ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] Never Ending Stories

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] DSLR [BJAE]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.75K
      25
      7 พ.ค. 57




    DSLR [BJAE]

     

     

     

     

     

     

    เรื่องมันเริ่มหลังจากที่ชเวยองแจเข้าไปเป็นสมาชิกในชมรมถ่ายภาพของโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดัง นอกจากโรงเรียนใหม่และเพื่อนใหม่จะเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ชมรมที่หลากหลายมากขึ้นจากชั้นมัธยมต้นก็ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เสียงโหวกเหวกและการโฆษณาความดีงามของชมรมตัวเองดังขึ้นไม่ขาดสาย ยองแจกระชับสายกระเป๋าเป้ในมือแล้วตรงไปยังบูทนึงที่คนรุมกันหนาแน่น

     

     

     

    -ชมรมถ่ายภาพ-

     



     

    มีรุ่นพี่สองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งนั่งประจำอยู่ตรงนั้น ที่สำคัญคือหน้าตาดีจนยองแจแอบคิดในใจว่าที่เด็กใหม่มารุมกันขนาดนี้เพราะชอบถ่ายรูปหรือเพราะรุ่นพี่ในชมรมหน้าตาดีก็ไม่รู้

     
     

    “เอ้าน้อง สนใจเข้าร่วมชมรมถ่ายภาพด้วยกันรึเปล่า เข้ามาเลย มาลงชื่อไว้”


     

    เป็นพี่ผู้ชายที่ยองแจแอบเหล่มองชื่อที่ปักอยู่บนหน้าอกอ่านได้ว่า -ปาร์คจินยอง- เป็นฝ่ายกวักมือแล้วเรียกเขาเข้าไป เด็กหนุ่มยืนนิ่ง เด็กคนอื่นที่เมื่อสักครู่ยังรุมบูทนี้อยู่มากมาย อยู่ดีๆก็เดินหายออกไปกันหมด

     


    “ผมสนใจครับพี่ แต่ผมไม่มีกล้องดีๆเลย ผมว่าอาจจะไม่เหมาะ”

     


    ยองแจบอกตามตรง กล้องที่ดีที่สุดที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี้เป็นเพียงกล้องในสมาร์ทโฟนเท่านั้น

     


    That’s not a big deal! แค่มีใจรักก็พอแล้ว! มานี่เลย มาๆ”

     


    ไม่เพียงแค่กวักมือ คราวนี้รุ่นพี่จินยองเดินออกมาจากบูท ตรงเข้ามาโอบไหล่ดึงยองแจเข้าไปพร้อมเชื้อเชิญกึ่งบังคับให้เขียนชื่อลงไปในกระดาษ

     

     



    และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องที่ทำให้ชเวยองแจหนักอกหนักใจไปจนถึงขั้นเครียด



     

    เพราะทุกครั้งที่ถึงเวลาเข้าชมรม ยองแจจะถูกรุ่นพี่อีกคนที่ไม่เคยเจอก่อนแซะเสียจนไม่อยากจะอยู่ชมรมนี้ต่อไป

     


    “กล้องกากว่ะ”

     


    แซะ ในทีนี้หมายถึง เพิ่งเจอกันครั้งแรกในห้องชมรม อิมแจบอม ก็ตรงดิ่งเข้ามายืนจ้องกล้องคอมแพคที่ยองแจลงทุนอ้อนวอนขอแม่น้ำตาแทบเป็นสายเลือดกว่าจะได้มา หาว่ากล้องของเขากาก

     


    คืออยากบอกแม่งว่า กูมีปัญญาเท่านี้ครับพี่

     


    แต่ก็ติดที่ว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิทกับพี่จินยอง ยองแจเลยไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป หันไปมองDSLRตัวเทพของอีกฝ่ายแล้วก็ก้มลงมองกล้องของตัวเอง

     

     



    ของกูหมุนจอได้ด้วยนะ!

     

     

     

    นอกเหนือไปจากการกัดแซะว่ากล้องของยองแจมันห่วยแล้วนั้น ฝีมือการถ่ายภาพของยองแจ อีกฝ่ายก็วิจารณ์จนมันไม่มีชิ้นดี แสดงความคิดเห็นชนิดที่ว่า พวกสาวๆในชมรมได้ยินแล้วก็ร้องฮือกันด้วยความตกใจ


     

    อันที่จริงยองแจก็ตกใจนะ แต่แบบตอนนั้นมันอยู่ในอารมณ์งงๆมึนๆ ปนสงสัยว่า

     

     



    มึงต้องด่ากูแรงขนาดนี้เลยอ่อ?

     



     

    “สงสารว่ะ ให้ยืมลองเอาไปถ่ายดูป่ะ เผื่องานมันจะดีขึ้น”

     


    นอกจากจะเหยียบย่ำเรื่องกล้อง เรื่องภาพแล้ว อิมแจบอมยังทำลายศักดิ์ศรีของชเวยองแจด้วยการยื่นกล้องเทพของตัวเองมาให้แล้วเสนอน้ำใจที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยันมาให้ยืมอีกต่างหาก

     


    “ไม่เป็นไรพี่ ผมใช้คอมแพคโง่ๆของผมนี่อ่ะ ดีแล้ว ผมมันกาก ใช้กล้องดีก็ถ่ายห่วยเหมือนเดิมอ่ะ”


     

    นั่นไง แล้วกูก็ไปด่าตัวเองให้มันฟังด้วย มันก็เปรมเลยดิ นอนเป็นหมาให้มันกระทืบแบบนี้


     

    “กูเห็นมึงถ่ายแต่ท้องฟ้า ไม่ลองเปลี่ยนไปถ่ายอย่างอื่นมั่งล่ะ เผื่อจะดีขึ้น”


     

    “ไม่อ่ะพี่ ผมถ่ายแค่นั้นเพราะผมชอบแค่นั้น”


     

    “เฮ้ยนี่กูกำลังแนะนำมึงอยู่นะ ท้องฟ้ามึงถ่ายแย่เพราะมึงถ่ายเส้นขอบฟ้าเบี้ยว เส้นขอบฟ้าเป็นเส้นตรงแสดงถึงความมั่นคงหนักแน่น มึงถ่ายเอียงสามร้อยหกสิบองศาขนาดนั้น ก็แสดงว่ามึงเป็นคนไม่มั่นคงป่าววะ”

     



     

    แต่เอาดีๆ แม่งก็เจ็บว่ะ คือคนแค่ชอบถ่ายรูป แม่งก็ด่าซะไม่อยากไปผุดไปเกิดเลย

     



     

    “ผมมั่นคงพี่ แต่ผมกำลังสงสัยอะไรอย่างนึง”


     

    “ทำไม มึงสงสัยอะไร มึงถามกูได้ กูไม่กัดมึงหรอก”


     

    ยองแจเลิกคิ้ว นี่ขนาดไม่กัดนะ เสื้อนักเรียนกูกลายเป็นสีแดงตั้งแต่เดือนแรกที่กูเข้าชมรมนี้แล้ว รอยฟันพี่ล้วนๆเลยครับ

     



     

     

    “ผมสงสัยว่าทำไมพี่ต้องด่าผมขนาดนี้ด้วยวะ”

     



     

     

    แล้วอิมแจบอมก็นิ่งไปเลย แม่ง แต่อันนี้กูสงสัยจริงๆ เพราะมันแม่งมาด่าแต่กูคนเดียว รูปคนอื่นก็เบี้ยวเหมือนกัน มิหนำซ้ำรูปท้องฟ้าล่าสุดที่ยองแจอัดมาส่ง ไอ้ยูคยอมเพื่อนสนิทแม่งเป็นคนถ่าย แม่งถ่ายมาเบี้ยว แต่คนส่งคือกู แม่งก็ด่ากู


     

    “ผมแม่งถ่ายรูปแย่ขนาดนั้นเลยหรอวะพี่ คือผมแค่ชอบถ่ายรูปท้องฟ้าเพราะผมชอบมองท้องฟ้าอ่ะพี่ ถ่ายเบี้ยวแม่งผิดมากเลยดิ”


     

    ไอ้พี่แจบอมแม่งเริ่มสะอึกแล้วครับ คงคิดไม่ถึงว่ากูจะดราม่าขนาดนี้ จริงๆกูก็ไม่ได้คิดจะดราม่าขนาดนี้หรอก แต่คิดๆไปแล้วแม่งก็เศร้า

     


    “เฮ้ย กูไม่ได้หมายความว่ามันผิด กูแค่แนะนำ การถ่ายรูปให้คนอื่นดู มันก็ควรจะน่าสนใ

     


    “งั้นช่างมันเหอะพี่ เดี๋ยวผมถ่ายเอาไว้ดูคนเดียว จะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องฟ้าเบี้ยว”

     


    คราวนี้ไม่ใช่แค่อิมแจบอมที่นิ่ง ทั้งห้องชมรมก็นิ่งไปด้วย เหมือนอยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง จนกระทั่งพี่จินยองที่เพิ่งกลับจากออกไปล้างรูปเดินเข้ามาในห้อง ประธานชมรมดูสงสัยว่าทำไมวันนี้บรรยากาศในห้องมันแปลกๆ ในขณะที่คนอื่นๆเริ่มทยอยเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

     


    ชเวยองแจนิ่ง ก้มหน้ามองพื้น กดปุ่มปิดกล้องคอมแพคโง่ๆคู่ใจแล้วกวาดรูปที่เอามาส่งวันนี้ลงกระเป๋า

     

     



    เวร ทำไมรูปมันเปียกวะ ฝนตกในห้องได้ด้วยหรอ

     



     

    ….แล้วมึงจะร้องไห้ทำไมเนี่ย”

     


    เป็นเสียงพี่แจบอมที่ทักขึ้นมา อ้อ ฝนไม่ได้ตกในห้อง แต่ชเวยองแจเศร้ามากจนน้ำตาไหล แถมไหลแบบหยุดไม่ได้ซะด้วย เดชะบุญที่ไม่สะอื้น ไม่งั้นคงประหลาดพิลึก

     


    พี่จินยองเดินเข้ามา จ้องคาดคั้นจนตัวการที่ทำให้ยองแจร้องไห้ลุกลี้ลุกลน

     


    “ผมลาออกพี่ มีแค่ใจแม่งถ่ายรูปไม่ได้ มันต้องมีกล้องดีๆด้วย ผมไม่มีว่ะพี่ แถมพี่แจบอมเกลียดผมอีก คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากว่ะพี่ ผมไปหาชมรมอื่นอยู่ดีกว่า”


    ยองแจหันไปบอกจินยอง ประธานชมรมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะหันไปมองแจบอม


     

    “บี มึงแม่งกากว่ะ อยู่ตั้งมอปลายแล้วยังจะดักดานอยู่ได้ แกล้งคนที่ชอบแม่งเป็นวิธีจีบสาวของเด็กอนุบาลโน่น กูเบื่อมึงจริงๆ เคลียร์เลย! แต่น้องต้องไม่ย้ายชมรม กูพูดแค่นี้!




     

    แล้วพี่จินยองก็เดินออกจากห้องไป



     

     

    เดี๋ยวนะ….. ยองแจว่าเรื่องแม่งแปลกๆละ

     



     

    เงยหน้าขึ้นมองตัวการ พี่แจบอมมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยองแจใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาที่แห้งไปตอนไหนไม่รู้แล้วจ้องเอาความจริงของแจบอม


     

    “จินยองบอกมึงว่าแค่มีใจรักก็อยู่ชมรมได้แล้วใช่ป่าว?”

     


    ยองแจพยักหน้า

     


    “เออ จินยองบอกให้มึงทำๆ ไปเพราะมึงชอบ”

     


    อิมแจบอมหยุดพูดแล้วมองออกนอกหน้าต่าง เห็นปาร์คจินยองยืนกอดอกอยู่ข้างนอกก็หันกลับเข้ามามองเด็กที่ยังทำหน้ามึนจ้องคืนไม่เลิกแล้วพูดจนจบ

     

     



     

    “จะบอกให้ก็ได้ ที่ทำอยู่นี่ก็เพราะชอบเหมือนกันเว้ย!

     

     

     

     

     

     

     

     

                                    

     END.





    uwithb : เพื่อนขายพล้อตมาให้ค่ะ ละเอาดีๆคือ ๕๕๕๕ ในหัวไม่มีพล้อตบีแจเลยค่ะคุณผู้ช๊มมมมมมมมมมมมมมมม อยากจะร้องไห้ ๕๕๕๕๕๕๕๕ ตอนแรกอยากให้ฟิคมันฟุ้งๆหวานๆน่าร๊ากๆๆๆๆๆ ให้เหมือนน้องยองแจ แต่ไปๆมาๆทำไมมันโหดขนาดนี้ก็ไม่รู้ ๕๕๕๕๕๕๕ อยากจะร้องไห้อีกที หวังว่าจะสนุกกันนะคะะะะะะะ ขอบคุณเพื่อนที่นอกจากจะขายพล้อตแล้วยังต้องพรูฟด้วย คือก็มีกันอยู่แค่นี้ไง เลิฟยูว

     

     

     

     

     


    themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×