คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : - Senior -
The t(h)ree of us Vll
-Senior-
Bambam's part ;
อะไรของเขาฟ่ะ ผมอยู่ของผมดีๆก็แย่งชมรมผมไปซะงั้นอ่ะ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเป็นพวกรุ่นพี่บ้าอำนาจ ผมรู้จักเขานะ เขาเป็นนักดนตรี ผมเคยฟังเพลงเขาอยู่ เป็นรุ่นพี่คนนึงที่ผมนับถือ
วันนี้พิสูจน์แล้วว่าทั้งหมดนั้น ผมคิดผิด
พี่เขาควรจะไปเป็นเซลล์ขายของมากกว่า ทักษะการโน้มน้าวจิตใจเป็นเลิศ
เลยทำให้ผม แบมแบม รุ่นน้องม.3ที่แสนจะน่ารักคนนี้ต้องยอมเดินไปเข้าชมรมบาสแทนเพราะเหตุที่ว่าจะได้พัฒนากล้ามเนื้ออันน้อยนิดไว้ไปข่มคนอื่นเขาได้บ้าง
ทั้งๆที่ในชมรมกีฬาพวกนี้มีแต่พวกชอบใช้กำลัง
เห็นรุ่นน้องตัวเล็กๆแบบผมหน่อยก็คงแกล้งกันสนุกสนาน
นั้นสิ..
แล้วผมจะมาทำไมวะเนี่ย...
แต่ตอนนี้คงช้าไปแล้วล่ะ เป็นไงเป็นกัน!
"ผมมาสมัครชมรมบาสเกตบอลครับ"หลังจากได้บัตรคิวเกือบสุดท้ายมา
ในที่สุดก็ถึงคิวผมสมัครสักที
"นายแน่ใจนะว่ามาไม่ผิดชมรม"พี่หน้าหล่อตรงหน้าถามผม
"เออ..นี้มันก็ชมรมบาสไม่ใช่หรอครับ"พี่เขาก็น่าจะเห็นป้ายที่ตัวเองติดหนิ
ก็เขียนอยู่ว่าชมรมบาสเกตบอล แล้วที่ผมพูดมันก็ชมรมบาสเกตบอลเหมือนกัน
พี่เขาสับสนอะไรรึเปล่าครับ
"ฉันหมายถึงคิดถูกแล้วหรอที่จะเข้า"
"คิดแล้วสิครับ"คิดว่า..ไม่น่าเลย
แต่ผมในตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
"งั้นก็ลงชื่อตรงนี้
แล้วหลังพักเที่ยงมาเจอกันที่สนามบาสนะ"ผมเขียนชื่อตามที่รุ่นพี่ตรงหน้าบอก
ตาผมก็เหลือบไปเห็นรายชื่ออนาคตเพื่อนร่วมชมรม
อือหือ ไม่เบาเลยนะเรา
รายชื่อส่วนใหญ่ก็เป็นพวกอันธพาลที่เคยแกล้งผมมาแล้วทั้งนั้น ต้องบอกว่าทั้งชมรมมีแต่พวกมันเลยจะดีกว่า
น่าดีใจจริงๆที่เลือกชมรมนี้ตามคำแนะนำของรุ่นพี่แจบอม..
แบมแบมอยากจะเอาหัวโขลกกับแป้นบาสให้ตายๆไปซะ
ถ้าตายแล้วจะไปหักคอรุ่นพี่แจบอมด้วย
"ขอบคุณครับ"พอผมลงชื่อเสร็จก็โค้งให้พี่คนรับลงชื่อตรงหน้าและกำลังจะเดินออกไป
แต่พี่เขากลับคว้าแขนผมไว้พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง
"นายต้องระวังตัวให้มากๆนะรู้มั้ย"
"ครับ"พูดจบเขาก็ปล่อยแขนผมไป
ถึงไม่บอกผมก็ต้องระวังตัวจากคนพวกนั้นอยู่แล้ว
ไม่มีเหตุอันใดที่คนอย่างแบมแบมจะต้องเข้าไปพัวพันด้วยเลย
เอาเถอะ
มาถึงขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องกลัวจะโดนแกล้งอะไรแล้วล่ะ
เพราะยังไงก็โดนอยู่ดี
ตือตึง
คิมยูคยอม: เป็นไงบ้าง ชมรมละครเวที
แบมแบม: ต้องบอกใหม่ว่าชมรมบาสเกตบอลแล้วล่ะ
คิมยูคยอม: ฮะ! นายไปทำอะไรที่นั่นแบมแบม
แบมแบม: เรื่องมันยาวแต่จะสรุปให้ว่า
ทั้งหมดเป็นเพราะรุ่นพี่อิมแจบอม
คิมยูคยอม: แล้วเขาไปเกี่ยวอะไรกับชมรมละครเวทีล่ะเนี่ย
ก็ว่าทำไมฉันไม่เห็นเขามาที่ชมรมดนตรีเลย
แบมแบม : ช่างเขาเถอะ ว่าแต่นายสมัครเสร็จยัง
คิมยูคยอม: เสร็จแล้ว งั้นเจอกันที่โรงอาหารนะ
แบมแบม: โอเคค
ในโรงอาหารคนยังบางตาอยู่มาก
เลยเห็นคิมยูคยอมได้ง่ายกว่าเดิมเยอะ คงไม่มีใครห่วงกินเหมือนผมกับยูคยอมแล้วล่ะ
นี่ยังไม่พักเที่ยงเลยด้วยซ้ำแต่เพราะวันนี้ไม่ต้องเรียนจะทำอะไรก็ได้
"ยูคยอม
แล้วชมรมดนตรีเป็นไงบ้าง"หลังจากที่ผมกับยูคยอมมาเจอกันที่โต๊ะๆนึงในโรงอาหารแล้ว
ผมก็เปิดฉากคุยเรื่องที่น่าสนใจที่สุดของวันอย่างเรื่อง'ชมรม'
"ก็ปกติ
แค่รุ่นพี่แจบอมไม่ได้มาสมัคร
เหลือแต่เพื่อนร่วมวงอย่างรุ่นพี่ยองแจไว้คนเดียว"
"งั้นหรอ แปลกจัง"
"หลังกินข้าวเสร็จพี่เขาเรียกไปรวมที่ห้องดนตรีด้วย
ของนายก็คงโดนเรียกรวมเหมือนกันใช่ป่ะ"
"ก็ใช่นะสิ
นายว่าเขาจะเรียกไปทำไร"
"ก็คงเหมือนทุกๆปีนั่นแหละ
เลือกบัดดี้กับนัดแนะเวลานู่นนี้จิปาถะ"
"ให้ตายเถอะ
ฉันจะได้บัดดี้หรือได้ศัตรูกันแน่เนี่ย"
"ไม่แน่นายอาจจะได้รุ่นพี่สวยๆอย่างรุ่นพี่จอนยอนหรือรุ่นพี่นายอนมาเป็นบัดดี้ก็ได้"
"เหอะ สองในสามสิบคน โอกาสฉันก็เหมือนกลายเป็นศูนย์ไปแล้ว"
"ช่วยไม่ได้"
พวกเราพูดเรื่องไร้สาระต่างๆนานากันไปมากมายควบคู่ไปกับอาหารกลางวันรสเลิศ
ระหว่างนั้นเวลาก็ผ่านไปจนใกล้หมดเวลาพักเที่ยงแล้ว
"โชคดีนะแบมแบม
ขอให้นายได้บัดดี้ดีๆล่ะ"
"นายก็เหมือนกัน"
หลังจากแยกกันไปตามทางใครทางมันแล้ว
ผมมาถึงสนามบาสเกตบอลที่นัดกันเอาไว้เป็นคนแรกๆ มันเป็นสนามแบบกลางแจ้ง
ผมนั่งเงียบๆลงตรงมุมสนาม เพื่อนร่วมชมรมทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ มีทั้งพวกเซียนบาส
พวกอันธพาลหรือพวกที่ไม่ได้มีอะไรดีสักอย่างแบบผม
สายตาบางคู่มองมาทางผม มันกำลังบอกว่า 'ผมไม่สมควรมาอยู่ที่นี่' แต่ว่าผมสมัครไปแล้วอะโทษที
ไม่ได้อยากจะมาอยู่ให้เกะกะสายตาหรอก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
ผมจะไม่มาเหยียบสนามบาสเลย จะได้ไม่ต้องทนกับสายตาของเจ้าพวกบ้านี่
"ไงรุ่นน้อง ฉันชื่อจองยอนนะ
นายชื่ออะไร"รุ่นพี่จองยอนที่ยูคยอมพูดถึงเมื่อตอนกลางวันมายืนอยู่ตรงผมและเขาก็เป็นฝ่ายเข้ามาทักผมก่อนด้วย
"ผมแบมแบมอยู่ชั้นม.3ครับ"
"แล้วทำไมถึงมานั่งคนเดียวแบบนี้ล่ะ"รุ่นพี่จองยอนนั่งลงข้างๆผมโดนไม่สนสายตาคนอื่น
"ผมยังไม่รู้จักใครเลยครับ"
"นายคงเพิ่งจะเข้ามาเล่นสินะ
ถึงไม่รู้จักใครเลย"
"ใช่ครับ มีคนบอกผมมาว่าเล่นบาสแล้วจะตัวใหญ่ขึ้น"ใบหน้าของรุ่นพี่อิมแจบอมแวบเข้ามาในหัวผมทันที
"นายตัวเล็กแบบนี้
ก็น่ารักดีออก"รุ่นพี่จองยอนลูบหัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว
ถึงผมจะไม่ได้ตัวเล็กกว่ารุ่นพี่เขา แต่ก็ตัวเล็กกว่าผู้ชายทั่วไปมาก ก็เพิ่งม.3เอง คงจะสูงได้อีกแหละ
แต่การมีผู้หญิงที่ทั้งสวยและเท่แบบรุ่นพี่จองยอนมาลูบหัวผมแบบนี้
ผมก็เขินเป็นนะ
"คนอื่นเขาไม่คิดว่าผมน่ารักเหมือนที่รุ่นพี่จองยอนคิดหนิครับ
เขามองว่าผมอ่อนแอมากกว่า"
"ผู้ชายตัวเล็ก
ไม่จำเป็นต้องอ่อนแอซะหน่อย แค่กล้าเดินเข้ามาสมัครชมรมนี้
นายก็กล้าหาญมากแล้วล่ะ"
"ไม่หรอกครับ
ต้องขอบคุณรุ่นพี่ที่มานั่งข้างๆผมแบบนี้มากกว่า"
"ฮ่าๆๆ
ในชมรมนี้มันก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นหรอก ยังมีพวกที่ไม่ได้มองว่านายอ่อนแออยู่นะ
อย่างน้อยก็มีฉันหนึ่งคน แค่พวกบ้าๆก็มีอยู่เยอะ คงจะหาเพื่อนดีๆยากหน่อย"
"ผมก็หวังว่าจะได้รู้จักกับเพื่อนดีๆแล้วก็ได้บัดดี้ดีๆด้วยครับ"
"ได้อยู่แล้ว
ฉันเป็นกำลังใจให้"
'ทุกคนที่ลงชื่อเข้าชมรมบาสเกตบอล
ขอให้มาล้อมเป็นวงกลมตรงนี้ด้วยครับ'
"ไปตรงนู่นกันเถอะแบมแบม
เขาเรียกรวมแล้ว"รุ่นพี่จองยอนจับมือผมเดินฝ่าพวกตัวใหญ่ๆเข้าไปนั่งอยู่ในแถวที่ยาวเป็นวงกลม
คนที่นั่งอยู่อีกข้างนึงของรุ่นพี่จองยอนเป็นรุ่นพี่หน้าหล่อคนเดียวกับที่รับลงชื่อสมัครชมรมเมื่อเช้านั่นเอง
ผมไม่รู้จักหรอกนะ ไม่ค่อยจะคุ้นหน้าสักเท่าไรแต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าหล่อจริงๆ
พวกเขาสองคนดูสนิทกันมาก
หรือว่า...พวกเขาจะเป็นแฟนกัน
แบบนั้นก็เหมือนผมโดนหักอกเลยนะ ฮืออ
'เอาล่ะทุกคน
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชมรมบาสเกตบอลนะครับ อย่างที่รู้
ทุกชมรมจะต้องมีประธานชมรมถูกมั้ย และพี่ก็เป็นประธานชมรมบาสเกตบอลของปีที่แล้ว
ปีนี้พี่เลยต้องมาเลือกใครสักคนที่เห็นว่าเหมาะสมขึ้นมาดำรงตำแหน่งตรงนี้แทน
มันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอก แค่ต้องคอยแบกชื่อประธานชมรมเอาไว้แค่นั้นเอง
อาจจะมีสิทธิพิเศษบ้าง แต่ที่เหลือก็เหมือนคนอื่นๆในชมรมนั้นแหละ'รุ่นพี่ร่างยักษ์ที่ผมไม่รู้ชื่อ
พูดยาวเหยียดถึงเรื่องประธานชมรมอยู่ตรงกลางวงกลมที่มีคนสามสิบคนรอบเอาไว้
"..."
'ดังนั้นวันนี้เราจะมาหาประธานชมรมคนต่อไปกัน
ถึงแม้ว่าพี่จะมีอยู่ในใจแล้วว่าจะเลือกใคร
แต่เพื่อความเท่าเทียมของทุกคนพี่จะให้แข่งกันชู้ตบาสลงหวงแบบหนึ่งต่อหนึ่งไปเรื่อยๆจนได้ผู้ชนะ
จะได้เห็นกันไปเลยว่าเก่งพอที่จะมาเป็นประธานต่อ
ถ้าใครคิดว่าอยากจะขอท้าก็ลุกขึ้นเลย'หลังจากที่อดีตประธานพูดซะยาวเป็นหางว่าว
พวกรุ่นพี่อันธพาลก็ลุกขึ้นประมาณสี่ห้าคน ส่วนรุ่นพี่จองยอนก็กำลังคะยั้นคะยอ
รุ่นพี่ผู้ชายข้างๆให้ลุกขึ้น จนสุดท้ายรุ่นพี่คนนั้นก็ต้องยอมลุกขึ้นอย่างจำใจ
จากที่ผมเปรียบเทียบผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแล้ว
ไอรุ่นพี่ข้างๆเนี่ยน่าจะตกรอบคนแรกเลยละมั่ง
'เอาล่ะ เราได้ผู้ท้าชิงมาทั้งหมดหกคน
จับฉลากเลือกคู่กันเสร็จแล้วก็แข่งกันเลย เริ่มที่คู่แรก'
พวกที่เหลือที่นั่งเป็นวงในตอนแรกก็กระจายกันไปนั่งตามขอบสนามแทน
ผมกับรุ่นพี่จองยอนก็เช่นกัน
แล้วทำไมผมต้องมานั่งดูด้วยฟ่ะ
ไปแข่งกันให้เสร็จแล้วค่อยมาบอกผลไม่ได้รึไง
งั้นผมขอตัวงีบล่ะ ถึงเสียงเชียร์รอบตัวจะดังแค่ไหนผมก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว
เมื่อคืนนอนดึกด้วยสิ...
"เย้!!!ชนะแล้วว"ผมตื่นขึ้นมาก็เพราะเสียงกริ๊ดของรุ่นพี่จองยอนที่นั่งอยู่ข้างๆ
เสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วสนาม คงได้ผู้ชนะแล้วสินะ
แต่ทำไมรุ่นพี่จองยอนถึงดีใจขนาดนั้นน่ะหรอ
ก็รุ่นพี่ผู้ชายคนนั้นชนะน่ะสิ!!
ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย นี่เขาคว่ำไอพวกนั้นได้หมดเลยหรอ
เก่งไม่หยอกเลยแฮะ เสียดายที่ผมไม่ได้ตื่นมาดู
'ในที่สุดเราก็ได้ผู้ชนะที่จะมาเป็นประธานชมรมคนต่อไปแล้วนะครับ'
'มาร์ค ต้วน'
หลังจากที่ได้ประธานชมรมคนใหม่แล้วเราก็ต้องมาจับคู่บัดดี้กันต่ออีก
นี้มันจะบ่ายสามแล้วนะมีหวังวันนี้คงได้กลับบ้านห้าโมงแหง
'วิธีการเลือกบัดดี้ของชมรมเราไม่มาจับชื่อกันหรอกนะมันธรรมดาเกินไป
พวกนายคงเคยเห็นเวลาเจ้าสาวเขาหันหลังโยนช่อดอกไม้กันใช่มั้ย วันนี้เราจะมาโยนลูกบาสแทน
จะต้องมีคนนึงไปยืนอยู่ตรงนู่นแล้วหันหลังโยนลูกบาสมาทางนี้
ใครที่แตะลูกบาสได้เป็นคนแรกไม่ว่าจะด้วยส่วนใดของร่างกาย
ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็จะต้องเป็นบัดดี้กับคนที่โยนลูกมา เอาล่ะ
ถ้าชื่อใครโดนเรียกให้ถือลูกบาสไปยืนข้างหน้าได้เลย'
"งี้ถ้าผมอยากคู่กับรุ่นพี่จองยอน
ผมก็ต้องเข้าไปแตะลูกที่รุ่นพี่โยนมาให้ได้เป็นคนแรกใช่มั้ยครับ"
"ใช่แล้ว แต่ถ้านายโดนเรียกก่อน
ฉันจะเข้าไปแตะลูกเป็นคนแรกให้เอง"
"ขอบคุณนะครับ รุ่นพี่น่ารักที่สุดเลย"
'คนแรก จองยอน'พอชื่อของรุ่นพี่จองยอนถูกเรียก
พวกผู้ชายก็หวีดหวาดกันใหญ่ แล้วผมจะไปแย่งลูกได้ยังไงเนี่ย
"แบมแบม รับให้ได้ล่ะ"
"ครับ.."
รุ่นพี่จองยอนเดินถือลูกบาสออกไปยืนประจำตำแหน่งข้างหน้าก่อนจะหันหลังแล้วก็..โยนนน!!
ผมเอื้อมแขนออกไปจนสุดแขน ตอนที่ลูกกำลังลอยเข้ามาใกล้
แล้วมือของคนข้างหน้าผมก็แตะกับลูกก่อนที่ผมจะได้แตะมัน
มือใคร!!!
'ไหนใครแตะได้ แสดงตัวหน่อย'
"ฉันเองค่ะ อิมนายอน"
'งั้นนายอนกับจองยอนพวกเธอเป็นบัดดี้กันนะ
ดูแลกันให้ดีละ'
"ค่ะรุ่นพี่"
รุ่นพี่จองยอนเดินกลับมาพร้อมกับรุ่นพี่นายอน
ก่อนที่เขาจะเดินสวนไปก็ตบลงที่บ่าของผมเหมือนกับจะบอกว่า สู้ต่อไปนะ แล้วพวกพี่เขาเดินออกจากสนามไป
ทิ้งผมเอาไว้กลางสนามบาสพร้อมกับคนที่เหลือ
ความหวังของผมดับลงไปในชั่วพริบตา
คิมยูคยอม
ไหนนายบอกว่าฉันอาจจะได้คู่กับหนึ่งในสองคนนั้นไง แล้วไหงพวกเขาถึงไปคู่กันเองล่ะ
คนแล้วคนเล่าผมก็ยังไม่โดนเรียกชื่อสักที พอมีคนธรรมดาๆโดนเรียก
ผมก็พยายามจะไปแย่งลูกมา ก็ผมอยากจะมีบัดดี้ดีๆหนิ
จะได้ไม่มาแกล้งผมแล้วคอยดูแลซึ่งกันและกัน แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกินเพราะไอพวกรุ่นพี่นิสัยเสียเอาแต่บังผมไว้จนมิด
เดี๋ยวก็งับหัวให้หรอก
'คนต่อไป แบมแบม'ในที่สุด ชื่อของผมก็โดนเรียก
"ครับ"ผมขานรับและเริ่มไล่มองไปในกลุ่มคนที่เหลืออยู่
แต่ละคนมองมาทางผมไม่ต่างกับฝูงไฮยีน่าเลย ถ้าหนึ่งในพวกนี้ได้ลูกบาสของผมไปละก็
มีหวังผมได้กลายเป็นซากแน่
แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นท่านประธานคนใหม่ มาร์ค ต้วน
กำลังงีบอยู่ตรงขอบสนามด้านหลังนู่น ทั้งทียังไม่ได้บัดดี้เลยแท้ๆแต่เขากลับไม่สน
ตอนที่ตัวเขาได้ตำแหน่งยังไม่มีทีท่าว่าจะดีใจอะไรเลยด้วยซ้ำ เย็นชาซะจริง
แต่เขาก็ดูเป็นรุ่นพี่ที่ดี อย่างตอนที่ผมไปลงชื่อกับเขาเมื่อเช้า
เขายังดูเป็นห่วงเป็นใยผมอยู่เลย
เขาคือทางเลือกสุดท้ายของผมแล้ว
ถ้าสวรรค์ไม่ใจร้ายเกินไปก็ขอให้ผมโยนลูกไปโดนเขาทีเถอะ
ผมเข้าประจำที่ หลับตาปี๋ก่อนจะโยนลูกบาสออกไปสุดแรงเกิด
ก็พี่เขาอยู่ขอบสนาม ถ้าไม่ออกแรงให้สุดคงไม่ถึง
ปั๊ก
ผมลืมตาขึ้น หันไปตามเสียงที่กระทบกับลูกบาส
รุ่นพี่มาร์คลืมตาขึ้น
เขาลุกไปเก็บลูกบาสที่กลิ้งไปมาอยู่ตรงหน้าเขาขึ้นมาก่อนจะเดินเข้ามาหาผม
"นายโยนมาใช่มั้ย"
"ครับผมเอง"
"อยากตายหรอ"
"ไม่อยากครับ.. ขอโทษครับ"
'อย่ามาทะเลาะกันสิ ต่อไปพวกนายก็ต้องเป็นบัดดี้กันแล้ว
ยังไงกฎก็ต้องเป็นกฎ มาร์คและแบมแบม ตอนนี้พวกนายเป็นบัดดี้กันแล้ว'
"งั้นผมขอตัว"
"ผมขอตัวกลับด้วยนะครับ"
ผมวิ่งตามอีกคนออกมาจากสนามบาสนั่น ผมต้องต้องวิ่งตามในขณะที่เขาแค่เดินหนี
แค่โดนลูกบาสเองทำไมต้องโกรธกันขนาดนั้นด้วยเหล่า นี้พวกเราเป็นบัดดี้กันแล้ว อะไรอภัยได้ก็ขอผมเถอะ
"รุ่นพี่มาร์ค รอผมก่อน"
"..."
"รุ่นพี่มาร์ค"
"..."
"นี่มันลานเล็กที่เขาเลืองลือกันว่าผีดุที่สุดในโรงเรียนหนิ"ผมวิ่งตามรุ่นพี่มาร์คมาติดๆ จนไม่ได้สนใจเลยว่าวิ่งมาจากทางไหน พอมาสังเกตอีกที ก็อยู่ในที่ที่ผมบอกกับตัวเองมาตลอดว่า จะไม่มีวันเข้ามาเหยียบ
"หึ เรื่องหลอกเด็กแบบนั้นใครเชื่อก็โง่แล้ว"
"รุ่นพี่หลอกด่าผมหรอครับ"
"เปล่า ถ้านายขี้ขลาดก็ออกไปสิ"
"ผมไม่ได้ขี้ขลาดนะ เออ..ว่าแต่เมื่อกี้ขอโทษนะครับ ที่ผมทำให้ตื่น"
"..."
"แล้วตรงที่โดนบาสเป็นไงบ้างครับ
ผมว่ารุ่นพี่น่าจะไปห้องพยาบาลหน่อยนะ"
"..."
"ตอนนี้ เราเป็นบัดดี้กันแล้ว พี่ไม่คิดจะพูดอะไรกับผมหน่อยหรอครับ"
"..."
"อย่างเช่น มาสนิทกันเถอะ
เย็นนี้ฉันจะเลี้ยงเนื้อย่างนายเอง"
"ย๊าาา!! เงียบสักที ฉันจะนอน"
"..."
ผมได้แต่นั่งเงียบหลังจากโดนบัดดี้ตัวเองตะคอกใส่เป็นครั้งแรก
นี่ผมมาเป็นบัดดี้กับใครเนี่ย
เขาเอาแต่นอนพิงต้นไม้ไม่สนใจผมที่กำลังนั่งเอ๋ออยู่ตรงหน้าเขาเลย
ผมจ้องมองที่ใบหน้าเรียวของเขา หน้าผากเขามีรอยสีม่วงช้ำด้วย
คงเกิดจากบาสที่ผมปาไปแน่เลย โชคดีที่ผมโดนแกล้งบ่อยๆเลยได้แผลมาประจำเลยต้องพกยาทาแผลฟกช้ำติดตัวตลอด
ผมถือวิสาสะ ป้ายเจลใสๆลงบนรอยช้ำที่สีเริ่มม่วงขึ้นบนหน้าผากของบัดดี้คนใหม่ ผมพยายามทำให้เบามือที่สุดจะได้ไม่ปลุกอีกคนให้ลุกขึ้นมาด่าอีกรอบ
ตามด้วยพลาสเตอร์ยาลายปิกาจูที่ผมชื่นชอบ
"ขอบคุณนะครับที่มาเป็นบัดดี้ให้ผม
แต่ถ้าให้ดีก็อยากจะรู้จักรุ่นพี่มากกว่านี้ ให้สมกับที่เราได้เป็นบัดดี้กัน"ผมพูดเบาๆให้กับคนที่กำลังหลับอยู่
ก่อนจะกระฉับเป้เข้าหาตัวแล้วลุกขึ้นหันหลังกลับออกไปจากที่นี่
"ฉันไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอกนะ แล้วก็หยุดเรียกรุ่นพี่สักที
เรียกแค่พี่ก็พอ ฉันรำคาญ"ผมหันหลังกลับไปมองอีกคน เขายังคงหลับตาและอยู่ในท่าเดิม
ถ้าจะคุยกัน ลืมตาสักหน่อยก็ได้มั่งครับ พี่มาร์ค
"อ่อครับ งั้นผมไปนะ"
"นี่นาย..ขอบใจนะ ที่ทำแผลให้"
_______________________ 50%
"วันนี้พวกนายเป็นอะไรกัน เงียบพิลึก"หลังจากทนกับความอึดอัดที่แผ่ซ่านไปทั่วโดยเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสามคน ไม่ไหว ยองแจที่รับรู้ได้และไม่คิดจะปล่อยให้มันผ่านไป จึงถามขึ้นท่ามกลางความเงียบที่เขาไม่สามารถเข้าถึงได้
"..."ความเงียบยังคงอยู่ ต่างออกไปแค่ทุกคนหยุดก้มลงมองอาหารสีจืดชืดตรงหน้าแล้วหันไปให้ความสนใจกับเจ้าของเสียงแจ้วแทน
"นี่แจบอม..นายไม่เห็นบอกอะไรฉันเลย ทั้งทีก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันไว้แล้วแท้ๆว่าจะเข้าชมรมดนตรีด้วยกันเหมือนปีก่อน ไหงทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวทั้งที่พวกนายสามคนได้อยู่ด้วยกัน.. น่าหงุดหงิดชะมัด"แก้มตุ้ยนุ้ยเก็บอากาศไว้เต็มทั้งสองข้างแก้ม บ่งบอกว่ายองแจกำลังงอนแล้ว
"ก็ฉันเปลี่ยนใจกระทันหันหนิ"เจบีตอบตามความจริงอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ว่าสมองจะเต็มไปด้วยเสียงดนตรีแต่ในใจมันกลับมีแต่เสียงเจื่อยแจ้วของจินยองอยู่เต็มทั้งดวง การตัดสินใจของเขาในวันนี้จะไม่ผิดพลาด
เขาทำถูกแล้ว..
ขอโทษนะยองแจ...
"ฉันก็เหมือนกัน..เพราะจินยอง"
"ฉันไปเก็บจานก่อนนะ ยองแจ"จินยองลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะพร้อมจานอาหารที่ยังเหลือข้าวอยู่ไม่ต่างจากเดิม ก็เขาเอาแต่เขี่ยข้าวเล่นยังไม่ได้ตักใส่ปากเลยสักคำ
"ฉันไปด้วย"
"ฉันไปด้วย"
"เอาที่พวกนายสบายใจเลย ทิ้งฉันไว้ตรงนี้แหละ"คำประชดประชันถูกเอ่ยขึ้นโดยยองแจคนที่กำลังจะถูกทิ้งเอาไว้คนเดียว
ถ้าเขารู้ก็คงจะชวนยองแจมาสมัครด้วยกันแล้ว เพียงแต่เขาไม่รู้มาก่อนเลยจริงๆว่าแจบอมจะมาเปลี่ยนใจออกมาจากชมรมดนตรีกระหันทันแล้วขทิ้งยองแจไว้คนเดียวแบบนั้น
ตะเกียบเงินถูกจับแยกจากถาดอาหาร วางลงในส่วนที่มันควรอยู่ด้วยฝีมือของคนที่มาใหม่อย่างจินยอง แจ็คสันและเจบีตามลำดับ มื้อกลางวันผ่านพ้นไปอย่างสมบูรณ์แบบ จินยองตัดสินใจเดินนำอยู่ข้างหน้าคนเดียว ความอึดอัดที่ต้องคอยแบกรับไว้ก่อนหน้านี้ก็ผ่อนคลายลงไปบ้าง ถ้าไม่ติดที่ว่ามีคนคอยตามอยู่สองคนและสองคนนี้ก็คือสาเหตุของความอึดอัดทั้งปวง
"แต่จินยองอยากไปคนเดียวรึเปล่า ถ้านายต้องการอย่างนั้นฉันจะไปรอที่โรงละครก่อนก็ได้"เหมือนอ่านใจออก แจ็คสันถามจินยองที่เงียบไป
"แน่นอนสิ"
"งั้นหรอ.."
ดวงตาทั้งสามสิบคู่ที่อยู่ในโรงละครแห่งนี้กำลังจ้องมองมายังเวทีในตำแหน่งที่จินยองยืนอยู่ แต่มีตาเพียงสองคู่ที่มองอย่างใจจดใจจ่อกว่าใครและคอยภาวนาอ้อนวอนต่อพระเจ้าให้กระดาษผืนบางนั้นปรากฎชื่อของเขาเอาไว้บนนั้น
มือบางล้วงลงไปในกล่องลึกตรงหน้า ควานหากระดาษที่เขาสัมผัสแล้วรู้สึกถูกชะตาที่สุดเพียงใบเดียวขึ้นมา
จะเป็นใครก็ได้.. ที่โชคชะตากำหนดมาให้เขา
กระดาษถูกคลี่ออกจนเห็นตัวอักษรที่เขียนเอาไว้
ความคิดเห็น