ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : หุบเขาอสูรฟ้า [รีไรท์ 2020]
เนื่องจากการกลับมาของโจเซพ กาเล็ทจึงยกเลิกกำหนดการที่จะเข้าไปในเมืองก่อน เดิมทีนีน่าและกาเล็ทต้องการให้โจเซพที่เดินทางไกลมาอย่างเหน็ดเหนื่อยได้พักผ่อน แต่หลังจากที่โจเซพเข้าบ้านไปเพื่อเก็บข้าวของและจัดการกับตัวเองเช่นการอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว โจเซพก็เร่งรีบออกมาหาเพื่อพบหน้ากาเล็ททันที ที่เป็นอย่างนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะโจเซพที่กำลังตื่นเต้นยินดีถึงขีดสุดย่อมไม่สามารถที่จะข่มตานอนให้หลับได้
"นายน้อยกาเล็ท ที่ท่านบอกว่ามีบางอย่างต้องการสอบถามจากข้าคือเรื่องใด?" โจเซพเอ่ยถามกาเล็ทขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้
"ท่านลุงโจเซพ ข้าอยากรู้ถึงข้อมูลเกี่ยวกับการล่าสัตว์อสูรของท่าน ข้ารู้มาจากท่านแม่ว่าท่านลุงเดินทางไปยังหุบเขาอสูรฟ้าอยู่บ่อยครั้ง" กาเล็ทเอ่ยถามเข้าเรื่องขึ้นทันที
"นายน้อยหุบเขาอสูรฟ้านั้นเป็นสถานที่ซึ่งถือว่าอันตรายเกินไป ที่จริงแล้วข้าไม่ได้เข้าไปภายในหุบเขาหากแต่เพียงออกล่าสัตว์อสูรระดับต่ำอยู่รอบนอกเท่านั้น" โจเซพเอ่ยอธิบาย
"อันตรายหรือ ท่านลุง?" กาเล็ทยังคงเอ่ยถาม
"ใช่แล้วขอรับนายน้อย ว่ากันว่าแม้ผู้มีพลังระดับ 9 หากเข้าไปภายในส่วนลึกของหุบเขาอสูรฟ้ายังยากที่จะมีชีวิตรอดกลับออกมาได้ ตลอดมาก็มีนักพจญภัยหลายคนที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปสำรวจภายในหุบเขา บ้างก็สามารถมีชีวิตรอดออกมา บ้างก็ต้องตกตายอยู่ภายในหุบเขา ว่ากันว่าภายในหุบเขาอสูรฟ้านั้นมีสัตว์อสูรมากมาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสมุนไพรหายากนานาชนิด แต่เป็นเรื่องน่าเสียที่อาณาจักรโรฮานของเราไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยงชีวิตเข้าสู่ส่วนลึกของหุบเขาอสูรฟ้า " โจเซพอธิบายเกี่ยวกับหุบเขาอสูรฟ้าให้กาเล็ทฟัง
จากการอธิบายของโจเซพทำให้กาเล็ทสามารถสรุปได้ว่าหุบเขาอสูรฟ้านั้นตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของโรฮาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นหุบเขานั่นก็เพราะบริเวณแทบนั้นทั้งหมดเป็นป่าทึบและโดยรอบก็ปรากฎเทือกเขาน้อยใหญ่อยู่เป็นจำนวนมากเป็นบริเวณกว้างขวางกินพื้นที่นับล้านตารางกิโลเมตร หุบเขาอสูรฟ้ายังถือได้ว่าเป็นชายแดนทางเหนือของโรฮานอีกด้วย
"สักวันข้าคงต้องหาโอกาสลองไปสำรวจดู" กาเล็ทเอ่ยขึ้นมาอย่างรู้สึกมุ่งหวัง
ได้ยินสิ่งที่นายน้อยของตนเองพึ่งจะเอ่ยออกมา โจเซพก็ปรากฎสีหน้าไม่สบายใจให้ได้เห็น "นายน้อยหุบเขาอสูรฟ้าเป็นสถานที่ซึ่งลี้ลับและอันตรายมาก ขอนายน้อยอย่างได้คิดเสี่ยงอันตรายเข้าไปภานในเลยนะขอรับ " โจเซพเอ่ย
"แม่ก็คิดเหมือนกับท่านพ่อบ้านโจเซพเขานะกาเล็ท ไม่ว่ายังไงแม่ก็จะไม่ยอมให้ลูกไปเสี่ยงอันตราย" นีน่าที่กำลังนั่งเย็บเสื้อผ้าฟังบทสนทนาของทั้งสองอยู่เอ่ยทัดทานความตั้งใจของกาเล็ท
"ขอท่านแม่และท่านลุงวางใจ ข้าจะไม่เสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น อีกอย่างข้าก็ไม่ใช่ว่าจะไปในเวลานี้ บอกต่อพวกท่าน ข้ามีความมั่นใจว่าจะสามารถบ่มเพาะระดับแก่นจิตวิญญาณให้ไปถึงระดับที่เก้าได้ภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี" กาเล็ทเอ่ยอย่างรู้สึกมั่นใจ
ได้ฟังสิ่งที่นายน้อยของตนเองพึ่งจะบอกออกมา โจเซพถึงดวงตาเปิดกว้างออกอย่างไม่อยากจะเชื่อ "จะเป็นไปได้จริงๆหรอขอรับนายน้อย? เรื่องอย่างนี้ข้าไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน"
"เป็นไปได้สิท่านลุง ขอบอกต่อท่านลุงตามตรงว่าในช่วงที่ข้าสลบไสลไม่ได้สติ ในช่วงเวลานั้นมันทำให้ข้ามีความเข้าใจต่อพลังจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นมาอย่างน่าประหลาด" กาเล็ทเลือกที่จะบอกความจริงซึ่งผสมปนเปกับเรื่องโกหกออกไป เพราะหากจะให้อธิบายว่าตนเองมีความสามารถพิเศษเหนือกว่าใครอีกทั้งยังได้มีโอกาสไปพบเจอข้อมูลเคล็ดวิชามากมายมา มันคงดูจะเป็นเรื่องยุ่งยากจนเกินไป ดังนั้นกาเล็ทจึงเลือกจะใช้วิธีนี้ในการอธิบายทุกอย่าง
"ขอท่านแม่กับท่านลุงวางใจ เมื่อถึงเวลาที่ข้ามั่นใจว่าตัวเองมีความแข็งแกร่งมากพอ ข้าจะทวงความยุคิธรรมให้กับท่านพ่อและทวงความยุติธรรมให้แก่ตระกูลบุสโซ่ของเรา เหล่าผู้คนที่มันเฝ้าดูถูกดูแคลนตะกูลของเรา ข้าจะให้พวกมันต้องชดใช้แน่" กาเล็ทเอ่ยกล่าวออกมาอย่างมุ่งมั่น
"กาเล็ทหากเป็นไปได้ก็อย่าได้ทำร้ายใครเลยนะลูก เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แม่แค่ต้องการจะรู้ถึงความจริงที่เกิดขึ้น ต้องการรู้ว่าเมื่อ 10 ปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พ่อของลูกถึงได้ไม่กลับมาหาพวกเรา" นีน่าเอ่ยขึ้นเมื่อสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงของลูกชายตนแฝงไปด้วยความรู้สึกอาฆาตพยาบาท
"ท่านลุง อีกอย่างที่ข้าอยากขอร้องให้ท่านช่วยเป็นธุระให้ก็คือเรื่องนี้" เอ่ยกล่าวจบกาเล็ทก็นำเม็ดยาเทพโอสถระดับต่ำออกมาให้กับโจเซพได้ชมดู "นี่คือยาเทพโอสถระดับต่ำ เป็นตัวยาที่ข้าปรุงขึ้นมาจากสมุนไพรที่หาซื้อมาได้จากภายในเมือง ยาเม็ดนี้ข้านั้นได้ทดลองปรุงขึ้นมาด้วยตนเอง ข้าอยากจะรบกวนให้ท่านลุงช่วยเป็นธุระเข้าเมืองไปสืบหาราคาที่แน่นอนของยาประเภทนี้ และถ้าหากเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะให้ท่านลุงช่วยหาวิธีนำมันไปปล่อยขายในตลาดมืดอย่างลับๆ ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ตระกูลบุสโซ่ของเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอีกต่อไป" กาเล็ทอธิบายเกี่ยวกับตัวยาให้โจเซพฟัง
โจเซพยื่นมือข้างหนึ่งออกไปไปรับตัวยาเม็ดนั้นมาจากมือของกาเล็ท "นายน้อย ยาวิเศษนี้ท่านบอกว่าเป็นท่านหลอมขึ้นมาเอง?" โจเซพเอ่ยถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เนื่องเพราะเพียงแค่ได้สัมผัสและมองดูด้วยตาเปล่า โจเซพก็สามารถที่จะจำแนกแยกแยะได้โดยทันทีว่าเม็ดยาซึ่งอยู่ภายในมือของตนเองนี้เป็นเม็ดยาที่มีมูลค่าราคาอย่างแน่นอน
"ถูกแล้ว เป็นข้าทดลองหลอมสร้างขึ้นมาเอง..บอกต่อท่านลุงตามตรงว่ากว่าที่ข้าจะทำได้สำเร็จก็ลำบากกินแรงอยู่ไม่น้อย" กาเล็ทเอ่ยตอบ
"ท่านมีตัวยาเช่นนี้อยู่มากน้อยเท่าไรหรือขอรับนายน้อย" โจเซพกลั้นใจเอ่ยถามออกมา
"ตอนนี้ก็ยังไม่มากนัก หากหักในส่วนของข้ากับส่วนของท่านลุง ก็เหลืออยู่ประมาณ 10 เม็ด ด้วยระดับพลังของข้าในขณะนี้ การหลอมตัวยาเทพโอสถยังถือว่ามีความยุ่งยากอยู่" กาเล็ทเอ่ยบอกข้อมูลแก่โจเซพ ถึงแม้ตัวของกาเล็ทเลือกที่จะใช้คำอธิบายซึ่งฟังดูกำกวมแต่แท้จริงแล้ว การหลอมสร้างตัวยานั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากเตาหลอมยาซึ่งถูกจัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษ
"10 เม็ดเลยหรือขอรับนายน้อย?" โจเซพเอ่ยถามออกมาอย่างรู้สึกตกใจ เพราะในลักษณะนี้เพียงเม็ดเดียวก็มีมูลค่าเท่ากับร่ายจ่ายทั้งเดือนของตระกูลบุสโซ่ในตอนนี้ได้แล้ว แต่นี่กลับมีถึง 10 เม็ด
"ท่านลุงไม่ต้องตกใจ เม็ดยาพวกนี้ผสมขึ้นจากส่วนผสมที่หาได้ทั่วไป ส่วนที่ยากที่สุดคือการใช้พลังจิตวิญญาณในการหลอมพวกมันเข้าด้วยกันต่างหาก ดังนั้นในเวลาอันใกล้ข้าย่อมสามารถที่จะหลอมสร้างเม็ดยาพวกนี้ขึ้นมาอีกได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งเมื่อระดับพลังของข้าเพิ่มพูนขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถหลอมยาในระดับที่สูงกว่านี้ขึ้นมาได้อีก" กาเล็ทเอ่ย
"ดีเลยขอรับ ถ้าอย่างนั้นข้าจะรีบเข้าเมืองไปเพื่อลองสืบหาข้อมูลก่อน" โจเซพรีบเอ่ยบอกอย่างรู้สึกยินดี ยินดีที่สวรรค์ไม่ทอดทิ้งตน ไม่ทอดทิ้งตระกูลบุสโซ่ ผู้ใดจะทราบว่าอยู่ๆเคราะห์กรรมของตระกูลบุสโซ่กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นพรวิเศษในลักษณะนี้
การที่กาเล็ทเลือกจะให้โจเซพเป็นคนจัดการแทนสาเหตุก็สืบเนื่องมาจากในตอนนี้นั้นการเล็ทต้องการที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยากจากเหล่าขุนนางภายในเมือง กาเล็ทยังคงจำได้ดีว่าเมื่อครั้งก่อนเหล่าเด็กพวกนั้นข่มขู่ตนไว้ว่าอย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่ว่ากาเล็ทเกรงกลัวเดนคนเหล่านั้น ทว่าหากมีหนทางที่จะสามารถหลีกเลี่ยงความยุ่งยากได้กาเล็ทย่อมเลือกที่จะหลีกเลี่ยง เพราะตอนนี้สิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุดคือเวลา เวลาในการพัฒนาตนเอง
นีน่าที่นั่งฟังทั้งสองพูดคุยกันอยู่อย่างเงียบๆ ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจว่ากาเล็ทในตอนนี้นั้นมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดไหน พลังระดับเก้าคืออะไร? แต่เพียงดูจากสีหน้าซึ่งเปี่ยมไปด้วยความสุขของโจเซพซึ่งแสดงออกมาให้ได้เห็น นี่น่าก็พอจะคาดเดาถึงความอัศจรรย์ของกาเล็ทได้เป็นอย่างดี และด้วยเพราะสาเหตุนี้เองจึงทำให้นีน่ายิ้มออกมาอย่างรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของผู้เป็นลูกชาย
ปล.รีไรท 2020
ปล.รีไรท 2020
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น