บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับเพลง

ข้อมูลเบื้องต้น

เพลงเอ้อนอ้ายแหน่เด๊อยามเธอมีแฮง

“มันตรอมมันตรม มันเจ็บระบม ระทมฤทัย มันอ่อนระทวยไปทั้งใจ

เมื่อผู้สาวเฮาสิเข้าเรือนหอ เครื่องไฟในงาน มันดังสะท้าน

สั่นหลังคาเฮือน ขวัญอ้ายสะทกอกสะเทือน คืนนี้เสร็จเขาแท้ๆหล่ะเน้อ

เขาคงสิคั้น เขาคงสิหย้อง จนกองเอ๊าะเย๊าะ

แล้วแต่สิเฮ็ดกันโลดเถาะ บ่อยากนึกภาพให้บาดใจ

ให้สุขให้สันต์ วันเอาบุญเอว สาเด้อทรามวัย

ได้ขึ้นสวรรค์ซั้นได๋ เอิ้นอ้ายแน่เด้อยามเธอมีแฮง”
เพลงนี้เป็นการพูดถึงแฟนเก่าที่ไปแต่งงานใหม่กับผู้ชายคนใหม่ ที่มีถานะทางการเงินค่อนข้างดี
แฟนเก่าก็ต้องอกหักตามระเบียบ จึงใช้เพลงเป็นสื่อกลางในการบอกเป็นนัยยะว่า เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหญิงมีสัมพันธ์กับแฟนใหม่ อย่าลืมเรียกชื่อแฟนเก่าคนนี้ด้วยนะ เหมือนประชดประชันไปในตัว ไม่รู้จะประชดแฟนเก่า หรือว่าประชดตัวเอง “เขาคงสิคั้น เขาคงสิหย้อง จนกองเอ๊าะเย๊าะ” ประโยคนี้มันแลดูสื่อความนัยชอบกล ไม่ได้ชอบเพลงนี้เพียงเพราะว่ามีประโยคติดเหรด แต่ชอบตรงที่มันเป็นเนื้อเพลงที่แต่งออกมาได้ละเอียดลออ ใช้คำภาษาถิ่นอีสานได้เหมาะและลงตัวกับอารมณ์ของเพลง

*เชิงอรรถ เพลงเอิ้นอ้ายแหน่เด๊อยามเธอมีแฮง คำร้อง โอ๋ พจนา

เพลงเอ้อนน้องใส่ม่อนึ่ง

“ล่ะไปอยู่ไสล่ะแฟนอ้าย

ล่ะคนฮักเจ้าแป๋ตาย ยังคึดฮอดอยู่คือเก่า

ล่ะได้แต่กอดความเหงา

ยามขาดเจ้าอยู่ใกล้ บอกใจไว้ว่าให้ทน

ล่ะกลับมาเด้อ อ้ายเอิ้นเธอใส่หม้อนึ่ง

ในมื้อหนึ่งน้อหลายหน

ลอยเป็นมนต์ไปดลใจ เจ้าอยู่ไสให้คืนบ้าน

วันเดือนเลื่อนเป็น พ.ศ. เธอทิ้งให้รอแล้วก็ไม่กลับมา

ไปลับไปลา ปล่อยอ้ายตรมขมขื่น

ไปไม่กลับมาหรือไปกินปลาหนองอื่น

ละเมอเพ้ออยู่ทุกคืน คอยนานย่านกั้นใจตาย

โบราญกล่าววัวควายหาย

เคล็ดลับบอกไว้ให้เอิ้นหาทางหม้อนึ่ง

ยามท้อถือเป็นที่พึ่ง เอิ้นใส่หม้อนึ่งเพื่อรอปาฏิหาริย์

สาวไกลบ้านหลายฝนดนนานไปพร้อมผ้าป่า

ยังบ่เห็นโผล่หน้ามาหาอ้ายผู้คอย

ไปมิดจ้อยปานปล่อยเอี่ยนลงตม

เข้าสังคมไปหลงลมชายได๋ อยู่ไสน้อเจ้า

อ้ายคนเหงาได้นอนมือก่ายหน้า

คนผู้เคยสบตากะยังถ่าเจ้าอยู่

น้ำตาขู๋ใส่แก้มสะเทือนเข้าใส่ใจ

รักและห่วงใย อยู่ที่ไหนหนอคนรักเรา

สืบถามดูข่าวคราว คนใกล้ไกลก็ไร้วี่แวว

เหลือเพียงที่พึ่งคือหม้อนึ่งพอได้เอิ้นแอ่ว

สุดท้ายอ้ายหมดหวังแล้ว ที่จะได้เธอกลับคืนมา”

เป็นเพลงที่ลึกซึ้งกินใจ
เพลงนี้พูดถึงการจากไปของคนรักที่ไม่กลับมา
หล่อนหายไปตั้งแต่วันที่มีงานผ้าป่า
หลังจากนั้น หล่อนก็ไม่กลับมาอีกเลย
ชายคนรักจึงหาวิธีการเรียกให้อีนางนั้นคืนบ้านมา จนได้ยินจากคำโบรานว่า
หากสิ่งของ หรือ คนหายให้เรียกผ่านม่อนึ่ง
ซึ่งชายคนรักก็ลองใช้วิธีนั้นเรียกดู
แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ครั้งหนึ่ง พ่อผมใช้วิธีเรียกสุนัข ด้วยวิธีตามเพลงนี้เหมือนกันนะ
ผลออกมาคือ ใช้ได้เฉยเลย อาจจะเป็นเพราะว่า มันคิดถึงเจ้าของหละมั้ง มันเลยหาทางกลับบ้านถูกหนะ เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ชอบนะ เพลงนี้สอดแซกความรู้เรื่องความเชื่อของคนอีสานในท้องถิ่นแต่เก่าก่อน ผ่านสื่อกลางทางหม้อนึ่ง จะเห็นได้ว่าเพลงที่มีความหมายดีๆ สมัยนี้หาฟังได้ยาก ผู้แต่งเพลงนี้คงต้องการสื่อถึงความหวังของการรอคอยคนรัก จากความเชื่อดั้งเดิม อาจฟังดูเพ้อเจ้อ ไร้แก่นสาร แต่ทว่าแฝงไปด้วยความหวังที่จะตามหาคนรัก ตราบใดที่ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดีดดิ้นตามหาคนรักให้เจอ
*เชิงอรรถ เพลงเอิ้นน้องใส่หม้อนึ่ง คำร้อง วิเชียร ชัยเลิศ
เพลงต้นทุนชีวิตต่างกัน คำร้อง ทำนอง: sts73 
แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

อย่าไปสนอย่าไปคิดกับคำเว่าคนเหล่านั้น

ต้นทุนซีวิตของคนเฮามันต่างกัน

อนาคตยังยาวไกล อุปสรรคต้องฝ่าฟัน

ถึงบ่แม่นในวันนี้ ก็คงต้องมีในสักวัน

บ่มีไผที่จะเก่งในวันแรกที่ได้เกิด

ชีวิตนี้ต้องได้ลอง ต้องได้เห็นต้องได้เปิด

มีเรื่องราวมีหลากหลาย มีทั้งชายมีทั้ง Girl

ทุกๆ อย่างมีความหมาย บ่เข้าใจให้ไปเสิร์ช

บางคนบ่เข้าใจ และเบิ่งตัวข้อยเป็นสิ่งแปลก

เรื่องราวที่ผ่านมา โชคชะตาวลีแทรก

กฎระเบียบก็ตีกรอบ เมื่อถึงเวลาก็ต้องแหก

มันสิหนักเพียงหนักหนา เมื่อถึงเวลาก็ต้องแบก

ถ้าเจ็บป่วยไข้ให้กินยา และใช้เวลาเดี๋ยวก็หาย

ทุกสิ่งอย่างที่ได้มา เมื่อถึงเวลาก็สลาย

ถึงจะรวยจนล้นฟ้า เมื่อถึงเวลาก็ต้องตาย

ใช้ชีวิตให้มีค่า และเจิดจ้ามีความหมาย

แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

บางคนก็บูลลี่ในสิ่งที่ข้อยกำลังทำ

นั่นมึงฮ้องเพลงหรือว่ามึงแร็ปหรือว่าตัวมึงกำลังลำ

บางคนครั้งก็ใช้คำเก่า ให้คนฟังนั้นได้จำ

บางคนก็บอกมันส์ แต่ตัวข้อยก็ต้องทำ

อดีตเป็นจั่งใด๋ ก็ให้มันผ่านมันไปก่อน

ตอนพี่เฮียนชั้นม.ปลาย มีแต่นอนและก็นอน

บ่ได้ฟังอธิบาย เมื่อถึเวลาก็พักผ่อน

ความฮู้ความบ่หลาย แต่สามารถแต่งเป็นกลอน

Someone still don't like

What they are doing now

My house is outside not is in of the town

I don't want to fight anyone I'm from Laos

Someone of Thailand listen song of the Laos

ทุกคนต้องเคยผ่าน คำดูถูกคนเว่าขวัญ

มีคนมักมีคนซมและก็ต้องมีคนซัง

สิ่งที่เฮาเคยผิดผ่าน เก็บมาเป้นแฮงผลักดัน

สิ่งที่เฮาควรดูแล ก็คือพ่อแม่อยู่ทางหลัง
เพลงนี้ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจ อยากจะเขียนหนังสือไปเรื่อยๆ แบบไม่หยุดพัก ทุกครั้งที่ผมเปิดเพลงนี้ฟัง ทำให้ผม รู้สึกทึ่งในความสามารถของศิลปินเป็นอย่างมาก เขาเขียนเพลงออกมาได้อย่างค่อนข้างลึกซึ้งกินใจได้มากทีเดียว
มีบางครั้งนะที่ผมท้อ แต่ผมก็ไม่ถอย เพราะเพลงนี้ เป็นเพลงที่ เติมเต็มความสุขในชีวิต ทุกๆครั้งที่ผมได้ฟังเพลงนี้ ทำให้ผมรู้สึก เหมือนมีเพื่อนคอยให้กำลังใจ
แม้ว่าศิลปินคนนี้จะเป็นศิลปินหน้าใหม่ ผมก็รู้สึกชอบผลงานของเขา เพราะเขา เขียนเพลงออกมาได้ตรงกับความรู้สึกของผมเลย
ก่อนหน้าที่ผมจะผันตัวจากนักร้อง อิสระ มาเป็นนักเขียน ผมเปิดเจอเพลงนี้ เมื่อผมกดเข้าไปในyoutube แค่ฟังเพียงครั้งแรก ผมก็เลยอยากจะร้องเพลงนี้เป็นบ้าง จึงเริ่มฟัง และ ผมใช้เวลานานมากกว่าที่ผมจะร้องเพลงนี้ได้
กว่าที่ผมจะร้องเพลงนี้ได้ ผมใช้เวลาทั้งหมดเกือบเดือน
เพราะว่า มันเป็นเพลงที่มีภาษาอังกฤษด้วย จึงใช้เวลาหัดอยู่นานกว่าจะได้

เนื้อเรื่อง

     บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับเพลง
เพลงเอ้อนอ้ายแหน่เด๊อยามเธอมีแฮง

“มันตรอมมันตรม มันเจ็บระบม ระทมฤทัย มันอ่อนระทวยไปทั้งใจ

เมื่อผู้สาวเฮาสิเข้าเรือนหอ เครื่องไฟในงาน มันดังสะท้าน

สั่นหลังคาเฮือน ขวัญอ้ายสะทกอกสะเทือน คืนนี้เสร็จเขาแท้ๆหล่ะเน้อ

เขาคงสิคั้น เขาคงสิหย้อง จนกองเอ๊าะเย๊าะ

แล้วแต่สิเฮ็ดกันโลดเถาะ บ่อยากนึกภาพให้บาดใจ

ให้สุขให้สันต์ วันเอาบุญเอว สาเด้อทรามวัย

ได้ขึ้นสวรรค์ซั้นได๋ เอิ้นอ้ายแน่เด้อยามเธอมีแฮง”
เพลงนี้เป็นการพูดถึงแฟนเก่าที่ไปแต่งงานใหม่กับผู้ชายคนใหม่ ที่มีถานะทางการเงินค่อนข้างดี
แฟนเก่าก็ต้องอกหักตามระเบียบ จึงใช้เพลงเป็นสื่อกลางในการบอกเป็นนัยยะว่า เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหญิงมีสัมพันธ์กับแฟนใหม่ อย่าลืมเรียกชื่อแฟนเก่าคนนี้ด้วยนะ เหมือนประชดประชันไปในตัว ไม่รู้จะประชดแฟนเก่า หรือว่าประชดตัวเอง “เขาคงสิคั้น เขาคงสิหย้อง จนกองเอ๊าะเย๊าะ” ประโยคนี้มันแลดูสื่อความนัยชอบกล ไม่ได้ชอบเพลงนี้เพียงเพราะว่ามีประโยคติดเหรด แต่ชอบตรงที่มันเป็นเนื้อเพลงที่แต่งออกมาได้ละเอียดลออ ใช้คำภาษาถิ่นอีสานได้เหมาะและลงตัวกับอารมณ์ของเพลง

*เชิงอรรถ เพลงเอิ้นอ้ายแหน่เด๊อยามเธอมีแฮง คำร้อง โอ๋ พจนา

เพลงเอ้อนน้องใส่ม่อนึ่ง

“ล่ะไปอยู่ไสล่ะแฟนอ้าย

ล่ะคนฮักเจ้าแป๋ตาย ยังคึดฮอดอยู่คือเก่า

ล่ะได้แต่กอดความเหงา

ยามขาดเจ้าอยู่ใกล้ บอกใจไว้ว่าให้ทน

ล่ะกลับมาเด้อ อ้ายเอิ้นเธอใส่หม้อนึ่ง

ในมื้อหนึ่งน้อหลายหน

ลอยเป็นมนต์ไปดลใจ เจ้าอยู่ไสให้คืนบ้าน

วันเดือนเลื่อนเป็น พ.ศ. เธอทิ้งให้รอแล้วก็ไม่กลับมา

ไปลับไปลา ปล่อยอ้ายตรมขมขื่น

ไปไม่กลับมาหรือไปกินปลาหนองอื่น

ละเมอเพ้ออยู่ทุกคืน คอยนานย่านกั้นใจตาย

โบราญกล่าววัวควายหาย

เคล็ดลับบอกไว้ให้เอิ้นหาทางหม้อนึ่ง

ยามท้อถือเป็นที่พึ่ง เอิ้นใส่หม้อนึ่งเพื่อรอปาฏิหาริย์

สาวไกลบ้านหลายฝนดนนานไปพร้อมผ้าป่า

ยังบ่เห็นโผล่หน้ามาหาอ้ายผู้คอย

ไปมิดจ้อยปานปล่อยเอี่ยนลงตม

เข้าสังคมไปหลงลมชายได๋ อยู่ไสน้อเจ้า

อ้ายคนเหงาได้นอนมือก่ายหน้า

คนผู้เคยสบตากะยังถ่าเจ้าอยู่

น้ำตาขู๋ใส่แก้มสะเทือนเข้าใส่ใจ

รักและห่วงใย อยู่ที่ไหนหนอคนรักเรา

สืบถามดูข่าวคราว คนใกล้ไกลก็ไร้วี่แวว

เหลือเพียงที่พึ่งคือหม้อนึ่งพอได้เอิ้นแอ่ว

สุดท้ายอ้ายหมดหวังแล้ว ที่จะได้เธอกลับคืนมา”

เป็นเพลงที่ลึกซึ้งกินใจ
เพลงนี้พูดถึงการจากไปของคนรักที่ไม่กลับมา
หล่อนหายไปตั้งแต่วันที่มีงานผ้าป่า
หลังจากนั้น หล่อนก็ไม่กลับมาอีกเลย
ชายคนรักจึงหาวิธีการเรียกให้อีนางนั้นคืนบ้านมา จนได้ยินจากคำโบรานว่า
หากสิ่งของ หรือ คนหายให้เรียกผ่านม่อนึ่ง
ซึ่งชายคนรักก็ลองใช้วิธีนั้นเรียกดู
แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ครั้งหนึ่ง พ่อผมใช้วิธีเรียกสุนัข ด้วยวิธีตามเพลงนี้เหมือนกันนะ
ผลออกมาคือ ใช้ได้เฉยเลย อาจจะเป็นเพราะว่า มันคิดถึงเจ้าของหละมั้ง มันเลยหาทางกลับบ้านถูกหนะ เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ชอบนะ เพลงนี้สอดแซกความรู้เรื่องความเชื่อของคนอีสานในท้องถิ่นแต่เก่าก่อน ผ่านสื่อกลางทางหม้อนึ่ง จะเห็นได้ว่าเพลงที่มีความหมายดีๆ สมัยนี้หาฟังได้ยาก ผู้แต่งเพลงนี้คงต้องการสื่อถึงความหวังของการรอคอยคนรัก จากความเชื่อดั้งเดิม อาจฟังดูเพ้อเจ้อ ไร้แก่นสาร แต่ทว่าแฝงไปด้วยความหวังที่จะตามหาคนรัก ตราบใดที่ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดีดดิ้นตามหาคนรักให้เจอ
*เชิงอรรถ เพลงเอิ้นน้องใส่หม้อนึ่ง คำร้อง วิเชียร ชัยเลิศ
เพลงต้นทุนชีวิตต่างกัน คำร้อง ทำนอง: sts73
แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

อย่าไปสนอย่าไปคิดกับคำเว่าคนเหล่านั้น

ต้นทุนซีวิตของคนเฮามันต่างกัน

อนาคตยังยาวไกล อุปสรรคต้องฝ่าฟัน

ถึงบ่แม่นในวันนี้ ก็คงต้องมีในสักวัน

บ่มีไผที่จะเก่งในวันแรกที่ได้เกิด

ชีวิตนี้ต้องได้ลอง ต้องได้เห็นต้องได้เปิด

มีเรื่องราวมีหลากหลาย มีทั้งชายมีทั้ง Girl

ทุกๆ อย่างมีความหมาย บ่เข้าใจให้ไปเสิร์ช

บางคนบ่เข้าใจ และเบิ่งตัวข้อยเป็นสิ่งแปลก

เรื่องราวที่ผ่านมา โชคชะตาวลีแทรก

กฎระเบียบก็ตีกรอบ เมื่อถึงเวลาก็ต้องแหก

มันสิหนักเพียงหนักหนา เมื่อถึงเวลาก็ต้องแบก

ถ้าเจ็บป่วยไข้ให้กินยา และใช้เวลาเดี๋ยวก็หาย

ทุกสิ่งอย่างที่ได้มา เมื่อถึงเวลาก็สลาย

ถึงจะรวยจนล้นฟ้า เมื่อถึงเวลาก็ต้องตาย

ใช้ชีวิตให้มีค่า และเจิดจ้ามีความหมาย

แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

แม้นดวงตะเว็นจะลับแสง หัวใจแดงๆ ยังเต้นอยู่

ถึงแม้นร่างกายจะเบิดแฮง บ่มีแม้แฮงที่จะสู้

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกใบนี้ ถ้ามีนักเฮียนต้องมีครู

กูเปิดฟังเพลงตัวเองฟัง จนป้าข้างบ้านต้องร้อนหู

บางคนก็บูลลี่ในสิ่งที่ข้อยกำลังทำ

นั่นมึงฮ้องเพลงหรือว่ามึงแร็ปหรือว่าตัวมึงกำลังลำ

บางคนครั้งก็ใช้คำเก่า ให้คนฟังนั้นได้จำ

บางคนก็บอกมันส์ แต่ตัวข้อยก็ต้องทำ

อดีตเป็นจั่งใด๋ ก็ให้มันผ่านมันไปก่อน

ตอนพี่เฮียนชั้นม.ปลาย มีแต่นอนและก็นอน

บ่ได้ฟังอธิบาย เมื่อถึเวลาก็พักผ่อน

ความฮู้ความบ่หลาย แต่สามารถแต่งเป็นกลอน

Someone still don't like

What they are doing now

My house is outside not is in of the town

I don't want to fight anyone I'm from Laos

Someone of Thailand listen song of the Laos

ทุกคนต้องเคยผ่าน คำดูถูกคนเว่าขวัญ

มีคนมักมีคนซมและก็ต้องมีคนซัง

สิ่งที่เฮาเคยผิดผ่าน เก็บมาเป้นแฮงผลักดัน

สิ่งที่เฮาควรดูแล ก็คือพ่อแม่อยู่ทางหลัง
เพลงนี้ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจ อยากจะเขียนหนังสือไปเรื่อยๆ แบบไม่หยุดพัก ทุกครั้งที่ผมเปิดเพลงนี้ฟัง ทำให้ผม รู้สึกทึ่งในความสามารถของศิลปินเป็นอย่างมาก เขาเขียนเพลงออกมาได้อย่างค่อนข้างลึกซึ้งกินใจได้มากทีเดียว
มีบางครั้งนะที่ผมท้อ แต่ผมก็ไม่ถอย เพราะเพลงนี้ เป็นเพลงที่ เติมเต็มความสุขในชีวิต ทุกๆครั้งที่ผมได้ฟังเพลงนี้ ทำให้ผมรู้สึก เหมือนมีเพื่อนคอยให้กำลังใจ
แม้ว่าศิลปินคนนี้จะเป็นศิลปินหน้าใหม่ ผมก็รู้สึกชอบผลงานของเขา เพราะเขา เขียนเพลงออกมาได้ตรงกับความรู้สึกของผมเลย
ก่อนหน้าที่ผมจะผันตัวจากนักร้อง อิสระ มาเป็นนักเขียน ผมเปิดเจอเพลงนี้ เมื่อผมกดเข้าไปในyoutube แค่ฟังเพียงครั้งแรก ผมก็เลยอยากจะร้องเพลงนี้เป็นบ้าง จึงเริ่มฟัง และ ผมใช้เวลานานมากกว่าที่ผมจะร้องเพลงนี้ได้
กว่าที่ผมจะร้องเพลงนี้ได้ ผมใช้เวลาทั้งหมดเกือบเดือน
เพราะว่า มันเป็นเพลงที่มีภาษาอังกฤษด้วย จึงใช้เวลาหัดอยู่นานกว่าจะได้