แอปเปิ้ลของอานนท์
เรื่องราวของชายหนุ่มที่มีความเชื่อเกี่ยวกับความรักว่าเกิดจากพระเจ้าโยนแอปเปิ้ลลงมาบนโลก อานนท์จะตามหาแอปเปิ้ลของเขาเจอหรือไม่ "คุณเจอแอปเปิ้ลอีกซีกของคุณรึยัง"
ผู้เข้าชมรวม
275
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
อานนท์เป็นคนหนึ่งที่มีอนาคตดีมากๆขาดอยู่อย่างเดียวคือ คนที่จริงใจ อานนท์มีทุกอย่างครบยกเว้นหน้าตาไม่ถึงขั้นหล่อแต่ก็พอพาไปวัดได้ ทั้งชีวิตไม่เคยมีใครจริงใจเลยแม้แต่สักครั้ง อานนท์ไม่คิดที่จะรักใครสักคนจนวันหนึ่งอานนท์มีเวลาว่างจึงเดินเล่นจนกระทั้งผ่านมาถึงโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเลยคิดสนุกที่จะเข้าไปนั่งเรียนเล่นๆ อานนท์เป็นคนเดียวที่อายุมาที่สุดในห้องที่เหลือเป็นนักศึกษาที่มาเรียนเพิ่มเรื่องภาษา วันนี้อาจารย์ที่สอนมาทดสอบความรู้ทั่วไปทางด้านภาษาจึงบอกให้ผู้เรียน เขียนคำศัพท์เกี่ยวกับผลไม้มาให้มากที่สุดพอถึงเวลาส่งคำศัพท์ ปรากฏว่าอานนท์เขียนได้เพียงคำว่า A P P L E อาจารย์อ่านทำให้ทุกคนในห้องขำ เพราะไม่น่าเชื่อว่าชายคนนี้จะเขียนได้แค่คำเดียว หลังจากนั้นอานนท์ก็ไม่ไปเรียนอีกเลย อานนท์ดำเนินชีวิตต่อไปตามปกติจนวันหนึ่งต้องสัมภาษณ์พนักงานใหม่ทางบริษัทมีการรับสมัครพนักงานมีหญิงสาวคนหนึ่งที่ร่าเริงแจ่มใสเดินเข้ามาเพื่อสัมภาษณ์งานกับอานนท์ คำแรกที่หญิงสาวพูดคือ
แอปเปิ้ล อานนท์แปลกใจ หญิงสาวจึงทักทายตามปกติว่า สวัสดีค่ะ
อะไรคือแอปเปิ้ล ชื่อคุณหรอครับ หญิงยิ้ม แล้วตอบว่า
คุณนั่นแหละค่ะ คุณแอปเปิ้ล อานนท์จึงกลับตอบอย่าง งง งง ว่า
ผมไม่ได้ชื่อแอปเปิ้ล นะครับ หญิงได้แต่ยิ้มๆ
การสัมภาษณ์งานก็ดำเนินต่อไปตามปกติโดยที่อานนท์ไม่ถามอะไรต่อเกี่ยวกับแอปเปิ้ล ทั้งๆที่ค้างคาใจเนื่องจากแนนท์เป็นคนจริงจังกับงานมากๆ
วันที่ประกาศผล ปรากฏว่าหญิงไม่ได้งาน เพราะมีคนเก่งๆมาสมัครงานเยอะมากและการตัดสินใจของอานนท์ ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดหลังจากประกาศผลหนึ่งวันอานนท์กับได้เจอหญิงอีกครั้งที่ร้านเซเว่น หญิงก็ทักอานนท์เช่นเดิม
สวัสดีค่ะคุณแอปเปิ้ล อานนท์หันตามเสียง แล้วยิ้มรับ
ทานไอศครีมไหมค่ะ หญิงชวนพร้อมยื่นไอศกรีมให้อานนท์
อานนท์ไม่กล้าที่จะปฏิเสธจึงรับไว้ ทั้งสองนั่งกินไอติมอยู่หน้าร้านเซเว่น อานนท์จึงถามหญิง ว่า
ทำไมเรียกผมว่า แอปเปิ้ล หญิงตอบกลับไปทันทีว่า
คุณไม่ใช่หรอค่ะที่เขียนชื่อผลไม้ได้แค่อย่างเดียว อานนท์ ทำหน้า งง งง เพราะอานนท์ไม่ได้จริงจังกับการเรียนวันนั้นเลยแม้แต่น้อยจึงทำให้อานนท์ไม่คิดจะจดจำเหตุการณ์วันนั้น หญิงจึงเริ่มเล่าต่อ
ก็ที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ที่อาจารย์หล่อๆนะค่ะ อานนท์นึกตามแล้วตอบรับไปว่า
อ๋อๆครับๆ พอจำได้รางๆ คุณก็ลืมๆซะนะครับ อีกอย่างนะครับแบบนั้นคุณเรียกว่าหล่อหรอครับ ฝรั่งขี้นก ซะไม่ว่า หญิงได้ยินก็หัวเราะ แล้วถามต่อว่า
ทำไมละค่ะ ไม่เห็นน่าอายเลย แต่ก็แปลกใจทำไมคนที่ทำงานในตำแหน่งดีๆอย่างคุณไม่น่าไปเรียนหรือเขียนได้แค่คำเดียว อานนท์จึงได้แค่ยิ้มๆ แล้วถามว่า
คุณเคยได้ยินเรื่องแอปเปิ้ลไหมครับ ผมนึกถึงเรื่องแอปเปิ้ลเลยคำให้นึกอย่างอื่นไม่ออกเลย
แอบเปิ้ลอะไรค่ะ สงสัยจะไม่เคยได้ยินค่ะเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมค่ะ รบกวนมากไปรึป่าวค่ะ
ไม่ครับวันนี้ผมพอมีเวลา เล่าให้ฟังเป็นการตอบแทนค่าไอศกรีมแท่งนี้ละกันนะครับ มันเป็นเรื่องของความเชื่อนะครับ เชื่อกันว่าความรัก หรือคู่รักเกิดจากพระเจ้าได้นำแอปเปิ้ลมาผ่าครึ่ง แล้วโยนแอปเปิ้ลมาบนโลก ครึ่งหนึ่งคือตัวเราอีกครึ่งคือเนื้อคู่ของเรา หญิงทำหน้าสนใจแล้วจึงถามขัดขึ้นมาว่า
คุณเจอแอปเปิ้ลของคุณรึยังค่ะ อานนท์ไม่ตอบแต่ถามกลับทันทีว่า
แล้วคุณละ
ฉันพบแล้ว นั่นไงค่ะคนที่กำลังเดินมา หญิงบอกพร้อมโบกมือให้คนที่กำลังเดินมาหาเธอ
ฉันต้องไปแล้วนะค่ะ แอปเปิ้ลของฉันมารับแล้ว อานนท์บอกลา
ขอบคุณสำหรับไอศกรีมนะครับ หญิงยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า
ไม่เป็นรัยค่ะ ฉันได้จากไม้ฟรีของวอลค่ะ แล้วพบกันใหม่นะค่ะหวังว่าคุณจะเจอแอปเปิ้ลของคุณเร็วๆนี้นะค่ะ เมื่อพูดจบหญิงก็เดินจากไปพร้อมกับแอปเปิ้ลอีกซีกของเธอ
เวลาผ่านไปทั้งสองไม่ได้เจอกันอีกเลยจนกระทั้ง บริษัทของอานนท์ล้มละลายเพราะมีการโกงกันในบริษัทอานนท์กลายเป็นคนหมดตัวไร้อนาคต อานนท์ใช้ชีวิตไปวันๆปล่อยตัว จนวันหนึ่งอานนท์คิดจะไปบวชที่วัดระหว่างทางอานนท์พบชายหญิงคู่หนึ่ง ทะเลอะกันอยู่ข้างทางอานนท์เดินเข้าไปหา เพื่อห้ามการทะเลาะเนื่องจากมีการทำร้ายร่างกายกัน แต่เมื่อเดินเข้าไปไกลกลับพบว่าผู้หญิงคนนั้นคือ หญิง นั่นเองเมื่อยุติการทะเลาะของสองคนนี้ได้อานนท์จึงพาหญิงไปนั่งสงบสติอารมณ์ตอนนั้นอานนท์รู้สึกว่าหญิงเปลี่ยนไปจากเดิมจากที่อานนท์เคยพบหญิงสาวผู้ร่าเริงกลายเป็นหญิงสาวอมทุกข์ อานนท์เดินเป็นเพื่อนหญิงเพื่อไปส่งหญิงที่บ้านด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยเกรงว่าแฟนของเธอจะกลับมาทำร้ายเธอ อานนท์จึงได้รู้จักบ้านหญิงซึ่งมันก็ไม่ไกลจากบ้านอานนท์มากนัก
วันต่อมาอานนท์ได้ไปเยี่ยมหญิงด้วยความเป็นห่วงแต่สิ่งที่อานนท์พบคือหญิงพยายามที่จะฆ่าตัวตาย โชคยังดีที่อานนท์เข้าไปเห็นเสียก่อน อานนท์ปลอบใจหญิง ถามหญิงขึ้นมาว่า
"คุณอยากตายจริงๆหรอครับ" หญิงตอบกลับทันทีว่า
"ไม่รู้จะอยู่เพื่ออะไร ในเมื่อไม่มีคนต้องการแล้ว" อานนท์ถามกลับทันทีว่า
"เพราะแอปเปิ้ลหรอ" หญิงไม่ตอบอะไรกลับได้แต่นั่งร้องไห้ สักพักหญิงจึงพูดขึ้นว่า
"ขอโทษค่ะอยากอยู่คนเดียว คุณกลับไปเถอะ" อานนท์พยายามเปลี่ยนบรรยากาศพูดกลับไปว่า
"เดี๋ยวแอปเปิ้ลอีกครึ่งลูกของคุณ มารู้ทีหลังว่าผมปล่อยให้แอปเปิ้ลคนนี้ตายทำให้เค้าขาดคู่ แล้วมาโทษผม ผมก็ซวยสิครับ" หญิงหันมองหน้าอานนท์ทันทีพร้อมกับการหยุดร้องไห้ ถามกลับไปว่า
"ทำไมคุณเชื่อเรื่องแอปเปิ้ลจังค่ะ" อานนท์หยุดคิดไปชั่วครู่ จึงตอบหญิงไปว่า
"ผมก็ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าถ้าผมเป็นแอปเปิ้ลจริงๆ อีกครึ่งของผมมีจริงๆ ผมก็อยากรู้ว่าอีกครึ่งคือใครแล้วเค้าจะมาเมื่อไหร่" หญิงจึงถามกลับไปว่า
"แล้วถ้าไม่มีและไม่มาละ คุณไม่เสียเวลารอหรอค่ะ" อานนท์มองหน้าแล้วยิ้มให้หญิง พร้อมดึงแขนญิงพาญิงไปที่หน้ากระจก
"คุณเห็นคนในกระจกไหมคับ" หญิงมองที่กระจกแล้วพูดว่า
"ค่ะ ก็ตัวฉันเอง ไม่เห็นมีอะไรเลย" อานนท์ยิ้มแล้วพูดต่อไปว่า
"คุณบอกผมว่าอะไรนะ ไม่มีใครต้องการคุณ คุณดูคนในกระจกดีๆสิครับ" หญิงมองกระจก
"ดูสิครับคนในกระจกเมื่อเห็นคุณร้องไห้ก็ร้องตามไปด้วยเห็นไหม แต่ถ้าคุณยิ้มคุณมีความสุขคนในกระจกก็จะยิ้มและมีความสุขไปพร้อมกลับคุณด้วย หญิงหันมองหน้าอานนท์ มองทั้งน้ำตาแต่ไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว อานนท์ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพูดพร้อมใส่อารมณ์ขึ้นมาทันทีว่า
วันนี้เรามาตายพร้อมกันเลยดีกว่า ดูผมสิพึ่งล้มละลายมาหมาดๆ หมดตัวแถมทุกคนต่างทิ้งผม เรียกได้ว่า ผมก็หมาข้างถนนที่ไม่มีใครสนใจเหมือนคนไม่มีตัวตนเลยก็ว่าได้ ตายกันเลย คุณก็ไม่มีใครรักแถมไม่รักตัวเอง ผมก็คนสิ้นทาง อานนท์พูดจบก็เดินไปหยิบยาที่หญิงเตรียมไว้ค่าตัวตาย และมีดมาหนึ่งด้าม วางมีดลงบนโต๊ะดัง ปัง!!
เลือกเอาครับ มีดหรือยา หญิงอึ้ง แต่ไม่ทันทีจะตอบอานนท์ง้างมีดขึ้น ทำท่าจะปักมีดลงบนอกข้างซ้ายของตนเอง หญิงจึงรีบคว้ามืออานนท์ไว้แล้วพูดว่า
ไม่ค่ะ ฉันยังไม่อยากตาย และยังไม่อยากเห็นใครตายต่อหน้า ฉันขอโทษวางมีดเถอะนะค่ะ
อานนท์มองหน้าหญิงด้วยหน้าตาที่เคร่งครึม และไม่ยอมวางมีด พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกลับไปว่า
ต้องให้ใช้มุขนี้สิ หญิงทำหน้า งง งง คิ้วชนกันพร้อมกับที่อานนท์อมยิ้มแล้วพูดต่อว่า
ดีนะครับที่คุณห้ามไว้ ไม่งั้นนะผมคงตายไปแล้ว ถ้าผมตายวันนี้จำไว้นะคุณคือ ฆาตกร ฮ่าๆๆ
หญิงงอลอานนท์ที่อานนท์ล้อเล่นแรงแบบนี้ แต่ก็สามารถทำให้หญิงเลิกคิดที่จะฆ่าตัวตาย หญิงถามขึ้นว่า
คุณล้มละลายจริงๆหรอค่ะ แล้วคุณจะทำอย่างไงต่อไป อานนท์นิ่งไม่ตอบอะไร สักพักก็เดินไปที่กระจก
แกจะเอาอย่างไงต่อไปวะ แล้วหันไปหาหญิง พูดต่อไปว่า
เห็นคนในกระจกเมื่อกี้ไหมครับ ทั้งอ้วน ทั้งหนวดเครารุงรัง แต่ตัวมอซอ คุณคิดว่าเค้าจะทำอย่างไงต่อ
หญิงแปลกใจในการกระทำของอานนท์ แล้วเดินไปยืนอยู่หน้ากระจกแทนอานนท์ พูดกับกระจกว่า
เธอว่าชายคนนั้นจะทำอย่างไรต่อไป อานนท์มองหน้าหญิงด้วยความสงสัย หญิงจึงหันมาบอกอานนท์ว่า
ไปเอาคำตอบกับคนในกระจกสิค่ะ อานนท์ได้ยินคำตอบจากหญิงจึงทำให้อานนท์หัวเราะ ในความกัวไวของหญิงที่ตอบรับมุขได้อย่างรวดเร็ว
คุณนี้เรียนรู้เร็วนะครับ ผมยอมแพ้เลย จริงๆผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ผมเหมือนมีรอยสักอยู่ที่หน้าตัวโตๆเขียนว่า บุคคลล้มละลาย แค่เห็นก็ไม่มีใครอยากรับทำงานหรอกครับ อานนท์ทำหน้าเศร้าๆ หญิงเห็นดังนั้นจึงปลอบใจด้วยคำสั้นๆว่า
เราทั้งคู่ก็ล้มเหลวเหมือนกัน ต่างกันคนละด้าน เอาอย่างนี้ไหมค่ะเรามาแข่งกันใครจะเข้มแข็งก่อนกัน
แล้วจะได้อะไรตอบแทนละครับ อานนท์ถามขึ้นทันที หญิงจะตอบพร้อมเหน็บแนม
แหม อดีตนักธุรกิจใหญ่ถามถึงผลประโยชน์ขึ้นมาทันทีเชียวนะค่ะ คุณว่าเป็นอะไรดีละ
ผมให้คุณตั้งมาเลย ผมยอมทั้งนั้นแหละไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ อานนท์โยนการตัดสินใจให้หญิงตอบ
อื่ม~งั้นก็ไอศรีมสักแท่งไหมค่ะ หญิงเสนอรางวัล
ฮ่าๆๆ ไอศครีมฟรีสงสัยต้องรอช่วงโปรโมชั่น ตรงลงครับ อานนท์ตอบพร้อมมองนาฬิกาที่แขวนอยู่
คุณมองนาฬิกาทำไมค่ะ มีธุระหรือค่ะ หญิงถามขึ้นเพราะเห็นอานนท์มองนาฬิกาเป็นเวลานาน
คุณรู้ไหมเมื่อก่อนเวลานี้ของทุกๆวันผมยังนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานมีแอร์เย็นๆ บางวันก็ไปตีกอล์ฟกับลูกค้า บางวันพาสาวไปทานข้าว หญิงได้ยินสิ่งที่อานนท์พูด จึงขัดกลับไปพร้อมกับใส่อารมณ์โมโห ว่า
เวลานี้ ฉันก็ไปเที่ยว ไปดูหนังกับไอลิงสมองตันอยู่เลย ไอลิงบ้าบังอาจทิ้งฉัน อานนท์หันมองห้าหญิงทันที
ผมทำให้คุณอยากคิดสั้นอีกรึป่าวเนี่ย หญิงยิ้มแล้วตอบกลับไปทันทีว่า
ตายเพื่ออะไร ตายทำไม ผลจะเป็นอย่างไร คิดแล้วไม่คุ้มแค่ลิงโง่ตัวหนึ่ง อานนท์ยิ้มรับหญิงยิ้มตอบ
ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ นี่ก็มืดแล้ว ผมต้องขอตัวกลับก่อน อานนท์ยืนขึ้นพร้อมกับหยิบยาใส่กระเป๋า
เอายาฉันไปทำไมค่ะ อย่าบอกนะว่าจะไปคิดสั้นที่บ้านคุณเอง หญิงถามอานนท์ อานนท์จึงถามกลับทันที
เป็นห่วงผมหรอครับ หญิงยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า
ป่าวค่ะ ยานี้ซื้อมาราคาแพง จะเอาไปก็จ่ายค่ายามาด้วยสิค่ะ หญิงพูดจบก็แบบมือไปที่อานนท์
ผมเป็นห่วงกลัวคุณจะคิดสั้นหรอกนะ เอาไว้แน่ใจว่าคุณไม่คิดแล้วผมจะเอามาคืนนะครับ
ฮ่าๆ มั่นใจได้เลยค่ะ และขอบคุณสำหรับวันนี้ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงต้องทำอะไรโง่ๆลงไปแน่ๆ
ครับ ยินดีเสมอ ผมไปละนะครับ อย่าลืมนะครับคุณไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างน้อยคนในกระจกก็อยู่เป็นเพื่อนคุณ มีความสุขพร้อมคุณร้องไห้พร้อมคุณได้นะ โชคดีนะครับไว้ผมจะรอทานไอศกรีมฟรีอีกนะครับ พูดจบอานนท์ก็เดินจากไป ได้ระยะหนึ่งก็หันกลับมามองที่บ้านหญิง หญิงยังยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ชายจึงโปกมือให้เธอและเธอก็โปกมือกลับให้อานนท์
หลังจากวันนั้นทั้งคู่ก็ได้เจอกันทุกวัน เพราะบ้านหญิงเป็นทางผ่านก่อนจะถึงบ้านของอานนท์ ทั้งสองทักทายกันตามปกติ อานนท์ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทที่ชื่อ แอนนา จริงๆแอนนาเป็นคนไทยแต่ไปเรียนและทำงานต่อที่เมืองนอกแอนนาพึ่งรู้ข่าวของอานนท์ จึงรีบบินกลับมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อน แอนนาจึงสนับสนุนอานนท์โดนการชวนอานนท์มาเปิดธุรกิจด้วย ให้อานนท์เป็นที่ปรึกษาทางด้วนธุรกิจ แต่อานนท์ปฏิเสธความช่วยเหลือของแอนนา อานนท์ขอแค่แอนนาคอยให้กำลังใจอานนท์เป็นเพื่อนกันคอยดูอยู่ห่างๆก็พอ แอนนาเห็นเพื่อนเข้มแข็งก็สบายใจและขอตัวบินกลับไปต่างประเทศแต่ก่อนกลับย้ำไว้ว่า ถ้าเปลี่ยนใจก็รีบบอกนะไม่ต้องทำงานที่นี้ก็ได้ ไปทำงานกับเราที่เมืองนอกอย่าลืมนะ อานนท์ยิ้มรับและไปส่งแอนนาที่สนามบิน อานนท์ทำงานรับจ้างทั่วไปเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ ส่วนทางด้านหญิงไปสมัครเป็นครูที่โรงเรียนประถมใกล้ๆบ้าน ทั้งสองถึงจะได้เจอกันทุกวันแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมากนักได้แค่ทักทายกันตามปกติเพราะทั้งสองต่างมีงานยุ่งมากๆ
ในที่สุดอานนท์นำเงินที่เก็บได้นำมาเปิดร้านหนังสือเล็กๆทั้งขายและให้เช่ายืม ลูกค้าคนสำคัญก็หนีไม่พ้นหญิง ทุกๆวันหญิงจะมาเช่านิยายไปอ่านเล่น อานนท์จึงแซวหญิงไปว่า
นิยายในร้านผม ถูกคุณอ่านครบทุกเล่นแล้วมั้งครับ หญิงยิ้มๆแล้วตอบกลับไปว่า
ยังค่ะยังไม่หมด อานนท์มองไปรอบๆร้านแล้วพูดว่า
ร้านเล็กๆของผมสงสัยต้องหานิยายมาเพิ่มซะแล้วมั้งครับจะได้ทันคุณลูกค้าคนสำคัญ หญิงยิ้มรับ
ยังมีอีกเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน ไม่รู้ว่าจะได้อ่านรึป่าว อานนท์มองซ้ายมองขาวค้นหาหนังสือแล้วตอบกลับว่า
หมดแล้วจริงๆนะครับ ที่เหลือก็มีหนังสือการ์ตูน นิตยาสาร ที่คุณไม่เคยยืม
นั่นไง หญิงชี้ไปที่สมุดที่วางอยู่บนโต๊ะของอานนท์ อานนท์มองตามที่หญิงชี้แล้วหัวเราะพรางตอบไปว่า
ฮ่าๆ ไม่ใช่นิยายสักหน่อยผมแค่เขียนเล่นๆ หญิงวางหนังสือที่จะนำมาคืนแล้วพูดว่า
ฉันเห็นคุณเขียนอย่างจรงๆจังๆ บางวันคุณไม่สนใจลูกค้าเลยเอาแต่เขียนสมุดเล่มนั้น
ผมเขียนนิยายชีวิตผม ไม่น่าอ่านหรอกครับ ไร้สาระ หญิงยิ้มพร้อมยืนหนังสือที่จะคืนให้ชาย
วันเสาร์นี้คุณว่างไหมค่ะ อานนท์กล้มหน้าเพื่อเช็คหนังสือพร้อมตอบคำถามกลับไปว่า
ผมว่างทุกวันแหละครับ มีอะไรรึป่าวครับ หญิงจึงทวนความจำให้อานนท์ฟังว่า
จำเรื่องที่เราพนันกันได้ไหมค่ะ วันเสาร์เป็นวันสุดท้ายของโปรโมชั่นไม้ฟรี อานนท์หันมายิ้มแล้วพูดว่า
ฮ่าๆ จำได้ครับ ตกลงใครแพ้ใครชนะละเนี่ย หญิงหยุดคิดสักพัก ก่อนที่จะตอบกลับว่า
เสมอกัน เราก็ต่างคนต่างแลกให้กัน อานนท์วางหนังสือแล้วพูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองว่า
ผมไม่มีไม้ฟรีนิงั้นผมก็เสียเปรียบสิครับ หญิงยิ้มก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
ฉันก็ไม่มีเหมือนกัน เอาเป็นว่าไปลุ้นไม้ฟรีที่ร้านพร้อมกันเลยดีกว่าไหมค่ะ อานนท์ตอบรับทันทีดันใดว่า
โอเคครับ ไว้เจอกันวันเสาร์ที่ร้านเซเว่นหน้าโรงเรียนนะครับ หญิงหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ ทำท่าเหมือนจะเดินออกจากร้านก่อนที่จะตอบรับไปว่า ค่ะ ไว้เจอกัน หลังจากพูดจบหญิงก็เดินออกจากร้าน
และแล้ววันเสาร์ก็มาถึงทั้งคู่เจอกันที่หน้าร้านเซเว่น ทั้งคู่เดินมุ่งตรงไปที่ตู้ขายไอศกรีมหยิบมาคนละที่แท่งที่รสและราคาเท่ากันทั้งคู่เดินไปจ่ายเงิน ก่อนที่จะพากันมาหาที่นั่งเพื่อนั่งลุ้นไม้ฟรี ทั้งสองกินไปคุยไปจนกระทั้ง ไอศกรีมไกลหมดจะเห็นคำว่าฟรี หรืออาจจะไม่เห็น ชายจึงพูดขึ้นว่า
ผมต้องได้ไม้ฟรี พูดจบอานนท์ก็อมไอศกรีมที่เหลือน้อยนิดเพื่อลุ้น แล้วค่อยๆรูดออก
ฮ่าๆได้ไม้ฟรี ฮูเล่ฮูเล อานนท์โชว์ไม้ฟรีให้หญิงดู ก่อนที่หญิงจะทานหมดแล้วโชว์ให้ดูเช่นกัน
อิอิ ไปแลกกันเลยไหมค่ะ งานนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ พูดจบทั้งคู่ก็พากันไปแลกไม้ฟรี
ต่างคนต่างทานเจอไม้ฟรีติดๆกันเรื่อยๆจากการกินเพื่อฉลองความเข้มแข็ง กลายเป็นการแข่งทานไอศกรีม
โอย ผมยอมแพ้แล้วครับ คุณทานไปได้อย่างไงเนี่ยตั้งหกไม้ ชายลูบท้องพร้อมมองไปที่ตู้ไอศกรีม
ฉันก็จะไม่ไหวเหมือนกัน รอให้คุณยอมแพ้ เหอๆพาไปโรงพยาบาลด้วยนะค่ะ หญิงทำหน้าพะอืดพะอม
ถ้าวันพรุ่งนี้ข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ลงว่า หญิงสาวแข่งกินไอศกรีมจนท้องแตกตายหน้าเซเว่น คุณดังระเบิดเลยนะครับ ไม่ดีหรอ ฮ่าๆ หญิงจึงตอบกลับไปว่า
คุณคงอ่านข่าวตกไปไม่ใช่แค่หญิงสาวยังมีชายหนุ่มเพิ่มด้วยนะค่ะ ฮ่าๆดังคู่กันเลย ทั้งคู่ต่างพากันหัวเราะ
เสียงหัวเราะก็หยุดลงเมื่อเสียงโทรศัพท์ของอานนท์ดังขึ้น อานนท์รับและขอตัวไปคุยโทรศัพท์ หญิงมองตามอยู่ห่างๆ หลังจากอานนท์รับโทรศัพท์อานนท์ก็ขอตัวไปทำธุระ ทั้งสองจึงแยกย้าย
วันต่อมาหญิงได้เดินผ่านร้านขายหนังสือของอานนท์ แต่ร้านปิด หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปร้ายยังปิดเช่นเคย หนึ่งเดือนก็ยังไม่มีวี่แววที่ร้านจะเปิด หญิงเดินผ่านร้านหนังสือเล็กๆนี้ทุกๆวันพร้อมความหวังที่จะได้เจอหรืออย่างน้อยก็ได้คุยกับอานนท์ หญิงรู้สึกเหมือนตวเองขาดๆอะไรไปบ้างอย่างแต่ก็ไม่รู้ว่าขาดอะไร และไม่รู้ว่าทำไมต้องเดินมาที่ร้านหนังสือเล็กๆแห่งนี้ทุกวันทั้งๆที่ไม่มีวี่แววที่ร้านจะเปิด แม้กระทั้งเจ้าของร้านก็หายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว จนวันหนึ่งตอนเช้าแดดอ่อนๆของวันสาดแสงลงมากระทบกับกระจกของร้าน หญิงได้เห็นชายคนหนึ่งยืนจัดหนังสืออยู่ในร้าน หญิงไม่รีรอที่จะเข้าไปคุย
คุณหายไปไหนมา ทำไมไม่บอกไม่กล่าว ชายคนที่ยืนจัดหนังสือก็หันตอบหญิงว่า
ขอโทษครับผมพึ่งมาทำงานวันแรก เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึป่าวครับ หญิงเห็นหน้าชายคนดังกล่าวชัดๆปรากฏว่าไม่ใช่อานนท์ แต่เป็นใครก็ไม่รู้จะตอบกลับอย่างอายๆว่า
ขอโทษค่ะ นึกว่า...หญิงหยุดพูดแล้วหันหลังเดินจากไป
หลังจากนั้นหญิงก็มายืมหนังสือเช่นเคย และถามคนที่ร้านเสมอๆว่าอานนท์ไปไหน มีข่าวบ้างรึป่าว แต่ไม่มีใครตอบได้และไม่มีใครรู้จักอานนท์ ร้านนี้ถูกขายต่อโดยการติดต่อของนายหน้าจึงทำให้ไม่มีใครรู้จักอานนท์ หญิงรู้สึกประหลายใจและสับสน ใจหนึ่งก็ห่วงอีกใจก็โกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นึกในใจเสมอว่า เรามันก็แค่คนรู้จัก ขณะที่หญิงกำลังจ่ายเงินค่ายืมหนังสือนั้น พนักงานชายก็ยื่นสมุดเล่มหนึ่งให้แก่หญิง สมุดเล่มนั้นมีความหนาประมาณสองร้อยหน้า สีหน้าปกมีสีเขียว เขียนมุมบนปกว่า A P P L E พนักงายชายพูดว่า
ผมเจอสมุดนี้วางอยู่ข้างๆชั้นหนังสือ ผมให้คุณยืมไปอ่านผมว่าคนเขียนน่าสนใจมากๆครับ เขาคงไม่ว่าถ้าผมให้คุณยืมไปอ่านเล่นๆ หญิงไม่รอช้าที่จะหยิบมาเปิดทันที เพราะเป็นสมุดเล่มที่เธอเคยขออานนท์อ่านนั่นเอง
ตกลงค่ะ จากนั้นหญิงก็กลับมาแล้วรีบเปิดอ่านทันที ใจความข้างในสมุดเล่มนี้พูดถึงความเชื่อเรื่องแอปเปิ้ลอีกซีกของอานนท์ ชอานนท์ได้บรรยายถึงหญิงสาวคนหนึ่งไว้อย่างน่าทึ่ง หญิงสาวที่อานนท์รัก เธอเป็นหญิงที่งดงามทั้งกายและใจ หญิงสาวที่ไม่แน่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลอีกซีกของเขาหรือของใครคนอื่น หญิงอดคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวที่อานนท์เขียนไว้คือตนเอง เพราะหลายๆอย่างหลายๆตอนเหตุการณ์ที่อานนท์เขียน เป็นเหตุการณ์ที่เธอและอานนท์ได้พบ พูดคุย และสนิทสนมกัน แต่อีกใจก็คิดว่าไม่น่าใช่เพราะหญิงสาวในสมุดนี้ชั่งสวยงามต่างจากเธอค่อนข้างมากและที่สำคัญอานนท์ไม่เคยเขียนชื่อหญิงสาวคนนี้ลงไป อีกทั้งการเล่าเรื่องไม่ได้บรรยายเป็นฉากเป็นตอนเหมือนในนิยายแต่เป็นการเขียนเปรียบเปยซะส่วนใหญ่ อ่านจนใกล้จะจบเล่มหญิงก็แปลกในที่กระดาษถูกเจาะเป็นรู มีความยาวประมาณ 8
หลังจากนั้นไม่นานหญิงไปทานอาหารกับบรรดาคุณครูที่โรงเรียนประถมที่เธอสอนอยู่และได้เห็ฯชายคนหนึ่งมีลักษณะคล้ายกับอานนท์ ด้วยหลายอารมณ์ทั้งสงสัยและอยากรู้เธอจึงเดินเข้าไปหา ใจหนึ่งอยากให้ใช่อานนท์เพื่อที่เธอจะได้ถามว่าทำไมถึงหายตัวไป แต่อีกใจของเธอก็ไม่อยากให้ชายคนดังกล่าวเป็นอานนท์เธอคงทำตัวไม่ถูกที่จะเจอและเก็บอารมณ์ต่างๆที่มีต่องหน้าอานนท์ได้ ในที่สุดความคิดถึงและอยากเจอจึงทำให้เธอเดินไปจนหยุดอยู่ที่ข้างหลังชายคนดังกล่าว เมื่อชายที่มีรูปร่างคล้ายกับอานนท์หันกลับมาเมื่อทั้งคู่สบตา ทั้งสองตกใจแต่คนที่ตกใจที่สุดคือหญิงเมื่อเธอพบว่าชายคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอคืออานนท์ไม่ผิดแน่ๆ ขณะนั้นอานนท์ยืนอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอชั่งมีสง่าราศีสวยดั่งนางฟ้า ส่วนอานนท์ก็เปลี่ยนไปทั้งรูปร่างและการแต่งตัวดูภูมิฐานพร้อมด้วยใบหน้าที่เปรี่ยมไปด้วยความสุข หญิงจึงไม่กล้าที่จะถามอะไรอานนท์เลยแม้แต่คำถามเดียวเธอได้แต่ทักทายอานนท์ตามที่เคยทำเหมือนในอดีต หลังจากที่ทานอาหารเสร็จกำลังเดินออกจากร้าน ทั้งสองก็ได้เจอกันที่หน้าร้านอีกครั้งอานนท์ยิ้มทักให้หญิง หญิงก็ยิ้มทักตอบ หญิงสาวที่มาพร้อมกับอานนท์ถามอานนท์ขึ้นมาว่า
เพื่อนหรอค่ะนนท์ อานนท์หันไปตอบหญิงสาวคนนั้นว่า
ครับ บ้านเราอยู่ใกล้กันแถมเธอยังเป็นลูกค้าประจำของร้านหนังสือผมด้วยนะเรียกว่า สนิทเลยก็ว่าได้ หญิงทำหน้ายิ้มก่อนที่หญิงสาวจะพูดขึ้นมาอีกว่า
นนท์ค่ะชวนเธอไปงานแต่งงานด้วยสิค่ะ ได้ไหมค่ะ ว่างไหมค่ะ หญิงสาวหันไปถามหญิง หญิงรู้สึกเหมือนโดนรถสิบล้อชนเข้าอย่างจัง อานนท์คนที่เธอได้พบได้เจอทุกวัน คุยกันทุกวัน อยู่ๆก็หายไป และกลับมาพร้อมกับหญิงสาวที่เพียบพร้อมดุจดั่งนางฟ้า แถมชวนไปงานแต่งงานอีกด้วย หญิงทำตัวไม่ถูกได้แต่ฝืนยิ้มและทำตัวตามปกติ ไม่ตอบรับและไม่ตอบปฎิเสธ
หลายวันต่อมาอานนท์ได้ไปพบหญิงที่บ้าน แต่ไม่พบหญิงอานนท์กดออดและร้องเรียกเธออยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงเลยแม้แต่สักนิด อานนท์จึงเดินจากไปจากหน้าบ้านหญิง สักพักหญิงจึงเดินออกมาเพื่อจะเช็คให้แน่ใจว่าอานนท์กลับไปแล้วจริงๆ แต่เมื่อหญิงออกมาที่หน้าบ้านทันใดนั้นอานนท์ก็โผล่ออกมาทันที
ทำไมไม่มาเปิดประตูละครับ คุณไม่สบายรึป่าวอานนท์ถามด้วยความเป็นห่วง
ป่าวค่ะ ทำธุระส่วนตัวอยู่ค่ะ หญิงแกล้งตอบ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความจริง
ครับ คุณสบายดีนะครับ อานนท์ถามต่อ หญิงตอบกลับทันทีพร้อมหันหลังกลับจะเดินเข้าไปในบ้าน
สบายดีค่ะ ขอตัวนะค่ะ มีงานค้างอยู่ต้องทำให้เสร็จ อานนท์คว้าแขนหญิงไว้ พร้อมกันถามไปว่า
คุณจะไปงานแต่งงานไหมครับ หญิงเรื่องน้ำตาคลอ โดนไม่รู้สาเหตุแต่ก็ตอบๆกลับไปว่า
ขอโทษด้วยนะค่ะ ไม่ว่างจริงๆแต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ หญิงเดินกลับเข้าบ้านทันที อานนท์ไม่ได้คิดอะไรกับคำตอบและเดินจากไป อานนท์เดินต่อมาที่ร้านขายหนังสือ อดีตร้านที่อานนท์รัก อานนท์เดินเข้าร้านพร้อมเสียงพนักงานในร้านพูดว่า
สวัสดีครับ ยินดีตอนรับครับ เชิญเลือกอ่านได้ตามสบายนะครับ อานนท์หันกลับไปยิ้มรับแล้วเดินมุ่งตรงไปที่หนังสือ อานนท์เลือกไปเรื่อยๆแต่ไม่คิดจะเช่าหนังสือ ขณะที่อานนท์กำลังเดินออกจากร้าน พนักงานก็ทักว่า
ไม่สนใจสักเล่มหรอครับ อานนท์ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า
หนังสือทุกเล่มในร้านนี้ผมอ่านมาหมดแล้วครับ ขอบคุณครับ พนักงานถามต่อทันที
คุณเป็นนักอ่าน แต่ก็ไม่น่าจะอ่านหมดแล้วทั้งร้านได้นะครับ อานนท์หัวเราะก่อนจะชี้แจง
ผมเคยเป็นเจ้าของร้านนี้มาก่อนครับ ผมนี่แหละผู้ก่อตั้งร้านนี้ พนักงานจึงยิ้มอย่างอายๆ
ขณะที่ชายกำลังผลักประตูจะออกจากร้านพนักงานจึงพูดขึ้นว่า
คุณครับ ตอนที่คุณไม่อยู่มีคนมาถามหาคุณอยู่หลายครั้ง ตอนนี้เธอก็เป็นลูกค้าขาประจำเราด้วยนะครับ เธออ่านแต่นิยาย เช่าแต่นิยายซ้ำๆ อานนท์หันมาฟังแล้วถามว่า
เธอเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีมากเลยใช่ไหมละ อารมณ์ดีน่าจะยกให้เป็นลูกค้าดีเด่น พนักงานจะตอบต่อว่า
ครับ เธอนิสัยดีและน่ารักมาก เออ ผมให้เธอยืมสมุดเล่นหนึ่งที่ข้างหน้าเขียนว่าแอปเปิ้ล เธอยังไม่คืนเลย ถ้าคุณเจอเธอฝากทวงด้วยนะครับ เดี๋ยวเจ้าของมาถามหา ผมจะซวย อานท์ยิ้มๆแล้วเดินออกจากร้านทันที อานนท์ไม่คิดมากเรื่องสมุดที่ตนเองเขียนสักเท่าไหร่ ที่อานนท์สนใจคือคนที่เอาสมุดของเขาไปอ่าน ท่ไม่ยอมเจอหน้าหรือพูดคุยกับเขามาเกือบอาทิตย์
วันต่อมาอานนท์ไปดักรอหญิงที่หน้าโรงเรียนวันนี้หญิงยืนคุมนักเรียนที่หน้าโรงเรียนพอดี ชายไม่อยากให้หญิงหลบหน้าไปอีก และหญิงก็หลบไม่ได้จริงๆซะด้วย อานนท์เดินมาทักตามปกติ
สวัสดีครับคุณครู หญิงทำเป็นไม่สนใจแต่ก็ทักตอบไปว่า
สวัสดีค่ะ อานนท์จึงถามต่อไปว่าง
คุณครูงอลอะไรผมหรือป่าวครับ หญิงตอบกลับด้วยอารมณ์ทันที
มีสิทธิ์ที่จะงอลคุณด้วยหรอค่ะ ว่างหรอกค่ะไม่เตรียมงานแต่งหรอ อานนท์แอบยิ้มแล้วตอบไปว่า
เรียบร้อยหมดแล้วครับเหลืออย่างเดียว ต้องขอร้องให้หญิงช่วยสักนิดได้ไหมครับ ไม่รับกวนมากหรอกนะแค่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายผมรู้ว่าคุณไม่อยากเจอหน้าผม แต่ผมไม่รู้ว่าจะไปขอร้องใครแล้วจริงๆ ช่วยผมนะ หญิงทำท่าคิดอยู่สักพัก อานนท์ก็พูดต่อขึ้นมาว่า
งานแต่งจะมีขึ้นได้ไง ในเมื่อเจ้าสาวงอลผมแบบนี้ ช่วยผมหน่อยนะ หญิงตอบกลับทันทีว่า
เกี่ยวอะไรกับฉันละ อานนท์จึงหยิบกล่องของขวัญกล่องหนึ่งยัดใส่มือขอหญิงแล้วบอกกับหญิงว่า
นะครับ แค่ครั้งเดียวผมจะไม่ขออะไรอีกเลย หญิงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงฝืนใจพยักหน้ารักปากที่จะช่วย
แล้วให้ฉันช่วยอะไรละ หญิงถามอานนท์ด้วยสีหน้าเฉยฉา
แอปเปิ้ลของผมงอลผลอยู่ที่ตึกสองห้อง 2301 คุณช่วยเอากล่องนี้ไปให้เธอได้ไหมครับ อานนท์อ้อนวอนด้วยสายตาละห้อยขอความเห็นใจ หญิงเห็นจริงตอบรับทันที แล้วเดินไปตามที่อานนท์บอก ตามเดินตามไม่ห่าง จนมาถึงหน้า 2301 ห้องนี้เป็นห้องสอนดนตรีนาฏศิลป์ มีทางเข้าออกทางเดียว หญิงเดินเข้าไปในห้องในห้องไม่มีใครเลยนอกจากหญิงคนเดียวจากนั้นประตูห้องก็ปิดลง หญิงจึงตกใจพยายามที่จะเปิดประตู
นี่คุณ ฉันไม่ตลกนะฉันอุตส่าจะช่วยให้คุณสมหวังแต่นี่คุณมาแกล้งฉันแบบนี้เนี่ยนะ อานนท์ตอบกลับทันทีว่า
ผมไม่ได้แกล้งคุณ คุณทำตามที่ผมขอสิ หญิง มองไปรอบๆห้องและพูดด้วยน้ำเสียงโมโหกลับไปว่า
ในนี้ไม่มีใครเลย ไหนละแอปเปิ้ลของคุณ ฉันไม่สนุกด้วยนะ อานนท์จึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปหาหญิงพูดว่า
อ่าว ไม่มีใครจริงๆซะด้วย โอ๊ะ!! นั่นไงคนนั้นไง อานนท์ชี้ตรงไปข้างหน้า หญิงมองตามที่อานนท์ชี้พบว่าเป็นเงาของเธอเองในกระจก หญิงจึงหันกลับไปพูดกลับอานนท์ว่า
ฉันไม่ขำแล้วนะ คุณกำลังจะแต่งงานแล้วคุณยังมาให้ความหวังกับฉับแบบนี้อีกหรอ อานนท์จับมือหญิงที่กำกล่องขวัญและพูดว่า
เปิดดูสิครับ หญิงเปิดตามคำบอกของอานนท์พบว่าในกล่องคือไม้ไอศกรีม หญิงจึงหันมองหน้าชาย ชายจึงพูดต่อทันทีว่า
มันคือไม้ไอศกรีม ที่ไม่ธรรมดา ไม้ที่หล่นมาจากฝากฟ้าเป็นไม้ฟรีจากหญิงสาวที่เลี้ยงไอศกรีมผม ทั้งๆที่ผมไม่รู้จักเธอซะด้วยซ้ำ เป็นไม้ที่หลุดออกมาจากสมุดบันทึกของผม อานนท์พูดจบก็ลวงกระเป๋าเพื่อหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมานั่นคือ ไม้ไอศกรีมอีกหนึ่งอัน แล้วพูดต่อว่า
นี่คือ อีกหนึ่งอันแห่งความทรงจำ หญิงขัดอานนท์ทันทีว่า
ฉันไม่เข้าใจ ที่ฉันเข้าใจคือคุณกำลังจะแต่งงาน ส่วนนี่คือไม้ไอศกรีมธรรมดาๆ อานนท์หยิบไม้ไอศกรีมขึ้นมาหักทิ้งทันที พร้อมกับกล้มตัวลงไปนั่งคุกเข้าต่อหน้าหญิง แล้วพูดขึ้นว่า
คุณงอลผมหรอ โกรธผมมากเลยใช่ไหมครับจริงๆแล้วผมไม่ได้จะแต่งงาน หญิงได้ยินแล้วก็ชะงักและทำท่าจะเดินออกจากห้อง อานนท์จึงรีบตะโกนถามไปว่า
คุณเป็นแอปเปิ้ลอีกซีกของผมจะได้ไหมครับ คุณแอปเปิ้ลผมพยายามที่จะห้ามใจ พยายามที่จะไม่คิดมาก แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมไม่มีอะไรเหมาะกับคุณ ผมอยากที่จะให้คุณภูมิใจในตัวผมที่เป็นผมที่ไม่ใช่บุคคลล้มละลายหรือแค่เจอของร้านหนังสือเล็กๆ ที่ผมหายไปก็เพื่อคุณ ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วภูมิใจผมดูแลคุณได้ ให้คุณเดินควงไม่อายใครไม่มีใครตราหน้าว่าบุคคลล้มละลาย เป็นแอปเปิ้ลอีกซีกของผมเถอะนะครับ หญิงได้ยินดังนั้นจึงหยุดเดินแล้วหันไปตอบอานนท์ว่า
ฉันไม่ต้องการหน้าตา ไม่ต้องการเงินทอง แค่ร้านเล็กๆกับชายหนุ่มอารมณ์ดี บุคคลล้มละลายฉันก็ไม่อายจะที่ควง คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าฉันคือแอปเปิ้ลอีกซีกของคุณจริงๆ อานนท์ตอบกลับทันทีว่า
จะใช่หรือไม่ ผมก็มีคำตอบเดียวให้คุณคือ ผมรักคุณ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่และไม่รู้ว่าทำไม แต่ถ้าคุณไม่อยากเป็นแอปเปิ้ลอีกซีกของผมก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ว่าคุณหรอก วันนี้ผมดีใจที่ได้บอกรักคุณ ผมก็พอใจแล้ว
จากนั้นบรรยายกาศก็เงียบสนิท หญิงอึ้ง ส่วนอานนท์นิ่ง สักพักอานนท์เดินออกจากห้อง แต่หญิงเรียกขึ้นมาว่า
คุณแอปเปิ้ล มีคนอยากจะให้คำตอบคุณ อานนท์ได้ยินจึงหันกลับไป หญิงเดินมาจูงแขนอานนท์ไปยืนกลางห้อง
<san style="font-size: 16pt; font-family: &
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ♪♫○มือใหม่หัดแต่ง○♪& ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ♪♫○มือใหม่หัดแต่ง○♪&
ความคิดเห็น