ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { got7 } nerd♡ - markbam.

    ลำดับตอนที่ #28 : ` n e r d ♡ - 23

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 858
      2
      30 ก.ย. 59









    n e r d  - 23



              เช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใสของแจ็คสันต้องจบลง เมื่อถูกน้องชายร่างยักษ์บุกเข้าบ้านถึงห้องนอนแล้วจับยัดเข้าห้องน้ำตามใจ ก่อนจะโดนลากออกจากบ้านโผล่มาที่เมืองข้างๆ อืม.. ฟังไม่ผิดหรอกเมืองข้างๆ มันปั่นจักรยานมาเมืองข้างๆที่มีเขานั่งซ้อนท้ายจักรยานมันอยู่


              อันที่จริงก็ไม่แน่ใจว่าควรอึ้งที่เด็กบ้าพลังนี่มันปั่นมาขนาดนี้ หรืออึ้งที่ตัวแจ็คสันเองที่ไม่ร่วงหล่นลงไประหว่างทาง ( ̄ェ ̄;)


              “พี่อย่าช้าได้ไหม ผมสายแล้ว มัวแต่แต่งตัวไงเลยช้าเลยเนี่ย”


              “แล้วกูบอกหรอว่าจะมากับมึง ?”


              “ก็ผมบอกว่าจะมากับพี่หนิ” 


              “แต่กูไม่ได้บอกว่าจะมากับมึงงง” 


              “เถียงไปพี่ก็ไม่ได้กลับบ้านหรอกน่า เข้าไปข้างในกันดีกว่า” เมื่อรับรู้ว่าการต่อปากกับแจ็คสันไม่มีทางยุติง่ายๆถ้าเขาไม่ยอมอ่อนให้ก่อน ยูคยอมเลยเลือกที่จะพาร่างของอีกฝ่ายเข้าไปในรั้วของสนามแข่งบาสเก็ตบอลแทน 


              เสียงกระทบลูกบาสกับพื้นดังเคล้าไปกับเสียงโห่เชียร์ การแข่งขันแบบสามต่อสามยังคงดำเนินต่อไปแม้จะผ่านไปเกือบชั่วโมง คู่แข่งสลับสับเปลี่ยนไปแบบไม่สามารถคาดการณ์เวลาที่แน่นอนได้  ยูคยอมสาวเท้าตรงตามทางเมื่อเห็นหลังของเพื่อนร่วมทีมลางๆ 


              “ช้าชิบหาย มึงรีบเขียนแล้วเอาไปส่งเลยไป” ยังไม่ทันจะถึงตัวของเพื่อนดี คนที่ดูตัวสูงที่สุดก็หันหลังกลับมาพร้อมยื่นเอกสารมาให้ ยูคยอมพยักหน้ารับก่อนจะลงมือเขียนลวกๆให้พออ่านออกอย่างรวดเร็ว แล้วจัดการยื่นให้กรรมการที่ดูจะรู้จักกันอยู่พอสมควร


              “แนะนำช้าไปหน่อย นี่พี่แจ็คสัน ส่วนนั่น มินกยู มยองโฮ แจฮยอน เท่านี้แหละ” ยูคยอมแนะนำอย่างรวดเร็ว ในขณะที่แจ็คสันทำได้เพียงพยักหน้าแล้วส่งยิ้มตอบกลับเป็นมารยาท “เดี๋ยวกูเปลี่ยนชุดก่อน อีกสองคู่ใช่มั้ย” คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเพื่อนใหม่พยักหน้าตอบรับ หลังจากได้รับคำตอบก็ไม่ลืมคว้าตัวตุ๊กตาท้ายรถ(จักรยาน)ให้เดินตามจนถึงจุดเปลี่ยนเสื้อ


              “เพื่อนมึงนี่สูงกันจังเนอะ กูว่ามึงสูงแล้วนะ” แจ็คสันกอดอกพิงข้างประตูเพื่อรออีกฝ่ายทำธุระพูดขึ้น “ขนาดน้องที่ตัวเล็กที่สุดยังดูสูงกว่ากูเลย” 


              ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าทำไมเด็กเดี๋ยวนี้ถึงโตไวได้ขนาดนั้น ฮืมมมมม (  ) #ทดลองสงสัยแบบโคนัน


              “อยากสูงบ้างว่างั้น”


              “ความจริงเท่านี้ก็ดี แต่ถ้ามันดีได้มากกว่านี้ก็เอา”


              “เท่านี้ก็ดีแล้ว” เสียงกุกกักภายในห้องเงียบลงพร้อมกับยูคยอมที่มาโผล่ข้างๆ “แบบนี้มันลวนลามสะดวกดี” 


              นิ้วกลางจรดขึ้นปะทะกับสายตาของคนพูด รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏขึ้นพร้อมกับถ้อยคำสวยหรูหลุดออกจากปากจนคนฟังยังอดหัวเราะไม่ได้


              “พี่ไม่ควรทำแบบนี้กับคนที่ตัวเองชอบป่าววะ”


              “ใครชอบมึงหละ ? กูหรอ รู้สึกว่าจะไม่ใช่นะ”


              “เอ้า พูดแบบนี้เลิกชอบผมแล้วดิ ? ผมกำลังชอบพี่เลยเนี่ย J


              “หุบปากของมึงแล้วพาตัวเองออกไปซะ” แจ็คสันขู่ขึ้นด้วยสายตา แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ ในเมื่อยูคยอมถึงได้ลอยหน้าลอยตาเบะปากสลับกระตุกยิ้ม จนรู้สึกอยากปะทุร้ายจริงๆ 


              ทำหน้าดีๆไม่เป็นหรือไง สันนิบาตแด-กหน้าหรอ ?


              ยังไม่ทันได้แซวอะไรอีกฝ่ายกลับไป ปากเรียวก็ต้องปิดลง เมื่อสายตาคาดโทษยังคงส่งมาอย่างต่อเนื่องเหมือนกดพอชหยุดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน 


              แต่ช่างเถอะ ครั้งนี้จะยอมไม่แซวก็ได้ เห็นแก่หูที่เปลี่ยนสีกับเหงื่อที่ไหลเยอะขึ้นนั่นหรอกนะ


              ¯\_ʘʘ_/¯


              “ยิ้มอะไรของมึงนักหนาวะ จะไม่แข่งหรือไง” 


              “คร้าบบ คร้าบบบ” 


              ฉุดกระชากลากถูกันทางสายตาอยู่นานกว่าจะเดินมาถึงสนามแข่ง ไม่ต้องรอให้นั่งพักหรืออะไรก็ต้องเดินเข้าสนามไปทันที ยูคยอมจากท่าทีขี้เล่นเมื่อก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นอีกคนเมื่อลูกบาสถูกปล่อยให้กับผู้เล่น เสียงฝีเท้าหนักเสียดสีกับพื้นจนคนฟังยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเข้าไปร่วมในเกมส์


              การแข่งขันสิ้นสุดลงเมื่อทีมหนึ่งได้รับคะแนนสิบห้าแต้มก่อน มยองโฮรับหน้าที่โยนผ้าขนหนูผืนหนากับน้ำเย็นให้กับเพื่อนตัวสูงอีกสองคนที่เดินหอบมา ในขณะที่ยูคยอมยังคงท่าทีสบายพร้อมกับรอยยิ้ม คว้าผ้าขนหนูที่ตัวเองผาดไว้บนบ่าของแจ็คสันก่อนแข่งขึ้นซับเหงื่อตามใบหน้า


              “ชนะแบบนี้ไม่มีรางวัลหรอ”


              “แค่รอบแรก มึงอย่าหวัง”


              “งั้นรอบต่อไป”


              “หนึ่งในสาม”


              “โอเค แต่ถ้าที่หนึ่งนี่ขอเรียกร้องของรางวัลแล้วกัน”


              “มึงก็อย่าดีแต่ปากหละ”


              ยูคยอมไม่ได้ตอบกลับอะไรไป มีเพียงรอยยิ้มที่กระตุกขึ้นมุมปาก ก่อนที่เสียงเรียกจากแจฮยอนจะดังขึ้น ป้ายไวนิลถูกเขียนชื่อทีมแต่ละทีมไว้ เส้นสีดำลากจากช่องสู่อีกช่องแสดงถึงคู่แข่งที่ต้องพบ กว่าจะถึงจุดสูงสุดก็ต้องผ่านการแข่งราวๆห้าครั้งได้ 


              ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรืออะไรที่คู่แข่งนัดต่อไปดันสละสิทธิ.. แต่ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ช่างเถอะ อย่างน้อยมันก็ทำห้ยูคยอมได้เข้าถึงสิ่งที่ต้องการมากขึ้นแค่นั้นก็ดีแล้ว (☆Θ艸Θ)


              “เกือบชั่วโมงนึง มึงกินอะไรมายัง” มินกยูถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าสองคนที่สร้างโลกส่วนตัวอยู่นานสองนาน “เอาเป็นว่าพวกกูจะไปหาอะไรกินรองท้องก่อน มึงกับพี่เขาจะตามมามั้ยอีกเรื่องแล้วกัน” พูดจบแขนยาวก็พาดบนไหล่เพื่อนตัวเล็กที่มีแจฮยอนคลอเคลียกับกลุ่มผมนิ่มอยู่ ก่อนจะเดินวุ่นวายกันสามคนออกไปนอกลานกว้าง


              “พี่ยังไม่ได้กินอะไรหนิ งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะ”


              “มึงเลี้ยง ?”


              ถึงจะชวนไปกินก็เถอะนะ แต่เรื่องเงินๆทองๆนี่มัน.. “ก็ได้” 


              อ่า.. อย่าสงสัยเลย ยูคยอมหนะคำนวณผลลัพธ์ไว้หมดแล้ว ถือว่าคุ้มอยู่ก็แล้วกัน J


























              “พร้อมยัง ?” หันไปถามเจ้าของความคิดที่ยังคงยืนกินอย่างสบายใจพยักหน้าตอบรับกลับมาจนอดบีบเข้าที่แก้มนุ่นไม่ได้ “เลิกกินก่อนก็ได้เนอะ~”



              เจ้าของแก้มจ้องเขม็งกลับอย่างไม่ถอย เว้นแต่ปากที่ยู่ยี่นั่นเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ในเมื่อมาร์คยังคงมีรอยยิ้มเอ็นดูปรากฏตรงหน้า 



              แบมแบมส่ายหน้าไปมาให้หลุดจากการจับกุมของอีกฝ่าย ใจจริงอยากจะพ่นของในปากใส่ให้มันจบๆอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่าเสียดายหนะนะ ส่วนมือสองข้างหนะหรอ ไม่ว่างหรอก ถือของกินอยู่ไง 



              “ปล่อยยย”



              “อ่าว หมดปากซะแล้วหรอ ไม่เห็นแก้มยุบเลยนึกว่ายังกินอยู่”



              “ปากเสียแล้วไง” เบะปากไปหนึ่งทีก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายเดินนำไป มาร์คยืนมองป้ายสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่โชว์อยู่ตรงทางเข้าติดกับช่องขายตั๋ว “ตั๋วพี่” 



              ด้วยความที่เป็นวันครอบครัวอย่างวันอาทิตย์ จึงดูไม่ค่อยหน้าแปลกใจนักว่าเพราะอะไรคนถึงเยอะ โดยเฉพาะเด็กที่มีจำนวนมากพอให้พบเห็นทุกครั้งที่กวาดสายตามอง สีหน้าที่บริสุทธิปราศจากการปรุงแต่งยิ่งมองยิ่งรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้กลับมาเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง



              ก็ว่าไปนั้น.. ไม่มีใครย้อนเวลากลับไปได้หรอกน่า



              “พี่มาร์ค ดูนี่ดิ ตัวใหญ่มากอะ”



              “นั่นๆ ยีราฟมันกำลังนอนใช่มั้ย โห่ย รู้สึกปวดคอแทนจริงๆ”



              “หว่า~ ตัวเล็กไปอีก” 



              แต่บางเรื่องก็ควรมีข้อยกเว้นนั่นแหละเนอะ



              (¬ω¬;A)



              แบมแบมยังคงวิ่งเล่นเหมือนเด็กน้อยจนบ่อยครั้งที่เขาเผลอมองว่าเจ้าตัวกับเหล่าตัวจิ๋วนั่นเป็นรุ่นเดียวกัน ยิ่งประกอบกับท่าทีที่เดินเป็นขบวนนั่นอีก ให้ตายเถอะ น่ารักได้ขนาดนี้เลยหรอคนเรา



              เวลายังคงเดินต่อไปพร้อมกับพลังที่เติมมาเริ่มหมดลง หัวหน้าเด็ก(โข่ง)บอกลาสมาชิกคนสุดท้ายที่จากไปพร้อมกับผู้ปกครอง ก่อนจะเดินดุ้กดิ้กมาหาเสบียงสำคัญ ที่ดูเหมือนจะรู้หน้าที่ดีอยู่แล้ว



              “เสร็จแล้วจะไปไหนต่อ”



              “แน่นอนอยู่แล้วว่าสัตว์น้ำสิ อ่ออ สัตว์กลางคืนด้วย” คนฟังพยักหน้าตอบรับก่อนจะปล่อยให้เด็กน้อยตรงหน้าอิ่มเอมไปกับความสุขของตนเอง “มองอะไรขนาดนั้นหละ ไม่คิดว่าผมเขินเลยว่างั้น” หลังจากกลืนอาหารคำสุดท้ายลงไป แบมแบมก็ทักขึ้น



              “เขินเป็นด้วยหรอเราหนะ”



              “หลอกด่าหรือปล่าว พ่อแม่เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะครับ”



              “เดี๋ยวก็สนิทแล้ว”



              “ยังไง”



              “ก็เดี๋ยวคงไปมาหาสู่กันบ่อยๆ”



              “เขินว่ะ” หลบสายตาเจ้าเล่ห์ที่อีกคนส่งผ่านแว่นนั่นมาอย่างเปิดเผย เผลอเลียริมฝีปากที่แห้งเพราะความเขินพร้อมกับใบหูที่เปลี่ยนสีจนเห็นได้ชัด 



              มาร์คลอบมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ยิ่งเห็นท่าทียิ่งรู้สึกอดแกล้งไม่ได้ และเหมือนปากกับความคิดจะทำงานร่วมกันดีพอๆกับร่างกายที่ขยับเข้าใกล้ใบหูขึ้นสีนั่นจนอีกคนสะดุ้งเพราะรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นที่มาสัมผัส “เลียปากบ่อยขนาดนี้ให้ชวยเลียมั้ย ?”



              เอ้า.. มาร์ค ไม่เก็บอาการเลย ภัยสังคมไปอีก..


              555555555555555555555555555555555555555555555555555555555



              #คีพลุคโหมดอะเกน



              พลั่ก



              แบมแบมตาตื่นขึ้นทันที ขาสองข้างก้าวเร็วราวกับว่ากำลังหนีจากอะไรบางอย่าง ปล่อยให้คนขี้แกล้งนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวก่อนจะ(นึกได้ว่าควร)ตามออกไป 



              ให้ตายเถอะ ใจเต้นแรงไม่หยุดเลย เขาควรทำยังไงดี ? หรือให้พี่มันช่วยจริงๆอย่างที่พูดดีวะ



              เหอะ.. ล้อเล่นเถอะ ไม่มีทางหรอกน่า



              ไม่รู้ว่าเพราะคนเยอะขึ้นหรืออะไรที่ทำให้แบมแบมห่างจากตัวมาร์คไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เห็นเพียงแค่หลังที่ดูเหมือนจะทิ้งห่างออกไปเช่นกัน ขาทั้งสองข้างยังคงก้าวยาวหวังจะไล่ตามคนตัวเล็กกว่าให้ทันเพียงอย่างเดียว 



              “ขอโทษค่ะ/ขอโทษครับ” คำกล่าวขอโทษดังออกมาจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มาร์ครีบปล่อยไหล่บางทั้งสองข้างของหญิงสาวตัวเล็กที่เข้ามาชนเขา ไม่ลืมที่จะกล่าวขอโทษอีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มไปอย่างเป็นมิตรแล้วรีบเดินไปตามทางที่คิดว่าต้องใช่ทางที่เด็กตัวแสบของเขาเดินผ่านแน่ๆ



              สองเท้าหยุดอยู่หน้าทางเข้าของโซนสัตว์น้ำ ทางเดินภายในมืดพอสมควร เลียนแบบความมืดของใต้ทะเลลึกได้เป็นอย่างดี 



              ระหว่างที่ยืนชั่งใจอยู่นานว่าควรเข้าไปเลยหรือยืนรอให้แน่ใจก่อนว่าแบมแบมเข้าไปด้านในแล้วจริงๆ แรงพุ่งชนบริเวณหลังก็เป็นตัวบ่งบอกทันที หัวทุยสะบัดไปมาทั้งทียังชนกับหลังแกร่งของคนขี้แกล้งจนตัวเองเกิดเมื่อยไปเองจนเลิกเล่น



              เห้ ! เมื่อกี้นี่ไม่ได้เล่นซะหน่อย ดูดพลังต่างหากหละ \(\)



              “เข้าไปข้างในกัน” ไม่ทันให้ตอบตกลงแบมแบมก็จัดการลากคนแก่กว่าเข้าไปด้านในทันที แอร์เย็นๆปะทะเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว 



              แสงไฟสลัวไปตามทาง สัตว์น้ำจากตัวเล็กก็เริ่มใหญ่ขึ้น จากที่คุ้นตาก็เริ่มแปลกไป ยิ่งเดินเข้าไปมากเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งดูน้อยลงอย่างเห็นได้



              “พี่มาร์ค”



              “...”



              “เมื่อกี้นี้หนะ” ความเงียบก่อตัวขึ้น ต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไร มาร์คหันไปมองอีกคนอย่างจงใจ สายตาของแบมแบมยังคงมองตามเจ้าปลาตัวใหญ่ในตู้กระจกราวกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้พูดอะไรออกมา



              หรือว่าเขาหูแว่วไปเองหว่า ?



              แต่แล้วก็พบว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้เขาไม่ได้คิดไปเอง เมื่ออีกฝ่ายหันมาสบตาเข้าอย่างจัง รอยยิ้มเล็กๆมุมปากกระตุกขึ้นพร้อมกับสายตาขี้เล่นของเจ้าตัว 



              “เมื่อกี้นี้ตอนเดินมาหนะ ผมเห็นว่าพี่เดินชนคนอื่น”



              “...”



              “อันที่จริงผมว่ามันก็ดีที่พี่มีอัธยาศัยดี ที่ขอโทษเขาไปพร้อมกับรอยยิ้ม”



              “...”



              “เพียงแต่ว่า ผมหึงเนี่ยสิครับ”






















    — TBC —







    จะไม่บอกหรอกว่าแอบมีความสุขกับ97ไลน์มากขนาดไหน ฮาา 
    ตอนนี้นี่มันเหมือนงานขายตรงของ97เลย ยังไงดี ชอบชอบ ดีกับใจสุดสุดด ♥
    โอ่ยย นี่มันอะไรกันคะ มบนี่สารคดีเลี้ยงลูกหรอ555555555555555555555555
    ไม่ไหวแล้ว งงตัวเองจริงๆ ทำไมเหมือนพาลูกน้อยมาเที่ยวแบบนี้(วะ) ฮาา ~

    จะย้ำอีกทีว่า มัคบวมนี่คบกันแบบ อเมริกันสไตล์นันจ้า รู้ตัวเองไม่ต้องขอ
    โอ่ยย ‘เมกาบอยมาเองแบบนี้ แว้กว้ากก // ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะคะ เลิ้ป







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×