ชีวิต กับ อารยธรรม - ชีวิต กับ อารยธรรม นิยาย ชีวิต กับ อารยธรรม : Dek-D.com - Writer

    ชีวิต กับ อารยธรรม

    ชีวิตของเด็กหนุ่มซึ่งสะท้อนใจตัวเอง กับสลัมป์ข้างๆบ้าน เขาจึงเขียนหนังสือรายได้ถล่มทลาย

    ผู้เข้าชมรวม

    508

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    508

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ธ.ค. 46 / 13:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผมอายุ 23 ปี เป็นนักศึกษาปริญญาโท ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บ้านของผมเป็นคอนโดมิเนียมเช่าอยู่ทางข้างหลังของ ม.เกษตรจึงไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่ทางทิศตะวันออกของบ้านผม ที่เป็นคอนโดฯเช่าอยู่ มีสลัมป์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนที่อพยพมาจากทางใต้
           ผู้คนในแถบนั้นเป็นคนธรรมดาๆน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นคนนิสัยไม่ค่อยดีนัก ชอบขโมยของผู้อื่น ใส่เสื้อผ้าขาดวิ่น ไม่มีงานทำ เหมือนกับคนที่ไร้อารยธรรม ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นคนของตนเอง ที่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือน คฤหาสน์หรือพระราชวังอะไรประมาณนั้น เพราะสถานที่แห่งนี้ บ้านแต่ละหลังห่างกันไม่ถึงเมตร แถมยังไม่มีน้ำประปาใช้อีกด้วย ต้องใช้น้ำที่สูบมาจากบาดาล บางคนอดอยากมากจนต้องกินน้ำคลำ ที่อยู่ในท่อระบายน้ำเสีย ข้าวปลาอาหารของคนแถวนั้น บ้างก็เป็นของที่ขอทานมาตามสะพานลอย บ้างก็เป็นของที่ขโมยมา บ้างก็เป็นปลากระป๋องที่ไปขอมาจากวัดใกล้เคียง เจ้าอาวาสวัดนั้นท่านก็ใจดี อุตส่าห์เอาของมาส่งให้ถึงที่ ไม่ต้องให้พวกคนแถวนั้นไปเอาเอง เพราะท่านเกรงว่าผู้คนแถวนี้ อาจจะไปขโมยของชาวบ้านที่ขายของข้างๆกับ ม.เกษตรก็เป็นได้
           ผมจึงแต่งหนังสือเรื่อง \"โลกที่ไร้อารยธรรม\" ซึ่งเป็นเรื่องแรกของผม มีความยาวไม่มากนัก ประมาณ 70 กว่าหน้า เรื่องนี้ผมขออนุญาต ทางมหาลัย ให้ลงข้อความของผม ลงบนเว็บเพจของ ม.เกษตร ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งบุคคลที่อ่านเรื่องของผม ก็เขียนข้อความคิดเห็นมาต่างๆนานา ทั้ง\"อยากให้แต่งตอนต่อไป\"\"อยากให้พิมพ์เป็นหนังสือขาย\"\"อยากให้มีหนังสือแบบนี้อีกบ่อยๆ\" ซึ่งทางมหาลัยก็เห็นใจผม จึงสั่งพิมพ์ในโรงพิมพ์ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยใช้นามปากกาว่า \"ปราโมทย์\" พิมพ์ครั้งแรก พิมพ์ครั้งแรก จำนวน 10,000 เล่ม สั่งขายในร้านหนังสือชั้นนำ ปรากฏว่าขายดีเป็นอันดับหนึ่ง จึงต้องพิมพ์ครั้งต่อไปอีกเรื่อยๆ จนยอดขายทะลุเป้า ถึง 1,000,000 เล่ม ตอนที่ผมรู้ว่ายอดขายหนังสือของผมถึง 1 ล้านเล่มแล้ว ผมดีใจมากเพราะเป็นหนังสือเรื่องแรกของผม ผมจึงกลายเป็นนักศึกษาดีเด่น ของมหาวิทยาลัยไปโดยปริยาย
           ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณต้องคิดแบบผมแน่ๆเลย เพราะมนุษย์ทุกคนธรรมดาก็ต้องมีอารยธรรม หรือ มารยาท เช่น เห็นคนที่รู้จักก็ต้องทักทาย ก่อนออกจากบ้านก็ต้องสวัสดีพ่อแม่ ตอนแทนบุญคุณผู้มีพระคุณต่างๆ
           \"แล้วถ้าอยู่มาวันหนึ่งมนุษย์ทั้งโลกไม่มีอารยธรรมขึ้นมา ซึ่งผมคิดว่ามนุษย์แต่ละเผ่าพันธุ์ก็ต้องมีอารยธรรมเป็นของตนเอง ทั้งแอฟริกา ยุโรป หรือแม้กระทั้งเอเชีย การกระทำของมนุษย์ทุกเพศ ทุกวัย ก็เป็นอารยธรรมที่ปฏิบัติกันมาช้านาน ชีวิตประจำวันของเราเปลี่ยนไป ตื่นเช้ามาไม่ต้องจัดที่นอนเพราะตัวเองนอนอยู่ในเศษกองฟาง ข้าวปลาอาหารไม่ต้องกิน เสื้อผ้าไม่มีจะใส่ ถ้าเดินไปเจอใครสักคน ในกรณีที่อยู่ในชุมชนใหญ่ก็สามารถถูกเนื้อต้องตัวได้ ไม่มีการประกอบอาชีพ ถ้าใครเดินไปเศษดินหรือเหล็กที่มีความแบนอยู่ในตัว ก็สามารถนำมาดัดแปลงใช้เป็นเงินได้แล้ว ไม่มีพี่น้อง ลูกจ้างหรือเจ้านาย ไม่มีกฏหมายกำหนด เครื่องพาหนะก็ต้องประกอบเอง ไม่ต้องไปซื้อตามบริษัท ผลไม้ก็ใหญ่โตหรือดูเล็กลง เด็กทารกก็สามารถว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรได้ ไม่มีผู้ใหญ่มาคอยห้ามปราม ไม่มีงานศพ งานแต่งงาน ถ้ารักใครสักคน ก็สามารถมีลูกได้ เพียงการจูบเพียงเท่านั้น\"
           นี่เป็นตัวอย่างของโลกไร้อารยธรรม ที่คัดออกมาจากหนังสือของผมเอง ซึ่งแนวความคิดก็มาจาก สลัมป์ข้างๆบ้านผมนั่นเอง ถ้าคุณเป็นผม คุณก็ต้องอยากรู้นิยามของคำว่า \"โลกที่ไร้อารยธรรม\" นั้นมันเป็นอย่างไร ถึงผมจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้จบมาแล้วหนึ่งเล่ม ผมก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมโลกนี้ต้องมีอารยธรรม แล้วคุณก็ลองบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ ลงใส่สมุดโน๊ต แล้วคุณก็จะรู้ว่า \"โลกที่ไร้อารยธรรรม\" นั้นเป็นอย่างไร แล้วทำไมยอดขายหนังสือของผม จึงเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย คุณจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อ คุณไม่มีอารยธรรมเป็นของตนเอง

                                                                                                                                        สามนอ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×