายเป็นส่วนหนึ่งในพลังงานที่ฉันใช้อยู่ก็ตาม" มาสวาร์ทาร์บอก "ซึ่งพลังมันจะเข้มข้นยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กลางสนามรบที่มีกองศพคนตายเป็นจำนวนนับร้อยนับพัน นั้นจะหมายถึง พวกครอสตรีมจะได้องค์ความรู้จากผู้วายชนม์ที่ปราชัยต่อพวกนั้นไปเป็นจำนวนมากด้วยน่ะ"
              สเปียริทกล่าว "แจ่ม งั้นความฉลาดส่วนหนึ่งของพวกนั้นก็ได้มาจากการเชือดกองทัพฝ่ายต่อต้านกันด้วยละสิ"
              "และยิ่งโครเต้ตั้งใจจะใช้กองรบไปโจมตีแทแรนเซียด้วยแล้ว โครเต้คงไม่คิดจะดูดองค์ความรู้ของพวกทุกๆคนที่ตายไป ซึ่งรวมถึงพวกกังฉินชั่วๆกันอย่างงั้นละสิ" โฟรซ่าบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "เกรงว่าถึงตอนนั้น โครเต้จะใช้พลังดังกล่าวจัดการฌาปนากิจชาวแทแรนเซียทุกชนชั้นที่ตายไปกันหมดเองแหละ เพราะเขาเกลียดชังประเทศที่ทรยศเขาจนถึงขั้นต้องทำลายให้สิ้นซากด้วยมือของเขาเองน่ะ"
              "แล้วพวกเจเนล ออกเดินทางกันแล้วหรือ" สเปียริทบอก
              พีวิลก้มมองดูกองไฟและรอยเท้าพร้อมกับบอกว่า "กองไฟนั้นพึ่งจะดับไปไม่นานนัก บวกกับรอยเท้านั้นเดินตรงไปทางทิศตะวันออกด้วยแล้ว ถ้าให้เดา เจเนลคงต้องใช้ขนหนังของหมูป่าแมมมอธผ่านจุดที่เป็นถิ่นอาศัยของพวกหมูป่าที่อยู่ลึกออกไปกันแน่ๆเลยละ เพราะไม่เห็นมีขนหนังกองอยู่เลย"
              "นั้นก็เสี่ยงเอาเรื่องเลยน่า หมูป่าแมมมอธเหล่านั้น แม้สายตามันจะแย่จนมองไม่ออกว่าไหนเพื่อนมันจริงๆ ไหนเป็นตัวปลอมที่ใช้ผ่านทางกัน แต่จมูกของมันที่ดมกลิ่นได้แม้กระทั่งโลหะจนบุกมาถึงตัวพวกเราแล้วนั้น เกรงว่าเจเนลเลือกวิธี ที่ๆอันตรายสุดคือที่ปลอดภัยมากที่สุดกันนี้แหละ" สเตฟอร์ดบอก
              คลอเวฟบอก "แน่ละ หวังว่าพวกหมูป่ามันจะดูออกกันได้เสียที ว่าเพื่อนมันไม่ได้ตัวโตเกินตัวมันไปได้หรอกน่า" ซึ่งก็เป็นอย่างที่พีวิลและสเตฟอร์ดคาดไว้เช่นนั้นจริงๆ เจเนไซด์ทีมใช้จนหนังหมูป่าแมมมอธเดินตัดผ่านถิ่นของพวกหมูป่าที่อาศัยอยู่ในป่านั้นเพื่อออกจากป่าไป
              "ในเมื่อเรารู้ว่าเจเนลกับพวกออกจากป่ากันยังไง ฉันว่า เราควรใช้อีกทางที่เลี่ยงการปะทะในป่าไปเลยจะดีกว่า อย่างน้อย เราก็มีเวลามากพอที่จะไปช่วยไซโคลเนียกันได้น่ะ" โฟรซ่าออกความเห็น
              พลัสเชอริทถาม "มาสวาร์ทาร์ แผนที่มีระบุเส้นทางอื่นอีกหรือเปล่า"
              "ถ้าเจเนลไปทางนั้นละก็....เราต้องเดินลงใต้และเดินออกจากป่าไปทางทิศตะวันออกต่อ แม้จะอ้อมไกลและเสียเวลาไปบ้าง แต่ก็เดินออกจากป่าไปถึงเขตหนองน้ำกันนี้แหละ" มาสวาร์ทาร์อ่านแผนที่อย่างละเอียด และไม่ทันไรก็... "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
              พีวิลกล่าว "เสียงปืนนั้น มันดังมาแต่ไกลกันน่ะ"
              "หรือว่ามีกองทหารลาดตระเวนเจอกับพวกครอสตรีมโจมตีเข้าอยู่น่ะ" โฟรซ่าบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "จะยังไงก็ช่าง เรารีบไปอย่างระมัดระวังดีกว่า เพราะทางที่ต้นเสียงมานั้น ต้องผ่านเขตป่าที่หนาทึบมากไปกันด้วยน่ะ"

              แล้วหลังจากนั้นพวกพีวิลก็รีบวิ่งไปยังต้นตอของเสียงที่ดังขึ้น โดยที่พลัสเชอริทและมาสวาร์ทาร์นำหน้าไปก่อน จนออกมาถึงชายป่า มาสวาร์ทาร์รีบแบมือห้ามพวกพีวิลที่ตามหลังมาโดยเร็ว "พวกครอสตรีมอยู่ใกล้ๆนี้นะหรือ" สเปียริทถาม
              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "ไม่...แต่แย่กว่านั้นนะสิ ทุกคนหลบก่อนดีกว่าน่ะ เดียวจะโดนลูกหลงซะเปล่าๆ" เพราะที่มาสวาร์ทาร์เห็นอยู่นั้น เป็นกองรถเทรลเลอร์คาราวาน ซึ่งมีคอนเทนเนอร์ที่พักที่ถูกจัดแต่งไว้ด้วยความโก้หรูและเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกตอนอยู่ป่าเอาไว้ เห็นได้จากตรงหลังคามีจานดาวเทียมรับสัญญาณอยู่ข้างบน ซึ่งมีเซลพลังงานแสงอาทิตย์ตั้งไว้เป็นหลังคาด้วย
              "แจ่ม นั้นมันคุณชายธีเดเนียท จากตระกูลราคาด้า ซึ่งเป็นตระกูลไฮโซที่อาศัยในแทแรนเซียนิน่า" โฟรซ่ากล่าวโดยใช้ตาอินฟราเรดส่องมองดูชายผมสั้นสีน้ำตาลไว้พุงในชุดนายพรานสุดหรู เพราะนอกจากสวมนาฬิกาทำด้วยทองคำข้างซ้าย ส่วนข้างขวาเป็นแพลตินั่มฝังเพชรแท้ 50 กะรัต นิ้วมือยังมีแหวนสวมไว้ทั้งแปดนิ้ว โดยมาพร้อมกับข้ารับใช้ที่มีปืนยาวพอๆกัน
              สเปียริทถาม "ว่าแต่ เพราะอะไรกัน ที่นายคนนั้นถึงกล้ามาเหยียบที่นี้กันได้น่ะ"
              "นายคงไม่ได้บอกน่ะ ว่าไอ้พวกนี้มาเพื่อล่านกยักษ์กันน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "เท่าที่ฟังมา คุณชายธีเดเนียทขึ้นชื่อในเรื่องยิงนกตกปลาล่าสัตว์กันอยู่แล้ว เห็นได้จากผลงานที่มีหัวสัตว์แปะกำแพงพร้อมกับหนังสัตว์ที่วางพาดกับพื้นอยู่ทั่วทุกห้องในคฤหาสน์ของตระกูลแล้ว ซึ่งแน่นอน ว่ามันหมายรวมไปถึงภาพถ่ายที่โชว์วีรเวรกรรมที่ตนเองได้ทำ และไปแย่งคนอื่นมาเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างหลังนิ ทำเป็นประจำ...."
              "แล้วคุณชายกับพวกเองก็คงจะออกมาล่าสัตว์โดยไม่รู้เลยว่า ข้างนอก โครเต้และเกซเฟลิคส่งแมนิเกเตอร์ออกมาคุกคามทุกๆคนที่เสนอหน้าออกจากเมืองกันละสิ" พีวิลกล่าว มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              พลัสเชอริทบอก "เกรงว่าพวกเขาเหล่านั้นคงจะติดตามข่าวสารกันมาบ้างนะครับ เพราะผมเห็นปืนพลาสม่าไรเฟิ่ลถูกนำออกจากคอนเทนเนอร์มา แถมยังมีระบบเรดาห์ชนิดพิเศษกันอยู่ ตอนนี้ผมได้เปิดระบบอำพรางการตรวจจับเรดาห์ไว้แล้วละ"
              "นายว่ามาตรงประเด็นเลยน่ะ....หากแต่คุณชายนั้น มาเพื่อล่าสัตว์อย่างเดียว เพราะคงคิดว่าการมาที่ป่านี้คงต้องเจออะไรที่หนักหนายิ่งกว่านกยักษ์แน่ๆ เลยเตรียมมาซะเป็นอย่างดี แต่กลัวว่าจะไม่ได้ใช้อย่างจริงจังซะมากกว่าน่ะ และที่เปิดเรดาห์นั้นก็เพื่อรู้แค่ว่า มีอะไรหรือใครมารบกวนตนเวลาทำกิจกรรมประจำกันไว้น่ะ" โฟรซ่าบอก
              สเปียริทถาม "เธอคงไม่ได้หมายความว่า คุณชายนั้นไม่ได้เป็นทหารเลยหรือ เธอถึงรู้ว่าคุณชายไม่มีทางใช้ปืนแบบนี้กันน่ะ"
              "ธีเดเนียทแม้จะเก่งเรื่องยิงนกยิงสัตว์ด้วยปืนจากระยะไกลกันก็จริง แต่มันแย่ตรงที่ เขาไม่มีความคิดในเรื่องเข้าเป็นทหารเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนนะสิ เนื่องจากว่าพ่อแม่เลี้ยงดูแบบไข่ในหิน เลยทำให้หมอนั้นรักสบาย กลัวตายกลัวเจ็บ และเสียดายโอกาสที่คุณชายชื่นชอบอยู่ตลอดเวลา ไปอยู่ในรั้วโรงทหาร เลยมีประวัติหนีทหารมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้ง ถ้าพ่อแม่ไม่ใช้เส้นใหญ่ช่วย ก็เป็นแผนของคุณชายนี้แหละที่หาเรื่องหลีกเลี่ยงกันน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              โฟรซ่ากล่าว "ถ้าธีเดเนียทยอมเสียสละเรื่องส่วนตัวและใช้ความสามารถการส่องยิงนกยิงสัตว์ให้เป็นประโยชน์กันแล้วละก็ กองทัพแทแรนเซียก็คงมีสไนเปอร์มือฉมังมาช่วยปกป้องบ้านเมืองจากพวกครอสตรีมไปนานแล้วละ"
              "แต่น่าเสียดาย คุณชายธีเดเนียทเป็นประเภทไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยที่ติดตัวมานานไปได้หรอก ต่อให้เกือบตายเพราะครอสตรีมหรือแอตแลนไทซ์ก็ตามน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              พีวิลกล่าว "แต่ หวังว่าพวกธีเดเนียทคงไม่หาเรื่องล่านกยักษ์จนไซโคลเนียพลอยโดนไปด้วย..."
              "เออ เดียวก่อนน่ะ ผมมองเห็นคนขนอะไรบางอย่างมากันน่ะ" พลัสเชอริทกล่าวโดยใช้นัยน์ตาซูมอินไว้
              คลอเวฟถาม "นายพอจะส่งอะไรไปแอบฟังได้มั้ยละ"
              "ไม่ต้องหรอก เพราะฉันรู้แล้วละ ว่าที่พวกมันยิงปืนขึ้นไปนั้น มันยิงอะไรไปกันน่ะ" โฟรซ่าบอก เนื่องจากเธอตรวจจับสัญญาณที่อยู่ในระยะเรดาห์จากเครื่องสื่อสารที่ข้อมือไว้ ทันใดนั้น ลูกน้องของธีเดเนียทเดินมาพร้อมกับ...
              "โอ้ว อย่าบอกน่ะ ว่าสัญญาณที่เธอตรวจจับได้นั้น จะมาจากไซโคลเนียกันน่ะ" สเปียริทกล่าวเมื่อเธอเห็นไซโครเนียที่ถูกมัดแขนและถูกดึงเอาไว้ โดยมาพร้อมกับไทฟูลที่โดนยิงเข้าที่ปีกไว้ด้วย
              "กะแล้วว่าไอ้เวรมันต้องมายิงนกจนได้เลยน่ะ" คลอเวฟบอก
              สเตฟอร์ดถาม "โฟรซ่า ไซโคลเนียเปิดสัญญาณติดต่อไว้หรือเปล่าละ"
              "เปิดอยู่ เธอเซตระบบอัดเสียงไว้โดยที่พวกนั้นไม่รู้น่ะ" โฟรซ่าบอก และเชื่อมระบบสื่อสารไปให้พีวิลเพื่อเปิดสัญญาณเสียงไว้ให้ทุกๆคนฟัง

              "โอ้ว อะไรเนี้ย คนอุตสาห์ออกมายิงนกตัวโตๆที่บินอยู่บนเขาลงมา ทำไมถึงได้แม่สาวสุดเซ็กซี่มาด้วยละเนี้ย อย่าบอกน่ะ นั้นคงจะเป็น นางฟ้า ตกจากสวรรค์มาใช่มั้ยละ" ธีเดเนียทบอก
              "นั้นนะหรือ คือคำพูดของคุณชายยอดนายพรานที่ชอบหนีทหารเพราะกลัวเจ็บกันเลยน่ะ และไม่รู้เลยหรือ ว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้ ทำอะไรมาก่อนกันน่ะ" ไซโคลเนียบอก ลูกน้องของธีเดเนียทกล่าว "ลูกพี่ ผมจำได้แล้ว เธอคนนี้คือ เสืออากาศหญิงจากอาร์เจนติน่า ที่ถูกผ่าตัดดัดแปลงเป็นแมนิเกเตอร์จากดวงจันทร์ จนตอนนี้เธอเป็นแมนิเกเตอร์หญิงที่บินได้ของพวกโคเคสกันนะ"
              "โอ้ว นึกว่าใคร ที่แท้ ฟรีตซีร่าบินเดี่ยว อินทรีสาวซ่า สคาลทวิสต้า มอนซูนเนสต้า ไทฟูนควีน ดีเปรสชั่นเกิร์ล สปอว์โลว์เลดี้ เฮอริเนสต้า ลมหวนพายุคลั้งฟรีซีร่า กันละสิน่ะ" ธีเดเนียทร้องอ้อ แต่ดันไปถามลูกน้องที่ยื่นใกล้ๆว่า "แล้วตอนนี้เธอชื่ออะไรกันน่ะ"
              ลูกน้องอีกคนบอก "ไซโคลเนียครับ ท่านชาย"
              "งั้นหรือ แต่ที่เห็นอยู่นี้ ดูเซ็กซี่กว่าที่เล่าลือกันมากเลยน่า ซึ่งก็โชคไม่ดีเสียเลยที่มาอยู่กับเจ้านกยักษ์นี้ ว่าแต่ เจ้านกนั้นทำอันตรายคุณหรือเปล่าละ" ธีเดเนียทพูดด้วยน้ำเสียงแทะโลมแฝงความหื่นเอาไว้
              แต่ไซโคลเนียถามกลับไปว่า "นกตนนี้ช่วยชีวิตฉันไว้ แต่นายมายิงจนปีกพรุนเป็นรูแบบนี้ นายกล้ารับผิดชอบได้มั้ยละ"
              "รับได้อยู่แล้ว แต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนด้วยน่า...." ธีเดเนียทกล่าว และยื่นข้อเสนอให้ "ว่าแต่ มาเป็นเมียของคุณชายอย่างผมมั้ยละ งานสู้รบของคุณนั้นมันไม่เหมาะกันหรอก สนามรบไม่ใช่ที่ๆของคุณด้วย คุณน่าจะมาเป็นมายเดียร์ของผมสักหน่อยน่ะ"
              ไซโคลเนียได้ฟังก็ถึงกับแลบลิ้นด้วยความสะอิดสะเอียน "แหวะ ถ้าจะมาเล่นมุขเสี่ยวหรือแทะโลมเพื่อหวังจะแอ้มฉันละก็ ทางที่ดี คุณกลับไปนอนเปิดแอร์โชว์พุงสบายๆกันไม่ดีกว่าเลยหรือ อย่างน้อย ฉันคิดว่าในบ้านของคุณน่าจะมีหมอนข้างเด็กสาวอยู่บนเตียง พอๆกันกับ มีฟิกเกอร์สาวน้อยอยู่เต็มตู้ มีรูปโปสเตอร์แปะครบทุกมุมห้องกันแล้วละมั่ง"
              "ไซโคลเนียพูดอะไรกันน่ะ ฟังดูแล้วเหมือนพูดให้คุณชายดูหื่นกว่าที่ได้ยินตั้งสามเท่าน่ะ" สเปียริทบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ไซโครเนียเปรียบเปรยธีเดเนียทเป็นพวกโอตาคุ ซึ่งเป็นพวกผู้ชายที่วันๆเอาแต่ชื่นชอบและติดตามการ์ตูนไม่ทำอะไรไปวันๆ ซึ่งการที่ไซโครเนียเล่าจนให้เห็นภาพชัดขนาดนี้ แสดงว่าเพื่อนในกองบินต้องเป็นชาวญี่ปุ่นที่จัดห้องพักให้เธอเห็นกันอย่างงั้นแน่นอน"
              "สรุปคือ ไซโคลเนียคงจะเป็นประเภทเดียวกันละสิ ถึงได้ร่ายสรรพคุณต่อคุณชายสุดหื่นแบบนั้นน่ะ" คลอเวฟบอก
              สเตฟอร์ดกล่าว "แน่ละ ไซโคลเนียในตอนนี้ ก็มีสถานะเป็นเมคามุซุเมะ(Mecha Musume แปลได้ว่า เด็กสาวหุ่นยนต์) กันเสียด้วยน่ะ"
              "โอ้ว ฟรีตซีร่าพูดให้ผมอึ้งไปเลยละสิ แต่แย่หน่อยนะ ที่ในห้องผม มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดแปะอยู่ทั่ว วอร์เปเปอร์ผมมีหนังสัตว์แปะเต็มอยู่ทั่วๆ แม้กระทั่งนกที่ผมยิงมา ผมก็เอาไปสตาฟทำเป็นโคมระย้าหลากสีกันด้วยน่ะ" ธีเดเนียทพูดโดยไม่รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบกันเลย ทั้งๆที่ไซโคลเนียด่าให้เสียหายกันหนักหน่วงแล้ว "แต่ยังไงก็ช่าง ตอนนี้ผมจะเอาคุณไปขังไว้ในห้อง ส่วนเจ้านกใหญ่ตัวนี้ เห็นทีผมคงต้องสตาฟกันสักหน่อย โอ้ว และอย่าพยายามขัดขืนดีกว่านะจ๊ะ เพราะพระสุธนไม่อยากทำลายมโนห์รากันนะจ๊ะ"
              สเปียริทถาม "คราวนี้คุณชายพล่ามอะไรอีกละเนี้ย"
              "ธีเดเนียทพยายามเปรียบเปรยไซโคลเนียว่าเป็นมโนห์รา ซึ่งเป็นกินรีที่ถูกนายพรานจับมาถวายให้เจ้าชายสุธนเป็นคู่ครอง แต่ก็มีเหตุที่ทำให้มโนห์ราต้องบินกลับบ้านที่อยู่บนหุบเขาสูงสุดกู่ จนพระสุธนต้องออกผจญภัยไปเพื่อตามหามโนห์รากันนะสิ หากแต่ความจริงแล้ว..." มาสวาร์ทาร์บอก
              คลอเวฟเบรคโดยทันที "พอเลยพวก กูสรุปให้เลยดีกว่า เพราะว่าชาติก่อนมโนห์ราพยายามไล่ตามพระสุธนที่พยายามหนี เพื่อช่วยแม่กับป้าอีก 11 ที่ถูกขังและทำให้ตาบอด จนนางมโนห์ราที่เมาเหล้าตรอมใจตาย กรรมเลยต้องย้อนคืนกลับกันนี้แหละ เรื่องนี้กูอ่านเจอนิทานก็น่าจะรู้ได้แล้วละน่า"
              "นายรีบเบรคเพราะว่า นายขี้เกียจฟังเลยละสิ" สเปียริทพูดเพราะรู้ว่าคลอเวฟสมาธิสั้นมากๆ จนฟังมาสวาร์ทาร์เล่าอะไรยาวๆไม่ไหว
              พีวิลบอก "เพราะถ้าเราเสียเวลา แล้วเกิดธีเดเนียทเอาตัวไซโครเนียและฆ่าไทฟูลขึ้นมา มันไม่ยิ่งแย่ไปหรือ..."
              "บอกตรงๆนะยะ ว่ามโนห์ราเวอร์ชั่นนี้ นอกจากจะไม่บินหนีไปอย่างที่นายคิด แต่ฉันเตะผ่าหมากพระสุธนอย่างนายให้ลุกไม่ขึ้นไปอย่างยาวเลยยะ" ไซโคลเนียกล่าว
              ธีเดเนียทบอก "อย่างงั้นหรือ แต่ ถ้าไม่ทำตามละก็ นกตัวนั้นก็จะ...."

              "ป้างงง ป้อกกก โป้ก" จานดาวเทียมถูกยิงจนหักร่วงลงพื้นหล่นใส่หัวลูกน้องที่พิงกำแพงและดูดบุหรี่ลงไปแน่นิ่งไป "ใคร ใคร ใครกันแน่วะ แน่จริงโผล่หัวออกมากันเลยสิวะ" ธีเดเนียมโวยวายด้วยความตื่นตัว เช่นเดียวกับพวกลูกน้องที่หันซ้ายหันขวาไปด้วย
              คลอเวฟบอก "พวกกูเองแหละโว้ย ไอ้คุณชายหื่น 150 เปอร์เซนต์" แล้วพวกพีวิลก็เดินออกจากป่าตรงมายังพวกธีเดเนียทโดยทันที ซึ่งโฟรซ่าคัดกระสุนออกจากลำกล้องหลังจากที่ใช้ยิงเปิดนำไปแล้ว
              "สุดท้ายพวกนายก็มาช่วยจนได้สิน่า เฮ้อ โล่งอกไปที" ไซโคลเนียกล่าวอย่างโล่งใจขึ้นมา หากแต่พวกลูกน้องของธีเดเนียทชักปืนออกมา พวกพีวิลเลยเอาอาวุธออกมาบ้าง
              "โอ้ว นั้นคงเป็นสหายของฟรีตซีร่าที่เป็นแมนิเกเตอร์ด้วยกันละสิ คงอดรนทนไม่ไหวกันเลยสิน่ะ ถึงได้ออกมาช่วยเธอกันได้น่ะ" ธีเดเนียทบอก โดยชักปืนยาวออกมา
              "นอกจากไซโคลเนียและสตอร์มฮอวค์ไทฟูลแล้ว เราจะมาช่วยพวกนายให้ไปจากที่นี้เดียวนี้เองแหละ" พีวิลกล่าว
              ธีเดเนียทบอก "แล้วจะทำไมละ อีกอย่าง ที่นี้เป็นเขตปลอดพวกแมนิเกเตอร์กันอยู่แล้ว แต่การที่พวกนายโผล่มาแบบนี้ มันไม่ผิดกฎหมายกันเลยหรือ"
              "ต่อให้ตรงนี้หรือตรงไหนเป็นเขตปลอดพวกแมนิเกเตอร์ แต่ตราบใดที่พวกนายยืนอยู่นี้ ทุกที่ล้วนไม่ปลอดภัยด้วยกันทั้งนั้นแหละ" มาสวาร์ทาร์บอก
              สเตฟอร์ดบอก "และต่อให้มีอาวุธดีแค่ไหน แต่อย่างมาก นายกับพวกก็ใช้มันไม่เป็นอยู่แล้วนิ"
              "ง้านหรือ แต่ก็อย่าลืมน่ะ ว่าก่อนที่จะมาถึงนี้ ก็ได้ทดสอบใช้ปืนเลเซอร์นี้ไว้ก่อนแล้ว เพราะแน่ใจว่า สัตว์ที่ต้องไปล่านั้น กระสุนเอาไม่อยู่แน่นอน แม้กระทั่ง มาไล่ยิงพวกแมนิเกเตอร์กันนี้แหละ" ธีเดเนียทพูดแบบอวดดี
              พลัสเชอริทบอก "ปืนไรเฟิ่ลในมือขวามีการขยับเนื่องจากส่วนแขนของธีเดเนียทมีการสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด โอกาสที่ธีเดเนียทยิงถูกพวกเรา 31 เปอร์เซนต์ ของลูกน้องจำนวน 20 คน เฉลี่ยรวมกัน 14 เปอร์เซนต์ ระดับการป้องกันของทุกๆคนทั้งหมด เบาบางและมีโอกาสถูกฆ่าตายได้ 91 เปอร์เซนต์ทั้งจากอาวุธของพวกเราและของพวกศัตรู โอกาสเอาตัวรอดจากอันตรายไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ตาม ผลรวมทั้งหมด คือลบ 51 เปอร์เซนต์ด้วยกัน ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายโต้ตอบแต่อย่างใด"
              "ถึงไม่มีตัวเลขเปอร์เซนต์หรือร้อยละ พวกนี้ก็กระจอกสุดโดยไม่ต้องสืบกันหรอก" คลอเวฟกล่าว
              โฟรซ่าบอก "กรุณาทิ้งอาวุธและปล่อยทั้งไซโคลเนียกับนกยักษ์นั้นมาทางเราซะ หาไม่ กระสุนตะกั่วผสมแคตเมี่ยมจะปักตรงไหนก็ได้บนหน้าของพวกนายคนใดคนหนึ่งภายใน 2 วินาทีกันน่ะ"
              "หรือ แต่...อีกเดียว ลูกน้องของฉันอีก 15 คนที่เข้าไปในป่าเพื่อไปหาอาหารเที่ยงก็น่าจะ..." ธีเดเนียทบอกและมีสายเข้ามาทันที "นี้ฉันเองน่ะ รีบกลับมาได้แล้ว เพราะว่าฉันมี..."
              เสียงปลายสายกล่าว "คุณชาย หนีไปเถอะครับ เพราะว่าตอนนี้พวกเราเจอหมูป่าแมมมอธเล่นงานเอานะครับ"
              "หมูป่าตัวโตนั้นนะหรือ บาซูก้าอยู่ในมือ ทำไมถึงไม่ยิงเสียเลยละ" ธีเดเนียทตำหนิ
              แต่ลูกน้องตอบ "จะยิงได้ไงละครับ ในเมื่อหมูป่านั้น มันมีปืนเลเซอร์ ปืนยิงกระสุนเพลิง แล้วยังปล่อยขนเหล็กบินเข้ายิงใส่รถของพวกเราจนระเบิดไม่ว่า ตอนนี้มัน...." ไม่ทันไรก็... "ป้ากก โครมม เปรี้ยงง พล็อก เหวอออ โครมๆๆๆๆๆๆ" แล้วลูกน้องคนนั้นก็หันมาเห็นเจเนลและ... "ป้ากก ซ่า" โดนถีบเข้าจนสัญญาณภาพขาดหายไปอย่างจังๆ
              "นั้นไม่ต้องถามแล้วละ ว่าพวกพ้องของแกโดนอะไรมา" คลอเวฟบอกเพราะรู้อยู่แล้ว ว่าลูกน้องส่วนหนึ่งของธีเดเนียทถูกพวกเจเนไซด์ทีมกระทืบเอา
              ธีเดเนียทบอก "งั้นหรือ แต่ คนมือไวกว่า ย่อมได้เข้าเส้นชัยกันนี้แหละ" แล้วก็ชักปืนหมายจะยิงใส่ไทฟูลไว้
              "ไทฟูล ใช้ปีกข้างเดียว เป่าพวกธีเดเนียทให้ปลิวซะ" มาสวาร์ทาร์สั่ง
              "กวี้กกกก" ไทฟูลกู่ร้องและ "ฟึ่บบบบ" "ฟ้าวววว" สะบัดปีกให้เกิดลมแรงเข้าอัดใส่ธีเดเนียทและบริวารทั้งหลายจน "เหวอออ ว้ากกกก" "โครมมมม โครมๆๆๆๆๆ ซ่า" ปลิวล้มกลิ้งหัวปักพื้นโคลนที่อยู่ด้านหลังไปเต็มๆ ส่วนคอนเทนเนอร์ที่พักนั้น ล้มคว้ำตามแรงลมจนไถลตกทะเลสาปไปแล้ว ครั้นลูกน้องคนหนึ่งจะยิงปืนเข้าใส่ไซโคลเนียที่พยายามวิ่งหนี "ปัง" โฟรซ่าเหนี่ยวไกยิงฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลเข้า "หวือออออ ป้ากกกก ตรูมมม" พุ่งเจาะลำกล้องปืนยาวจนระเบิดไปอย่างจังๆ สเตฟอร์ดและคลอเวฟเลยรีบวิ่งเข้ามาช่วยไซโคลเนียไว้ ส่วนพีวิลและมาสวาร์ทาร์ก็ตรงมาปลดปลอกคอที่ล็อกคอไทฟูลไว้
              "ที่นายสั่งไทฟูลให้ทำเช่นนั้น แสดงว่า ฟาลเคน่อนสอนนายไว้เลยละสิ" สเปียริทกล่าวโดยที่มองดูแผลที่ปีกข้างซ้ายไว้
              "ใช่ เพราะการเป็นนักรบที่ดีนั้น นอกจากรู้วิธีควบคุมและขี่ม้าแล้ว สัตว์ใหญ่ที่เป็นสหายของพวกบีสทอยด์นั้น จำเป็นไม่น้อยที่ต้องสร้างความคุ้นเคย เผื่อว่าจะได้เจอพวกนี้ไว้กันนะสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าว และคล่ำตรงส่วนปีกที่ถูกยิงเป็นรู พร้อมกับใช้กล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลที่โดนยิงเอาไว้ สเตฟอร์ดและโฟรซ่าเองก็มาเช็คดูไซโคลเนียอย่างละเอียดไว้
              "พอใช้เจ็ทบู๊ทได้มั้ยละ" สเตฟอร์ดบอก
              "พอได้อยู่น่ะ แต่ก็บินได้สักสามนาทีก็หยุดการทำงานไปเลยน่ะ" ไซโคลเนียกล่าว
              โฟรซ่าบอก "แปลว่าคงต้องให้เดินแล้วละ เพราะสภาพแบบนี้คงบินยาวไม่ได้แน่ๆน่ะ" แล้วก็เอาปืนยาวเทมเพสต้าไรเฟิ่ลที่พาดไว้ที่บ่าซ้ายไว้ "เบย์แทนด์ซ่อมแซมให้แล้ว อย่าทำหายหรือพังเด็ดขาดน่ะ" ไซโครเนียรับไว้โดยเร็ว ซึ่งก็หันมายังธีเดเนียทที่เงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่คลุกกับโคลนไปแล้ว
              "ไสหัวไปให้พ้นๆเดียวนี้เลยน่ะ ถ้าไม่ฟัง เดียวแม่จะยิงทั้งปืนทั้งมิไซล์ซะเลยมั้ยละ" ไซโคลเนียโวย
              จนธีเดเนียทถึงกับสั่นกลัวขึ้น แต่ยังไม่วายพูดจาแทะโลมไปอีกว่า "เออ แล้วไม่ไปกับพี่เลยหรือไงกัน..."

              "ตรูมมมมมมม" ฉับพลัน คอนเทนเนอร์ที่พักก็โดนยิงกระจุยไปทันที พร้อมกันกับ "ตรูมๆๆๆๆๆๆ" พวกลูกน้องของธีเดเนียทถูกเป่าระเบิดจนศพกระจัดกระจายไปอย่างจังๆ จนทำให้ธีเดเนียทถึงกับกลัวมาก "ถ้าอยากจะอยู่ต่อเพื่อยิงนกตกปลาต่อไปละก็ รีบไปเดียวนี้เลย แล้วอย่าหันกลับมาซะล่ะ" สเตฟอร์ดกล่าว ธีเดเนียทที่หวาดกลัวก็รีบเผ่นหนีไปโดยเร็ว พร้อมกับลูกน้องที่เหลืออยู่ที่รีบวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนโดยเร็ว
              คลอเวฟบอก "ลักษณะการโจมตีด้วยระเบิดน้ำแบบนี้ โผล่ออกมาได้แล้ว เมอริด้า"
              "ซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ไม่ทันไร พวกแอตแลนไทซ์ก็โผล่ขึ้นจากทะเลสาปโดยทันที ซึ่งเมอริด้า แม่ทัพของพวกแอตแลนไทซ์ได้นำสปาดาไนซ์ 40 ตน มิลมีซอน 30 ตน และเฮอคูลอน 20 ตน โผล่มาด้วย "เจ้ารู้ว่าข้าจะต้องโผล่มาเล่นงานพวกเจ้าเลยสิน่ะ คลอเวฟ" เมอริด้ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาขึ้นมา
              คลอเวฟบอก "ยุทธวิธีโจมตีจากใต้น้ำที่เปิดนำด้วยการเป่าระเบิดจากด้านใต้ท้องเรือนั้น เธอก็จำมาจากฉันมาก่อนตั้ง 5 ปีที่แล้ว และนำไปใช้ได้จริงถึง 3 ครั้งด้วยนั้น มีหรือที่ฉันจะจำไม่ได้น่ะ"
              "จำได้อยู่แล้ว แต่ฉันจำได้ในตอนนี้ก็คือ นายคือคนทรยศของพวกเรา ที่สมควรจะกำจัดทิ้งไปพร้อมกับพวกกบฎด้วย แม้ว่าเราหลีกเลี่ยงการปะทะกับมาสวาร์ทาร์ไปไม่ได้ก็ตาม" เมอริด้าบอก
              พีวิลกล่าว "ถ้าพวกแกตามพวกเรามาจนถึงขั้นที่แอบซุ่มอยู่ใต้ทะเลสาปเพื่อดักหน้าพวกเราขึ้นมาละก็ แสดงว่าพวกแก คงจะตามสัญญาณจากพวกเจเนไซด์ทีมอย่างงั้นละสิ"
              "ฉลาดดีนิ พีวิล สมแล้วที่เป็นยอดนักรบที่ท่านขุนพลครองคอร์ดเลือกเฟ้นไว้น่ะ" เมอริด้าบอก "พวกเจเนไซด์ทีมไม่ได้รู้เลยสักนิด ว่าพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่แค่ไล่ล่าพวกแกอย่างเดียว แต่พวกเขายังทำหน้าที่เป็นตัวนำทางพวกเราติดตามพวกแกมาได้นี้แหละ"
              พลัสเชอริทกล่าว "ซึ่งนั้นเป็นแผนการของผู้สร้างอย่างงั้นสิน่ะ เพราะถึงพวกเจเนไซด์ทีมจะมาถึงหรือไม่ พวกเราก็ย่อมถูกพวกแกจัดการไปแล้วละสิ"
              "แน่นอน โดยเฉพาะเจ้าด้วยน่ะ ไอรอน พลัสเชอริท ท่านขุนพลสั่งให้เรากำจัดแกลงไปด้วยกันเลย ซึ่งต่อให้เจ้าแน่กว่าเราในภาคพื้นก็จริง แต่กับใต้น้ำ มันคือสุสานของเจ้าเองแหละ" เมอริด้าซัดคลื่นน้ำเข้าใส่พลัสเชอริท แต่... "ตรึงงง" "ซ่า" คลอเวฟกระทืบพื้นให้เกิดเสาน้ำพุเล็กๆเป่าคลื่นน้ำที่ถูกซัดให้หายไป
              "สงสัยว่า มันไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วละสิ ที่ต้องมาปะทะกับคนที่ฉันมอบความรักให้ เพราะตอนนี้ เธอเข้าข้างไพลม์เทคมาหาเรื่องกับฉันกันแล้วละ" คลอเวฟเลยดึงแองเกอร์แอ็กซ์ออกมา
              "ในตอนนั้นฉันมองนายได้แค่เพื่อนเท่านั้น แต่ตอนนี้ ฉันมองแกเป็นคนทรยศและศัตรูที่สมควรต้องถูกกำจัดกันแล้วน่ะ จัดการมันเลย" เมอริด้ากล่าวและสั่งเหล่าสมุนบุกเข้าใส่
              คลอเวฟส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า "กู่ไม่กลับจริงๆแล้วสิน่า" โดยตอนนี้ไทฟูลรีบเดินหาที่หลบภัยจากการต่อสู้ไว้แล้ว

              "แกร้งงงง เกร้งงงงง เกร้งงงง" สเตฟอร์ดหวดค้อนปะทะกับพวกเฮอคูลอนที่มาพร้อมกับขวานแบทเทิ้ลแอ็กซ์อย่างหนักหน่วง เช่นเดียวกันกับพีวิลหลบหลีกการฟาดฟันด้วยดาบใบเลื้อยติดแขนเข้าใส่ ซึ่งโต้ตอบด้วยเอนเนอจี้ร็อดอย่างทันควัน "ลากพลัสเชอริทลงน้ำเดียวนี้เลย" สปาดาไนซ์ตัวนายกองสั่ง โดยให้พวกลูกน้องยิงกระสุนน้ำจากแบ็คแพ็คเล็กจากระยะไกลเพื่อทำให้พลัสเชอริทเปียกน้ำจนตัวช็อตไป "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆ" แต่พลัสเชอริทพุ่งตรงแบบซิกแซกหลบกระสุนน้ำที่ยิงเข้าใส่มา "ฉั้วะๆๆๆๆๆๆ" และฟาดฟันด้วยคิลเลอร์เบลดอย่างรวดเร็ว "โพละๆๆๆๆ" สปาดาไนซ์ 5 ตัวโผล่ขึ้นจากโคลนพร้อมกับซัดโลห์ที่ติดข้างหัวไหล่พุ่งเข้าเป็นกงจักรหมายจะกรีดใส่พลัสเชอริทไว้ "แชดดดดดดดดดด" "ตรูมๆๆๆๆๆๆ" ไซโคลเนียใช้เทมเพสต้าไรเฟิ่ลยิงลำแสงทำลายกงจักรทิ้งไปโดยทันที แล้วก็ยิงใส่พวกสปาดาไนซ์ทั้งห้าตัวไปด้วย "ย้า ย้า ย้า..." สเปียริทหวดหอกฟาดฟันใส่มิลมีซอนที่ใช้ตรีศูลเป็นอาวุธ ซึ่งก็ต้านการทิ้มแทงไว้ได้ทุกดอกและ... "ฉึกกก" แทงใส่ตรงท้องของมิลมีซอนพร้อมกับจับทุ่มฟาดกับพื้นไปสองทีแล้วก็ "ย้า" ทุ่มส่งร่างของมันให้ปลิวลงไปอัดกับพวกมิลมีซอนที่บุกมาจนร่วงไปด้วยกันถึง 4 ตัว "แชดดด แชดดดด แชดดดด" มาสวาร์ทาร์กระโดดถอยหลังโจมตีใส่มิลมีซอนและสปาดาไนซ์จำนวนละ 3 ตัวและยิงครอสเซียมมาสเก็ตเข้าใส่จนทะลุร่างพวกมันไปกันหมด "ย้ากก ย้ากกก" มิลมีซอนสองตัวเสยตรีศูลเข้าแทงใส่มาสวาร์ทาร์จากด้านข้าง "หวืบบบบ เคร้งงง" มาสวาร์ทาร์รีบเอียงตัวไปข้างหลังจนคมสามง่ามของทั้งสองด้านแทงปะทะใส่กัน "ฮึยยย" ยอดนักดาบหนุ่มที่เอียงตัวจนเกือบจะล้มเอาหลังฟาดพื้นถือโอกาสใช้เท้าขวาถีบหัวตรีศูลเพื่อทำให้มิลมีซอนเสียหลักไปอย่างจังๆ พร้อมกับเอามือยันพื้นโคลนเพื่อดันตัวเองพลิกกลับมา "ครี้งงงงง" "ฉับบบ ฉึบบบบ เชร้งงง" ชักดาบฟันใส่บ่าของมิลมีซอนและไถลดาบกรีดบ่าพร้อมผ่าขาดสะพายแล่งซ้ายไป จากนั้นก็... "หวับบบ ฉั้วะ" ก้มและหมุนตัวตวัดดาบฟันใส่หลังข้อพับของมิลมีซอนอีกตัวให้เสียหลักจนคุกเข่า แล้วก็... "วาบบบบบ ฉั้วะ" จัดการฉาบดาบให้เรืองแสงและฟันใส่มิลมีซอน จนผ่าใบหน้าส่วนหน้า "ฉืบบบบ โพละ โครมมมมม" ซึ่งทำให้หน้ากากเฟสการ์ดขาดจากกันจนเห็นใบหน้าหุ่นที่มีส่วนตาสามเหลี่ยมและมีรอยปานสีน้ำตาลบนหน้าขาดหล่นลงพร้อมกับส่วนลำตัวที่เหลือ ซึ่งส่วนหัวถูกผ่าให้เห็นส่วนสมองกลและส่วนภายในปากไว้แล้ว "ย้า..." โฟรซ่าตวัดเคียวแทงใส่สปาดาไนซ์เข้าที่ท้องแล้วก็ตวัดเสยขึ้นส่งมันให้ไป "ซ่า ตรูมมมมม" ตกทะเลสาปจนร่างระเบิดเป่าน้ำกระจายไปอย่างจังๆ "ฟ้าวววว ฟ้าววว โครมมมม" โฟรซ่ารีบโดดหลบลูกตุ้มขนาดยักษ์ของเฮอคูลอนซัดเข้ามาสองลูกติด แล้วก็... "ป้างงง ป้างง ป้างงง" ใช้ฟาร์ไซน์ไรเฟิ่ลยิงใส่ไปสามนัดซ้อน แต่ก็ไม่ระคายผิวเกราะอัลตร้าสติลไว้เลย
              "ป่วยการเปล่าน่า กระสุนของพวกแกไม่มีทางทะลุเกราะอัลตร้าสติลที่เสริมแกร่งมาโดยเฉพาะกันหรอก" เฮอคูลอนกล่าวและยิงกระสุนน้ำขนาดใหญ่ออกไป แต่ก็... "หวับบบบ ตรูมมม ซ่า" ยิงไม่โดนโฟรซ่าที่โดดสูงหลบหลีกไปได้ทัน และ... "มิเดี้ยมมิไซล์" ไซโคลเนียวิ่งเข้ามาช่วยยิงมิไซล์เข้าใส่เฮอคูลอนที่ยิงมาจนทำให้พวกมันเซถอยหลังไปอย่างจังๆ
              "แกร้งๆๆๆๆ" เมอริด้าใช้พลัสเบลดเข้าฟาดฟันใส่คลอเวฟที่ใช้แองเกอร์แอ็กซ์ปัดรับโต้ตอบกันแทบไม่ทัน แล้วก็ "ฟึ่บบบ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กระโดดรั่วถีบใส่คลอเวฟแบบไม่ยั้ง ซึ่งฝ่ายโดนถีบป้องด้วยท่อนแขนซ้ายไว้และ "ป้ากกก" โดนถีบเข้าตรงหน้าอกจนถอยเซผงะไปอย่างจังๆ "เป็นอะไรไปละ ความยโสโอหังของแกหายไปไหนกันละ" เมอริด้าบอก
              คลอเวฟกล่าว "เปล่าเลย แต่นั้นจะยิ่งทำให้ฉันไม่ลังเลใจที่จะจัดการกับเธอไปด้วยน่ะ" แล้วก็พุ่งถีบขาคู่เข้าใส่ แต่เมอริด้ากระโดดสูงหลบไว้ได้ และระดมยิงกระสุนน้ำจากฝ่ามือสาดใส่คลอเวฟแบบไม่ให้โต้ตอบได้ทัน พร้อมกับพุ่งเสยแทงพลัสเบลดลงมา "เคร้งงงงงง" แต่คลอเวฟใช้แองเกอร์แอ็กซ์ทิ้มใส่ต้านไว้จนเป่าเมอริด้าปลิว
              "ไม่ลังเลใจที่จะจัดการกับฉันเพราะเกรงกลัวไพลม์เทคงั้นสิ" เมอริด้ากล่าว โดยพยายามหลบหลีกการหวดฟาดฟันด้วยแองเกอร์แอ็กซ์ใส่
              คลอเวฟบอก "ถ้าทำให้มันเสียสมาธิเพราะเรื่องนั้น ฉันไม่กลัวและลังเลอะไรทั้งนั้น เพราะว่าเธอมีส่วนหักหลังฉันไปด้วยน่ะ"
              "หักหลังแกนะหรือ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไม่ได้หักหลังแกหรอกน่ะ มันเป็นแค่ ความเข้าใจฝ่ายเดียวของแกเองน่ะ ที่คิดว่าฉันจะรักแกไปได้ ในเมื่อ คนที่ฉันรักมีเพียงหนึ่งเดียวแล้วนิ" เมอริด้ากล่าว คลอเวฟได้ฟังก็รู้สึกโมโหไม่น้อย แต่ก็ยิ้มขึ้น
              "งั้นหรือ แต่อย่างน้อยเธอก็ทำให้ฉันตาสว่างกันแล้วน่ะ" แล้วก็ซัดวอเตอร์เวฟเข้าใส่ไปสามคลื่น ซึ่งเมอริด้าวิ่งเข้าใส่พร้อมกับ "หวับๆๆ ซ่าๆๆ" หวดดาบพลัสเบลดฟันทำลายคลื่นน้ำที่คลอเวฟซัดเข้ามา แล้วก็กระโดดขึ้นสูงเพื่อใช้ไม้ตาย "สครูวคิลเลอร์" ดาบพลัสเบลดหมุนดุจสว่านโดยที่บูสเตอร์ของเมอริด้าเลื่อนไปประทับบ่าและเดินเครื่องพุ่งชนลงมาในแนวเฉียงเข้าใส่คลอเวฟ แต่... "ฟ้าวววววว แกร้งงงง ตรูมมมม" คลอเวฟซัดทุเรียนเหล็กพุ่งขึ้นไปปะทะกับปลายดาบแฉกเข้าจนระเบิดวินาศสันตะโรไป "หวับบบ ซูมมมม" เมอริด้าจุดบูสเตอร์ประคองตัวเองให้ทรงตัวกลับมาได้ โดยที่พลัสเบลดแตกไปกว่าครึ่งเช่นเดียวกับ... "เปรี้ยะๆๆๆๆ" ส่วนต้นแขนขวาได้รับความเสียหาย ในขณะที่คลอเวฟเอง ทำทุเรียนเหล็กแหว่งไปครึ่งหนึ่งจากการระเบิดเมื่อครู่ด้วย
              "หึ มีโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว แน่จริงก็จัดการกับฉันเสียทีสิ" เมอริด้าพูดยั่วยุ
              คลอเวฟที่ได้ฟังก็กำด้ามแองเกอร์แอ็กซ์ไว้ ก็ยื่นมาตรงหน้าเมอริด้าพร้อมกับบอกว่า "ถ้าจัดการกับเธอซะตรงนี้ อาจจะทำให้ฉันหายแค้นกับเรื่องนั้นไปได้ แต่....มันยังไม่ใช่ตอนนี้"
              "ว่ายังไงน่ะ" เมอริด้ากล่าว
              คลอเวฟกล่าว "ถ้าเธอคิดจะบีบให้ฉันเชือดเธอทิ้งจนทำให้ไพลม์เทคยั้วะจัด ถึงขั้นลามไปถึงโคเคสและพวกละก็ อย่าได้คิดเลยดีกว่า เพราะว่าเรื่องนี้จะจบลงได้ มันต้องจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของไพลม์เทคเท่านั้น" โดยตอนนี้พวกแอตแลนไทซ์ที่เหลือนั้นรีบเดินเข้ามาป้องกันไว้ สปาดาไนซ์หญิงเลยประคองเมอริด้าขึ้นมา คลอเวฟเลยสั่งไปว่า "กลับไปบอกไพลม์เทคเดียวนี้เลย ว่าคราวหน้า มันต้องโผล่มาตรงหน้ากู และต้องมาให้ได้ อ้อ อย่ามีข้ออ้างมาด้วย ไม่งั้น เธอจบไม่สวยแน่นอน"
              "แกมีโอกาสอยู่ตรงหน้า แต่โยนทิ้งแบบนั้นนิ แปลว่าแกยังขจัดความเชื่อโง่ๆของนายไม่หมดไปจากหัวเลยละสิ" เมอริด้ากล่าว จนทำให้คลอเวฟชะงักและกัดฟันเพราะถูกพูดจี้จุดให้ เมอริด้ายิ้มก่อนจะบอกว่า "เอาเป็นว่า ยกนี้เราแค่เสียท่าเท่านั้นเอง แต่...ต่อจากนี้ นายกับพวกคงได้ถูกกำจัดแน่ๆ" แล้วก็ "ฟึ่บบบบ" "ซ่า" สบัดมือตวัดให้เกิดคลื่นกำแพงน้ำโผล่ขึ้นมา ซึ่งเมื่อกำแพงน้ำหายไป พวกแอตแลนไทซ์ก็ถอนตัวไปด้วย
              "ทำไมกันน่ะ เมอริด้า จนแล้วจนรอดยังไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันเลยหรือไงกันน่ะ" คลอเวฟถึงกับเจ็บใจขึ้นมา ซึ่งก็ถึงกับ "หวับบบ ซ่า" หวดทุเรียนเหล็กเพียงครึ่งหนึ่งฟาดลงกับพื้นโคลนไปให้โคลนกระเฉาะกระเด็นมาโดนตัวไป

              "ไม่นึกเลยว่าพวกแอตแลนไทซ์มาเพียงแค่นี้กันน่ะ" โฟรซ่าบอก
              พลัสเชอริทกล่าว "ผมคิดว่าครองคอร์ดคิดจะลองเชิงพวกเรากันนะ ว่าพวกเราที่มีจำนวนน้อยและมีบางคนที่มีความพร้อมสู้เพียงแค่ 40-60 เปอร์เซนต์จะโต้ตอบฝ่ายตรงข้ามกันยังไงน่ะ"
              "แน่ละ มาสวาร์ทาร์มีดาบที่ร้าว ไซโคลเนียก็บินต่อสู้กลางอากาศได้ไม่นานอยู่ด้วยแล้ว นั้นก็บ่งบอกว่าพวกเราย้ำแย่กันแค่ไหนน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              พีวิลกล่าว "มาสวาร์ทาร์ สภาพดาบของนายเป็นไงบ้างละ"
              "อืมมมม" มาสวาร์ทาร์พยักหน้าและชักดาบที่ตอนนี้ รอยร้าวจากปลายดาบลากลงมาเกือบครึ่งแล้ว "กะแล้วเชียว ว่าครองคอร์ดหาเรื่องตัดกำลังพวกเราไปทีละนิดๆแล้วน่ะ" สเตฟอร์ดบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "ตอนนี้เราควรกลับฐานกันเลยดีกว่าน่ะ อย่างน้อยเราก็น่าจะซ่อมแซมอะไรได้น่ะ"
              "ดาบของมาสวาร์ทาร์นั้นต้องซ่อมด้วยพลังงานครอสเซียมของตัวมาสวาร์ทาร์เอง ซึ่งสภาพในตอนนี้....มาสวาร์ทาร์มีเวลาเหลืออยู่ 8 วันแล้วละ" โฟรซ่าบอก
              พีวิลกล่าว "และอีกอย่าง พวกเรา ไม่สามารถเดินย้อนกลับไปได้แล้วละ เพราะครองคอร์ดอาจจะวางกำลังส่วนหนึ่งไปตามเส้นทางที่พวกเราใช้อยู่ ถ้าพวกเราเดินทางกลับไป ก็จะต้องเจอการปะทะอย่างหนักหน่วงแน่นอน"
              "เออ แล้วว่าแต่ เราปล่อยนายบื้อให้อยู่รั้งท้ายเลยมั้ยละ เพราะดูแล้วคงไม่ได้ฟังเราพูดคุยกันด้วยน่ะ" สเปียริทกล่าว เพราะเห็นคลอเวฟยืนนิ่งอยู่
              พีวิลเลยเข้าไปหาก็ต้องตกใจมาก "เออ คลอเวฟ ตกลง นายจะร้องไห้หรือว่าโมโหกันแน่น่ะ เพราะ ฉันเดาอารมณ์ของนายในตอนนี้ไม่ออกแล้วนะ"
              "ถ้านายเดาอารมณ์ของฉันไม่ออกก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเดาหรอกน่า พีวิล" คลอเวฟปาดน้ำตาโดยเร็วเพื่อไม่ให้สเปียริทรู้ว่าคลอเวฟมีท่าทีแย่แค่ไหน "มาสวาร์ทาร์ นายไม่นำเจ้านกตัวนี้ไปเจอกับพวกที่อยู่บนหุบเขาใกล้ๆกันโดยเร็วเถอะ เผื่อว่าเจเนไซด์ทีมมันจะออกจากป่าได้เสียก่อนน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "จริงด้วยน่ะ ไทฟูล พอบินได้มั้ยละ"
              "กวี้กๆๆๆ" ไทฟูลร้องเพียงแค่สี่ครั้งและใช้วิธีเดินไป เพราะคงรู้ว่าสภาพปีกคงไม่พร้อมสำหรับบิน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ "มันคงรู้แล้วละ ว่าถ้าบิน คงจะต้องเจออันตรายจากภาคอากาศ โดยพวกครอสตรีมแน่ๆเลยละ" ไซโคลเนียบอก
              สเปียริทกล่าว "โอ้ว นี้เธอฟังนกพูดรู้เรื่องนิ แปลว่ามันทำให้เธอสติแย่จนกลายเป็นนกไปเสียเองละสิ"
              "ไม่หรอก ไทฟูลเป็นสตอร์มฮอวค์ที่ฉลาดมากจนรู้ว่า มันควรจะปฏิบัติตัวกับพวกเรากันยังไงน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอก
              คลอเวฟบอก "ถ้าไซโคลเนียบ้าจนสมองเป็นสมองนก เธอในตอนนี้ก็สมองคงกลวงเป็นรูไปแล้วละสิ"
              "หุบปากไปเลยน่า นายบื้อ อย่าบอกน่ะว่าที่นายแอบเนียนปิดบังใบหน้าตัวเองนั้น คงเป็นฝีมือของยัยเมอริด้าอะไรนั้นกันน่ะ" สเปียริทถาม
              คลอเวฟโวย "เรื่องของเมอริด้าเป็นเรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้อยู่แล้ว เธอไม่ต้องมายุ่งเลยดีกว่าน่า"
              "อย่าทะเลาะกันในช่วงที่พวกเรายังอยู่ในสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานเลยดีกว่าน่า" พีวิลห้ามปรามคลอเวฟและสเปียริทไว้ก่อน
              สเตฟอร์ดบอก "....ไปจากที่นี้ก่อนเจมส์และสมุนทั้งสองจะมาถึงโดยเร็วดีกว่าน่ะ" แล้วก็โยนกับระเบิดที่อยู่ในเกราะหลังค่อม ลงพื้นโคลนไป 5 อันด้วยกัน เพื่อวางกับดักสกัดกั้นเจเนไซด์ทีมไม่ให้ติดตามมาได้ในระยะหนึ่ง แล้วทั้งหมดก็พาไทฟูลตรงไปที่ไฮด์เฟเธอร์โดยเร็ว
              "โอ้ว ว้าว หุบเขาแห่งนี้มีนกยักษ์เพียบเลยน่ะ" สเปียริทอุทานเมื่อเห็นนกยักษ์ทั้งห้าชนิดบินลงมาเมื่อมีตัวหนึ่งเห็นไทฟูลมากับพวกพีวิลแล้ว
              "โชคดีแล้วละ ที่พวกเราหยุดธีเดเนียทไว้ก่อน ไม่งั้น หุบเขาสูงนั้นคงจะไม่เหลือนกยักษ์ไว้แน่ๆ" โฟรซ่าบอก
              "กวี้ก กวี้ก กี้กๆๆๆ..." ไทฟูลร้องขึ้นจนพวกนกยักษ์ตนอื่นได้ฟังตาม ไซโคลเนียได้ฟังก็ตกใจมาก
              สเตฟอร์ดถาม "เออ ไทฟูลพยายามจะบอกอะไรกันหรือ"
              ไซโคลเนียบอก "มันพยายามจะบอกให้พวกที่ต้องการจะไปกับพวกฟลาแน็กซ์นั้นให้บินไปจากนี้และไม่ต้องกลับมากันน่ะ เพราะพวกมนุษย์รู้ตำแหน่งที่หลบซ่อนเอาไว้แล้วนะสิ"
              "มันก็จริงอยู่นะ เพราะว่าธีเนเดียทรู้ว่าพวกนกยักษ์มันทำรังอยู่บนเขาแห่งนี้ และการที่เขารอดไปได้นั้น ก็เท่ากับว่าเขาจะต้องพาพวกกลับมาล่านกกันที่ทะเลสาปใกล้ๆนี้แน่ๆน่ะ" พีวิลกล่าว
              คลอเวฟบ่น "รู้งี้น่าจะจับมันไปกระทืบให้จมโคลนเลยมั้ยละ"
              "แล้ว พวกนกยักษ์ที่ไม่ได้ไปกับพวกเราล่ะ" โฟรซ่าถาม
              ไซโคลเนียบอก "ไทฟูลกับพวกที่เหลือรู้ที่หลบซ่อนที่มันรู้เอาไว้ เลยแยกย้ายพากันหนีไปหลบตามที่ต่างๆไว้ และจะไม่กลับมาที่นี้อีกเลยนะสิ"
              "แต่จะหลบซ่อนได้เลยหรือ ในเมื่อ...ทุกหนแห่งบนโลกอาจจะมีคนแย่ๆแบบคุณชายยิงนกนั้นน่ะ" สเปียริทบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "...เราหวังแค่ว่า เวลาที่ผ่านพ้นไปจะย่อมมีคนที่ห่วงแหนธรรมชาติและรักหวงแหนสัตว์ป่าจากเงื้อมมือของคนพาลอย่างธีเดเนียทไว้ ซึ่งนั้นหมายถึงจะต้องมีคนออกมาปกป้องและดูแลพวกนกยักษ์นี้เอาไว้แน่นอน แม้ว่านั้นจะต้องลงเอยกับการที่มันต้องอยู่ในสวนสัตว์เปิดหรือศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าตลอดไปเลยก็ตามน่ะ"
              "กวี้ก กวี้กกก กวี้กๆๆๆ" ไทฟูลร้องขึ้น
              ไซโคลเนียบอก "โอ้ว มันขอบคุณพวกเราที่ต่อสู้เพื่อปกป้องมันกับพวกไว้ และขอบคุณฉันที่ตอบแทนด้วยการสู้กับพวกแอตแลนไทซ์และออกมาปกป้องมันจากเงื้อมมือของธีเดเนียท ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ทำอะไรมากสักหน่อยน่ะ"
              สเตฟอร์ดบอก "ถึงทำได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่างนี้แหละ ถ้าพวกเราเข้าใจในสิ่งที่สัตว์พยายามจะสื่อสารไว้ได้จริง มวลมนุษยชาติก็คงไม่ทารุณสัตว์เพื่อความบันเทิงหรือสนองความกระหายความรุนแรงกันแน่ๆเลยละ"
              "กวี้ก กวี้กๆๆๆๆ กวี้ก กวี้ก กวี้ก" ไทฟูลร้องอีก จนมาสวาร์ทาร์ได้ฟังก็ต้องตกใจมาก "เออ มีอะไรเกิดขึ้นหรือ ไทฟูลบอกอะไรกับนายกันน่ะ" พีวิลถาม
              มาสวาร์ทาร์บอก "เมื่อช่วงเช้ามืด มันเจอกับนักรบครอสตรีมที่เดินเข้าป่ามา และตอนนี้เขายังรอฉันอยู่กันน่ะ"
              "นักรบครอสตรีม อย่าบอกน่ะ ว่าเป็นโครเต้ สไครเดอร์กันน่ะ" สเปียริทกล่าว
              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "ไทฟูลเห็นอดีตแม่ทัพอาทรัสเตอร์กันนะสิ เดิมเขาควรจะอยู่ในป่าใกล้กับหุบเขา แต่ตอนนี้....เขาพึ่งออกจากป่าไปทางทิศอีสานกันน่ะ"
              "ตรูมมมมมม" ฉับพลันก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างจังๆ จนเสียงดังเข้ามาที่หุบเขา ส่งผลให้พวกนกกู่ร้องขึ้น "เสียงระเบิดนั้น การปะทะเกิดขึ้นแล้วละสิ" สเตฟอร์ดกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "เรารีบไปดูกันโดยเร็วดีกว่า"
              "กวี้กๆๆๆๆๆ" ไทฟูลร้องขึ้น ไซโคลเนียบอก "มันบอกว่า ให้พวกเราระวังตัวไว้ด้วย พวกมันจะไม่บินออกไปจนกว่าสภาพการณ์รอบนอกจะปลอดภัยกันน่ะ"
              มาสวาร์ทาร์บอก "แม้ว่านั้นจะเป็นการทิ้งโอกาสบินหนีไปโดยเร็ว จนครองคอร์ดส่งพวกสัตว์ประหลาดมาจัดการในจังหวะนั้น ไทฟูล ฝากที่เหลือด้วยละ"
              "กวี้กๆๆๆๆ" ไทฟูลร้องพร้อมพยักหน้า แล้วพวกมาสวาร์ทาร์ก็รีบวิ่งตรงไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งก็...

    จะเกิดอะไรขึ้นนั้น ต่อพาร์ทสุดท้ายเลย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×