ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #160 : ราชสีห์หางงู

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.28K
      411
      26 ม.ค. 61

         


                   เรือเหาะค่อยๆเลื่อนลงจอดยังบริเวณพื้นที่ซึ่งกาเล็ทและมิร่าใช้พลังของตนเองกวาดต้อนตัดทำลายต้นไม้ออกจนเหี้ยนเตียน ต้นไม้ใหญ่ทั้งหลายรอบบริเวณรัศมี 100 ตารางเมตรถูกตัดออกแบบถอนรากถอนโคนพร้อมทั้งถูกพลังสภาวะกวาดต้อนออกไปจากพื้นที่ พื้นดินรอบบริเวณถูกพลังธาตุดินของกาเล็ทปรับแต่งให้เรียบรื่นแข็งแกร่งมั่นคงเหมาะสมต่อการลงจอดของเรือะเหาะ

    "เจฟ มาร์จิน เรน่า โรส จัดตั้งที่พักขึ้นพร้อมทั้งเฝ้าระวังไว้อย่าได้ประมาท" กาเล็ทเอ่ยสั่งการลูกน้องทั้งสี่ของตนเองจากนั้นจึงหันไปเอ่ยกล่าวกับเทลเล่อ "ท่านอาจารย์เรื่องทางฝั่งนี้ขอท่านอาจารย์ช่วยดูแลเฝ้าระวังอีกแรงหนึ่ง ในเวลานี้ฟ้ายังมืดค่ำอยู่จึงนับว่ายังไม่เหมาะที่จะออกสำรวจ ข้าจะนำมิร่าออกไปตรวจตราดูบริเวณโดยรอบพร้อมทั้งขับไล่สัตว์อสูรที่น่าจะเป็นอันตรายต่อเหล่าทหาร" กาเล็ทเอ่ย

    "เจ้าไปอย่างวางใจเถอะ" เทลเล่อเอ่ยตอบ

    เห็นเช่นนั้นกาเล็ทก็นำมิร่าออกเดินทางสำรวจพื้นที่รอบบริเวณ ขณะที่ร่างของหนึ่งคนหนึ่งมังกรเคลื่อนตัวผ่านม่านความมืดและต้นไม้สูงใหญ่ภายในหุบเขาอสูรฟ้าเสียงของมิร่าก็ดังขึ้นในห้วงสมองของกาเล็ท "ปะป๋า ฆ่าได้ไหม"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกประหลาดใจยิ่งไม่ทราบว่าตัวนางหมายถึงเรื่องอันใด?

    "ปะป๋า มีสัตว์อสูรบังอาจเข้ามาครอบครองถ้ำของมิร่า ถ้ำของปะป๋า มิร่าจะไม่ให้อภัย" มิร่าเอ่ยกล่าวไขข้อสงสัยในจิตใจให้แก่กาเล็ท

    กาเล็ทได้ฟังก็หวนนึกคิดกลับไปถึงระบบของสัตว์ที่ตนเองได้ศึกษาเรียนรู้มาจากโลกก่อน ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขตแดนที่อยู่ของมิร่าเดิมจะถูกแย่งชิงไปจากสัตว์อสูรตัวอื่นที่มีความแข็งแกร่ง สาเหตุก็เพราะว่าตัวนางนั้นได้ออกจากอาณาเขตไปเป็นระยะเวลานาน "ถ้าถูกแย่งชิงพวกเราก็ช่วยกันเอามันกลับคืนมาดีหรือไม่ จะฆ่าหรือไม่ฆ่าก็ล้วนแล้วแต่มิร่าก็แล้วกัน" กาเล็ทเอ่ย

    "กรู๊" มิร่าส่งเสียงออกมาเมื่อได้รับคำอนุญาติจากผู้เป็นบิดาจากนั้นนางพลันปลดปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงออกมา ทันทีที่มิร่าปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งระดับจักรพรรดิ์ออกมา สัตว์อสูรรอบทั้งบริเวณอาณาเขตหลายตารางกิโลเมตรต่างส่งเสียงร้องแสดงออกถึงความรู้สึกหวาดกลัวดังระงม

    "อสูรตัวที่บังอาจแย่งชิงดินแดนที่มิร่าจะมอบให้แก่ปะป๋ากาเล็ทต้องโดนลงโทษ" เสียงของมิร่าส่งออกมา บรรยากาศรอบตัวของมิร่าคล้ายย้อนกลับไปครั้งเมื่อกาเล็ทแรกพบกับตัวนางเป็นครั้งแรก

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็คว้าร่างของมิร่าเข้ามาโอบกอดไว้ "ดุร้าย ไม่น่ารัก" กาเล็ทเอ่ยด้วยเสียงเย้าแหย่ มิร่าได้ฟังเช่นนั้นก็กลับกลายจากท่าทีซึ่งดูขู่ขวัญผู้คนเป็นออดอ้อนน่ารักตามเดิมอย่างรวดเร็ว

    "ทั่วทั้งบริเวณนี้มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งบ้างหรือไม่มิร่าน้อย" กาเล็ทเอ่ยถามร่างเล็กขึ้น แม้ว่าตนเองจะสามารถแผ่ขยายข่ายจิตวิญญาณออกไปเพื่อตรวจสอบเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ข่ายจิตวิญญาณของมิร่านั้นนับว่ามีความแม่นยำกว่าของกาเล็ทเองหลายเท่าดังนั้นเพื่อความแน่ใจกาเล็ทจึงเอ่ยถามกับมิร่า

    มิร่าได้ฟังก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองยังกาเล็ทพร้อมทั้งส่งเสียงผ่านพันธะสัญญามา"สัตวฺ์อสูรโดยรอบนั้นมีระดับเพียงแค่ระดับที่ 7 ระดับที่ 8 ปะป๋า ส่วนตัวที่บังอาจยึดถ้ำของมิร่าและเข้าครอบครองอาณาเขตโดยรอบของมิร่ามีระดับอยู่ที่ราชาขั้นกลาง" มิร่าเอ่ยกล่าว

    ได้ฟังคำยืนยันของมิร่าซึ่งตรงกับที่ตนเองตรวจจับได้กาเล็ทก็รู้สึกเบาใจลง หากว่าสัตว์อสูรโดยรอบนั้นมีระดับอย่างมากอยู่เพียงแค่ระดับที่ 7 หรือระดับที่ 8 แม้ว่าพวกมันจะเตลิดเปิดหนีออกไปทางด้านที่เรือเหาะของพวกตนตั้งอยู่เนื่องเพราะการขู่ขวัญของมิร่าเมื่อครู่ก็คงนับว่าไม่ตึงมือเทลเล่อและเหล่าลูกน้องของตนเองเท่าใด จะมีก็แต่เพียงสัตว์อสูรระดับราชาขั้นกลางเพียงตัวเดียวที่กาเล็ทรู้สึกเป็นห่วงอยู่บ้างทว่าสัตว์อสูรตนนั้นก็ไม่ได้เคลื่อนตัวออกจากจุดซึ่งเคยเป็นถ้ำพักอาศัยของมิร่าเลย สัตว์อสูรระดับราชาขั้นกลางไม่ทราบว่าเป็นตัวตนเช่นไร? แม้แต่ในสารานุกรมสัตว์อสูรของโรฮานก็มีจดรายละเอียกของสัตว์อสูรไว้แต่เพียงถึงระดับที่ 9 เท่านั้น

    เคลื่อนตัวผ่านม่านความมืดมิดภายในหุบเขาอสูรฟ้าอีกไม่นานสุดท้ายแล้วหนึ่งคนหนึ่งมังกรก็เดินทางมาถึงยังบริเวณปากถ้ำ กาเล็ทเองก็หวนนึกถึงจุดที่พบร่างกาลานผู้เป็นบิดา "โฮกกกกกกกกกก" เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของสัตว์ร้ายดังกึกก้องออกมาจากภายในถ้ำ พื้นดินถึงกับสั่นไหวไปกับเสียงคำรามกึกก้องนี้

    ไม่รอให้กาเล็ทแสดงความแปลกประหลาดใจออกมา เจ้าของเสียงคำรามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจนั้นก็ก้าวขาใหญ่ยักษ์ข้างหนึ่งของมันออกมาผ่านม่านความมืดมินของปากถ้ำ

    ภาพที่กาเล็ทเห็นคือสิงโตตัวใหญ่ยักษ์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสิ่งโตปกติทั่วไปหลายเท่า ดวงตาของมันนั้นแดงฉานดูไปบ้าคลั่งดุร้ายทว่ากลับทอแววของความฉลาดเฉลียวเหนือล้ำกว่าสัตว์อสูรทั่วไปอยู่มาก ในส่วนหางของมันนั้นกลับเป็นงู ส่วนกลางของลำตัวมีปีกขนาดใหญ่อยู่คู่หนึ่ง

    "ราชสีห์หางงู?" กาเล็ทคาดคิดกับตนเอง ดูไปแล้วสัตว์อสูรตรงหน้าของตนเองนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับราชสีห์หางงูซึ่งเป็นสัตวฺ์อสูรในสารานุกรมสัตว์อสูรอยู่ไม่น้อย ทว่าราชสีห์หางงูนั้นเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับที่ 8-9 เท่านั้นแต่สัตว์อสูรที่เบื้องหน้าของตนเองนี้เป็นสัตว์อสูรที่มีระดับขั้นถึงระดับราชาขั้นกลางซึ่งพลังสูงกว่าราชสีห์หางงูอยู่มาก

    อันที่จริงแล้วสัตว์อสูรที่เบื้องหน้าของกาเล็ทตนนี้แท้จริงแล้วก็คือราชสีห์หางงู ทว่าเมื่อสัตว์อสูรตนหนึ่งมีช่วงชีวิตอันยาวนานและผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากกับสัตว์อสูรตนอื่นมาอย่างโชกโชน เมื่อมันได้รับชัยชนะเหนือสัตว์อสรูตนอื่นแล้วมันย่อมได้กลืนกินแก่นจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้ที่มันสยบลงได้ ผลจากการกลืนกินแก่นจิตวิญญาณของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนส่งให้ราชสีห์หางงูตนนี้วิวัฒนาการขึ้นมาจนมีรูปลักษณ์และระดับพลังดังเช่นปัจจุบันนี้

    ราชสีห์หางงูที่มีระดับพลังเหนือล้ำกว่าปกติอยู่มากโขใช้ดวงตาแดงก่ำของมันจ้องมองมายังมิร่าในร่างของมันกรตัวน้อยซึ่งบินกระพือปีกอยู่เบื้องหน้าของกาเล็ท เมื่อมันสังเกตุเห็นมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังของมังกรน้อยสีหน้าและสายตาของมันก็แสดงออกถึงความดูถูกเย้ยหยันออกมา

    มิร่าเห็นเช่นนั้นก็แทบอยากที่จะพุ่งทะยานเข้าไปใช้อุ้งเท้าของตนเองตบสั่งสอนเจ้าสัตว์ร้ายที่ไม่รู้ความตัวนี้ยิ่ง "ปะป๋าให้มิร่าจัดการมันเลยนะ" มิร่าส่งเสียงตามพันธะสัญญามาเพื่อขอคำยืนยัน

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ตัดสินใจได้ อาณาเขตในแถบนี้นั้นนับได้ว่าเป็นอาณาเขตเดิมของตัวนาง สัตว์อสูรก็ย่อมมีวิธีการของสัตว์อสูร เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวของมิร่าโดยตรง ตนเองก็ไม่สมควรที่จะเข้าไปห้ามปรามตัวนางให้วุ่นวาย "เอาตามที่หนูเห็นสมควรเถอะ" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวออกมา

    ราชสีห์หางงูเมื่อได้เห็นว่ามนุษย์ตัวเล็กจ้อยที่เบื้องหน้าบังอาจเอ่ยปากกล่าววาจาต่อหน้าของมัน มันก็ส่งเสียงคำรามที่ดังกึกก้องออกมาอีกครั้งเพื่อข่มขวัญผู้คน น่าเสียดายสำหรับกับมันที่แม้จะมีภูมิปัญญาอยู่บ้างจากระดับพลังที่เพิ่มพูนขึ้นแต่มันหารู้ไม่ว่าบุคคลที่เบื้องหน้าซึ่งมันกำลังต้องการจะขู่ขวัญให้หวาดกลัวกับมังกรตัวน้อยที่ดูไปไร้พิษภัยอ่อนแอที่เบื้องหน้านั้นคือตัวตนที่อยู่เหนือกว่ามันไม่รู้กี่ขั้นต่อกี่ขั้น หากให้เทียบเปรียบตัวมันกับมิร่าแล้วต่อให้ราชสีห์หางงูจะวิวัฒนาการขึ้นไปอีก หนึ่งขั้น สองขั้น หรือแม้แต่สามขั้น ตัวมันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมิร่านับประสาอะไรกับตัวมันในตอนนี้

    ทันทีที่มันพยายามจะส่งเสียงคำรามที่ดังกึกก้องออกมาอีกครั้งร่างเล็กของมิร่าก็หายไปจากสายตาของมัน จากนั้นร่างเล็กสีดำก็มาปรากฎขึ้นอยู่ที่ข้างใบหน้าใหญ่ยักษ์ของมัน

    ปึก เสียงดังกึกก้องของการปะทะดังขึ้น อุ้งเท้าเล็กจ้อยข้างหนึ่งของมิร่าตวัดตบเข้าใส่ใบหน้าใหญ่ยักษ์ของราชสีห์ขนทองส่งผลให้คอของมันโดนอุ้งเท้าของมิร่านี้ตบใส่จนหน้าสบัดไปจากนั้นร่างทั้งร่างก็เอนเอียงเสียสมดุลจนล้มตึงลง อุ้งเท้าของมิร่าในครั้งนี้หาได้ตบใส่อย่างเต็มกำลัง มิร่านั้นเก็บออมพลังไว้อยู่หลายส่วน สำหรับกับสัตว์อสูรที่ไม่รู้ความตนนี้ที่บังอาจใช้สายตาเช่นนั้นมองดูผู้เป็นบิดาหากว่าให้มันตกตายรวดเร็วจนเกินไปจะถือได้ว่าการตายนั้นสะดวกสะบายสำหรับมัน นางต้องการให้ราชสีห์หางงูรู้ว่าตัวมันหาได้ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งดังที่ตัวมันคิด

    ถูกตบจนล้มกลิ้งลงไปครั้งคราหนึ่งแล้วแต่ว่าจะอย่างไรราชสีห์หางงูก็เป็นสัตว์อสูรระดับราชาที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนตัวมันย่อมไม่ยอมสยบให้กับผู้ใดโดยง่าย โดยเฉพาะกับสัตว์อสูรที่มันมองและประเมินค่าว่าด้อยกว่ามันเช่นมิร่า น่าสมเพชสำหรับกับราชสีห์หางงูตัวนี้ที่มีภูมิปัญญาแต่หาได้ล่วงรู้เลยว่าหนทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของมันในตอนนี้คือการยอมหมอบกราบแสดงท่าทีอ่อนน้อยต่อเด็กหนุ่มที่เบื้องหน้าซึ่งมันแสดงอาการดูถูกเหยียดหยามใส่เมื่อครู่

    ราชสีห์หางงูพลันกระโดดพลิกตัวขึ้นมาจากสภาวะล้มหงายจากนั้นจึงใช้อุ้งเท้าใหญ่ยักษ์ของมันข้างหนึ่งตะปบเข้าใส่ร่างของมิร่าที่ลอยอยู่ไม่ไกลหมายว่าจะตะปบให้ร่างเล็กที่เบื้องหน้าล้มหงายกระแทกเข้ากับพื้นดินจนบาดเจ็บเช่นเดียวกับตัวมันเมื่อครู่ ทว่าอุ้งเท้าใหญ่ยักษ์ของมันกลับถูกม่านพลังแข็งแกร่งของมิร่าที่สร้างขึ้นหยุดยั้งไว้ จากนั้นขาใหญ่ยักษ์ที่ตัวมันใช้ตะบบใส่มังกรน้อยก็พลิกหักไปอย่างผิดรูปผิดร่าง

    "โฮกกกกก" ราชสีห์หางงูส่งเสียงคำรามก้องออกมาอีกครั้งทว่าในครั้งนี้เสียงคำรามของมันกลับฟังดูโหยหวนน่าเวทนา

    หางงูที่เบื้องหลังของราชสีห์หางงูพลันโฉบฉกเข้าใส่ร่างเล็กของมิร่าหมายที่จะใช้พิษร้ายซึ่งถือได้ว่าเป็นอาวุธลับของมันฉีดเข้าใส่เพื่อทำร้ายมังกรน้อยที่เบื้องหน้า

    ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ สายลมที่ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นใบมีดอากาศตัดหางอสรพิษของราชสีห์หางงูออกจนหมดสิ้นส่งให้เลือดสีแดงฉานฉีดพ่นขึ้นไปบนท้องฟ้าจากบาดแผลที่ขาดออก

    "หงืดดดดด" ราชสีห์หางงูที่บัดนี้อยู่ในสภาวะซึ่งไม่สามารถต่อกรกับมังกรน้อยได้เลยส่งเสียงร้องประหลาดออกมา เสียงร้องนี้ของมันแสดงออกเสมือนว่าจะร้องของความเมตตาต่อร่างเล็กที่เบื้องหน้า

    ทว่ามีหรือที่มิร่าจะให้อภัยแก่มันโดยง่าย ในความคิดของมิร่าราชสีห์หางงูตัวนี้มีแต่ต้องตกตายเท่านั้นทั้งยังต้องตกตายอย่างทรมาณถึงจะสาสมกับท่าทีของมันที่แสดงออกมาเมื่อครู่ต่อกาเล็ท

    ดวงตาสีแดงฉานของราชสีห์หางงูซึ่งเคยทอแววดุร้ายหมายชีวิตของผู้คนออกมาบัดนี้กลับแปรเปลี่ยนไป แววตาของมันไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกคุกคามผู้คนอีก

    มิร่าสบัดขาหน้าของตนเองขึ้นอีกคราหนึ่งก็เกิดพลังสภาวะประหลาดดีดร่างของราชสีห์หางงูที่บาดเจ็บอยู่ให้ลอยละล่องขึ้นไปในอากาศประหนึ่งว่าร่างใหญ่โตนี้ของมันไร้น้ำหนัก

    ฉับ ฉับ ฉับ เพียงพริบตาเดียวคมมีดที่เกิดจากสายลมก็ก่อตัวขึ้นตัดผ่านขนาหนาและหนังเหนียวของราชสีห์หางงูซึ่งปกติยากจะตัดผ่านได้ แต่คมมีสายลมที่มิร่าสร้างขึ้นนั้นกลับตัดผ่านร่างของราชสีห์หางงูที่น่าสงสารนั้นออกอย่างง่ายดาบแยกร่างของมันออกเป็นสี่ส่วนจบชีวิตของสัตว์อสูรที่บังอาจยึดเขตแดนของตัวนางและท้าทายต่อผู้เป็นบิดาลงอย่างง่ายดายไป

    เมื่อสังหารราชสีห์หางงูเสร็จแล้วตัวของมิร่าก็หันกลับมาหากาเล็ทที่ยืนรอดูเหตุการณ์อยู่ "กรู๊รร" มิร่าส่งเสียงร้องลากยาวออกมา ท่าทีดุร้ายหมายขวัญที่แสดงออกมาต่อราชสีห์หางงูของนางหายไปจนหมดสิ้นหลงเหลืออยู่แต่เพียงความน่ารักและท่าทีออดอ้อนซึ่งตัวนางมักจะแสดงออกต่อกาเล็ท


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×