เคล็ดไม่ลับกับ Admission ที่สุดยอดจริงๆ
เทคนิคการเตรียมตัวที่ดี สำหรับ Admission ก่อนอื่นขอบอกว่าผมค่อนข้างที่จะเห็นชอบที่ประเทศไทยนำ
Admission มาใช้ แต่แน่นอนครับว่า ความคิดเห็นของแต่ละคนก็จะต้องแตกต่างกันไป
เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงระบบเอนทรานซ์เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา แรกๆ ก็คัดค้าน จนปัจจุบันก็ยอมรับมากขึ้น
บทความนี้จะไม่ขอพูดแสดงความคิดเห็น อะไร แต่จะขอแนะนำน้อง ๆ
ที่กำลังเข้าสู่ระบบนี้ในปีนี้กันเลยว่าจะเตรียมตัวอย่างไรดี
สำหรับน้อง ม.4 และ ม.5 ที่จริงคงจะรู้ตัวล่วงหน้าแล้วว่า การเรียนระดับม.ปลาย มีการใช้คะแนนสอบ และ GPA
มาคิดร่วมด้วย โดยความคิดเห็นส่วนตัว ขอแนะนำดังนี้
1. ตั้งใจเรียนทุกวิชา ในห้องเรียนอย่างดีที่สุด อย่าได้ทิ้งบางวิชาที่คิดว่าไม่ชอบเป็นอันขาด เพราะระบบ
Admission จะนำคะแนนทุกวิชามาคิดคำนวณทั้งหมด มีผลด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พลศึกษา สุขศึกษา ศิลปะ
2. การเข้าเรียนในห้องเรียนอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นทบทวนความรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
อย่าโดดเรียนเป็นอันขาด อย่าทิ้งการเรียนแม้สักวิชาเดียวเป็นอันขาด แม้ว่าจะเป็นวิชาที่ไม่ชอบเรียน
หรือไม่ชอบอาจารย์ที่สอน ก็ตาม
3. หากทางบ้านสนับสนุนการเรียนอย่างเต็มที่ ควรจัดหาซื้อหนังสือคู่มือ ตำราเรียน ให้ครบทุกรายวิชา
แล้วหาเวลาว่างมานั่งอ่านหนังสือจะดีที่สุด
หากไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรก็ไปยืมหนังสือห้องสมุดที่โรงเรียนมาอ่าน จะช่วยประหยัดได้มาก
4. หากมีโอกาสได้เรียนกวดวิชา ก็แนะนำให้เรียนไปเลย
ทั้งนี้เพราะการเรียนในโรงเรียนเป็นการเรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้ไม่ได้เน้นที่เทคนิคการทำข้อสอบมากม
ายนัก เพื่อจะได้เห็นข้อสอบแปลกๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งเทคนิคการสอนที่หลากหลายนอกจากในห้องเรียน
5. ต่อไปนี้ต้องอ่านให้หมด ขอให้จำไว้ว่า อย่าเถลไถล อย่าโกหกตัวเอง โกหกพ่อแม่ โกหกเพื่อนๆ
อย่าทำร้ายอนาคตของตัวเองด้วยความขี้เกียจของวันนี้ กำลังใจที่ดีมาจากตัวเองก่อนเสมอ
ไม่มีใครทำให้เราเก่งได้ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง เราต้องทำได้ดีกว่าที่เคยทำมา ถ้าคิดจะทำให้ดีซะอย่าง
ขอให้เริ่มตั้งแต่ เดี๋ยวนี้ ลงมือทำตอนนี้ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งเหมือนที่เคยทำมาเป็นอันขาด จงคิดว่า
ต่อไปนี้ถึงเวลาที่เราต้องทำให้ตนเอง เป็นตัวของตัวเองซะที อย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับเพื่อนมากนัก
(ทำไมเหรอ พอจบไปก็ต่างคนต่างไปอยู่ดี สนิทกันจริงๆ มีไม่กี่คนเหมือนเดิม ก็ก๊วนเดิมน่ะแหละ)
ชีวิตคนเราต้องแยกทางกันอยู่แล้ว มันเป็นสัจธรรม วันนี้สำคัญที่สุด
เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราจะได้เริ่มต้นสร้างอนาคตที่ดีให้กับตนเองด้วยการขยันอ่านหนังสือ
ทำงานให้กับตนเองตั้งแต่วันแรก คือวันนี้เลย อย่าเสียเวลาไปวันๆ ให้คนอื่นเค้าว่า
ให้พ่อแม่ต้องเสียใจกับความขี้เกียจของลูกอีกเลย ลงมือทำเสียแต่เดี๋ยวนี้ นะครับ สำหรับน้องม.6
บางคนอาจจะรู้สึกว่าสายเกินไป แต่ที่จริงแล้วยังมีเวลา เหลือเฟืออีกมากมายกว่าจะถึงวันสอบ
แม้การเตรียมตัวเพียงแค่ 1 วันก่อนสอบก็เป็นสิ่งที่ทำได้เสมอ ไม่ว่าจะสอบ
อะไรก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญคือ ก่อนออกรบร่างกายต้องพร้อม เทคนิคต้องเยี่ยม
มาดูกันว่า
แล้วสำหรับ ม.6 ควรจะเตรียมตัวอย่างไร
1. สำหรับภาคเรียนนี้และอีกภาคเรียนที่เหลือ ต้องพลาดไม่ได้แล้ว วิชาไหนที่เคยเกเร
ต้องเอากลับคืนมาให้ได้ คือต้องทำคะแนนให้ดีขึ้นกว่าเดิม เลิกเล่นกับเพื่อนๆ
แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานก็ตามยังมีเวลาอีกมากหลังจากการสอบเสร็จแล้วที่จะได้เล่นอย่างมันส์กว่าใ
คร ดังนั้นต้องตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอ และห้ามเบื่อหน่ายการเรียนเป็นอันขาด ลองคิดดูว่าเหนื่อยมาตั้ง
2 ปีแล้ว จะมาท้อเอาง่ายๆ ไม่ได้นะ
2. ช่วงนี้หาซื้อหนังสืออ่านเตรียมสอบได้เลย หนังสือข้อสอบเก่าๆ ของปีที่ผ่านมา สรรหามาไว้ที่บ้านดีกว่า
รีบซื้อไว้ก่อนที่ราคาจะแพงมากกว่านี้เพราะน้ำมันแพงขึ้นทุกวัน ค่าขนส่งก็แพง ตำราก็จะแพงขึ้น
พอได้หนังสือมาก็อ่านทุกวัน
3. เทคนิคการอ่านหนังสือ ไม่มีอะไรมาก ขอบอกเป็นข้อๆ ดังนี้
1. ข้อห้าม ห้ามนอน ห้ามกิน ห้ามดูทีวี ห้ามฟังเพลง ห้ามคุยโทรศัพท์ ห้ามทำอย่างอื่นขณะเปิดหนังสือ
ห้ามมีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย ห้ามลุกไปมาจนกว่าจะอ่านบรรลุเป้าหมาย นี่คือการบังคับจิตใจ
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก
2. ข้อปฏิบัติ หากระดาษ A4 มาจดโน๊ตไว้ ทำเป็นโน้ตสรุปของตนเอง ทำให้ครบทุกเนื้อหา ทุกรายวิชา
ช่วงนี้มีเวลาทำให้รีบทำ อย่าขี้เกียจ วิธีนี้ได้ผลแน่นอน จำได้ไม่ลืมแน่ แล้วเก็บโน้ตไว้ให้ดี
เก็บไว้อ่านอยู่เรื่อยๆ
3. กำลังใจ ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเอง อย่าหวังจากเพื่อน จากแฟน จากพ่อแม่ คนอื่นใดทั้งสิ้น
ต้องมาจากตัวเองเท่านั้น ต้องสร้างกำลังใจให้มุ่งมั่นเข้มแข็ง สม่ำเสมอ เน้นคำนี้นะ ต้องสม่ำเสมอ 4.
ต้องมีเป้าหมาย กำหนดว่าวันนี้จะอ่านถึงไหน จะโน้ตเรื่องอะไร แล้วทำให้ได้ ทำทันที ไม่ได้ไม่เลิก
ไม่เสร็จไม่นอน
4. คำเตือน การเตรียมตัวแบบนี้ต้องทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง รู้แล้วต้องทำ
ทำตั้งแต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ แล้วอนาคตที่เราต้องการก็จะไม่ไกล ขอบอกว่าวิธีนี้คนที่เป็นแพทย์ วิศวะ
คนเก่งๆ หลายคน ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น ได้ผลมาแล้ว
5. ขอเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านเสมอ หากท้อแท้ ยังมีคำแนะนำดีๆ อีกมาก
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น