เทพี ดิมิเทอร์ Demeter
ผู้เข้าชมรวม
724
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
...ซูสเทพปริณายก มีเทวีภคินี 3 องค์ ในจำนวนนี้ 2 องค์เป็นคู่พิศวาสของซูสด้วย องค์หนึ่งคือเจ้าแม่ฮีรา ที่เราได้รู้จักกันมาแล้ว อีกองค์ทรงนามว่า ดีมิเตอร์ (Demeter) ตามชื่อกรีกหรือภาษาโรมันว่า ซีริส (Ceres) เป็นเทวีครองข้าวโพด ซึ่งหมายถึงการเกษตรกรรมนั่นเอง
ฮาเดสปกครองยมโลกอยู่คนเดียว โดดเดี่ยวไร้คู่ปฏิพัทธ์มาเป็นเวลานาน หามีเทวีองค์ใดไยดีที่จะร่วมเทวบัลลังก์ กับเธอ เทวีแต่ละองค์ที่เธอทอดเสน่หา ต่งองค์ต่างก็ไม่สมัครรักใคร่เธอ ด้วยไม่ปรารถนาจะลงไปอยู่ในใต้หล้าแดนบาดาล อันดวงสุริยาไม่สามารถทอแสงลงไปถึง ทำให้เธอมึนตึงหมางหทัยนัก ในที่สุดจึงต้องตั้งปณิธานจะไม่ทอดเสน่หาใครอีกเป็น อันขาด หากปฏิพัทธ์สวาทกับใคร ก็จะฉุดคร่าพาเอาลงไปบาดาลดื้อ ๆ
วันหนึ่งเพอร์เซโฟนีพร้อมเพื่อนเล่นทั้งมวลชวนกันลงเที่ยวสวนดอกไม้ เที่ยวเด็ดดอกไม้อันจรุงกลิ่น สอดสร้อย ร้อยมาลัยอยู่เป็นที่สำราญ บังเอิญฮาเดสขับรถทรงแล่นผ่านมาทางนั้น ได้ยินสรวลสรรหรรษาร่าเริงระครเสียงขับร้องของ เหล่านางอัปสรสาวสวรรค์ลอยมา เธอจึงหยุดรถทรง ลงไปเยี่ยมมองทางช่องสุมทุมพุ่มไม้ ครั้นพบเทวีรุ่นสะคราญทรงโฉม วิลาสลิไลนักให้นึกรัก จะเอาไปไว้ในยมโลก เธอจึงก้าวกระชากชิงอุ้มเพอร์เซโฟนีเทวีขึ้นรถไปในทันที
ฮาเดสขับรถเร่งไปจนถึงแม่น้ำ ไซเอนี (Cyane) ซึ่งขวางหน้าอยู่เห็นน้ำในแม่น้ำเกิดป่วนพล่านแผ่ ขยายท่วมท้นตลิ่งสกัดกั้นเธอเอาไว้ จึงชักรถไปทางอื่น ใช้มือถือคู่หัตถ์มีง่าม 2 แฉก กระแทกกระทุ้งแผ่นดินให้แยก ออกเป็นช่อง แล้วขับรถลงไปยังบาดาล ในขณะเดียวกันนั้น เพอร์เซโฟนีแก้สายรัดองค์ขว้างลงในแม่น้ำ ไซเอนี พลาง ร้องบอกนางอัปสรประจำแม่น้ำให้เอาไปถวายเจ้าแม่ดีมิเตอร์ ผู้มารดาด้วย
ฝ่ายดีมิเตอร์แม่โพสพกลับมาจากทุ่งข้าวโพด ไม่เห็นธิดา เที่ยวเพรียกหาก็ไม่พานพบวี่แววอันใด เว้นแต่ ดอกไม้ตกเรี่ยราดกลาดเกลื่อนอยู่ เจ้าแม่เที่ยวหากระเซอะกระเซิงไปตามที่ต่าง ๆ พลางกู่เรียกไปจนเวลาเย็นให้อาดูร โทมนัสนัก ล่วงเข้าราตรีกาลเจ้าแม่ก็ไม่หยุดพักการเสาะหาธิดา จนถึงรุ่งอรุรของวันใหม่ แม้กระนั้นเจ้าแม่ก็ไม่ลดละ ความพยายาม คงดั้นด้นเรียกหาธิดาไปตามทางอีก มิได้ห่วงถึงภาระหน้าที่ประจำที่เคยปฏิบัติแต่อย่างใด ดอกไม้ทั้งปวง จึงเหี่ยวเฉาเพราะขาดฝนชะโลมเลี้ยง ติณชาติตายเกลี้ยงไม่เหลือเลย พืชพันธุ์ธัญญาหารถูกแดดแผดเผาซบเซาหมด ในที่สุดเจ้าแม่ก็สิ้นหวังระทดระทวยหย่อนองค์ลงนั่งพักที่ริมทางใกล้นครอีลูสิส ความระทมประดังขึ้นมาสุดที่จะหักห้าม เจ้าแม่ก็ซบพักตร์กันแสงไห้ตามลำพัง
ในระหว่างที่ยังไม่พบธิดานี้ มีเรื่องแทรกเกี่ยวกับเจ้าแม่ดีมิเตอร์เกิดขึ้นเรื่องหนึ่ง สมควรจะเล่าไว้เสียด้วย
เจ้แม่ดีมิเตอร์ยอมรับภาระนี้ พอลูบคลำโอบอุ้มทารก ทารกก็เปล่งปลั่งมีนวลขึ้นเป็นที่อัศจรรย์แก่เจ้านครและบริษัท บริวารยิ่งนัก ตกกลางคืนขณะที่เจ้าแม่อยู่ตามลำพังกับทารก เจ้าแม่คิดใคร่จะให้ทารกได้ทิพยภาพเป็นอมรรตัยบุคคล จึงเอา น้ำต้อยเกสรดอกไม้ชะโลมทารกพลางท่องบทสังวัธยายมนต์ แล้ววางทารกลงบนถ่านไฟอันเร่าร้อน เพื่อให้ไฟลามเลียเผา ผลาญธาตุมฤตยู ที่ยังเหลืออยู่ในกายทารกให้หมดสิ้น
ฝ่ายนางพญาของเจ้านคร ยังไม่วางใจยายแก่นัก ค่อยย่องเข้าไปในห้องเพื่อคอยดู ประจวบกับตอนเจ้าแม่ดีมิเตอร์ กำลังทำพิธีชุบทารกอยู่พอดี นางตกใจนัก หวีดร้องเสียงหลง พลางถลันเข้าฉวยบุตรออกจากไฟ ครั้นเห็นบุตรสุดสวาทไม่ เป็นอันตรายแล้ว จึงหันกลับมาจะไล่เบี้ยเอากับยายแก่เสียให้สาสมกับความโกรธแค้น แต่แทนที่จะเห็นยายแก่ กลับเห็น รูปเทวีประกอบด้วยรัศมีเรืองรองอยู่ตรงหน้า เจ้าแม่ตรัสพ้อนางพญาโดยสุภาพ ในการที่เข้าไปขัดขวางการพิธีเสีย ทำให้ มนต์เสื่อมและชุบทารกอีกไม่ได้ แล้วเจ้าแม่ดีมิเตอร์ก็ออกจากเมืองอีลูสิสเที่ยวหาธิดาต่อไป
วันหนึ่งเจ้าแม่ดีมิเตอร์พเนจรเลียบฝั่งแม่น้ำอยู่ พลันได้ประสบวัตถุแวววาวสิ่งหนึ่งอยู่แทบบาท เจ้าแม่จำได้ ทันทีว่าเป็นวายรัดองค์ของธิดา คือสายรัดองค์ที่เพอร์เซโฟนีทิ้งฝากนางอัปสรแห่งแม่น้ำไซเอนีไว้ เมื่อตอนรถทรงของฮาเดส จะลงสู่บาดาล เจ้าแม่ได้ของสิ่งนี้ยินดียิ่งนัก แสดงว่าธิดาอยู่ใกล้ที่นั้น จึงรีบดำเนินไปจนถึงน้ำพุแก้วแห่งหนึ่ง รู้สึกเมื่อยล้า จึงลงพักทอดองค์ตามสบาย พอรู้สึกเคลิ้มจะหลับ เสียงน้ำพุก็ฟ่องเฟื่องยิ่งขึ้นเหมือนเสียงพูดพึมพำ ในที่สุดเจ้าแม่ก็จับความ ได้ว่า เป็นความประวัติของตนให้เจ้าแม่สดับฟัง และต้องการจะแจ้งข่าวของธิดาเจ้าแม่ว่าเป็นประการใด น้ำพุเล่าประวัติของ ตนเองว่า เดิมตนเป็นนางอัปสรขื่อว่า แอรีธูสะ (Arethusa) บริวารของเทวี อาร์เตมิส (Artemis) วันหนึ่งลง อาบน้ำในแม่น้ำ แอลฟีอัส (
ยังมีเรื่องที่ต้องเล่าต่ออีกเล็กน้อย คือเมื่อเจ้าแม่ดีมิเตอร์พบธิดาแล้ว ก็กลับไปยังเมืองอีลูสิสอีก เพราะว่าเจ้า ครองนครกับนางพญาปลูกวิหารถวายเจ้าแม่ไว้ที่นั่น เพื่อให้มนุษย์รู้จักการทำไร่ ไถนา เจ้าแม่ได้สั่งสอนทริปโทลีมัส ซึ่ง เติบโตเจริญวัยเป็นผู้ใหญ่แล้ว ให้รู้จักใช้ไถ จอบ และเคียว สั่งสอนชาวนาสืบ ๆ กันมาจนตราบเท่าบัดนี้
ผลงานอื่นๆ ของ หมีจักรพรรดิ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ หมีจักรพรรดิ
ความคิดเห็น