คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ออกเดินทางไปเดมอส
บทที่ 8
ที่ห้องหัวหน้าชั้นปีหนึ่ง
"พวกนายเป็นอย่างไรมั้ง"
เฟรินถามเพื่อนๆที่ดูดีไม่ต่างกัน เพราะคาโลเสียพลังไปเยอะเลยรักษาให้เพื่อนๆไม่ได้ คิลก็มีแผลจากการปะทะกับกิบบอน ส่วนเฟรินหลังดึงพลังของคทาออกก็หมดแรงเช่นกัน
"ฉันสงสัยว่าเลโมธี ต้องดึงพลังฉันแถมไปด้วยแน่ เพราะเพลียชะมัดเลย"เจ้าตัวดีบ่นกระปอดกระแปด
"ฉันคิดว่าไม่ใช่นะ เพราะนายก็ใช้พลังไปเยอะเหมือนกันนี่" คาโลท้วงเสียงอ่อนแรงพอกัน
"ตกลงพวกเขาว่าอย่างไรบ้างกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะ" คิลถามอย่างสงสัย
"ไม่รู้เหมือนกัน เพราะท่านตากับเลโมธีเล่นคุยงุบงิบกันสองคน" เฟรินบอก
เพราะหลังดึงพลังใส่คทาหักๆเสร็จเขาก็ถูกรุ่นพี่โรเวนส่งกลับพร้อมไอ้สองตัวนี้ ดีที่เขาถอดสร้อยทัน ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะเวทย์มนต์แสงจันทร์ที่ทำให้เขากลายร่างเป็นผู้หญิงเวลาโดนแสงจันทร์
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
คิลเดินไปเปิดประตู เห็นรุ่นพี่โรเวนเดินเข้ามา
"รุ่นพี่มีอะไรหรือครับ คงไม่ใช่ว่ามหาปราชญ์เรียกค่าเสียหายหรอกนะครับ" เฟรินถามอย่างร้อนตัว
"ไม่ใช่หรอก แต่มหาปราชญ์มีคำสั่งให้พาพวกเธอเดินทางไปซ่อมคทาที่เดมอสด้วย เห็นว่าถ้าเฟรินไปด้วยจะได้ผ่านทางไปเดมอสได้ง่ายหน่อย และจะได้พาเธอไปส่งให้ถึงมือพ่อเธอด้วย" รุ่นพี่โรเวนบอก
"พวกผมจะได้ไปเที่ยวเดมอสด้วยหรือครับ " คิลถามเสียงตื่นเต้น พวกพี่ต้องอิจฉาเขาแน่
"เราไม่ได้ไปเที่ยวนะ" คาโลค้านเสียงเป็นงานเป็นการ
"ฉันฝากเธอดูแลพวกลิงสองตัวนี้ก็แล้วกันคาโล"
เจ้าชายโรเวนบอกก่อนเดินออกจากห้องพวกตัวดี คิดในใจว่าการเดินทางครั้งนี้คงยุ่ง แต่เห็นฝีมือของแต่ละคนแล้วก็คงพอเอาตัวรอด ติดก็แค่คนร่ามเดินทางจากป้อมขุนนางเท่านั้น
"หมายความว่าต้องเอาไอ้คทาหักนั่นไปซ่อมในเดมอสเหรอ" เฟรินถามต่อ
"เห็นว่าพวกคนแคระดำแห่งเดมอสมีฝีมือในเรื่องพวกนี้" คาโลบอกเสียงเรียบตามที่รู้มา
"นายเคยไปเดมอสหรือยัง" คิลหันไปถามไอ้เจ้าตัวยุ่ง
"เคยแต่ขี่มังกรผ่านจากสโนวแลนด์ไปเมื่องหลวงเลย ไม่เคยผ่านทางบกมาก่อนแต่คงสนุก" เฟรินบอก
รู้สึกสนุกที่จะได้ออกเดินทางอีกครั้ง เพราะทั้งชีวิตเขาเคยชินกับการเดินทางมากกว่าอยู่กับที่เฉยๆ
"งั้นก็ไปเก็บของดีกว่า เดี๋ยวฉันส่งจดหมายบอกพ่อก่อน" คิลว่า
"นายล่ะต้องบอกทางบ้านก่อนใหม"เฟรินถามเจ้าชายข้างตัว
"อืม" เสียงตอบรับสั้นๆก่อนหันไปเขียนจดหมายเช่นกัน
"พ่อมาดัสคงรู้แล้วไม่ต้องบอก" เฟรินว่า เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายสนิทกับไฮคิงมากกว่าแถมน่าจะรู้เร็วกว่าเขาด้วยซ้ำ
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกเดินทาง
เกวียนสองหลังขับตามกันไป
"รุกฆาต" เสียงใสของเด็กหนุ่มบอกอย่างร่าเริง
กับเสียงหงุดหงิดของผู้บิดา"อีกตา"
"จริงสิ เกวียนด้านหลังนี่มีเจ้าชายเพียบ พ่อสนใจจะขโมยสักคนไหม" เฟรินถามยั่ว ขณะขยับหมากไล่บี้บิดา
"เอาไปทำไมให้หนัก ข้าเบื่อไอ้พวกเจ้าชายแล้วโว้ย" มาดัสบอก
"แล้วพ่อจะไปเดมอสพร้อมฉันเลยไหม" เฟรินถาม
"ไม่ล่ะ ไว้ค่อยไปรับเอ็งทีหลัง แกเที่ยวให้สนุกกับเพื่อนๆไปก่อนแล้วกัน" มาดัสว่า
"อ้าวไหนพ่อบอกว่าจะพาฉันไปเที่ยวบาร์ที่เมืองหน้าด่านล่ะ" เฟรินท้วงสัญญาสมัยเด็กทันที
"ขาเอ็งมี เดินเข้าไปเองสิว่ะ" มาดัสบอกอย่างไม่สนใจเสียงท้วงของไอ้ลูกตัวดี อย่าหวังมาถล่มข้าเสียให้ยาก เงินคนละกระเป๋ากันเฟ้ย
"โธ่พ่อ ไหงเบี้ยวกันเห็นๆอย่างนี้ล่ะ" เฟรินโอดต่อ
"อย่างเอ็งยังห่างไกลข้าหลายขุมโว้ย" ราชานักต้มเริ่มออกลาย ก่อนหัวเราะอย่างสะใจ
"แล้วตกลงพ่อปีศาจอย่างให้ฉันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะพ่อ" เฟรินถามอย่างสงสัย
"ช่วงนี้ให้เอ็งเป็นผู้หญิงช่วงกลางคืนไปก่อน แต่ไว้ถึงเดมอสแล้วเดี๋ยวเขาก็จัดการให้เอ็งเองล่ะ หัวระดับไฮคิงรวมกับราชาปีศาจแล้ว ไม่ต้องคิดมาก" มาดัสบอก
"บวกหัวราชานักต้มอย่างพ่อด้วย สบายไปแปดอย่างใช่มั้ย" เฟรินต่อให้อย่างประจบเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มถูกใจจากผู้เป็นพ่อ
"เอาคู่มือการผ่านแดน จากเมืองหน้าด่าน ถ้าทำตามได้ก็ผ่านได้ไม่มีปัญหา" มาดัสว่าก่อนโยนหนังสือคู่มือให้ไอ้ลูกตัวดี
เฟรินรับคู่มือมาพลิกดู ก่อนเบ้ปากอย่างไม่ถูกใจ แสลงอาชีพหัวขโมยอย่างนี้ มิน่าพ่อถึงไม่อยากไปด้วย
ถึงทางแยกไปเมืองหน้าด่านฟรอนเทียร์
มาดัสแยกเกวียนออกไป หลังส่งเจ้าตัวยุ่งไปอยู่กับเกวียนเจ้าชายด้านหลัง
"พ่อนายไปไหนแล้วล่ะ" คิลถามอย่างสงสัย
"พ่อไม่อยากไปเดมอสนะสิ" เฟรินว่าก่อนส่งคู่มือให้คาโล
"ทำไมล่ะ" คิลถามอย่างสงสัย
"แสลงอารมณ์หัวขโมยเวลาผ่านเมืองน่าเบื่อพวกนั้นนะสิ" เฟรินว่า
คิลหันไปอ่านคู่มือการผ่านแดนกับคาโลอยู่สักพักก็ถึงบางอ้อ ก่อนพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของไอ้ตัวดี
"ใช่เห็นทีฉันต้องคุมพวกนายให้ดี ไม่ให้ไปก่อเรื่อง" คาโลบอกอมยิ้มอย่างถูกใจกับหน้ามุ่ยของหัวขโมยตัวดี
ถึงเมืองหน้าด่านฟรอนเทียร์ เกวียนหยุดลง
"ลงมาได้แล้ว คืนนี้เราจะพักที่นี่กัน" เจ้าชายโรเวนบอกเจ้าตัวดีและพลพรรค ขณะที่เจ้าชายอาเทอร์ไปติดต่อจองห้อง
"ทำไมผมได้อยู่ห้องเดี่ยวล่ะครับ" เฟรินถามอย่างมีปัญหา เจ้าชายอาเทอร์ปรายตามองร่างสาวน้อย ก่อนส่งยิ้มอ่อนโยน
"ก็ตอนกลางคืนเธอเป็นผู้หญิงจะให้นอนร่วมห้องกับผู้ชายได้อย่างไร" เจ้าชายอาเทอร์ตอบเสียงนุ่ม
เฟรินกลืนน้ำลายเอือกอย่างไม่ชินเจ้าชายอาเทอร์เวอร์ชั่นนี้ แอบลูบขนที่ลุกชันเล็กน้อย ก่อนสบตากับคาโลแปลกใจกับสายตาไม่ชอบใจเล็กน้อยของมัน เอ้เขาทำอะไรผิดใจมันหว่า ไอ้เจ้าชายมาดขรึมเข้าใจยากเนี่ย
ในที่สุดเฟรินก็ได้อยู่ห้องเดี่ยว อย่างไม่ขัดข้องเพราะกลัวเสียงนุ่มของเจ้าชายอาเทอร์มันรู้สึกเลี่ยนๆอย่างบอกไม่ถูก คาโลอยู่ห้องเดียวกับคิล ส่วนเจ้าชายอาเทอร์อยู่ห้องเดียวกับเจ้าชายโรเวน เพราะหนึ่งห้องมีสองเตียงเท่านั้น
เสียงเคาะประตูห้อง คาโลเดินไปเปิดมองดูแขกเจ้าปัญหา
"มีอะไร หรือกลัวผีจนนอนไม่หลับ" คาโลถาม ก่อนรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับสายตาของอีกฝ่าย
"ฉันจะมาชวนพวกนายไปเปิดหูเปิดตา" เฟรินในร่างสาวน้อยว่า
"ที่ไหนล่ะ" คิลถามอย่างสนใจ
"บาร์ชื่อดังของเมืองนี้สิ" เฟรินบอกด้วยท่าทางที่ไม่เข้ากับใบหน้าเล้ย
"แต่นายเป็นผู้หญิง" คาโลให้เหตุผลเสียงเรียบ
"ถึงนายไม่ไปฉันก็จะไปอยู่ดี จะไปหรือไม่ไป ถ้าไม่อยากก็เชิญอยู่บนหอคอยงาช้างต่อไปก็แล้วกัน" เฟรินว่าก่อนเดินออกมาอย่างเร็ว ทำให้สองสหายต้องรีบตามมา ก็จะปล่อยมันในร่างนี้เดินกลางคืนคนเดียวได้อย่างไร
ที่บาร์เหล้า สองเจ้าชายต่างเมืองกำลังนั่งจิบเครื่องดื่ม ดูโชว์กันเงียบๆสองคน ต่างฝ่ายต่างก็ขบคิดปัญหากันอยู่ในใจ
"นี่ต้องที่นี่ พ่อฉันเล่าว่าเด็ดสุด" เสียงใสของไกด์บอกลูกทัวร์จำเป็น
ทำให้สองเจ้าชายต้องมองอย่างจำเสียงที่คุ้นเคยได้ มองเห็นร่างเด็กหนุ่มสองคนและหนึ่งหญิงสาวตัวดีที่ผูกเปียผมยาวไว้เบื้องหลัง
"ลุงวันนี้โชว์จากที่ไหนหรือฮะ" เสียงใสหันไปถามลุงที่เคาท์เตอร์ ถึงตารางการแสดงวันนี้
"แหมมากับแฟนหรือหนู" เสียงลุงที่เคาท์เตอร์ทักก่อนตอบ
" วันนี้เป็นนางรำค่าตัวแพงจากเวนอลเชียวนะ"
ดีที่ไฟมันมืดทำให้ไม่มีใครเห็นใบหน้าซับสีของหัวขโมยให้เสียศักดิ์ศรีคนได้บีบวกวิชาหน้ากากฟาโรห์
เจ้าชายโรเวนขำกับอาการใบ้กินของเจ้าตัวดี ก่อนส่งเสียงดุ
"ทำไมมาที่แบบนี้กลางคืนมันไม่สมควร"
เล่นเอาสามรุ่นน้องสะดุ้งกันทั่วหน้าเมื่อหันไปเจอสองเจ้าชายมานั่งก่อนแล้ว
โลกมันกลมจริงๆให้ตายเถอะ เฟรินคิดในใจ
"พวกผมก็เตือนมันแล้ว แต่มันไม่ฟัง" คิลรีบชิงฟ้องเสียเลย
"แหมถ้ามาเมืองนี้ไม่มาบาร์นี้ เรียกว่าไม่ถึงฟรอนเทียร์เฟ้ย"เฟรินแก้ตัวน้ำขุ่นไปเรื่อยๆ สบสายตาเย็นชาจากเพื่อนร่วมห้องที่ส่งมา
"พูดถูกใจ เอาลุงเลี้ยงเองจะเอาอะไรล่ะ" ลุงบาร์เทนเดอร์ใจดี เพราะถูกใจเด็กสาวสวยที่นิสัยห้าวอย่างเด็กผู้ชาย
เฟรินสั่งเครื่องดื่มอย่างคล่องแคล้ว เผื่อคาโลและคิล
"ไม่ต้องห่วงแอลกอฮอล์ไม่มาก ไม่เมาหรอก" เฟรินบอกอย่างรู้ดี
เพราะเคยช่วยงานบาร์เหล้ามาก่อน แถมยังคุยอย่างออกรสกับลุงบาร์เทนเดอร์ใจดีอีก
จนเสียงดนตรีดังขึ้น
"การแสดงจะเริ่มแล้ว"เฟรินบอกก่อนหันไปดูอย่างสนใจ
ท่ามกลางแสงไฟสลัว นางรำสาวสวยทั้งแปดออกมาร่ายรำ แสงไฟส่องสว่างให้เห็นนางรำคนสุดท้ายตรงกลางที่ผุดออกมาจากใต้เวที
สาวน้อยร่างบางผมสีทองอร่าม นัยน์ตาสีเขียว ดวงหน้าอ่อนหวานน่ารัก ริมฝีปากสีแดงสด ยิ้มแย้มราวกับดวงตะวัน สะกดใจผู้ชมทั้งหมด ก่อนร่ายรำอย่างอ่อยช้อยงดงาม ปรายยิ้มส่งมาทางด้านที่เฟรินชมอยู่
"กลับ" เสียงออกคำสั่งสั้นๆ จากเจ้าชายโรเวน พร้อมเดินนำออกจากบาร์ทันที
เจ้าชายอาเทอร์ต้องหันไปจ่ายค่าเหล้า
ส่วนพวกรุ่นน้องรีบวิ่งตามออกไปทันทีอย่างไม่เข้าใจเหตุผล
ทิ้งให้นางรำคนสวยมองตามอย่างตัดพ้อ
ในห้องนอนของสองเจ้าชาย
"ไม่รู้ว่าสเป็คนายเป็นอย่างนั้น" เจ้าชายอาเทอร์เริ่มแซว
"นั่นเจ้าหญิงวิเวียนนานีย่าแห่งเวนอล" เสียงเรียบไม่บอกอารมณ์ดังมาจากเจ้าชายแห่งเจมิไน
เจ้าชายอาเทอร์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะถึงเขาจะจีบด้วย แต่ก็ไม่ได้สนใจ เลยไม่รู้ว่าเด็กหญิงน้อยนั่นโตแล้วจะสวยขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ชอบเด็กเท่าไร ยกให้โรเวนดูแลเด็กไปก็แล้วกัน เพราะดูท่าเด็กนั่นจะชอบโรเวนมากทีเดียว อุตส่าห์ตามมาถึงนี่ สงสัยว่าเพราะปิดเทอมแล้วโรเวนยังไม่ไปหาล่ะมั้ง
ความจริงถ้าพวกเขาผนึกคทาแห่งพลังสำเร็จ ไม่โดนแย่งไปจนหักเสียอย่างนี้ ก็ไม่ต้องลำบากรับผิดชอบพาไปซ่อมถึงเดมอสหรอก คิดเสร็จก็ถอนหายใจยาว
"เรื่องอะไรทำให้เจ้าชายใจสิงห์ถอนหายใจได้" เจ้าชายโรเวนเอ่ยเมื่อได้จังหวะกัด (เพราะรอจังหวะอยู่แล้วนะสิ)
"นิดหน่อย ก็เรื่องคทานั่นนะสิ" เจ้าชายอาเทอร์ว่า ก่อนตัดบทด้วยการล้มตัวนอน
เสียงหน้าต่างถูกเคาะทำให้เฟรินหันไปดูอย่างไม่ไว้ใจ เพราะความจริงเขาก็ไม่ชอบผีสักเท่าไร แถมไอ้เจ้าชายน้ำแข็งนั่นก็มาจุดไฟให้เสียอีก ไอ้ไม่คิดก็ไม่กลัวหรอก แต่ถ้าหลวมตัวคิดแล้วก็ไม่ค่อยชอบเท่าไร แค่ไม่ชอบ ไม่ใช่กลัวสักหน่อย
ก่อนหันไปมองช้าๆ เห็นมังกรจันทราบินอยู่นอกหน้าต่าง และสาวน้อยนางรำคนสวย เขาเดินไปเปิดหน้าต่าง สาวน้อยปีนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนหันไปโบกมือบ้ายบ้ายให้คนมาส่ง ส่วนเฟรินอ้าปากค้างอย่างไม่เข้าใจเหตุการณ์
"เอ่อ เจ้าหญิงเฟลิโอน่าใช่มั้ยเพคะ หม่อมฉันวิเวียนนายีน่าแห่งเวนอล ขอหม่อมฉันติดตามไปเดมอสด้วยนะเพคะ" เจ้าหญิงน้อยกล่าวขอร้องแกมบังคับทันที
"เจ้าหญิงจะไปเดมอสทำไมล่ะฮะ" เฟรินถามอย่างสงสัย
"ก็คนใจดำของหญิงไม่ยอมไปหาหญิงที่เวนอลมาปีกว่าแล้วนี่คะ หญิงเลยต้องตามมาด้วยตัวเอง แถมยังมาเดินทางกับสาวสวยอย่างท่านอีก หญิงไม่ไว้ใจนี่คะ" เจ้าหญิงน้อยให้เหตุผล
"แล้วเจ้าหญิงทราบเรื่องการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างไรฮะ"เฟรินถามอย่างสงสัย
"ก็ไฮคิงเสด็จไปเยี่ยมท่านพ่อที่เวนอล หญิงแอบฟังพวกท่านคุยกันเลยทราบว่าท่านพี่โรเวนจะเดินทางไปเดมอส เลยแอบตามมากับแม่นม" เจ้าหญิงน้อยบอก แสดงถึงนิสัยเอาแต่ใจได้เป็นอย่างดี
"แล้วเจ้าหญิงทราบมั้ยว่าพวกเราไปทำอะไรที่เดมอส" เฟรินถาม
"ก็พาท่านไปส่งให้ท่านพ่อของท่านใช่มั้ยค่ะ" เจ้าหญิงบอกสิ่งที่คิดไว้ทันที
เฟรินก้มหน้าเอามือกุมหัวอย่างกลุ้มใจกับเจ้าหญิงตรงหน้า
"เอาเป็นว่าหญิงขอติดไปด้วยแล้วกันนะเพคะ ให้หญิงเรียกท่านว่าพี่หญิงได้มั้ยเพคะ" เจ้าหญิงว่าต่อ
"เอ่อเรียกพี่ชายดีกว่า ผมชอบอย่างนั้นมากกว่า" เฟรินว่า รู้สึกไม่ชินกับการถูกปฏิบัติแบบผู้หญิง
"ทำไมค่ะ แต่ถ้าพี่หญิงต้องการอย่างนั้นก็ได้ค่ะ" เจ้าหญิงน้อยบอกอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปนอนที่เตียงที่ยังว่างทันที
เฟรินมองอย่างจนปัญญาจะห้ามปราม จึงล้มตัวนอนเอาแรงดีกว่า
ตอนเช้าทั้งหมดต้องตกใจกับแขกไม่ได้รับเชิญ
"หญิงให้พวกแม่นมกลับไปหมดแล้ว ให้หญิงไปด้วยนะเพคะเจ้าพี่" เจ้าหญิงวิเวียนพยายามอ้อนร่างสูงของคนใจดำ
"เกิดอะไรขึ้นนะ" คิลถาม ขณะที่คาโลก็ยืนฟังอยู่ด้วยเหมือนกัน
"เมื่อคืนยัยเจ้าหญิงนี่ก็มาขอแกมบังคับ แกก็รู้ว่าฉันปฎิเสธผู้หญิงไม่เก่ง" เฟรินในร่างเจ้าหนูหัวขโมยบอกเพื่อน พลางยักคิ้วล้อเลียนใส่คาโล
ในที่สุดเจ้าชายโรเวนก็ทนอ้อนวอนของเจ้าหญิงคนสวยไม่ได้ ต้องยอมให้ตามไปด้วยอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
ท่ามกลางเสียงถอนหายใจของผู้เดินทางที่เหลือ ก่อนที่เกวียนจะเริ่มออกเดินทางต่อ
ความคิดเห็น