ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #40 : ความจริงที่ปรากฎแก่สายตา [รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.24K
      746
      9 มิ.ย. 60




         กาเล็ทนำเหล่าทหารต้านรับยื้อเวลาอยู่บริเวณช่องแคบหุบเขาของหมู่บ้านคองโก้เป็นระยะเวลากว่า 1วัน ตลอดระยะเวลาหนึ่งวันที่ผ่านมานี้สัตว์อสูรพยายามจู่โจมและล่าถอยสลับกันไปมาหลายครั้งแต่ก็ถูกทหารทั้งสามร้อยนายซึ่งมีกาเล็ทเป็นผู้นำต้านทานไว้ได้ทั้งสิ้น แต่เมื่อระยะเวลาเริ่มผ่านพ้นไปนานเข้า หลุมกับดักที่เคยขุดไว้ก็ถูกเติมเต็มไปด้วยซากศพของสัตว์อสูรจำนวนมากไม่แต่เพียงเท่านั้นเมื่อระยะเวลาผ่านไปเหล่าทหารก็เริ่มอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรง ทั้งยังมีทหารบางคนที่ได้รับบาดเจ็บจากลูกธนู หรือเศษหินที่ก็อบลินและโอเกอร์ขว้างปามา 

         กาเล็ทกลับสังเกตุได้ว่ายิ่งระยะเวลาผ่านไปไม่เพียงจะมีแต่ก็อบลินและโอเกอร์ กลับเริ่มมีสัตว์อสูรที่นะดับสูงยิ่งขึ้นไปอีกโผ่ลมา เช่นหมาป่าขนเงิน และหมีแดง สัตว์อสูรทั้งสองนี้เป็นสัตว์อสูรระดับ 6 หมาป่าขนเงินนั้นรวดเร็วว่องไวยิ่ง มันสามารถวิ่งหลบห่าธนูที่เหล่าทหารยิงใส่ได้อย่างไม่ยากเย็น หลายครั้งที่มันฝ่าแนวป้องกันหลุมกับดักเข้ามาข่วนทำร้านทหารแต่สุดท้ายก็ถูกกาเล็ทตามไปจัดการได้จนหมดสิ้น หมีแดงก็ไม่ต่างกันแม้มันจะมีความเร็วที่ต่ำกว่าหมาป่าขนเงินมากนักแต่ทว่าร่างกายของมันกลับแข็งแกร่งกว่าโอเกอร์มากนั้น ลูกธนูที่ยิงถูกมันบ้างกระเด็กกระดอนออกมาไม่สามารถเจาะผ่านผิวหนาของมันได้น้อยนักที่ลูกธนูจะปักเข้าใส่ร่างของมันสำเร็จ สุดท้ายก็ต้องเป็นกาเล็ทลงมือสังหารมันด้วยตนเอง  เมื่อระยะเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง ทั้งกับดักที่ทำไว้ ทั้งแนวป้องกัน ก็เริ่มเสื่อมโทรมลง ยังมีลูกธนูก็หร่อยหรอจนเกือบหมดสิ้น ผู้คนก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง

         "เตรียมถอยทัพไปสมทบกับขบวนผู้อพยพ" กาเล็ทเอ่ยสั่งการ

         การต่อสู้ตลอดระยะเวลาหนึ่งวันมานี้นับว่ากาเล็ทนั้นได้ออมแรงไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินอยู่บ้าง หากว่ากาเล็ทฉายเดี่ยวออกฆ่าล้างสัตว์อสูรที่บุกมาทั้งหมดก็อาจจะทำได้แต่นั่นย่อมทำให้กาเล็ทหมดเรี่ยวสิ้นแรงเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นถ้ามีสัตว์อสูรระดับสูงปรากฎตัวทหารซึ่งมีระดับพลังเฉลี่ยเพียงระดับสามถึงสี่จะสามารถจัดการได้หรือ ดังนั้นกาเล็ทจึงเลือกที่จะให้ทหารตั้งแนวป้องกันสังหารสัตว์อสูรชั้นต่ำส่วนตนเองคอยควบคุมภาพรวมของแนวป้องกัน หากมีสัตว์อสูรระดับสูงหลุดรอดเข้ามาจนเองค่อยเข้าต่อกรนี่ถึงเป็นยุทธวิธีที่ถูกต้อง
     
         หล่าทหารทั้งสามร้อยนายเมื่อได้ยินคำสั่งถอยทัพก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เหตุเพราะพวกตนเองนั้นต่างหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว

         การซุ่มโจมตีของการเล็ทและทหารกว่าสามร้อยนายนั้นได้ผลดีเยี่ยมสามารถถ่วงเวลาให้ขบวนผู้อพยพล่าถอยออกจากหมู่บ้านคองโก้จนหมดสิ้น เดินทางกว่าสองชั่วโมงในที่สุดขบวนของทหารทั้งสามร้อยนายก็ติดตามขบวนของผู้อพยพจนทัน

         "พวกเจ้าแยกย้ายไปพักผ่อนได้ อีกสี่ชั่วโมงรวมตัวกันอีกครั้งใช้เวลาเหล่านี้ฟื้นฟูเรี่ยวแรงให้เต็มที่" กาเล็ทเอ่ยสั่งกับทหารทั้งสามร้อยนาย

         "ท่านมาร์ควิส ดียิ่งที่ท่านปลอดภัย" เสียงของโรสดังขึ้น

         "การเดินทางล่าถอยมีปัญหาใดหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ราบรื่นดีค่ะ เพียงแต่ว่าการเดินทางเป็นไปด้วยความล่าช้าอยู่บ้างเนื่องหัวขบวนซึ่งมีทั้งคนเจ็บและคนแก่เดินทางได้ล่าช้า เห็นว่าเดินทางมานานแล้วข้าเลยให้พวกเขาหยุดพักผ่อนสักครู่" โรสเอ่ยรายงาน

         "ทำได้ดีมาก ยิ่งฝืนมากเกินไปบางทีจากจะรวดเร็วกลับกลายเป็นให้ผลที่ตรงกันข้าม โรสเจ้านำทหารที่ยังพอมีแรงเหลือติดตามข้ามา" กาเล็ทเอ่ยสั่งการ

         โรสซึ่งได้ยินคำสั่งนั้นก็รู้สึกฉงนใจไม่น้อยว่าเหตุใดมาร์ควิสบุสโซ่ที่พึ่งล่าถอยมาถึงจะยังออกไปอีก เขาไม่เหน็ดเหนื่อยหรือ? จากการที่โรสสังเกตุเบื้องต้นกลับพบว่าทหารทั้งสามร้อยนายเมื่อกลับมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ทิ้งตัวลงนอนเสมือนว่าคนนั้นตายแล้วในทันทีเมื่อมาร์ควิสบุสโซ่สั่งให้แยกย้ายกันพักผ่อน

         "ยังไม่อาจวางใจ สัตว์อสูรที่บุกมานั้นมีมากมายเกินกว่าที่ข้าคาดคิดไว้ มิหนำซ้ำพวกมันหาได้มีเพียงแต่ก๊อบลินและโอเกอร์เท่านั้นยังมีสัตว์อสูรระดับสูงปะปนมาพวกเราไม่สามารถประมาทได้ หากเกิดข้อผิดพลาดผูอพยพจำนวนกว่าห้าพันคนนี้ยังไม่ทันจะกลับถึงเมืองรีเวลคงต้องถูกสัตว์อสูรสังหารจนหมดสิ้นเป็นแน่ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นเด็ดขาด เวลาที่พวกเรากำลังพักผ่อนอยู่นี้คลื่นของสัตว์อสูรก็กำลังไล่หลังมา เราจำเป็นต้องตั้งแนวป้องกันอีกครั้งหนึ่ง รีบไปนำคนของเจ้ามา ขณะที่ข้าล่าถอยมาพอดีพบเข้ากับจุดที่เหมาะสมแก่การป้องกัน" กาเล็ทเอ่ยอธิบายกับโรส

         โรสจึงเข้าใจว่าสถานการณ์นั้นคับขันเพียงไร

         ขณะที่กาเล็ทนำกำลังพลในสังกัดของโรสกว่าร้อยคนออกไปสร้างแนวป้องกัน

         เหล่าทหารทั้งสามร้อยคนซึ่งหลบเป็นตายจากความเหนื่อยล้าก็เริ่มฟื้นคืนจากความเหนื่อล้าเมื่อเวลาผ่านไปสามชั่วโมง เหล่าทหารที่ฟื้นคืนต่างกระจายกันไปจัดการตัวเอง บ้างก็หาอาหารลงท้อง บ้างที่รักสะอาดก็นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว

         "ข้าไม่นึกเลยว่าท่านมาร์ควิสบุสโซ่จะมีความเป็นผู้นำถึงเพียงนี้" ทหารนายหนึ่งซึ่งร่วมรบรั้งท้ายกับกาเล็ทเอ่ยกับเพื่อนของตนเองขณะนั่งกินเสบียงกรัง

         "ไม่เพียงแต่มีความเป็นผู้นำท่านมาร์ควิสยังแข็งแกร่งและกล้าหาญ เจ้าเคยได้ยินว่ามีขุนนางใหญ่ใดยอมอยู่รั้งท้ายเพื่อปกป้องประชาชนหรือ" ทหารอีกนายเอ่ยเสริม

         "เมื่อครู่ตอนที่ข้าไปขอรับเสบียง ได้ฟังมาว่าขณะที่พวกเราหลับพักผ่อนกันท่านมาร์ควิสกลับนำกำลังพลสังกัดหัวหน้าโรสออกไปสร้างแนวป้องกันอีกแล้ว"ทหารอีกนายที่พึ่งถือเสบียงกรังเดินเข้ามาเอ่ยขึ้นจากนั้นจึงนั่งล้อมวงพูดคุยกัน

         "หากมิใช่เพราะแผนการแยบคายของท่านมาร์ควิสมีหรือพวกเราจะสามาถต้านทานสัตว์อสูรมากมายถึงเพียงนั้นได้โดยไม่มีผู้ล้มตายแม้แต่คนเดียว ดูท่านมาร์ควิสกลับไม่ยอมพักผ่อน ข้ายังจำภาพที่ท่านมาร์ควิสสังหารหมาป่าขนเงินตัวนั้นต่อหน้าข้าได้ติดตาช่างองอาจนัก"ทหารคนแรกเอ่ย

         "ข้าก็เช่นกันขณะที่หมีแดงฝ่าแนวป้องกันหลุมกับดักมาได้เป็นท่านมาร์ควิสสังหารผ่าร่างมันในดาบเดียว" ทหารอีกนายเอ่ยเสริมอย่างยกย่องเชิดชูผู้บังคับบัญชาของตนเอง

         "จ พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตระกูลบุสโซ่มาหรือไม่" ทหารนายหนึ่งกลับเปิดประเด็นขึ้น เมื่อทหารนายนี้เปิดประเด็นนี้ขึ้น เพื่อนทหารอีกสองคนถึงกับหยุดเคี้ยวอาหารในปากและนิ่งเงียบไป

         "ข้าไม่เชื่อ เจ้าลองคิดดูท่านมาร์ควิสบุสโซ่ทุ่มเทกล้าหาญถึงเพียงนี้บิดาของเขาจะเป็นดั่งที่ข่าวว่าได้อย่างไรกัน หากบิดาเขาหลบหนีเอาตัวรอดดั่งเช่นที่ข่าวว่าเหตุบุตรของเขาจึงมีนิสัยที่แตกต่างสุดขั้วเหล่า จากที่ข้าสังเกตุดู ข้าคิดว่าท่านมาร์ควิสคงไม่มีวันทำเช่นนั้น" ทหารคนเดิมที่เปิดประเด็นขึ้นเอ่ยแสดงความเห็นของตนเอง

         "ไม่ทราบว่าพวกเจ้าจะเชื่อเรื่องราวที่ข้าจะเล่าหรือไม่ แต่อย่าได้แพร่งพรายต่อผู้ใดว่าข้าเป็นคนเอ่ยบอก อันที่จริงบิดาข้าก็ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เมื่อ 7 ปีก่อน บิดาข้าเล่าว่าท่านกาลานบิดาของท่านมาร์ควิสหาได้หลบหนีเอาตัวรอดดั่งเช่นข่าวลือไม่แต่ผู่ที่คิดหลบหนีทิ้งแนวป้องกันกลับเป็นเหล่าขุนนางอื่นที่ร่วมออกศึก ท่านกาลานขัดคำสั่งทหารจริง แต่เป็นการขัดคำสั่งที่ว่าให้หลบหนีล่าถอย ท่านกาลานไม่ยินยอมทิ้งประชาชนจึงนำกำลังพลที่พักดีต่อตนเองเข้าต่อกรกับสัตว์อสูรจนตัวตาย" ทหารนายหนึ่งเอ่ยเล่าความจริงที่ตนเองรู้มา

         เพื่อนทหารของมันทั้งสองคงที่ได้รับฟังต่างปากอ้าตาค้าง "ข้าว่าแล้ว" จากนั้นพวกมันจึงพูดออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน

         ไม่เพียงแต่เหล่าทหารที่ปากอ้าตาค้าง องค์หญิงแห่งโรฮานที่ถูกมัดพันธนาการอยู่บนรถม้าต่างก็ตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเฉกเช่นเดียวกัน  ทหารทั้งสามนายกลับนั่งพูดคุยกันอยู่ข้างรถม้าซึ่งมีเจ้าหญิงโรฮานถูกมัดพันธนาการอยู่!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×