ขอโทษที ! ที่ไม่ใยดีกับเมียน้อย - นิยาย ขอโทษที ! ที่ไม่ใยดีกับเมียน้อย : Dek-D.com - Writer
×

    ขอโทษที ! ที่ไม่ใยดีกับเมียน้อย

    พริมายาตัดสินใจลาออกเพราะเทวินทร์รับคดีแย่งมรดกให้เมียน้อยมาทำ แต่หกปีผ่านไปกลับกลายมาเป็นเพื่อนบ้านกัน เธออยากหนีเขาให้ห่างแต่ลูกสาวตัวดีกลับติดเขาแจเสียนี่ ไปๆมาๆเธอก็ติดเขาเช่นกันแล้วซิ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,588

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    67

    ผู้เข้าชมรวม


    1.58K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    15
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  27 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 พ.ค. 67 / 12:03 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือโตแล้ว พริมายาก็เกลียดสิ่งที่มีชีวิตที่เรียกว่า'เมียน้อย' เข้าไส้ เธอทนทำงานมานานเมื่อเจ้านายนั้นรับคดีของคนที่เป็นเมียน้อยซึ่งเรียกร้องเงินจากกองมรดกมาทำนั้น ถือเป็นการเปิดประตูแห่งอนาคตให้กับเธออย่างแท้จริง ทนายสาวที่ลาออกเพราะทนไม่ไหว หกปีถัดมาจึงได้กลายเป็นเครื่องมือทำลายเมียน้อยโดยเฉพาะ


    ไม่มีวันรักกันไม่ได้! พนักงานกับเจ้านายนี่นะ พริมายาขอปฏิเสธสุดชีวิต ยิ่งเป็นเจ้านายเก่าแล้วล่ะก็ยิ่งอยากให้เขาไปตายไกล ๆ หลังจากเจอกันในศาลตอนหกปีที่แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนกระทั่งวันย้ายเข้าคอนโดใหม่ที่พึ่งสร้างเสร็จนั้นถึงได้รู้ว่าโลกมันกลมเกินไปเพราะเทวินทร์เป็นเพื่อนบ้านกับเธอที่ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกัน!! 


    "กูไม่ทำแล้วเว้ย!" ภาพจำสุดท้ายที่ฝังลึกอยู่ในใจของเทวินทร์ที่มีต่อหญิงสาวอายุน้อยกว่าคือประโยคนี้พร้อมกับน้ำตาของเธอ เขาคิดว่าพริมายาอ่อนต่อโลกนัก แต่ปีถัดมานั้นชายหนุ่มจึงรู้ตัวว่าคิดผิด อดีตผู้ช่วยนั้นกลับมาแก้แค้นเขาและชนะคดีฟ้องชู้ไปด้วยมูลค่าสินไหมทดแทนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์


    ตัวละคร

    พริม พริมายา  อายุ 29 ปี ทนายสาวชื่อดังมีผลงานเด่นด้านการฟ้องชู้ ฟ้องหย่า ฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตร

    วิน เทวินทร์ อายุ 36 ปี หุ้นส่วนลอว์เฟิร์มชื่อดังรับผิดชอบคดีครอบครัว ผู้ที่รับทำแต่คดียากๆเงินเยอะๆ

    หนูพิม พิมพ์รัก อายุ 5 ปี ลูกสาวสุดที่รักของพริมายาเรียนอยู่ชั้นอนุบาลสาม ขยันพูดจาเจื้อยแจ้ว

    เทพ รัชตะ อายุ 31 ปี  เซเลบเชฟอาหารไทยทำงานอยู่โรงแรมห้าดาวชื่อดัง แฟนเก่าของพริมายา

    ซา มะเหมี่ยว อายุ 30 ปี เจ้าของบริษัทวางแผนจัดงานแต่งงานเล็ก ๆ เพื่อนสนิทของพริมายา 


    ตัวอย่างฉากหวานมั้ง?(ปล.อันนี้ไม่ใช่ตอนจบนะคะกลาง ๆ เรื่อง)

    “ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นซิงเกิ้ลมัมหรืออะไรก็ตามแต่ พริมผมชอบคุณ ผมรักคุณ แต่งงานกับผมเถอะนะ” เขาพูดกับเธอที่ชายหาดขณะที่ทั้งคู่ออกมาเดินเล่นหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ

    “นี่ไม่ฉวยโอกาสและฉาบฉวยไปหน่อยหรอคะ” พริมายาเอี้ยวตัวออก ตลกละ จู่ ๆ ทำไมถึงมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าจะเคยจูบปากกันมาก่อนก็จริงแต่นั่นมันก็คืออุบัติเหตุล้วน ๆ นี่คงไม่ใช่การจัดฉากเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเรื่องคดีของพิมพ์รักใช่ไหม

    “พริมปีนี้ผมจะอายุสามสิบเจ็ด ตอนผมจบม.6 คุณก็พึ่งม.1 ผมอยู่บนโลกนี้มานานกว่าคุณหกปีทำไมผมจะไม่รู้หัวใจตัวเอง คุณก็รู้ว่าคนเราถ้าไม่ได้ไม่ได้ชอบจะทุ่มเทกับคน ๆ นึงได้นานขนาดนี้รึไง” ชายหนุ่มพูดถึงความรู้สึกของตนออกมาด้วยความหนักแน่น เธอที่ได้ฟังก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจนี้

    “มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมคุณวินถึงชอบฉัน”

    “เอ่อ…มันคงจะดูไม่น่าเชื่อไปหน่อยนะ แต่ว่าตั้งแต่ที่พวกเราทำคดีจัดการมรดกเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ความรู้สึกดี ๆ มันก็ก่อตัวขึ้นมาแล้ว” เทวินทร์ตอบตามตรงเพราะตัวเองนั้นเคยพิจารณามาก่อนว่าเขานั้นชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ คงจะเป็นตอนที่คลุกคลีกันตลอดเวลานั่นแหละมั้งที่ตัวของชายหนุ่มชอบเหลือบมองพริมายาบ่อยๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าอาการแบบนั้นเรียกว่าแอบชอบ

    “ฮะ ! ชอบแบบไหนกันคะถึงได้อารมณ์เสียใส่ฉัน ใช้งานแบบไม่ให้ห่างตัวต้องรอแสตนบายรับโทรศัพท์คุณตลอด… หรือว่า… คุณทำอะไรคะเนี่ย ! ” เมื่อได้ยินคำตอบในตอนแรกเธอก็รีบคัดค้าน แต่ประโยคถัดมาที่พูดก็เป็นคำอธิบายเรื่องทั้งหมดได้ เจ้านายลูกน้องไม่มีทางใกล้ชิดกันขนาดนั้นหรอก แสดงว่าเทวินทร์นั้นชอบตัวเองเข้าแล้วจริง ๆ แต่ไม่ทันได้ตอบตกลง พ่อเจ้าประคุณตรงหน้าก็คุกเข่าลงพร้อมกับเปิดกล่องแหวนแต่งงานออกมาก่อน

    “ถ้าคุณไม่ตอบตกลงผมก็จะคุกเข่าอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ” เขาทิ้งศักดิ์ศรีตัวเอาไว้แล้วลงทุนบังคับแกมขอร้องหญิงสาว พริมายาใจกระตุกวูบนี่มันอะไรกันเนี่ยทำไมตอนนี้เทวินทร์ถึงหล่อออร่าแถมมีฟิลเตอร์ติดตัวเป็นประกายวิ้ง ๆ เหมือนพกสปอร์ตไลท์มาด้วยอย่างนี้กัน หญิงสาวห้ามไม่ให้มุมปากที่ฉีกขึ้นนั้นแสดงออกมา เธอเอามือมาดึงรอยโค้งนั้นให้เป็นเส้นตรงก่อนจะพูดเสียงแข็งว่า

    “มัดมือชกกันชัด ๆ เฮอะ ! รีบ ๆ ลุกขึ้นมาเถอะค่ะ ” แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้คิดจะต่อต้านด้วยการปฏิเสธเสียงแข็ง

    “ไม่ ! / เอ๊ะ ! ไม่รู้ภาษาไทยหรอคะ ทำไมไม่ลุกเร็ว ๆ”จนพริมายาทนไม่ไหวพูดขัดออกมาก่อนไม่สนใจเรื่องที่จะวางมาดเมื่อครู่แล้ว เธอยื่นมือข้างซ้ายออกมาเป็นสัญญาณเชิงอนุญาติให้กับเทวินทร์

    “ผมลุกแล้วนะ ขอบคุณนะครับ” เขาหยิบเอาแหวนเพชรที่เตรียมไว้มาสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ ก่อนจะคว้าตัวของหญิงสาวตรงหน้ามากอดไว้แน่นด้วยความดีใจ คนในอ้อมกอดหนาก็หัวเราะออกมาพร้อมฉีกยิ้มกว้าง

    ‘หึ ๆ ไม่คิดเลยว่าวันนี้ของเธอมันจะมีบนโลกด้วย แถมยังเป็นเขาคนนี้อีกต่างหาก ถ้าจะให้นิยามก็คงต้องบอกว่าผีผลักได้ถูกที่ถูกเวลาและถูกคนเสียจริง’ พริมายาฉลองในใจอย่างเงียบ ๆ

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น