Rockman Special Day
ผู้เข้าชมรวม
792
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Rockman Special Day
Part1 : The Valentine Day
(ความรักของสามฮันเตอร์)
By : vava2 staff : My brother
หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเกมส์จริงๆและไม่ได้ต่อเนื่องมาจากการ์ตูนร็อกแมน ดังนั้นนิยายเรื่องนี้จึงไม่มีมาตี้นั้นเอง
---------------------------------------
เอ็กซ์หรือร็อกแมนเอ็กซ์เขาเป็นฮันเตอร์ระดับBซึ่งเข้ามาอยู่ในฐานะน้องใหม่ แต่ด้วยความสามารถในการสู้รบและตำนานของเขา ทำให้เขาได้รับตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าของหน่วยที่17ซึ่งใครๆก็เรียกหน่วยนั้นว่า ‘คนรับใช้แห่งอิเลกุล่าห์ฮันเตอร์’ เอ็กซ์นั้นสามารถกู้วิกฤตหยุดยั้งแผนการณ์ของซิกม่าได้ถึง6ครั้ง6คร่า แม้บางครั้งจะต้องสูญเสียบุคลากรในการทำงานไปมาก แต่ก็ยังน้อยกว่าตอนที่ไม่มีเขาอยู่อีกถึงสองเท่า นั้นแสดงว่าเขาคือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง
“วันอาทิตย์นี้ทำไมมันไม่มีเวลาเข้าเวรหว่า....” เอ็กซ์ หรือ ร็อกแมนเอ็กซ์บุรุษในตำนานสีฟ้าผู้ลือชื่อ กำลังนั่งบ่นพึมพำอยู่กับปฏิทินตารางรายงานเวลาการทำงานของเขาอยู่ในห้องของเขาเอง เขาสวมกางเกงยีนสีขาวเสื้อสีน้ำเงิน แต่ก็ยังสวมเกราะหมวกไว้อยู่ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าวันอาทิตย์นี้มีงานอะไรเกิดขึ้น
เอ็กซ์หรือร็อกแมนเอ็กซ์ เป็นหนึ่งในสามทหารเสือแห่งอิเลกุล่าห์ฮันเตอร์ที่ได้รับเล่าลือว่าเป็นคนที่เก่งที่สุดในกลุ่ม ฉลาดคิดกล้าวางแผน แต่เขานั้นก็บ้างานเป็นบ้าเป็นหลัง จนบางครั้งก็ลืมทานเอเนจี้ฟูด(อาหารสำหรับหุ่นยนต์ให้รสชาติแบบอาหารของมนุษย์ได้) จนเครื่องเจ้าตัวต้องเตือนจึงจะลงมากินข้าวได้ คราวนี้ก็เช่นกัน เอ็กซ์ลืมไปเสียแล้วว่าทำไมวันอาทิตย์นี้ถึงได้มีเวลาว่างเยอะนัก
“อย่างนี้ต้องไปถามเอเรียซะแล้ว” ในที่สุดเอ็กซ์ก็ตัดสินใจไปหาโอเปอเรเตอร์ของเขา
เอ็กซ์เดินออกจากห้อง จากนั้นก็ลงจากหอพัก(เป็นหอพักเหรอ?)ชายจากนั้นก็ไปยังหอพักหญิงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกัน ซึ่งรู้สึกว่าพวกผู้หญิงจะหายไปไหนก็ไม่รู้กันหมดเลย(ไปซื้อของกับแฟนในตลาด) เอ็กซ์เดินขึ้นบันไดที่ละขั้นทีละขั้นจนถึงชั้นสี่
“ห้องของเอเรีย C-14 สินะ” เอ็กซ์พูดและเดินดูป้ายชื่อห้องเรื่อยๆ จนมาถึงห้องซีสิบสี่ซึ่งประตูนั้นแง้มออกไว้อยู่ เอ็กซ์นั้นเปิดประตูเข้าไปด้วยความเคยชิน(เพราะตอนเข้าห้องบอสก็ไม่เคยเคาะประตูเลย บางครั้งโดดถีบด้วยก็มี)
“เอเรียฉันมีปั.....เออ....” เอ็กซ์เดินมาถึงจุดที่ตั้งเตียงนอนของเอเรีย ก็กลับพบว่าเอเรียที่สวมชุดชั้นในสีขาวบางอยู่นั้นกำลังจะสวมเสื้อผ้าชั้นนอกอยู่พอดี
“อ้าว? เอ็กซ์มีอะไรเหรอจ๊ะ” เอเรียมองด้วยความสงสัย เจ้าหล่อนก็ไม่ได้เร่งใส่ชุดอะไรนัก แต่ชายหนุ่มวีรบุรุษนั้นหน้าแดงไปแล้ว
“ก.....เกี่ยว....เกี่ยวกันเรื่องงานนะ....แต่ฉัน...เออ....ขอออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้.....นะ” เอ็กซ์พูดด้วยท่าทีเขินๆ ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เอเรียยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย
“แฮ่กๆๆ โอ้ประเจ้า แฮ่กๆๆๆ” เอ็กซ์ที่ยืนอยู่นอกห้องหอบอย่างแรง เพราะเขาไม่เคยเห็นเอเรียในชุดอื่นเลยนอกจากชุดโอเปอเรเตอร์ มิหน่ำซ้ำเล่นใส่แต่ชุดชั้นในด้วย หัวใจเอ็กซ์บางๆ ไม่มีทางรับมือ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิ... (เฮ้ย!!! ไม่ใช่เพลงนะเว้ย)
“มาแล้วจ้า มาแล้ว^.^” เอเรียเปิดประตูออกมา ชายที่นั่งอยู่หน้าห้องมองหญิงร่างบางตรงหน้าอย่างตะลึง เพราะเอเรียนั้นถอดเฮดโฟนออกและปล่อยผมให้ยาวสลวยถึงกลางหลัง ชุดที่ใส่ก็เป็นเสื้อผ้าสีชมพูเรียบๆธรรมดา ไม่ได้ฉูดฉานอะไรมากนัก แต่ก็เหมาะสมกับเธอเป็นอย่างดี แถมมีกิ๊บติดผมที่เอ็กซ์เคยให้ในวันปีใหม่ติดที่ปอยผมอีกด้วย
“เออ....” เอ็กซ์ยังตกตะลึงไม่หาย ประมาณว่าถ้าเอเรียมีปีกก็คงแยกระหว่างเรพลิลอยกับนางฟ้าไม่ออกเลยทีเดียว
“มีอะไรเหรอจ๊ะเอ็กซ์ อ้ำอึงอยู่ได้” เอเรียถาม
“ก็...เออ....อยากจะถามหน่อยนะว่า ทำไมเวลาช่วงนี้ถึงได้ว่างเยอะจังละ” เอ็กซ์ส่ายหน้าคลายความรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะคว้าใบตารางรายงานขึ้นมา มือก็ชี้ไปยังช่องว่างวันอาทิตย์ซึ่งก็คือวันนี้ๆเอง
“หือ...คิกๆๆๆๆ” เอเรียหัวเราะเบาๆออกมา
“มีอะไร....หัวเราะทำไมอะ”
“คิกๆๆ เอ็กซ์....เธอลืมรึเปล่าว่าวันนี้เป็นวันอะไร”
“แล้วมันวันอะไรละ?” เอ็กซ์ยิ่งทำหน้างงหนักเข้าไปอีก
“วันนี้ก็เป็นวันวาเลนไทน์ไงจ๊ะ”
“เออ....ใช่....” เอ็กซ์ทำท่าเหมือนนึกออก เอเรียยิ้มพลางคิดว่า ‘ลืมอีกแล้วนะ เอ็กซ์คุงเนี้ย’
“เอ็กซ์ นายไม่มีที่ธุระที่ไหนเลยเหรอ”
“อืม....” เอ็กซ์ตอบไปอย่างงง สงสัยว่าเอเรียถามทำไม
“งั้นช่วยไปตลาดเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ขับเจทไบท์ไปนะ ฉันไม่อยากเดิน”
“เออ...อืมๆ ยังไงก็ไม่มีอะไรทำแล้ว ไปซักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
แล้วเอ็กซ์กับเอเรียก็เดินลงจากหอพักหญิง ไปยังโรงจอดรถของฮันเตอร์ซึ่งมีเจ็ทไบท์ประจำตำแหน่งของเอ็กซ์อยู่ ซึ่งเป็นแบบโดยสารไม่ติดปืนหรือใบมีด เอ็กซ์นั่งควบโดยมีเอเรียซ้อนท้าย เครื่องยนต์ของเครื่องเจ็ทเริ่มทำงาน มันค่อยๆลอยสูงจากพื้นเรื่อยๆ
“เกาะให้ดีนะเอเรีย” เอ็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เอเรียพยักหน้ารับ
ฟ้าว~~~ รถออกตัวกระชากอย่างรวดเร็ว เอเรียตกใจเอามือกอดเอวของเอ็กซ์ไว้ เอ็กซ์หน้าแดง แต่ก็ยิ้มแปลกๆออกมา เจ็บไบท์ออกจากฐานฮันเตอร์พุ่งตรงไปยังเมืองอย่างรวดเร็ว
- The
ซีโร่หรือที่ได้สมญานามว่า “ปีศาจแดงซีโร่” เขาเป็นฮันเตอร์ระดับSA ด้วยความสามารถและความเย็ยชาที่แสนน่ากลัวของเขา ทำให้เขาได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในสามทหารเสือแห่งอิเรกุล่าห์ฮันเตอร์ อีกทั้งเขายังเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษ0 ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษ ถือได้ว่าเป็นหน่วยที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของอิเร่กุล่าห์ฮันเตอร์ หากเห็นกองกำลังของเขาอยู่ในการสู้รบ นั้นแสดงว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นร้ายแรงยิ่งนัก
ซีโร่บุรุษผู้มีใบหน้าสีเย็นชายืนถือดอกไม้ช่อสีขาวต่อหน้าแท่นหินขนาดใหญ่ที่สลักชื่อเขียนไว้ว่า ‘Iris’ ปีศาจแดงคุกเข่าลงและวางดอกไม้ลงที่หน้าแท่นหินนั้น ในใจก็คิดถึงเหตุการณ์ในอดีต พลางนึกเสียใจที่ทำเช่นนั้นไป
“ไอริช.....ถ้าตอนนั้น ตอนนั้นฉันไม่พลั้งมือฟันอย่างแรงละก็ เธอก็คงจะ.....” ซีโร่พูดออกมาเบาๆถ้าตัวเขาน้ำตาไหลได้ มันคงจะหลั่งไหลออกมาแล้ว ซีโร่มองดูมือของตัวเอง
“วันนี้ฉันก็คงจะมี.....เธออยู่ข้างๆ......ไม่ใช่ต้องเงียบเหงาเหมือนวันนี้”
ซีโร่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ภาพที่เขาฟันเพื่อนที่เขารักที่สุดขาดสองท่อน ต่อหน้าต่อตาน้องสาวของเพื่อนเขาเอง และภาพของเขาที่ฟันไปไอริชในชุดเกราะอย่างแรงจนทำให้ไอริสบาดเจ็บสาหัส ถ้าเขาไม่ฆ่าคาเนล ถ้าเขาไม่ทำไอริสคงไม่สิ้นคิดทำเช่นนั้น ภาพสุดท้ายที่ทำให้เขาปวดใจมากที่สุดก็คือ ภาพของไอริชที่บาดเจ็บสาหัสในอ้อมแขนของเขา เอ่ยคำพูดสุดท้ายออกมา และตายในอ้อมแขนของเขา อ้อมแขนที่รักเธอที่สุด แต่ก็เป็นอ้อมแขนที่ทำร้ายเธอเช่นกัน
“ขอโทษ.....ไอริช......ฉันจะรักเธอตลอดไป.....”
“ฮ่าๆๆๆ นั้นรึปีศาจแดงนะ เศร้าเพราะผู้หญิงคนเดียว ตลกเป็นบ้าเลย ฮ่าๆๆๆ” มีเสียงหัวเราะลั่นดังมาจากข้างหลัง ซีโร่หันไปมองดูต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ก็พบกับชายในผ้าคลุมสีดำ มีฮูทปิดหน้ามิดชิดจนมองไม่เห็นใบหน้าของผู้คลุม ยืนอยู่
“แกเป็นใครนะ!!!” ซีโร่ตะโกนใส่ชายคนนั้น
“หึๆๆ ข้าคือใครไม่ต้องสน ข้ารู้แต่ว่าข้าไม่ยอมให้ปีศาจเศร้าใจแน่ รับมือ!!!!” ชายผ้าคลุมดำพุ่งมาหาซีโร่อย่างรวดเร็ว
“โง่มากที่พุ่งเข้ามาโจมตีตรงๆนะ!” ซีโร่ฟาดเซเบอร์ใส่ชายที่พุ่งเข้ามา แล้วก็... ‘แก๊ง!!!’ มีบางอย่างสกัดกั้นคมดาบของซีโร่ไว้ได้ก่อนจะถึงตัวมัน
“บ้าน่า.....แกก็ใช้เซเบอร์เป็นอาวุธรึเนี้ย!!!” ซีโร่พูดออกมาอย่างตกใจ เพราะชายในผ้าคลุมที่อยู่เบื้องหน้านั้นยกเซเบอร์สีม่วง(ที่ดูน่าคุ้นเคย)ออกมาป้องดาบของซีโร่ไว้
“ใจร้อนไปนะ.....ซีโร่....” ชายในผ้าคลุมหมุนตัวเตะใส่ซีโร่ ทำให้ซีโร่กระเด็นไปข้างหลัง ชายในผ้าคลุมพุ่งตามเข้าไปฟันอีกครั้ง ซีโร่ได้แต่ปัดป้องดาบที่อีกฝ่ายฟาดฟันมา ชายในผ้าคลุมก่อนจะตีลังกาไปข้างหลังและก็... “คมเคียวคลื่นนรก!!!!” ชายในผ้าคลุมตวัดดาบสีม่วงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดคลื่นพลังรูปเคียวสีม่วงขนาดใหญ่พุ่งไปหาซีโร่อย่างรวดเร็ว
“นี้มัน!!! ย้า!!!” ซีโร่รู้สึกว่าท่านี้เคยเห็นมาที่ไหนมาก่อน แต่ซีโร่ก็หยิบเซเบอร์มาตั้งเฉียงป้องกันไว้ แรงพุ่งของคลื่นพลังส่งผลให้ร่างซีโร่ไถลครูดไปข้างหลังไกลพอสมควร
“หน่อยแนะ~~~ เฮ้ย!!!” ซีโร่ตกตะลึงอย่างยิ่งเพราะชายในผ้าคลุมปรากฏตัวต่อหน้าเขา
“เศร้าใจสิเจ้าปีศาจ เสียใจเลย เจ้าไม่สมควรได้รับสมญานามว่า ‘ปีศาจแดง’ หรอก ฮ่าๆๆๆ”
“ทำไม!!!” ซีโร่ถามขนาดที่รับหมัดและเตะของชายในผ้าคลุมที่กระหน่ำมาไม่หยุดมือ ดูเหมือนทั้งคู่จะเปลี่ยนการสู้รบจากใช้เซเบอร์เป็นใช้หมัดแล้ว เพราะซีโร่นั้นโยนเซเบอร์ทิ้งไปแล้ว
“ผู้ที่จะได้รับสมญาว่าปีศาจนะต้องเยือกเย็นกว่านี้ ไม่เสียใจกับเรื่องที่แก้ไขไม่ได้แล้ว และมุ่งมั่นที่มองไปข้างหน้า ไม่ใช่จบปลักอยู่กับที่เดิมแบบนี้หรอก!!!!” ชายในผ้าคลุมตะโกน ก่อนจะหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางใส่หน้าของซีโร่ แต่เขาก็ก้มหลบได้ทัน
“เยือกเย็น.....เสียใจ.....” ซีโร่แม้จะสู้อยู่ แต่ก็ชะงักกับคำพูดของชายในผ้าคลุม
“ฮึๆๆ เจ้านะเป็นปีศาจมาตั้งแต่เกิดแล้ว เจ้าไม่มีทางเปลี่ยนชะตาของเจ้าได้ เจ้าฆ่าเพื่อนของเจ้าอีกริด ฆ่าเพื่อนรักคาเนล แถมฆ่าคนที่เจ้ารักและรักเจ้าไอริสไปอีก ฮึๆๆๆ เจ้าน่าจะเป็นอิเร่กุล่าห์ได้แล้วนะ ซีโร่.....”
“.........”
“เจ้าคือซาตานที่ทำทีเป็นวีรบุรุษ หลายครั้งเจ้าเกือบฆ่าคู่หูของเจ้าให้ตายถึงหลายครั้ง ร็อกแมนเอ็กซ์เคยเกือบตายเพราะเจ้าหลายครั้ง” ชายในผ้าคลุมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรังเกียจชายที่อยู่เบื้องหน้า เขารับหมัดของซีโร่และเตรียมสวนกลับ
“แต่นั้นเป็นเพราะไวรัสนะ!!!!! อั๊ค!!!” ซีโร่ถูกชกล้มลงไป ชายคนนั้นหยิบเซเบอร์ออกมาจ่อที่หน้าอกของซีโร่
“ไม่ใช่เพราะไวรัส แต่เพราะตัวเจ้าเองต่างหากที่อ่อนแอจนถูกข้าควบคุมได้นะ”
“เอ๊ะ?”
“ดูซะ!” ชายในผ้าคลุมจับฮูทสีดำดันไปข้างหลัง ปล่อยผมยาวๆสีม่วงอ่อนๆยาวไปถึงกลางหลัง เขาคนนี้มีหน้าตาเหมือนซีโร่มาก แต่มีเกราะหมวกสีม่วง สีผิวก็เป็นสีม่วงอ่อนๆ และมีดวงตาสีแดงฉานสมกับเป็นปีศาจร้าย
“แก.....แกคือ ไนแมร์ซีโร่!!!!” ซีโร่ตกใจมาก เพราะชายคนนี้ก็คือไวรัส ไวรัสที่เคยอยู่ในตัวเขาเอง และเขาไม่คิดว่าเขาจะต้องมาสู้กับตัวของตัวเอง
“เจ้าตัวปลอมเอ่ย.....เจ้าแย่งชิงร่างกายข้า ข้ายอมได้ แต่ข้าไม่ยอมให้เจ้าเอาร่างกายข้ามาใช้ทำเรื่องทุเรศแบบนี้หรอก ดังนั้น.....ข้าจะทำลายเจ้าและเอาร่างข้าคืนมาซะ!!!!” ไนแมร์ฟาดดาบใส่ซีโร่อย่างรวดเร็วและรุนแรง แล้วก็..... “แก๊ง!!!!”
สายลมสีม่วงมาช่วยซีโร่ไว้ ผมสีม่วงสยายไปกับสายลม หญิงสาวในชุดกางเกงผ้ายืดแนบเนื้อสีสีดำ เสื้อแขนยาวสีม่วง ยกเซเบอร์รูปสามเหลี่ยมสีเขียวบางมารับเซเบอร์ของไนแมร์ไว้
“ฉันไม่ยอมให้ทำ....หรอก....” เลเยอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสู้ดีนัก ไนแมร์ยิ้มก่อนจะตีลังกาไปข้างหลัง เก็บเซเบอร์ไว้
“หึๆๆๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปีศาจจะต้องให้ผู้หญิงมาปกป้องอีกแล้ว....”
“ว่าไงนะ!!!” ซีโร่กล่าวอย่างโกรธๆ
“คุณไม่มีสิทธิทำเช่นนี้กับคุณซีโร่นะ ถึงแม้จะเป็นปีศาจ แต่ก็ต้องมีเวลาทีอ่อนแอบ้าง ก็เพื่อให้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เป็นแค่จักรกลสงครามหรอกนะ” เลเยอร์กล่าวอย่างฉะฉาน ยกเซเบอร์ชี้ไปหาไนแมร์ ไนแมร์ยิ้มและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปหาเลเยอร์
“อ๊ะ!” เลเยอร์ตกใจ เมื่อไนแมร์ปรากฏต่อหน้าเธอ ก่อนจะจับเซเบอร์เธอไว้ มือก็จับคางของเลเยอร์เชิดขึ้น เซเบอร์สีเขียวบางถูกจ่อที่คอ ซีโร่มองอย่างตกใจ
“ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสามทางเลือก 1.ปลดอาวุธแล้วมาหาข้า ข้าจะปล่อยเธอคนนี้ไป แต่ข้าจะฆ่าเจ้า 2.เข้ามาจัดการข้า แต่ข้าก็จะฆ่าหญิงคนนี้ทิ้งซะ และข้าจะฆ่าเจ้ากับคนทั้งเมืองนี้ 3.ทำลายทั้งข้าและเธอคนนี้ทิ้งไป เอาละ....แกจะเลือกข้อไหน”
“ค...คุณ...ซีโร่....” เลเยอร์กล่าวอย่างสั่นๆด้วยความกลัว
“หน่อย~~~ แก~~~” ซีโร่กล่าวอย่างเจ็บแค้น
“เอาสิ....เลือกข้อไหนละ.....” ไนแมร์พูดย้ำอีกครั้ง
“คุณซีโร่.......” เลเยอร์มองซีโร่ที่ทำหน้าโกรธๆอยู่ พลางคิดว่าหากจัดการชายที่อยู่ข้างหลังไม่ได้ ซีโร่ต้องแย่แน่ “บางที....ฉันอาจสมควรตาย.....” เลเยอร์กล่าวออกมา ทำให้ไนแมร์และซีโร่ตกใจ “ฆ่ามันพร้อมกับฉันซะเถอะค่ะ.....”
“แต่....เลเยอร์.....” ซีโร่พูด
“ชีวิตของคนในเมืองนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ ไม่ต้องมาสนใจหุ่นตัวเดียวอย่างฉันหรอก ฆ่ามันพร้อมกับฉันซะ!!!”
“อืมมมมม....” ซีโร่คิดหนัก ก่อนจะคิดได้และโยนเซเบอร์ทิ้งไป
“ค.....คุณซีโร่.....”
“ฉันไม่ยอมเสียคนที่รักไปอีกคนหรอก ปล่อยเธอสิ แล้ว......มาฆ่าฉันซะ....”
“เอาจริงเหรอ?” ไนแมร์ถาม ซีโร่พยักหน้าอย่างเอาจริง ไนแมร์ถอดหายใจ ก่อนจะปล่อยตัวตัวของเลเยอร์และถอยห่างไป “ฉันไปละ....” ไนแมร์กล่าวลาเอาซะดื้อๆ
“เดี๋ยวก่อน!!! ทำไมไม่ฆ่าฉันละ!!!” ซีโร่ถามไนแมร์ ไนแมร์หันหลังพูดว่า
“มีคนขอร้องฉันมา บอกว่าให้ช่วยปีศาจแดงขึ้นจากความเศร้าเก่าๆที ให้ปีศาจได้พบรักใหม่ ไม่ใช่มาจบปลักกับรักเก่าที่กู้ไม่ขึ้นแล้ว”
“........”
“ชื่อของคนๆนั้นคือ ไอริช..... เธอขอร้องฉัน,k”
“อ๊ะ! อ....ไอ...ไอริสเหรอ....” ซีโร่พูดอย่างตกใจและหันไปดูไนแมร์ แต่ก็พบว่าไนแมร์สลายกลายเป็นอากาศธาตุไปแล้ว
“คุณ....ซีโร่....” เลเยอร์มองซีโร่ที่ทำหน้าเศร้าอยู่
“เลเยอร์” ซีโร่พูดขึ้นมาดื้อๆ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ค่ะ?”
“ถ้าไม่รังเกียจไปเที่ยวกับฉันในเมืองที” ซีโร่กล่าวโดยไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวผมม่วง ทั้งๆที่บนแก้มขึ้นสีชมพูน้อยๆ
“ด....ได้...ได้ค่ะ^^” เลเยอร์กล่าวอย่างดีอกดีใจ เพราะไม่เคยคิดว่าจะมีเวลานี้ได้ เวลาที่ปีศาจที่ตนหลงรักมาชวนไปเที่ยว เธอนึกว่าจะทำได้แค่รักเขาข้างเดียวซะแล้ว แล้วซีโร่ก็พาเลเยอร์ขึ้นรถเจทไบท์ ก่อนจะพุ่งหายลับไปตามถนนใหญ่ มุ่งสู่เมือง
กลับมาที่สุสานอีกครั้ง
“พอใจแล้วใช่ไหม.....” ไนแมร์นั่งไขว้ขาอยู่บนหินป้ายชื่อสุสาน มองดูหญิงสาวในชุดสีขาวบางผมสีน้ำตาลยาวสยายที่ยืนหันหลังอยู่
“ใช่แล้วจ๊ะไนแมร์คุง ขอบคุณมากเลยนะ” ไอริชในร่างไซเบอร์เอล์ฟหันหน้ามาหาไนแมร์ ใบหน้าสีนวลเรียว นัยน์ตาสีฟ้าคราม มีผมปรกหน้าเล็กน้อย ยิ้มอย่างสวยงามออกมา
“ไม่เป็นไร.....” ไนแมร์เสหน้าไปด้านข้าง หน้าแดงเล็กน้อย ไอริชยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปหาไนแมร์และคว้าแขนของไนแมร์ไว้
“เขากับฉันไม่มีทางได้รักกันแล้ว ดังนั้นถ้าเขายังเศร้าเสียใจกับฉันอยู่ก็คงเจอแต่ความทุกข์เท่านั้น สู้ให้เขาไปพบรักใหม่จะดีกว่า....” ไอริชพูดพลางก้มหน้านิ่ง ดูเหมือนจะร้องไห้ในไม่ช้า
“แต่ว่าเธอก็จะ อุ๊บ!” ไนแมร์พูดด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ถูกไอริชประกบปากปิดปากของไนแมร์ไว้ ไนแมร์หน้าแดงระเรื่อ แล้วไอริชก็ค่อยๆถอดปากออก “ไม่หรอก ก็มีเธอที่เหมือนตัวแทนของซีโร่ทั้งคนแล้วนี้หน่า”
“แบบนี้แปลว่าเธอรักข้าไม่ใช่เพราะตัวข้าเองงั้นเหรอ!!!” ไนแมร์กล่าวอย่างฉุนๆ กอดอกหันหลังให้ไอริช ไอริชยิ้มก่อนจะเอ่ยอกไปว่า “คิๆๆ หึงงอนเหรอเนี้ย ไม่คิดว่าเธอจะเป็นแบบนี้ไปได้”
“ม...ไม่...ไม่ใช่ซักหน่อยนะ....” ไนแมร์หันมาแก้ตัวลำล่ำละลัก พูดสั่นๆรั่วๆ ไอริชไม่ตอบก่อนจะคว้าไนแมร์เข้าใกล้ตน
“กลับหมู่บ้านเอล์ฟกันเถอะ ไนแมร์คุง~~” ไอริชกล่าวหน้าตาร่าเริง ไนแมรืที่หน้าแดงอยุ่พยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่ร่างของทั้งคู่ค่อยๆสลายกลายเป็นธาตุในอากาศ และรวมตัวกลายเป็นก่อนกลมๆเล็กๆส่องแสงแรงกล้าสีขาลนวล ลอยละล่องอยู่เหนือสุสาน ก่อนจะบินไปทางทิศเหนืออย่างรวดเร็วเคียงข้างกัน
- ณ ศูนย์พยาบาลเรพลิลอยในอิเรกุล่าห์ฮันเตอร์(น่าจะเรียกว่าศูนย์ซ่อมแซมมากกว่า)
หญิงสาวในชุดเกราะสีขาวนวล มีรูปสัญลักษณ์กาชาดติดอยู่บนตัว ที่กลางหลังมีเกราะรูปร่างคล้ายปีกสีทอง ดวงหน้าโค้งมล ดวงเนตรสีเขียวอ่อนๆ นับว่าหน้าตาดีพอสมควร กำลังเช็ครายชื่อยาในล็อตอยู่ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนลอบเข้ามาข้างหลังตนช้าๆและเงียบเชียบ ก่อนจะยืนมือมาปิดตาของหญิงสาวพยาบาลคนนี้อย่างรวดเร็ว
“จ๊ะเอ้!!! ใครเอ่ย...?” ชายคนข้างหลังถาม พยาบาลสาวค่อยๆจับมือที่ปิดตาไว้ลง และหันมาเผชิญหน้ากับคนที่ปิดตาตนไว้ “เล่นเป็นเด็กๆไปได้นะ เอ็กเซล.....”
เอ็กเซลเป็นฮันเตอร์คนใหม่ของอิเร่กุล่าห์ฮันเตอร ซึ่งแม้หน้าตาจะดูเด็ก แต่ก็อายุประมาณ22ปีได้แล้ว เขานั้นเคยเป็นนักฆ่าของสมาพันธุ์เรดอะเริท แต่เพราะทนในการกระทำของเรดอะเริทที่ฆ่าหุ่นยนต์ได้อย่างไร้หุ่นยนธรรม จึงย้ายมาเป็นฮันเตอร์ในHQแทน แม้ตอนแรกจะไม่ค่อยได้รับความยอมรับจากเอ็กว์เท่าไหร่ แต่ด้วยผลงานและพลังก๊อบปี้DNAของเขา ทำให้เอ็กซ์ต้องยอมรับตัวเขาในที่สุด
นี้ก็เป็นเวลาเกือบปีแล้วที่เอ็กเซลมาเป็นฮันเตอร์ นับตั้งแต่เหตุการ์ในเมืองกิก้าซิตี้จบลง ชินนามอนหรือหญิงสาวที่เอ็กเซลกอดไว้นั้นแหละย้ายมาเป็นพยาบาลประจำในฐานฮันเตอร์ ทั้งคู่นั้นต่างก็มีใจให้แก่กันซึ่งใครๆต่างก็รู้กันดี จึงไม่ค่อยมีผู้ชายที่ไหนมาจีบชินนามอนสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาไม่กล้าหือกับผู้ที่สามารถล้มซิกม่าได้อย่างเอ็กเซลหรอก
“ก็จะเล่นอะ คิๆๆ” เอ็กเซลยิ้มอย่างร่าเริงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาและด้วยรอยยิ้มนี้เองที่ทำให้สาวที่อยู่ข้างเคียงนั้นรักเด็กหนุ่มคนนี้เสียหมดใจ เธอวางใบรายชื่อยาที่เช็คเสร็จแล้วลงในตู้เก็บแฟ้มเอกสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“เสร็จแล้วละ ไปหาขนมกินกันเถอะ เอ็กเซลจัง หิวแล้วละ”
“ไปกันเถอะ^.^” เอ็กเซลคว้าชินนามอนเข้ามาในอ้อมแขและพาวิ่งไปยังลานจอดรถ ด้วยทีทาแบไร้เดียงสาไม่รู้รู้สาอะไร แต่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนั้นหน้าแดงไปแล้ว ดูเหมือนเธอจะมีประสบการณ์ด้านความรักมากกว่าเอ็กเซลพอดูทีเดียว ทั้งๆที่อายุน้อยกว่าแท้ๆ
“อ...เอ็กเซล ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินเองได้....” แม้จะพูดไปแบบนั้นแต่ชินนามอลก็ไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนเลย สงสัยเธอคงอยากจะให้เอ็กเซลทำแบบนี้มานานแล้วกระมั้ง ไม่ช้าไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงที่จอดรถประจำตำแหน่งของเอ็กเซล ซึ่งก็เป็นเจทไบท์สีดำนั้นเอง เจทไบท์ของเขานั้นแตกต่างจากของเอ็กว์และซีโร่ก็คือมีน้ำหนักเบากว่า ขนาดเล็กกว่า นั่งได้สามคน และสามารถกลายเป็นหุ่นยนต์รบได้ด้วย
“เย้ๆ ไปกินหนม ไปกินหนม” เอ็กเซลพูดเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่อย่างไงอย่างนั้น ก่อนจะวางร่างของชินนามอนลงพื้นช้าๆชินนามอนยิ้มออกมา
“จ้าๆ ไปกันเถอะ” ว่าแล้วชินนามอนก็นั่งซ้อนทายเอ็กเซล เอ็กเซลบสตาร์ทรถและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ชินนามอนไม่ทันได้ตั้งตัวก็เลยใช้มือกอดเอวของเอ็กเซลไว้แน่น และนั้นแหละเอ็กเซลก็ได้รับรู้ถึงอารมณ์แปลกๆของตน อารมณ์ที่ดูเหมือนว่าจะมีความสุขนิดๆยังไงไม่รู้ เอ็กเซลรู้สึกว่ามีเลือดมาคั่งที่ใบหน้า แต่ก็ฝืนขับรถเข้าเมืองไปต่อ
- ร้านอาหารใจกลางเมือง
ร้านอาหารที่นี้มีชื่อว่า “Anegy Food Robot” ที่ตั้งชื่อแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าร้านนี้นั้นจำหน่ายอาหารให้แก่เรพลิลอยเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีอาหารของมนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นเอเนจี้ฟูดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น เช่น ทาโกยากิ เทมปุระ ปลาดิบ หรือข้าวห่อสาหร่ายสอดไส้ไข่ปลาคาเวีย และอาหารต่างประเทศ เช่น สเต๊ก ข้าวผัดอเมริกัน ขนมปังหลากรส อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มสำหรับหุ่นยนต์อีกมากมาย นับว่าเป็นสวรรค์บนดินของเรพลิลอยเลยก็ว่าได้ ที่ไม่ตองกินแต่น้ำมันที่มีรสชาติแปลกๆเพียงอย่างเดียว
ร้านอาหารแห่งนี้ถูกประดับตกแต่งเป็นสีชมพูเพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์ โต๊ะส่วนมากจะเป็นโต๊ะที่ไว้สำหรับนั่งกันแบบคู่รัก โต๊ะขนาดเล็กถูกปูด้วยผ้าสีขาวนวล มีเชิงเทียนสามแฉกและแจกันตั้งอยู่ บรรยากาศในร้านดูอึ้มครึมเล็กน้อยทั้งๆที่เป็นตอนกลางวันอยู่ โต๊ะที่มีคู่รักอยู่นั้นถูกจุดเทียนให้เปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม ให้ความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยาวมัดไว้รวบๆเดินข้างๆเอเรียเข้ามาในร้าน ดูเหมือนว่าชายคนนั้นคงจะเป็นเอ็กซ์นั้นเอง พอเอเรียบอกว่าจะไปในเมืองนั้น เอ็กซ์ก็ใส่ชิพมนุษย์ลงไปในร่างและก็เข้ามาในร้าน
มาจะกล่าวถึงชิพมนุษย์สักครู่ ชิพนี้ถูกพัฒนาขึ้นด้วยฝีมือนักวิทยาศาสต์หนุ่มไฟแรงคนหนึ่ง(รู้สึกว่าจะชื่อเกียร์นะ) ซึ่งไปหลงรักเรพลิลอยสาวเลขาของเขาเอง เขาอยากแต่งงานกับเธอและมีลูกด้วยดังนั้นเขาจึงทุ่มเทกำลังกายกำลังใจและสมองกับชิพมนุษย์นี้เป็นอย่างมาก จนในที่สุดก็สำเร็จ เขาและภรรยาที่เป็นเรพลิลอยได้มีลูกกันอย่างสมใจ ซึ่งลูกของเขานั้นเป็นมนุษย์เต็มตัว และภรรยาของเขาก็คงอยู่ในสภาพร่างมนุษย์ตลอดโดยไม่ได้คืนร่างเป็นเรพลิลอยอีกเลย
ความสามารถของชิพมนุษย์นี้ก็คือจะเปลี่ยนให้เรพลิลอยอยู่ในสภาพเป็นมนุษย์ 100% ซึ่งร่างกายทุกส่วนเป็นมนุษย์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นระบบเลือด ระบบอาหาร ระบบขับถ่ายของเสีย และ.....ระบบสืบพันธุ์ ดังนั้นผู้สวมชิพนี้สามารถทำกิจกรรมหลายอย่างแบบมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร ออกกำลังกาย หรือทำเรื่องอย่างว่า หากผู้ใช้ชิพท้องพอเปลี่ยนกลับเป็นหุ่นยนต์ก็จะคงสภาพเดิมของตัวหุ่นไว้ แต่พอกลับเป็นมนุษย์อีกครั้งก็จะท้องเหมือนเดิม ประมาณว่าเหมือนนาฬิกาในคอมพิวเตอร์นะที่แม้ปิดเครื่องเวลาก็ยังเดินอยู่
“ไปนั่งตรงนั้นเถอะ เอ็กซ์คุง” เอเรียพูดพลางลากเอ็กซ์ไปยังโต๊ะใกล้ๆริมหน้าต่าง ที่ฉายภาพกลางคืนและแสงระยิบระยับทั้งๆที่เป็นตอนกลางวัน ซึ่งภาพที่ได้นั้นเสมือนจริงมาก เอ็กซ์เดินตามเอเรียคล้ายสัตว์เชื่องๆตัวหนึ่ง ดูเหมือนว่าเอเรียจะใช้ชิพมนุษย์เช่นเดียวกันเสียด้วยอีก
“รับอะไรดีครับ...” บริกรเดินมาหาเอเรียและเอ็กซ์ จุดไฟที่เชิงเทียนและถามทั้งคู่ เอ็กซ์นั้นไม่รู้จะสั่งอะไรดี เอเรียก็เลยออกหน้าแทน โดยเอเรียสั่งอาหารสุดหรูเหมาะสำหรับคู่รักซึ่งคนแต่งก็ไม่รู้ชื่อมันเหมือนกัน(ไม่รู้จะอธิบายรูปร่างยังไงด้วยซ้ำ) เอ็กว์นั้นก็งงเช่นกันเพราะไม่รู้จักชื่ออาหารที่เอเรียสั่งไปเลย
ระหว่างที่ทั้งคู่รออาหารอยู่นั้นเอง ก็มีชายหนุ่มผมสีทองในชุดเกราะสีแดง และสาวหน้ามลผมม้าสีม่วงปิดใบหน้าช่วงบนเล็กน้อยเดินคู่กันเข้ามาในร้านอาหาร ดูเหมือนเลเยอร์จะใช้ชิพมนุษย์เช่นกัน แต่ซีโร่นั้นไม่ใช่เพราะเขาไม่ชอบเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์(เนื่องจากผมที่ยาวและหน้าที่โค้งมล พอเป็นมนุษย์แล้วแม้จะเป็นผู้ชายแต่ก็ดูเหมือนหญิงสาววัยแรกรุ่นอย่างไรอย่างงั้นแหละ ทั้งคู่เดินไปนั่งโต๊ะด้านขวาของเอ็กซ์ โดยที่เอ็กซ์และเอเรียไม่รู้เลยเพราะมีพุ่มไม้กั้นอยู่
“รับอะไรดีครับ....” เช่นเดิม บริกรชุดผ้าเนียบสีขาวเดินมาถามซีโร่ด้วยประโยคเดิมๆ และทำกริยาเดิมๆนั้นก็คือจุดเทียนนั้นเอง ซีโร่หยิบเมนูขึ้นสักครู่ก่อนจะส่งให้เลเยอร์ไป
“ขอกาแฟนมอุ่นๆกับข้าวห่อสาหร่ายสอดไส้ปลาคาเวียหนึ่งที่” ซีโร่พูด บริกรจดหยิกๆลงในสมุดขนาดเล็กในมือ ซีโร่มองเลเยอร์ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาต่อว่า “เอาอะไรละเลเยอร์ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” เลเยอร์ได้ยินหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆ(ขอย้ำว่าเบา ถ้าประสาทหูไม่ดีมากคงไม่ได้ยิน)
“ข้าวผัดอเมริกันรึครับ แล้วเครื่องดื่มละครับ” บริกรได้ยินเสียงที่เบามหาเบาของเลเยอร์ก็ถามออกมา เพราะเลเยอร์ไม่ได้สั่งเครื่องดื่ม เลเยอร์กำลังจะตอบแต่ว่า....
“ขอชาเย็นแบบมีเกล็ดน้ำแข็งเล็กน้อยให้เธอก็แล้วกัน” ซีโร่พูดขัดขึ้นมาแทน บริกรได้ฟังดังนั้นก็พยักหน้าและเดินจากไป เลเยอร์มองซีโร่เพราะไม่คิดเลยว่าเขาจะรู้ด้วยว่าเครื่องดื่มที่เธอโปรดปรานคืออะไร
“คุณซีโร่ คุณรู้....”
“ทำไมจะไม่รู้ละ ก็เห็นเธอมากินที่นี้ทุกวันตอนเที่ยงนี้หน่า....” นิสัยเย็นชาของซีโร่กลับมาอีกครั้ง มาดขรึมๆเท่ห์ๆนี้แหละที่ทำให้เลเยอร์รักชายคนนี้อย่างหมดหัวใจ
ระหว่างที่รออาหาร(อีกแล้ว) ก็มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เป็นหนุ่มน้อยผมส้มตั้งแฉก ในชุดผ้าคลุมสีดำยาวรดขา ข้างๆกันก็มีหญิงสาวในชุดพยาบาลผมสีทองยาวเดินเคียงคู่กันมา ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะใช้ชิพมนุษย์เช่นเดียวกัน ซึ่งในสามทหารเสือแห่งอิเร่กุล่าห์ฮันเตอร์นั้น ก็มีร่างมนุษย์ของเอ็กเซลเท่านั้นแหละที่ดูเหมือนชายมากที่สุด นอกนั้นถ้าไม่ดูให้ดีๆแล้ว(ใกล้ประมาณห่างจากตัว 5 เซนติเมตร(ใกล้มากไปไหมเนี้ย)จึงจะดูออก) ทั้งคู่เดินไปยังโต๊ะที่อยู่ใกล้ริมหน้าต่าง ด้านซ้ายของโต๊ะเอ็กซ์ โดยเอ็กซ์และเอเรียไม่รู้เนื่องจากมีพุ่มไม้ขวางการมองเห็นอยู่ (ไม่รู้ว่าพรมลิขิตหรือเปล่าที่ทำให้สามฮันเตอร์มาอยู่ใกล้กันโดยมีเพียงแผงไม้กั้นอยู่เท่านั้น
“ชินนามอนๆ ผมเอาขนมโดรายากิไส้ช็อกโกแลตมอลนะๆ” เอ็กเซลพูดอย่างร่าเริงยิ่งกว่าเด็กป.3 เสียอีก ชินนามอนที่ชินกับท่าทีของเอ็กเซลแล้วก็เอ่ยขึ้นว่า
“จ้าๆ แล้วเครื่องดื่มละ?”
“ขอน้ำช็อกโกแลตครับ^.^”
“นี้ใจคอจะเอาแต่ช็อกโกแลตเหรอไง”
“อื้อๆ”
“ให้ตายสิ ถ้าเป็นคนจริงๆน่าเป็นเบาหวานได้แล้วนะ”
“.......” แล้วเอ็กเซลก็เงียบไปเมื่อบริกรเข้ามา เขาคนนี้หน้าตาคุ้นๆแฮะ
“รับอะไรดี อ้าว? เอ็กเซล....” วิง(เพื่อนของเอ็กเซลในฮันเตอร์)ในชุดบริกรกล่าวขึ้น เอ็กเซลก็ตกใจเช่นกัน
“มาทำอะไรที่นี้นะ วิง”
“ก็รับจ๊อบพิเศษอะดิ งานตรวจข้อมูลที่ฐานฮันเตอร์มันไม่พอ แค่ค่าครองชีพก็แทบแย่แล้ว”
“เหรอ....”
“ว่าแต่วันนี้เป็นไงมาไงถึงได้นัดเดทกับแฟนมาที่นี้ได้ละเนี้ย”
“เออ....” เอ็กเซลและชินนามอนหน้าแดงก้มลงเล็กน้อย แม้จะไร้เดียงสาอยู่แต่เอ็กเซลก็พอจะเข้าใจในคำพูดของวิงอยู่บ้าง เอ็กเซลสั่นหน้าก่อนจะพูดออกไปว่า
“เป็นบริกรแล้วมาเจือกเรื่องชาวบ้านทำไม”
“เออ....ใช่ ว่าแต่รับอะไรละ?”
“ของเอ็กเซลก็เป็นโดรายากิไส้ช็อกโกแลตมอลกับน้ำช็อกโกแลตเข้มข้น ส่วนฉันขอ....สลัดผักกับน้ำสมุนไพรละกันค่ะ” ชินนามอนตอบแทนเอ็กเซล นับว่าสมกับเป็นพยาบาลจริงๆที่ชินนามอนเลือกอาหารที่ให้โภชนาการดีๆ แต่มันก็ไม่มีผลต่อร่างกายมนุษย์อะไรนักหรอก
บรรยายถึงชิพมนุษย์อีกนิด อาหารที่กินเข้าไปในท้องของผู้ใช้ชิพนั้นจะถูกย่อยสลายกลายเป็นพลังให้กับกายหุ่น ดังนั้นจึงไม่มีการขับถ่ายของเสียออกมาและร่างกายก็ไม่จำเป็นต้องรับอาหารหลักห้าหมู่ด้วย เพราะร่างกายนี้เป็นร่างแบบพิเศษที่ไม่มีทางเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอย่างแน่นอน แต่หากผู้เป็นแม่มีลูกอยู่ในท้องนั้น แม่ก็จำเป็นต้องกินอาหารที่มีโภชนาการ เพื่อให้สารอาหารนั้นส่งไปยังลูก เนื่องจากเด็กที่อยู่ในท้องนั้นเป็นคนเต็มตัวไม่ใช่ร่างกายพิเศษแบบแม่ หรือนับได้ว่าวิทยาการของยุคนี้สามารถสร้างชีวิตขึ้นมาได้แล้วนั้นเอง ดังนั้นการกระทำของชินนามอลจึงไม่ส่งผลอะไรต่อร่างกายเธอเลย เพราะเธอไม่มีลูก
วิงในชุดบริกรเดินจากไป จากนั้นสักครู่หนึ่งก็มีบริกรสามคนมาส่งอาหารให้แก่สามฮันเตอร์ของเรา เอ็กซ์และเอเรียกินอย่างสุภาพเรียบร้อย อาหารในจานนั้นเป็นข้าวผัดที่ถูกจัดเป็นรูปหัวใจ มีเปลือกมะเขือเทศที่ทำให้กลายเป็นรูปธนูและเสียบปักหัวใจไว้ น้ำที่ได้ก็เป็นน้ำชามะนาวที่มีซีกมะนาวติดอยู่
ทางด้านซีโร่ หลังจากอาหารถูกเสิร์ฟมาแล้ว เขาก็คว้าข้าวห่อสาหร่ายที่มีประมาณสิบช้นขึ้นมากินชิ้นนึง กัดคำแรกเข้าก็เคลิบเคลิ้มในความอร่อยก่อนจะค่อยๆกัดคำที่สอง สาม สี่ ตามไป ส่วนเลเยอร์นั้นก็กินข้าวผัดอเมริกันอย่างเงียบๆ สายตาก็มองดูซีโร่ที่ทำหน้าระรื่นมีความสุข พลางคิดว่าหากไม่ได้มากินอาหารกับชายผู้นี้แล้ว คงไม่มีทางเห็นใบหน้าแบบนี้ของซีโร่อย่างแน่นอน หลังจากข้าวห่อสาหร่ายหมดซีโร่ก็เริ่มจิบน้ำชาเบาๆ เลเยอร์ที่กินข้าวผัดอเมริกันเสร็จก็เริ่มดื่มน้ำชาเย็นเช่นกัน เศษน้ำแข็งติดที่มุมปากของเธอ แต่เลเยอร์ก็ไม่รู้ตัว
“น้ำแข็งติดแก้มแนะ เดี๋ยวเช็ดให้....” ซีโร่ใช้ผ้าทิชชูเช็ดเศษน้ำแข็งที่ริมฝีปากของเลเยอร์ออก ผู้ถูกกระทำหน้าแดงเล็กน้อย แต่ผู้กระทำนั้นก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยแสดงออกมาเลยตั้งแต่สูญเสียไอริชไป ปีศาจแดงได้ถือกำเนิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว....
ทางด้านเอ็กเซล เมื่ออาหารถูกยกมาเสิร์ฟ เอ็กเซลก็คว้าโดรายากิขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่ชินนามอนกินสลัดผักอยู่อย่างเงียบๆ คู่นี้ช่างต่างกันเสียเหลือเกิน ไม่ช้าไม่นานของหนักก็หมดลง ทั้งคู่ก็ดื่มเครื่องดื่มบ้าง พออาหารหมดแล้วก็ลุกขึ้น
โต๊ะทั้งสามลุกขึ้นพร้อมกัน จึงเห็นกันหมดเลย เอ็กซ์ทำหน้าแดงซ่าน ซีโร่เสหน้าออกไปเล็กน้อย เอ็กเซลยิ้มร่าและเดินไปหาเอ็กซ์
“มาเดทเหมือนกันเหรอครับ คุณเอ็กซ์ คุณซีโร่”
“เฮือก!!!” โดนพูดแทงใจแดง(เพราะไม่ดำ)แบบนี้แล้วสองฮันเตอร์ก็เสียศูนย์ไปเลย สามสาวหัวเราะคิกคักเล็กน้อย
“นายเองก็เหมือนกันแหละน่า....” ซีโร่สวนกลับ แต่ดูเหมือนดอกนี้เอ็กเซลจะหลบได้
“ครับๆ ผมก็มาเดทเหมือนกัน” เอ็กเซลพูดทั้งๆที่ยิ้มอย่างร่างเริง ขนาดที่คู่สาวนั้นหน้าแดงไปแล้ว ดูเหมือนเอ็กเซลจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่าเดทเท่าที่ควรแฮะ...
“ไปจ่ายเงินกันเถอะ จะได้ขึ้นห้องนอนสักที” ซีโร่พูดอย่างไม่ยั้งคิดยืนหันหลังทำท่าจะเดินไปที่เคาเตอร์ สามสาวหันไปมองซีโร่ด้วยหน้าตาแบบตื่นตะลึง เอ็กซ์ก็มองซีโร่ด้วยสายตาแปลกๆ เอ็กเซลนั้นก็.....ไอ้เด็กตัวกระเปี๊ยกไร้เดียงสาแบบนั้นช่างหัวมันไปก่อนเถอะ ซีโร่รับรู้ได้ถึงพลังแปลกๆจึงหันหลังไปดุ ก็พบกับสามสาวและหนึ่งฮันเตอร์มองมาที่เขาอยู่
“เฮ้ยๆ คิดไปถึงไหนกัน ฉันแค่บอกว่าจะกลับไปนอนหลับพักเอาแรงในห้องตัวเองเท่านั้นนะ ” ซีโร่พูดด้วยน้ำเสียงละล้ำละลัก เหงื่อไหลซิกเป็นทาง แล้วความตึงเครียดก็ค่อยๆหายไป ทั้งสามเดินไปเช็คบิลและกลับฐานฮันเตอร์ไป....
- บทส่งท้าย ณ ห้องคนแต่ง
วาว่า2 : ดูเหมือนทุกอย่างจะลงล๊อกเปะพอดี ฮันเตอร์ก็คู่กับโอปอเรเตอร์นี้แหละถึงจะถูก
เบล : แต่แบบนี้ไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอค่ะคุณ......
วาว่า2 : โหดร้ายยังไงอะ?
เบล : ดูเอาเองละกัน
เบลชี้มือไปทางมุมมืดของห้อง ก็พบกับพาเลสเต้นั่งกอดเข่านิ่งเงียบตัวคนเดียวอยู่
วาว่า : แต่ให้ฉันทำไงละ ก็ฮันเตอร์มีแค่สามคนนี้หน่า
เบล : จนปัญญาเหมือนกัน.....
ทั้งคู่ : เฮ้อ~~~
จบดีกว่า....
---- The END ----
ผลงานอื่นๆ ของ Loveless Nova ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Loveless Nova
ความคิดเห็น