คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
Chapter1 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
วันที่ 13 ธันวาคม 2011 เวลา 16.46 นาฬิกา
มือสองข้างของคนสองคนที่อยู่คู่กันมาเนิ่นนานกุมมือกันแนบแน่น เหมือนจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อลดช่องว่างที่ขาดหายไปในใจของทั้งคู่ เมื่อหลายปีก่อนมือสองมือนี้เคยถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ด้วยมือทั้งสองข้างของคนอีกคน แต่ตอนนี้มันถูกเชื่อมโยงด้วยสายสัมพันธ์ ที่ทั้งคู่ไว้ใช้หวนระลึกถึงคนที่เคยอยู่ตรงนี้
“พ่อ พ่อเชื่อที่คนเขาพูดกันไหม”
คำถามของนารีไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ แต่มันเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของสองสามีภรรยาคู่นี้มาตลอดหลายวันที่ผ่านมา
“แล้วแม่คิดว่ายังไงล่ะ”
โอภาสย้อนถาม ก่อนจะสบตาคู่ทุกข์คู่ยากที่ร่วมรับรู้ความเจ็บปวดด้วยกันมากว่าสามสิบปี เพียงแต่สิ่งที่ทั้งคู่กำลังเผชิญอยู่ ณ เวลานี้มันเป็นความทุกข์ที่ใหญ่หลวงที่สุดเท่าที่ทั้งคู่เคยผจญร่วมกันมา
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พ่อได้คุยกับเอกมากกว่าแม่ พ่อต้องรู้สิ ว่าที่คนเขาพูดถึงลูกของเรา คนไหนพูดจริง คนไหนโกหก”
แววตาเศร้าที่ส่งมาพร้อมคำถามของนารีเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสับสน โอภาสรู้ดีว่าแววตาของตนก็คงจะทนทุกข์ไม่ต่างกัน
“พ่อไม่รู้ ที่ใครๆ เขาพูดมามันไม่เหมือนที่พ่อเคยคุยกับเอกเลย แม่ว่าไหม ว่าที่เขาพูดๆ กัน มันต่างจากที่เราเคยคุยกับลูก”
คราวนี้โอภาสหันไปถามนารีบ้าง เหมือนอยากจะให้เธอช่วยตอบรับเพื่อเพิ่มความมั่นใจในสิ่งที่เขาคิด
“มันไม่เหมือนนิสัยของลูกเราเลยนะที่จะทำเรื่องแบบที่เขาว่ามา ลูกเราเป็นหมอนะแม่ เอกเรียนจบมาก็สูง หน้าที่การงานก็ดี เขาเป็นถึงหมอในเรือนจำเจอคนก็มาก จะทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นได้ยังไง”
คำพูดต่อมาชะงักอยู่ในลำคอเมื่อคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รัก โอภาสมองไปไกลเหมือนจะนึกถึงภาพคนที่กำลังพูดถึงอยู่ มันเป็นภาพของบุคคลคนหนึ่งในสภาวะที่แจ่มใสงดงามจนยากที่จะเชื่อว่าเหตุการณ์ที่มีร่วมกันนั้นเคยเกิดขึ้นจริง แต่มันเป็นภาพที่โอภาสต้องการที่จะเชื่อ ว่าเป็นภาพที่ถูกต้องสำหรับคนที่ตนรัก ดังนั้นประโยคต่อมาของโอภาสจึงเหมือนกับเป็นการบอกกับตนเอง เพื่อตอกย้ำภาพสวยงามที่ฝังอยู่ในใจนั้น
“เอกไม่น่าทำอย่างที่พวกเขามาเล่าให้เราฟังหรอก ลูกเราเป็นคนดี เป็นคนฉลาด เขาต้องไม่ทำแบบนั้นแน่ๆ”
มือของนารีถูกปล่อยออกจากการเกาะกุม เมื่อหยดน้ำใสๆ ตกลงมากระทบมือทั้งคู่ และนารีจำเป็นต้องใช้มือข้างที่เปื้อนน้ำตายกขึ้นเช็ดส่วนที่กำลังไหลออกจากนัยตาของตนเอง ส่วนมือของโอภาสเองก็สั่นระริกอย่างหนักจากการกลั้นสะอื้น
ใบไม้สีเขียวอ่อนที่อยู่ตรงหน้าทั้งคู่ปลิวไหวตามแรงลม ก่อนจะร่วงหล่นลงมาจากต้นเพื่อจุมพิตผืนดิน ทั้งที่ใบแก่อีกหลายใบยังยึดติดแน่นอยู่ที่ต้น แม้ว่าภาพนั้นจะอยู่ตรงหน้า สองสามีภรรยาก็ไม่รับรู้ถึงมัน เนื่องจากกำลังมองเหม่อไปไกล ในความคิดของทั้งคู่มีเพียงภาพของนายแพทย์เอกณรงค์ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เขาเป็นลูกชายที่สมบูรณ์แบบ และเป็นลูกชายที่ทั้งคู่ภาคภูมิใจ
หลังจากภาพแห่งความทรงจำนั้นจบลง ก็ตามด้วยภาพที่สร้างขึ้นจากเสียงบอกเล่าของผู้คนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุตรชาย เป็นภาพที่ปราศจากความงดงามอย่างสิ้นเชิงและยังเป็นภาพที่คนเป็นพ่อแม่ยากที่จะทำใจยอมรับได้
เวลาที่ปราศจากคุณค่าดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ความเงียบเข้ามาครอบงำทั้งคู่เหมือนสายลมที่เย็นเฉียบ โลกที่รายล้อมตัวดูไร้ซึ่งสุ่มเสียงใด ก่อนที่นารีจะถามคำถามที่โอภาสไม่อาจหาคำตอบได้อีกครั้ง
“แล้วทำไมลูกของเราถึงได้ฆ่าตัวตายล่ะพ่อ”
………Brake………
ความคิดเห็น