คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ทำไมอลันถึงทำแบบนี้ (สปอยนิยายเรื่องร้านชำสำหรับคนอยากตาย)
ร้านชำสำหรับคนอยากตาย
เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ก่อนที่จะอ่านเนื้อหาที่เราจะพิมพ์ต่อไปนี้ก่อนนะ
มันอาจมืดมนหน่อย ทำใจเล็กน้อยก่อนอ่านนะ
....................
จากเรื่อง ร้านชำสำหรับคนอยากตาย
ทำไมอลันถึงฆ่าตัวตาย
จากบทที่ 3
ลูแครช : “พี่ชายของลูกมีวิธีฆ่าตัวตายฝังอยู่ในสายเลือด เป็นคนของตระกูลตูวาชตัวจริง ส่วนลูก อลัน ...”
“รูปเด็กผู้หญิงขายาวท่าทางร่าเริงที่ลูกวาดใกล้ๆบ้านนี่คือใคร”
อลัน : “พี่มาริลีนครับ”
มาริลีน : เงยหน้าขึ้นมอง
ลูแครช : “ทำไมวาดพี่สาวของลูกให้มีอะไรทำและน่ารักอย่างนี้ล่ะ ลูกก็รู้ดีไม่ใช่หรือว่าพี่ของลูกพูดอยู่ทุกวัน ว่าตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ ที่ขี้ริ้วขี้เหร่อีกต่างหาก”
อลัน : “ผมว่าพี่มาริลีนสวยครับ”
มาริลีน : เอามือปิดหู กระโดดลงจากม้านั่ง วิ่งกรีดร้องเข้าหลังร้าน ก่อนวิ่งขึ้นบันไดไปบนห้อง
ลูแครช : แผดเสียง “ดูสิ อลันทำพี่สาวร้องไห้!”
---------------------------
จากบทที่4
มาริลีน : “ทำไมพวกเราถึงฆ่าตัวตายไม่ได้คะแม่”
ลูแครซ : “แม่บอกเป็นร้อยครั้งแล้วนะเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้น่ะสิ ใครจะเป็นคนดูแลร้านต่อล่ะ
ตระกูลตูวาชของเรามีภารกิจอยู่ที่นี่ แล้วเวลาแม่พูดว่าพวกเราน่ะ แม่ไม่ได้รวมอลันด้วยหรอกนะ ไป ไปได้แล้ว”
---------------------------
จากบทที่ 5
ลูกค้า เพ่งมองดูพลาสเตอร์ยา หากมองลอดเข้าไปตรงบริเวณรอยย่น 2 ข้างของพลาสเตอร์ที่ปิดริมฝีปากอยู่ จะเห็นว่าเจ้าหนูกำลังยิ้มอยู่ใต้รูปวาดหน้าบูด ลูแครชยื่นถุงใส่ห่อของให้ผู้หญิงผู้นั้น
ลูแครช : “เขาถูกลงโทษค่ะ ตอนอยู่ที่โรงเรียน มีคนถามอลันว่าคนฆ่าตัวตายหมายความว่าอย่างไร อลันตอบว่า ‘หมายถึงคนที่มีค่าตัวไง’ ”
---------------------------
จากบทที่ 6
เหตุการณ์คือวินเซนต์กำลังทำแบบจำลองสวนสนุก สำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตายอยู่ก็ได้ยินอลันเปิดเพลงจากห้องข้างๆ ซึ่งทำให้วินเซนต์ไม่มีสมาธิและหงุดหงิดจนพังแบบจำลองของตัวเอง
วินเซนต์ : “แม่ครับ”
ลูแครช : ตะโกนจากห้องครัว “อะไรอีกล่ะลูก”
วินเซนต์ : “อลันเปิดเพลงสนุกๆครับ”
ลูแครช : “เอาอีกแล้วเจ้าลูกคนนี้... โอ๊ย ฉันอยากขจัดปัญหาให้สิ้นซากแทนที่จะต้องทนอยู่แบบนี้”
ลูแครชมาที่ห้องอลัน
“ลูกจะปิดไหม เราบอกลูกกี่ครั้งแล้วว่าไม่อยากให้ลูกฟังเพลงสนุกงี่เง่าพวกนี้ เพลงแห่ศพเขาแต่งไว้ให้หมาฟังหรือไง ลูกก็รู้อยู่แก่ใจว่าลูกทำให้พี่ของลูกหงุดหงิดจนปวดหัวเวลาฟังเพลงสนุกๆพวกนี้”
แล้วลูแครชก็เดินมาที่ห้องวินเซนต์แล้วหันมาว่าอลันต่อ
“เก่งมาก เอาไปสิบคะแนนเต็มเลย ดูสิว่าดนตรีของลูกสร้างความพินาศอะไรไว้ ลูกคงภูมิใจในตัวเองสินะ”
มิชิมา : เดินมาที่ห้องของวินเซนต์พร้อมกับมาริลีน “เกิดอะไรขึ้น”
ลูแครช : “เรื่องที่เกิดขึ้น ก็คือลูกคนสุดท้องของเธอยังคงทำเรื่องงี่เง่าอยู่น่ะสิ”
มิชิมา : “อลันไม่ใช่ลูกชายของฉัน” “ลูกชายของฉันคือวินเซนต์ เขาเป็นคนของตระกูลตูวาชตัวจริง”
---------------------------
จากบทที่ 8
ลูแครช : “คุณตัวแทนจำหน่ายคะ อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้อยากมีลูกคนที่สามหรอกค่ะ แต่บังเอิญเขาเกิดมาเพราะเราทดลองใช้ถุงยางอนามัยรั่ว พอจะนึกออกไหมคะ ถุงยางอนามัยแบบที่มีไว้ขายให้พวกที่อยากฆ่าตัวตายจากการติดกามโรคน่ะค่ะ” ลูแครชส่ายหน้าด้วยความคับแค้นใจในโชคชะตา “พูดก็พูดเถอะ เราใช้สินค้าของเราครั้งแรกก็ดวงซวยเสียแล้ว”
ตัวแทนจำหน่ายจากบริษัท อั๊วะไม่กลัวตาย จำกัด : “อย่างน้อย อีกสองคนทีเหลือคงไม่เป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ”
ลูแครช : “ไม่ค่ะ พวกเขาอาจจะเดินผ่านไปพร้อมๆกับถอนหายใจและผลักคุณโดยไม่ขอโทษก็ได้ เจ้าคนโต แม้จะไม่เจริญอาหาร แต่ก็ทำให้เราพอใจเรื่อยมา เขามักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องของเขา ส่วนมาริลีนผู้น่าสงสารซึ่งอีกไม่นานจะมีอายุครบสิบแปดก็รู้สึกว่าตัวเอง ซุ่มซ่ามและไร้ประโยชน์อยู่ตลอดเวลา เธอจะขี้ร้อนและมีเหงื่อออกอยู่เสมอ เธอกำลังหาตำแหน่งให้ตัวเองอยู่ค่ะ”
---------------------------
จากบทที่ 9
วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันเกิดมาริลีน มีเค้กรูปโลงศพ ศพในโลงคาดว่าจะเป็นตัวแทนของมาริลีนเอง มิชิม่าและลูแครชให้ของขวัญเป็นการฉีดยาพิษที่จะทำให้จูบของมาริลีนเป็นพิษ ให้คนที่โดนจูบตายได้ วินเซนต์ให้ของขวัญเป็นหมวกกันน็อคที่ติดระเบิดเผื่อหากวันใดที่พ่อแม่ อนุญาตให้ทำลายตัวเองได้จะได้ระเบิดหัวตัวเองโดยไม่ทำให้ฝาผนังเปื้อน ส่วนอลันให้ผ้าไหมสี่เหลี่ยมสีขาวผืนใหญ่
มาริลีน : “โอ้! ผ้าแขวนคอสำหรับพี่”
อลัน : “ไม่ใช่หรอกครับ” “มันจะต้องเบาสบายเหมือนไอน้ำ จะต้องเป็นเหมือนปุยเมฆที่ลูบไล้ลำคอ หัวไหล่ และหน้าอกของพี่”
ลูแครช : “ลูกซื้อผ้านั่นมาได้ยังไง”
อลัน : “ผมใช้เงินค่าขนมของผมซื้อครับ”
ลูแครช : “เก็บมาทั้งปีเลยล่ะสิ”
อลัน : “ครับ”
ลูแครช : “แม่ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรเลย”
มิชิมา : “มันเป็นการใช้เงินโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ”
มาริลีนหมุนผ้าไปรอบๆลำคอของหล่อนอย่างนุ่มนวลขณะมองดูทุกคนในครอบครัว
มาริลีน : “หนูจะไม่จูบพวกเราแน่นอนค่ะ แต่หัวใจของหนูจูบแทนแล้ว”
---------------------------
จากบทที่ 16
มาริลีนไม่สามารถจูบเออร์เนส ชายที่ตนรักได้ในขณะที่วินเซนต์เริ่มเปลี่ยนจากทำแบบจำลองสวนสนุกสำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตายเป็นสวนสนุกธรรมดาเนื่องจากคล้อยตามอลันและยังเจริญอาหารมากขึ้น มิชิมาก็ดูเหมือนจะเริ่มชมว่าลูแครชทำอาหารอร่อย ส่วนอลันก็ยังมีความสุขถึงแม้ว่าจะเห็นว่าพี่สาวร้องไห้จะเป็นจะตาย
วินเซนต์ : “ต้องร้อง บลูม สามครั้งก่อนร้องทรา ลา ลา ใช่ไหม”
อลัน : “ไม่ใช่ครับ สองครั้ง บลูม บลูม ทรา ลา ลา”
ลูแครชงงงวยกับความเฉยชาของทั้งสองที่มีต่อความผิดหวังของมาริลีน
ลูแครช : “ทำไมเราถึงทดลองใช้ถุงยางอนามัยรั่วนะ”
มาริลีน : “แล้วหนูล่ะคะแม่ ทำไมถึงอยากให้หนูมีพิษอยู่ในปากเหมือนงูเขียวหางไหม้คะ พ่อกับแม่ไม่รู้เลยหรือคะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
มิชิมา : “พวกเราคุ้นเคยกับผลลัพธ์ในระยะสั้นมากกว่า”
ลูแครช : “วินเซนต์ หยุดสวาปามเดี๋ยวนี้ มันไม่เหมาะ น้องสาวทุกข์ใจอยู่นะ”
อลัน : “อ้าว หรือครับ เพราะอะไรหรือครับ”
มิชิมา : “พี่สาวของแกมีพิษอยู่ในตัวตั้งแต่บรรลุนิติภาวะ”
อลัน : “ไม่จริง” “ตอนวันเกิดพี่มาริลีนผมเปิดตู้เย็นและเปลี่ยนน้ำยาเฮงซวยในหลอดฉีดยาเป็นเซรุ่มผสมกลูโคสแบบเดียวกับที่หมอใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดของพี่วินเซนต์เวลาที่ พี่ไม่มีแรงไงครับ”
มิชิมา ลูแครช และมาริลีน : (O_O)
มิชิมา : “ลูกพูดว่าไงนะอลัน”
ลูแครช : “วินเซนต์ ลูกรู้เรื่องนี้หรือเปล่า”
วินเซนต์ : “รู้ครับ”
ลูแครช : บอกกับมาริลีน “ลูกกลับไปหาพ่อสัปเหร่อของลูกได้แล้วมาริลีน ไปสิ จูบของลูกไม่มีพิษแล้ว และลูกยังหลอกลวงลูกค้าโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย”
มิชิมา : “ทั้งหมดนี้เกิดจากฝีมือของเจ้าวายร้ายสองตัวนี่”
“พวกลูก (วินเซนต์และอลัน) เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล”
“วินเซนต์ ลูกที่ฉันภูมิใจหนักหนา ลูกปล่อยให้เด็กติงต๊องคนนี้ (อลัน) ครอบงำ สมควรแล้วที่ตั้งชื่อเจ้าลูกคนนี้ (อลัน) ตามชื่อของเจ้ากระเทยอังกฤษนั่น โอ๊ย วายป่วงจริงๆ”
และแล้ว ในบทที่ 18 มิชิมาก็ตัดสินใจให้อลันไปโมนาโก เพื่อฝึกปฏิบัติกับหน่วยคอมมานโดฆ่าตัวตาย
---------------------------
ในบทที่ 22 ทำให้รู้ว่าทุกคนคิดถึงอลันแค่ไหน ??
---------------------------
ในบทที่ 23 อลันถูกส่งกลับมาบ้านเนื่องจากแกล้งทำตลกให้อาจารย์ที่นั่นดู สุดท้ายอาจารย์เลยฆ่าตัวตายเอง (เป็นครั้งแรกที่อลันทำให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย)
---------------------------
ในบทที่ 24 อลันช่วยวินเซนต์ทำหน้ากากหน้าเกลียดหน้ากลัว (หรือน่าขำก็ไม่ทราบ) พร้อมติดกระจกเงาไว้
---------------------------
จากบทที่ 25 อลันได้มาช่วยงานที่ร้านชำสำหรับคนอยากตายเต็มตัว
อลัน : “พี่ฝึกมองเงาสะท้อนจากหน้ากากอันนี้นะครับ ส่องดูตัวเอง แล้วนำกลับไปไว้ที่บ้านด้วย”
ลูกค้า : “พี่ทำไม่ได้จ้ะ”
อลัน : “ทำไมล่ะครับ”
ลูกค้า : “หน้าตาพี่มันน่าเกลียดหน้ากลัว”
อลัน : “อะไรนะครับ พี่เอาอะไรมาพูด พี่ก็เหมือนคนอื่นๆ มีหู มีตา มีจมูก เท่าๆกัน มีอะไรที่ต่างไปหรือครับ”
ลูกค้า : “น้องก็เห็นอยู่นี่คะ จมูกของพี่ยาวงุ้ม ตาอยู่ชิดกันเกินไป แก้มใหญ่แถมเป็นสิวเขรอะ”
อลัน : “ตายจริง อะไรกันครับพี่ ผมขอดูหน่อยสิครับ” เอาสายมาวัด
“เรื่องนี้มันก็แล้วแต่พี่นะครับ แต่ถึงยังไงมันก็ยังน้อยกว่าหนึ่งมิลลิเมตรหากเทียบกับขนาดของจักรวาล ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องคิดฆ่าตัวตายเลยนี่ครับ เท่าที่เห็น ตอนพี่เดินเข้ามา ผมก็ไม่เห็นมนุษย์ต่างดาวหน้าตาหลุดโลกอย่างเช่นมีท่อดูดแปดท่อสักหน่อย อ้า ยิ้มออกแล้ว... พี่ยิ้มแล้วดูดีมากเลย ส่องดูสิครับ”
ลูกค้า : “ฟันพี่น่ากลัวมาก”
อลัน : “ไม่นี่ครับ ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย ฟันเอียงแบบนี้ทำให้ดูเหมือนเด็นผู้หญิงที่ไม่เคยดัดฟัน ดูน่าประทับใจมากครับ”
ลูกค้า : “หน้าพี่สิวเขรอะเลย”
อลัน : “สิวจากความกังวลครับ เมื่อพี่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นสิวก็จะยุบ”
ลูกค้า : “พวกเพื่อนร่วมงานเห็นพี่เป็นนังหน้าโง่”
อลัน : “นั่นเพราะพี่ไม่มีความมั่นใจในตนเอง มันเลยดูเคอะเขิน ทำให้พูดอะไรผิดกาลเทศะ แต่ถ้าพี่ลองหัดทำตัวเองให้คุ้นเคยและรักเงาสะท้อนจากหน้ากากอันนี้แล้วล่ะก็... ดูเธอสิครับ คนที่อยู่ตรงหน้าของพี่ อย่าอายเลยครับ ถ้าพี่บังเอิญเจอเธอบนถนน พี่อยากจะฆ่าเธอหรือเปล่าครับ เธอทำอะไรให้เราเกลียดชังเธอมากขนาดนั้นครับ เธอทำผิดอะไร ทำไมใครๆถึงไม่รักเธอ พี่ลองมอบมิตรภาพให้กับเธอผู้นี้ก่อน แล้วคนอื่นอาจจะมอบให้เธอต่อจากพี่ก็ได้”
“ชีวิตเป็นอย่างที่มันเป็น มีค่าตามคุณค่าของมัน ชีวิตทำทุกอย่างที่มันพอทำได้และบางครั้งมันก็ทำด้วยความซุ่มซ่าม เราเองก็ไม่ควรจะเรียกร้องเอาอะไรจากชีวิตมากจนเกินไป ถ้าทำอย่างนั้น เราก็จะอยากจบชีวิต จริงๆน่าจะมองทุกสิ่งทุกอย่างในด้านดีมากกว่า แล้วก็ทิ้งเชือกและปืนใช้แล้วทิ้งพวกนี้ไว้ที่นี่แหละครับ ยิ่งช่วงนี้พี่กำลังวิตกกังวลและวุ่นวายใจอยู่ เดี๋ยวก็เอาปืนไปยิงโดนบ่วงแขวนคอ เสียเวลาเปล่าๆ มันเจ็บนะครับตอนตกเก้าอี้แล้วหัวเข่าแตก”
“ถ้าพี่ไม่ทำเพื่อผมก็ทำเพื่อเธอคนนี้ (ในกระจก)” “ยิ้มให้เธอ ดูแลเธอดีๆ เธอต้องการความรัก อยากให้พี่อาบน้ำ ใส่น้ำหอม แต่งตัวให้เธอสวยๆ เธอจะได้รู้สึกดีกับตัวเอง พยายามยอมรับเธอ เธอจะกลายเป็นเพื่อนของพี่ เป็นคนที่พี่ไว้ใจและอยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา แล้วพี่กับเธอจะได้หัวเราะด้วยกัน” และแล้วอลันก็ขายหน้ากากได้
---------------------------
จากบทที่ 26
ลูแครช : “เวลาคนได้เข้ามาดูของที่นี่ครั้งนึงแล้ว พวกเขาจะกลับมาซื้อไม่วันใดก็วันหนึ่ง ต้องให้เวลาพวกเขาคิดนานๆ พวกที่อยากลองตายด้วยการผูกคอตายมักจะเริ่มด้วยการมัดผ้าพันคอให้แน่นขึ้น ตอนที่อยู่บ้าน พวกเขาจะเอามือบีบคอเพื่อให้รู้สึกถึงกระดูกสันหลัง กระดูกอ่อน เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ และเส้นเลือดที่เต้นตุบๆ พอคุ้นเคยแล้วพวกเขาจะกลับมา”
---------------------------
จากบทที่ 33
มิชิมา : “อนิจจา ดูลูกคนโตที่ผมเคยภาคภูมิใจสิครับ มันกลายเป็นอะไรไปแล้ว! ... จากคนที่เคยเบื่ออาหาร มีนิสัยโรคจิตชอบล้างผลาญ ตอนนี้เขาเจอความสนใจใหม่แล้ว รู้ไหมว่าอะไร เครป! พูดตรงๆนะครับ มันกินเครปตั้งแต่เช้ายันค่ำ”
“เห็นไหมล่ะครับว่าไอเดียของผมยังไม่หมด มันจะทำให้ผมต้องหมดสภาพไปสองสามวันด้วยซ้ำ สองสามวันที่สมาชิกที่เหลือของครอบครัวจะต้องหยุดการกระทำอันเกินกว่าเหตุ ของพวกเขาลง เป็นการกระทำผิดที่ได้รับอิทธิพลจากคนที่มีความสุขตลอดกาลคนหนึ่ง เจ้าคนมองโลกในแง่ดี ไอ้หมอนั่นแหละครับ... นี่ไงครับผลสรุปที่ได้ ดูสิครับ ปืนใช้แล้วทิ้งแบบใหม่ของเราเอาไว้ใช้ยิงกระสุนเปล่า ลูกกวาดแห่งความตายไม่เป็นอันตรายต่ออะไรทั้งนั้นยกเว้นฟัน ส่วนเชือกแขวนคอ ผมไม่อยากจะพูด... ดาบสั้นสำหรับทำเซ็ปปุกุ (ฮาราคีรี) ใช้ตีแมลงวัน”
---------------------------
จากบทที่ 34
มิชิมาขายยาพิษลมหายใจทะเลทรายให้คณะรัฐมนตรี ที่จะฆ่าตัวตายถ่ายทอดสด แต่กับกลายเป็นแก๊สหัวเราะแทน(ฝีมือของอลัน เนื่องจากเป็นแก๊สจากบริษัท ท้องคัดท้องแข็ง จำกัด) มิชิมาโกรธอลันมากและหยิบมีดมาไล่อลันเหมือนจะไล่ฆ่าอลัน ทุกคนที่เหลือตกใจและบอกว่าจะตายแทนอลัน สุดท้ายมิชิมาก็บอกว่าตนจะฆ่าตัวตายเนื่องจากร้านจะถูกปิด ทุกคนที่เหลือก็บอกว่าจะฆ่าตัวตายหากมิชิมาตาย อลันเห็นภาพเหล่านั้นก็ถอยหลังไปด้วยความตกใจกลัว (เนื่องจากรับรู้ว่าทุกคนกำลังจะฆ่าตัวตาย) เลยตกลงไปในช่อง แต่วินเซนต์ก็เอาผ้าโพกหัวช่วยให้อลันจับยึดไว้ ทุกคนช่วยกันค่อยๆดึงผ้าขึ้นมา และพูดสิ่งที่ตัวเองจะทำต่อในอนาคตโดยมีรอยยิ้มแห่งความสุข อลันเห็นว่าภารกิจบรรลุเป้าหมายแล้ว เขาจึงปล่อยมือ
---------------------------
ความรู้สึกเรานะ ตลอดช่วงเวลาที่อ่าน เรารู้สึกว่าอลันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตูวาชเลย
การที่เด็กคนหนึ่งโดนพ่อแม่บอกว่าตนเองไม่ใช่ลูก มันเจ็บนะ และก็เป็นปมอย่างหนึ่งด้วย
บางที การเห็นคนรอบข้างเอาแต่ทุกข์และมืดมน จริงอยู่ที่เราจะซึมซับความมืดมนนั้นไปด้วย
แต่ในขณะเดียวกัน เราก็คงอยากให้คนรอบข้างมีความสุขเหมือนกัน
และถึงแม้ว่าอลันจะทำสำเร็จโดยการทำให้คนในครอบครัวตูวาชมีความสุขและมีรอยยิ้ม
แต่ถ้าอ่านตอนจบแล้ว เราก็ยังรู้สึกว่าคนเหล่านั้นยังไม่คิดถึงอลัน
และยังไม่มีตัวละครใดที่บอกว่าอลันเป็นคนในครอบครัวนี้เลยนะ
(ซึ่งมันอาจจะเป็นปมของอลันไปโดยที่คนอื่นๆไม่รู้ตัว)
คำว่า 'พวกเรา' ของคนในครอบครัวตูวาช มีอลันรวมอยู่ด้วยรึเปล่านะ
มันทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่คนในครอบครัวนี้พูดในตอนจบถึงอนาคตของพวกเขา มันมีอิทธิพลมาจากอลันก็จริง
แต่อนาคตพวกนั้นไม่มีอลันอยู่ด้วยเลย อลันไปอยู่ไหนล่ะ
ในเมื่ออนาคตของพวกเขาไม่ได้มีอลันร่วมอยู่ด้วย ก็ไม่มีความจำเป็นที่อลันจะมีชีวิตอยู่แล้วนี่นา
ถ้าเราเป็นอลัน เราก็ 'ปล่อยมือ' เหมือนที่อลันทำนะ
---------------------------
ไม่รู้ผู้อ่านจะรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า แต่เราว่านิยายเรื่องนี้ก็ให้ข้อคิดเยอะเหมือนกันนะ
ยังไงก็...
อย่าลืมยิ้มกันด้วยนะ (^_^)
ความคิดเห็น