ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #45 : เจ้าหญิงแสดงตัว [รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.17K
      700
      12 มิ.ย. 60




         "เป็นผู้ใดออกคำสั่งให้เริ่มอพยพผู้คนเข้าสู่เมืองรีเวล" มาร์ควิสเจอริโก้ซึ่งเร่งรีบเดินทางจากเมืองรีเวลมาเอ่ยถามขึ้นเสียงกร้าวเมื่อมาถึงจุดรวมพลหน้าเมือง

         "เป็นท่านมาร์ควิสบุสโซ่ครับท่านมาร์ควิสเจอริโก้" ทหารนายหนึ่งรายงาน

         "ที่นี่เป็นข้าออกคำสั่ง หากไม่มีคำสั่งข้าไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเคลื่นไหว เจ้าไม่รู้หรือว่าเมืองรีเวลตอนนี้ยังไม่พร้อมจะรับผู้อพยพตั้งมากมายเช่นนี้ หากให้ผู้อพมากมายเช่นนี้เข้าเมืองไปโดยไม่ตรวจสอบไม่ทราบว่าในตัวเมืองรีเวลจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายมากน้อยถึงเพียงไหน" มาร์ควิสเจอริโก้กลับยกอ้างเหตุผลบางอย่างออกมา "ใสหัวไป บอกทหารทุกคนให้หยุดมือ" มันตวาดสั่ง

         โรสซึ่งไม่ยินยอมพร้อมใจและเห็นว่าคำสั่งของมาร์ควิสเจอริโก้ดูเหลวไหลอยู่บ้างก็หยุดชงักอ้ำๆอึ้งๆไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี ตอนนี้มาร์ควิสบุสโซ่นายของตนเองก็อยู่ที่ด้านนอกจุดรวมพลยังไม่กลับมา

         "หืม เจ้ามีปัญหากับคำสั่งของข้าหรือ" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยเมื่อเห็นว่าโรสยังคงยืนนิ่งไม่ได้เร่งรีบไปปฎิบัติตามที่ตนเองสั่งการ

         "ท่านมาร์ควิสข้าว่าตอนนี้อพยพผู้คนเข้าสู่เมืองรีเวลก่อนคงไม่มีปัญหาใด พวกเรายังสามารถจัดสรรพื้นที่ว่างและกำหนดในผู้อพยพอยู่แต่ในพื้นที่น" กล่าวยังไม่ทันจบหน้าของโรสก็ถูกตบจนชาด้านไป

         "บัดซบ ทหารชั้นผู้น้อยอย่างเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า" มาร์ควิสเจอริโก้ตวาดลั่นหลังจากตบไปที่หน้าของโรสแล้ว

         ทหารคนสนิทที่ด้านข้างของมันกลับกระซิบกระซาบสิ่งใดไม่ทราบได้ต่อมัน ทำให้มาร์ควิสเจอริโก้ยิ้มเหี้ยมพร้อมทั้งมองไปยังทิศทางที่โรสล้มอยู่

         "เจ้ากล้าขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในยามขับขันเช่นนี้ ข้าจะลงโทษเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้อื่น" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยเสียงเหี้ยม "ไปเรียกประชุมกำลังพลข้าจะประหารนางผู้นี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้อื่น ให้ทุกคนได้ทราบว่าหากขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาจะต้องโทษเช่นไร"

         มาร์ควิสเจอริโก้นั้นเคียดแค้นกาเล็ทยิ่งแต่ด้วยกำลังลำพังกำลังของมันยังคงไม่สามารถทำอย่างไรกับกาเล็ทได้ แต่กับโรสผู้ซึ่งเป็นทหารชั้นผู้น้อยนั้นแตกต่าง มิหนำซ้ำเมื่อครู่โรสยังหยิบยื่นโอกาสให้แก่มัน หยิบยื่นข้ออ้างในการลงดาบให้แก่มัน ตัวมันที่เฝ้ารออยู่แล้วย่อมคว้าไว้ด้วยความยินดีปรีดา

         โรสซึ่งได้ยินคำสั่งของมาร์ควิสเจอริโก้ก็ถึงกับหน้าซีดไป



         "ท่านมาร์ควิส ท่านมาร์ควิสแย่แล้ว แย่แล้ว" มาร์ตินวิ่งหน้าตั้งอย่างสุดชีวิตเพื่อมารายงานกาเล็ทซึ่งอยู่ท้ายค่ายจุดรวมพล

         "มีอะไรมาร์ติน" กาเล็ทเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่ามาร์ตินวิ่งหน้าตื่นมาหาตนเอง

         "โรส  ร โรสกำลังจะถูกประหาร" มาร์ตินรายงาน

         กาเล็ทซึ่งได้ยินเช่นนั้นก็ไม่พูดพล่ำให้มากความ ร่างของกาเล็ทกลับหายวับไปอย่างรวดเร็ว

         เพียงครู่เดียวแท่นประหารซึ่งจัดทำขึ้นจากไม้อย่างลวกๆก็กระทำเสร็จอย่างรวดเร็ว ร่างของโรสกลับถูกจับให้คุกเข่าลงอยู่บนแท่นนั้นโดยคนของมาร์ควิสเจอริโก้ ใบหน้าของโรสตอนนี้นั้นข้างหนึ่งกลับบวมเปล่งออกมาเหตุเพราะฝ่ามือของมาร์ควิสเจอริโก้ที่ตบใส่อย่างแรง ดวงตาทั้งสองของโรสกลับเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา แต่น้ำตานั้นไม่ได้มาจากความเสียใจในสิ่งที่ตนเองกระทำ แต่กลับมาจากความไม่ยินยอมในความอยุติธรรมที่ตนเองได้รับ 

         "หัวหน้ากองร้อยผู้นี้ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่แต่เพียงนั้นนางยังกล้าโต้เถียงกับข้าอย่างไร้เหตุผล ตามกฎของทหารแล้วโทษที่นางสมควรจะได้รับคือความตายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อบุคลอื่นอีก" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยประกาศความผิดของโรสต่อหน้าเหล่าทหารซึ่งถูกเรียกให้มาชุมนุม

         ในหมู่ทหารบ้างแสดงสีหน้าลำบากใจ บ้างแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา

         มาร์ควิสเจอริโก้สับมือของตนเองลงเป็นสัญญาณให้คนของมันที่ถืดาบไว้รอท่าแล้วลงดาบสบั้นคอของโรส บนใบหน้าของมันกลับปรากฎรอยยิ้มขึ้นวูบหนึ่้ง การประหารทหารหญิงนางนี้ย่อมถือได้ว่าโทสะของมันที่มีต่อมาร์ควิสบุสโซ่ได้ถูกระบายออกมาแล้วส่วนหนึ่ง

         ฉับ เสียงเนื้อที่ถูกฟันจนขาดสะบั้นดังขึ้นแต่เสียงนี้กลับไม่ใช่เสียงของคอของโรสที่ถูกฟันจนขาดออกแต่กลับเป็นเสียงของมือเพชฌฆาตผู้ซึ่งลงดาบใส่ต้นคอของโรสขาดสะบั้นออก พร้อมกันกับที่มือซึ่งถือดาบอยู่นั้นของเพชฌฆาตขาดสะบั้นออกเลือดสดๆก็ฉีดพุ่งออกมาจากแขนที่ขาดเสมอข้อของเพชฌฆาตนั้น ทหารอีกนายหนึ่งซึ่งทำหน้าที่กดตัวของโรสไว้ก็ผละออกจากร่างของโรสด้วยความตื่นกลัว

         ผู้มาถึงย่อมเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากกาเล็ท กาเล็ทค่อยๆพยุงร่างของโรสขึ้น ขณะเดียวกันกาเล็ทก็ค่อยๆใช้พลังจิตวิญญาณแปรสภาพเป็นวิชาอาภรณ์วารีเยียวยารักษาใบหน้าของโรสไปด้วย

         "ท่านมาร์ควิส" โรสเอ่ยออกมา

         "ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าลำบาก ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใดทำกับใบหน้าของเจ้าเช่นนี้" กาเล็ทเอ่ยถาม

         โรสไม่ตอบคำแต่สายตากลับมองไปยังทิศทางซึ่งมาร์ควิสเจอริโก้ยืนอยู่ กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็เป็นอันเข้าใจได้ โทสะที่ดับมอดไปแล้วก็ลุกโชนขึ้นอีกครา  กาเล็ทส่งร่างของโรสให้แก่มาร์ตินและเรน่าซึ่งพึ่งวิ่งตามมาถึงรับช่วงต่อในการดูแล้วจากนั้นจึงก้าวเท้าฉับๆเดินเข้าหามาร์ควิสเจอริโก้

         ฉาด เสียงของฝ่ามือปะทะเข้ากับใบหน้าดังก้องขึ้น ฝ่ามือนี้ส่งให้ร่างของมาร์ควิสเจอริโก้ผู้ซึ่งมีพลังถึงระดับ 8 ล้มกลิ้งไถลไปกับพื้นทันที

         ภาพที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ทหารทุกผู้คนตื่นตกใจอย่างมากกับภาพที่เกิดขึ้น มาร์ควิสผู้หนึ่งกลับถูกตบจนกระเด็นล้มกลิ้งไป แม้แต่โรสที่อ่อนแรงถูกพยุงอยู่ก็ถึงกับปากอ้าตาค้างกับภาพที่เกิดขึ้น

         มาร์ควิสเครตันก็ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่เช่นกัน สิ่งที่กาเล็ทกระทำช่างเหนือความคาดหมายของมันนัก ไม่เพียงแต่มันสิ่งที่กาเล็ททำกลับเหนือความคาดหมายของทุกผู้คนซึ่งรวมถึงเจ้าหญิงลำดับ 2 แห่งโรฮานซึ่งพึ่งมาถึงด้วย

         "หากเก่งกล้าสามารถก็ลงมือต่อข้าอย่าได้ใช้วิธีของสุนัขลอบกัดเช่นนี้ หากมีครั้งต่อไปข้าก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าตัวข้าจะสามารถข่มโทสะภายในใจไม่ให้สังหารเจ้าในบัดดลได้" กาเล็ทเอ่ย

         มาร์ควิสเจอริโก้ที่ถูกตบจนล้มกลิ้งไปก็ยืนขึ้นโดยใช้มือข้างหนึ่งกุมแก้มของตนเองที่ถูกตบไว้ พร้อมทั้งบ้วนบางสิ่งออกมาจากปากซึ่งเต็มไปด้วยเลือดของตนเอง เมื่อตัวมันพบว่าสิ่งที่หลุดออกมาพร้อมกับเลือดนั้นคือฟันของตนเองตัวมันก็ถึงกับขาดสติไปด้วยความโกรธชักดาบออกมา "บัดซบเจ้ากลับกล้าลงมือต่อข้า กบฎแล้ว กล้าขัดคำสั่งข้าผู้เป็นตัวแทนขององค์ราชาเหมือนดั่งบิดาของมันไม่มีผิด กบฎแล้ว ทหารทุกคนช่วยข้าจับกุมเจ้ากบฎผู้นี้" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยกร้าว

         กาเล็ทซึ่งได้ยินคำกล่าวของขุนนางที่น่าชิงชังผู้นี้ก็ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความเย็นชา "กบฎหรือ? ขุนนางสุนัขเช่นพวกเจ้าไม่เห็นค่าเหลียวแลชีวิตของทหารและประชาชน ข้ายังจดจำได้ว่าองค์ราชาออกคำสั่งใดต่อเจ้า องค์ราชามอบหมายให้เจ้าทำหน้าที่เป็นผู้นำในการคุ้มกันอพยพช่วยเหลือชาวบ้านให้ลุล่วงปลอดภัยกลับสู่เมืองรีเวล ดูว่าเจ้าได้ปฎิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดหรือไม่ เมื่อมาถึงตัวเจ้ากลับไม่รีบเร่งไปปฎิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมา ไม่แต่เพียงนั้นขุนนางสุนัขที่รักตัวกลัวตายเช่นเจ้ากลับมอบหมายให้ข้าซึ่งมีกำลังคนน้อยกว่ารับภารกิจอพยพคุ้มกันหมู่บ้านคองโก้ซึ่งอันตรายและอยู่ไกลกว่า ส่วนเจ้าที่มีกำลังพลมากกว่าข้าถึงเท่าตัวกลับเลือกที่จะไปอพยพยังหมู่บ้านบาร์เร่ซึ่งอยู่ไม่ไกลหากมีแต่เพียงนี้ข้าก็ไม่ขัดข้องสามารถปล่อยผ่านได้ แต่บัดนี้ลองเหลียวมองดูว่าเกิดสิ่งใด ภารกิจที่หมู่บ้านบาร์เล่ซึ่งสมควรอพยพผู้คนได้โดยราบรื่นกลับมีผู้บาดเจ็บล้มตายมากมายถึงเพียงนี้เหตุเพราะขุนนางสุขันเฃ่นเจ้ารักตัวกลัวตาย" กาเล็ทเอ่ยคำด้วยความโกรธพร้อมทั้งชี้หน้าด่ามาร์ควิสเจอริโก้และมาร์ควิสเครตันอย่างไม่ไว้หน้าอีก

         มาร์ควิสเจอริโก้และมาร์ควิสเครตันซึ่งถูกเปิดโปงต่อหน้าผู้คนรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมากแต่กลับไม่สามารถหาคำมากล่าวโต้แย้งได้ มันไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มันไม่คาดคิดว่าเด็กหนุ่มนี่จะกล้ากล่าววาจาซึ่งไม่มีผู้ใดกล้า กล้าทำในสิ่งที่ผู้อื่นไม่กล้ากระทำ ที่แล้วมามันสามารถใช้มือเดียวปิดฟ้าไว้ แต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง

         เหล่าทหารที่ได้รับฟังต่างนิ่งเงียบ เหตุใดจึงนิ่งเงียบ ย่อมเพราะสิ่งที่กาเล็ทกล่าวล้วนเป็นจริงไม่แปลกปลอม ภาพตรงหน้าไม่ใช่เครื่องพิสูจน์แล้วหรอกหรือ? หากสองมาร์ควิสตั้งใจปฎิบัติภารกิจ บางทีอาจสามารถอพยพผู้คนได้โดยไม่มีการสูญเสียเลยด้วยซ้ำ

         "จ เจ้ากล้ากล่าววาจาเหลวไหลล่วงเกินข้าซึ่งเป็นตัวแทนขององค์ราชา วันนี้เจ้าจะต้องรับโทษ ทหาร ทหาร ช่วยข้าจับกุมมันบัดเดี๋ยวนี้ ผู้ใดไม่ทำตามล้วนถือว่าเป็นกบฎ" มาร์ควิสเจอริโก้เอ่ยสั่งการเสียงดัง มันได้แต่ยกอ้างชื่อราชาเบรุทออกมาเพื่อความชอบธรรมของตนเอง

         "หยุดเดี๋ยวนี้" เสียงใสเจื้อยแจ้วดังขึ้น

         มาร์ควิสเจอริโก้และมาร์ควิสเครตันซึ่งเหลียวมองไปทางต้นเสียงอย่างสงสัยใจว่าเป็นผู้ใดกล้าเอ่ยขัดมันกลางคันเช่นนี้อีกก็ถึงกับมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปพวกมันถึงกลับอุทานออกมา "องค์หญิง!"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×