NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปราการเสน่หา (ชุด My Dear Lord) (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 128
      1
      26 พ.ย. 66

    “คราวนี้ไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่”

    แล้วใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรของธีรยุทธก็ส่งยิ้มหล่อปนโหดหื่นให้จนพุทธรักษาต้องกลืนน้ำลายฝืดๆ ก่อนตอบโต้

    “รู้ไหมคะ ว่ามันมีกฎหมายเอาผิดพวกคุกคามทางเพศ โดยเฉพาะกับเจ้านายที่คิดเอาเปรียบลูกน้อง”

    เป็นผู้ชายคนอื่นคงตกใจหรือไม่ก็โมโห แต่คนที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ยิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้น แล้วยกมือเธอที่ตกอยู่ภายใต้การเกาะกุมของเขาขึ้นมาให้เธอมองชัดๆ ก่อนจะพูดกลั้วเสียงหัวเราะ

    “จับมือนี่ถือว่าคุกคามทางเพศแล้วเหรอ” ไม่แค่จับเขายังเลื่อนมือไปกุมข้อมือเธอเอาไว้เพื่อที่จะสามารถลูบไล้หัวแม่มือไปตามแนวเส้นเลือดที่ชักจะสูบฉีดแรงเกินไปจนเธอใจสั่นแก้มร้อน แต่หญิงสาวโทษว่าเป็นเพราะเสื้อผ้าที่โคตรจะรัดกุมหลายชั้นของเธอรวมกับอากาศร้อนที่เจอระหว่างเดินทางด้วยรถขนส่งมวลชนปราศจากเครื่องปรับอากาศ

    “ทางวาจาก็ถือว่าเป็นแล้วค่ะ ยิ่งคุณโทมัสทำแบบนี้ หญ้าสามารถฟ้องร้องคุณได้เลยนะคะ” จมูกเล็กเชิดสูงขณะอบรมเขาเรื่องการทำตัวไม่เหมาะสม

    “ว้าว... ใช่เสียงแบบคุณครูซะด้วย แล้วการล่วงละเมิดทางเพศล่ะ ผมผิดด้วยไหม”

    ถามไกลๆ คงไม่ผิด แต่เขาเล่นถามใกล้ๆ ชนิดที่ลมหายใจรดใบหน้าเธอ แถมปากได้รูปยังขยับใกล้เข้ามาหาริมฝีปากของเธอทุกที ดูท่าเจ้านายของเธอคงไม่กลัวสักนิดหากจะต้องขึ้นศาลในฐานะจำเลยข้อหาคุกคามทางเพศตามด้วยล่วงละเมิดทางเพศลูกจ้าง แต่เขาจะกลัวทำไมในเมื่อเธอสมยอม แม้แต่ในเวลานี่ร่างกายทรยศของเธอยังบอกว่า เอาเลย!!! เอาเลย!!! ท่าทางของเธอที่ไม่ดิ้นรนเหมือนเมื่อครู่ต้องทำให้เขาย่ามใจขึ้นอย่างแน่นอน สังเกตได้จากดวงตาที่สีฟ้าส่องประกายจ้ากว่าปกติ

    “ป่ะ... ไปขึ้นห้องกัน” แล้วเขาก็ฉวยคีย์การ์ดจากมือเธอ ตามด้วยโอบบ่าลากตัวไปยังประตูคอนโด

    “ไม่เอา!!! หญ้าไม่ขึ้นห้องกับคุณนะ ปล่อยหญ้าเดี๋ยวนี้” วาจาบวกน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเขากำลังชวนเธอทำอะไร มากพอจะทำให้พุทธรักษาตั้งสติได้บ้าง สองขาของเธอพยายามตรึงพื้นขณะดึงตัวออกจากวงแขนของผู้ชายสุดหื่น ปากอาจจะไม่ได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่เสียงปฏิเสธซ้ำๆ ก็ดังฟังชัดจนคนที่อยู่ไม่ไกลได้ยิน เว้นเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะหูหนวกไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไร

    จากหางตาของเขา พนักงานรักษาความปลอดภัยเริ่มเห็นความผิดปกติและลุกจากเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ประตูมามองด้วยความสนใจ เขาไม่คิดว่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เธอสมยอมง่ายๆ และไม่คิดจะโกหกใครในเวลานี้ด้วย ดังนั้นทางออกของปัญหามีอยู่ทางเดียวนั้นก็คือ

    ไม่นะ พุทธรักษาครวญครางในใจเพราะสังหรณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อหมาป่าตัวใหญ่ใจร้ายหยุดลากถูลู่ถูกังเธอกะทันหัน แต่หันมาขย้ำเธอด้วยปาก และ เอ่อ... ลิ้น

    มันเหมือนหนังที่ฉายซ้ำๆ แต่เธอจำเนื้อเรื่องไม่ได้สักที เพียงแค่ธีรยุทธแตะริมฝีปากเข้ากับเธอ สมองของพุทธรักษาก็จะเริ่มเบลอ พอเขาขยับริมฝีปากตนเอง ริมฝีปากของเธอก็จะขยับตามเขา แล้วพอเขาค่อยๆ สอดลิ้นเข้ามา สมองของเธอก็จะถูกอะไรบางอย่างคุกคามจนขาดสามัญสำนึกทางการแยกแยะถูกผิด ต่อจากนั้นเธอจะจำอะไรไม่ได้เพราะสูญเสียความทรงจำเนื่องจากความเคลิบเคลิ้ม

    อาจจะเป็นเพียงนาที สองนาทีหรืออาจจะหลายๆ นาทีก็ได้ที่เขาปล้นลมหายใจจากปากเธอ กว่าเขาจะถอนริมฝีปากออก แข้งขาที่ยืนหยัดเมื่อครู่ก็อ่อนเปลี้ย ตัวของเธอซวนซบเขาอย่างเต็มที่ แล้วก็ไม่ขัดขืนแม้แต่น้อยตอนที่เขาแย่งกระเป๋าของเธอไปหิ้วก่อนจะพาเธอเข้าประตูคอนโดด้วยคีย์การ์ดของเธอเอง

    แน่ล่ะว่าเธอต้องไม่สังเกตเห็นการมองอย่างตกตะลึงของพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่เห็นเธอเปลี่ยนจากการดิ้นรนเป็นสมยอมอย่างง่ายดาย และยังยอมให้เขาประคองเข้าลิฟต์ ก่อนจะแว่วๆ เสียงผู้หญิงซื่อบื้อคนหนึ่งตอบเขาไปว่า ชั้นเจ็ด ตอนที่เขาถามว่าเธออยู่ชั้นไหน จนลิฟต์เปิดออกที่ชั้นดังกล่าว แล้วธีรยุทธถามอีกว่าห้องของเธอเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวา พุทธรักษาถึงได้นึกออกว่าผู้หญิงซื่อบื้อคนเมื่อกี้ก็คือตัวเธอนั่นเอง

     

     

    19.23 น. วันเสาร์ที่ 20 กันยายน

    “ไม่ค่ะ หญ้าจะไม่อนุญาตให้คุณโทมัสเข้าไปในห้อง”

    พุทธรักษาอาศัยจังหวะที่ธีรยุทธแปลกใจกับการขัดขืนของเธอ ดึงตัวเป็นอิสระจากวงแขนเขา แล้วถอยห่างออกไป เขาไม่เอื้อมมือคว้าแต่เขม่นมองด้วยดวงตาที่เข้มขึ้นด้วยสีเทา ซึ่งเธอมองออกแล้วว่าจะเป็นทุกครั้งที่เขาไม่พอใจอะไรบางอย่างมากๆ และไม่ต้องอาศัยความฉลาดก็พอจะบอกได้ว่าสิ่งที่ทำให้เขาโมโห คือตัวเธอ หรือจะพูดให้ถูก ก็คือ การไม่ได้ตัวเธอ

    “อย่าดื้อนะหญ้า”

    ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำอะไรให้ง่ายสำหรับเขาเลย และอวัยวะที่กำลังประท้วงอยู่หลังซิปกางเกงก็บอกเขาว่ามันจะไม่ทนกับการต้องคอยโอ้โลมเธอทุกๆ สิบก้าวอีกแล้ว

    “ถ้าจะคุยก็คุยตรงนี้ หรือไม่เราก็ไม่ต้องคุยกันค่ะ”

    ลูกไก่ที่ควรจะอยู่ในกำมือง่ายๆ เชิดหน้าประกาศเงื่อนไขกับหมาป่าใจร้ายอีกรอบ ชายหนุ่มกำมือแน่นเฉพาะวันนี้เขาก็ต้องทนกับความรู้สึกอยากบีบคอเธอไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

    พระเจ้าช่วยเขาด้วยเถอะ ทำไมเขาต้องอยากได้ผู้หญิงคนนี้ด้วย แค่ยืนใกล้กันในระยะหนึ่งเมตร ธงรบของธีรยุทธก็เริ่มชักขึ้น พอได้โต้เถียงกันมันก็อยากจะออกมาโบกสะบัดประกาศชัย

    เขามั่นใจว่าต้องไม่ใช่เพราะหน้าตาหรือลีลาของเธอแน่ๆ เพราะเอมเมอรีนสวยกว่าเธอไม่รู้กี่เท่า ส่วนเรื่องลีลาเขาต้องยอมยกผลประโยชน์ให้เธอ เพราะเธอกำลังจะเรียนรู้จากเขาในวันข้างหน้า ถ้าเธอยอมลดอาการเชิดหยิ่งใส่เขาลงบ้าง แต่จะว่าไป เขาสิต้องอ่อนข้อง้องอนให้เธอยอมทำตามที่เขาต้องการ ก่อนเขาจะจุกอกตาย

    “ผมว่าเราใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกันดีกว่านะ”

    แล้วธีรยุทธก็ฝืนใจเอื้อมมือจะไปคว้าตัวพุทธรักษา หลังจากดูเลขห้องใกล้ๆ เทียบกับเลขบนคีย์การ์ดแล้วประมาณได้ว่าห้องของเธอน่าจะอยู่ด้านไหนของชั้น แต่เธอใช้จังหวะที่เขาเข้าใกล้ดึงกระเป๋าหิ้วกลับไป ก่อนจะแบมือมาตรงหน้า

    “ไม่ค่ะ เอากุญแจห้องของหญ้าคืนมา แล้วเราค่อยไปคุยที่ออฟฟิศก็ได้”

    “ก็ได้ ถ้าไม่คุยในห้อง เราก็คุยกันตรงนี้”

    ธีรยุทธบุ้ยหน้าไปทางบันไดหนีไฟที่อยู่ใกล้ลิฟต์ซึ่งมีซอกมุมลับตาคน เธอดูจะเข้าใจเจตนาของเขาจึงทำตัวแข็งตั้งใจว่าจะไม่ยอมไปคุยตรงจุดที่เขาต้องการแน่ แต่เขาไม่หยุดแค่นั้น

    “หญ้าจะคุยตรงไหนก็ได้นะ ว่าแต่หญ้าเคยสังเกตบ้างไหมว่าผนังที่นี่เรียบดี”

    ความทรงจำเรื่องผนังเรียบ น่าจะอยู่ในสมองส่วนลึกของเธอเช่นกัน พุทธรักษาจึงหน้าแดงปลั่ง ยิ่งเขายิ้มอย่างหมายมาดเธอก็ยิ่งมั่นใจว่าหลังจากโชว์ช็อตเด็ดให้พนักงานที่บริษัทดู เขาก็คงไม่กลัวที่จะโชว์พิเศษให้คนร่วมตึกของเธอได้ดูอย่างทั่วถึงกันบ้าง จะเป็นไรไปในเมื่อเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เธอแน่ใจว่าหลังจากคุยเสร็จทั้งตึกคงจะจดจำเธอได้อย่างแน่นอน ไม่นับวงจรปิดที่จะบันทึกภาพเอาไว้อย่างต่ำหนึ่งเดือน ถ้าไม่ถูกไรท์ลงแผ่นซีดี อัพขึ้นอินเทอร์เน็ต แล้วคงอยู่ตราบนานแสนนานในโลกไซเบอร์

    “เราไปคุยที่ห้องของหญ้าก็ได้ค่ะ”

    รอยยิ้มสมใจสร้างนิยามใหม่ของคำว่าอยากกรีดร้องแก่พุทธรักษา แต่เธอก็พยายามข่มกลั้นมันเอาไว้เพราะต้องการจะต่อรอง

    “หญ้ามั่นใจในความเป็นสุภาพบุรุษของคุณนะคะ คุณโทมัส”

    คิ้วสีน้ำตาลเข้มเลิกขึ้นเพราะอยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหน แล้วมันก็เป็นไปตามที่เขาคาดคิดเอาไว้ เพราะเธอยื่นเงื่อนไขกับเขาอีกรอบ

    “หญ้าจะคุยกับคุณในห้อง ถ้าเสื้อผ้าของคุณกับหญ้าไม่หลุดออกจากตัว”

    “ได้สิ ผมก็อยากจะคุยให้รู้เรื่องเหมือนกัน” พอเธอขมวดคิ้ว เขาก็ปั้นยิ้มซื่อบริสุทธิ์ส่งให้ “จริงๆ นะผมว่าคราวนี้เราควรคุยกันตอนที่เสื้อผ้ายังอยู่บนตัว”

    หญิงสาวทำท่าสงสัย แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้าก่อนจะเดินนำเขาไปที่ห้องของเธอ ธีรยุทธมองสะโพกอกเอวที่ตรงหน้า แล้วมโนภาพไปว่า เขาจะทำอะไรกับมันได้บ้าง แน่ล่ะ ว่าเขาจะไม่ผิดสัญญา แต่เธอไม่รู้เองนี่นา ว่าเขาทำอะไรได้บ้างแม้จะมีเสื้อผ้าใส่อยู่บนตัวครบชุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×