ตอนที่ 121 : ซ้อมมือ...
ณ ลานน้ำพุของแก๊งมังกรคำรามในยามเช้าของวันนี้ ได้มีชายหนุ่มดวงตาสีทองที่สวมชุดวอมแขนขายาวสีขาวกำลังต่อสู้กับชายชราที่สวมกางเกงผ้าสีดำเผยร่างกายท่อนบนที่เป็นมัดกล้ามโชว์บาดแผลเกียรติยศกับรอยสักแห่งวงการอยุ่ตรงกลางของลาน ซึ่งทั้งคู่กำลังซ้อมมือกันท่ามกลางการเฝ้ามองของเหล่าลูกน้องสมาชิกในแก๊งที่ล้อมรอบชมกันอย่างตั้งหน้าตั้งตาดู พร้อมกับมีสีหน้าที่คอยลุ้นและหวาดเสียวจากเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านทางฝั่งของคฤหาสน์มาอีกด้วย
ปึก! …ชาโต้ยกแขนซ้ายขึ้นมาปัดป้องเท้าที่เตะมาจากจินก่อนที่จะออกหมัดสวนไปในคราวเดียว แต่จินก็หมุนตัวหลบกลางอากาศและฟาดเท้าลงมาอีกที แต่ชาโต้ก็เขยิบตัวหลบฉากออกไปได้ราวกับรู้ทัน ก่อนที่จะเป็นฝ่ายรุกเข้าไปโจมตีบ้าง
ท่วงท่าของทั้งคู่ต่างถูกใช้ออกมาแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ซึ่งทางด้านจินนั้นจะออกลวดลายดุเดือดมุ่งทะลุอย่างรุนแรงราวกับสิงโตที่หมายขย้ำเหยื่อให้ตายคามือในจังหวะเดียวก็ไม่ปาน ส่วนทางด้านชาโต้นั้นใช้ความสงบนิ่ง สยบการเคลื่อนไหว เขาท่วงสมดุลไปยังทุกส่วนของร่างกาย ขับออกมาใช้งานอย่างไม่สูญเสียการเคลื่อนไหว โดยใช้หลักอ่อนสยบแข็ง ใช้แรงของศัตรูโจมตีศัตรูเอง
ปึก! …จินออกหมัดซัดเข้าไปโดยตรงอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงเสียดสีกับอากาศให้ได้ยิน
หมับ! ปึก! …ชาโต้ใช้มือปัดหมัดของจินออกด้านข้าง ก่อนจะจับเข้าที่แขนข้างนั้นและใช้มือของตัวเองเลื้อยไปตามแขนของจินราวกับงูอย่างรวดเร็ว พอถึงตำแหน่งหนึ่งก็ปล่อยฝ่ามือออกไป แต่ก็ถูกจินใช้มืออีกข้างกันและดีดตัวออกมาได้ทัน
“ฟู่ว…” ชาโต้ย่อตัวลงเล็กน้อยยกสองแขนขนานกับพื้นในระดับอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา พร้อมกับเม็ดเหงื่อออกท่วมร่างกายราวกับเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆ
จินที่ดีดตัวกลับมาตั้งหลักก็ยกหมัดทั้งสองข้างขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาและฟุตเวิร์คอยู่กับที่สลับไปมาไม่หยุดนิ่ง พร้อมกับส่งยิ้มไปให้ชายชราอีกด้วย โดยเขาทำการผนึกพลังวิญญาณและพลังเวทย์ไว้ และใช้พลังกายล้วนๆ เข้าซ้อมมือกับชายชราปู่ของเขา
พรึ่บ! …จินพุ่งตัวออกไปด้วยกำลังกายล้วนแต่ก็รวดเร็วอย่างยิ่ง
ผัวะ! ผัวะ! …จินใช้กระบวนท่าโจมตีด้วยเท้าออกมารัวๆ ทั้งตวัดเตะ หมุนตัวเตะซ้อน พลิกตัวกลับหลังเตะ ต่างถูกงักออกมาโจมตีใส่ชายชราตรงหน้าอย่างไม่กลัวเขาจะบาดเจ็บ เท้าหนึ่งถึงพื้นเท้าอีกข้างก็สับฟาดออกไปไม่หยุดหย่อนสลับไปเรื่อยๆ ราวกับเครื่องจักรกลก็ไม่ปาน
ปึก! ปึก! …น่าแปลกที่ชาโต้กลับปัดป้องและฉีกจุดเลี่ยงการปะทะที่อันตรายออกกันไว้ได้หมด แถมท่วงท่ายังแฝงไปด้วยท่าโจมตีสวนกลับคืนสู่จิน
ถึงแม้ว่าชาโต้จะหยิบยืมพละกำลังของจินมาใช้แต่มันกลับทำให้ตัวของเขาเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ดูจากจังหวะการหายใจที่เริ่มผิดจังหวะพร้อมกับอาการเหนื่อยสั่นเกิดขึ้นเรื่อยๆ
“พอก่อนดีไหมครับท่านปู่” ถึงจะพูดแบบนั้นจินก็ยังหวดเท้าออกไปอย่างต่อเนื่อง
“ต่อเลยไม่ต้องห่วงปู่” ชาโต้ที่ป้องกันไว้อยู่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ทุกคนต่างมองสองปู่หลานซ้อมมือกันอย่างออกอรรถรสสมจริงสมจังนั้นก็อดยิ้มกันไม่ได้
“งั้นผมไม่เกรงใจแล้วแล้วนะ” จินดับท่าทางและเตะหมุนเร็วขึ้น
“ให้มันได้อย่างนี้สิ” ชาโต้ที่ใช้สมดุลร่างกายเข้าปะทะกล่าวออกมา พร้อมกันนั้นเขาก็มองเห็นจังหวะหนึ่งเข้าจากการโจมตีของจิน
หมับ! …ชาโต้เอามือป้องขาขวาของจินที่หมุนเตะมาและม้วนแขนจับล็อคเอาไว้
“ซัดคลื่นเข้าฝั่ง” ชาโต้เอียงตัวไปด้านหน้าใช้หมัดทั้งสองข้างกระแทกเข้าที่กลางหน้าอกของจินส่งร่างเขาเซถอยหลังออกไปจากการเสียหลัก
หมับ! …แต่ยังไม่ทันที่จินจะถอยออกไป มือของชาโต้ก็จับเข้าที่แขนทั้งสองข้างของจิน
“โบยบินพริ้วไหว” ชาโต้กะเทาะแขนทั้งสองข้างของจินขึ้นด้วยหมัดของเขาและซ้อนตัวลอดผ่านเข้าไปวงในพร้อมกับออกหมัดด้วยท่าระบำคล้ายผีเสื้อสยายปีก
“คืนถิ่นสู่รัง” หมัดของชาโต้เริ่มปล่อยออกมาอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น และโจมตีเข้าที่จุดข้อต่อตามร่างกายของจินที่เป็นจุดสำคัญทั้งนั้น
‘ มันท่าอะไรกันเนี้ย ’ จินพึมพำภายในใจ เพราะการโจมตีของชาโต้ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นตรึงไว้อย่างไรอย่างนั้น ก่อนที่จะเบิกตากว้างกับการโจมตีครั้งต่อไปของชาโต้
“พิฆาตมังกร” จินมองเห็นภาพกรงเล็บมังกรซ้อนทับลงไปกับการโจมตีของชาโต้ที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาแถมยังได้ยินเสียงคำรามแว่วเข้ามาอีกด้วย
ปึก! ตุ้บ!
“แค่ก แค่ก ยังกันไว้ได้อีกเหรอเนี้ย…” ชาโต้ที่ตั้งท่าไว้อยู่ก็หอบออกมาอย่างเหนื่อยล้าและมองจินที่สามารถกันการโจมตีเมื่อครู่ไว้ได้
ในจังหวะเดียวกันนั้นจินเกร็งทั้งตัวและใช้พลังทั้งหมดของร่างกายดึงกลับมา ห่อศอกยกเข่าขึ้นกันกรงเล็บนั้นไว้ได้อย่างหวุดหวิด
“กระบวนท่าอะไรกันท่านปู่ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” จินหมุนตัวลงมายืนกับพื้นพูดขึ้น
“อะ เอาไว้ปู่ค่อยสอน วันนี้พอแค่นี้ก่อน… ไม่ไหวแล้ว” ชาโต้โบกมือให้จินยุติการซ้อมและหาจังหวะหายใจไปด้วย
แปะ! แปะ! …ทุกคนต่างปรบมือเป็นเสียงเดียวกันพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ทั้งคู่ ต่อมาก็เห็นสัญลักษณ์มือบางอย่างจากกิลพวกเขาก็แยกย้ายพากันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองกันทันทีด้วยความรวดเร็ว
“นี่ครับ นายท่าน” กิลเดินเข้าไปหาชาโต้พร้อมกับยื่นผ้าเช็ดตัวกับขวดน้ำที่เปิดฝาแล้วให้
“ขอบใจมากกิล” ชาโต้รับมากระดกขึ้นดื่มอย่างกระหายจนเกิดเสียงดังก่อนที่จะมองไปยังหลานชายของเขา
“สงสัยข้าคงแก่แล้วจริงๆ ดูสิ! ซ้อมกันมาตั้งนานไม่เห็นเจ้าหลานคนนี้มีเหงื่อออกมาสักเม็ด” ชาโต้ส่ายหน้าและพูดไปทางจินที่กำลังรับน้ำจากมากิมาดื่มอย่างสบายใจพลางเดินเข้ามาหาเขาด้วย
“แก่อะไรกันท่านปู่ เรี่ยวแรงอย่างกับหนุ่มวัยยี่สิบเตะปี๊บกะเด็นขนาดนี้”
“ดูพูดเข้าสิ! เดี๋ยวนี้ยกยอเก่งขึ้นนะเรา ฮ่าๆๆ” ชาโต้หัวเราะอารมณ์ดี แม้เขาจะย่างเข้าสู่วัยชราแล้วแต่มัดกล้ามกลับยังเห็นเด่นอยู่ นั่นแสดงว่าเขามักออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วงหลังมานี้เขาก็คอยออกกำลังกายกลับหลานชายในลักษณะนี้ทุกเช้าอีกด้วย
“งั้นปู่ขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนแล้วกัน” ชาโต้เอาผ้าซับเหงื่อก่อนเดินมาตบไหล่จินเบาๆ
“จะไปไหนแต่เช้างั้นเหรอครับ ท่านปู่” จินหันกลับไปมองปู่ของเขาที่เดินผ่านและถามออกไป
“พอดีมีนัดกับเจ้าซาคุมันน่ะ อ้อ! เจ้าอุเสะกับหนูโซเฟียโทรมาเมื่อเช้าด้วย เห็นบอกว่าจะเข้ามาหาเราช่วงสายๆ ยังไงถ้าติดธุระอะไรก็โทรบอกพวกนั้นด้วยแล้วกัน” ชาโต้ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออกก่อนที่จะพูดออกมา
“ครับท่านปู่ อย่าลืมทานมื้อเช้าก่อนออกไปนะครับ!” จินเห็นชาโต้เดินไปไกลก็ตะโกนเสียงดังด้วยความห่วงใย และได้รับการโบกมือโดยไม่หันหลังมามองตอบกลับมาแทน
“ช่วงนี้สถานการณ์ของแก๊งเราเป็นไงมั้ง กิล” จินหันไปถามชายด้านข้างที่แต่งกายด้วยชุดแปลกตาชวนขัดใจ
“เมื่อไม่นานมานี้ มีการขัดผลประโยนช์ทางธุรกิจเล็กน้อยกับแก๊งจิ้งจอกโลหิตครับ ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นที่ใหญ่ที่สุดแล้วในช่วงนี้” กิลตอบกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับหุ่นยนต์
“ใครเป็นคนจัดการเรื่องนี้” จินมองรูปปั้นตรงหน้าที่เป็นมังกรสัญลักษณ์ของแก๊งที่กลางลานน้ำพุแห่งนี้
“คุณมาร์คกับคุณริโตะจะลงพื้นที่ไปจัดการเองกับมือครับ”
“ร้ายแรงแค่ไหน” จินยื่นขวดน้ำคืนให้มากินด้านข้างที่ยืนฟังเงียบๆ
“จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาและการประมวลผลของผมแล้ว คิดว่าอยู่ในระดับ ปานกลางครับ” กิลยกนิ้วขึ้นแตะที่แว่นตาพลางพูดออกมาราวกับว่าข้อมูลพวกนี้ได้ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี
“งั้นก็ดี ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมารีบบอกทันทีนะ”
“และอีกอย่างหนึ่งนะครับ ท่านหัวหน้า” กิลหันมามองหน้าจินอย่างจริงจัง ทำเอาจินเลิกคิ้วมองกิลด้วยความแปลกใจปนสงสัย
“มีอะไร? ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”
“เปิดโทรศัพท์ด้วยนะครับ” กิลยกนิ้วแตะที่แว่นทรงสี่เหลี่ยมนั้นอีกครั้ง
“เข้าใจแล้วๆ” จินพยักหน้ารับทราบทันที
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ท่านหัวหน้า ผมต้องรีบไปตรวจสอบอาหารก่อนขึ้นโต๊ะ” กิลโค้งตัวให้จิน
“เชิญเลยครับ” จินผายมือไปด้านข้างอย่างสุภาพด้วยความหมั่นไส้กิลชายหนุ่มหัวโล้งสะท้อนแสงคนนี้
“นายท่านค่ะ!” หลังจากที่กิลเดินจากไปสักพัก มากิก็เอ่ยขึ้นเสียงใส
“มีอะไรงั้นเหรอ” จินหันไปมองอีกด้านที่มากิยืนอยู่
“ฉันอยากลองสู้กับนายท่านเหมือนเมื่อกี้ค่ะ!” ดวงตาของมากิเป็นประกายราวกับเด็กน้อยขอของเล่น
“ได้สิ!”
ผัวะ! …มากิปล่อยมันตรงเข้าใบหน้าจินเปรี้ยงหนึ่งทันทีโดยไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว
“เดี๋ยวมากิ ให้ตั้งตัวบ้างสิ” จินที่หมุนตัวกลางอากาศกลับมายืนพูดพลางจับจมูกตัวเอง เช็คดูว่าเลือดกำเดาไหลไหม แต่โชคดีที่ไม่
“ไปแล้วนะคะ!” มากิกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมกับพุ่งเข้าใส่จินอย่างรุนแรง
ทั้งคู่ใช้เวลาในการซ้อมมือที่ดุเดือดกันอย่างนั้นนับชั่วโมงได้ อาจจะเรียกว่าการต่อสู้เลยก็ว่าได้ เพราะสมรรถภาพทางร่างกายของมากิที่ได้รับจากพลังของแวมไพร์มานั้น ทำให้เธอในตอนนี้ได้มีร่างกายที่แข็งแรงสุดแกร่งเกินขอบเขตมนุษย์ไปแล้ว ทุกการโจมตีและการป้องกันของทั้งสองต่างส่งเสียงดัง จนทำให้เหล่าสมาชิกในแก๊งต่างรีบออกมาดูกัน ก่อนที่จะตกใจกับภาพที่เห็นอย่างไม่อยากเชื่อสายตากันทุกคน
เวลาได้ล่วงเข้าสู่ช่วงสายของวัน จินได้นั่งรอแขกที่ห้องรับแขกพลางอ่านเอกสารเกี่ยวกับความคืบหน้าของการสืบสวนไปด้วย ซึ่งเขาได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยกลับมาอยู่ในโหมดหนุ่มเนิร์ดสุดหล่ออีกครั้ง
“นายน้อยคะ คุณอุเสะกับคุณโซเฟียมาถึงแล้วค่ะ” สาวรับใช้เดินเข้ามาเงียบๆ ก่อนที่จะพูดกับจินด้วยความสุภาพทั้งคำพูดกับท่าทาง
“งั้นเหรอ เชิญพวกเขามาที่ห้องนี้เลย” จินหันไปยิ้มให้เธอ ก่อนที่เธอจะหน้าแดงและพยักหน้าเดินออกไป
ไม่นานหลังจากนั้นแขกทั้งสองที่จินนั่งรอตามการบอกกล่าวของชาโต้ก็มาถึง โดยทั้งคู่อยู่ในชุดนอกเครื่องแบบที่เน้นการคล่องตัวกันทั้งสองคน
“สวัสดีครับคุณจิน ขอโทษที่ต้องมารบกวนนะครับ” อุเสะกล่าวด้วยรอยยิ้มทันทีเมื่อเดินเข้ามาภายในห้อง
“ไม่เป็นไรครับ เชิญนั่งกันก่อน” จินลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามา ก่อนเชื้อเชิญให้ทั้งคู่นั่งกันตามอัธยาศัย แล้วเหล่าสาวใช้ก็ยกเครื่องดื่มกับอาหารว่างมาให้ทั้งคู่อย่างรู้งาน
“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ทั้งคู่ต่างขอบคุณทั้งจินทั้งเหล่าสาวใช้กันทันที
“ทั้งคู่มาพร้อมกันแบบนี้ คงมาถามผมเกี่ยวกับพวกอิจิโร่ใช่ไหม” จินเก็บเอกสารให้เข้าที่ก่อนพูดกับทั้งสอง
“รู้อยู่ก่อนแล้วงั้นเหรอครับ งั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คุณจินช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ให้พวกเราหน่อยได้ไหมครับ” อุเสะพูดพร้อมกับยื่นเอกสารบันทึกประวัติแผ่นหนึ่งให้จิน โดยมีโซเฟียทำหน้าเคร่งเครียดมองมาทางเขา แต่จินยิ้มกลับให้เธอเสียอย่างนั้น เขาเอากระดาษที่อุเสะยื่นให้มาถือก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ และมองทั้งคู่
“ผมคงเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยแล้วสินะครับ แต่ก็เอาเถอะ…” จินวางกระดาษนั้นลง
“เรื่องมันมีอยู่ว่า…”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คืนนั้นผมนัดดื่มสังสรรค์กับเพื่อน แล้วบังเอิญเจอเขาในร้านเดียวกัน เขาได้เข้ามาข่มขู่ผมว่า
"ถ้าเกิดนายมากับผมดีๆผมจะไม่ทำให้นายเจ็บตัว"
แต่ว่าตอนนั้นผมเล่นตัวก็เลยไม่ไป เขาเลยฉุดผมครับ ฮือออ"
เรื่องมีอยุ่ว่า ผมไปทำเด็กทิ้งไว้ๆๆ