ลำดับตอนที่ #200
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #200 : เที่ยวชมเมือง
หลังจากเอ่ยให้โอวาทพูดคุยกับเหล่าชนชั้นนำภายในไอออนพอเป็นพิธีแล้วกาเล็ทก็ได้บอกกล่าวแก่พวกมันให้แยกย้ายกลับไปทำหน้าที่ตามเดิมพร้อมทั้งให้พวกมันทำสรุปรายงานข้อมูลต่างๆมาให้แก่ตนเองอย่างละเอียดในภายหลัง
"ไม่คิดว่าเรื่องราวจะดูง่ายดายถึงเพียงนี้" โรสเอ่ยกล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่าเหล่าชนชั้นปกครองของไอออนแยกย้ายกันออกไปจากเขตวังหลวงของไอออนแล้ว
"เจ้าเห็นเช่นนั้นหรือ?" กาเล็ทหันไปยิ้มให้แก่ลูกน้องของตนพร้อมกับถาม
"ที่ข้าเห็นคือพวกมันต่างแสดงออกถึงความเคารพนบนอบต่อนายน้อย ยังมีตอนที่นายน้อยกล่าวถ้อยคำที่ซาบซึ้งกินใจเหล่านั้นข้าเองก็ลอบสังเกตุอยู่ พวกมันนั้นต่างแสดงออกว่าเห็นด้วยและยอมรับจากใจจริง เจ้าเห็นเหมือนข้าหรือไม่เรน่า" โรสหันไปเอ่ยถามเพื่อนสาวของตน
"เป็นเช่นนั้น" เรน่าเอ่ยตอบโรส
กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหัวให้กับความเห็นลูกน้องทั้งสอง "หากว่าเพียงพูดคุยไม่กี่ประโยคก็สามารถปกครองบ้านเมืองได้ เช่นนั้นในโลกแห่งนี้ก็คงไม่มีสงครามเกิดขึ้นแล้ว ที่พวกมันแสดงออกดั่งที่เจ้าเห็นก็เนื่องเพราะพวกมันนั้นอับจนสิ้นหนทางไร้ทางเลือก การเปลี่ยนถ่ายการควบคุมทั่วทั้งไอออนให้มาอยู่ในการควบคุมดูแลของโรฮานเราอย่างแท้จริงยังไม่ง่ายดายถึงเพียงนั้น"
ได้ฟังคำกล่าวของกาเล็ททั้งโรส เรน่าและเบลล่าที่ยืนรับฟังอยู่ต่างเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัยใจ
"เอาเถอะเรื่องบางอย่างก็จำเป็นต้องใช้เวลาหาเร่งรัดได้ไม่" กาเล็ทเอ่ยจากนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องหันไปเอ่ยถามลูกน้องทั้งสองของตนเอง "เจฟ มาร์ติน อาร์มันโด้และดีออนอยู่ที่ใด?"
"เรียนนายน้อยพวกมันกำลังดูแลควบคุมตัวคาโก้อยู่ที่คุกหลวงค่ะ" เรน่าเอ่ยตอบ
กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ผงกหัว "ไปแจ้งต่อพวกมันว่าให้นำตัวคาโก้ไปคุมขังไว้ยังเรือเหาะของพวกเราเถอะ ชีวิตของมันผู้นี้ไม่อาจให้ผู้ใดมาช่วยเหลือออกไปได้"
"นายน้อยคิดว่าจะมีผู้คนเสี่ยงชีวิตมาช่วยเหลือมัน?" โรสเอ่ยถาม
"ถามเจ้า หากว่าเปลี่ยนเป็นข้าตกอยู่ในสถาณการเช่นมัน เจ้าทั้งสองใช่จะเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือข้าหรือไม่?" กาเล็ทเอ่ยถาม
"พวกข้าทั้งสองจะเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือนายน้อยออกมาไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด" โรสและเรน่าเอ่ยตอบออกมาในทำนองเดียวกัน
"อาจบางทีคาโก้เองก็มีผู้ที่คิดเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือมันเช่นกัน ยังจำกองกำลังลับของจักรพรรดิ์แดงที่เคยเอ่ยกล่าวเล่าให้ฟังได้หรือไม่? บางทีพวกมันยังคงภักดีต่อจักรพรรดิ์แดงนายเหนือของพวกมัน" กาเล็ทเอ่ย
"เช่นนั้นให้พวกข้านำผู้คนไปกวาดต้อนจับกุมพวกมันมาดีหรือไม่นายน้อย พวกมันจะได้ไม่ก่อหวอดวุ่นวาย" โรสรีบเอ่ยเสนอทว่ากาเล็ทกลับส่ายหัวเป็นเชิงปฎิเสธ
"หากว่าพวกมันยังไม่ก่อหวอดวุ่นวายขึ้นข้าก็ไม่คิดที่จะกวาดล้างทำลายพวกมัน จะอย่างไรเป้าหมายในการมาไอออนในครั้งนี้ก็เพียงเพื่อช่วยชำระสะสางความแค้นที่มีของอาร์มันโด้และดีออน ผลประโยชน์ที่ได้รับจากไอออนนั้นนับว่าเป็นเรื่องรอง ไม่ว่าชาวไอออนจะอ่อนน้อมต่อโรฮานเราด้วยน้ำใสใจจริงหรือด้วยการเสแสร้งแกล้งดัดก็ไม่สำคัญสำหรับกับข้า จะอย่างไรพื้นที่ซึ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็ยังคงต้องเป็นเขตบุสโซ่ของพวกเราเข้าใจหรือไม่" กาเล็ทเอ่ย
"ค่ะนายน้อย"
"เอาล่ะพวกเจ้าทั้งสองเร่งรีบไปแจ้งต่อพวกมันที่คุมตัวคาโก้อยู่เถอะ คาดว่าเรือเหาะของท่านแม่สมควรใกล้ที่จะมาถึงแล้ว" กาเล็ทเอ่ย
โรสได้ยินเช่นนั้นก็ทำท่าเหมือนกับว่าจะนึกสิ่งใดออก "เช่นนั้นให้พวกข้าไปเรียกเหล่าขุนนางของไอออนกลับมารอต้อนรับนายหญิงใหญ่ดีหรือไม่นายน้อย"
"เรื่องนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด เร่งรีบไปแจ้งต่อพวกมันให้คุมตัวคาโก้ไปรอข้าอยู่ที่ท่าจอดเรือเหาะของเมืองสตาริ่ง อย่าได้ลืมหาสิ่งใดอุดปากของมันไว้" กาเล็ทเอ่ยปฎิเสธข้อเสนอของโรส
แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้เป็นนายจึงปฎิเสธอย่างแข็งขันเช่นนั้นแต่โรสก็ทำตามคำสั่งอย่างไม่ลังเล
"กลัวท่านป้าทราบใช่หรือไม่ว่ากาเล็ทขู่ขวัญเหล่าขุนนางของไอออนจนขวัญหนีกระเจิงไปหมดแล้ว" เบลล่ายิ้มขำเอ่ยถามขึ้น
"อ.อืม ก็กลัวอยู่ หากว่าท่านแม่รู้ว่าข้าขู่ขวัญผู้คนถึงเพียงนี้เกรงว่า.." กาเล็ทที่นึกคิดไปถึงภาพผู้เป็นมารดาเอ่ยตำหนิต่อว่าตนเองยิ้มแห้งๆกล่าวออกมา
"ฮิ ฮิ " เบลล่าซึ่งเห็นท่าทางของกาเล็ทยามที่แสดงความหวั่นเกรงออกมาก็หัวเราะขำขึ้น "นึกว่ากาเล็ทจะไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้วเสียอีก ที่กาเล็ทเคยบอกว่าต้องการจะสร้างสถานที่ซึ่งผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมขึ้นก็เพื่อท่านป้าใช่หรือไม่" เบลล่าเอ่ยถามขึ้น
"เจ้ารู้ด้วยหรือ?" กาเล็ทเอ่ยถามกลับอย่างแปลกใจ
"ก็พอจะเดาได้อยู่ ท่านป้าน่ะเป็นคนที่จิตใจดี ดีอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่แปลกเลยที่กาเล็ทเป็นเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่คาโก้เองหากว่ามันได้มีโอกาสร้องขออ้อนวอนต่อหน้าท่านป้าและสัญญาว่าจะกลับเนื้อกลับตัว ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาของท่านป้าแล้วคงต้องร้องขอโอกาสให้แก่มันกับกาเล็ทแน่นอน" เบลล่าเอ่ยขึ้น
"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ท่านแม่น่ะต่อให้ไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ตาม หากว่าเห็นผู้อื่นกำลังเดือดร้อนอยู่ตรงหน้าก็มักจะแสดงออกถึงความไม่สบายใจและอยากจะช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นด้วยทุกอย่างที่มี ต่อให้ในตอนนี้จะอยู่สุขสบายร่ำรวยเพียงไรแต่ทุกครั้งที่ท่านแม่เข้าเมืองไปเห็นความทุกข์ของผู้คนก็มักจะกลับมาแสดงความหดหู่ใจและปรับทุกข์กับข้าอยู่เสมอ" กาเล็ทเอ่ยอย่างหวนคิดเมื่อนึกถึงผู้เป็นมารดา
"ข้าจะรอดูเขตบุสโซ่ที่กาเล็ทสร้างขึ้น" เบลล่าเอ่ย
กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็กุมมือของเบลล่าไว้ "ไม่ใช่ข้าสร้างหากแต่เป็นพวกเรา"
"กรู๊ กรู๊รรร" เสียงร้องของมังกรตัวน้อยดังก้องไปทั่วท้องฟ้าของเมืองสตาริ่ง
ยังไม่ทันที่เรือเหาะจะลงจอดยังท่่าจอด มิร่าซึ่งอยู่ให้อ้อมกอดของนีน่าก็โผบินออกไปจากนั้นจึงมุ่งตรงลงไปยังเบื้องล่างที่กาเล็ทรอคอยอยู่ มิร่ากระพือปีกบินเข้ามาหากาเล็ทพร้อมใช้ขาทั้งสี่ข้างของตนเองเข้าเกาะกุมร่างของกาเล็ทไว้มั่น ร่างเล็กสีดำสับส่ายไปมาเข้าคลอเคลียกับกาเล็ท
"นี่ ห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ทุกครั้งหนูอยู่ในมิติเทพเจ้าตั้งหลายวันไม่เจอปะป๋าก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขณะที่โอบกอดร่างเล็กที่สับส่ายไปมาคลอเคลียกับตนเองอยู่
มิร่าในอ้อมกอดของกาเล็ทก็ได้แต่ส่งเสียงครางต่ำออกมา หากแต่ยังถูไถร่างกายของตนเองและสูดดมเลียหน้าของกาเล็ทไม่หยุด
"อ้อนเก่งถึงเพียงนี้ไม่แปลกเลยที่กาเล็ทรักเอ็นดูนาง มา มาให้พี่สาวอุ้ม" เบลล่าเอ่ยกล่าวขณะที่ยื่นมือออกไปอุ้มร่างของมิร่าออกมาจากอ้อมอกของกาเล็ท
มิร่าซึ่งถูกเบลล่าอุ้มออกมาจากกาเล็ทก็ส่งเสียงร้องประท้วงออกมาหากแต่ไม่ได้ขัดขืนเพราะกาเล็ทเองก็ช่วยอุ้มส่งร่างของนางให้แก่เบลล่าด้วย "หมาป่าขนแดงที่หนูฝึกฝนมาจะใช้งานได้รึเปล่าน้าาา" กาเล็ทเอ่ยเสียงลากยาวกับมิร่าซึ่งบัดนี้อยู่ภายในอ้อมกอดของเบลล่าเรียบร้อยแล้ว
"กรุ กรุ" มิร่าส่งเสียงตอบกลับกาเล็ทไป
กาเล็ทได้ฟังเสียงร้องที่น่ารักน่าชังของมิร่าก็ก้มลงจูบไปที่จมูกน้อยๆของนางจากนั้นจึงเอ่ยกล่าวขึ้น "อยู่เล่นกับพี่สาวเบลล่าก่อน ปะป๋าจะไปรับท่านย่าแล้วเราค่อยไปเที่ยวในเมืองด้วยกัน"
"มา มาให้พี่สาวหอมหน่อย" เบลล่าได้โอกาสก็ก้มลงหอมมิร่าพร้อมทั้งหยอกล้อกับมิร่าทันที
ทางด้านขบวนเรือเหาะกว่าสี่ลำก็ค่อยๆลงจอดทีละลำ กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็หันไปสั่งการกับเจฟและมาร์ตินที่กำลังคุมตัวคาโก้อย่างใกล้ชิดอยู่ "รีบเร่งนำมันเข้าไปคุมขังไว้ จัดให้มีผู้คนเฝ้าดูมันไว้อย่าได้เปิดช่องให้ผู้ใดลงมือ" กาเล็ทเอ่ยสั่งจากนั้นจึงเอ่ยต่อ "เมื่อแล้วเสร็จพวกเจ้าก็พาครอบครัวออกไปพักผ่อนเที่ยวชมเมืองเถอะ"
"นายน้อยจะไม่ให้พวกข้าคอยติดตามรับใช้หรือขอรับ" มาร์ตินเอ่ยถามอย่างสังสัย
"มิใช่บอกแล้วหรอกหรือว่ามาพักผ่อน พาครอบครัวของพวกเจ้าออกไปเดินชมเมืองเถอะ" กล่าวกับมาร์ตินจบกาเล็ทก็นำถุงเงินออกมาหยิบยื่นให้แก่โรส "นำเงินจำนวนนี้ไปแจกจ่ายแก่เหล่าทหารนักบู๊และหญิงรับใช้ให้พวกมันเป็นค่าใช้จ่ายเที่ยมชมเมือง"
ขณะที่กาเล็ทเอ่ยกล่าวสั่งการกับโรสอยู่เทลเล่อก็เดินนำออกมาจากเรือเหาะประจวบเข้ากับมาร์ตินซึ่งกำลังคุมตัวคาโก้สวนไปพอดี
"นั่นใช่คาโก้อะไรนั่นที่เจ้าเอ่ยบอกว่ามันเป็นผู้ปกครองของไอออนในขณะนี้หรือไม่?" เทลเล่อเอ่ยถามขึ้น
"ใช่แล้วครับท่านอาจารย์" กาเล็ทเอ่ยตอบ
"เช่นนั้นเจ้าคุมตัวมันมาทำอะไร?" เทลเล่อยังคงเอ่ยถาม
"ข้าเกรงว่าหากคุมตัวมันไว้ยังคุกหลวงของไอออนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น" กาเล็ทเอ่ย
"เจ้าจะทำอย่างไรกับมันหรือ?" เทลเล่อเอ่ยถาม
"เจ้าผู้นี้นั้นก่อกรรมทำเข็ญมามาก ข้าคิดว่าจะจับมัดประจารมันกลางเมืองพร้อมทั้งประกาศความผิดของมันให้แก่ผู้คนชาวไอออนได้รับรู้" กาเล็ทเอ่ยบอกความคิดของตนออกไป
เทลเล่อได้ฟังก็ผงกหัวรับ "นับว่าตัดสินใจได้ดี"
"กาเล็ท เมื่อครู่แม่มองลงมาจากเรือเหาะเห็นว่ามีหลายแห่งในตัวเมืองที่ได้รับความเสียหายขึ้น เกิดอะไรขึ้นหรือลูก" นีน่าที่เดินตามหลังเทลเล่อมาเอ่ยถามขึ้น
กาเล็ทได้ฟังก็ยกมือขึ้นเกาศรีษะเอ่ยตอบ "เกิดจราจลขึ้นในตัวเมืองครับท่านแม่"
นีน่าได้ฟังเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าตกอกตกใจออกมา "แบบนี้จะปลอดภัยหรือลูก"
"ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลครับท่านแม่ ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว" กาเล็ทเอ่ย
"เรียนนายท่าน ข้ากับดีออนขออาสาอยู่คอยเฝ้าดูคาโก้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด" อาร์มันโด้เข้ามาคุกเข่าเอ่ยขึ้น
"เอาเถอะ หากมีพวกเจ้าทั้งสองคอยดูแลควบคุมมันไว้ข้าก็วางใจ" กาเล็ทเอ่ยตอบอาร์มันโด้และดีออนจากนั้นจึงหันกลับไปเอ่ยกับนีน่า "ท่านแม่ข้าสอบถามผู้คนของไอออนได้ความมาว่าภายในเมืองสตาลิ่งมีภัตราคารชื่อดังอยู่หลายแห่ง ให้ข้าพาท่านแม่ไปลองชิมดูดีหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขณะที่เข้าไปประคองนีน่า
"แล้วแต่ลูกเถอะ"
"ท่าจอดเรือเหาะแห่งนี้นับว่าอยู่ห่างไกลจากเขตชั้นในของเมืองสตาริ่งอยู่พอสมควร อืมช่างประจวบเหมาะนักพอดีข้าจะได้ทดลองรถม้าที่สั่งทำเป็นพิเศษ ท่านแม่จะได้ลองนั่งดูว่านั่งสบายดีหรือไม่" กาเล็ทเอ่ย
"ใช่รถม้าคันใหญ่โตที่บรรทุกอยู่ใต้ท้องเรือเหาะนั่นหรือเปล่าลูก" นีน่าเอ่ยถาม
"ครับท่านแม่"
"ใหญ่โตถึงเพียงนั้นจะมีม้าใดลากจูงไหวกัน" ซิลเวียเดินเข้ามาเอ่ยขึ้น
"ผู้ใดบอกว่าจะให้ม้าลากจูงกัน" กาเล็ทเอ่ยยิ้ม
"เจ้าลืมหมาป่าขนแดงที่เขาเล่าให้ฟังไปแล้วหรือซิลเวีย" แชลเทียที่ด้านหลังเดินเข้ามาเอ่ยขึ้น
"จะไม่เกิดปัญหาขึ้นหรือกาเล็ท" ซิลเวียซึ่งได้แชลเทียกระตุ้นเตือนก็เอ่ยกล่าวขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
"คิดว่าไม่ หมาป่าขนแดงเหล่านี้เป็นมิร่าน้อยฝึกฝนพวกมันมาด้วยตนเอง ลืมแล้วหรือว่าเวลาภายในมิติเทพเจ้านั้นผ่านไปรวดเร็วกว่าภายนอกนัก ในตอนนี้พวกมันนั้นถือว่าคุ้นชินกับมนุษย์และรู้ความขึ้นมากแล้ว ในภายภาคหน้านั้นพวกมันจะเป็นกำลังรบหลักของโรฮานเราต่อไปอย่าว่าแต่เพียงใช้ลากจูงรถม้าเลย" กาเล็ทเอ่ย
"เช่นนั้นก็ดี รอบก่อนที่มาเยือนเมืองสตาริ่งเนื่องจากมีเหตุจำเป็นทำให้ต้องเร่งรีบจากไป ข้ายังไม่ได้เที่ยวชมดูเมืองหลวงแห่งทวีปตะวันออกแห่งนี้เลย ครั้งนี้จะต้องเที่ยวชมดูให้ทั่วเลย" ซิลเวียเอ่ยขึ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น