After Life - After Life นิยาย After Life : Dek-D.com - Writer

    After Life

    หลังชีวิตอาจมิใช่ความตาย.. หลังชีวิตอาจมิใช่จุดจบ.. หลังชีวิต.. อาจเป็นจุดเริ่มต้น..

    ผู้เข้าชมรวม

    479

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    479

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 เม.ย. 50 / 19:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      นิวยอร์ค  :   0.45  น.

          วันนี้นับเป็นวันที่ สตีฟ เฮิร์ด ดวงซวยสุดขีด..  อะไรบางอย่างดลใจให้เขาคิด
      จะดอดเข้าไปงีบในโกดังร้างประจำเขตสิบเอ็ดที่ชื่อ‘บิ๊กฮิต’  แต่กลับกลายเป็นเข้าไปยืนเจ๋อ
      เสนอหน้าระหว่างที่แก็งบ้าบออะไรไม่รู้กำลังส่งของกันล็อตใหญ่  เขาเห็นพวกมันเต็มตา  
      และพวกมันก็เห็นเขาเต็มตาเช่นกัน  สตีฟหันหลังแล้ววิ่งหนี  หนึ่งในพวกมันชักปืนรีวอลเวอร์
      กระบอกเขื่องออกมาจากเอว...

          สตีฟเผ่นไปตามถนนสายเล็ก  ซอกแซ่กเข้าตรอกซอยไม่รู้ทิศ  ร่างเขาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด
      หากแต่ไม่อาจหยุดวิ่ง  เสียงฝีเท้าจำนวนมากกระชั้นไล่ตามหลัง  ‘หากหยุดตอนนี้คงได้หลับยาวตลอดชีพ’  
      ความคิดนี้ผลักเขาวิ่งจนฉิว...  แล้วเสียงปืนก็แผดสนั่นขึ้นหนึ่งครั้ง...  สตีฟคิดว่าพวกมันยิงขู่ขึ้นฟ้า  
      หากแต่ถังขยะพลาสติกที่ตั้งอยู่เยื้องซ้ายของเขาปลิวขึ้นในอากาศ  ลูกปืนฉีกมันจนเป็นซาก  เศษขยะ
      ลอยว่อน  ยิ่งไม่ต้องนึกเลยว่าหัวเขาจะโดนยิงกระจายเป็นกี่ส่วน...      

      เปรี้ยง !! เสียงพญามัจจุราชดังกึกก้องขึ้นอีก....

          สตีฟรู้สึกเหมือนโดนถีบ  เขาคะมำไปด้านหน้า  แก้มกระแทกพื้น  ผุ่นทรายกองโต
      ทะลักเข้าเต็มปาก  จบกัน...   เขาถูกยิง...   ความรู้สึกชาวูบวาบวิ่งวุ่นที่กลางหลัง  ในขณะที่
      เรี่ยวแรงเหมือนหลั่งไหลออกทางปากแผลอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ  สตีฟนอนนิ่ง  สติเลื่อนลอย
        เหลือเพียงหางตาซึ่งกำลังเพ่งมองจุดจบของตนเอง  พวกมันวิ่งมาถึงร่างเขา  ถือปืนจ่อห่าง
      จากศีรษะเพียงหนึ่งฟุต  แล้วเหนี่ยวไก...  ทุกอย่างมืดสนิท...

          คนส่วนใหญ่คิดว่าความตายคือจุดจบ...  ใครจะรู้ว่าที่จริงความตายอาจเป็นจุดเริ่มต้น...  
      หรือความตายอาจเป็นทวารสู่ภพซึ่งซ้อนภพ…

          เราม่องเท่งไปแล้ว  ตายอนาถกลางถนน  มันสมองคงกระจายเกลื่อน  หมาจรจัดอาจกำลัง
      รุมแทะศพ..แต่ทำไมยังรู้สึก..  สัมผัสถึงความอุ่น  สัมผัสถึงความง่วงงุน  สัมผัสถึงแขนขาเนื้อหนัง
      ร่างกาย  สัมผัสถึงเปลือกตาซึ่งกำลังปิดแน่นจนเกร็ง...  สตีฟกระพริบตาปริบ  เมื่อกี้เขากำลังนอนนิ่ง..
        กำลังจะโดนลูกปืนกรอกกระโหลก..  แต่ตอนนี้เขากำลังนั่ง..   นั่งเอามือเท้าคางอยู่บนบรรลังค์หิน
      ใหญ่ยักษ์  .. นี่ที่ไหน..  ฉับพลันนั้นเสียงเฮดังกระหึ่มขึ้นในระยะประชิด สตีฟหูอื้อ  ตื่นเต็มตา  
      ปากอ้าค้าง  บริเวณพื้นที่เบื้องล่างมีคนนับพัน! หรืออาจนับหมื่น!  แออัดอยู่ในโดมขนาดมหึมา
      (รวมถึงตัวเขาเอง) ขนคอเขาลุกซู่  รู้สึกเหมือนได้เห็นพวกคลั่งดนตรีรวมตัวกันมาถล่มงานคอนเสิร์ต
       นี่มันอะไรกันวะ..   เขาจ้องมองผู้คนที่กำลังส่งเสียงฮือฮาหยุกหยิก  บางคนผิวขาว  บางคนผิวดำ
       และบางคนผิวสีเทา..  แทบทุกคนพกดาบ  มีบ้างที่ถือคันธนูหรือหอก  แต่ที่เหมือนกันหมดคือ
      ประกายตาแรงกล้าซึ่งจับจ้องขึ้นมายังร่างของสตีฟบนบรรลังค์...  

           เขาค่อย ๆ ลุกขึ้น  แข้งขาอ่อนแรง  เสียงโลหะขูดขีดดังครางเบา ๆ  แม่โว้ย !! นี่เขากำลังสวม
      ชุดเกราะ !เกราะสีดำสนิทเก่าคร่ำคร่า  แต่ยังสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งสุดหยั่ง  เหมือนชุดของ
      อัศวินปีศาจตัวร้ายจากนวนิยายที่วางขายเกลื่อนกลาด  หรือเขากำลังอยู่ในฉากหนังสงคราม
      ย้อนยุค? ใช่แน่ ๆ แต่เขาไม่ชอบเล่นหนังนะ  สตีฟก้าวขาลงจากบรรลังค์  สอดส่ายสายตามอง
      หาผู้กำกับและกล้อง   ทันทีที่เท้าแตะพื้น  บรรดาผู้คนพากันขยับออกซ้ายขวา  แยกกันออกเป็น
      ทางยาวโล่ง  มีบางคนขยับมือชี้ไปยังประตูโดมมโหฬารซึ่งเปิดหรา  ส่งแสงหลัว  ลมอุ่นและ
      กลิ่นคลื่นเหียนเข้ามาภายใน   ...ผู้กำกับอยู่ไหนวะ...  

           สตีฟเดินไปตามทางเลือกหนึ่งเดียว  ผู้คนรอบด้านพากันโค้งศีรษะให้เขา  ในขณะที่ประตูอยู่ใกล้แค่
      เอื้อม  เห็นทิวทัศน์ภายนอกเป็นทุ่งดินสีน้ำตาลหม่น  ต้นไม้ยืนตายเป็นจุด ๆ ตัดกับเมฆสีช้ำหนอง
      แผ่กว้างจรดขอบฟ้าทุกทิศทาง   นี่มัน.. ที่ไหน.. มีสถานที่แบบนี้บนโลกด้วยงั้นหรือ..  ความสับสน
      ทุกขัดด้วยเสียงทุ้ม..  มีบางคนยืนอยู่ด้านหลังเขา...  สตีฟหันขวับ.. เวลานี้ชุดเกราะที่กำลังสวมดู
      เหมือนจะเบากว่าความอลหม่านในสมองของเขามากนัก  ชายในชุดคลุมพูดอะไรบางอย่างแล้วยื่น
      หอกยาวให้เขา..

          “นี่ที่ไหน  สตูดิโอ ?  นี่หนังเรื่องอะไร  ผมไม่เล่น  เลิกเล่นได้แล้ว  คุณเป็นผู้กำกับงั้น
      เหรอ  แล้วพวกที่ไล่ยิงผมล่ะ..” สตีฟรู้ตัวดีว่ากำลังจะสติแตก  แต่ก็ไม่อาจหยุดคำถามซึ่งกระหน่ำ
      ออกมาจากปากเหมือนปืนกล  ชายตรงหน้ายืนนิ่ง  ใบหน้าถูกปิดไว้ด้วยเงาจากผ้าคลุม  

          “เจ้าคือผู้นำ...”  มันพูดแล้วยัดหอกดำใส่มือของสตีฟ จากนั้นจึงชี้นิ้วออกไปยังแผ่น
      เมฆสีคล้ำด้านนอก “สวรรค์ลั่นกลองศึก  หมายพิชิตนรกให้ย่อยยับ...  เจ้าคือแบล็กคิง..  ส่วน
      คำถามที่เหลือเจ้าต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง..”

          สตีฟมองตามนิ้วมือของมัน   เห็นกลุ่มเมฆหมุนวนแหวกตัวออกเป็นวง  แผ่นฟ้าหลัง
      เมฆเป็นสีครามสวยชวนเคลิ้ม  แล้วดวงตาก็โผล่ออกมา... มันคือดวงตา..  เขาเห็น.. คงใช้
      สเปเชี่ยลเอฟเฟ็คบ้าบอคอแตกจนสมจริงโคตร ๆ  ดวงตาสีบุษราคัมขนาดมหึมา   ส่องประกาย
      แสงเป็นลำพาดจากฟ้าสู่ดิน  เขามองตาค้าง  เห็นฝูงอะไรบางอย่างลอยลงมาตามลำแสงนั้น
       จำนวนมาก.. มากจนจัดว่ามหาศาล  พวกมันแต่งเกราะขาว  มีปีกสวยเหมือนหงส์  ถือดาบยาว
      คล้ายรูปลักษณ์กางเขน...  เอาอีกแล้ว.. เหมือนพวกอัศวินโฮลี่อันสุดแสนจะศักดิ์สิทธิ์จาก
      สรวงสวรรค์ในนวนิยายอีกแล้ว..

          เสียงตะโกนดังกระหึ่มก้องโดม  สตีฟหันหลังไปมอง  หูอื้ออีกครั้ง  ชายในชุดคุลม
      ไม่อยู่แล้ว  เห็นเพียงบรรดาผู้คนพากันกระชากดาบออกจากฝักอย่างห้าวหาญ  จากนั้นจึงพา
      กันจ้องมองผู้นำของพวกเขา..   เหมือน..  รอคำสั่ง...

          เขาหันกลับไปมองกองทัพสวรรค์อีกครั้ง  ตอนนี้พวกมันเดินเรียงกันอยู่บนพื้นดิน
       เกราะสะท้อนประกายแสงระยับเหมือนมหาสมุทรซึ่งสะท้อนแดด  จำนวนพวกมันมหาศาล  
      ดูเหมือนคลื่นยักษ์จากพระเจ้าหมายจะกวาดล้างโลกให้สิ้นซาก  ดวงตายักษ์ยังส่องแสงแทน
      ดวงอาทิตย์อยู่บนฟ้า  จับจ้องการนองเลือดที่ใกล้เข้ามา.....

          นี่ ! มัน ! อะไร ! กัน ! โว้ย !

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×