ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #226 : ซ้อมมือ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.17K
      598
      10 ก.ค. 61



    กาเล็ทที่ได้ยินคำถามถัดมาของจักรพรรดินีซานซานก็เกิดความรู้สึกที่ลำบากใจเล็กน้อย สุดท้ายแล้วกาเล็ทก็เลือกที่จะเอ่ยตอบบอกออกไปตามตรง "หากเอ่ยถึงเรื่องนี้แล้วมันก็ทำให้ข้าเกิดความรู้สึกลำบากใจไม่น้อย บอกกล่าวต่อท่านจักรพรรดินีตามตรง ในตอนนี้พวกท่านทวีป เหนือ ใต้ ตะวันตก อาจจะคิดว่าตัวข้านั้นเป็นตัวแทนของทวีปตะวันออกก็จริงหากแต่ความจริงแล้วข้ายังไม่สามารถที่จะรวบรวมทวีปตะวันออกให้เป็นปึกแผ่นดังเช่นทวีปของพวกท่านได้"

    จักรพรรดินีซานซานได้ฟังเช่นนั้นสองคิ้วของนางก็ขมวดเข้าหากันในทันที

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมา "ท่านจักรพรรดินีน่าจะรู้จักและเข้าใจในตัวตนของจักรพรรดิแดงได้ดีกว่าข้าเสียด้วยซ้ำ เขานั้นเลือกที่จะใช้ความกลัวเข้าครอบงำและปกครองทวีปตะวันออก ภายใต้การปกครองของเขาแว่นแคว้นต่างๆภายในทวีปตะวันออกต่างต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ไม่เพียงแต่ไม่ใส่ใจความเป็นไปของผู้คนภายใต้ปกครองของตนเองอย่างที่ควรแล้ว จักรพรรดิแดงยังได้กระทำในสิ่งที่โหดเหี้ยมไร้มนุษย์ธรรม เขาได้ใช้พลังอำนาจของตนเองตามล่าฆ่าล้างผู้คนที่มีระดับพลังตั้งแต่ระดับราชาขึ้นไปเป็นจำนวนมากเพียงเพื่อจะนำเอาแก่นจิตวิญญาณมาฝึกฝนวิชานอตรีตพวกนั้น" เอ่ยเล่าถึงตรงนี้แล้วกาเล็ทก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง "ด้วยการอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรพรรดิแดงมาอย่างยาวนานทำให้ทวีปตะวันออกในตอนนี้นั้นทั้งทางด้านขุมกำลังและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้นเทียบไม่ได้เลยกับอีกสี่ทวีปที่เหลือ หากว่าจักรพรรดิแดงมีความเมตตาและใส่ใจประชาชนของตนเองได้สักเสี้ยวหนึ่งของท่านจักรพรรดินีคงจะดีไม่น้อย หากเป็นเช่นนั้นบางทีเขากับข้าอาจจะไม่ต้องจบลงด้วยการต่อสู้แตกหัก"

    จักรพรรดินีซานซานที่ได้ยินคำกล่าวของกาเล็ทในช่วงท้ายก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยกล่าวอย่างถ่อมตน "ขอบคุณท่านจักรพรรดิทมิฬที่กล่าวชม"

    เห็นว่าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงอีกครั้งกาเล็ทก็ยิ้มตอบ "ข้าเพียงแต่เอ่ยกล่าวตามสิ่งที่เห็นออกมาตามตรง ขณะที่ข้าเดินทางมายังศูนย์กลางของทวีปกลางแห่งนี้ก็ได้สังเกตุเห็นสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งถนนหนทางเบื้องล่างที่กว้างขวางสะอาดราบเรียบ ยังมีทหารของทางการที่คอยกระจายกำลังเฝ้าระวังอย่างทั่วถึง นับแต่เพียงสองอย่างที่เห็นได้อย่างแจ่มชัดนี้หากมิใช่ว่าผู้ปกครองแห่งทวีปเอาใจใส่ดูแลแล้วจะเกิดขึ้นได้หรือ? หากให้นำทวีปตะวันออกของข้ามาเปรียบเทียบกับทวีปใต้ของท่านจักรพรรดินีแล้วนับว่าทวีปตะวันออกของข้ายังห่างไกลนัก"

    จักรพรรดินีซานซานที่ได้ฟังเหตุผลที่กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวออกมาก็ลอบครุ่นคิดกับตนเอง "เขาเป็นคนที่ช่างสังเกตุไม่น้อย ด้วยนิสัยที่ชอบกล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้วเขาคงไม่ร่วมมือกับทวีปกลางก่อกรรมทำชั่วกระมัง?" ขณะที่ในใจลอบคิดประเมินจักรพรรดิหนุ่มแห่งทวีปตะวันออกอยู่นางก็เอ่ยคำถามที่ตัวนางต้องการจะทราบคำตอบออกมา "ที่ว่าจักรพรรดิแดงเข่นฆ่าผู้คนเพื่อฝึกฝนวิชานอกรีตนั้น ซานซานขอเรียนถามท่านจักรพรรดิทมิฬได้หรือไม่ว่าเป็นวิชานอกรีตเช่นไรกัน"

    กาเล็ทได้ฟังคำถามนี้ก็ครุ่นคิดกับตนเองวูบหนึ่ง ความจริงแล้วตนเองไม่สมควรที่จะบอกกล่าวข้อมูลนี้ออกไปหากแต่ไม่ทราบเพราะเหตุใดกลับทำให้กาเล็ทมีความรู้สึกว่าจักรพรรดินีผู้เลอโฉมผู้นี้เป็นบุคคลที่สามารถไว้วางใจได้ "เขานำแก่นจิตวิญญาณของผู้คนที่เขาสังหารมาสร้างเป็นแก่นจิตวิญญาณเทียม วิชานี้จะทำให้เขาเปรียบเสมือนมีแก่นจิตวิญญาณสองดวงในร่างเดียว" กาเล็ทเอ่ยตอบคำถามออกไป

    ได้ยินคำตอบแล้วม่านตาใส่กระจ่างดั่งจันทราของซานซานก็ขยายออก หากว่าเป็นดังท่ีเขาว่ามิใช่จักรพรรดิแดงที่มีแก่นจิตวิญญาณถึงสองดวงจะทรงพลังมากมายกว่าปกติหรอกหรือเช่นนั้นแล้วเขาเอาชนะมาได้อย่างไร?

    เสมือนว่าจะรู้ถึงอีกคำถามที่ยังอยู่ในใจของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้กาเล็ทก็ยิ้มออกมาอย่างถ่อมตนพร้อมทั้งเอ่ยตอบ "ข้าโชคดีจึงสามารถเอาชนะเขามาได้ ด้วยปัจจัยและข้อจำกัดของวิชานอกรีตนี้ทำให้จักรพรรดิแดงไม่สามารถที่จะทดลองฝึกฝนจนชำนาญได้"

    ได้ฟังคำอธิบายที่ดูสมเหตุผลนี้ทำให้จักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ผงกหัวอย่างเห็นด้วย "เป็นเช่นนี้ ว่าแต่ท่านจักรพรรดิทมิฬยังไม่ได้ให้คำตอบแก่ซานซานว่าหากทวีปกลางยื่นข้อเสนอร่วมเป็นพันธมิตรมาให้ท่านจักรพรรดิทมิฬจะทำเช่นไร" แม้จะเป็นคำถามเดิมกับเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้หากแต่น้ำเสียงและบรรยากาศรอบตัวของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้กลับไม่ตึงเครียดคล้ายจ้องจับผิดเหมือนคราครั้งก่อนอีกแต่กลับกลายเป็นบรรยากาศที่ดูเป็นมิตรและถามออกมาเพียงเพื่อต้องการรู้ถึงแนวทางของจักรพรรดิหนุ่มเท่านั้น

    "จากข้อมูลที่ข้ามีอยู่อย่างจำกัดเรื่องนี้นั้นยากต่อการตัดสินใจนัก อีกทั้งยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ต้องใช้ประกอบในการตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่นผลของการประชุมหารือของการประชุมครั้งนี้ การร่วมมือกับทวีปกลางนั้นหากให้บอกกล่าวตามตรงสำหรับข้าแล้วไม่ใช่เป็นไปไม่ได้หากแต่ข้าจะเก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายมากกว่า" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวออกไปตามตรง เหตุใดกาเล็ทถึงบอกกล่าวไปว่าการร่วมมือกับทวีปกลางใช่ว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับตนเอง ? เช่นนี้ต้องถามว่าสิ่งที่กาเล็ทขาดอยู่ตอนนี้คืออะไร คำตอบคือเวลา เมื่อแรกเริ่มมายังโลกแห่งนี้สิ่งที่กาเล็ทต้องการมากที่สุดก็คือเวลา เมื่อก่อนสิ่งที่กาเล็ทต้องการที่สุดคือเวลาในการพัฒนาเพิ่มพูนพลัง ในตอนนี้สิ่งที่กาเล็ทต้องการที่สุดคือเวลาในการเตรียมพร้อมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้คนของตนเอง หากการร่วมมือกับทวีปกลางช่วยซื้อเวลาให้กับตนเองได้มากพอเพื่อความอยู่รอดกาเล็ทย่อมไม่ทิ้งทางเลือกนี้ไปเช่นกันแม้จะรู้ว่านี่เป็นแผนยุแหย่ให้แตกแยกของทวีปกลางก็ตามที

    ได้ยินคำตอบของจักรพรรดิหนุ่มจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้ก็แสดงสีหน้าที่ลำบากใจออกมาวูบหนึ่ง "ท่านจักรพรรดิทมิฬยังคงจะร่วมมือกับทวีปกลางแม้จะรู้ว่านี่คือแผนยุแย่ให้แตกแยกเพื่อทอนกำลังของพวกเราหรือ?"

    กาเล็ทสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจในน้ำเสียงใสนั้น "ข้าเพียงแต่บอกว่านั่นเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่อาจจะเกิดขึ้น หากจะให้ข้าบอกต่อท่านจักรพรรดินีว่าข้าจะไม่ร่วมมือกับทวีปกลางแน่นอนคงถือว่าเป็นการโป้ปดแล้วแล้ว สำหรับกับข้าในตอนนี้การร่วมมือกับทวีปใต้ ทวีปเหนือและทวีปตะวันตกยังคงเป็นตัวเลือกที่ข้าต้องการหาไม่แล้วข้าคงไม่ตอบรับคำเชิญในครั้งนี้"

    หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายประโยคหลังของจักรพรรดิหนุ่ม ซานซานค่อยเกิดความรู้สึกผ่อนคลายขึ้น "เขาผู้นี้เป็นคนที่มีคุณธรรมและตรงไปตรงมาอีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีความสามารถหากว่าสัญญาร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ราบรื่นด้วยดีได้จะต้องมีความหวังแน่นอน" ซานซานลอบคิดตัดสินใจกับตนเองในใจ

    "จะกล่าวไปแล้วเองก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย ต่อให้การทำข้อตกลงพันธมิตรในครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดีทวีปตะวันออกของข้าก็ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถช่วยเหลือทวีปอื่นๆได้มากนัก" กล่าวจบกาเล็ทก็ถอนหายใจออกมา "ว่าแต่ข้าขอเรียนถามท่านจักรพรรดินีได้หรือไม่"

    "เชิญท่านจักรพรรดิทมิฬถาม" จักรพรรดินีซานซานเอ่ย

    "ท่านจักรพรรดินีเคยพบกับจักรพรรดิจรัสแสงแห่งทวีปกลางบ้างหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าว อย่างน้อยต่อให้การประชุมครั้งนี้จะล่มลงอย่างไม่เป็นท่าแต่ถ้าได้รับรู้ข้อมูลของทวีปกลางมาบ้างก็นับว่าไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าแล้ว

    "ซานซานเคยได้มีโอกาสพบเจอกับเขาเมื่อยี่สิบปีก่อน" ซานซานเอ่ยตอบอย่างหวนนึก จากนั้นจึงเอ่ยต่อ "สาเหตุที่ทวีปกลางสามารถรวมเป็นปึกแผ่นและเข้มแข็งขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะเขาเอง" เว้นไปสักพักจากนั้นริมฝีปากอวบอิ่มจึงเริ่มขยับต่อ "จักรพรรดิจรัสแสงลีออนแห่งทวีปกลางนั้นเป็นบุคคลที่มากไปด้วยความสามารถ เขานั้นโดดเด่นทั้งบุ๊นและบู๊ เมื่อยี่สิบปีก่อนไม่เพียงแต่ได้พบกันกับจักรพรรดิแห่งทวีปกลางผู้นี้ ซานซานเองยังได้มีโอกาสประมือกับเขาอีกด้วย"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็เงี่ยหูรอฟังถึงบทสรุปของการต่อสู้เพื่อประเมินความสามารถของจักรพรรดิจรัสแสงแห่งทวีปกลาง

    "ซานซานในตอนนั้นไม่ใช่คู่มือของเขาแม้แต่น้อยอาจบางทีแม้แต่ให้ซานซานและท่านจักรพรรดิเซอกีย์ร่วมมือกันก็คงไม่สามารถเอาชนะเขาได้นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สี่ทวีปในขณะนั้นตัดสินใจที่จะเซ็นสัญญาสงบศึกและยินยอมที่จะส่งบรรณาการตามที่จักรพรรดิจรัสแสงร้องขอ" จักพรรดินีแห่งทวีปใต้เอ่ย

    กาเล็ทที่ได้ฟังเช่นนั้นก็รูสึกตื่นตระหนกไม่น้อยแม้ว่าข้อมูลที่ได้มาจากปากของจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้จะไม่แน่ชัดเท่าใดหากแต่ว่านั่นก็มากพอที่จะทำให้กาเล็ทรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา "มีความวสามารถถึงเป็นนี้ย่อมไม่แปลกที่จะสามารถบีบบังคับกดดันให้ทั้งสี่ทวีปต้องร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอด"

    ซานซานที่สังเกตุเห็นกาเล็ทซึ่งกำลังนึกคิดประเมินถึงระดับความสามารถของจักรพรรดิแห่งทวีปกลางอยู่พลันเข้าใจไปว่าจักรพรรดิหนุ่มเกิดความหวั่นเกรงต่อจักรพรรดิจรัสแสงเข้าให้แล้ว "ท่านจักรพรรดิทมิฬไม่ต้องเป็นกังวล หากว่าพวกเราร่วมมือกันซานซานยังเชื่อว่าสามารถเอาชนะเขาได้แน่นอนอีกทั้งในตอนนี้ก็ไม่ใช่เมื่อยี่สิบปีก่อน"

    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ดึงสติของตนเองให้กลับมา "ท่านจักรพรรดินีจะรังเกียจหรือไม่หากข้าต้องการที่จะซ้อมมือกับท่านจักรพรรดินีเพื่อแลกเปลี่ยนวิชากัน" กาเล็ทเอ่ยปากออกไปทันทีหากแต่เมื่อเอ่ยออกไปแล้วกลับได้คิดว่าอยู่ๆตนเองกลับเอ่ยออกไปเช่นนี้ดูจะไร้เหตุผลอยู่บ้าง "ท่านจักรพรรดินีอย่าได้เข้าเจตนาของข้าผิด ข้าเพียงแต่เกิดความสงสัยว่าตนเองนั้นใช่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมประชุมหารือระหว่างทวีปในครั้งนี้จริงหรือไม่" กาเล็ทยิ่งเอ่ยกล่าวเพื่ออธิบายดูเหมือนว่ายิ่งดูไร้เหตุผลกว่าเดิม

    แรกเริ่มเดิมทีที่ได้ฟังถึงความต้องการของจักรพรรดิหนุ่ม ซานซานเองก็รู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อยที่อยู่ๆเขาผู้นี้ที่พยายามปิดบังซ่อนพลังของตนเองตลอดมากลับมีความประสงค์ที่จะซ้อมมือกับตนเอง หากแต่เมื่อหวนนึกคิดถึงเหตุผลดูแล้วจึงเข้าใจได้ว่าเขาอยากที่จะให้ตนเองประเมินความสามารถเพื่อจะเปรียบเทียบกับจักรพรรดิจรัสแสงแห่งทวีปกลาง เมื่อคิดได้ดังนั้นนางก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาบิดบังบนใบหน้านวลเนียนไว้ มุมปากของนางยกสูงขึ้นเล็กน้อย "เขานั้นโกหกได้ไม่เก่งจริงๆ" จักรพรรดินีซานซานลอบหัวเราะกับตนเองเมื่อเห็นถึงท่าทีของกาเล็ท "หากท่านจักรพรรดิทมิฬต้องการให้ซานซานช่วยประเมินให้ ซานซานมีแต่ความรู้สึกยินดี"

    เมื่อถูกเปิดโปงเจตนาอันแท้จริงของตนเองออกมากาเล็ทก็ได้แต่ยกมือขึ้นมาเกาไปที่ศรีษะอย่างเก้อเขิน "คงต้องรบกวนท่านจักรพรรดินีแล้ว"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×