กะลามาบ่น - กะลามาบ่น นิยาย กะลามาบ่น : Dek-D.com - Writer

    กะลามาบ่น

    อยากจะบ่นให้คนได้อ่าน เรื่องบ้าน ๆ ของคน ๆ หนึ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    158

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    158

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ม.ค. 51 / 03:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    วันนี้ ข้าพเจ้ายืน
            อันเนื่องมาจากข้าพเจ้าต้องทำการจ่ายเงินเดือนประจำเดือนธันวาคม 2550 ในวันนี้ นั่นก็คือ 4 มกราคม 2551
     ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้า ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่อยากตื่นเช้า วันนี้อากาศหนาวมาก ๆ ข้าพเจ้าห่มผ้าสามชั้นแบบไม่ได้เป็นลูกคุณหนูแต่อย่างใด แต่ข้าพเจ้าหนาวเป็นอย่างยิ่ง จึงต้อง ห่ม 3 ชั้น
     ข้าพเจ้าใช้เวลาเป็นจำนวนมากกับการต่อสู้กับกิเลสภายในตัวของข้าพเจ้า ในใจของข้าพเจ้า กู่ก้องร้องตะโกนออกมาว่า "หนาวมากเรย นอนต่อเถอะ เงินเดือนค่อยเอาไปให้ตอนสาย ๆ  ก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบไปแต่เช้าเรย ถ้าวันนี้ไม่ทันพรุ่งนี้ก็ไปได้" ข้าพเจ้าฟังมันอย่างตั้งใจ ข้าพเจ้าคล้อยตาม ข้าพเจ้าคลุมโปง ข้าพเจ้าหลับตา ข้าพเจ้าอาปาก แล้วข้าพเจ้าก็ค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ.....
     ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด  ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด   ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด  ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ดังขึ้นเรื่อย ๆ โอ้วววว พระเจ้า มันอยู่บนโต๊ะไกล ๆ โน้น ใครมันช่างฉลาดจิง ๆ เข้าใจวางอารายเยี่ยงนี้ นี่ถ้าจะต้องปิดเสียงปิศาจนั่น ต้องออกจากผ้าห่ม 3 ชั้นอันแสนอบอุ่น แล้วเดินไปอีก 2 ก้าว กว่าจะถึงตัว มันช่างร้ายกาจนัก แต่ไม่เป็นไร อีกแค่ 2 นาทีมันก็จะเงียบไปแล้ว ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ๆ ๆ ๆ เออ กูรู้แล้ว ลุกก็ได้วะ นี่ถ้ารออีก 2 นาที ตื่นกันทั้งบ้านถึงเวลานั้น ข้าพเจ้าก็ต้องลุกอยู่ดี แล้วก็ลุกจากเตียงมาปิดเสียง
     06.30 น. อารายวะ ตั้งปลุกไว้ 06.00 น. นี่หว่า นี่แสดงว่า ไอ้ ติ๊ด ๆ  ๆ ดังบ้านแตกเนี่ย ดังเป็นครั้งที่ 3 แล้วต่างหาก(ให้เตือนซ้ำทุก 15 นาที) ไม่ใช่ครั้งแรก แล้วก็ไอ้ตอนคลุมโปงนั้น เราก็ตื่นมาครั้งนึงแล้วนี่หว่า แต่เราดันนอนต่อ อ่าว งี้ก็แสดงว่า ครั้งแรกเราก็ลุกจากเตียงมาปิดเสียงไปทีแล้วนี่หว่า แต่ว่ากดเลื่อนปลุกเฉย ๆ ไม่ได้ยกเลิก ถึงแม้จะตื่นเร็วกว่า เวลารถออกตั้ง 1 ชั่วโมง(รถเที่ยวที่จะไปนี่เวลา 07.30 น.) แต่ว่าก็ถือว่ามีเวลาน้อยมากอยู่ดี
     ข้าพเจ้ารีบหยิบผ้าเช็ดตัว แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ ทำท่าจะอาบน้ำ เปลี่ยนใจ ไม่อาบน้ำดีกว่า เด๋วไม่ทัน(จิง ๆ อาบก็ทัน แต่ไม่อาบ นี่ขนาดมีน้ำอุ่นนะเนี้ย) ข้าพเจ้าเปลี่ยนชุด ข้าพเจ้าลก ๆ ข้าพเจ้าพับผ้า ข้าพเจ้าเก็บของ ข้าพเจ้าลก ๆ ข้าพเจ้าจะออกจากห้อง ข้าพเจ้าเปลี่ยนใจใส่เสื้อกันหนาวเพิ่มอีก 1 ตัว ข้าพเจ้าจะออกจากห้องเป็นครั้งที่สอง ข้าพเจ้าลงมา ข้าพเจ้าเห็นทั้งสองท่านผู้ยิ่งใหญ่(อากู๋อากิ๋ม)นั่งกินกาแฟ ข้าพเจ้าหวัดดี ข้าพเจ้าออกจากตัวบ้าน ข้าพเจ้าเก็บหมา หมาข้าพเจ้าตัวหนึ่งขาหลังไม่ดีมาก ๆ แล้ว มันเดินไม่ค่อยไหว เลยเดินกลับเข้ากรงด้วยความเชื่องช้าอย่างที่สุด ข้าพเจ้าเชียร์หมา ข้าพเจ้าลุ้น ข้าพเจ้าเอาใจช่วย ข้าพเจ้าดีใจ ในที่สุดเจ้าสวิงหมาชราก็ถึงกรง ปิดกรง ข้าพเจ้าออกจากบ้าน  จบตอน...
     ข้าพเจ้ามาถึงที่อู่ด้วยความเร็วสูง ข้าพเจ้าลงจากรถมอเตอร์ไซ ข้าพเจ้ายืนหนาวสักครู่หนึ่ง ข้าพเจ้างัดออฟฟิศด้วยกุญแจ ข้าพเจ้าเข้าไปด้วยความเงียบ แต่เจอคนในออฟฟิศมากมาย ข้าพเจ้าเอาเงินเดือนของทุกคนใส่กระเป๋า ข้าพเจ้าดูนาฬิกา 07.25 น. แมลงเอ๊ยนี่มันจะทันเหรอวะเนี่ย อีก 5 นาทีเอง ข้าพเจ้าบึ่ง ข้าพเจ้าบึ่ง ข้าพเจ้าถึง บขส. ข้าพเจ้าเห็นรถ ข้าพเจ้าจอดรถ ข้าพเจ้า วิ่งวิ่งวิ่งวิ่งวิ่ง ข้าพเจ้าถึงรถ ข้าพเจ้าหนาวมาก ข้าพเจ้าหอบ ข้าพเจ้าดูนาฬิกาที่บขส. 07.28น. ข้าพเจ้าดูนาฬิกาที่โทรศัพท์ของข้าพเจ้า 07.33 น. นาฬิกาตูเร็วกว่า บขส. 5 นาที รอดไป
     ข้าพเจ้าจ่ายเงินเดือนตลอดทางอย่างมีความสุข จบตอน....
     ข้าพเจ้ามาถึงจังหวัดร้อยเอ็ด เวลา 10.44 น. ข้าพเจ้าลงรถ ข้าพเจ้าถวายเงินเดือนให้แก่ท่านโอ และท่านเฉลิม ข้าพเจ้าเห็นรถที่ข้าพเจ้าจะกลับ 550-4 มีคนมาก ข้าพเจ้ายังมีเวลา รถออก 11.00น. ข้าพเจ้าซื้อ ขนม นม น้ำ และขนมครก ข้าพเจ้ากิน กิน กิน หมด ข้าพเจ้าดูรถ มีคนยืน ข้าพเจ้าขึ้นรถ ยืน ข้าพเจ้ายืน ผู้จัดการยืน โอ้วไม่ ข้าพเจ้ายืน ข้าพเจ้าลงมาถามท่านเฉลิมว่ารถคันนี้ลงกันที่ไหนมาก ท่านเฉลิมบอกว่า สุรินทร์ กับท่าตูมมาก (รถจะวิ่งจากร้อยเอ็ด ผ่าน บ้านหนองบอน เมืองสรวง บ้านนา สุวรรณภูมิ บ้านสาหร่าย ท่าตูม บ้านท่าศิลา จอมพระ กม14 และสุรินทร์ในที่สุด แต่ละจุดห่างกันประมาณ 15 นาที วิ่งตลอดทางก็ 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณ) นั่นก็หมายความว่า คนทั้งหมดนี้ จะอยู่ในรูปนี้จนถึงท่าตูมเป็นอย่างน้อยนั่งเอง โอเช ข้าพเจ้าจะทน ไปลูกพี่ ออกรถ
     ออกรถ บัดนี้ข้าพเจ้าอยู่บนรถของข้าพเจ้าเอง ซึ่งเต็มไปด้วยคน และข้าพเจ้า ยืน
     เมื่อรถมาถึง อ.สุวรรณภูมิ มีคนจำนวนหนึ่งลง ข้าพเจ้าดีใจ ข้าพเจ้าลงมาที่จุดขายตั๋วเพื่อจะนั่ง ข้าพเจ้าเห็นเด็กนักเรียนจำนวนมาก ที่ซื้อตั๋วกันอยู่ ข้าพเจ้านั่งลงและมองรอบ ๆ ข้าพเจ้าเห็นเด็กนักเรียนจำนวนมากว่าที่ซื้อตั๋วอยู่วิ่งเข้ามาหาคนขายตั๋วซึ่งเป็นที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ ทุกคนซื้อตั๋ว ทุกคนขึ้นรถ ข้าพเจ้าขึ้นรถ ข้าพเจ้า ยืน
     ข้าพเจ้ายืนตรงประตูทางลงของรถ รถเคลื่อนที่ ไปด้วยเบียดเสียดเยียดยัดของคน นี่คนกระป๋องเคลื่อนที่ เมื่อถึงบ้านส่าหร่ายเด็กทั้งหลายก็ลงไปหมด ข้าพเจ้าได้นั่ง ข้าพเจ้ามาถึงท่าตูม มีคนสั่งซื้อราดหน้า ให้ข้าพเจ้าไปรับ(ที่ท่าตูมจุดขายตั๋วเป็นร้านอาหาร คนในออฟฟิศของข้าพเจ้ามักสั่งอาหารให้ข้าพเจ้าไปจ่ายตังค์เสมอ) ข้าพเจ้าเห็นคนจำนวนมาก มาซื้อตั๋ว ข้าพเจ้าเอาราดหน้า ข้าพเจ้าขึ้นรถ ข้าพเจ้า ยืน
     เมื่อรถเดินทางมาถึงท่าศิลา มีผู้โดยสารบางส่วนลง(เล็กน้อย) และมีผู้โดยสารขึ้นบางส่วน(เล็กน้อย) เมื่อถึงจอมพระ มีผู้โดยสารบางส่วนลง(เล็กน้อยมาก) และผู้โดยสายบางส่วนขึ้น(จำนวนมาก) ข้าพเจ้าหลบให้ผู้ซื้อตั๋วได้นั่ง ข้าพเจ้า อยู่บนรถ ข้าพเจ้า ยืน
     ถึงกม.14 มีผู้คนลงเล็กน้อย  ข้าพเจ้านั่งฝาครอบเครื่องแบบเบียดเสียด ข้าพเจ้าเหนื่อย ข้าพเจ้าเมื่อย ขณะนี้เวลา 13.30 น. แล้ว อีกนิดเดียวก็ถึง สุรินทร์ ข้าพเจ้าต้องอดทน อีกนิดเดียวเท่านั้น
     ข้าพเจ้าง่วงมาก ข้าพเจ้าเหนื่อย ข้าพเจ้านั่งหลับ วูบ
     ถึงแล้ว อารายฟะ นั่งหลับได้แป๊บเดียวเอง ข้าพเจ้าข้องใจเล็กน้อย แต่ก็ดีที่ถึงแล้ว ข้าพเจ้าขี่มอไซด์กลับอู่ ข้าพเจ้าเอาราดหน้ามาให้พวกเขาเหล่านั้น ข้าพเจ้ากินราดหน้าหมดอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าไม่อิ่ม ข้าพเจ้าไม่ได้กินข้าวเช้า ข้าพเจ้าหิว แล้วข้าพเจ้าก็........ ทำงานต่อ จบตอน
     สรุป... วันนี้ข้าพเจ้า ยืน นี่แหล่ะที่จะเล่ามีแค่นี้
     กะลาน้อยกราบลา
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วันนี้ ข้าพเจ้ายืน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×