คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร :: Faculty of Medicine Naresuan University
ผู้เข้าชมรวม
35,879
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปฐมลิขิต : บทความนี้เป็นบทความที่ผู้เยี่ยมชมส่งเข้ามาทาง ubyi@dek-d.com
เจ้าของบทความ : Atthakorn Jarusriwanna ( wonton2ton@hotmail.com )
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แม้เราจะเป็นคณะแพทย์น้องใหม่ แต่ก็เปิดมากว่า 12 ปีแล้วสำหรับ "คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร" วันนี้พี่จะมาเล่าประสบการณ์การเรียนแพทย์ที่นี่กันครับ
ก่อนอื่น พี่ขอแนะนำตัวก่อนว่าพี่ก็เป็นเด็กกรุงเทพฯ คนหนึ่งที่จับพลัดจับผลูมาเรียนที่นี่ ด้วยเหตุผลที่ว่า เอาเหอะ อย่างน้อยก็เป็นแพทย์เหมือนกัน ( แม้แอบเสียใจอยู่เล็กๆ ว่าคะแนนติดที่อื่นแต่ดันไม่เลือก พี่ก็เคยคิดเหมือนกันว่าคงมีอะไรบันดาลให้พี่มาเรียนที่นี่ ) ซึ่งในสมัยก่อนนั้น แพทย์นเรศวรรับโควต้าทั้งหมด แต่พอมาปีที่พี่เข้า ( 2547 ) เค้าเพิ่งรับ Ent เป็นปีแรก
วันแรกที่พี่ก้าวเข้ามาที่นี่ โอ้โห สถานที่สวยงาม กว้างใหญ่ โอ่โถง สง่างามโดยที่ยังไม่รู้ปัญหาภายในจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโดยพี่ๆและอาจารย์ที่ทำให้ "แพทย์นเรศวร" ในปัจจุบัน สามารถยืนได้อย่างเต็มตัว ซึ่งน้องๆที่เข้ามาใหม่ไม่ต้องกลัวว่า แพทย์นเรศวรของเราจะด้อยหรือสู้กับที่อื่นไม่ได้ พวกพี่ๆ ได้วางพื้นฐานร่วมกับอาจารย์เพื่อให้น้องๆ ได้ภาคภูมิใจกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในอนาคตอันไม่ช้า พี่คิดว่าเราจะเติบโตจนทัดเทียบคณะแพทย์ที่อื่นๆได้อย่างแน่นอน
ในปีแรกนั้น น้องจะเรียนสบายๆ ไม่เครียดจนเกินไป ( เมื่อเทียบกับปีอื่นๆ ) โดยส่วนใหญ่น้องจะได้เรียนกับคณะอื่นๆ ทำให้ได้เพื่อนเยอะดี การเรียนก็ยังคล้ายๆ ม.ปลายอยู่ก็คือเรียนวิทยาศาสตร์ทั่วๆไป
พอมาปี 2 นี่คือของจริงของการเรียนแพทย์ เราก็จะแยกมาเรียนกับคณะทันตแพทยศาสตร์ การเรียนปี 2 เน้นดูว่าระบบร่างกายในสภาวะปกติเป็นยังไง สำหรับเทอมแรกวิชาสุดคลาสสิกก็คือ กายวิภาคศาสตร์ น้องๆก็จะได้เรียนกับท่านอาจารย์ใหญ่ 1 เทอมเต็มๆ ส่วนเทอมปลายก็จะเป็นวิชาที่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ (จุลกายวิภาคศาสตร์ ) ดูกันจนปวดตาเลย นอกจากนี้ก็จะมีสรีรวิทยา ชีวเคมีที่เรียนกันทั้งปีเลย พี่ขอเน้นว่าคนที่จะมาเรียนแพทย์ต้องจำเก่งและภาษาอังกฤษต้องดีด้วย เพราะที่นี่ทั้งข้อสอบและชีทเรียนมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ปี 3 ทีนี้ก็จะเน้นว่าหากร่างกายของเราเกิดความผิดปกติขึ้นมาแล้ว จะเป็นยังไงอีก ดูพยาธิชนิดต่างๆ เรียนรู้เกี่ยวกับยาซึ่งพี่คิดว่าถ้าจบปี 3 ไปแล้วคงจะจ่ายยา ( ให้ตัวเอง ) ได้แล้ว
ส่วนปี 4-6 น้องๆ ก็จะแยกไปเรียนที่โรงพยาบาลต่างๆ ตามโครงการหรือตามวิธีที่น้องสมัครเข้ามา โดยโควต้า ( ปี 2549 รับ 90 คน ) ก็จะไป ร.พ.พุทธชินราช และ ร.พ. อุตรดิตถ์ ( สัดส่วน 60:30 )
สำหรับน้องๆ Ent หรือ Admission ( ปี 2549 รับ 30 คน ) ก็จะไปเรียนที่ ร.พ. มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ ( อยู่ใน ม. เลย ไม่ต้องไปไหนไกล )
ปัจจุบันนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรของเรามีภาควิชาทั้งสิ้น 11 ภาควิชา มี ร.พ. มหาวิทยาลัยเป็นของคณะแพทย์ และมีรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว 5 รุ่น หากน้องๆ มีคำถามหรือมีข้อสงสัย พี่ๆ พร้อมที่จะให้คำแนะนำกับน้องๆ อย่างเต็มที่เลยครับ
ผลงานอื่นๆ ของ ~ UBYI ~ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ~ UBYI ~
ความคิดเห็น