ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manigator Saga Rebellion Soldiers

    ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 15 คมสายฟ้าที่กลับด้าน นางฟ้าผู้หลงทางกับวิหคยักษ์ใหญ่ ขุนพลเฒ่าสิ้นสูญ บทอาทรัสเตอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12
      0
      13 ก.ย. 64

              "เหอะ ปานนี้ หมอนั้นคงจะเละไปแล้วละมั่ง" ครูเซเดนกล่าว เมื่อมันกับพวกระดมด้วยปืนใหญ่ครอสเซียมจากระยะไกลเข้าใส่เป้าหมายจนระเบิดไป
              เทมพาร่าหญิงกล่าว "แต่ ฉันรู้สึกได้ถึงพลังแบบเดียวกับพวกเรา หากแต่ ไม่เพียงสูงส่งกว่า แต่พวกเรายังรู้สึกคุ้นเคยกันด้วยน่ะ"
              "เป็นไปไม่ได้หรอกมั่ง นักรบที่มีพลังครอสเซียมที่สูงส่งกว่าเรานั้น นอกจากเอชมาสวาร์ทาร์ที่เป็นคนทรยศนั้น กับท่านโครเต้กันนั้น ไม่มีใครอื่นกันหรอก อีกอย่าง อดีตท่านแม่ทัพเองก็หายสูญไปแล้ว ไม่น่ามาโผล่ตรงหน้ากันได้หรอก" ครูเซเดนตัวผู้นำกล่าว แต่ต้องตกใจขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของ...
              "แล้วถ้าเกิดว่าข้าอยู่ตรงนี้กันละ"
              "ฟึ่บบบ ครี้งงงงง" กลางกลุ่มควันได้ปรากฎคมดาบครอสเซียมขนาดยาวและใหญ่โผล่มา กรีดกลุ่มหมอกควันให้สลายหายไป ซึ่งผู้ที่ใช้นั้นสวมผ้าคลุมปกปิดตัวไว้ แต่ด้วยแรงระเบิดที่ได้รับ ตอนนี้มันมอดไหม้จนเผยโฉมหน้าของ แมนิเกเตอร์นักรบ ผู้มีเคราสีเขียวพร้อมกับไวเซอร์ด้านหน้าหมวกที่ยาวเท่ากับของเทมพาล่าและมีสันบั้งสีเขียวบนหมวกที่ยาวกว่าของครูเซเดน ดวงตาสีเขียวมรกต ปรากฎให้เห็นกันแล้ว "ไม่จริงงะ นี้ท่าน อดีตแม่ทัพอาทรัสเตอร์ แม่ทัพของกองกำลังครอสตรีมของพวกเรานิน่า" ครูเซเดนกล่าว
              อาทรัสเตอร์บอก "ในเมื่อพวกเจ้ารู้เช่นนี้ ทำไมเจ้ายังทักทายข้าด้วยอาวุธกันละ ข้าไม่ได้สอนให้พวกเจ้าทำอย่างงี้กันเลยนิ"
              "คือว่า พวกเรามานี้ตามคำสั่งของท่านโครเต้ให้มากำจัดเอชมาสวาร์ทาร์ และพวกแมนิเกเตอร์หัวกบฎที่ให้ความร่วมมือกับกลุ่มกบฎสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์ของโคเคสกัน แต่ไม่คิดว่าท่านจะโผล่มาที่นี้กันนะครับ" ครูเซเดนตัวหัวหน้าบอก
              อาทรัสเตอร์กล่าว "อย่างงั้นนะหรือ และพวกเจ้าคงจะขอให้ข้าจัดการกับเอชมาสวาร์ทาร์ที่กำลังจะมาถึงเลยละสิ"
              "โอ้ว สมแล้วที่ท่านเป็นอดีตแม่ทัพของพวกเรา ช่างรู้ล่วงหน้าราวกับตาเห็นเหมือนเมื่อก่อนเลยน่ะ" พาราไดน์บอก
              เทมพาร่าหญิงกล่าว "ท่านอาทรัสเตอร์คะ ได้โปรดเถอะคะ ช่วยพวกเราจัดการกับเอชมาสวาร์ทาร์และพวกให้ด้วยเถอะคะ"
              "หึ...." อาทรัสเตอร์ได้ฟัง แล้วก็... "หวับบบบ ฟ้าวววววววว" สบัดครอสเซียมเกรทซอร์ดฟาดลงกับพื้นจนเกิดคลื่นคมดาบขนาดใหญ่ "ฉั้วะๆๆๆๆๆ" พุ่งผ่านและผ่าร่างพาราไดน์ที่อยู่กองซ้ายขาดสองซีกไป 20 ตนด้วยกัน ครูเซเดนนายกองได้เห็นก็ถึงกับตกใจมาก "ท่านแม่ทัพอาทรัสเตอร์ นี้ท่านทำอะไรกันน่ะ" แล้วก็รีบหยิบดาบใหญ่ออกมาพร้อมกับบุกเข้าปะดาบใส่อดีตแม่ทัพไว้ ซึ่งก็ใช้ดาบใหญ่ต้านเช่นกัน หากแต่ถือด้วยมือขวาเพียงมือเดียว
              "....ถ้าพวกเจ้ากล้าได้แม้กระทั่งยิงใส่ข้าด้วยความจงใจหรือไม่ก็ตาม ก็เท่ากับว่าพวกเจ้ามีเจตนาไม่ดีมาตั้งแต่ต้น คำสอนของข้าที่ให้ไว้นั้น สูญหายไปและถูกแทนที่ด้วยความโอหังเลยละสิ" แล้วก็สบัดดาบเป่าครูเซเดนตัวหัวหน้าไว้
              "ท่านนายกอง ถอยออกมาเถอะคะ พวกเราจะจัดการเอง" เทมพาร่าหญิงกล่าวและพาพวกเข้าระดมโจมตีใส่อาทรัสเตอร์ด้วย "เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สายฟ้าพลังงานครอสเซียมไว้ แต่อาทรัสเตอร์ตั้งดาบใหญ่มาป้องกันและดูดพลังสายฟ้าไว้
              "ข้าสอนให้พวกเจ้าใช้พลังต่อสู้กับคู่ต่อสู้ตัวต่อตัว การรุมโจมตีโดยที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่โง่มากที่สุด" อาทรัสเตอร์กล่าวและสั่งสอนพวกเทมพาร่าด้วย "หวับบบบ ฟ้าวววว ฉั้วะ" การซัดคลื่นคมดาบพลังสายฟ้าเข้าตัดร่างพวกเทมพาร่าขาดครึ่งและ "ตรูมๆๆๆๆๆ" ระเบิดแหลกเหลวไปถึง 10 ตนด้วยกัน จนทำให้พวกนักรบครอสตรีมที่เหลือกรูกันเข้ามา "หึ...." "หวับบบบ ฉั้วะ" พาราไดน์ที่ถือดาบและโลห์จำนวน 8 ตนถูกอาทรัสเตอร์หวดดาบในแนวขวางจนสับคอหรือตัวขาดไปเต็มๆ "แกร้งงง แกร้งงง" พวกครูเซเดนใช้ดาบใหญ่ฟันใส่อาทรัสเตอร์ แต่อดีตแม่ทัพเก่าครอสตรีมตั้งดาบรับไว้และ "เปรี้ยงงง" หวดดาบเข้าจนดาบใหญ่ครอสเซียมของครูเซเดนสองตนแตกกระจุย แล้วก็ "ฉั้วะ" โดนผ่าตัวขาดไปในดาบเดียว แล้วก็ "ฉึกกกก" เสยดาบใหญ่แทงทะลุโลห์ครอสเซียมใหญ่ของครูเซเดนทะลุถึงตัว และวิ่งพร้อมดันส่งไปอัดกับพวกพาราไดน์ทั้งหมด 12 ตน แล้วก็ "ฉั้วะ" ฟาดดาบฟันให้แดดิ้นไปในทันที
              "อ่อนหัด โอหัง เหิมเกริมกันแบบนี้ พวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวังกันเสียจริงๆ" อาทรัสเตอร์บอก

              "หึยยยยย ถอยกลับก่อน ถอยกลับไปตั้งหลักกันก่อน" ครูเซเดนนายกองเห็นสภาพของพวกลูกน้องจึงต้องรีบถอนตัวก่อนที่จะโดนไปมากกว่านี้ ซึ่งอาทรัสเตอร์มองพวกนักรบที่ตนฝึกฝนและสร้างขึ้นด้วยความสมเพชขึ้นมา แต่ก็พูดขึ้นมาว่า
              "ไม่ต้องหลบหรอก ออกมาได้แล้วละ" ซึ่งเขารู้ ว่ามาสวาร์ทาร์กับพวกมาในช่วงที่ตนสู้กับพวกครอสตรีมกันอยู่
              "สุดยอด นั้นคงจะเป็นฝีดาบและพลังของอดีตแม่ทัพของพวกครอสตรีมสิน่ะ" สเปียริทกล่าวอย่างอึ้งๆ
              มาสวาร์ทาร์เดินมาพร้อมกับคุกเข่าโดยหยิบดาบของตนมาตรงหน้าไว้ "ท่านอาทรัสเตอร์ เอชมาสวาร์ทาร์ ขอทำความเคารพต่อท่าน ในฐานะนักรบคนหนึ่งของครอสตรีม แม้ว่าฐานะของข้าในตอนนี้ จะไม่คู่ควรแก่การให้ความเคารพก็ตามนะครับ"
              "ลุกขึ้นได้แล้วละ ศิษย์รัก แค่ข้าได้เห็นเจ้าแสดงความเคารพต่อข้า ข้าก็ดีใจมากแล้วละ" อาทรัลเตอร์บอก มาสวาร์ทาร์ลุกขึ้นยืนไว้ แล้วก็หันมายังพวกพีวิล "และต้องขอบใจพวกเธอที่เป็นกำลังให้กับมาสวาร์ทาร์ด้วย แม้ว่านั้นจะเป็นการที่พวกเธอทำให้เขากลายเป็นคนทรยศต่อพวกครอสตรีมไปแล้ว ซึ่งในตอนนี้ พวกเขาทรยศต่อแนวทางของข้ากันไปแล้วน่ะ"
              พีวิลกล่าว "นี้แสดงว่า ท่านก็คงจะทราบเรื่องของพวกเรากันแล้วสิครับ"
              "วีรกรรมคำเล่าลือของพวกเจ้านั้นน่ะ มีหรือที่ข้าจะไม่ทราบ แม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นแม่ทัพของครอสตรีมไปแล้วก็ตามน่ะ" อาทรัสเตอร์บอก
              มาสวาร์ทาร์เลยชักดาบมา "ท่านอาทรัสเตอร์ครับ ข้าพเจ้าทำให้ดาบที่ท่านมอบให้นั้น...เป็นอย่างงี้ไปแล้วละครับ" เพื่อให้อดีตแม่ทัพมองดู พร้อมกับพูดและถอนใจว่า
               "เจ้าใช้มันสู้มาโดยตลอดเลยสิน่ะ แม้ว่าเจ้าในตอนนี้ จะมีเวลาอยู่ได้ไม่ถึง 8 วันเลยก็ตามน่ะ"
              "นี้ท่านรู้แม้ว่าพวกเรายังไม่ได้เล่าให้ฟังเลยหรือครับ" พีวิลกล่าว
              อาทรัสเตอร์พยักหน้า "อย่าลืมสิ ว่าก่อนหน้าที่แพทรีออทจะเป็นแม่ทัพของอีเนอไมนด์ ข้าเป็นคนหนึ่งที่ประเมินขีดความสามารถของเขาด้วย และมาสวาร์ทาร์ คงจะเล่าเรื่องของข้าให้เจ้าฟังมาก่อนแล้วสิน่ะ ว่าข้าเก่งกาจมากแค่ไหนกันน่ะ"
              "แต่ในเมื่อท่านเก่งกาจถึงขั้นที่สามารถสู้กับพวกครอสตรีมแบบนี้ ได้โปรดเถอะครับ ช่วยซ่อมดาบของมาสวาร์ทาร์ หรือไม่ก็ช่วยพวกเรา..." สเตฟอร์ดบอก
              อาทรัสเตอร์กล่าว "....สิ่งที่เจ้าร้องขอถึงสองอย่างนั้น ข้าทำไม่ได้หรอกน่ะ ต่อให้พวกเจ้าอ้อนวอนหรือร้องขอกันเลยก็ตามน่ะ"
              "เฮ้ ดีๆหน่อยสิ ลุง พวกเราแค่อยากจะให้ลุงช่วยเองน่า" คลอเวฟกล่าว
              อาทรัสเตอร์บอก "ถึงฉันช่วยพวกเธอได้จริง แต่.....ข้าคงจะช่วยพวกเจ้าเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ"
              "ครั้งเดียวนะหรือ....หมายความว่ายังไงกันน่ะ ช่วยอธิบายให้เราได้มั้ยละครับ" พีวิลถาม
              อาทรัสเตอร์จำต้องตอบไปว่า "....ความจริงแล้ว โอเวอร์เดสมอบพลังครอสเซียมให้กับข้า ซึ่งเป็นผู้สืบสายเลือดกองทัพนักรบครูเสดเมื่อยุคโบราณคนสุดท้าย โดยในตอนนั้น อายุขัยของข้าใกล้จะหมดลงอยู่แล้ว แม้จะมีพลังครอสเซียมช่วยมอบพลังที่แข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งกว่าวัยหนุ่มตั้งหลายสิบหลายร้อยเท่าเลยก็ตาม แต่พลังนั้นกลับจ่ายแพงกว่าที่คิด 50 ศึกที่ข้าสู้รบร่วมกับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่ข้าสร้างขึ้นมานั้น ได้ทำให้อายุขัยตอนเป็นแมนิเกเตอร์ที่ควรจะอยู่ได้ราว 150 ปี เหลือเพียง 20-30 ปีกันเท่านั้น ซึ่งถ้าข้ายังอยู่ต่อไป ข้าอาจจะต้องตายเพราะปราศจากพลังครอสเซียมไว้แน่นอน"
              "แสดงว่า การที่คุณสู้กับพวกนั้น อายุขัยของคุณก็สั้นลงละสิ" สเตฟอร์ดบอก
              อาทรัสเตอร์พยักหน้า "....เพราะเหตุนี้แหละ ฉันจำต้องเลือกใครสักคนมาเป็นลูกศิษย์ ผู้ซึ่งรับเอาวิชาและองค์ความรู้ที่ข้าใช้สร้างและสั่งการกองกำลังครอสเซี่ยม สานต่อในฐานะแม่ทัพใหญ่คนต่อไปแทนข้า ซึ่งเจ้ากับโครเต้ คือสองยอดนักรบที่ข้าเลือกเพื่อหวังจะให้คนใดคนหนึ่ง เป็นผู้สืบทอดคนต่อไป อย่างน้อย ข้าจะได้หมดห่วงและสามารถจากไปโดยสงบ" แล้วก็มองดูดาบใหญ่ของตนขึ้นมา "แต่ ถ้าเจ้าไม่ถอนตัวและมอบโอกาสให้กับโครเต้ไปซะก่อน ครอสตรีมคงไม่เหลวแหลกจนถึงบัดนี้กันน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งเพราะว่า ผมยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น เนื่องจากผมพยายามที่จะเปลี่ยนความคิดของพวกโอเวอร์เดสจากภายใน ซึ่งก็ไม่สำเร็จอย่างที่คาดไว้ อีกอย่าง การที่โครเต้รับภาระอันหนักอึ้งนั้นจะทำให้เขาต้องนึกถึงคนอื่นมากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องนึกถึงเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องความแค้นที่มีต่อแทแรนเซียกันนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก
              อาทรัสเตอร์บอก "แต่สุดท้าย ความคิดของเจ้านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้โครเต้เปลี่ยนครอสตรีมที่ควรจะเป็นกองกำลังอันทรงเกียรติยศและสู้อย่างยุติธรรมต่อฝ่ายตรงกันข้ามทุกฝ่าย ให้กลายเป็นกองรบแห่งความแค้นที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างที่ข้าได้เห็นกันมานี้แหละ" และกล่าวต่อไปอีกว่า "อย่างน้อย การที่เจ้าทรยศต่อท่านโอเวอร์เดสและพวกครอสตรีม ก็คือทางเลือกที่ถูกทางแล้วละ เพราะว่าหากเจ้าพลอยคล้อยตามหรือถูกพวกโครเต้ควบคุมไว้ ครอสตรีมจะไม่มีใครต้านทานหรือหยุดยั้งไปได้ เพราะพวกเขาล้วนแล้วเป็นกองกำลังที่เก่งกาจและทรงพลัง จากการที่ข้าได้สร้างขึ้นมาเองกันน่ะ"
              "ส่วนหนึ่งที่ท่านปฏิเสธความช่วยเหลือจากพวกเรา เพราะว่าท่านคงเสียใจที่ต้องสังหารผู้ที่เคยติดตามและรับใช้ท่านมาก่อนสิครับ" มาสวาร์ทาร์บอก อาทรัสเตอร์พยักหน้า
              สเปียริทกล่าว "ในเมื่อท่านไม่สามารถให้ความช่วยเหลือ แล้วท่านมาที่หุบเขานกยักษ์กันทำไม"
              "ข้าขอถามเลยนะ ฝีมือและพลังของพวกเจ้า สามารถต่อกรกับพวกครอสตรีม พวกแอตแลนไทซ์ ไปจนถึง สู้กับโอเวอร์เดสกันได้หรือเปล่าละ" อาทรัสเตอร์กล่าว
              คลอเวฟตอบ "ของมันแน่อยู่แล้วละ พวกเราพร้อมที่จะสู้และจะปราบพวกมันลงให้ลุงรู้และเห็นไปเลยละสิ ไม่เห็นต้องถามกันเลยน่ะ"
              "หึๆๆๆๆๆ คำพูดของเจ้าเหมือนจะโอ้อวดกันเกินไปหน่อยนะ กราดิเอเตอร์มารีนคลอเวฟ เพราะว่าแมนิเกเตอร์ที่ใช้คำพูดแบบนั้น ล้วนพ่ายแพ้ยับเยิ่นด้วยกันทั้งสิ้นนี้แหละ" อาทรัลเตอร์หัวเราะก่อนพูดคำตอบออกมา
              พีวิลกล่าว "นี้ท่านจะบอกว่า ถึงตายยังไง พวกเราไม่มีทางเอาชนะกันนะหรือ นั้นไม่ได้ล้อกันเล่นใช่มั้ยละ"
              "ข้าล้อเล่นเป็นซะที่ไหนกันละ อดีตร้อยเอกปีเตอร์ แอนเดอร์สัน ผู้กำชัยเหนือแพทรีออทและพวกอีเนอไมนด์ ที่ข้าพูดมานั้นคือความจริง...และมันจะยิ่งเป็นจริงยิ่งขึ้น หากพวกเจ้าในสภาพนี้ยังดันทุรังสู้ต่อ รบกี่ครั้ง ก็แพ้ไปซะทุกครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่พวกเจ้าอย่างเดียว ข้าเกรงว่าโคเคสและกลุ่มสหพันธมิตรจะมาได้เท่านี้แล้วละ" อาทรัสเตอร์บอกอย่างจริงจัง
              คลอเวฟได้ฟังก็ของขึ้นทันที "จะบอกว่า ที่เราสู้ไปนั้นสูญเปล่านะหรือ เหอะ นั้นคงจะเป็นคำพูดของตาแก่หมดสภาพแล้วละสิ มิน่าละ ถึงได้ถอนตัวจากตำแหน่งแล้วยกให้โครเต้นำกองกำลังไปทำเรื่องสถุลแบบนี้ ไอ้ที่ว่ามามันไม่เชื่อกันหรอก"
              "ข้าไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมเจ้าถึงถูกพวกแอตแลนไทซ์เมินและไม่มีใครหน้าในกองกำลังยอมรับใจตัวเจ้า เพราะนิสัยของเจ้าเป็นอย่างงี้ ซึ่งข้าบอกตรงๆ ว่าถ้าขนาดเจ้าแก้ไม่ได้หรือไม่แก้ไขเลย ก็อย่าหวังว่าจะให้คนอื่นมาช่วยแก้ให้กันน่ะ" อาทรัสเตอร์บอก
              พีวิลบอก "คุณบอกว่า ต่อให้พวกเราสู้แค่ไหนก็ไม่มีทางชนะใช่มั้ย....ลำพังคำพูดอย่างเดียว...." แล้วก็แบมือปล่อยเพลิงอีเนลเซียมออกมาและกำหมัดเป่าเพลิงให้หายไป ".....ไม่สู้พิสูจน์ให้รู้กันไปข้างหนึ่งจะดีกว่า"
              "แจ่ม พีวิล ในเมื่อนายต้องการอย่างงั้น กูก็ร่วมด้วยวะ" คลอเวฟกล่าวและหยิบขวานออกมา
              มาสวาร์ทาร์เห็นดังนั้นเลยรีบทัดทานไปว่า "ฉันว่า นายสองคนอย่าพยายามจะดีกว่า ต่อให้...."
              "ไม่ต้อง มาสวาร์ทาร์ ให้พวกเขาได้รู้ว่าตัวเองกำลังทำพลาดอย่างใหญ่หลวงกันน่ะ" อาทรัสเตอร์ทำให้ดาบใหญ่หายไป และตั้งท่าพร้อมใช้มือเปล่าไว้
              พีวิลบอก "งั้นก็ ช่วยชี้แนะด้วยแล้วกัน ไปเถอะ คลอเวฟ" คลอเวฟพยักหน้าแล้วทั้งคู่ก็บุกเข้าใส่

              "ว้ากกกกกกก" พีวิลเสยหมัดชกเข้าใส่อาทรัลเตอร์ แต่ก็... "ปึกกกก" อดีตแม่ทัพครอสตรีมใช้แค่นิ้วเดียวต้านแรงหมัดที่อัดพลังเต็มที่ไว้ "เฮ้ยยย ย้ากกกกก" คลอเวฟที่วิ่งตามหลังมาเลยเหยียดขาซ้ายถีบใส่ แต่... "ตึกกก" อาทรัลเตอร์ใช้มะเหงกสยบเอาไว้และ "พึ่บบบ ตรึงงง" ใช้แรงแขนเป่าทั้งพีวิลและคลอเวฟกระเด็นไป "ฮึยยย" จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือฟาดอัดเข้าที่ท้องของพีวิลจนปลิวและล้มกระเด็นกระดอนไป ส่วนคลอเวฟนั้น... "หวืบบบบ เปรี้ยงงง" โดนอาทรัลเตอร์เตะปาดหน้าเข้าเต็มๆจนล้มบิดเกรียวไปเต็มๆ "ไม่จริงงะ แรงเตะที่เหมือนเบา ทำไมมันแรงเหมือนเอาเฮฟโวลมาชกซะอย่างงั้นละ" คลอเวฟกล่าว
              พีวิลบอก "นี้คงไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้แค่ชำนาญเพลงอาวุธอย่างเดียวนะหรือ"
              "ท่านอาทรัลเตอร์ ชำนาญทุกศาสตร์การต่อสู้ทุกอย่าง ซึ่งนั้นหมายถึง วิชาต่อสู้มือเปล่ากันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก
              อาทรัสเตอร์บอก "นี้แค่ 10 เปอร์เซนต์เองน่ะ ยังทำให้ลุกไม่ขึ้นกันขนาดนี้ ถ้าฉันใช้พลังครึ่งเดียวหรือเต็มที่ขึ้นมา พวกเธอก็คงไม่รอดเหมือนเมื่อกี้นี้กันหรอกน่ะ เพราะนี้แค่การสั่งสอนเท่านั้นเอง"
              "เป็นไปไม่ได้กันละน่าที่พวกเราจะไม่ชนะกันน่ะ ทั้งๆที่พวกเรานั้น..." สเปียริทบอก
              อาทรัลเตอร์กล่าว "มีทั้งพลังที่ทรงอำนาจ มีอาวุธและยุทโธปกรณ์อันทันสมัย และมีกำลังคนมากอย่างงั้นใช่มั้ย หึ แม่หนู แม่หนูขาดทักษะดาบเบื้องต้น ในการใช้ดาบมือเดียว แต่ข้ามขั้นไปใช้ดาบสองมือ แถมใช้เป็นดาบสองปลาย เพียงเพราะว่าได้ฝึกหรือเรียนรู้ทักษะอาวุธยาวมาก็น่าจะเกินพอ พร้อมกับฝึกการใช้พลังงานจากในตัวไปด้วยกัน เพราะเจ้าไม่มีอาจารย์ที่ไหนสอนวิชาให้ เลยทำให้เจ้า ไม่รู้วิธีต่อสู้ด้วยมือและเท้ามาแต่แรกไปด้วย เวลาที่เจ้าไม่มีอาวุธ หรืออาวุธหลุดมือ เจ้ามักจะ รีบใช้อาวุธของฝ่ายตรงข้ามที่หล่นพื้นให้เกิดประโยชน์และเข้ากับทักษะอาวุธที่เจ้ามี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเพื่อปิดจุดอ่อนที่ว่านั้นเลยสิน่ะ"
              "นี้ท่านรู้ถึงขั้นนั้นเลยหรือ" สเปียริทบอกอย่างอึ้งๆเพราะอดีตแม่ทัพครอสตรีมพูดตรงตามที่เกิดขึ้นทุกประการ
              อาทรัสเตอร์บอก "ไม่มีนักรบคนไหน ที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกเรื่องกันหรอกน่ะ เพราะถึงจะถนัดไปคนละด้าน แต่สุดท้ายก็ต้องเจอสถานการณ์ที่ทักษะที่มีอยู่ไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่ได้ขึ้นมา หรือไม่คิดแม้จะใช้ทักษะอื่นที่ควรจะมีประโยชน์แต่ไม่ได้ใช้เลยสักครั้งนั้น ซึ่งนั้นหมายถึงทักษะด้านอาวุธไปด้วย" และหันมายังสเตฟอร์ด โฟรซ่า ไซโครเนีย และพลัสเชอริท "คนตัวใหญ่นั้นเน้นใช้พละกำลังมากจนลืมการป้องกันที่ดี แม่หนูผมปรกก็เน้นโจมตีระยะไกลและจู่โจมอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องการถูกโจมตีได้ก่อน ส่วนแม่หนูอีกคนก็พึ่งพาการบินและยุทโธปกรณ์มากจนเกินควร ส่วนเจ้าเองก็ด้วยน่ะ อดีตมือสังหารของขุนพลครองคอร์ด เพลาๆเรื่องการอ้างอิงข้อมูลตัวเลขกันด้วย เพราะเกือบทุกสถานการณ์ ความเป็นไปได้อาจจะกลายเป็นไปไม่ได้ และย่อมมีเรื่องพลิกผันเกิดขึ้นได้เสมอเลยน่ะ"
              "แม้กระทั่งผมก็ด้วยนะหรือ" พีวิลกล่าว
              อาทรัสเตอร์บอก "พีวิล เจ้าวู่ว่ามมากจนเกินไป และด้วยความที่เจ้าคิดว่าเจ้าจะต้องว่องไวกว่าข้า จนถึงขั้นที่การออกอาวุธของเจ้านั้นจะต้องโดน ทั้งๆที่เจ้าควรจะคิดเผื่อไปด้วยว่า หมัดที่เจ้าจะชกใส่ไปนั้นมันต้องไม่โดนแน่ๆ อ้อ จริงสิ จนบัดนี้ เจ้ายังไม่ได้ใช้แทรนซิ่ง ทั้งๆที่เจ้าปลดล็อกกันด้วยนิ แสดงว่าเจ้ายังหวาดกลัวที่จะใช้มันเลยสิน่ะ"
              "นี้ท่านรู้ว่าผมมีความสามารถทรานซิ่งเลยละสิครับ" พีวิลบอก
              อาทรัสเตอร์พยักหน้า "ข้าเห็นออร่าของเจ้าสว่างจ้า ทั้งๆที่เจ้าควรจะใช้มันอยู่ แต่เจ้ายังหวั่นเกรงต่อพลังนั้น เพราะกลัวว่าพลังนั้นจะทำร้ายเจ้าใช่มั้ย เจ้าน่ะหวั่นเกรงได้ แต่อย่าถึงขั้นที่ไม่ใช้เลย และอย่าคิดที่จะใช้เป็นมาตราการสุดท้ายด้วย ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเจ้าซึ่งแข็งแกร่งกว่าหลายสิบหลายเท่า อาจจะไม่เปิดช่องว่างให้เจ้าทำเช่นนั้นได้แน่ๆ เพราะนั้นหมายถึงเจ้าจะต้องตายก่อน" และบอกไปว่า "จิตใจของเจ้าอาจจะดูกล้าแกร่ง แต่ลึกๆเจ้ายังอ่อนแออยู่ ดังนั้น ถ้าไม่ทำให้จิตใจของเจ้ายอมรับในพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า ถึงขั้นที่สามารถควบคุมเอาไว้ได้ละก็ เจ้าจะชนะใครไม่ได้เลย"
              "แล้วถ้าเป็นผมล่ะ จะให้แก้ยังไงกันละ" คลอเวฟย้อนถาม
              อาทรัสเตอร์ตอบไปว่า "แม้เจ้าจะชำนาญเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธหนักตามที่เจ้าเรียนรู้มา แต่เจ้าขาดการฝึกฝนขัดเกลาให้มันดีขึ้น การที่เจ้าไม่พัฒนาวิชาต่อสู้ของเจ้าเองนั้น บวกกับความลำพองที่ว่าเจ้าแข็งแกร่งตามที่เจ้าเป็นแอตแลนไทซ์นั้น ยิ่งทำให้เจ้าเหมือนอยู่กับที่ ต่อให้มีพลังไฮโดรฟอสที่มากมายแค่ไหน เจ้าก็ยังแพ้อยู่ดี ถ้าเจ้ายังไม่ปรับปรุงตัวหรือพัฒนาวิชาของเจ้าให้ก้าวหน้ากว่าฝ่ายตรงข้ามด้วย" แล้วก็จับคลอเวฟลุกขึ้น "ที่สำคัญ ถ้าเจ้าตัดเรื่องส่วนตัวนั้นลง และต่อสู้โดยไม่ห่วงถึงเรื่องนั้นโดยสมบูรณ์แล้วละก็ เจ้าก็จะเป็นยอดนักรบที่แข็งแกร่งอย่างที่เจ้าหวัง โดยไม่ต้องเสียใจในภายหลังนี้แหละ"
              "ลุง เรื่องให้ไปฝึกน่ะผมทำได้อยู่แล้ว แต่ให้แก้นิสัยนิ คงยาก เพราะนิสัยของผมมันแก้ไม่ได้น่ะ" คลอเวฟบอก
              อาทรัสเตอร์ส่ายหน้าพร้อมกับบอกไปว่า "แปลว่าเจ้ายังคงความเป็นตัวของตัวเอง และยังไม่ตัดเรื่องส่วนตัวนั้นไปสิน่ะ ข้าหวังแค่อย่างเดียวก็คือ เจ้าต้องยอมรับความเจ็บปวดจากการกระทำของเจ้า ไม่ว่ามันจะเป็นเหตุสุดวิสัยหรือว่าเจ้าลงมือด้วยตัวเองกันน่ะ หาไม่แล้ว เจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่เหลือกันน่ะ" คลอเวฟได้ฟังก็เกิดความหวั่นไหว แม้สิ่งที่อาทรัลเตอร์ว่ามา เขาพยายามจะคิดว่าไม่มีทางเป็นจริงก็ตาม
              "แล้วไม่มีทางไหนที่ช่วยให้พวกเราสู้กับพวกครอสตรีม แอตแลนไทซ์ แล้วก็พวกของโอเวอร์เดสลงได้เลยหรือ" มาสวาร์ทาร์ถาม
              อาทรัสเตอร์กล่าว "ข้าคิดว่าเจ้ามีปัญญามากพอแล้วน่ะ มาสวาร์ทาร์" แล้วก็ชักดาบใหญ่ออกมา "ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าเผยทางแก้ให้เจ้าละก็ ชักดาบของเจ้าออกมาสู้กับข้าซะ"
              "แต่ แต่ว่า...." มาสวาร์ทาร์ยังลังเลอยู่
              อาทรัสเตอร์บอก "ตอนนี้ข้าไม่ใช่แม่ทัพครอสตรีมอีกต่อไปแล้วนะ เอชมาสวาร์ทาร์ ข้าเป็นแค่แมนิเกเตอร์ชายแก่ที่มีเวลาบนโลกสั้นกว่าเจ้าเป็นอยู่ อีกอย่าง ข้าไม่ได้ใช้ราวนด์ดูอัลมาดวลกับเจ้าแล้ว ดังนั้น เจ้าในสภาพนี้จะต้องดวลกับข้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย หาไม่แล้ว ข้าจะมองว่าเจ้าไม่ใช่ศิษย์ข้า และข้าจะกำจัดพรรคพวกของเจ้าลงทั้งหมดด้วย ถ้าเจ้าไม่ชักดาบออกมากันด้วยน่ะ"
              "ในเมื่อท่านยืนกรานมาเช่นนั้นแล้ว...." มาสวาร์ทาร์ได้ฟังก็จนใจ เพราะอาทรัสเตอร์มองเขาด้วยสายตาที่แน่วแน่และจริงจัง ทำให้เขาตัดสินใจชักดาบออกมา "....งั้นก็เตรียมตัวไว้เลย อาทรัลเตอร์!!!" และจับดาบทั้งสองมือไว้
              อาทรัสเตอร์พยักหน้าพร้อมกับปิดเฟสการ์ดไว้ "ว้ากกกก" "ย้ากกกกก" ทั้งสองเลยฟาดดาบใส่กันจน "แกร้งงงง" "เปรี้ยงงง" พลังครอสเซียมที่เคลือบดาบทั้งสองปะทะกันจนระเบิดเป็นวงกว้างไว้ มาสวาร์ทาร์ที่โดนต้านก็ถอยครูดกับพื้นอย่างจังๆ อาทรัสเตอร์เลยบุกเข้าใส่ด้วยดาบครอสเซียมเกรทซอร์ดและ "ว้ากกกกกกก" หวดดาบเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ ซึ่งจ้วงแทงเพื่อสกัดกั้นการหวดดาบใหญ่เอาไว้สองที แต่ดอกที่สามนั้น... "แกร้งงงงง หวับบ โครมมม" อาทรัสเตอร์เสยดาบอัดใส่มาสวาร์ทาร์ที่ตั้งดาบป้องกันจนถูกดันให้เซล้มไปด้านข้าง พร้อมกับดาบมาสวาร์ทาร์เบลดที่ร้าวจนคมดาบบิ่นไปแล้ว แต่มาสวาร์ทาร์ยังใช้ดาบอยู่ "จิตใจของเจ้ายังพะวงกับดาบของเจ้าเองแบบนี้ ถ้าข่มมันไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีทางชนะโครเต้ไปได้หรอก" อาทรัสเตอร์หวดดาบใหญ่ตวัดเป็นโค้งสายรุ้ง 180 องศาจากด้านหลังไปด้านหน้าเข้าใส่มาสวาร์ทาร์ ที่รีบโดดหลบแต่ก็โดนคลื่นพลังจากแรงฟาดดาบลงพื้นเป่ากระเด็นไป
              "ท่านในตอนนี้ คงคิดที่จะสู้ตายกันอย่างงั้นละสิ" มาสวาร์ทาร์กล่าวและบุกเข้าโจมตีด้วยเพลงดาบความเร็วสูงใส่อาทรัสเตอร์ แต่อาทรัสเตอร์ทิ้มดาบต้านเอาไว้ได้พร้อมกับ "กรี้งงงง หวับบบ โครมมม" หวดดาบดันมาสวาร์ทาร์ให้ล้มไป
              "ถ้าเจ้าคิดจะหาช่องว่างจากข้าละก็ อย่าได้แม้แต่จะคิดดีกว่า ต่อให้เจ้ามีดาบที่ใหม่เอี้ยม แต่หากเจ้าเอาแต่คิดเพียงอย่างเดียวและไม่รีบลงมือทำแล้วละก็ โครเต้และพวกก็จะพิชิตเจ้าลงได้อย่างแน่นอน" แล้วก็ใช้อีกมือจับด้ามถือจนคมดาบเรืองแสงขึ้นมาพร้อมกับ "หวับ หวับ หวับ" หวดดาบไปสามทีจนเกิดเรซเซอร์เอดจ์อันใหญ่พุ่งเข้ามา "หวืมมมมม" มาสวาร์ทาร์จำต้องฉาบดาบให้พลังโพยพุ่งและ "หวับบบ เปรี้ยงงง" ฟาดดาบฟันทำลายคลื่นคมดาบใหญ่อันแรก "หวับบบ ป้ากกก" จากนั้นก็ฟันทำลายคลื่นอันที่สองด้วยการฟันในแนวขวาง แล้วก็ "เครเซนท์ เรซเซอร์" ฟาดปล่อยคลื่นพลังต้านคลื่นคมดาบใหญ่จนแตกกระจายไป แม้ว่า "เปรี้ยะ" มาสวาร์ทาร์เบลดจะร้าวเพราะการใช้งานไปสองครั้งก็ตาม "หึ บอกแล้วไงละ ว่าหยุดลังเลและข่มมันเอาไว้ นี้เป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายของข้ากันน่ะ"
              "ข้าไม่มีอะไรจะแก้ตัวทั้งนั้น แม้ข้าจะรู้สภาพของข้าเองก็ตาม" มาสวาร์ทาร์บอก
              อาทรัสเตอร์กล่าว "เจ้ายอมรับว่าตัวเองมีสภาพเช่นไรนั้น มันก็ดีอยู่หรอก แต่เจ้าจะยอมรับว่าเจ้าไม่มีทางสู้ข้าได้อย่างงั้นนิ ถ้าเจ้าคิดเช่นนี้ ก็ไม่มีทางชนะกันหรอก โดยเฉพาะสมุนของโครเต้ที่ตอนนี้ ทำได้ทุกอย่างเพื่อชัยชนะโดยไม่สนเลยว่า วิธีการนั้นมันจะเป็นวิธีการของคนขี้ขลาดและไร้ศักดิ์ศรีกันก็ตาม แม้กระทั่งละทิ้งเจตจำนงเดิมก่อนที่จะมาเป็นแมนิเกเตอร์ ก่อนที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา และก่อนที่จะเป็นศิษย์ที่ข้าไว้วางใจให้เจ้าเป็นผู้นำแทนข้ากันด้วยนะหรือ"
              "!!!!" มาสวาร์ทาร์ได้ฟังก็อึ้งไปไม่น้อย และคิดในใจขึ้น "จริงสิ ฉันยังมีสัญญาที่ให้ไว้อยู่นิน่า ซึ่งฉันจะละทิ้งมันไปได้ไง ในเมื่อฉันไม่ได้ทำให้มันเป็นจริงเลยสักอย่าง หากแต่ว่า...." และมองดูดาบของตนที่ตอนนี้มีสภาพที่ร้าวอย่างมากแล้ว เช่นเดียวกับมองดูมือของตนเลยนึกบางอย่างออก "ในเมื่อเป็นแบบนี้ คงต้องเสี่ยงกันสักหน่อยแล้ว" พร้อมกับตั้งดาบขึ้นมาตรงหน้าไว้ และ... "ว้ากกกกก" วิ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วโดยที่ตั้งดาบในแนวเฉียงปลายดาบหันลงพื้นไว้ "หือออ" อาทรัสเตอร์รีบตั้งดาบใหญ่ขึ้นแต่ "หวับบบบ เปรี้ยะ" มาสวาร์ทาร์ตวัดดาบอย่างรวดเร็วจนคมดาบใหญ่มีรอยกรีดปรากฎขึ้น ครั้นอาทรัสเตอร์จะหวดดาบใส่ "หวับๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์ก็ตวัดดาบไปสี่ทีจน "ฉึบบบบ ฉึบบบบบ ฉึบบบ ฉึบบบบ" ส่วนหัวไหล่ถูกผ่าทั้งสองข้าง ส่วนบั้งบนหมวกและไวเซอร์ถูกผ่าขาดไป เช่นเดียวกับมีรอยแผลขึ้นที่แก้มซ้ายไว้
              "สุดท้ายเจ้าก็เอาจริงแล้วสิน่ะ ศิษย์ของข้า ถ้าเช่นนั้น เจ้ารับดาบนี้ได้มั้ย" แล้วก็อัดพลังจนดาบเกรทซอร์ดเรืองแสงและมีออร่าโพยพุ่งออกมา
              "ท่านคงคิดเหมือนกับที่ข้าคิดไว้สิน่ะ" มาสวาร์ทาร์กล่าว และอัดพลังขึ้นที่ดาบจนดาบเปล่งแสงขึ้นมาแม้จะไม่แรงกว่าที่อาทรัสเตอร์ใช้ก็ตาม แล้วก็... "ว้ากกกกกกก" "ย้ากกกกก" อาทรัสเตอร์และมาสวาร์ทาร์พุ่งเข้าใส่พร้อมกับ "แกร้งงง แกร้งงง เกร้งงงง กร้างงง เกร้งงงง" ปะดาบต่างขนาดเข้าใส่อย่างหนักหน่วง มาสวาร์ทาร์ที่แม้จะมีดาบที่ร้าวและเสียหายมานั้นเลือกที่จะใช้การรุกรับการโจมตีของอาทรัลเตอร์ที่พร้อมด้วยอาวุธ พลังและจิตใจที่มั่นคง "ฮึยยย ย้ากกกก" อาทรัลเตอร์พุ่งตวัดดาบเสยในแนวขวางปะทะกับดาบของมาสวาร์ทาร์ที่ตั้งดาบต้านเอาไว้ แม้จะทำให้ดาบต้องร้าวถึงขั้นแตกกระจุยไปเลยก็ตาม "ย้ากกกกกก" มาสวาร์ทาร์กู่ร้องพร้อมกับอัดพลังขึ้นที่ดาบจนโพยพุ่ง จนสยบดาบใหญ่ที่ฟาดเข้าใส่อยู่ให้หยุดชะงักลง "ฟึ่บบบบ" จากนั้นก็ขยับเท้าซ้ายไปข้างหลัง และจับดาบให้ถอยออกมาเพื่อที่จะ... "ฟ้าววว ครี้งงงง" ตวัดดาบเสยขึ้นอย่างรวดเร็ว จน "แกร็กกก เปรี้ยงงงง" ดาบเกรทซอร์ดของอาทรัสเตอร์ร้าวขึ้นมา จนอดีตแม่ทัพครอสตรีมเซผงะไปตามแรงที่ถูกฟันมา มาสวาร์ทาร์ที่ตวัดดาบเสยขึ้นมานั้น ก็ชูดาบขึ้นเหนือหัวและ "ฟ้าววววว กึ่กกก" ฟาดลงมาตรงด้านหน้าหัวของอาทรัลเตอร์อย่างจังๆ
              "ทำไมหยุดมือกันละ มาสวาร์ทาร์ ถ้าเจ้าทำเช่นนั้นกับโครเต้และพวกแล้วละก็ เจ้าจะต้องพ่ายแพ้กันเลยน่ะ" อาทรัสเตอร์บอก
              "ข้ารู้อยู่แล้วละ และรู้ความหมายของการเป็นนักรบครอสตรีมกันด้วย" มาสวาร์ทาร์กล่าว "ท่านเป็นคนสร้างข้าและพวกเราให้เป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด การฝึกฝนและการสอนสั่งของท่าน เปรียบเหมือนช่างตีเหล็ก ที่ต้องตีดาบและอาวุธให้คมและแข็งแกร่งทนทาน เนื้อดาบและอาวุธต้องออกมาให้ดีพอที่จะใช้งาน จึงไม่แปลกอะไรเลย ที่กองรบครอสตรีมจึงได้สมญาว่าเป็นดาบหอกและโลห์ปกป้องโอเวอร์เดสกันน่ะ"
              อาทรัสเตอร์กล่าว "นั้นแหละคือคำสอนของข้ากันละ แล้วใยเจ้าหยุดมือกันเสียเลยละ"
              "แต่อีกนัยหนึ่งนั้น อาวุธที่แท้จริง ต้องตีขึ้นด้วยหัวใจกันด้วย เพราะอาวุธที่ถูกสร้างมานั้น ล้วนเหมือนเหรียญสองด้าน กล่าวคือ มันใช้สำหรับปกป้องคนอื่นได้ก็ย่อมใช้ทำลายชีวิตผู้อื่นได้เช่นกัน ถ้าดาบถูกตีโดยปราศจากหัวใจอันดีงาม หรือแฝงเร้นด้วยจิตใจอันเลวร้ายเข้าไปด้วยละก็ ดาบและอาวุธนั้น ก็เป็นได้แค่เครื่องมือฆ่าคนอย่างเดียว เหมือนกับที่โครเต้ทำอยู่ในเวลานี้แหละ" มาสวาร์ทาร์บอก "และเจตจำนงของผมก็คือ การเป็นนักรบที่อุทิศตัวให้กับการปกป้องผู้อ่อนแอ ช่วยเหลือพรรคพวกในยามที่ยากลำบาก ร่วมรบด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมและมั่นคง ต่อให้สภาพร่างในตอนนี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ แต่หัวใจและจิตใจนั้น ไม่ควรจะแปรเปลี่ยนหรือบิดเบี้ยวตามไปด้วย บวกกับว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นท่านด้วยแล้ว ข้าไม่มีวันเป็นศิษย์อกตัญญูเหมือนกับพวกโครเต้ไปได้หรอก"     
              อาทรัสเตอร์หัวเราะเบาๆ และยิ้มขึ้น พร้อมกับพูดว่า "ข้าคิดไม่ผิดจริงๆ ที่เจ้ายังคงความซือสัตย์ที่มีต่อตนเองและต่อผู้อื่นเหมือนเช่นเคย สมแล้ว ที่เจ้าเป็นดาบดีที่ยังหลงเหลืออยู่ และเป็นดาบเพียงหนึ่งเดียว ที่โคเคสสามารถใช้พิชิตโอเวอร์เดส รวมถึง หยุดยั้งจักรวรรดิ์อวกาศลงได้อย่างแน่นอน เฮ้ออ ไม่เสียที ที่ข้ารอคอยเจ้าจนถึงบัดนี้น่ะ"
              "ท่านอาทรัสเตอร์ นี้ท่านมารอพวกเราก็เพื่อทดสอบมาสวาร์ทาร์อย่างงั้นใช่มั้ยละครับ" พีวิลกล่าว
              อาทรัสเตอร์พยักหน้า "ถูกต้อง ข้าแค่อยากจะรู้ว่า หากมาสวาร์ทาร์อยู่ในสภาพย้ำแย่แบบนี้ ยังจะต่อสู้โดยที่จิตใจไม่สั่นครอนกันได้อีกหรือเปล่า ตอนนี้ข้าได้รู้แล้ว ว่าเขามีโอกาสจะชนะโครเต้และพวกครอสตรีมหัวดื้อนั้นได้แล้วละ"
              "ทั้งๆที่ ดาบของมาสวาร์ทาร์มัน...." สเปียริทบอก
              อาทรัสเตอร์บอก "ถึงดาบจะร้าวแตกจนไม่อาจใช้สู้ได้อีกเลยก็ตาม แต่ถ้าจิตใจเข้มแข็งและยึดมั่นในเจตจำนงที่สู้เพื่อปกป้องผู้อื่นด้วยแล้ว ดาบที่ร้าวก็สามารถหักดาบหรือแทงทะลุเกราะกับโลห์ให้พังได้เช่นกัน" และบอกไปว่า "แต่ต่อให้มาสวาร์ทาร์เข้าใจได้ก็จริง ทว่าพวกเจ้ายังต้องปรับปรุงเรื่องการต่อสู้อีกมาก แม้ในเวลานี้จะเหลือแค่ 8 วันเท่านั้นก็ตาม ซึ่งก็มากพอที่พวกเจ้าจะต้องฝึกปรือในส่วนที่ขาดไว้กันอยู่แล้วละ"
              "แต่พวกเราจะไปเอาเวลาที่ไหนมาฝึกกันละ ในเมื่อพวกเราถูกตามล่ากันอยู่น่ะ" คลอเวฟบอก     
              อาทรัลเตอร์กล่าว "จงไปที่เขาหอเมฆาซะ หุบเขาสูงใหญ่แห่งนั้น คือสถานที่เพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เพียงเจ้าจะใช้ซ่อนตัวจากสายตาของครองคอร์ดและพวก แต่มันเป็นสถานที่ ที่พวกเจ้าจะต้องใช้ฝึกปรือทักษะการต่อสู้ให้ดีขึ้นกว่านี้ ซึ่งข้าคิดว่าที่แห่งนั้นแหละ คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วละ"
              "เขาหอเมฆาน่ะหรือ ที่ว่าเป็นหุบเขาสูงใหญ่ในประเทศจีนที่เกิดขึ้นในช่วงยุคทองช่วงกลางนะหรือ" มาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              อาทรัสเตอร์บอก "ในช่วงที่ข้าพเนจรไปนั้น ข้าขึ้นเขาลูกนั้นมา 4 ครั้งด้วยกัน ซึ่งข้าอยู่ที่นั้นไม่เพียงจะได้พักผ่อนอย่างสงบหลังจากที่ร่อนเร่มานาน แต่ข้ายังสามารถมองเห็นโลกทั้งใบที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งด้วย จนรู้วีรกรรมของพวกเจ้ามาจนถึงบัดนี้แหละ" และส่งแผนที่จากปลอกแขนซ้ายให้กับมาสวาร์ทาร์
              "แล้วเราจะไปที่หุบเขานั้นยังไงกันละคะ" สเปียริทบอก
              อาทรัลเตอร์เป่าลมผ่านนิ้วทั้งสองเพื่อเรียกสตอร์มฮอวค์อีกตัวลงมา "พวกเจ้าต้องขี่เจ้าอาคาชิคไปที่หุบเขานั้น และต้องรีบไปเดียวนี้ เพราะไม่ช้าก็เร็ว โครเต้จะส่งสมุนมาจัดการกับพวกเจ้าแน่นอน" พร้อมกับ "หมับบบ" ส่งตราบางอย่างให้กับมาสวาร์ทาร์ "ท่านอาทรัลเตอร์ นี้ นี้มัน..."
              "ตรานี้คือแผนที่ระบุตำแหน่ง สุสานแห่งดาบ อันเป็นสถานที่ที่ข้าได้นำอาวุธของลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่บาดเจ็บล้มตายจากการต่อสู้กับพวกมนุษย์ไปไว้ที่นั้น เช่นเดียวกับ... สุดยอดดาบอันแข็งแกร่งและทรงพลังที่ข้าได้สร้างไว้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นเป้าหมายให้กับโครเต้และพวกอย่างแน่นอน" อาทรัสเตอร์บอก
              คลอเวฟกล่าว "สุดยอดดาบอันแข็งแกร่งและทรงพลัง ท่านหมายถึง เกรซคาลิเบอร์ ใช่มั้ยละ" อดีตแม่ทัพชราพยักหน้า
              "เกรซคาลิเบอร์นิ มันเป็นดาบแบบไหนล่ะ" โฟรซ่าถามอย่างสงสัย
              มาสวาร์ทาร์บอก "มันเป็นดาบอันทรงพลังที่แฝงเร้นด้วยพลังครอสเซียมอันมหาศาลเอาไว้ในตัวดาบ หากนักรบครอสตรีมคนใดที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง คู่ควรแก่เป็นเจ้าของมันไว้ ผู้นั้นก็จะได้ดาบเล่มนี้ไว้ในครอบครอง และนักรบผู้นั้นจะถือได้ว่าเป็นยอดนักรบที่ทรงเกียรติและทรงพลังมากที่สุดในครอสตรีม ซึ่งมีเพียงแค่สามคนที่เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้กันน่ะ โดยท่านอาทรัสเตอร์คือเจ้าของคนแรกน่ะ"
              "ใช่ หากแต่คนที่สองที่เป็นผู้สืบทอดดาบนั้น แม้ได้รับดาบไป แต่ก็นำไปใช้ในทางที่ผิดจนสร้างความเดือดร้อน ซึ่งข้าจำต้องลงโทษด้วยการใช้เกรซคาลิเบอร์ปลิดชีพลง คนที่สามนั้น แม้จะมีคุณสมบัติครบถ้วน แต่กลับใช้ไม่เป็นจนพลังของดาบทำลายตัวเขาเอง แน่นอนว่า ข้าจำต้องปิดตายดาบเล่มนี้ไว้ในสุสานแห่งดาบ เพื่อมิให้มันถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดในภายหลัง" อาทรัสเตอร์กล่าวและสั่งเสียต่อมาสวาร์ทาร์ไปว่า "มาสวาร์ทาร์ ข้ารู้ว่า ไม่ช้าก็เร็ว โครเต้และพวกจะต้องรู้ที่ตั้งของสุสานแห่งดาบเพื่อไปเอาเกรซคาลิเบอร์ไว้ ด้วยแผนที่นี้จะช่วยนำทางเจ้าไปยังที่แห่งนั้น และ ปกป้องดาบจากเงื้อมมือคนผิดไว้ ซึ่งเจ้ารู้ใช่มั้ย ว่าเจ้าควรจะทำเช่นไร"
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "แล้วท่านละครับ"
              "ข้าจะช่วยเหลือพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ข้าขอสั่งให้เจ้าและพวก ห้ามหันหลังกลับไปเป็นอันขาด แล้วบินตรงไปที่หุบเขาหอเมฆาเดียวนี้ ใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย" อาทรัสเตอร์บอกพร้อมกับหยิบดาบใหญ่ไว้ "นี้ไม่ใช่คำสั่งเสียของข้า แต่เป็นคำขอร้องในฐานะนักรบที่อาวุโสกว่าเจ้า เพราะความหวังและความตั้งใจของข้านั้น ข้าฝากไว้ให้เจ้ากันแล้วน่ะ เอชมาสวาร์ทาร์"
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะครับ ท่านอาจารย์ และอย่าห่วงไปเลย เพราะผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน"
              "พวกเจ้าเองก็เช่นกันน่ะ ในฐานะที่พวกเจ้าเป็นสหายของมาสวาร์ทาร์เอง จงช่วยเหลือเขาเหมือนที่เขาช่วยเหลือพวกเจ้าด้วย ที่ข้าพูด มีเพียงเท่านี้แหละ" อาทรัสเตอร์กล่าว สเปียริทพยายามแย้ง แต่พีวิลชูแขนห้ามเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้า เพราะรู้ว่า อาทรัสเตอร์ตั้งใจจะสละชีพไว้อยู่แล้ว
              สเตฟอร์ดบอก "ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ พวกเราจะไม่ลืมเลือนอย่างแน่นอน"
              "อาคาชิค รบกวนด้วยละ" มาสวาร์ทาร์กล่าว
              เจ้าอาคาชิคผงกหัวและก้มตัวเพื่อให้โฟรซ่า สเปียริท และไซโครเนียขึ้นหลังไป เช่นเดียวกับพีวิล พลัสเชอริท และมาสวาร์ทาร์ด้วย ส่วนคลอเวฟและสเตฟอร์ดนั้น "หมับ หมับ" เกาะตรงขาทั้งสองข้างแทน ไซโคลเนียบอก "มันจะไม่ถ่วงให้บินช้าไปเลยหรือ"
              "อาคาชิคเป็นสตอร์มฮอวค์ที่บินได้เร็วแม้จะมีอะไรที่หนักมาถ่วงขามันก็ตามน่ะ แล้วก็ ออกบินเลย" มาสวาร์ทาร์บอก "กวี้กกก" อาคาชิคก็กู่ร้อง พร้อมกับกระพือปีกพาตัวมันและพวกพีวิลลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า พร้อมกับ "ฟ้าวววววว" พุ่งทะยานบินไปโดยเร็ว ซึ่งคลอเวฟและสเตฟอร์ดเกาะขาไว้แน่นๆ เช่นเดียวกับพวกพีวิลที่เกาะบนหลังแบบสุดฤทธิ์ไว้
              อาทรัลเตอร์ยิ้มขึ้นสักพักก็กลับมาเป็นสีหน้าที่จริงจัง พร้อมกับชูดาบใหญ่ไว้ "ลาก่อนน่ะ ศิษย์รักของข้า จงเป็นดาบแห่งความยุติธรรมที่มีไว้เพื่อพิฆาตความชั่วร้ายทุกรูปแบบ และหยุดยั้งเหล่าดาบที่ถูกความแค้นครอบงำกันได้แล้วน่ะ"

              "ไม่คิดเลยจริงๆน่า ว่าจะได้เจอท่านในที่แบบนี้กันน่ะ" เสียงของนักรบพาราไดน์ระดับขุนพลกล่าว อาทรัสเตอร์เลยหันมาเห็นทราเวยน์และกองรบครอสตรีมกลุ่มหนึ่งไว้
              "...ใช่ และข้าก็รู้ว่า นักรบที่โอหังและไม่เจียมตัวอย่างเจ้านั้น คงไม่คิดจะเป็นสุนัขรับใช้โครเต้กันง่ายๆละสิน่ะ พาราไดน์ทราเวยน์"
              "ที่ถูกคือตอนนี้ ข้าพเจ้าเป็นขุนพลเหนือพาราไดน์แล้วละ ท่านอาทรัลเตอร์ และต้องขอบใจท่านมากเลยน่ะ ที่ถอนตัวไปจากกองรบเพื่อให้โครเต้คุมกองกำลังนี้โดยสมบูรณ์ ซึ่งนั้นก็ทำให้มาสวาร์ทาร์ต้องกลายเป็นคนทรยศมาจนถึงบัดนี้แหละ" ทราเวยน์กล่าว "แต่ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าท่านกล้าให้ความช่วยเหลือคนทรยศกันน่ะ"
              อาทรัสเตอร์บอก "ถึงข้าจะกลายเป็นคนทรยศต่อกองกำลังที่ข้าสร้างและท่านโอเวอร์เดสกันก็จริง แต่ตอนนี้ พวกเจ้ามันก็แค่คนทรยศต่อหลักการและเจตจำนงของข้าที่สร้างเอาไว้ เช่นเดียวกับโครเต้นี้แหละ"
              "พวกเราจำเป็นต้องก้าวหน้าต่อไป ดังนั้น คำสอนของขิงแก่อย่างท่าน เป็นได้แค่คำสอนเก่าๆที่ล้าหลังไปเสียแล้วละ" ทราเวยน์กล่าว
              อาทรัสเตอร์บอก "ข้าน่าจะรู้ได้ตั้งนานแล้วน่ะ ว่าก่อนที่เจ้าจะเป็นพาราไดน์มาจนถึงบัดนี้ เจ้าเป็นนักรบที่หลงตัวเองว่าเก่งกาจและเหนือกว่าคนอื่น ถึงขั้นที่ต้องกดขี่ขมเห่งอีกฝ่ายที่ต่ำกว่าให้ต่ำลงไปอีก ยังไม่แย่ไปกว่า การที่เจ้าทำทุกอย่างเพื่อที่จะดันให้เจ้าอยู่สูงโดยไม่แยแสว่าเจ้าได้ทำให้คนเจ็บปวดมาเท่าไหร่กันด้วยแล้วละก็ ข้าคงจะปล่อยให้เจ้าสิ้นใจตายไปเสียยังจะดีกว่า"
              "แต่น่าเสียดายน่ะ ที่ความเมตตาของท่านเป็นตัวที่ช่วยให้ข้ามาอยู่ต่อหน้าท่านนี้แหละ" ทราเวยน์พูดโดยไม่รู้สำนึกเลยแม้แต่นิดเดียว
              อาทรัสเตอร์ถาม "โครเต้คงจะสั่งให้เจ้านำกองกำลังมาไล่ล่ามาสวาร์ทาร์กับพวกอย่างงั้นละสิ"
              "ใช่ ซึ่ง ในฐานะที่ท่านเป็นถึงอดีตแม่ทัพใหญ่และผู้ก่อตั้งครอสตรีม รวมไปถึงเป็นผู้สอนสั่งโครเต้ให้เป็นแม่ทัพใหญ่มาจนถึงบัดนี้แล้ว ข้าในฐานะผู้น้อยจำต้องให้ความเคารพต่อท่านด้วยเช่นกัน" ทราเวยน์บอก "ว่าแต่ ท่านพอจะบอกได้มั้ย ว่าเอชมาสวาร์ทาร์หนีไปไหนกันน่ะ"
              อาทรัสเตอร์บอก "ถ้าข้าบอกว่าเขามุ่งหน้าไปที่แกรนฟอสเทซิโม่แล้วละก็ เจ้าคงคิดว่าข้าคงเลอะเลือนและหลงๆลืมๆกันแล้วละสิ"
              "ข้าแค่ทำตามหน้าที่ที่โครเต้สั่งมาก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญ ท่านเองก็เป็นผู้ที่น่าเคารพยกย่องด้วยแล้ว ข้าไม่ได้อยากจะสั่งท่าน แค่ขอร้องท่านอย่างสุภาพเลยน่ะ" ทราเวยน์พูดประจบเอาใจไว้
              แต่อาทรัสเตอร์หน้าบึ้งพร้อมกับบอกว่า "ถ้าเจ้าขออย่างสุภาพจริง แล้วจะอธิบายเรื่องที่คนของเจ้าและโครเต้ยิงถล่มใส่ข้า และแสดงความโอหังด้วยการบุกเข้าใส่โดยปราศจากความเคารพย่ำเกรงแถมยังดูหมิ่นเกียรตินักรบกันยังไงละ" ทราเวยน์ชะงักลง อาทรัสเตอร์เลยอธิบายไปอีกว่า "ส่วนเจ้าเองก็เช่นกัน เลิกประจบประแจงเพื่อหวังความเห็นใจจากข้าได้แล้ว เพราะข้าอ่านสายตาของเจ้าออกแล้วละ ว่าเจ้าเองก็มองข้าเป็นแค่ตาแก่งี่เง่าที่สมควรจะลาโลกนี้ไปด้วยน่ะ"
              "กะแล้วเชียว ว่าท่านต้องดูออกจนได้สิน่ะ" ทราเวยน์ได้ฟังก็ออกมายอมรับแต่โดยดี
              อาทรัสเตอร์บอก "ข้าดูออกตั้งแต่ คำพูดของเจ้าแล้วละ เพราะถ้าเจ้าเอ่ยชื่อโครเต้ที่มีสถานะเป็นแม่ทัพแบบห้วนๆ ไม่มีท่านขึ้นต้นด้วยแล้ว เจ้าก็พูดหลอกลวงข้าให้ตายใจได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น และข้ารู้ด้วยว่า จุดมุ่งหมายของเจ้าไม่ใช่แค่มาสวาร์ทาร์ แต่มาหาข้านั้น เพียงเพื่อเกรซคาลิเบอร์ละสิ"
              "สมแล้วที่โครเต้พูดถึงท่านเอาไว้ไม่มีผิดกันน่ะ" ทราเวยน์ชักดาบออกมาพร้อมกับสร้างโลห์ขึ้นที่หลังแขนซ้ายไว้ "แต่ท่านตัดสินใจผิดแล้ว ที่กล้าเป็นศัตรูกับโครเต้และพวกเรา ด้วยการช่วยเหลือคนทรยศกันน่ะ"
              อาทรัสเตอร์บอก "ข้ามองมาสวาร์ทาร์ เป็นเพียงนักรบที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ต่อหน้าข้าตอนนี้ ก็คือพวกคนทรยศต่อข้ากันแล้ว แม้ว่าข้าจะต้องตายเพราะกลโกงเล่นสกปรกของพวกเจ้าก็ตาม พวกเจ้าเองนี้แหละจะอายุสั้นลงกว่าเดิม"
              "แกต่างหากละ ที่ควรจะลงโลงไปตั้งนานแล้วน่ะ" ทราเวยน์บุกเข้าใส่อาทรัสเตอร์โดยเร็ว ซึ่งก็ "ฮึยยย ว้ากกก" อาทรัสเตอร์ฟาดดาบลงพื้นจนเกิดคลื่นวิ่งเข้าใส่ทราเวยน์ ที่ต้องรีบชิ่งออกด้านข้างมา จนคลื่นพลังนั้น "ตรูมมม" เป่าพวกเทมพาร่าและครูเซเดนกระเจิงไป "แคร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วรีบบุกเข้าฟาดฟันใส่อาทรัลเตอร์อย่างรวดเร็ว แต่อดีตแม่ทัพครอสตรีมตั้งดาบป้องกันไว้อย่างมั่นคง
              "ป่วยการเปล่าน่า เพลงดาบที่แฝงความทะเยอทะยานอยากของเจ้าไม่มีทางสยบข้าได้หรอก" แล้วก็ "ป้ากกก" ซัดฝ่ามืออัดใส่ทราเวยน์ที่ยกโลห์ขึ้นมาต้องถอยกระเด็นไป แถมโลห์เองก็ร้าวมากด้วย บ่งบอกถึงพละกำลังแขนของอดีตแม่ทัพได้เป็นอย่างดี
              "กุบกับๆๆๆๆๆๆๆ" พวกยูนิคอร์นไนท์เลยขี่ม้าวนรอบอาทรัลเตอร์อย่างรวดเร็ว โดยที่ทราเวยน์รีบถอยออกมาก่อน "คิดจะรุมข้าด้วยการจู่โจมบนหลังม้านะหรือ หึ คิดผิดเสียแล้ว" อาทรัสเตอร์กล่าวและชูดาบเกรทซอร์ดพร้อมกับหมุนควงวนรอบอย่างรวดเร็ว จน... "เหวอๆๆๆๆ ว้ากกก ว้ายยยย" เหล่ายูนิคอร์นไนท์ถูกดูดเข้าไปในวังวนพายุแล้วก็ "ฉั้วะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดนพายุคมดาบที่เกิดจากการหมุนควงดาบอย่างรวดเร็วของอาทรัลเตอร์ไว้พร้อมกับ "เปรี้ยงงง" เป่าพวกยูนิคอร์นไนท์ปลิวขึ้นฟ้าไป แล้วก็กระโดดขึ้นเพื่อหวดดาบเข้าด้วยไม้ตาย "กิกันติกเฮอริเคน โคโลซัสแคลช" สิ้นคำ ก็ "หวับบบ เปรี้ยงงงง" ตวัดดาบใหญ่ฟันใส่พวกยูนิคอร์นไนท์ที่ปลิวกลางอากาศ ให้ขาดสะบั้นแดดิ้นและระเบิดกลางอากาศไปกันทั้งหมด "แชดๆๆๆๆๆๆๆ" พวกครูเซเดนเลยรีบยิงครอสเซียมแคนน่อนขึ้นฟ้าเข้าใส่อาทรัลเตอร์ ซึ่งก็ป้องกันด้วยดาบเอาไว้ และทิ้งตัวลงมา "คราวนด์ฟอลเลอร์ โคโลซัสเครเวอร์" หวดดาบฟาดใส่พวกครูเซเดนที่ยิงปืนใหญ่เข้าจน "โครมมม" คมดาบใหญ่ผ่าร่างครูเซเดนที่เรียงรายอยู่ขาดพร้อมกับพื้นดินที่ร้าวเป็นรอยยาวจน "ตรูมมม" เป่าระเบิดแดดิ้นไปกันหมด
              "ทะ ท่านทราเวยน์ ท่านเห็นอย่างที่ข้าเห็นหรือเปล่าละ" พาราไดน์หญิงกล่าว
              "เห็นเต็มๆแล้วละ ไม่แปลกแล้ว ที่อาทรัลเตอร์จะมีสมญาว่า ดาบใหญ่ที่แข็งแกร่งและไม่มีอะไรที่ฟันไม่ขาด เลยน่ะ" ทราเวยน์บอก
              อาทรัสเตอร์บอก "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเจ้ากลับไปบอกโครเต้กันเดียวนี้ ว่าให้ยุติความแค้นไปซะ หาไม่แล้ว ข้านี้แหละจะไปแทนมาสวาร์ทาร์เพื่อลงโทษอย่างสาสมกันน่ะ"
              "งั้นนะหรือ แต่เกรงว่า ท่านต้องจบลงเพียงแค่ตรงนี้แล้วละ" ทราเวยน์กล่าว และดีดนิ้วขึ้น... "แชดดด แชดดดด" "ตรูมมมม" เทมพาร่าสองตนใช้ครอสเซียมเรลกันยิงใส่อาทรัสเตอร์จากด้านหลัง ตามด้วย "โว้ววว ย้ากกก" พาราไดน์นับสิบบุกเข้าโจมตีด้วยคฑาครอสเซียมหวดใส่อาทรัสเตอร์ที่ยังไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับใช้ดาบฟาดฟันและระดมยิงใส่ไปด้วย "แคร้ง แคร้ง เคร้งงง เคร้งง" แต่อาทรัสเตอร์ยังฟาดฟันดาบเข้าใส่พวกพาราไดน์ไว้ "ฟ้าววว เปรี้ยงงง" ครูเซเดนเลยบุกเข้าใช้ทวนใหญ่แทงใส่สีข้างของอาทรัสเตอร์ทั้งสองข้างจนได้แผลใหญ่ไปอย่างจังๆ "เกร้งๆๆๆๆ" อาทรัสเตอร์พยายามต้านทานด้วยดาบจากดาบใหญ่ของครูเซเดนที่ฟาดฟันไว้อย่างสุดกำลัง แต่ก็... "แกร้งงง" โดนครูเซเดนถีบจนดาบใหญ่ของอาทรัสเตอร์ปลิวมาปักพื้นไว้ แถมยัง "ฉั้วะๆ" ฟันใส่กลางหลังซ้ำจนเกราะด้านหลังแตกกระจุยไปกันหมด ทราเวยน์เลยก้าวมาตรงดาบใหญ่ของอาทรัลเตอร์ไว้ "....ข้าคิดไว้แล้ว ว่าเจ้ากับพวก.... สู้เยี่ยงคนขลาดเขลา ใช้กำลังเข้าข่ม ทำร้ายฝ่ายตรงข้ามเพียงหนึ่งเดียว ซ้ำร้ายยังเป็นการทำร้ายคนที่อาวุโสกว่าด้วยนั้น ชัยชนะของเจ้ามีมลทินใหญ่หลวงที่ล้างยังไงก็ล้างไม่ออกันไปหรอกน่ะ" อาทรัสเตอร์บอก โดยในตอนนี้อยู่ในสภาพคุกเข่าด้วยความอ่อนแรงแล้ว
              "นั้นเพราะว่าท่านมันเก่งกาจเกินไปเองต่างหากละ ถ้าเราไม่สามัคคีกันละก็ ปานนี้พวกเราคงโดนสับเป็นชิ้นๆไปนานแล้วละ" ทราเวยน์กล่าวพร้อมกับดึงดาบใหญ่ของอาทรัสเตอร์ขึ้นมา
              อาทรัสเตอร์บอก "สู้แบบสุนัขหมู่อย่างงั้น ไม่ใช่สู้โดยสามัคคีกันหรอก และเจ้าเองก็ไม่ได้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งและเป็นวีรบุรุษจากการพิชิตข้าไปเลย หากแต่....เป็นแค่คนถ่อยที่สวมชุดนักรบที่เป็นแค่เปลือกที่ทำให้เจ้าสูงส่งขึ้นก็เท่านั้นเองแหละ"
              "ถ้าเพื่อทำให้ข้าเหนือกว่าโครเต้และมาสวาร์ทาร์ ข้าทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วละ" ทราเวยน์บอก และหันมาถาม "ข้ารู้ว่าท่านต้องส่งมอบกุญแจหรือแผนที่ที่ตั้งเกรซคาลิเบอร์ให้กับมาสวาร์ทาร์ไว้ ดังนั้น ข้าจะมาเอาอีกอันไว้จะดีกว่า อย่างน้อย ข้าก็ไปถามโครเต้ถึงที่ตั้งของสุสานแห่งดาบไว้ได้น่ะ"
              อาทรัสเตอร์กล่าวและยอมมอบตราอีกอันหนึ่งไว้ "ข้ามอบแค่แผนที่ให้มาสวาร์ทาร์เท่านั้น เพราะข้ารู้ว่า ถ้าขืนมอบกุญแจให้ เจ้าก็จะหาเรื่องรังควานมาสวาร์ทาร์เพื่อเอาแผนที่มาไว้แน่นอน"
              "...อย่างน้อยก็ดีแล้วละ เพราะถึงมีแผนที่ แต่ถ้าเปิดเข้าไปในสุสานดาบไม่ได้ก็ไม่มีความหมายน่ะ" ทราเวยน์กล่าวและคว้าตรากุญแจมาโดยเร็ว
              อาทรัสเตอร์บอก "ถ้าเจ้าเปิดสุสานแห่งดาบไว้ได้ ที่แห่งนั้นแหละจะเป็นสุสานของเจ้าไปด้วยน่ะ"
              "หึ จะบอกว่า มาสวาร์ทาร์พิชิตข้าลงได้สิน่ะ หึๆๆๆ วางใจได้ เพราะที่แห่งนั้นควรจะเป็นสุสานของมันเองต่างหาก" ทราเวยน์พูดจบก็... "หวับบบ ฉึกกกก" แทงดาบเข้าใส่อาทรัลเตอร์ไปเต็มๆ จนคมดาบทะลุหลังไว้
              "แล้วเราไม่ฝังศพกันเลยหรือครับ เพราะว่าเขาเป็นถึง..." พาราไดน์ลูกน้องถามทราเวยน์ เพราะเขายังมีความเคารพต่ออดีตแม่ทัพผู้นี้ไว้
              "ตาแก่นั้นให้ความช่วยเหลือคนทรยศเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าไม่ใช่อดีตแม่ทัพของพวกเราอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น เราไม่มีความจำเป็นต้องฝังศพแต่อย่างใด" ทราเวยน์บอก และสั่งการให้ "ทุกหน่วย กลับฐานได้แล้ว เพราะเรายังต้องมีภารกิจอีกอย่างที่ต้องไปทำกันน่ะ" กองรบที่เหลืออยู่เดินทางกลับไปทันที ซึ่งเมื่อพวกครอสตรีมจากไปแล้วนั้น...

              "ไม่ทันอีกแล้วหรือเนี้ย" เจเนลบอก
              "แย่ชะมัดเลยน่ะ พวกเราอุตสาห์พยายามกล่อมพวกนกดีๆแล้ว แต่พวกมันก็ไม่ยอมให้ออกไปกันด้วยน่ะ" จิลบอก
              จายด์กล่าว "ทำไงได้ละ พวกนกเหล่านั้นคงเป็นพวกเดียวกันกับพวกพีวิลกันด้วย พวกมันคงรู้ว่าพวกเราเป็นศัตรูที่ตามล่า เลยขวางทางเอาไว้กันน่ะ"
              "ช่างเถอะ ตอนนี้ เราคงต้องควานหาพีวิลกับพวกกันเสีย...." เจเนลกล่าว
              จิลชี้ไปยัง "ตรงนั้น มีคนโดนแทงด้วยน่ะ" ร่างของอาทรัสตอร์ที่โดนแทงอยู่
              "หึๆๆๆๆ มาจนได้แล้วสิน่ะ เจเนไซด์ทีม แม้ว่าเจ้าจะมาไม่ทันพวกมาสวาร์ทาร์ที่ล่วงหน้าไปแล้วก็ตามน่ะ" อาทรัลเตอร์บอก
              เจเนลบอก "สภาพเกราะนี้ เกราะสีเงินผลึกเขียว ลุงคงจะเป็นอดีตแม่ทัพของครอสตรีมที่ชื่อ อาทรัสเตอร์ ละสิ"
              "ครองคอร์ดบอกกับพวกเจ้าแล้วสิน่ะ หึๆๆๆๆ แม้ว่าพวกเจ้าอยากจะมีอิสระจากอุ้งมือของเขาไว้ แต่ก็มีอุปสรรค์ที่ติดตัวจนไม่อาจจะหลุดพ้นได้ละสิ" อาทรัสเตอร์บอก
              จายด์กล่าว "ท่านรู้ว่าในตัวพวกเรามีเพนฟีดแบ็คอย่างงั้นนะหรือ"
              "ถึงใบหน้าจะดูเป็นปกติกันก็จริง แต่เปลือกตานอกที่กระตุกแม้จะสั่นเพียงน้อยนิด กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งแต่ผิวหนังก็สะท้านจากภายใน แม้กระทั่งประสาทสัมผัสที่แม้จะเป็นปกติแต่แฝงเร้นด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อยแต่ติดทนดุจแผลเป็นแบบนั้น มีหรือที่ข้าจะมองไม่ออกกันน่ะ" อาทรัสเตอร์บอก
              จิลถาม "นี้รู้ถึงขั้นนี้ แปลว่าคงจะรู้ว่าฉันเองนั้นก็...."
              "...ครองคอร์ดกลัวว่าพลังจิตอันแรงกล้าของเจ้าจะหลุดจากกรอบการควบคุมของเขา หรือแม้กระทั่งของเจ้าเองด้วยแล้วนั้น พลังนั้นมันจะทำลายทั้งเจ้าและคนอื่นที่อยู่รอบข้างด้วย ซึ่งครองคอร์ดใช้ประโยชน์ของบาดแผลทางจิตนี้แหละมาทำให้เจ้าเจ็บปวดด้วย" อาทรัสเตอร์บอก "ถ้าจะถามหาวิธีหลุดพ้นจากอาการเจ็บปวดละก็ ถึงแม้จะปลดปล่อยหมุดที่ตอกกับบาดแผลของพวกเจ้าไว้ก็คงไม่หายถาวรแน่ๆ"
              เจเนลบอก "แล้วไม่มีวิธีอื่นใดเลยหรือ ลุง ที่จะช่วยให้..."
              "จงตามพวกพีวิลไปซะ ที่ๆพวกเขาไปถึงนั้น ก็คือ คำตอบล่ะ" อาทรัสเตอร์ใช้แรงที่มี แกะปลอกแขนขวาออกมาและโยนให้เจเนลดูไว้ "ที่สำคัญ แม้ข้าจะไม่ได้เห็นพวกเจ้าทั้งสามสู้กันก็ตาม แต่ข้ารู้ ว่าภายภาคหน้า พวกเจ้าได้เป็นกำลังสำคัญอย่างแน่นอน เว้นแต่ พวกเจ้าจะเข้าใจตัวของพวกเจ้า หาไม่แล้ว พวกเจ้าจะไม่มีทางปลดมัดตราสังนั้นไปได้หรอกน่ะ" อาทรัสเตอร์กล่าวโดยที่เลือดเขียวไหลออกจากหน้า
              เจเนลกล่าว "เข้าใจแล้วละ ลุง และขอบคุณมากที่ทำเพื่อพวกเรา ทั้งๆที่พวกเราไม่ได้ร้องขอเลยน่ะ"
              "อย่างน้อย ข้าได้ทำในสิ่งที่ข้าทำกันแล้ว ใช่ ยุคสมัยของคนรุ่นเก่ายุติลงแล้ว ยุคสมัยใหม่นั้น มาถึงในไม่ช้าแล้ว" อาทรัลเตอร์ยิ้ม พร้อมกับจากไปอย่างสงบ แม้จะพ่ายให้กับอดีตนักรบที่เดินทางผิดไปเลยก็ตาม
              เจเนลบอก "มาช่วยฝังศพลุงได้มั้ยละ อย่างน้อย ก็ช่วยให้รู้ว่า ลุงได้ตายตรงนี้กันน่ะ" จายด์พยักหน้า เช่นเดียวกับจิลด้วย ซึ่งก็ต้องใช้เวลา 5 นาทีในการขุดหลุมฝังศพเอาไว้

              "ท่านโครเต้ ข้าเสียใจกับการจากไปของ อดีตแม่ทัพของท่านแล้วละ" ครองคอร์ดกล่าว โครเต้พยักหน้า
              เกซเฟลิคถาม "อาทรัลเตอร์ไม่น่ามาผิดจังหวะเลยน่า อย่างน้อยน่าจะไปจากโลกนี้อย่างสงบกันแล้วนิ"
              "แล้วท่านคิดจะทำเช่นไรกับ ขุนพลของท่านละ" ครองคอร์ดถาม
              โครเต้ตอบไปว่า "....ปล่อยให้ทราเวยน์ได้ใจไปจะดีกว่า ถึงแม้ว่า ท่านอาทรัสเตอร์จะหันดาบมาทางเราตามมาสวาร์ทาร์ แต่ ไม่ว่ายังไง เขาก็คือบิดาของพวกเราอยู่ ก็สมควรจะให้ความเคารพด้วยการช่วยฝังศพให้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ศพนั้นถูกคนของท่านฝังเสียเองน่ะ"
              "แต่ เท่าที่ทราบมา ทราเวยน์ได้กุญแจเปิดสุสานแห่งดาบ ซึ่งว่ากันว่า มันเป็นสถานที่เก็บสุดยอดดาบที่ไร้เทียมทานด้วยนิน่า" เกซเฟลิคบอก
              โครเต้กล่าว "....ใช่ ถ้าทราเวยน์ยอมใช้ดาบเพื่อช่วยให้แผนการรุกรานแทแรนเซียของพวกเราผ่านไปด้วยดีนั้น ก็ว่าไปอย่าง แต่มันจะดีกว่ามาก หากมาสวาร์ทาร์มาที่นี้ด้วยนั้น ไม่ว่าใครชนะก็ล้วนแล้วต้องใช้สุสานนี้เป็นสถานที่ตายอยู่แล้ว"
              "แล้วท่านครองคอร์ด ท่านจะทำเช่นไรกันละ ในเมื่อตอนนี้ พวกเจเนไซด์ทีมมันไล่ตามพวกคนทรยศจนอาจจะหลุดจากรัศมีการติดต่อไปแล้วน่ะ" เกซเฟลิคบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "ข้าจำเป็นต้องลงมือกำจัดคนทรยศด้วยตัวเองแล้ว ถึงไม่สำเร็จ ข้าก็ยังมีคนอื่นสานต่อได้อยู่บ้างน่ะ"
              "คงจะไม่ได้ให้เกซิคทำแทนงั้นสิ" เกซเฟลิคกล่าวเพราะไม่ชอบขี้หน้าเกซิคอยู่แล้ว
              ไวซ์ไมเซลบอก "ข้าเองแหละ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่านขุนพลขึ้นมา ข้าจะสานต่อการกำจัดพวกกบฎเองน่ะ"
              "ดีแล้วละ ที่เป็นท่านน่ะ ไวซ์ไมเซล เพราะอย่างน้อย เราก็อยากให้ท่านเป็นผู้นำคนต่อไปกันน่ะ" โครเต้บอก ไวซ์ไมเซลพยักหน้า
              ครองคอร์ดบอก "ท่านโครเต้ กองรบที่ท่านส่งไปเพื่อกำจัดโคเคสนั้น ยังไม่มีข่าวดีใช่มั้ยละ"
              "โคเคสคงจะใช้แผนการของมาสวาร์ทาร์โต้ตอบการบุกของพวกเราแบบไม่เสียกำลังพลไปด้วย 2 วันที่ผ่านมานั้น กองรบที่ส่งไปล้วนต้องถอยกลับทั้งๆที่ไม่ได้สู้รบกันด้วยน่ะ" โครเต้บอก
              เกซเฟลิคกล่าว "งั้นข้าจะช่วยเสริมให้เลยมั้ยละ"
              "ยังหรอก ถ้าท่านนำกองกำลัง แล้วจะเหลือใครโจมตีอเมริกาและแอฟริกากันละ" ครองคอร์ดบอก
              ครเต้บอก "ถึงแม้กองทัพเรือของอเมริกาใต้อ่อนแรงเพราะฝีมือของพวกโซลูนาสตี้ เช่นเดียวกับกองเรือแอฟริกากันด้วย แต่เพื่อความไม่ประมาท เราต้องซ้ำเติมให้มากขึ้นเลยน่ะ ท่านเกซเฟลิค"
              "วางใจได้น่า ตอนนี้ ทางเรากำลังสร้างเรือรบรุ่นล่าสุดกันอยู่ ภายใน 9 วันถัดจากนี้ มันจะเสร็จสมบูรณ์กันในไม่ช้า เช่นเดียวกับอีก 10 กว่าลำที่ข้าสร้างไว้ที่เบอร์มิวด้าด้วย" เกซเฟลิคบอก
              ครองคอร์ดกล่าว "ดี เพราะในช่วงที่โคเคสและพวกไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ เราต้องรีบกำจัดพวกพีวิลกันซะ แม้ว่านั้นจะต้องทำลายเจเนไซด์ทีมลงไปด้วยก็ตามน่ะ"
              "พีวิลและพวกมันต้องไปทางนั้นแน่ๆน่ะ เพราะแผนที่ในปลอกแขนระบุจุดที่ส่องสว่างกันน่ะ" เจเนลบอก
              จายด์กล่าว "แต่ถ้าเราตรงไปก็เท่ากับว่าเข้าพรมแดนจีนเลยน่ะ"
              "เราต้องเข้าไปอยู่แล้วละ จายด์ เพราะยังไงเสีย พวกเราต้องไปอยู่ดีนี้แหละ" เจเนลกล่าว
              จิลบอก "งั้นเรารีบไปกันดีกว่าน่า อย่างน้อย แค่ไล่ตามไปได้ก็เกินพอแล้วละ"

              "ท่านอาทรัสเตอร์คงจะจากไปแล้วสิ" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์พยักหน้า โดยที่เอาตราออกมา "แม้ว่านั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ตาม อาทรัสเตอร์ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องกันแล้ว ซึ่งฉันจะไม่ให้การเสียสละนี้ต้องสูญเปล่าอย่างแน่นอน"
              "แต่ตอนนี้ เราต้องไปที่เขาหอเมฆาอะไรนั้น แล้วจะแน่ใจได้ไงว่าพวกเราจะเก่งขึ้นได้จริงน่ะ" สเปียริทบอก
              โฟรซ่ากล่าว "นั้นสิ เพราะเราไม่รู้เลยว่าที่เขาแห่งนั้นมีอะไรรอเราอยู่น่ะ"
              "แค่เราปีนขึ้นเขาไปได้ก็เกินพอแล้วละ" คลอเวฟบอกพลางเกาะขานกไปด้วย พลัสเชอริทพยักหน้า
              สเตฟอร์ดบอก "แม้ว่าเราจะต้องบินโดยต้องมองเบื้องล่างไปเลยก็ตามน่ะ"
              "แล้วนายคิดจะไปเอาดาบกันตอนนี้เลยหรือเปล่าละ มาสวาร์ทาร์" พีวิลกล่าว
              มาสวาร์ทาร์เก็บตราไว้ "ตราที่ฉันได้มานั้นเป็นแค่แผนที่เท่านั้นเอง แม้ไปถึงก็คงเข้าไปไม่ได้ หากไม่มีกุญแจ ซึ่งถ้าให้เดา ไม่โครเต้และทราเวยน์ที่ได้กุญแจไปแน่นอน"
              "แล้วจะปล่อยให้มันเอาเกรซคาลิเบอร์ไปได้เลยหรือวะ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ทราเวยน์ไม่รู้ที่ตั้งที่แน่ชัด เพราะมีแค่กุญแจอยู่ในมือ และถึงไปถามโครเต้ก็คงไม่ได้คำตอบแน่ๆ เพราะโครเต้ก็รับปากรักษาความลับของสุสานแห่งดาบไว้ ดังนั้น ทราเวยน์ต้องใช้ตรากุญแจเป็นตัวออกตามหากันอย่างแน่นอน ที่สำคัญ เราออกจากเมืองไปเมื่อ 2 วันก่อน ยังเหลือเวลามากพอที่จะไปที่สุสานนั้นได้น่ะ"
              "แปลว่า นายยังไม่รีบละสิน่ะ" สเปียริทบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ใช่ เพราะต่อให้สู้ชนะอาทรัลเตอร์ลงได้ ฉันต้องเตรียมพร้อมไว้สำหรับการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เขาเหลือไว้ ซึ่งฉันจะไม่เดินหนีหรือถอยหลังไปแล้วน่ะ"
              "แล้วเจเนลกับพวกมันจะตามเรามาจริงหรือ" คลอเวฟบอก
               พีวิลกล่าว "ต้องมาแน่นอน เพราะครองคอร์ดกำชีวิตของพวกเขาไว้อยู่ในมือ พวกเขาจึงไม่มีทางถอยหลังกลับแน่ๆเลยละ" ซึ่งก็เป็นตามที่พีวิลเล่ามาไม่มีผิด เพราะเจเนลขี่ไทรไบค์พร้อมกับจิล โดยที่จายด์ขี่งูไฮดร้าตามหลังมาโดยเร็ว โดยผ่านเขตพรมแดนจีนตามหลังมาแล้ว

    โปรดติดตามตอนต่อไป ในตอนที่ 16 การฝึกโหดในหนึ่งสัปดาห์บนหุบเขาเหนือฟ้า แปดพี่น้องยอดฝีมือ ดาบแห่งความยุติธรรมปรากฎ
    ตอนหน้า พวกพีวิลและเจเนลถูกปรมาจารย์ยอดฝีมือบนเขาจับฝึกตน เพื่อขัดเกลาจิตใจและฝีมือไว้ โดยมาสวาร์ทาร์ได้เตรียมความพร้อมสู้กับทราเวยน์ ที่ตอนนี้ได้สุดยอดอาวุธมาในมือแล้ว พวกเขาจะฝึกสำเร็จหรือไม่ แล้วใครแพ้ใครชนะกันที่สุสานดาบกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×