ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #317 : Centaur's Worries ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนอยู่บนโลกใบเดียวกัน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 60


    'The Final Solution' หรือ ทางออกสุดท้าย นั้นเป็นชื่อรหัสของปฏิบัติการแก้ปัญหาชาวยิวครั้งสุดท้าย พูดง่าย ๆ ก็
    คือการที่ฮิตเลอร์สั่งให้ล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว  ซึ่งบรรดานาซีเห็นว่าจำเป็นต้องสังหารชาวยิวในยุโรปให้หมด ด้วยเหตุผลป้องกันสนับสนุนสงคราทำลายล้างชาวเยอรมัน  ป้องกันการถูกครอบงำเศรษฐกิจของยิว นอกจากชาวยิวแล้ว ฮิตเลอร์ก็สั่งให้ฆ่ายิปซี, กระเทย คนผิวดำ และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ เพื่อสร้างสายพันธุ์อารยัน

    อารยันนั้นเป็นความเชื่อของนาซี ที่เชื่อว่าเป็นเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์ของชาวเยอรมัน ที่เหนือกว่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธ์ในโลก และหากอารยันไปเกลือกกลิ้ง มีความสัมพันธ์กับสายพันธ์อื่นๆ แล้วละก็จะเลือดไม่บริสุทธิ์ (ขอโทษครับ แต่ระหว่างสงครามพี่แกพันธมิตรกับญี่ปุ่น คนผิวเหลืองนะครับพี่)

    เพราะความเชื่อบ้าๆ แบบนี้เอง ทำให้นาซีพยายามที่พิสูจน์ว่าอารยันเหนือกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยใช้โฆษณาชวนเชื่อ รวมไปถึงข้อมูลทางวิชาการผิดๆ เช่น ยิปซีมีแนวโน้มสูงในการก่ออาญากรรมเนื่องจากเลือดแตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ  ซึ่งปกติแล้วชาวยุโรปมีความรู้สึกเหยียดเชื้อชาติชาวยิวมานานแล้ว เพียงแค่นาซีราดน้ำมันเล็กน้อยบนกองเพลิงมันเท่านั้นมันก็กลายเป็นเพลิงทำลายในที่สุด

    การล้างเผ่าพันธุ์เริ่มต้นขึ้นในปี 1941 เมื่อหน่วยตำรวจตรวจเช็คชุมชนชาวยิว และทำการกวาดต้อน ค่ายกักกันถูกสร้างขึ้นเพื่อสังหารหมู่ด้วยก๊าซพิษ บางส่วนถูกนำไปทดลอง

                    ในตอนท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง คาดว่ามี 17 ล้านคนถูกฆ่าจากการล้างเผ่าพันธุ์ แบ่งเป็นชาวยิว 6 ล้านคน  ชาวยูเครน 3 ล้าน และโปแลนด์ 2,500,000 จำนวนนับไม่ถ้วนจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังรวมบุคคลที่พิกลพิการ, เกย์, คนแปลงเพศ และผู้ที่มีมุมมองทางการเมืองตรงกันข้ามกับนาซี

     

     

    ฮิตเลอร์และอารยันในเรื่อง วันวุ่น ๆ ของคุณเซนทอร์  

     

                 ทั้งหมดนี้คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการเหยียดเชื้อชาติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก แม้ว่านาซีจะล่มสลายไปนานแล้วก็ตาม แต่ความชั่วร้ายของนาซีก็ยังคงมีอยู่เสมอ และในขณะเดียวกันการรังเกียจมนุษย์ด้วยกัน การเหยียดเชื้อชาติก็ยังมีอยู่ไม่ได้หายไปไหน แม้ว่าทั่วโลกจะประณามเรื่องเหล่านี้ แต่สังคมกลุ่มเล็กๆ ก็ยังคงมีแนวคิดเหล่านี้ฝังรากลึกอยู่ดี  ทั้งๆ ที่สิ่งที่พวกเขาเกลียดนั้นไม่ได้ไปเผาบ้าน หรือฆ่าพ่อฆ่าแม่ของผู้เกลียดเลยแม้แต่น้อย

                 ยกตัวอย่างง่ายๆ ในบ้านเรา คนไทยบางส่วนเหยียดชาติลาว, กัมพูชา, พม่า หาว่าเป็นประเทศล้าหลัง ไร้การศึกษา เรามักเห็นมุกตลกล้อเลียนเอาคนลาว คนกัมพูชามาเป็นตัวโจ๊กให้คนหัวเราะ หรือสร้างข้อมูลผิดๆ ให้คนเห็นว่าประเทศเหล่านี้ด้อยกว่าประเทศตน แน่นอนว่าประเทศที่ถูกไทยล้อเลียนย่อมไม่ตลกกับเรื่องเหล่านี้แน่นอน

                 มนุษย์เรานั้นมักมีความคิดว่าตนเองนั้นสูงกว่าคนอื่น เมื่อสังคมมีหลากหลายเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนาที่แตกต่างกัน ก็ไม่แปลกที่มีการแตกแยกกัน เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเหนือกว่า และอย่าไปยุ่งเก่าเชื้อชาติอื่นๆ เดี่ยวจะติดโรค เป็นต้น

                 ในการ์ตูนญี่ปุ่นมีหลายเรื่องมากมักสอดแทรกเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ แต่จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ความสะดวกของเนื้อหา และในบทความนี้ก็ขอเสนอเรื่องวันวุ่น ๆ ของคุณเซนทอร์ หรือ Centaur's Worries ซึ่งเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่สอดแทรกประเด็นการเรื่องเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียส

     

     

    Centaur's Worries

     

                 Centaur's Worries  หรือชื่อไทยคือ วันวุ่น ๆ ของคุณเซนทอร์  เป็นการ์ตูนแนว Slice of Life, มอนสเตอร์เกิร์ล, School Life, Comedy เขียนโดย Kei Murayama จัดพิมพ์ในไทยโดย Siam Inter Comic เพิ่งออกมาเล่มแรก

     

                 เรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนี้เป็นชีวิตประจำวันของ "ฮิเมะ" หรือ คิมิฮาระ ฮิเมโนะ เด็กสาว ม.ปลายที่มีใบหน้างดงามหากแต่ร่างกายท่อนล่างนั้นเป็นม้า หรือก็คือ  "เซนทอร์" นั่นเอง หากแต่เธอก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา และไม่ได้มีแต่เธอเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ เพราะเธออยู่บนโลกหนึ่งที่ไม่มีมนุษย์อยู่เลย  แต่เต็มไปด้วยพวกครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ต่างๆ หลากหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน หลักๆ ก็มี เผ่าเซนทอร์, เผ่ามังกร (มีปีกเหมือนค้างคาว, เผ่ามีเขา (เขาเหมือนแกะ), เผ่ามีปีก (มีวงแหวนเหมือนเทวดา), ผ่าเงือก, เผ่าหูแมว, เผ่ากบมีสี่มือ , เผ่างูขั้วโลก ฯลฯ

                 แม้จะมีพวกครึ่งสัตว์มากมาย แต่ก็มีอะไรหลายอะไรมากมายเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ ไปจนถึงสถานการณ์บ้านเมืองของโลก!! และนี่คือเรื่องราวของเผ่าพันธุ์กับชีวิตประจำวันอันแสนเรียบง่ายบนโลกใบนี้

                 ดูเผินๆ แล้ว จะเป็นแนวชีวิตประจำวัน (ของพวกผู้หญิง) เหมือนการ์ตูนทั่วไป ที่ไม่หวือหวาอะไรมากนัก เพียงแต่ใส่ความแปลกหน่อยๆ คือให้นางเอกเป็นเซนทอร์ และใช้ชีวิตบนโลกที่เต็มไปด้วยครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ต่างๆ เพียงแต่เรื่องนี้มีอะไรมากกว่านั้น และทำได้น่าอ่านด้วย

                 อย่างแรกเลย คาแร็คเตอร์ ปกติแนวใช้ชีวิตประจำวัน จะใช้คาแร็คเตอร์ผู้หญิงน่ารัก หากไม่น่ารั ใช้ผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ ก็คงไม่มีคนมาอ่านแน่  แน่นอนว่าฮิเมะแม้จะเป็นเซนทอร์ แต่หากตัดครึ่งม้าออกไป เธอก็เป็นเด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง หรือแม้แต่เพื่อนเธอก็น่ารัก “โนโซมิ” เผ่ามังกรทอมบอยน่ารักมากๆ   (ปล. พวกผู้ชายในเรื่องนี้ไม่ค่อยมีโซตะน่ารักเลยพับผ่า) แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ แต่อย่างไรก็ตามลายเส้นของการ์ตูนเรื่องนี้ ค่อนข้างเป็นลายเส้นที่สื่อบรรยากาศแปลก ๆ เข้าไป จนดูเหมือนเป็นโลกพิศวง มากกว่าลายเส้นโมเอะที่ดูสดใส  และเรื่องนี้ก็มีสาวในลักษณะที่ดูแล้วไม่น่ารัก โดยเฉพาะน้องงูขั้วโลก (แต่นิสัยน่ารักนะเอ่อ)

                 นอกจากจุดเด่นเรื่องการดำเนินชีวิตประจำวันของสาวๆ มอนสเตอร์แล้ว (นอกจากฮิเมะ ยังมีชีวิตประจำวันของตัวละครอื่นด้วย บางตอนก็เป็นของตัวละครตัวประกอบ แต่ที่เด่นสุดแล้ว ชีวิตประจำวันของหัวหน้าห้องก็เด่นไม่แพ้กัน จนหลายครั้งขโมยซีนน้องเซนทอร์ได้อีกต่างหาก)  สิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้เน้นมาก (ถึงมาก) คือการทำให้คนอ่านเข้าใจโลกในการ์ตูนเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้รู้สึกอินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่ข้อมูลมากโลกนี้ ว่าเหล่าครึ่งคนครึ่งสัตว์เกิดจากอะไร (วิวัฒนาการ) ทำไมถึงไม่มีมนุษย์ธรรมดาอยู่ ไปจนถึงประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์ต่างๆ กฎหมายระหว่างเผ่าพันธุ์ (เน้นหนักการห้ามเหยียดเชื้อชาติเผ่าพันธุ์) และปัญหาเผ่าพันธุ์อื่น ทำให้ดูแล้วน่าสนใจไปอีกแบบ จนทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีประเด็นเรื่องการจิกกัดสังคมเข้าไปด้วย

                 การสร้างโลกของคนเขียนเรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ นอกจากจะใส่ข้อมูลโลกที่ตัวเอกอยู่แล้ว ยังใส่การใช้ชีวิตของพวกคนครึ่งสัตว์ เผ่าพันธุ์ต่างๆ เข้าไปด้วย แม้ว่านิสัยของพวกครึ่งคนครึ่งสัตว์จะเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป แต่ด้วยสรีระแตกต่างจากมนุษย์ ทำให้ข้าวของเครื่องใช้แตกต่างกันออกไป อย่างเซนทอร์ตัวจะใหญ่โต บ้านจะต้องมีขนาดใหญ่ไปด้วย แถมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าก็ต้องปรับให้มีขนาดใหญ่เพื่อเผ่าพันธุ์นี้ด้วย


     

    ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนอาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน

     

                 อย่างที่บอก Centaur's Worries นอกจากจะเป็นการ์ตูนนำเสนอชีวิตประจำวันคุณเซนทอร์กับผองเพื่อนแล้วสิ่งที่การ์ตูนมุ่งเม้นจริงๆ คือ ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนอยู่บนโลกใบเดียวกัน

                  แม้ว่าทุกวันนี้ลัทธินาซี อารยันนั้นหมดไปแล้ว แต่ความคิดการเหยียดสีผิว การเหยียดชาติก็ยังคงอยู่ และความคิดนี้ยังรุกรานเป็นสงคราม การสังหารหมู่ ลัทธิเหยียดผิว ฯลฯ ทำให้ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า “โลกนี้สงบสุข” นัก  มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ปัญหาโลกแตกที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้เพราะความแตกต่างทางพันธุ์ ลักษณะกายภาพ วัฒนธรรมต่างกัน ศาสนาต่างกัน ทำให้แตกต่างทางความคิด ความเห็นไม่ร่องรอย (ต่างฝ่ายต่างอยากได้ผลประโยชน์มากเท่าที่จะมาดได้) กันนั้นเอง

                 Centaur's Worries ได้จับประเด็นนี้  ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการวางมุมมองชาติพันธุ์ โดยการปรับเป็นเผ่าพันธุ์ให้ชัดเจนมากขึ้น  เช่น ตัวแทนของทวีปแอฟริกาเป็นกบสีมือน่าเกลียด  (เปรียบเหมือนคนผิวดำ) ที่ดูแล้วล้าหลัง และดูป่าเถื่อน ส่วนมนุษย์งูขั้วโลกใต้ที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของทวีปหรือประเทศไหน (หรืออาจเป็นเกาหลีเหนือ ไม่ก็ยิวก็ได้มั้ง) แต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ลึกลับ  ฉลาดและน่ากลัวสำหรับคนบนโลก และที่สำคัญกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่โดนเหยียดมากที่สุดในเรื่อง

                 ในขณะที่เผ่าพันธุ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เผ่ามีเขา, เผ่าหูแมว, เผ่าเงือก, เผ่าเซนทอร์, เผ่ามีปีก เป็นตัวแทนของเอเซีย, ประเทศตะวันตก มีลักษณะที่ดูดีกว่า  โมเอะด้วย และเผ่าพันธุ์ทั้งหมดอาศัยอยู่ร่วมกัน   (พูดง่ายๆ ในแต่ละประเทศมีหลากหลายเผ่าพันธุ์นั้นแหละ)

                 สิ่งเหล่านี้คือการมุมมองการมองภายนอกทั้งสิ้น ที่เราตัดสินการเหยียดชาติพันธุ์จากลักษณะกายภาพ ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ตอบย้ำด้วยลักษณะกายภาพลักษณ์ครึ่งคนครึ่งสัตว์

                 หลังจากที่การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินหลายๆ ตอน เราจะเห็นว่าโลกของฮิเมะนั้นเหยียดเผ่ามนุษย์งูขั้วโลกใต้ (เหยียดเชื้อชาติ) โดยเฉพาะเผ่ามนุษย์งูขั้วโลกใต้ (ในเรื่องพวกฮิเมะจะเรียก ชาวขั้วโลก เพราะหากว่ามนุษย์งูจะเหยียดเผ่าพันธุ์)  เพราะมีรูปร่างน่ากลัวน่าเกลียด เมื่อรูปร่างแบบนี้ นิสัยก็ต้องชั่วร้ายมาก ซึ่งเป็นปกติของมนุษย์ที่มองคนภายนอก แถมยังมีข้อมูลผิดๆ เข้ามาส่งเสริมให้คนภายนอกเกลียดอีก เป็นต้นว่า เป็นผู้ปกครองโลกในเงามืด, กลายเป็นตัวตลกในหนังสยองขวัญ, มีอาวุธลับ  (เหมือนกับข้อมูลเกาหลีเหนือแบบผิดๆ ที่ส่งเสริมให้คนเกลียดเกาหลีเหนือนั้นแหละ)

                 แต่สิ่งที่แปลกคือ แม้ว่าประเด็นเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ใน Centaur's Worries จะอ่อนไหวมาก ขณะที่อีกซีกโลกรบกันเลือดสาด แต่ทางด้านฮิเมะกับเพื่อนๆ มิ้งมุ๊งอย่างสงบสุข ไม่ได้สนใจเรื่องราวเหล่านี้มากนัก

                 ปกติแล้วประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มีเผ่าพันธุ์เยอะอะไรมากมาย ไม่เหมือนประเทศจีน หรือประเทศอัฟกานีสถานที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ตามจุดต่างๆ ของประเทศมากมาย ด้วยเหตุนี้ประเทศญี่ปุ่นจึงไม่ได้เหยียดชาติพันธุ์เหมือนเรื่องอื่นๆ ยกเว้นการดูถูกประเทศอื่น (โดยเฉพาะประเทศเกาหลี) ในด้านความเจริญอะไรมากกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้วประเทศญี่ปุ่นเคารพคนอื่นค่อนข้างมาก

                 ดังนั้นการสร้างเผ่าพันธุ์มากมาย และเป็นประเทศญี่ปุ่น ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า ต่อให้ญี่ปุ่นมีเผ่าพันธุ์มากมาย แต่พวกเขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไร้ซึ่งความขัดแย้งเหยียดเชื้อชาติ

     

     

                 เรื่องนี้มาชัดเจนในเล่มที่ 3 เมื่อมนุษย์งูขั้วโลกใต้ชื่อ “เกวตซัล โกฮัตล์ ซัสซาซูล”  มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของห้องฮิเมะ

                 แน่นอนว่าตอนแรกๆ คนในห้องของฮิเมะก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน โดยเฉพาะฮิเมะที่รู้สึกกังวล ว่าพวกเขาจะสามารถเข้ากับน้องงูขั้วโลกใต้ได้หรือเปล่า แถมเมื่อเช้าพวกตนพึ่งเอาเรื่องมนุษย์งูขั้วโลกใต้มาพูดเล่นเชิงล้อเลียนอย่างสนุกสนาน

                 อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นที่ญี่ปุ่นที่ชอบอะไรที่แปลกๆ ใหม่ๆ หลังจากที่ได้พูดคุย ทำความรู้จักกับน้องงูขั้วโลกใต้ก็พบว่า มนุษย์งูขั้วโลกใต้ก็เหมือนกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่รักสงบ ชอบการเรียนรู้ และอยากเป็นเพื่อนๆ กับทุกคน

                 และยิ่งคบไปนานๆ ก็พบว่ามนุษย์งูขั้วโลกใต้นั้น แม้ภายนอกจะดูน่ากลัว แต่ความจริงแล้วเป็นสาวจิตใจดีงาม น่ารัก ห่วงความรู้สึกคนอื่นๆ จนในที่สุดน้องงูก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของฮิเมะในที่สุด

                 ปกติแล้วสาเหตุที่เรามักเกลียดชาติพันธุ์ก็เนื่องมากจากความรู้เพียงผิวเผินจากสื่ออื่นๆ เป็นต้นว่า ภาพยนตร์ หรือคำบอกเล่าของคนภายนอก การตรรกะความคิดที่มองเพียงแค่ดูประวัติศาสตร์ในด้านไม่ดี, มีความด้อยกว่า, มีศาสนาแตกต่างกัน, ธรรมเนียมแตกต่างกัน ซึ่งเราแทบไม่ได้เคยพบกับคนชาติพันธุ์นั้นแบบตัวต่อตัวเลย

                 น้อยมาที่คนเราจะเกลียดชาติพันธุ์เพราะเคยเจอคนชาติพันธุ์นั้นแบบตัวเป็นๆ และคบหา จนรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้ หรือสร้างความแค้นที่เกิดความเกลียด  ทั้งหมดนี้เกิดจากความ “โง่เขลา” และ “ความเลว” ของตนเองที่ยกตัวเองให้สูงขึ้น ส่วนคนอื่นกดให้ต่ำอยู่ เชื่อว่าหากเรารู้จักกันแล้วกันเรียนรู้นิสัยใจคอของแต่ละฝ่ายมากกว่านี้ก็คงไม่เป็นเช่นนี้

                 นอกเหนือจากนี้ Centaur's Worries ยังนำเสนอรักข้ามสายพันธุ์ หรือถ้าเปรียบกับโลกเรา ก็คงรักต่างเชื้อชาติ เพียงแตเรื่องนี้เปลี่ยนเป็นรักข้ามสายพันธุ์ ชีวภาพ แม้ว่าในเรื่องจะบอกว่าการรักข้ามสายพันธุ์นั้นจะทำให้ลูกออกมาพิกลพิการ อ่อนแอ แต่ในในเรื่องรัฐบาลสนับสนุน เพราะหากห้ามรักข้ามสายพันธุ์ถือว่าเป็นหนึ่งการเหยียดเชื้อชาติก็ตาม

                 บนโลกเรานี้แม้จะมีหลากหลายเผ่าพันธุ์ แต่ทั้งหมดก็เป็นมนุษย์ มีเลือด เนื้อ จิตใจเหมือนกัน และต้องการอยู่อย่างสันติ สงบสุขเหมือนกัน แม้จะมีมนุษย์บางคนที่นอกคอกบ้าง แต่นั้นก็ไม่ใช่ตัวกำหนดให้เรามองว่าคนนอกคอกนั้นเหมือนกันหมด อย่าคิดว่าเราอยู่สูงกว่าคนอื่น ควร เคารพ ซึ่งกันและกันคือสิ่งพื้นฐานที่สุดในฐานะเพื่อนมนุษย์

     

     

    ฉากเซอร์วิสเรื่องนี้

     

                 แม้สังคมจะไม่ยอมรับรักข้ามสายพันธุ์และเป็นประเด็นที่อ่อนไหว แต่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ารักข้ามสายพันธุ์ก็สามารถอยู่ร่วมในสังคมอย่างสงบสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างหนุ่มหูแมวกับน้องเงือก  

                 ดูเหมือนการ์ตูนเรื่องนี้ยังให้ความสำคัญกับครอบครัวเช่นกัน บางทีอาจมากกว่ามิตรภาพระหว่างเพื่อนๆ ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะครอบครัวของหัวหน้าห้องเผ่ามีปีก แต่พ่อเป็นมนุษย์แมว และต้องเลี้ยงดูพวกน้องๆ สามคนเป็นมนุษย์แมว และน้องอีกคนเป็นลูกผสมเผ่าหูแมวและเผ่ามีปีก ร่างกายอ่อนแอ แต่หัวหน้าห้องก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด แถมประคบประหงมเอาใจใส่น้องๆ เท่าเทียมกัน แสดงให้เห็นว่าความรักของครอบครัวนั้นสำคัญกว่าเชื้อชาติเสียอีก

                 แม้ว่าสังคมเซนทอร์มีมุมมืด ประเด็นสังคมที่อ่อนไหว ปรากฏอยู่ แต่มันเป็นเพียงเล็กน้อย ตราบใดที่เซนทอร์และเพื่อนๆ ยังคงเคารพเพื่อนมนุษย์ พวกเขาก็สามารถทำลายความอคติเหล่านี้ได้ และก็ยังอยู่อย่างสงบสุขเช่นเดิม

                 Centaur's Worries จึงเป็นการ์ตูนที่เป็นมากกว่าการ์ตูนชีวิตประจำวันทั่วไป  

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×