ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชมรมความรู้สึก

    ลำดับตอนที่ #19 : ทำไมอลันถึงทำแบบนี้ (สปอยนิยายเรื่องร้านชำสำหรับคนอยากตาย)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.32K
      17
      28 มี.ค. 60

    คำเตือน : นี่คือการสปอยขั้นรุนแรงจากนิยายเรื่อง
    ร้านชำสำหรับคนอยากตาย
    เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ก่อนที่จะอ่านเนื้อหาที่เราจะพิมพ์ต่อไปนี้ก่อนนะ

     


    มันอาจมืดมนหน่อย ทำใจเล็กน้อยก่อนอ่านนะ


    ....................


    จากเรื่อง ร้านชำสำหรับคนอยากตาย

    ทำไมอลันถึงฆ่าตัวตาย

     

    จากบทที่ 3


    ลูแครช : “พี่ชายของลูกมีวิธีฆ่าตัวตายฝังอยู่ในสายเลือด เป็นคนของตระกูลตูวาชตัวจริง ส่วนลูก อลัน ...”


                 “รูปเด็กผู้หญิงขายาวท่าทางร่าเริงที่ลูกวาดใกล้ๆบ้านนี่คือใคร”


    อลัน    :   “พี่มาริลีนครับ”


    มาริลีน :   เงยหน้าขึ้นมอง


    ลูแครช :  “ทำไมวาดพี่สาวของลูกให้มีอะไรทำและน่ารักอย่างนี้ล่ะ ลูกก็รู้ดีไม่ใช่หรือว่าพี่ของลูกพูดอยู่ทุกวัน ว่าตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ ที่ขี้ริ้วขี้เหร่อีกต่างหาก”


    อลัน    :   “ผมว่าพี่มาริลีนสวยครับ”


    มาริลีน :    เอามือปิดหู กระโดดลงจากม้านั่ง วิ่งกรีดร้องเข้าหลังร้าน ก่อนวิ่งขึ้นบันไดไปบนห้อง


    ลูแครช :   แผดเสียง “ดูสิ อลันทำพี่สาวร้องไห้!”


    ---------------------------


    จากบทที่4


    มาริลีน  :   “ทำไมพวกเราถึงฆ่าตัวตายไม่ได้คะแม่”


    ลูแครซ :   “แม่บอกเป็นร้อยครั้งแล้วนะเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้น่ะสิ ใครจะเป็นคนดูแลร้านต่อล่ะ
    ตระกูลตูวาชของเรามีภารกิจอยู่ที่นี่ แล้วเวลาแม่พูดว่าพวกเราน่ะ แม่ไม่ได้รวมอลันด้วยหรอกนะ ไป ไปได้แล้ว”


    ---------------------------
     

    จากบทที่ 5


    ลูกค้า เพ่งมองดูพลาสเตอร์ยา หากมองลอดเข้าไปตรงบริเวณรอยย่น 2 ข้างของพลาสเตอร์ที่ปิดริมฝีปากอยู่ จะเห็นว่าเจ้าหนูกำลังยิ้มอยู่ใต้รูปวาดหน้าบูด ลูแครชยื่นถุงใส่ห่อของให้ผู้หญิงผู้นั้น


    ลูแครช : “เขาถูกลงโทษค่ะ ตอนอยู่ที่โรงเรียน มีคนถามอลันว่าคนฆ่าตัวตายหมายความว่าอย่างไร อลันตอบว่า ‘หมายถึงคนที่มีค่าตัวไง’


    ---------------------------
     


    จากบทที่ 6


    เหตุการณ์คือวินเซนต์กำลังทำแบบจำลองสวนสนุก สำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตายอยู่ก็ได้ยินอลันเปิดเพลงจากห้องข้างๆ ซึ่งทำให้วินเซนต์ไม่มีสมาธิและหงุดหงิดจนพังแบบจำลองของตัวเอง


    วินเซนต์ : “แม่ครับ”


    ลูแครช :  ตะโกนจากห้องครัว “อะไรอีกล่ะลูก”


    วินเซนต์ : “อลันเปิดเพลงสนุกๆครับ”


    ลูแครช : “เอาอีกแล้วเจ้าลูกคนนี้... โอ๊ย ฉันอยากขจัดปัญหาให้สิ้นซากแทนที่จะต้องทนอยู่แบบนี้”

    ลูแครชมาที่ห้องอลัน
               “ลูกจะปิดไหม เราบอกลูกกี่ครั้งแล้วว่าไม่อยากให้ลูกฟังเพลงสนุกงี่เง่าพวกนี้ เพลงแห่ศพเขาแต่งไว้ให้หมาฟังหรือไง ลูกก็รู้อยู่แก่ใจว่าลูกทำให้พี่ของลูกหงุดหงิดจนปวดหัวเวลาฟังเพลงสนุกๆพวกนี้”
    แล้วลูแครชก็เดินมาที่ห้องวินเซนต์แล้วหันมาว่าอลันต่อ
               “เก่งมาก เอาไปสิบคะแนนเต็มเลย ดูสิว่าดนตรีของลูกสร้างความพินาศอะไรไว้ ลูกคงภูมิใจในตัวเองสินะ


    มิชิมา  :   เดินมาที่ห้องของวินเซนต์พร้อมกับมาริลีน “เกิดอะไรขึ้น”


    ลูแครช :   “เรื่องที่เกิดขึ้น ก็คือลูกคนสุดท้องของเธอยังคงทำเรื่องงี่เง่าอยู่น่ะสิ”


    มิชิมา  :    “อลันไม่ใช่ลูกชายของฉัน”    “ลูกชายของฉันคือวินเซนต์ เขาเป็นคนของตระกูลตูวาชตัวจริง”

     


    ---------------------------
     


    จากบทที่ 8


    ลูแครช : “คุณตัวแทนจำหน่ายคะ อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้อยากมีลูกคนที่สามหรอกค่ะ แต่บังเอิญเขาเกิดมาเพราะเราทดลองใช้ถุงยางอนามัยรั่ว พอจะนึกออกไหมคะ ถุงยางอนามัยแบบที่มีไว้ขายให้พวกที่อยากฆ่าตัวตายจากการติดกามโรคน่ะค่ะ” ลูแครชส่ายหน้าด้วยความคับแค้นใจในโชคชะตา “พูดก็พูดเถอะ เราใช้สินค้าของเราครั้งแรกก็ดวงซวยเสียแล้ว”


    ตัวแทนจำหน่ายจากบริษัท อั๊วะไม่กลัวตาย จำกัด : “อย่างน้อย อีกสองคนทีเหลือคงไม่เป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ”


    ลูแครช : “ไม่ค่ะ พวกเขาอาจจะเดินผ่านไปพร้อมๆกับถอนหายใจและผลักคุณโดยไม่ขอโทษก็ได้ เจ้าคนโต แม้จะไม่เจริญอาหาร แต่ก็ทำให้เราพอใจเรื่อยมา เขามักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องของเขา ส่วนมาริลีนผู้น่าสงสารซึ่งอีกไม่นานจะมีอายุครบสิบแปดก็รู้สึกว่าตัวเอง ซุ่มซ่ามและไร้ประโยชน์อยู่ตลอดเวลา เธอจะขี้ร้อนและมีเหงื่อออกอยู่เสมอ เธอกำลังหาตำแหน่งให้ตัวเองอยู่ค่ะ”

     


    ---------------------------
     


    จากบทที่ 9


    วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันเกิดมาริลีน มีเค้กรูปโลงศพ ศพในโลงคาดว่าจะเป็นตัวแทนของมาริลีนเอง มิชิม่าและลูแครชให้ของขวัญเป็นการฉีดยาพิษที่จะทำให้จูบของมาริลีนเป็นพิษ ให้คนที่โดนจูบตายได้ วินเซนต์ให้ของขวัญเป็นหมวกกันน็อคที่ติดระเบิดเผื่อหากวันใดที่พ่อแม่ อนุญาตให้ทำลายตัวเองได้จะได้ระเบิดหัวตัวเองโดยไม่ทำให้ฝาผนังเปื้อน ส่วนอลันให้ผ้าไหมสี่เหลี่ยมสีขาวผืนใหญ่


    มาริลีน :   “โอ้! ผ้าแขวนคอสำหรับพี่”


    อลัน    :   “ไม่ใช่หรอกครับ” “มันจะต้องเบาสบายเหมือนไอน้ำ จะต้องเป็นเหมือนปุยเมฆที่ลูบไล้ลำคอ หัวไหล่ และหน้าอกของพี่”


    ลูแครช :    “ลูกซื้อผ้านั่นมาได้ยังไง”


    อลัน    :    “ผมใช้เงินค่าขนมของผมซื้อครับ”


    ลูแครช :    “เก็บมาทั้งปีเลยล่ะสิ”


    อลัน    :   “ครับ”


    ลูแครช :   “แม่ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรเลย


    มิชิมา  :    “มันเป็นการใช้เงินโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ


    มาริลีนหมุนผ้าไปรอบๆลำคอของหล่อนอย่างนุ่มนวลขณะมองดูทุกคนในครอบครัว


    มาริลีน  :     “หนูจะไม่จูบพวกเราแน่นอนค่ะ แต่หัวใจของหนูจูบแทนแล้ว”

     


    ---------------------------
     


    จากบทที่ 16


    มาริลีนไม่สามารถจูบเออร์เนส ชายที่ตนรักได้ในขณะที่วินเซนต์เริ่มเปลี่ยนจากทำแบบจำลองสวนสนุกสำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตายเป็นสวนสนุกธรรมดาเนื่องจากคล้อยตามอลันและยังเจริญอาหารมากขึ้น มิชิมาก็ดูเหมือนจะเริ่มชมว่าลูแครชทำอาหารอร่อย ส่วนอลันก็ยังมีความสุขถึงแม้ว่าจะเห็นว่าพี่สาวร้องไห้จะเป็นจะตาย


    วินเซนต์ :  “ต้องร้อง บลูม สามครั้งก่อนร้องทรา ลา ลา ใช่ไหม”


    อลัน     :   “ไม่ใช่ครับ สองครั้ง บลูม บลูม ทรา ลา ลา”


    ลูแครชงงงวยกับความเฉยชาของทั้งสองที่มีต่อความผิดหวังของมาริลีน


    ลูแครช :   “ทำไมเราถึงทดลองใช้ถุงยางอนามัยรั่วนะ”


    มาริลีน :    “แล้วหนูล่ะคะแม่ ทำไมถึงอยากให้หนูมีพิษอยู่ในปากเหมือนงูเขียวหางไหม้คะ พ่อกับแม่ไม่รู้เลยหรือคะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


    มิชิมา  :    “พวกเราคุ้นเคยกับผลลัพธ์ในระยะสั้นมากกว่า”


    ลูแครช :    “วินเซนต์ หยุดสวาปามเดี๋ยวนี้ มันไม่เหมาะ น้องสาวทุกข์ใจอยู่นะ”


    อลัน    :   “อ้าว หรือครับ เพราะอะไรหรือครับ”


    มิชิมา  :    “พี่สาวของแกมีพิษอยู่ในตัวตั้งแต่บรรลุนิติภาวะ”


    อลัน    :    “ไม่จริง”   “ตอนวันเกิดพี่มาริลีนผมเปิดตู้เย็นและเปลี่ยนน้ำยาเฮงซวยในหลอดฉีดยาเป็นเซรุ่มผสมกลูโคสแบบเดียวกับที่หมอใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดของพี่วินเซนต์เวลาที่ พี่ไม่มีแรงไงครับ”


    มิชิมา ลูแครช และมาริลีน : (O_O)


    มิชิมา   :    “ลูกพูดว่าไงนะอลัน”


    ลูแครช  :    “วินเซนต์ ลูกรู้เรื่องนี้หรือเปล่า”


    วินเซนต์ :    “รู้ครับ”


    ลูแครช  :   บอกกับมาริลีน “ลูกกลับไปหาพ่อสัปเหร่อของลูกได้แล้วมาริลีน ไปสิ จูบของลูกไม่มีพิษแล้ว และลูกยังหลอกลวงลูกค้าโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย”


    มิชิมา   :    “ทั้งหมดนี้เกิดจากฝีมือของเจ้าวายร้ายสองตัวนี่”  
                   “พวกลูก (วินเซนต์และอลัน) เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล”  
                   “วินเซนต์ ลูกที่ฉันภูมิใจหนักหนา ลูกปล่อยให้เด็กติงต๊องคนนี้ (อลัน) ครอบงำ สมควรแล้วที่ตั้งชื่อเจ้าลูกคนนี้ (อลัน) ตามชื่อของเจ้ากระเทยอังกฤษนั่น โอ๊ย วายป่วงจริงๆ”


    และแล้ว ในบทที่ 18 มิชิมาก็ตัดสินใจให้อลันไปโมนาโก เพื่อฝึกปฏิบัติกับหน่วยคอมมานโดฆ่าตัวตาย


    ---------------------------
     

    ในบทที่ 22 ทำให้รู้ว่าทุกคนคิดถึงอลันแค่ไหน ??


    ---------------------------
     

    ในบทที่ 23 อลันถูกส่งกลับมาบ้านเนื่องจากแกล้งทำตลกให้อาจารย์ที่นั่นดู สุดท้ายอาจารย์เลยฆ่าตัวตายเอง (เป็นครั้งแรกที่อลันทำให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย)


    ---------------------------
     

    ในบทที่ 24 อลันช่วยวินเซนต์ทำหน้ากากหน้าเกลียดหน้ากลัว (หรือน่าขำก็ไม่ทราบ) พร้อมติดกระจกเงาไว้


    ---------------------------
     


    จากบทที่ 25 อลันได้มาช่วยงานที่ร้านชำสำหรับคนอยากตายเต็มตัว


    อลัน    :   “พี่ฝึกมองเงาสะท้อนจากหน้ากากอันนี้นะครับ ส่องดูตัวเอง แล้วนำกลับไปไว้ที่บ้านด้วย”


    ลูกค้า   :   “พี่ทำไม่ได้จ้ะ”


    อลัน    :    “ทำไมล่ะครับ”


    ลูกค้า   :   “หน้าตาพี่มันน่าเกลียดหน้ากลัว”


    อลัน    :    “อะไรนะครับ พี่เอาอะไรมาพูด พี่ก็เหมือนคนอื่นๆ มีหู มีตา มีจมูก เท่าๆกัน มีอะไรที่ต่างไปหรือครับ”


    ลูกค้า   :   “น้องก็เห็นอยู่นี่คะ จมูกของพี่ยาวงุ้ม ตาอยู่ชิดกันเกินไป แก้มใหญ่แถมเป็นสิวเขรอะ”


    อลัน    :    “ตายจริง อะไรกันครับพี่ ผมขอดูหน่อยสิครับ” เอาสายมาวัด


                   “เรื่องนี้มันก็แล้วแต่พี่นะครับ แต่ถึงยังไงมันก็ยังน้อยกว่าหนึ่งมิลลิเมตรหากเทียบกับขนาดของจักรวาล ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องคิดฆ่าตัวตายเลยนี่ครับ เท่าที่เห็น ตอนพี่เดินเข้ามา ผมก็ไม่เห็นมนุษย์ต่างดาวหน้าตาหลุดโลกอย่างเช่นมีท่อดูดแปดท่อสักหน่อย อ้า ยิ้มออกแล้ว... พี่ยิ้มแล้วดูดีมากเลย ส่องดูสิครับ”


    ลูกค้า   :   “ฟันพี่น่ากลัวมาก”


    อลัน     :    “ไม่นี่ครับ ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย ฟันเอียงแบบนี้ทำให้ดูเหมือนเด็นผู้หญิงที่ไม่เคยดัดฟัน ดูน่าประทับใจมากครับ”


    ลูกค้า   :   “หน้าพี่สิวเขรอะเลย”


    อลัน     :    “สิวจากความกังวลครับ เมื่อพี่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นสิวก็จะยุบ”


    ลูกค้า   :   “พวกเพื่อนร่วมงานเห็นพี่เป็นนังหน้าโง่”


    อลัน    :    “นั่นเพราะพี่ไม่มีความมั่นใจในตนเอง มันเลยดูเคอะเขิน ทำให้พูดอะไรผิดกาลเทศะ แต่ถ้าพี่ลองหัดทำตัวเองให้คุ้นเคยและรักเงาสะท้อนจากหน้ากากอันนี้แล้วล่ะก็... ดูเธอสิครับ คนที่อยู่ตรงหน้าของพี่ อย่าอายเลยครับ ถ้าพี่บังเอิญเจอเธอบนถนน พี่อยากจะฆ่าเธอหรือเปล่าครับ เธอทำอะไรให้เราเกลียดชังเธอมากขนาดนั้นครับ เธอทำผิดอะไร ทำไมใครๆถึงไม่รักเธอ พี่ลองมอบมิตรภาพให้กับเธอผู้นี้ก่อน แล้วคนอื่นอาจจะมอบให้เธอต่อจากพี่ก็ได้”


                    “ชีวิตเป็นอย่างที่มันเป็น มีค่าตามคุณค่าของมัน ชีวิตทำทุกอย่างที่มันพอทำได้และบางครั้งมันก็ทำด้วยความซุ่มซ่าม เราเองก็ไม่ควรจะเรียกร้องเอาอะไรจากชีวิตมากจนเกินไป ถ้าทำอย่างนั้น เราก็จะอยากจบชีวิต จริงๆน่าจะมองทุกสิ่งทุกอย่างในด้านดีมากกว่า แล้วก็ทิ้งเชือกและปืนใช้แล้วทิ้งพวกนี้ไว้ที่นี่แหละครับ ยิ่งช่วงนี้พี่กำลังวิตกกังวลและวุ่นวายใจอยู่ เดี๋ยวก็เอาปืนไปยิงโดนบ่วงแขวนคอ เสียเวลาเปล่าๆ มันเจ็บนะครับตอนตกเก้าอี้แล้วหัวเข่าแตก”


                    “ถ้าพี่ไม่ทำเพื่อผมก็ทำเพื่อเธอคนนี้ (ในกระจก)”    “ยิ้มให้เธอ ดูแลเธอดีๆ เธอต้องการความรัก อยากให้พี่อาบน้ำ ใส่น้ำหอม แต่งตัวให้เธอสวยๆ เธอจะได้รู้สึกดีกับตัวเอง พยายามยอมรับเธอ เธอจะกลายเป็นเพื่อนของพี่ เป็นคนที่พี่ไว้ใจและอยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา แล้วพี่กับเธอจะได้หัวเราะด้วยกัน” และแล้วอลันก็ขายหน้ากากได้


    ---------------------------
     

    จากบทที่ 26


    ลูแครช  :   “เวลาคนได้เข้ามาดูของที่นี่ครั้งนึงแล้ว พวกเขาจะกลับมาซื้อไม่วันใดก็วันหนึ่ง ต้องให้เวลาพวกเขาคิดนานๆ พวกที่อยากลองตายด้วยการผูกคอตายมักจะเริ่มด้วยการมัดผ้าพันคอให้แน่นขึ้น ตอนที่อยู่บ้าน พวกเขาจะเอามือบีบคอเพื่อให้รู้สึกถึงกระดูกสันหลัง กระดูกอ่อน เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ และเส้นเลือดที่เต้นตุบๆ พอคุ้นเคยแล้วพวกเขาจะกลับมา”


    ---------------------------
     

    จากบทที่ 33

    มิชิมา  :    “อนิจจา ดูลูกคนโตที่ผมเคยภาคภูมิใจสิครับ มันกลายเป็นอะไรไปแล้ว! ... จากคนที่เคยเบื่ออาหาร มีนิสัยโรคจิตชอบล้างผลาญ ตอนนี้เขาเจอความสนใจใหม่แล้ว รู้ไหมว่าอะไร เครป! พูดตรงๆนะครับ มันกินเครปตั้งแต่เช้ายันค่ำ”


                    “เห็นไหมล่ะครับว่าไอเดียของผมยังไม่หมด มันจะทำให้ผมต้องหมดสภาพไปสองสามวันด้วยซ้ำ สองสามวันที่สมาชิกที่เหลือของครอบครัวจะต้องหยุดการกระทำอันเกินกว่าเหตุ ของพวกเขาลง เป็นการกระทำผิดที่ได้รับอิทธิพลจากคนที่มีความสุขตลอดกาลคนหนึ่ง เจ้าคนมองโลกในแง่ดี ไอ้หมอนั่นแหละครับ... นี่ไงครับผลสรุปที่ได้ ดูสิครับ ปืนใช้แล้วทิ้งแบบใหม่ของเราเอาไว้ใช้ยิงกระสุนเปล่า ลูกกวาดแห่งความตายไม่เป็นอันตรายต่ออะไรทั้งนั้นยกเว้นฟัน ส่วนเชือกแขวนคอ ผมไม่อยากจะพูด... ดาบสั้นสำหรับทำเซ็ปปุกุ (ฮาราคีรี) ใช้ตีแมลงวัน”



    ---------------------------
     


    จากบทที่ 34


    มิชิมาขายยาพิษลมหายใจทะเลทรายให้คณะรัฐมนตรี ที่จะฆ่าตัวตายถ่ายทอดสด แต่กับกลายเป็นแก๊สหัวเราะแทน(ฝีมือของอลัน เนื่องจากเป็นแก๊สจากบริษัท ท้องคัดท้องแข็ง จำกัด) มิชิมาโกรธอลันมากและหยิบมีดมาไล่อลันเหมือนจะไล่ฆ่าอลัน ทุกคนที่เหลือตกใจและบอกว่าจะตายแทนอลัน สุดท้ายมิชิมาก็บอกว่าตนจะฆ่าตัวตายเนื่องจากร้านจะถูกปิด ทุกคนที่เหลือก็บอกว่าจะฆ่าตัวตายหากมิชิมาตาย อลันเห็นภาพเหล่านั้นก็ถอยหลังไปด้วยความตกใจกลัว (เนื่องจากรับรู้ว่าทุกคนกำลังจะฆ่าตัวตาย) เลยตกลงไปในช่อง แต่วินเซนต์ก็เอาผ้าโพกหัวช่วยให้อลันจับยึดไว้ ทุกคนช่วยกันค่อยๆดึงผ้าขึ้นมา และพูดสิ่งที่ตัวเองจะทำต่อในอนาคตโดยมีรอยยิ้มแห่งความสุข อลันเห็นว่าภารกิจบรรลุเป้าหมายแล้ว เขาจึงปล่อยมือ


    ---------------------------



     

     

    ความรู้สึกเรานะ ตลอดช่วงเวลาที่อ่าน เรารู้สึกว่าอลันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตูวาชเลย


    การที่เด็กคนหนึ่งโดนพ่อแม่บอกว่าตนเองไม่ใช่ลูก มันเจ็บนะ และก็เป็นปมอย่างหนึ่งด้วย


    บางที การเห็นคนรอบข้างเอาแต่ทุกข์และมืดมน จริงอยู่ที่เราจะซึมซับความมืดมนนั้นไปด้วย
    แต่ในขณะเดียวกัน เราก็คงอยากให้คนรอบข้างมีความสุขเหมือนกัน


    และถึงแม้ว่าอลันจะทำสำเร็จโดยการทำให้คนในครอบครัวตูวาชมีความสุขและมีรอยยิ้ม


    แต่ถ้าอ่านตอนจบแล้ว เราก็ยังรู้สึกว่าคนเหล่านั้นยังไม่คิดถึงอลัน


    และยังไม่มีตัวละครใดที่บอกว่าอลันเป็นคนในครอบครัวนี้เลยนะ
    (ซึ่งมันอาจจะเป็นปมของอลันไปโดยที่คนอื่นๆไม่รู้ตัว)
    คำว่า 'พวกเรา' ของคนในครอบครัวตูวาช มีอลันรวมอยู่ด้วยรึเปล่านะ


    มันทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่คนในครอบครัวนี้พูดในตอนจบถึงอนาคตของพวกเขา มันมีอิทธิพลมาจากอลันก็จริง
    แต่อนาคตพวกนั้นไม่มีอลันอยู่ด้วยเลย อลันไปอยู่ไหนล่ะ


    ในเมื่ออนาคตของพวกเขาไม่ได้มีอลันร่วมอยู่ด้วย ก็ไม่มีความจำเป็นที่อลันจะมีชีวิตอยู่แล้วนี่นา


     

    ถ้าเราเป็นอลัน เราก็ 'ปล่อยมือ' เหมือนที่อลันทำนะ


     


    ---------------------------


    ไม่รู้ผู้อ่านจะรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า แต่เราว่านิยายเรื่องนี้ก็ให้ข้อคิดเยอะเหมือนกันนะ

    ยังไงก็...

    อย่าลืมยิ้มกันด้วยนะ (^_^)

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×