ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #320 : ที่สุดแห่งปี 2014 (ทั้งอนิเมะและมังงะ) by Cammy

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 58


    ก่อนอื่น ผมก็สวัสดีทุกท่านครับที่ได้อ่านบทความนี้  ไม่ว่าหน้าใหม่หรือหน้าเก่าก็ตาม

    บทความนี้หากนับย้อนไปก็อยู่ยาวนาน 6 ปีแล้ว ซึ่งก็มีผู้ติดตามพอสมควร ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มาก แม้มันค่อยไม่ฮิตก็เถอะแต่ผมก็ภูมิใจที่จะทำนะ และเป็นหนึ่งบทความที่มีความสุขในการเขียน ส่วนบทความไหนวิเคราะห์ห่วย วิเคราะห์ไม่ตรง เขียนผิดๆ ถูกๆ ผิดพลาดบ้าง ผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ

                    หากดูผลงานปีนี้  จะเห็นว่าผมนำความรู้ต่างๆ ๆ มานำเสนอด้วย  ไม่ว่าจะเป็นสายการ์ตูน ศัพท์การ์ตูน และความรู้ที่ผมเชื่อว่าคนไทยจะไม่ค่อยรู้เท่าไหร่มานำเสนอ นอกเหนือจะแนะนำการ์ตูนอนิเมะหรือมังงะเหมือนเจ้าอื่นๆ  ซึ่งปีหน้าผมก็จะเน้นเรื่องพวกนี้มากขึ้นครับ

    ผมเป็นคนที่ค่อนข้างแปลกครับ คือเป็นคนสวนกระแสมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมชอบอะไรไม่เหมือนคนอื่น แถมยังชอบยัดเยียดความชอบให้คนอื่นอีกต่างหาก ดังนั้นบางบทความผมก็ใส่ความคิดเห็นเชิงล้างสมองเข้าไปด้วย จนมีหลายคนถูกผมล้างสมองหลายราย (ฮ่า) บางครั้งผมก็แอบตกใจนะครับทเวลาบอร์ดเว็บอื่น หรือเข้าเพจการ์ตนมีคนอ้างคำพูดขอผมไปด้วย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่คิดว่าจะดังแม้แต่น้อย (ฮ่า)

    อย่างที่บอกผมค่อนข้างเป็นคนสวนกระแส ดังนั้นความชอบของผมไม่เหมือนกับคนอื่น สิ่งที่ผมเอามาเขียนบทความนี้อาจไม่ตรงกับใจของใครหลายคนนัก เช่น ทำไมไม่พูดตอนจบนารูโตะละ ก็ขอตอบในที่นี้เลยว่าผม “ไม่ชอบจัมป์” และไม่ชอบ “จบวิน” ครับ (โอเคเข้าใจตรงกันนะ)

                  ขอพูดถึงอนิเมะก่อน ปีนี้ผมขอแหวกกว่าปีก่อนๆ ครับ เพราะปีที่ผ่านมาผมเลือกอนิเมะที่ดีที่สุดแต่ละปีตรงคุณภาพ เนื้อหา ความประทับใจในการดู และหลายเรื่องก็นอกสายตา เป็นต้นว่า Vividred Operation, Hataraku Maou-sama!, Log Horizon, Non Non Biyori} Another, Haiyore! Nyaruko-san, Girls und Panzer, Denpa Onna to Seishun Otoko ฯลฯ ซึ่งสมควรรับอนิเมะดีเยี่ยมแห่งปีจริงๆ

                 แต่ปี 2014 ดันไม่มีอนิเมะที่ดีทั้งคุณภาพ เนื้อหา ความประทับใจครบถ้วนสำหรับผมสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผมชอบฮาเร็มด้วยมั้ง  แต่อนิเมะซีซั่นนี้ฮาเร็มมีแต่แนวโรงเรียนแฟนตาซี (ที่ผมเอียน) กับเกมแนวจีบสาว (ผมผ่านเพราะตอนจบวินแน่นอน) และการ์ตูนแนวฮาเร็มที่สร้างจากไลท์โนเวลที่ทำได้ไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่ ผลคือปีนี้ผมดูอนิเมะน้อยมาก แนวไหนไม่ใช่ฮาเร็มก็ดูผ่านๆ

                 Aldnoah.Zero-อาจเป็นอนิเมะที่ยิ่งใหญ่สำหรับหลายคน แต่ผมดูครั้งเดียวจบ ไม่ได้ดูซ้ำ เพราะเนื้อหาถ้าเอาตรงๆ ก็ไม่ได้แปลกใหม่ เจ้าหญิงมุ้งมิ้ง พระเอกขอนไม้ ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ บทบาทก็ไม่ค่อยมีเยอะ เพื่อนสมัยเด็กบทน้อย เคืองครับเคือง

                 Gokukoku no Brynhildr-เกือบจะดีแล้ว มาตายตอนจบ (ตัดฉากเพียบ)

                Kanojo ga Flag o Oraretara -เรื่องนี้ งง โครต หากให้ที่สุดแห่งปี ผมให้การ์ตูนที่ดูแล้วไม่รู้เรื่องในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

                 ฯลฯ

                 นี่คือส่วนหนึ่งที่ผมดูอนิเมะซีซั่นนี้ ขณะที่แนวดังๆ อย่าง พี่น้องมหาเวทย์, เทพทรูออนไลน์ การ์ตูนดังๆ หลายคนอวย ผมเลือกที่จะไม่ดู

     

                 การ์ตูนที่ชอบแห่งปี 2014- Ore, Twintails ni Narimasu

                 
                ผมยกให้ ทวินเทลกู้โลกเป็นอนิเมะแห่งปี!! โดยไม่สนยอดขาย ไม่สนเรตติ้ง ไม่สนว่ามันจะตัดทอนเนื้อหาไลท์โนเวลมากน้อยเพียงใด และมันจะเผาโครตเหี้ยมขนาดไหนก็ตาม

                 ทำไมผมถึงให้ทวินเทลกู้โลก มันฮาเร็มนะใช่ส่วนหนึ่ง  แต่ส่วนหนึ่งคือเป็นอนิเมะที่มีที่สุดอะไรหลายอย่าง เช่น สุดยอดเพื่อนสมัยเด็ก, เผาวอดวายแห่งปี, แต่งกายยอดเยี่ยม, พระเอกดุ้นได้ใจ อย่างนี้ไม่ให้ก็ไม่รู้จะให้อะไรแล้วครับ

                 Ore, Twintails ni Narimasu หลายคนอาจบอกว่าเป็นการ์ตูนบั่นทอนปัญญา แต่ผมมีความคิดเห็นตรงกันข้ามครับ ผมว่าเป็นการ์ตูนมีอะไรมากกว่านั้น มันเป็นการ์ตูนที่นอกจากจะเป็นแนวฮาเร็มซาบซ่า (ซ่าจริงๆ นะ) แล้ว มันยังเป็นการ์ตูนที่เรียกความรู้สึกสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี แนวเซ็นไต (ขบวนการหลายสี) ปราบเหล่าร้ายจากนอกโลก ที่พบเห็นบ่อยๆ ในการ์ตูนสมัยก่อน เช่น วิงแมน (Wingman) สมัยก่อนการ์ตูนพวกนี้เยอะ แต่ปัจจุบันเราถูกการ์ตูนแนวใหม่ๆ อย่าง โรงเรียนแฟนตาซี, การ์ตูนโลกสวยไม่ควรดู (แนวดราม่า ตัวละครน่าอวยตายเป็นว่าเล่น อย่างที่หลายๆ คนอ้างว่าน่าติดตาม)

                 Ore, Twintails ni Narimasu อาจเป็นการ์ตูนที่ตัดทอนต้นฉบับ เผาวอดวายแบบไม่น่าอวย แต่กระนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ประทับใจหลายอย่าง บางทีเพราะเนื้อเรื่องของต้นฉบับที่ดีอยู่ก่อนอีกทั้งมุกตลกที่การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอมา ทั้งๆ ที่การ์ตูนดูจริงจัง ดราม่า แต่มันกลับทำให้ฮ่าได้ ไปจนถึงตัวละคร แม้จะเป็นตัวละครที่มีสูตรสำเร็จ หากแต่เมื่อเอามาจัดวางบทบาท เข้าไป มันกลับโดดเด่นขึ้นมาได้อย่างน่าชื่นชม

                 ผมดูการ์ตูนเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนมีอาการป่วยทางจิต อาจเป็นเพราะชุดแปลงร่างของเทลเรด และเทลบลู (ชุดประธานต้องรอร่างสุดยอดจะโมเอะมาก) นอกจากนี้ยังสอดแทรกมุกเซ็นไตหลายมุก ซึ่งก็หวังว่าจะมีซีซั่นสองในอนาคตข้างหน้า (และปรับปรุงคุณภาพไม่ให้เผาวายวอดนะครับ)

     

                 การ์ตูนที่ชอบแห่งปี 2014- No Game No Life

                 
                No Game No Life เป็นการ์ตูนที่ผมเกลียดพระเอกโครตๆ และเป็นการ์ตูนที่ไม่ได้แสดงความเป็นนีทได้ใจนัก (เสียสถาบันนีทหมด) แต่ผมก็ตัดสินใจให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนแห่งปี 2014 ตามความเห็นของผม ก็เพราะ ตัวละครหญิงน่าดึงดูด ทำตรงต้นฉบับได้ดี และการนำเสนอที่น่าสนใจ ภาพที่ดูอลังการแม้ว่าจะแสบตาสำหรับคนแก่อย่างผมก็ตาม

                 แม้เรื่องนี้ผมจะไม่ชอบพระเอกเลย แต่ตัวละครผู้หญิงในเรื่องน่ารักได้ใจ ไม่ว่าจะเป็น ชิโระกางเกงในลายทางน่ารัก, น้องนก, โดยเฉพาะสเตฟนางเอกที่มักโดนแกล้งได้อย่างน่าสงสาร ประกอบกับธีมเนื้อเรื่องเป็นไม่กี่เรื่องที่สร้างให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ตกต่ำ และต้องเล่นเกมชี้ชะตากรรมชิงดินแดน และมันสุดยอดมากๆ ที่พวกพระเอกเล่นตามความสามารถของตน แต่ฝ่ายตรงข้ามโครตโกง โกงโครตๆ แต่สุดท้ายพวกพระเอกก็สามารถพลิกขึ้นมาเอาชนะได้  สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมติดตามดูอนิเมะเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบและสร้างความประทับใจพอสมควร

                 

                  เข็นไม่ขึ้นแห่งปี- Kiseijuu: Sei no Kakuritsu

                  
               หลายคนอาจช็อกว่าทำไมผมเลือกปรสิต มาเป็นการ์ตูนเข็นไม่ขึ้น หมดแรงที่จะอวยแห่งปี เพราะผมมีเหตุผลของผม แม้ว่าหลายเจ้าอวยอนิเมะจากมังงะในตำนานสุดฤทธิ์สุดเดชก็ตาม

                 ก่อนอื่นขอบอกเลยว่าปรสิตไม่ใช่การ์ตูนที่ผมชอบที่สุดในชีวิตแต่อย่างใด แต่ก็เป็นการ์ตูนที่ผมติดตามอ่านจนจบ แม้ว่าสีหน้าตัวละครจะแข็งๆ แต่ไอเดียตัวปรสิตที่เป็นจุดแข็งทำให้มันสนุกน่าติดตามเป็นอย่างมาก

                 ผมกำลังหวังอะไรกับอนิเมะที่สร้างจากมังงะเรื่องนี้ ผมหวังว่าอนิเมะจะดูยิ่งใหญ่ ดราม่าเร้าอารมณ์ การเอาการ์ตูนหลายปีก่อนมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย มันน่าจะออกมาให้ดูดีขึ้นบ้าง

                 แต่ปรากฏว่าอะไรหลายอย่างไม่ค่อยถูกจิตผมมากนัก ไล่ตั้งแต่เพลงเปิดทำได้ไม่ประทับใจผมมากนัก แม้ผมไม่มีหัวเรื่องเพลง แต่ผมคิดว่าโทนเสียงทำนองน่าจะสร้างความหลอน สั่นประสาท และดูอลังการมากกว่านี้ เหมือนอย่าง Another ที่ทำไว้ ไม่ใช่เพลงร็อคทำนองตื่นเต้นอย่างที่หลายคนอวยกัน

                 เรื่องต่อมาคือการออกแบบตัวละคร ผมยังเคืองการออกแบบมุราโนะ (นางเอก) ไม่หาย ที่ทำออกมาเป็นหนูผมจุก และบทบาทของเธอกลายเป็นที่รำคาญของผมด้วยการพูดประโยคซ้ำเล่าซ้ำเล่าว่า “ชินจิยังเป็นคนเดิมอยู่ใช่ไหม?” (อารมณ์พอๆ “ช้างกรูอยู่ไหน” ส่วนคานะในเรื่องน่ารักแต่หมดความเป็นสาวนักเลงไปหน่อย และพระเอกที่เปลี่ยนลุคจากเด็กเนิร์ดกลายเป็นนักเลงอันนี้มันเปลี่ยนจนผมรู้สึกแปลกๆ พอสมควร

                 ส่วนการดำเนินเรื่อง ยอมรับตามตรงว่าผมไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมแม้แต่น้อย โอเคมันหากตัดฉากไส้แตกเลือดสาดบ้าง ลดความโหดบ้าง แต่ผมว่ามันน่าจะมีมุมมองที่ดีกว่านี้ อย่างเพลงประกอบที่เร้าอารมณ์ ตัวละครที่สติแตก ไปจนถึงอารมณ์ความอึดอัด ซึ่ง Another ก็เป็นตัวอย่างที่ดีมาแล้ว แม้อนิเมะปรสิตมันจะไม่เลวร้าย แต่ผมคิดว่ามันควรจะดีกว่านี้

                 โดยส่วนตัว ผมก็ไม่อยากให้อนิเมะต้องตรงต้นฉบับ 100 เปอร์เซ็นต์สักเท่าไหร่ เพราะหลายคนที่อ่านมังงะก็รู้แล้ว น่าจะใส่อะไรที่แปลกใหม่ (แต่ก็ยังคงต้นฉบับ) เข้าไปอีกนิด แถมยังมีการตัดฉากต้นฉบับซะงั้น ทำให้ลดอารมณ์หลายๆ ที่ควรจะฟินหายไปด้วย

                 เอาเถอะอย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายเท่า Tetsuwan Birdy เอามาทำใหม่ รายนั้นเผากระจาย และผมโครตฝันร้ายเลย

     

                โครตผิดหวังแห่งปี 2014  Mahou Sensou และ Mekaku city actor

                 
            
    สำหรับซีซั่นนี้มีอนิเมะหลายเรื่องที่หลายคนตั้งความหวัง โดยเฉพาะอนิเมะจากต้นฉบับและมังงะ หรือ งานประเภทสื่อผสม (ผลงานที่ถูกนำไปทำเป็นสื่อหลายแบบ)  แต่พอออกมากลับทำห่วยสิ้นดี ไม่สมกับที่รอคอยเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นตัดทอนเนื้อหา, รวบรัด, เผา, บางเรื่องจบออริจินอล (ไม่มีในต้นฉบับ) จนได้รับคำด่ากันถ้วนหน้า

                 ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมผู้ผลิตถึงไม่ทำอนิเมะตรงต้นฉบับ อาจเป็นฝีมือไม่ถึง หรือเหตุผลทางตลาด จนหลายคนเรียกอนิเมะเหล่านี้มา อนิเมะขายของ (เป้าหมายคือ ดูอนิเมะแล้วเกิดอารมณ์เสีย ซื้อต้นฉบับมาดูแก้เซ็งดีกว่า) 

                 ส่วนตัวแล้วผมให้อนิเมะ Kanojo ga Flag o Oraretara  โครตผิดหวังปี เพราะตอนที่อนิเมะใกล้ออกผมโครตอวยโครตๆ แต่พออนิเมะออกมาโครตน่าผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการตัดเนื้อหาระดับโหด ตัดทอนบทละคร เผา ฮาเร็มซาบซ่ากลายเป็นฮาเร็มโครต งง แถมช่วงหลังเป็นออริจินอลอีกต่างหาก (เพราะต้นฉบับเรื่องราวยังไม่กระจ่าง)

                 แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพูดถึงส่วนรวมแล้ว Mahou Sensou และ Mekaku city actor กลายเป็นอนิเมะโครตผิดหวังแห่งปีสำหรับใครหลายคน

                 Mahou Sensou อนิเมะจากต้นฉบับไลท์โนเวลของ Suzuki Hisashi โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบอนิเมะเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะนิสัยตัวละครเกือบทุกคนเรื่องนี้มัน ติ่ง  (คนเขียนได้บอกว่าต้องการสร้างแนวสาวน้อยเวทมนตร์ แต่โทนเรื่องอยากเป็นแนวต่อต้านสังคมด้วย) ความจริงหากใครดูตอนแรกของอนิเมะก็น่าจะรู้ตัวแล้วว่ามันห่วย แต่บางคนก็กลั้นใจดูตอนจบ  แต่พอตอนจบออกมายิ่งทำให้ผิดหวังอย่างแรง เพราะจบไม่ดีเสียเลย แม้แต่ผู้แต่งไลท์โนเวลเองก็ยังไม่ปลื้มตัวอนิเมะ และตัวคนแต่งเองก็บอกว่าเขาจะจบเรื่องนี้ให้  Happy Ending

                 ขณะที่ Mahou Sensou  แย่แล้ว Mekaku City Actors แย่ยิ่งกว่า เพราะเป็นเรื่องหนึ่งที่ใครๆ ต่างก็คาดหวังว่าต้องเป็นหนึ่งในสุดยอดอนิเมะของฤดูใบไม้ผลิ 2014 กันอย่างแน่นอน ด้วยดีกรีต่างๆ ทั้งที่มาจากเพลง Vocaloid ของโปรดิวเซอร์ Jin และทีมสร้างอย่างสตูดิโอ Shaft แต่จากตอนที่ 1 ตอนสุดท้ายฉายจบไป หลายคนต่างพร้อมใจออกมาพูดว่า “ห่วยแตก” ด้วยเหตุผลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาพเผาขั้นรุนแรง เนื้อเรื่องที่ดูไม่รู้เรื่องแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะเพลงของแต่ละคนที่น่าจะเป็นจุดชายก็ทำออกมาไม่เข้าถึงอารมณ์มากนัก จึงเป็นอีกเรื่องที่สร้างความผิดหวังต่อคนดูทั้งญี่ปุ่นและไทยมาก

     

     

                 เผาวอดวายแห่งปี ตอนที่ 9 ของ Ore, Twintails ni Narimasu

                 
           ความจริงผมก็ไม่ได้เป็นพวกอารมณ์อ่อนไหวในการเผาภาพอนิเมะมากนัก แต่ผมเหลืออดจริงๆ กับการเผา Ore, Twintails ni Narimasu ซึ่งความจริงถ้าทำดีกว่านี้ ผมว่าน่าจะเป็นอนิเมะต่อสู้อลังการงานสร้างเลย แต่อนิจจาฉากที่ควรจะดีกับทำเผาได้อย่างน่าเกลียดมาก ทั้งๆ ที่ตอนที่ 1 เปิดเรื่องออกมาน่าดู น่าประทับใจแท้ๆ

                 แม้อนิเมะเรื่องนี้ช่วงหลังๆ จะมีเผา แต่ก็พอรับได้บ้าง แต่ความอดทนของผมได้สิ้นสุดลงในตอนที่ 9 โดยเฉพาะฉากพวกพระเอกสู้กับน้องแว่น มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ แต่เพราะการเผา ความมักง่าย ไม่ตรงสอบของผู้ผลิต กลับทำให้เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายแห่งปี ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าตัวละครที่แสนกาก และที่เลวร้ายที่สุดคือช่วงนาที 8 ของตอน ตรงช่วงล่างอันเกลี่ยงเกลาของเทลบลู ทั้งๆ เทลบลูนั้นเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผมชอบที่สุดแห่งปี 2014 ในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก การแต่งกายสุดแสนโมเอะ แต่การเผาเทลบลูนี้ มันเป็นอะไรที่รับไม่ได้มากๆ  ไม่รู้ว่าผู้ผลิตจงเกลียดจงชังเทลบลูมาจากไหน เพราะเทลบลูเป็นหนึ่งตัวละครที่โดนเผามากที่สุดในเรื่องด้วย มันเหลืออดครับ มันเหลืออด

                 ขอให้ทำใจว่าสตูดิโอ Production IMS ขึ้นชื่อเรื่องการเผาอยู่แล้ว และ ผลงานครั้งต่อไปคือ Shinmai Maou no Testament น้องสาวมือใหม่จอมมาร  เตรียมพร้อมกับการเผาได้เลย


     

                 ออกแบบดีเยี่ยม -เทลบลูและแองเจล่า บัลซัค

                
              
    อนิเมะปีนี้อาจไม่มีอะไรน่าสนใจอะไรมากนัก (หรือมี แต่ผมไม่รู้สึกเองก็ไม่รู้) แต่น้อยปีนี้ ทำเอาคนคลั่งชุด สาวน้อยในชุดจักรกล (
    Mecha Musume) อย่างผมต้องเซฟรูปเป็นมือระวิง เพราะความเป็นคนที่ค่อนข้างคลั่งชุดเกราะสาวน้อยจักรกล  มันเป็นส่วนผสมความลงตัวของความโม(ยกเว้นชุดเกราะสาวๆ ใน IS และพวกโรงเรียนแฟนตาซีผมไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่)  ถ้าถามว่าผมเซฟรูปอะไรก็ตอบว่าเซฟรูปของเทลบลูและ แองเจล่า บัลซัค

                 เทลบลู (Tail Blue) เป็นร่างแปลงของสึเบะ ไอกะ เพื่อนสมัยเด็กของโซจิจากทวินเทลกู้โลก ซึ่งชุดเกราะของเทลบลูจะออกไปทางสีฟ้าและสีขาว  ผมทวินเทลสีฟ้า อาวุธเป็นหอกแห่งน้ำ  แต่ที่โดดเด่นคือ ชุดของค่อนโมเอะเว้าสูง นี้ถ้าอนิเมะทำมุมมองโชว์ก้นนี้ เทลบลูจะดูงดงามและน่าดูมาก  อีกทั้งนิสัยของคนสวมชุดนี้มีนิสัยซึนเดเระ นักรบ เพื่อนสมัยเด็กก็ยิ่งทำให้ชุดนี้โดดเด่นโฉบเฉียวเป็นอย่างมาก สรุปคือผมรักเทลบลูครับ

                 นอกจากนี้ผมยังชอบเทลเรทด้วยนะเอ่อ แม้จะเป็นสาวดุ้นก็ตาม ส่วนเทลโยลโล่ต้องรอร่าง 2 จะโมเอะมาก

                 
             
    หากไม่นับเทลบลูซึ่งเป็นอนิเมะดัดแปลงจากต้นฉบับแล้ว  ตัวละครออริจินอลอย่างนางเอก แองเจล่า บัลซัค (
    Angela Balzac)  อายุ 20 ปี จากภาพยนตร์อนิเมะ Expelled From Paradise ก็ถือว่าโดดเด่นมากๆ แม้ ตัวภาพยนตร์จะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ในด้านตัวนางเอกและชุดนางเอกแล้วทำเอาหลงรักเลยครับ ด้วยนิสัยเป็นผู้หญิงเก่ง แถมนิสัยวึนเดเระทวินเทลสุดยอด  ชุดของเธอจะเป็นสูทรัดรูปจากอนาคต น่ารักครับขอบอก

     

                 สุดยอดทวินเทลและเพื่อนสมัยเด็ก-สึเบะ ไอกะ

                 
              
    เป็นอันดับที่ค่อนข้างยากครับ เพราะในใจผมขับเคี่ยวกันระหว่าง ซึ่งทั้งคู่ซึนเดเระเหมือนกัน ระหว่างสึเบะ ไอกะ และ
    แองเจล่า บัลซัคที่น่ารักพอๆ กัน  แต่ถ้าจะให้ความฟินในจิตใจแล้ว ความเป็นเพื่อนสมัยเด็กของไอกะจะดีกว่า

                 สึเบะ ไอกะ (Tsube Aika) เป็นเพื่อนวัยเด็กของพระเอกโซจิ ซึ่งอยู่บ้านข้างๆ หากพูดถึงลักษณะแล้วเธอก็เหมือนเพื่อนสมัยเด็กคนอื่นๆ คือทวินเทล เตี้ย (สูงแค่ 157 เซนติเมตร) แบน  และซึนเดเระ ซึ่งเจ้าตัวจะโมโหมากหากใครมาว่าหน้าอกแบนเหมือนกระดานซักผ้า

                 ตอนแรกๆ ไอกะกับโซจิอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก โซจินั้นเป็นคนบ้าที่หลงใหลในทรงผมทวินเทลจนเป็นรังเกียจต่อคนรอบข้าง มีเพียงไอกะเท่านั้นที่ยังอยู่ข้างๆ กับโซจิ และที่สำคัญเธอชอบโซจิมานานแล้ว และไอกะยังมองโซจิเป็นน้องชายต้องคอยช่วยอยู่ตลอดด้วย

                 อย่างไรก็ตาม  ความสบายใจของไอกะที่คิดว่าไม่มีคู่แข่งปรากฏตัวก็ได้หมดลงไป เมื่อพระเอกได้รับเลือกเป็นเทลเรดปราบผู้ร้าย และได้รู้จักทูอาร์ และประธาน (รวมไปถึงน้องแว่น) ทำให้ชุดยืนของไอกะเริ่มลดน้อยลง

                 แม้ว่าจุดยืนไอกะที่มีต่อโซจิจะลดน้อยบ้าง เพราะโซจิต้องบริหารเวลาให้สาวคนอื่น แต่กระนั้นเพื่อนสมัยเด็กก็คือเพื่อนสมัยเด็ก ไม่มีใครรู้ใจโซจิได้ดีกว่าไอกะ หากโซจิมีปัญหา เธอก็เคยอยู่ข้างๆ เอาใจช่วยเขา ตอนต่อสู้ไอกะก็ปกป้องโซจิโดนตลอด บางทีเธออาจเทพกว่าโซจิด้วยซ้ำ และน่าจะเป็นหนึ่งในเพื่อนสมัยเด็กที่เทพที่สุดในประวัติศาสตร์  (ปานนั้น)   แม้พระเอกจะสามารถต่อสู้เหล่าร้ายได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วไอกะ เทพมักขโมยซีนปราบศัตรูบ่อยมาก จนหลายครั้งพระเอกยืนดูเฉยๆ ก็มี (ฮ่า)

                 ทางด้านโซจินั้นความจริงเขาก็ชอบไอกะนะครับ  แม้ส่วนใหญ่การแสดงออกของโซจิจะแบบชอบลูบผมทวินเทลของเพื่อนสมัยเด็ก เซ็งนมแบนของไอกะ แต่ความจริงเขาก็แอบผูกพันกับไอกะไม่รู้ตัว  ซึ่งมีหลายฉากบอกว่าเขามองไอกะตลอด

                 นอกจากนี้ยังเป็นตัวละครที่ฮ่านะครับ ตอนล้อปมด้อยนมแบนบ้างละ โดนแกล้ง  โดนเผา โดนล้อเลียน ชอบฉากต่อทูอาร์พระเอกดูเฉยๆ เป็นอย่างมาก

                 เชื่อว่าบทบาทของเธอน่าจะมีมากกว่านี้ในอนาคตด้วย ผมขอวิเคราะห์ว่า เธอจะเป็นลาสต์บอส (คืออยู่ฝั่งศัตรู) ผมเชื่ออย่างนั้น

     

     

                 ด้านมังงะปี 2014 นี้ แม้ว่าอนิเมะจะไม่มีอะไรที่สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนสักเท่าไหร่  แต่มังงะนั้นมีเหตุการณ์สะเทือนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การตกบังลังก์ของเทพจีบสาว, ตอนจบนารูโตะ ไปจนถึงเหตุการณ์ฟูกะตาย

                  ปีนี้มีมังงะในตำนานจบหลายเรื่อง เช่น  Tokyo Ghoul เซียนรักขอเป็นเทพนักจีบ (จากเทพจีบสาวกลายเป็นโอตาคุแว่น ฮ่าๆ สะใจ)  และนารูโตะ ไปจนถึงการ์ตูนเก่าๆ ในตำนานอย่าง Asari-chan ,  Azumi (Koyama Yu), Abusan (Mizushima  Shinji), Oh My Goddess! (Fujishima Kosuke) ซึ่งตอนนี้หลายคนก็รู้แล้วว่าจบดีหรือจบห่วย (เอาไว้สรุปอีกทีละกัน)

                 ทั้งนี้ รวมไปถึงการ์ตูนที่ผมติดตามมาอย่างยาวนาน และการ์ตูนที่ผมตามติด (สปอย) อย่างมังงะการ์ตูนที่ผมโครตเกลียดมากๆ อย่าง  Uwakoi (Itosugi Masahiro) ยอมรับเลยว่าไม่เคยมีการ์ตูนเรื่องไหนในชีวิตที่ผมเกลียดเท่าเรื่องนี้มาก่อน  ปกติอย่างมากเกลียดก็แช่งตอนจบไปพอหอมปากหอคอ  แต่เรื่องถึงขั้นแช่งคนเขียนที่ทำเพื่อนสมัยเด็กของผมกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เกลียดจนเห็นลายเส้นแล้วหน้ามืดตาลาย ต้องมาอ่านสปอยแทนที่จะอ่าน และผมไม่เขียนถึงเรื่องนี้หรอก เอาเป็นว่า Uwakoi (Itosugi Masahiro) เป็นการ์ตูนที่สั่นสะเทือนจิตใจผมแห่งปีละกัน (ในด้านความเกลียด)

                 สำหรับที่สุดแห่งปีต่อไปนี้ มีทั้งมังงะและอนิเมะนะครับ ซึ่งเป็นการจัดอันดับโดยผมเอง ปกติผมจะแยกอนิเมะและมังงะคนละบทความเลย แต่ปีนี้ต่างกันออกไปเพราะปีซึ่งผมเองก็ไม่ได้ค่อยดูอนิเมะ (คือมีอนิเมะไม่ถูกใจ)  หรือมีมังงะใหม่ๆ ที่ถูกใจสักเท่าไหร่ แต่ก็มีช่วงเวลาที่สร้างความสุข ความทรงจำ ไปจนถึงการสร้างความเลวร้ายด้วย

                  
                 
    การ์ตูนใหม่ปี 2014 ที่น่าแนะนำ

                 
               ปี 2014 อาจไม่มีมังงะการ์ตูนใหม่ที่หวือหวา แต่กระนั้นก็มีการ์ตูนใหม่ที่น่าสนใจหลายเรื่อง ไม่เพียงเฉพาะฮาเร็มเท่านั้น ผมยังดูแนวอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย

                 Real Account สำหรับปี 2014 ผมชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเป็นเรื่องราวของ อาตารุ ที่เขาและคนอื่นกว่า 10,000 คนที่เข้ามายังโลกหนึ่ง และถูกบังคับให้เล่นเกมแห่งความตาย แม้ว่าแนวเกมเดิมพันชีวิตจะสร้างความผิดหวังกับผมหลายต่อหลายเรื่องก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็ยังคงน่าสนใจ เนื่องจากเป็นผลงานของคนเขียน Shizumu  (ผลงานก่อนหน้า Kono Kanojo wa Fiction Desu. และ Shishunki no Iron Maiden)  ที่แอบชอบหน่อยๆ และเนื้อหาจิกกัดสังคมเฟสบุ๊ค-อินเทอร์เน็ต พระเอกเรื่องนี้ก็ไม่ได้เก่งเทพอะไร พร้อมกับดราม่าเลือดสาดมันกระจาย องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ผมชอบเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเห็น

                 Kekkon Yubiwa Monogatari  ผลงานของ Maybe คนวาดคนสืบผี  เป็นเรื่องของพระเอกเซโตะที่แอบชอบเพื่อนสมัยเด็กฮิเมะ หากแต่จู่ๆ เธอก็ย้ายบ้าน เขาเลยต้องออกตามหาเธอ แต่กลายเป็นว่าหลงไปโลกแฟนตาซี รู้ความจริงว่าเพื่อนสมัยเด็กเป็นเจ้าหญิง และเขาก็กลายเป็นผู้กล้าปราบจอมมาร  ขอออกตัวว่าผมไม่ค่อยปลื้มช่วงหลังๆ เรื่องคนสืบผีสักเท่าไหร่ (โดยเฉพาะตอนจบ) ดังนั้นช่วงแรกๆ ผมมองการ์ตูนใหม่ (ขอเรียกง่ายๆ ว่า พระเอกแหวน”) ว่า แนวตลาด สูตรสำเร็จ น่าเบื่อ  เพื่อนสมัยเด็กไม่โมเอะ คนวาดลัทธิวิน หวยล็อก  ฯลฯ ด่าจนไม่รู้จะด่าอะไร จนกระทั่งมาถึงตอนที่ 3-4 เรื่องสนใจเพราะพระเอกต้องฮาเร็มเพื่อเพิ่มพลัง แถมเพื่อนสมัยเด็กโอเคด้วย  มันต้องแบบนี้สิ พอรู้ว่ามันฮาเร็ม ก็มองอะไรสวยหมด เพื่อนสมัยเด็กน่ารัก เนื้อหาซาบซ่า  แม้ผลงานส่วนใหญ่ของคนเขียนคนนี้ลัทธิวินก็เถอะ แต่ผมขอเดิมพันกับผลงานเรื่องนี้ละกัน ว่ามันจะฮาเร็ม   สิ่งที่ไม่ชอบอย่างเดียวคือ ช่วยเอาเจ้าชายออกจากกลุ่มผู้กล้าได้ไหมว่ะ!! รำคาญลูกตา แถมมีสิทธิแย่งฮาเร็มพระเอก!!!”

                 Onimote เป็นการ์ตูนแนวฮาเร็ม ชีวิตในโรงเรียน แฟนตาซี ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระเอกชื่ออุทาโร่ คิโยฮิเมะ คนธรรมดาที่เข้าโรงเรียนแฟนตาซี ที่สาวๆ ที่มีทั้งมีประธานฝาแฝด, สาวมีเขา เอลฟ์ หูแมวต่างชอบเขา ฟังดูเหมือนฮาเร็มธรรมดา แต่มันเป็นฮาเร็มที่พิเศษ เอ่อ... พิเศษยังไงยังไงนะเหรอ เป็นฮาเร็มในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ ที่เป็นการ์ตูนแก๊ก 4 ช่องจบครับ!! หากไล่ตามประวัติศาสตร์จะพบว่าไม่มีการ์ตูนแก๊ก 4 ช่องไหนแนวฮาเร็มแบบเต็มตัวแบบนี้เลย และเรื่องนี้ประธานนักเรียนเป็นฝาแฝดน่ารักนะเอ่อ ไทยซื้อลิขสิทธิ์ด่วนเลย

                 Hatarakanai-Futari แม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะออกมาเมื่อปี 2013 แต่พึ่งมีการวาดลงนิตยสาร รวมเล่มเมื่อปี 2014 เรื่องราวของสองพี่น้องที่เป็นนีททั้งคู่ คนน้องขี้อายไม่กล้าเข้าสังคม ส่วนพี่ชายไม่ได้เรื่อง แต่ทั้งสองก็พยายามใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข จนผมแอบรักน้องสาวเรื่องนี้ ชอบครับเรื่องนี้อ่านเพลินดี ไทยซื้อลิขสิทธิ์ด่วนเลย

                  ส่วนที่เหลือก็การ์ตูนที่ดัดแปลงจากนิยายที่น่าสนใจ ก็เช่น Mushoku Tensei - Isekai Ittara Honki Dasu, Kono Subarashii Sekai ni Shukufuku o!, Tsuyokute New Saga, Re:Monster, Overlord, Ore Twintails ni Narimasu  ซึ่งก็สนุกน่าติดตามพอสมควร และไม่ผิดหวังหากใครอ่าน (หรือรู้เนื้อหา) นิยายมาแล้ว

                 ยังมีการ์ตูนดี นอกสายตาหลายเรื่องที่น่าแนะนำอีก  เช่น Homun no renkinjutsubu โอมุนครุสโมเอะ, Inuyashiki ผลงานของผู้วาดกันซึที่แหวกแนวเพราะตัวเอกเป็นคุณลุงหุ่นยนต์ และคินดะจิภาคล้อเลียนสนุกกว่าภาคหลักตอนนี้เสีย นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ผมแนะนำในปี 2014 เท่านั้น ยังมีการ์ตูนอีกมากที่เชื่อว่าหลายคนไม่รู้จัก แต่เนื้อหาถูกจิตอย่างแรง เพียงแต่เราจะสามารถค้าหาเจอได้หรือไม่ได้เท่านั้นเอง

                 ส่วนอีกเรื่องไม่ได้อ่าน  แต่ตามติดอยู่  (เพราะมีการสปอยให้ผมเห็นตลอด) คือเรื่อง Domestic na Kanojo เรื่องรักสามเศร้าของพระเอกกับครอบครัวหนึ่งที่มีพี่สาว (ครู) และน้องสาว  ซึ่งพระเอกรักพี่สาว แต่ในขณะเดียวกันก็มีรักกับน้องสาวด้วย  ส่วนตัวให้พระเอกมันฮาเร็มไปเถอะ ดราม่าไปก็ไม่ประโยชน์ แถมถ้าใครไม่ได้สังเกต ฉากเปิดเรื่องมันเขียน 3P นะครับ เรื่องนี้ถ้าชอบวิน มันจะห่วยพอๆ  GE เลยทีเดียว

                 แต่ถ้าให้พวกที่ฝักใฝ่ลัทธิซิธ ด้านมืดนั้น ก็มีแนะนำ 2 เรื่อง ซึ่งปีนี้แนวสายมืดก็มีเยอะเหมือนกันที่ผมชอบ และหลายเรื่องก็โครตฮาเร็ม และปีนี้พิเศษคือผมเริ่มซื้อการ์ตูนสายมืดหลายเล่ม โดยเฉพาะเรื่อง [Tachibana Omina] Ikinari! Harem Life ผลงานของเจ้าของลัทธิฮาเร็ม (วาดแต่ฮาเร็มไม่เคยวาดวิน)  

                 ส่วนอีกเรื่องคือ Ookii Onnanoko wa Daisuki Desu ka? เรื่องนี้ถ้ามองก็อาจจะมืด แต่ดันอยู่ในหมวดสว่าง (การ์ตูนผู้ใหญ่) เป็น เรื่องราวของพระเอกเตี้ยๆ ที่รับบทเป็นผู้จัดการวอลเลย์บอลหญิง 6 คน ที่แต่ละคนตัวสูงกว่าเขาทั้งสิ้น (มีคนเดียวที่ตัวเท่าพระเอก)  ความจริงแล้วพระเอกรักพี่สาว แต่เลเวลต่ำ เลยต้องเก็บคนอื่นๆ ก่อน คนแรกโดนจัดหนักไป 2 ตอน พูดง่ายๆ เรื่องนี้ผมตามติดเลยทีเดียว ว่าตอนจบจะฮาเร็มหรือไม่ (วินเอาคนเดียว ขอบอกว่าพระเอกมันห่วยสิ้นดีเลยแหละ) ถ้าจบดีจะซื้อเก็บไว้เลยทีเดียว

     

                 แล้ว ในปี 2014 ก็มีการ์ตูนหลายเรื่องที่จบ ไม่ว่าจะดัง หรือเป็นตำนาน ซึ่งแต่เรื่องก็จบดี และจบได้อย่างน่าผิดหวัง เป็นต้นว่า

                 Tokyo Ghoul –จบภาคได้อย่างน่าผิดหวัง ดีที่เป็นจบภาค หลายคนก็ยังคงตามต่อ

                 Naruto –ส่วนตัวผมไม่ได้ดูเรื่องนี้ แต่โดนสปอยไม่รู้ตัว ถ้าถามความเห็นผมเหรอ จบตามสไตล์จัมป์แหละ

                 Asari-chan –หนึ่งในการ์ตูนในตำนาน ที่ยาวนานมากๆ ผมอ่านตั้งแต่ประถม และจบในเล่ม 100 ฮาซามิก็ยังคงเป็นเด็กแก่นเด็กเกเรเหมือนเดิม

                 Oh My Goddess!- การ์ตูนเทพธิดาในตำนาน ที่หลายคนลืมไปแล้ว พึ่งมาจบลงในปี 2014 ก็จบไม่ได้หวือหวาอะไร และก็ไม่ใช่แนวฮาเร็มด้วย

                 Abusan –การ์ตูนเบสบอลในตำนาน สำหรับคนไทยแล้วอาจไม่รู้จัก ผมเองก็เคยเห็นแต่ไม่ได้อ่าน

                 Azumi การ์ตูนแนวย้อนยุคซามูไรที่ดีที่สุด และกลายเป็นตำนาน ก็จบลงแล้ว เรื่องราวของอาซามิเด็กสาวผู้งดงามต้องใช้ชีวิตในยุคป่าเถื่อนและเลือดสาด เป็นอีกเรื่องที่ผมอยากรู้ตอนจบ แต่ก็ไม่มีที่ให้อ่าน เลยไม่รู้ว่าจบยังไง

              Sankarea ซอมบี้ซังกะเรย์ที่ผมอวยตั้งแต่บทความแรกๆ แต่ช่วงหลังหมดความสนใจลงอย่างสิ้นเชิง เพราะผมเริ่มคลั่งฮาเร็ม มาดูตอนจบอีกที ก็ประทับใจระดับหนึ่ง (ก็แค่ระดับหนึ่ง) แต่ที่ไม่ชอบคือตอนพิเศษ แม้คนเขียนบอกว่าไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แต่ก็ชวนให้คิดว่าเกี่ยวอยู่ดี ยอมรับว่าตอนพิเศษทำให้เสียแทนที่จะฟิน

                 Wagatsuma-san wa Ore no Yome  ขอออกตัวว่าเป็นการ์ตูนที่จบค่อนข้างผิดหวัง ความจริงผมจะเลิกดูด้วยซ้ำ เพราะลายเส้นช่วงหลังๆ ดร๊อปลง แถมเนื้อหาก็ไม่ได้ฮ่าเหมือนช่วงแรกๆ เป็นตอนจบที่พระเอกตั้งใจดี แต่มันก็เท่านั้น ผมรู้สึกเฉยๆ ขอบอกว่าเฉยๆ นี้เลวร้ายมาก เพราะต่อให้ชอบหรือไม่ชอบอย่างน้อยก็มีอารมณ์ร่วม แต่ถ้าเฉยนี้แสดงว่าไม่มีอารมณ์ใดๆ มองแล้วก็ผ่านไป ไม่มีความผูกพันใด เห็นไหมละ...เจ็บปวดหรือเปล่า (ที่น่าผิดหวังคือนางรองในเรื่องน่ารักกว่านางเอกอีกครับ)


               จบดีที่สุดแห่งปี Umi no Misaki และ Sora no Otoshimono

                  
             
    ปีนี้มีมังงะดังๆ หลายเรื่องจบ แต่ถ้าจะให้ผมเลือกตอนจบไหนดีที่สุด ผมเลือก
    Umi no Misaki และ Sora no Otoshimono เป็นมังงะตอนจบดีที่สุดแห่งปี 2014  

                 ผมเคยพูดหลายครั้งว่า ฉากจบดีไม่มีอยู่จริง มันอยู่ที่ความพอใจส่วนตัวเรามากกว่า ว่าเราพอใจกับตอนจบนี้มากขนาดไหน คุ้มค่าในการติดตามดูอย่างยาวนานหรือไม่ เราไม่อยากเห็นโศกนากฎกรรม ไม่อยากเห็นผู้หญิงที่ชอบผิดหวังในความรัก อยากเห็นทุกคนมีความสุขทุกคน ไม่แยกจากกัน อยู่ด้วยกันตลอดไป ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงตอนจบ Umi no Misaki และ Sora no Otoshimono ครับ ซึ่งทั้งสองเรื่องจบดีคนละแบบ คือ เรื่องแรกจบฮาเร็มอยู่ด้วยกันตลอดไป ส่วนเรื่องที่สองจบไปโรงเรียนด้วยกันตลอดไป

                 Umi no Misaki เอาตรงๆ ว่าตอนจบการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องเซอร์ไพร์ที่สุดในปี 2014 เลยก็ว่าได้ครับ  เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ผมติดตามตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของนากิที่ต้องเลือก 3 สาว 3 สไตล์ว่าใครเป็นคู่ครองของเขา ซึ่งเนื้อหาการ์ตูนก็ไม่ได้หวือหวาอะไร ดำเนินเรื่องเหมือนเกมจีบสาว แต่มันกลับเป็นจุดแข็งในการเห็นพระเอกสร้างความสัมพันธ์กับสาวๆ วนเวียนไปเรื่อยๆ   อย่างช้าๆ รู้ตัวตนที่แท้จริงของสามสาวมากขึ้นมากขึ้น พวกเธอไม่ได้แบนราบ มีขึ้นมีลงตลอด  จนมาถึงบทสรุปที่พระเอกต้องเลือกว่าใครคือคู่ครองเขา ผลคือพระเอกเลือกทั้งสามคนเป็นคู่ครอง และสามารถทำลายดราม่าปวดตับได้ นำไปสู่บทสรุป ทั้งหมดอยู่ด้วยกันตลอดไป ให้คนอย่างผมฟินหน้าบาน

                 ที่เซอร์ไพร์ก็คือผลงานก่อนหน้าของคนเขียนคือ “Aiyori Aoshi”(1998) ของโค ฟุมิสึกิ (KouFumizuki) นั้นจบวินครับ ก็ไม่น่าเชื่อผลงานถัดมาจะจบฮาเร็มได้ และเป็นแนวสายสว่างออริจินอลไม่กี่เรื่องที่บทสรุปจบฮาเร็มด้วย แบบนี้ต้องจารึกครับต้องจารึก

                 
               
    ส่วน Sora no Otoshimono เป็นบทสรุปตอนจบที่ดีอีกเรื่องหนึ่งครับ สำหรับหลายคนที่ติดตามอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งดราม่า ตลก เอจจิ หื่น  โดยเฉพาะช่วงใกล้จบนั้นดราม่ากระจาย แต่สุดท้ายโทโมกิก็สามารถทำทุกอย่างกลับคืนมาเหมือนเดิมอย่างปกติสุข และสามารถปักธงลาสต์บอสสุดอำมหิตอย่างเคออสได้ แถมฉากตลกให้ฮ่าๆ อีก 2 ตอนอีกต่างหาก แม้บทสรุปเรื่องนี้จะไม่ได้มีบทสรุปความรักของโทโมกิว่าเขาลงอวยกับใคร ไม่มีฮาเร็ม ไม่มีวิน พระเอกเลือกที่จะเป็นเหมือนทุกวันแบบนี้ตลอดไป และตลอดไป ซึ่งถือว่าบทสรุปที่ดีแบบหนึ่ง คุ้มค่าในการติดตามตลอด 8 ปี ที่ได้รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ครับ

                

                 เทพจีบสาวที่ตกบังลังก์เทพแห่งฮาเร็ม

                 
              
    ถ้าจะถามว่าตอนจบไหนที่หลายคนไม่ชอบแห่งปี ผมก็คงให้ 
    เซียนรักขอเป็นเทพนักจีบ  ไม่ชอบยังไงเหรอ ชนิดว่าหลายคนที่เห็นตอนจบการ์ตูนเรื่องนี้ ก็จัดการขายหนังสือที่เก็บมาขายในราคาอย่างกับแจกฟรีเลยทีเดียว

                 The World God Only Knows  เป็นเรื่องราวของคัตสึรากิ เคย์มะ โอตาคุหนุ่มผู้มีฉายา "เทพตกหญิง" เพราะเป็นเซ๊ยนเกมจีบสาวที่ไม่เคยพลาด แต่ต้องถูกยมทูตมาขอร้องให้พระเอกจีบสาวในชีวิตจริงด้วย ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ก็จบบริบูรณ์ที่ เล่ม 26 ซึ่ง

                 ยอมรับเลยว่าผมไม่ได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้เลย เพราะผมไม่นับญาติว่าเป็นแนวฮาเร็มด้วยซ้ำ คือมันเป็นแนวฮาเร็มที่สิ้นเปลือง ใช้ตัวละครผู้หญิงเยอะ แต่ใช้แล้วทิ้ง ไม่พูดถึงอีก (หรือนานๆ คงมาพูดถึง) ยิ่งตอนจบหลายคนออกมาบ่นกับผมว่าทำไมถึงทำแบบนี้ด้วย เสียเวลาติดตามมาตั้งนาน หมดมุก

                 ถามว่าตอนจบเป็นยังไง อันนี้ผมก็ฟังคนอื่นสรุปคราวๆ ว่าพระเอกปฏิเสธไม่ยอมรับเป็นเทพฮาเร็ม อยากเป็นคนธรรมดา (คนเลยว่าเป็นแว่นโอตาคุ) ตอนใกล้จบพระเอกเลือกจบวิน แต่คนที่จบวันตัดเป็นตัวละครที่ไม่ใช่นางเอก หรือตัวละครที่ไม่ได้รับความนิยมนักในเรื่อง (มีคนอวย แต่น้อยมาก) ถ้าพูดก็คงเหมือนทีมกรีซได้แชมป์ยูโรนั้นแหละ

                 จบซ้ำยังไม่พอ คนเขียนยังวาดการ์ตูนพิเศษรถไฟสร้างความผิดหวังซ้ำสองให้แก่คนอ่านอีกต่างหาก ซ้ำครับซ้ำ

                 เทพฮาเร็มคำนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยครับ มันต้องมีหลายองค์ประกอบ เช่น คุณภาพของฮาเร็ม ตัวพระเอกของฮาเร็ม รูทการปักธงต่างๆ  ไปจนถึงบทสรุปของเรื่องที่ทำได้น่าพอใจหรือไม่ (คือจบฮาเร็ม ไม่วิน) ซึ่งจนบัดนี้ มีพระเอกไม่กี่คนได้ถูกเรียกว่าเป็นเทพ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีพระเอกหลายคนตกบังลังก์พระเอก เช่น เนกิมะ มารายล่าสุดคือเคย์มะนั้นแหละครับ พูดง่ายๆ จะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนเขียนด้วย ซึ่งมันต้องมีฝีมือถึงจริงๆ ครับ

                 และมีพระเอกหลายรายที่กำลังจะถูกชี้ชะตากรรม ว่า จะกลายเป็นเทพฮาเร็มคนใหม่ หรือล้มเหลวกลายเป็นคนตกกระป๋อง ก็มี โคดากะ และพระเอกจากเรื่อง Nisekoi ซึ่งก็ติดตามต่อไป ซึ่งผมมีลางสังหรณ์ว่าอีกไม่นานได้รู้กัน

     

                 ช่วงเวลาน่าเบื่อที่สุด การปรากฏตัวของทาเคยะ (Gokukoku no Brynhildr)

                 
                 ในปี 2014 หลายคนก็คงติดตามการ์ตูนที่ชอบ และหลายเรื่องก็มาถึงฉากไคแมกซ์ บางคนก็ฟิน บางคนก็ดราม่า หรือบางคนเกิดอารมณ์สุดเซ็งเมื่อการ์ตูนดำเนินเรื่องแบบไม่ถูกใจ เป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อ ซึ่งผมก็มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อที่ผมติดตามสองเรื่องคือ Kiss X Sis และ

                 Kiss X Sis เป็นเรื่องราวของพี่สาวสองคนรักพระเอกที่เป็นน้องชายบุญธรรม  และทำให้พระเอกมีทัศนคติเกี่ยวกับความรักที่ไม่เหมือนคนอื่น (พระเอกคิดว่าการจูบเป็นเรื่องปกติ) ซึ่งถือว่าเป็นการ์ตูนที่ผมติดตามยาวนานมากๆๆ ตั้งแต่ปี 2005 แต่ปัจจุบันกลายเป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มที่หลายคนหลงๆ ลืมๆ ไปแล้ง เพราะเนื้อเรื่องไม่มีอะไรใหม่ๆ เลย เพราะเจ้าพระเอกมันก็วนเวียนรูทอาจารย์หลายตอน หลายปีแล่วก็ยังรูทอาติอาจารย์ ไม่ค่อยเข้ารูทพี่สาวอะไรมากนัก น่าจะเปลี่ยนชื่อจูบนี้ของอาจารย์เสียเลย ยังดีที่ช่วงเวลาน่าเบื่อนี้มาหยุดลงกับฉากน้องแว่นเยี่ยวรดหัวพระเอกนี้แหละ ทำให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น (ไม่ใช่ลัทธิแว่น แต่สาวแว่นเรื่องนี้โครตน่ารัก  

                 และหลังจบรูทน้องแว่น (ซึ่งเมื่อไหร่จะได้ปักธงน้องแว่นเสียอีก) ก็มารูทอาจารย์ต่อ.......สำหรับผมแล้วเซ็ง หากเรื่องนี้ไม่จบฮาเร็มนี้ ผมคงเสียความรู้สึกน่าดู แถมคนเขียนก็มีประวัติจบสุดเซ็งที่สุดในชีวิตกับเมดโรบอทด้วย   

                 แต่อย่างไรก็ตาม Kiss X Sis รูทคุณครูตลอดหลายปีที่ว่าน่าเบื่อสำหรับผมแล้ว  Gokukoku no Brynhildr ช่วงตอน 116-126 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อสุดขีด  ทั้งๆ ที่ช่วงต้นปี  (ตอน 102 - 114) รูท คานะยังทำออกมาน่าติดตาม และมีอารมณ์ร่วมไม่มากไม่น้อย

                 สำหรับช่วง Gokukoku no Brynhildr ช่วงตอน 116-126  เป็นช่วงของรูท ฮัทสึนะ และการปรากฏตัวของละครชายคนใหม่ ทาเคยะ”  ซึ่งพูดตามตรงเป็นตัวละครที่รกหูรกตามาก คือคาแร็คเตอร์แสนโบราณ น่าเถื่อน ต่อยตีเก่ง แต่ก็เป็นคนดี และบทของทาเคยะคือมาแย่งฮาเร็มของพระเอก แย่งฮัทสึนะไปจากพระเอก พร้อมปักธงห่วยๆ ไม่ทำให้ผมเกิดอารมณ์ฟินแม้แต่น้อย จนถึงช่วงท้ายรูทผมก็อุตส่าห์ดีใจที่ตายทั้งคู่ แต่ฮัทสึนะคืนชีพซะงั้น แล้วทาเคยะไม่ตาย ทั้งคู่ก็คบเป็นแฟนจนได้แบบเซ็งๆ

                 ทำไมผมถึงเซ็งขอชี้แจง  แนวฮาเร็มโดนแย่งฮาเร็มก็เซ็งอยู่ แต่ที่เซ็งที่สุดคือการปักธงของทาเคยะนี้ พูดตามตรงผมไม่ฟิน ปักธงเชยมาก และไม่ได้ช่วยอะไรเลย หากเทียบพระเอกแล้วการปักธงของพระเอกนั้นมีพลัง มีมิติมากกว่า พระเอกร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสาวๆ ยินดีจะตายแทนพวกเธอด้วยซ้ำ แต่ทาเคยะไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย ยิ่งตอนที่เทเคยะพูดจะอิ๊บฮันสึนะเพราะเธอเป็นแฟนฉันแล้วนี้ มันทัศนะของพวกผู้ชายห่วยๆ ชัดๆ  จนผมรับไม่ได้ที่สุด (ถ้าเป็นมุกนี้ถือว่าต่ำมาก) ทั้งๆ ที่ผ่านมาผมประทับใจหลายช่วงของเรื่องนี้มาก มาพลาดตรงรูทฮัทสึนะจนได้

                 

                 เหตุการณ์ช็อกสะเทือนใจแห่งปี 2014 ฟูกะโดนรถสิบล้อชนตาย

                 
              
    ในขณะที่อนิเมะซีซั่นนี้ไม่มีอะไรที่หวือหวามากนัก แต่ในมังงะแล้วมีเหตุการณ์ที่ช็อกต่อแฟนมังงะกันถ้วนหน้า (แม้บางคนไม่อ่านเรื่องนี้ก็ตาม) และน่าจะเป็นจุดหักแหการตัดสินใจครั้งสำคัญกับคนเขียนที่ชื่อ
    SEO Kouji ด้วย

                 ก่อนอื่นก็ขอออกตัวว่าผมไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูนของนักเขียนท่านนี้ (แต่ผมก็อ่านเจ้าหญิงปีศาจลูเซียนะ) สิ่งที่ผมรู้คือไม่ค่อยมีใครปลื้มผลงานคนเขียนสักเท่าไหร่ในช่วงหลังๆ  ไม่ว่าจะเป็น ลุ้นรักตามสายลม ไปจนถึง บ้านเสียงหัวใจ หลายคนใช้คำด่าแรงๆ ด่านางเอกทั้งสองเรื่องนี้ว่าหญิงโฉดชายชั่ว  เพราะนางเอกทุกคนของคนเขียนคนนี้นิสัย ติ่ง จนคนอ่านสุดที่จะทน ขณะที่ผมค่อนขอดคนเขียนคนนี้ว่า ลัทธิวิน

                 ในปี 2014 คนเขียนได้เปิดตัวผลงานใหม่ Fuka  เป็นของพระเอกชื่อ ยู ฮารุนะ (Yuu Haruna) ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองและมีความฝันเป็นนักดนตรี และได้พบกับสาวคนหนึ่งชื่อ ฟูกะ” (เป็นลูกของพระเอกและนางเอกจาก ลุ้นรักตามสายลม) ทั้งคู่ก็เริ่มรู้จักกันและกัน  พระเอกก็เริ่มชอบฟูกะ

                 ตอนแรกๆ เนื้อหาก็เหมือนตามสูตรสำเร็จเหมือนเรื่องอื่นๆ จนกระทั่ง Fuka ตอน 36-37 เกิดเหตุการณ์ช็อกคนดู เมื่อฟูกะนางเอกของเราโดนรถสิบล้อชนตาย!! ตายจริงๆ  ไม่ใช่มุก  ไม่ใช่แบบบาดเจ็บสาหัส หรือมีสภาพผัก คือตายทันที ตายแบบไม่มีวันกลับ ไม่มีวันฟื้น ตายแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่ทันตั้งตัว ไม่มีลางสังหรณ์ โผล่มาแบบลั่นล้า ข้ามถนน รถชนตาย!! การตายของฟูกะทำให้ตัวละครในเรื่องโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพระเอกถึงขั้นไม่กล้าไปงานศพเลย

                 เรียกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ช็อกต่อความรู้สึกของคนอ่าน) เป็นอย่างมาก มีที่ไหน นางเอก (ชื่อเรื่องก็บอกเป็นนางเอก) เขาตายตอนกลางๆ เรื่อง (หรือแค่ต้นเรื่องหว่า)  ปกติถ้าให้นางเอกตายเขาก็ต้องให้จบเรื่องสิ ถึงจะถูก

                 ความจริงเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยเกิดขึ้นแล้ว ในการ์ตูน Angel Heart ซึ่งเป็นภาคต่อของซิตี้ฮันเตอร์ ที่ซาเอบะ เรียวต้องเสียคาโอริในตอนต้นๆ ทำให้แฟนรุ่นเก่าหลายคนรับไม่ได้ เพราะหลายคนผูกพันกับความรักของทั้งคู่มาอย่างยาวนาน

                 หลายคนต่างมีความรู้สึกกับเรื่องนี้มากมาย บางคนเลิกตามต่อ บางคนที่เกลียดตั้งแต่ลุ้นรักตามสายลมรู้สึกสะใจที่พ่อแม่มันเสียลูกสาว (หนึ่งในคนสะใจผมเองแหละ) บางคนก็วิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้ฟูกะตายเพราะต้องการให้เป็นแรงขับให้พระเอกเกิดความเสียใจ เกิดความทุกข์ และเติบโตพร้อมกับผ่านพ้นเรื่องเลวร้าย ก่อนที่จะก้าวเป็นนักดนตรียิ่งใหญ่  (ถ้าจริงนี้น้ำเน่าไปมั้ง)

                 ไม่ว่าหลายคนจะคิดอย่างไร แต่สิ่งที่พออธิบายได้คือ มันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของคนเขียน SEO Kouji ก็ว่าได้ เพราะมันเหมือนดาบสองคน หนึ่งคือทำให้คนอยากติดตามต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ แต่ในขณะเดียวกันถ้าบทสรุปของเรื่องไม่ดี อาจส่งผลเสียในอนาคตของคนเขียนเลยทีเดียว

     

    ทั้งหมดนี้คือการสรุปคร่าวๆ กับความรู้สึกของผมกับอนิเมะและมังงะของปี 2014 นี้ครับ แน่นอนว่ามันเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ก็อย่าหวังอะไรมากนัก ยอมรับว่าปีนี้ผมดูอนิเมะน้อยไปหน่อย ซึ่งผมก็หวังว่าปี 2015 จะมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอนิเมะที่ตั้งใจจะดูทำออกมาดีเกินคาด หรือมังงะใหม่ฮาเร็มซายซ่า หรือมังงะที่ติดตามจบโครตฮาเร็ม ซึ่งผมก็หวังอย่างงั้น

    ในปี 2015 ผมก็ยังคงมีเรื่องราวเกี่ยวกับการ์ตูนมาเขียนมากมายเหมือนเดิม และพยายามหลากหลายขึ้น ทันต่อเหตุการณ์ขึ้น เขียนเรื่องการ์ตูนของคนไทยมากขึ้น หากทุกท่านยังคงติดตามอยู่ ผมก็ยังคงอัฟต่อไปครับ

     
     

    สุดท้ายแนะนำบทความตอนที่ 209 อัฟใหม่ครั้งที่ 3  ขอบคุณครับ

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=125456&chapter=209

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×