วิศวะ ทรัพยากรณี/สำรวจ/โลหการวัสดุ
"วิศวกรรมทรัพยากรณี/สำรวจ/โลหการวัสดุ เป็นอย่างไร มาดูกาน......"
ผู้เข้าชมรวม
11,183
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปฐมลิขิต : บทความนี้เป็นบทความที่ผู้เยี่ยมชมส่งเข้ามาทาง ubyi@dek-d.com
เจ้าของบทความ : cu_tom@hotmail.com
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับน้องๆมอปลายทุกๆคน พี่ชื่อพี่ต้อมนะคับ อยู่ ปี.1 วิศวกรรม
ศาตร์ภาควิชาทรัพยากรธรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องมาจากว่า คงมีน้องๆหลาย
คนที่อยากเรียนวิศวะ ซึ่งมีอยู่หลายภาควิชา และมีภาคที่น้องๆ (อาจ)ไม่รู้จัก (
ซึ่งพี่เองก็ไม่ค่อยจะรู้จักเมื่อปีที่แล้ว) และมีให้เลือกใน Admission กลาง
ด้วย ดังนั้นพี่จึงนำรายละเอียดของภาควิชาบางภาควิชาที่แยกรหัสให้เลือกไว้(หมาย
ถึงที่จุฬาลงกรณ์นะคับ คือ 1.ภาคทรัพยกรธรณี 2. ภาคสำรวจ 3.ภาคโลหะการ)มาให้
น้องๆ ได้ลองอ่าน และศึกษาไว้เป็นทางเลือก (ที่เลือกได้) สำหรับการ Admission
นะครับ สำหรับผู้ที่อยากเข้าทรัพยากรธรณี ก็โทรมาปรึกษาพี่ได้นะครับ 084-003-
6985 หรือจะ Add เมลล์มาก็ได้นะคับ cu_tom@hotmail.com (แต่พี่ไม่ค่อยได้เ่ล่น
นะคับ) ขอให้โชคดีกับการเลือกคณะนะคับ (ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย) โชค AAA คับ..........
1). ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรณ์ธรณี(ปี'49 สูงสุด 6708 ต่ำสุด5447)
ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมที่มีการใช้เหมืองหิน เช่น อุตสาหกรรมปูน
ซีเมนต์ อุตสาหกรรมหินก่อนสร้างนั้น ต้องมีวิศวกรเหมืองแร่ ควบคุมเหมืองหิน
อยู่ ซึ่งในปัจจุบันมีเหมืองหินอยู่มากมาย แต่มีนิสิตจบมาเพียงปีละไม่กี่คน ดัง
นั้นวิศวกรสาขานี้ จึงยังเป็นที่ต้องการอีกมาก จนทำให้ทบวงต้องเปิดอีกรหัสหนึ่ง
ให้โดยเฉพาะทีเดียว นอกจากนี้อุตสาหกรรมที่ เกี่ยวข้องกับการนำทรัพยากรธรณี (
ทรัพยากรแร่และหิน ทรัพยากรน้ำใต้ดิน) ก็มีบทบาทที่สำคัญในสังคมยุคปัจจุบัน รวม
ถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ (recycling) ที่มี
ส่วนสำคัญมากต่อการพัฒนาสังคนเนื่องจาก การลดลงและหมดไปของทรัพยากร (primary
resources)
ปีนี้ภาคเหมืองแร่จะเปลี่ยนหลักสูตรค่อยข้องมาก โครงสร้าง
เปลี่ยน เพิ่มวิชาและเพิ่มสาขาที่เรียนเป็น 3 วิชา คือ สาขาวิชาวิศวกรรมเหมือง
แร่ (Mining Engineering) สาขาวิชาวิศวกรรมทรัพยากรธรณี (Resource
Engineering) และสาขาวิศวกรรมอุทกธรณี (Hydrogeological Engineering) โดย
ทั้ง 3 สาขาวิชาจะเน้นด้านการใช้ทรัพยากรธรณี (ทรัพยากรแร่และหิน, ทรัพยากรน้ำ
บาดาล) มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และก่อให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
รวมทั้งการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่
ลักษณะวิชาที่เรียน และลักษณะงานของแต่ละสาขา
1. สาขาวิชาทรัพยากร
จะเรียนเกี่ยวกับการนำทรัพยากรต่างๆ ที่ใช้แล้วนำกลับมาสู่
กระบวนการแยกแร่ แล้วนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตต่อไป หรือการนำวัสดุที่
ใช้แล้ว มารีไซเคิลนั่นเอง วิชาที่เรียนนั้นจะเรียนวิชาที่เกี่ยวกับเทคนิคและ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการแยกแร่ออกจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้ว การวางขั้นตอนการแยกแร่
และการออกแบบโรงงาน การศึกษาพฤติกรรมและคุณสมบัติของวัสดุต่างๆ
งานของวิศวกรสาขานี้ส่วนใหญ่แล้ว จะเกี่ยวข้องกับกระบวนการคัด
แยกแร่ และการนำแร่ที่ได้มาทำการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป ทำให้สถานที่ทำงานหลัก
ก็คือ โรงงาน, โรงถลุงแร่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรีไซเคิล แต่ในบางบริษัทที่ไม่
เกี่ยวข้องกับธุรกิจรีไซเคิลก็มีความต้องการวิศวกรสาขานี้เช่นกัน เพื่อนำไปแปร
รูปของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิตให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้ นอกจากนี้ยังมีหน่วย
งานราชการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยรีไซเคิลที่ได้รับวิศวกรสาขานี้ด้วย
2. สาขาวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่
จะเรียนเกี่ยวกับขั้นตอนการสำรวจหาแหล่งแร่ การประเมินปริมาณ
แต่ในแหล่งที่ทำการผลิต การวางแผนการทำเหมืองในรูปแบบต่างๆ การควบคุมการทำ
เหมืองแร่ การใช้อุปกรณ์และเทคนิคต่างๆ ในการแยกแร่
วิชาที่เรียนจะมีตั้งแต่วิชาพื้นฐานสำหรับวิศวกรเหมืองแร่
เช่น การสำรวจโดยใช้แผนที่ การศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของหินและแร่ วิชาที่
เกี่ยวข้องกับการทำเหมือง เช่น การออกแบบเหมือง การประเมินและการจัดการเหมือง
การป้องกันมลภาวะจากการทำเหมือง เป็นต้น
วิศวกรเหมืองแร่นั้น งานหลักโดยทั่วไปก็คือการวางแผนและควบคุม
การขุดเจาะและการทำการผลิตแหล่งแร่ ทำให้สายงานในอาชีพนี้ต้องออกไปทำงานที่ใน
เหมืองหรือเป็นงานในภาคสนามนั่นเอง จะมีงานในออฟฟิสบ้าง เช่น งานวิเคราะห์
ประเมินแหล่งแร่ และงนออกแบบและวางแผนการทำเหมือง ซึ่งอาจจะต้องออกภาคสนามบ้าง
เป็นครั้งคราว
สายงานด้านนี้ในเมืองไทยมีอยู่พอสมควร เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่
เรียนจบ สาขานี้ในแต่ละปีก็ถือว่ายังมีงานที่สามารถรองรับผู้ที่เรียนจบสาขานี้
งานในสายนี้ที่เห็นได้ชัด เช่น บริษัทบ้านปู ที่ทำเหมืองถ่านหินปูน โรงโม่หิน
แร่ดีบุก แต่สังกะสี แต่เฟลด์สปาร์ (ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิค) ทำให้มีความต้อง
การวิศวกรเหมืองแร่ที่จะสามารถทำงานในต่างประเทศได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกรม
กระทรวงและหน่วยงานราชการที่รับวิศวกรสาขานี้เข้าทำงานด้วย เช่น กรมเชื้อเพลิง
กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรณี เป็นต้น
การศึกษาต่อ
ในระดับปริญญาโท ทางภาคกำลังละทำการปรับเปลี่ยนหลักสูตร เป็น
หลักสูตรวิศวกรรมทรัพยากรธรณี (Resources Engineering) สำหรับเรื่องทุนทางภาคมี
ทุนให้ทุกปี ซึ่งเป็นทุนผู้ช่วยสอนและทุนสอนและทุนจากภาควิชาโดยตรง ซึ่งเป็นทุน
ไม่ผูกมัด เนื่องจากหลักสูตรได้ปรับเป็นด้านการพัฒนาทรัพยากรธรณีมาใช้ให้เกิด
ประโยชน์สูงสุด ดังนั้นวิศวกรที่จบสาขานี้ในระดับปริญญาโท สามารถเข้าทำงานใน
หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรดังกล่าว
2). ภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ(ปี'49 สูงสุด 6867 ต่ำสุด3810)
ภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2498
ซึ่งได้ผลิตวิศวกรสำรวจออกไปแล้วกว่า 400 คน และยังเป็นภาควิชาเดียวในประเทศไทย
ที่ผลิตบัณฑิตและมหาบัณฑิตทางด้าน Geomatic Engineering ใน
Geomatic Engineering เป็นวิศวกรรมขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับ
เทคโนโลยีทางด้านอวกาศและเทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรสำรวจเมื่อสำเร็จการศึกษาออก
ไปจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการ
- ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลสัญญาณดาวเทียมเพื่อบอกตำแหน่งของ
วัตถุที่อยู่นิ่งหรือเคลื่อนที่ เช่น รถยนต์หรือฐานเจาะน้ำมัน
- ใช้คอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ภาพดาวเทียมดิจิตอลเพื่อค้นหา
วัตถุที่สนใจ
- ประมวลภาพถ่ายที่ได้จากกล้องถ่ายภาคพื้นดินเพื่อตรวจสอบการ
บิดเบี้ยวของโครงสร้างยานพาหนะ
- ควบคุมให้ช่างเทคนิคใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รังวัดอิเล
คทรอนิคส์สมัยใหม่ให้ทำงานอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- คำนวณและตรวจสอบงานรังวัดความถูกต้องสูงมาก เช่น การเคลื่อน
ตัวของเปลือกโลก การทรุดตัวของอาคาร
สภาพของสังคมสมัยใหม่ทำให้ Geomatic Engineering เป็นที่ต้อง
การอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในระบบขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transportation
System) การจัดการระบบสาธารณูปโภค (Facility Management) การสังเกตการณ์
โลก (Earth Observation) การติดตามการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม (Environmenttal
Monitoring) การจำลองเหตุการณ์ในลักษณะ3 มิติ และ Visualization
Geomatic Engineering เป็นงานวิศวกรรมที่หลากหลาย วิศวกรอาจ
เลือกทำงานที่เน้นภาคสนาม หรือเน้นงานวิเคราะห์ประมวลผลในสำนักงานเป็นหลักแล้ว
แต่ความชอบ ในขณะเดียวกันก็เป็นงานท้าทายเนื่องจากวิศวกรต้องมีความรู้ความ
สามารถหลายด้าน ทั้งในเชิงวิเคราะห์ การใช้คอมพิวเตอร์ การใช้อุปกรณ์ขั้นสูงที่
มีความสลับซับซ้อน การจัดการและการบริหารโครงการ รวมทั้งต้องเป็น ผู้ที่สนใจ
ติดตามเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา
ลักษณะวิชาที่เรียน
ภาควิชาวิศวกรรมสำรวจจะเรียนครอบคลุมเกี่ยวกับการรังวัดทั่วๆ
ไป ตั้งแต่งานรังวัดพื้นระนาบ ไปจนถึงการรังวัดดาวเทียม การศึกษาด้านภาพถ่ายทาง
อากาศ การทำแผนที่ และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ โดยทั่วไปเป็นการศึกษาในภาคทฤษฎี
ควบคู่ไปกับภาคปฎิบัติ การสำรวจรังวัดจะเป็นการปฎิบัติงานเพื่อหาค่าความสูง
ระยะทางราบ ทิศทางในภูมิประเทศ การเก็บข้อมูลรายละเอียดของภูมิประเทศ การทำ
แผนที่และ แผนผังเพื่องานวิศวกรรม การออกแบบเส้นทางและระบบชลประทาน นอกจากนี้
ยังได้เรียนใจวิชาพื้นฐานของภาคโยธาเพิ่มเติมอีกด้วย เนื่องจากทั้ง 2 สายงานนี้
มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน โดยหลักสูตรในระดับปริญญาตรีของภาควิชาวิศวกรรม
สำรวจจะเน้นการสำรวจขั้นสูง และยังเน้นความรู้ทางด้านการบริหารอีกด้วย รวมถึง
การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ด้วยระบบคอมพิมเตอร์ เพื่อสนับสนุนในด้านข้อมูล พื้น
ฐานให้กับงานสาขาอื่นๆ
วิชาที่เรียน
- Hardware ใช้อุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก (CG)
เช่น Plotter, Digitizer และอุปกรณ์งานภาคสนาม ได้แก่ เครื่องรับสัญญาณ GPS
ทั้งชนิดสำหรับงานรังวัดขั้นสูงและชิพมือถือ กล้องรังวัดอิเล็คทรอนิ
คชนิด Total Station
- Software ใช้ Software เพื่อประมวลผลและปรับแก้ภาพถ่ายทาง
อากาศโดยใช้ Software ทางด้าน GIS, GNSS หรือ GPS/Galileo, Digital
Photogrammetry, Remote Sensing และ Software ทางด้านการประมวลภาพที่ทันสมัยที่
สุดในประเทศ
วิชาชีพวิศวกรรมสำรวจ
งานของวิศวกรรมสำรวจเป็นงานเกี่ยวกับการรังวัดเพื่อที่จะทำ
แผนที่เพื่อนหาตำแหน่งของสิ่งต่างๆ จะเป็นงานขั้นพื้นฐาน แต่ในปัจจุบันนอกจาก
งานทางด้านแผนที่แล้วยังมีงานทางด้าน Geograpic Information System (GIS) ซึ่ง
เกี่ยวกับการนำแผนที่ไปใช้ประโยชน์ทางด้านสารสนเทศ การจัดข้อมูลเกี่ยวกับ
แผนที่ การนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ
วิศวกรสำรวจเป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวางทั้งในภาคธุรกิจรัฐ
วิสาหกิจและภาคราชการ ตัวอย่างบางส่วนของหน่วยงานที่วิศวกรสำรวจอาจเลือกทำงาน
ได้แก่
งานด้านการบริการวิชาการ
นอกเหนือไปจากงานด้านการเรียนการสอน และการวิจัยแล้ว ภาควิชา
สำรวจยังมีการให้บริการสังคมในรูปแบบของการให้คำปรึกษาและการให้บริการทาง
วิชาการ แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงาน ตัวอย่างของงานบริการ
วิชาการมีดังนี้
- การรับเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำแผนแม่บทระบบภูมิสารสนเทศแห่ง
ชาติให้กับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.)
- การรับจัดทำโครงการศึกษาเพื่อกำหนดแผนกลยุทธ์ในการนำระบบ
สารสนเทศ ภูมิศาสตร์ มาใช้ในกรุงเทพให้กับสำนักนโยลายและแผน กรุงเทพมหนคร
- การรับจัดทำโครงการพัฒนาระบบต้นแบบสำหรับการเผยแพร่ สารสนเทศ
สิ่งแวดล้อม พื้นที่จังหวัดชลบุรีให้กับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้ม
งานด้านการฝึกอบรม การจัดสัมมนาถ่ายทอดเทคโนโลยี
ภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ ได้มีการจัดการฝึกอบรมระยะสั้นทางด้านการ
สำรวจรังวัดด้วยดาวเทียมระบบ GPS และการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ทาง GIS ด้วย
ภาษา Avenue ให้กับผู้ที่สนใจเป็นประจำทุกปี อีกทั้งยังมีการจัดการสัมมนาและ
การบรรยายความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศปริภูมิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้รับ
ความสนใจจากบุคคลในวิชาชีพสำรวจ และที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจ
สามารถติดตามข่าวการจัดการฝึกอบรมระยะสั้น และการบรรยายความก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยี สารสนเทศปริภูมได้จากเว็บไซต์ของภาควิชา (www.sv.eng.chula.ac.th)
3). ภาควิชาวิศวกรรมโลหะการ และวัสดุ(ปี'49 สูงสุด 7541 ต่ำ
สุด6239)
ภาควิชาโลหะการนั้น นอกจากจะสอนเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านโลหะแล้ว
หลักสูตรปัจจุบันซึ่งได้แก่ หลักสูตรวิศวกรรมโลหการและวัสดุ (ปริญญาตรี) ยัง
สอนครอบคลุมถึงวัสดุ อื่นที่ไม่ใช่โลหะ ได้แก่ พอลีเมอร์และเซรามิกอีกด้วย
เพื่อสร้างวิศวกรโลหการให้สอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในด้าน
อุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมทั้งหมด วิศวกรโลหการจะเป็นผู้
ที่มีความรู้ในด้านการผลิตโลหะ และวัสดุต่างๆ, การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับ
สภาพงาน, การปรับปรุงคุณสมบัติของวัสดุเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของวิศวกร
สาขาอื่นๆ เช่น เครื่องกลหรือไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ เช่น เครื่องกลหรือ
ไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการป้องกันการเสียหาย และการวิเคราะห์หาสาเหตุ และ
หนทางแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการ ใช้ชิ้นส่วนต่างๆ
สภาพปัจจุบันของภาควิชา
ห้องวิจัยที่อาจารย์ในภาคดำเนินงานอยู่ได้แก่
- กลุ่มวิจัยการแข็งตัวของน้ำโลหะ ค้นคว้าวิจัยเกี่ยว
กับการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยในการคำนวณด้านการขึ้นรูปโลหะ ไม่ว่าจะเป็น
งานหล่อ หรือการขึ้นรูปด้วยแรง
- กลุ่มวิจัยโลหะมีค่า ได้แก่ พวกเงิน, ทอง, ทองที่ใช้เป็นตัว
เรือนเครื่องประดับและอัญมณี
- กลุ่มวิจัยการกัดกร่อนและการเชื่อมโลหะ
- กลุ่มวิจัยกรรมวิธีโลหะผง(Powder Metallurgy)
ลักษณะวิชาที่เรียน
- หลักการพื้นฐานทางวัสดุวิศวกรรม (ฟิสิกส์ประยุกต์, ปรากฎการ
ต่างๆที่เกิดในวัสดุ, การเปลี่ยนแปลงสภาพ Transformation ที่เกิดขึ้นในวัสดุ,
ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและคุณสมบัติ และอื่นๆอีกมากมาย)
- เทอร์โมไดนามิกส์ และปรากฎการณ์ขนส่งในวิศวกรรมวัสดุ
- การขึ้นรูปวัสดุ
- การทดสอบ และวิเคราะห์ของวัสดุทางวิศวกรรม
ลักษณะงาน
สามารถทำงานได้หลากหลายมากๆครับสาขานี้ เช่น
- เป็นวิศวกรโรงงาน (วิศวกรฝ่ายผลิต, วิศวกรฝ่ายควบคุมคุณภาพ)
ในงานภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอ
นิค รวมทั้งอุตสาหรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ได้แก่การขึ้นรูปชิ้นส่วนรถยนต์ และโลห
การจึงต้องไปด้วยกัน ยานยนต์ออกแบบเครื่องยนต์และรถยนต์ แต่โลหการเป็นคนขึ้นรูป
มันขึ้นมาใช้งาน เวลาเลือกวัสดุออกมาผลิต เราสามารถ เลือกวัสดุตามคุณสมบัติของ
วัสดุที่ลูกค้าต้องการ ออกแบบกระบวนการขึ้นรูปให้เหมาะสม โดยสรุปคือ โลหการเป็น
ผู้ผลิตชิ้นส่วนออกมา support อุตสาหกรรมยานยนต์
- อุตสาหกรรมจิวเวลรี่ ได้แก่ งานผลิตเครื่องประดับ เช่นการทำ
สร้อยทอง ต้องเอาทองรีดเป็นเส้นเล็กๆ ขึ้นรูป ถักให้เป็นลาย ช่วงที่ดึงเป็นเส้น
เล็กๆ ทำยังไงให้ดึงไม่ให้ขาด ไม่ให้แม่พิมพ์สึกเร็ว ก็เป็นหน้าที่ของเรา หาทาง
แก้ไข หรือการหล่อแหวนไหลไม่เต็มแบบ รูปร่างไม่สวยจะต้องแก้ไขยังไง เงิน ใช้งาน
นานๆจะหมอง ก็มีการเติมธาตุอื่นลงไปเพื่อไม่ให้หมองหรือหมองช้าลง
- งานตรวจเช็คสภาพ เช่น ที่ ปตท. การบินไทย การไฟฟ้า ทำงาน
เป็นคนตรวจเช็ควัสดุว่ามันจะยังใช้งานต่อไปได้มั้ย เช่นการเชื่อมท่อชิ้นส่วน
ต่างๆเครื่องบินร้าวแล้วใช้ได้ไหม และเสนอหนทางแก้ไข
- งานวิจัย ที่ศูนย์เทคโนโลยีโลหะเหล็กและวัสดุแห่ง
ชาติ (MTEC)
- งานเกี่ยวกับ เทคนิค เช่นงานสายตรวจสอบ ป้องกันการเสียหาย
วิเคราะห์ ความเสียหาย
- งานรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ตลาดโลหะ ต้องมีความรู้ทางด้าน
เศรษฐศาสตร์มาบ้าง
การศึกษาต่อ
ต่างประเทศให้ความสำคัญต่อสาขานี้มากกว่าไทยหลายเท่านัก เพราะ
วัสดุคือพื้นฐานของอุตสหกรรมทุกประเภท น้องที่สนใจเรียนต่อด้านนี้ สามารถเลือก
ไปได้ทุกโซนเลย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรป รับรองว่ามีสาขานี้ให้
เรียนแน่ๆ หรือถ้ารักเมืองไทย จะเรียนในไทย ที่ภาคฯของเราก็เปิดทั้งระดับ ป.โท
และเอกแล้ว
ทุนการศึกษา
- ทางภาค มีทุนให้ฟรีของภาคเองให้สำหรับเด็กที่เลือกภาคนี้เป็น
อันดับที่ 1 เข้ามา และมีเกรดเฉลี่ยเกิน 2.75 มีทุนให้จนกว่าเรียนจบ
- ทุนจากบริษัทต่างๆ อีกมากมายจิงๆ เช่นไทยปาร์กเกอร์, สหวิริ
ยา, ทุนศึกษาต่างประเทศ, ทุนไปญี่ปุ่น มอนบุโช ต้องไปสอบเอง เป็นต้น
หากน้องๆต้องการข้อมุลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้
ที่ www.eng.chula.ac.th/~metal/ คับ โชคดีนะคับน้องๆๆๆ.....
ผลงานอื่นๆ ของ ~ UBYI ~ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ~ UBYI ~
ความคิดเห็น