คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : - First kiss -
The t(h)ree of us Vl
-First kiss-
สองโคนของซอฟท์ครีมสีขาวนวลอยู่ในมือของพวกเขาทั้งคู่
แจ็คสันและจินยองเดินไปตามทางในเวลาเกือบหกโมงเย็น
ท้องฟ้าสีส้มสดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินมืดครึ้ม
มือประสานกันแนบชิดจนไม่เหลือช่องว่างให้อะไรมาแทรกได้
แม้ว่าความสัมพันธ์จะไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
แต่พวกเขาก็รู้ดีว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น
"เลอะหมดแล้ว"แจ็คสันเช็ดครีมที่เปื้อนอยู่บนริมฝีปากของจินยองออก
นิ้วเรียวของจินยองจิ้มไปที่ซอฟท์ครีมของตัวเองก่อนจะป้ายไปที่แก้มของอีกคน
"นายก็เลอะเหมือนกัน"
"ก็นายเอามาป้ายฉันนี่นา ฮ่าๆๆ"
รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฎเด่นชัดอยู่บนใบหน้าของทั้งสอง
เวลาที่เขาได้อยู่ด้วยกันเดินข้างกันหยอกล้อกัน
มันทำให้หัวใจของจินยองพองโตกว่าครั้งไหนๆ เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร
ถึงไม่รู้ว่าควรเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไรดี อาจจะเป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบรึเปล่า
มันจะเร็วไปสำหรับเขามั้ย ถ้าจะใช้คำว่า รัก
กับคนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงเดือน
"เกือบลืมไปเลย
นายเลือกชมรมรึยังแจ็คสัน"เพราะว่าพรุ่งนี้จะต้องเลือกชมรมแล้วแต่จินยองยังไม่มีชมรมไหนที่สนใจเป็นพิเศษเลย
ถ้ารู้ว่าแจ็คสันจะเข้าชมรมไหนคงจะเอามาใช้ในการตัดสินใจของเขาได้บ้าง
ถึงจะพอเดาได้แต่จินยองก็เลือกที่จะถามคนข้างๆให้ตอบด้วยตัวของเขาเองดีกว่า
"ฉันคงเข้าชมรมเกี่ยวกับกีฬาแหละมั่ง
ถ้าไม่เปลี่ยนใจก่อน"คำตอบของแจ็คสันไม่ต่างจากที่จินยองคิดเอาไว้เลย
ประธานชมรมกีฬาแย่งตัวแจ็คสันกันเป็นว่าเล่น คงไม่แปลกถ้าจะเห็นเขาเข้าชมรมกีฬา
"แล้วนายได้เลือกชมรมไว้บ้างรึยังจินยอง"แจ็คสันถามกลับ
เขาเดาไม่ถูกเลยว่าอีกคนจะมีชมรมอะไรอยู่ในใจบ้าง
"ฉันหรอ..ไม่รู้สิ
คงจะเป็นชมรมหนอนหนังสือหรือไม่ก็ชมรมเพาะชำอะไรประมาณนั้นมั้ง
ดูไม่ค่อยหน้าตื่นเต้นเลยเนอะว่ามั้ย"
"ไม่หรอก อะไรที่นายคิดว่าใช่ยังไงมันก็ใช่"
"อยู่ชมรมเดียวกับคนที่ชอบก็น่าสนุกดีนะ
จะได้เจอหน้ากันบ่อยๆ"
"งั้นในชมรมที่นายจะเลือกพรุ่งนี้ก็ต้องมีคนที่นายชอบอยู่ด้วยใช่รึเปล่า"
"ฉันไม่บอกนายหรอกแจ็คสัน
มันเป็นความลับ"นิ้วชี้เรียวแนบกับริมฝีปากยู่ ยิ้มหวานจากจินยองถูกส่งไปให้แจ็คสันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วภายในเวลาไม่ถึงวัน
จากโรงเรียนไปถึงร้านค้าไม่ได้ห่างกันเกินไป
ดังนั้นจึงไม่ห่างจากบ้านของจินยองด้วย
แจ็คสันที่บ้านไปทางเดียวกันอยู่แล้วเลยอาสาจะไปส่งจินยองที่บ้านก่อน
"เออใช่ ฉันลืมไปสนิทเลย
วันนี้แจบอมเป็นอะไรหรอทำไมไม่มาโรงเรียนล่ะจินยอง"
คำว่า'แจบอม'จากปากของแจ็คสัน ทำให้จินยองถึงกับหยุดชะงัก
ทั้งวันเขาแทบไม่ได้นึกถึงแจบอมเลย คงเพราะได้อยู่กับแจ็คสันทั้งวัน
ความสุขที่คนอย่างจินยองไม่คิดจะได้พบได้เจอมาก่อนก็มาอยู่ตรงหน้า มันทำให้เขาหลงระเริงจนลืมไปหมดทุกอย่าง
ทั้งๆที่บอกกับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะรีบกลับไปเยี่ยมแจบอมให้เร็วที่สุด
เพราะแจบอมต้องมาป่วยแบบนี้ก็เป็นเพราะเขา
ขอโทษ... คงเป็นคำพูดเดียวที่เขาอยากจะบอกกับแจบอมในเวลานี้
จินยองรีบก้มมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเองทันที หลังจากรอสมองประมวลผลอยู่นาน
ตอนนี้ก็เป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว
คนที่เขาทิ้งไว้ให้คอยคงได้แต่นอนป่วยรอให้เขากลับไปหา
แต่เขากลับลืมคนๆนั้นไปซะสนิท แถมแบตโทรศัพท์ของพัคจินยองก็ดันมาหมดพอดีอีก
คงมีสายที่ไม่ได้รับจากอิมแจบอมเป็นพันสายแล้วมั้ง
"ป่วยน่ะ เออ...ฉันมีบางอย่างต้องรีบไปทำน่ะ
นายไม่ต้องไปส่งฉันแล้วก็ได้นะแจ็คสัน"
"แต่ฉันอยากไปส่งนายนะ"
"เอาวันอื่นคอยไปส่งก็ได้แต่วันนี้ฉันรีบมากเลย ขอโทษนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกจินยอง
งั้นฝากบอกแจบอมด้วยนะว่า ขอให้หายไวๆ"
"ได้เลยฉันจะบอกเขาให้
งั้นฉันไปก่อนนะ บาย"
"บาย"
หลังจากที่แยกตัวออกมาจากแจ็คสัน
จินยองก็ออกตัววิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เขาเห็นทางเท้ากลายเป็นลู่วิ่งไปแล้ว
ที่เขารีบมากขนาดนี้ก็เพราะเป็นห่วงแจบอมที่กำลังป่วยอยู่
พ่อแม่ของแจบอมค่อยข้างยุ่งตลอดเวลา ไม่บ่อยนักที่จะเห็นพวกเขาอยู่บ้านด้วยกัน
แจบอมเลยต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆ
และจินยองก็กลัวว่าแจบอมจะเป็นห่วงเขามากเกินไปจนไม่ได้พักผ่อน
ขนาดจินยองแค่โดดเรียนไปงีบ แจบอมยังโทรหาเป็นร้อยสาย
ครั้งนี้เขาออกมาเที่ยวข้างนอก ถึงแจ็คสันจะมาด้วยก็เถอะ
แต่แจบอมก็ไม่รู้ว่าจินยองจะไปไหนกับใครแถมตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วย...
คงต้องรีบหน่อยแล้ว
จินยองวิ่งตามทางมาเรื่อยๆจนใกล้ถึงความเร็วที่ใช้วิ่งก็ค่อยๆลดลงตามระยะทางที่เหลือน้อยลงด้วย
มองจากไกลๆก็เริ่มจะเห็นรั้วบ้านแล้ว แต่มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหน้าบ้านของแจบอมด้วย
เหมือนจะเป็นเก้าอี้แล้วก็มีคนนั่งอยู่
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร..
คนที่จะมานั่งอยู่หน้าบ้านในเวลากลางค่ำกลางคืนแบบนี้ได้
จะมีอยู่กี่คนกัน
จินยองเริ่มวิ่งอีกครั้งจนมาถึงตัวคนที่นั่งอยู่
ไม่มีทั้งผ้าห่มหรือเสื้อหนาๆอยู่บนตัวเขาเลยสักชิ้น
ทั้งที่เป็นไข้อยู่แท้ๆแต่กลับมาออกมานั่งอยู่แบบนี้ จินยองไม่รู้โกรธใครดี
ระหว่างแจบอมกับตัวเขาเอง
"แจบอม ทำไมถึงออกมานั่งตากลมอยู่ข้างนอกแบบนี้ล่ะ"มือบางอังไปที่หน้าผากของอีกคน
มันร้อนมากบวกกับสีหน้าอิดโรยของแจบอมบ่งบอกว่าเขาไม่ได้พักผ่อนเลย
มันทำให้จินยองรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว
"จินยอง ทำไมเพิ่งกลับ"เสียงแผ่วเบาของแจบอมดังขึ้น
เขาจับมือบางของจินยองเอาไว้แน่น
"ช่างมันเถอะน่า ทำไมนายไม่ห่วงตัวเองบ้างนะแจบอม"จินยองพยุงอีกคนขึ้นมาจากเก้าอี้
เขายกแขนยาวของแจบอมมาพาดบ่าเอาไว้ แขนเล็กโอบไปรอบเอวของอีกคนเพื่อช่วยพยุงไม่ให้ล้ม
"นายไปไหนมา ฉันเป็นห่วงนายแทบแย่"จินยองที่ไม่ได้สนใจกับคำพูดนั้นเลยแบกแจบอมขึ้นไปบนห้องนอน มือบางคลำไปตามกำแพงเพื่อเปิดสวิตซ์ไฟอย่างทุลักทุเล เปลี่ยนจากห้องมืดมิดให้สว่างพอที่จะมองเห็นได้ ข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง จินยองวางคนป่วยลงบนเตียงรก
จินยองเริ่มเก็บของบนเตียงให้เข้าที่เข้าทางจนเรียบร้อย
หลังจากนั้นก็เดินไปหยิบผ้ามาผืนนึงพร้อมกับน้ำเต็มขัน
ขันใบนั้นถูกวางลงบนโต๊ะข้างๆเตียง ผ้าผืนบางซึมซับน้ำอุ่นเอาไว้จนชุ่มทั้งผืน
มือบางไล่ปลดกระดุมเสื้อของอีกคนทีละเม็ดๆจนหมด เผยให้เห็นแผงอกกว้างกับหน้าท้องแกร่ง
ผ้าผืนบางจากขันถูกบิดจนหมาดเพื่อนำมาดูดซับความร้อนจากตัวของอีกคน
มือบางไล่ผ้าไปตามใบหน้าที่คุ้นตา มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
ยกเว้นร่างกายภายใต้เสื้อนั่น
ถึงจะพอรู้อยู่แล้วว่าแจบอมโตขึ้นมากจากเมื่อก่อน
แต่จินยองก็เพิ่งจะเคยมานั่งมองอีกคนแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะต้องมาเช็ดตัวให้ผู้ชายด้วยกันเองแบบนี้มาก่อน
ก็ทำเอาเขินอยู่ไม่น้อยเลย ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดก็ตาม แต่สำหรับจินยองแล้ว ยิ่งสนิทกันแค่ไหน
มันยิ่งแปลกมากขึ้นไปเท่านั้น
ที่เคยเห็นก็มีแค่แม่กับลูก พยาบาลกับคนไข้ ไม่ก็..
พระเอกกับนางเอกในนิยายเท่านั้นแหละ
เมื่อเช็ดตัวให้จนอีกคนตัวเย็นลงแล้ว จินยองก็กำลังจะหันหลังเดินจากไปแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า
ถ้าทิ้งแจบอมไว้ที่นี่ แจบอมคงต้องอยู่คนเดียวไปถึงเช้ากว่าพ่อแม่แจบอมจะกลับบ้าน
ระหว่างนั้นแจบอมจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีคนคอยเช็ดตัวให้ มีหวังไข้ไม่ลดลงแน่
จินยองจึงตัดสินใจว่าคืนนี้จะมานอนที่นี่กับแจบอม ถึงจะเคยมานอนกับแจบอมบ้างแล้วก็เถอะ
แต่มันก็นานมากแล้วที่ไม่ได้มานอนบนเตียงเดียวกัน จำได้ว่าล่าสุดก็เพิ่งจะม.2เอง จู่ๆแจบอมก็แปลกๆไป ไม่ยอมให้มานอนด้วย เอาแต่อ้างว่า
เตียงมันเล็กเกินไปสำหรับนอนสองคน ทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ได้เล็กอะไรเลย
อาจจะเป็นเพราะจินยองชอบเขยิบไปเบียดแจบอมอยู่เรื่อย สำหรับเขาแล้วมันทำให้รู้สึกอบอุ่น
แต่กับแจบอมอาจจะรู้สึกอึดอัดมากกว่าก็ได้มั้ง
"แจบอม งั้นเดี๋ยวฉันมานะ"
"นายจะไปไหนอีก"แจบอมคว้ามืออีกคนเอาไว้
"นายพักเถอะ ไม่ต้องห่วง"จินยองแกะมือนั้นออก วางไว้บนตัวของเจ้าของก่อนจะดึงผ้านวมหนาขึ้นมาห่มให้แจบอมอย่างอ่อนโยน
"อย่าทิ้งฉันไปนานนะ"
"อืม"จินยองยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป
จินยองกลับเข้ามาในบ้านของเขาที่อีกไม่นานก็จะเป็นบ้านของคนอื่นไปแล้ว
ห้องครัวเป็นที่แรกที่เขาเดินเข้าไป
'แม่ครับถ้ากลับมาแล้วอ่านด้วย วันนี้ผมขอไปนอนบ้านแจบอมนะครับ
เดี๋ยวผมเอาเสื้อนักเรียนไปเปลี่ยนพรุ่งนี้เลย ไม่ต้องเป็นห่วง รักแม่นะครับ'โพสอิทสีสวยถูกติดไว้บนตู้เย็นรอให้แม่เจ้าของลายมือได้มาอ่านข้อความนี้
จินยองขึ้นไปหยิบของใช้ที่จำเป็นมาเตรียมไว้จากห้องของเขา
เขารีบอาบน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ทันไรจินยองก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย
เสื้อผ้าง่ายๆอย่างเสื้อแขนกุดกับกางเกงขาสั้นถูกหยิบยกขึ้นมาใส่
เมื่อไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วจินยองก็เดินออกจากบ้านของตนแล้วดิ่งตรงขึ้นไปบนห้องของแจบอมทันที
"แจบอม ฉันกลับมาแล้ว"ประตูถูกปิดลง ในห้องมืดไปหมด
ทั้งที่ก่อนออกไปจินยองก็เปิดไฟเอาไว้อยู่
"..."
"แจบอม"
"..."
"แกล้งกันแบบนี้มันไม่สนุกเลยนะ อิมแจบอม"เสียงเรียกหาเจ้าของห้องดังขึ้นพร้อมกับมือที่คล้ำหาสวิตซ์ไฟตามผนังห้องอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็หาไม่เจอสักที
ด้วยความที่จินยองไม่ค่อยถูกกับความมืดนักเลยลนลานไปหมด
เพราะเขาไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจะมีอะไรอยู่ภายใต้เงามืดนั้นบ้าง ห้องนอนของเขาเองจึงไม่เคยถูกปล่อยให้มืดเลยสักครั้งเดียว
อย่างน้อยก็ต้องมีไฟดวงเล็กๆเปิดเอาไว้ให้พอเห็นบ้างล่ะ
นอกจากว่าจะมีใครสักคนที่พอจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้จินยองได้ และคนอย่างอิมแจบอมก็เป็นหนึ่งคนที่ทำให้จินยองอุ่นใจเสมอแม้จะอยู่ในที่มืดแค่ไหนก็ตาม
"ถ้านายยังไม่เลิกเล่น ฉันไปล่ะ"ความกลัวบังคับมือบางให้หมุนกอนประตูออกไป
ภายในเงามืด อ้อมแขนกว้างโอบรั้งจากด้านหลังคนที่เพิ่งมาเยือนได้ไม่นาน
ประตูที่กำลังจะเปิดออกถูกปิดลงอีกครั้ง
"นายจะทิ้งคนป่วยแบบฉันไว้คนเดียวจริงๆหรอ"เจ้าของอ้อมแขนพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
"นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบความมืด"
"ฉันกอดนายอยู่ตรงนี้ คอยปกป้องนายจากทุกอย่างที่นายมองไม่เห็น
ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วหนิ "คางยาววางลงบนไหล่เล็กที่อยู่ข้างหน้า
แจบอมเพิ่มแรงกอดมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวให้อีกคนรู้ว่า
เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อะไรมาทำร้ายได้
"นายไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อฉัน แค่นี้นายก็ทำให้ฉันมามากพอแล้ว
ฉันไม่อยากเห็นนายมาเจ็บเพราะฉันบ่อยๆหรอกนะ"
"ก็เพราะฉันทั้งห่วงทั้งหวงนาย"
"..."
"เคยรู้ตัวบ้างมั้ยจินยอง"
"ระ..รู้อะไรของนายกันเล่า เมื่อกี้แทบจะยืนไม่ไหว
ตอนนี้หายแล้วรึไง"จินยองปลีกตัวออกมาจากอีกคนได้สำเร็จ
ตาที่เริ่มจะปรับให้เข้ากับความมืดได้แล้วจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งแสงก็มองเห็น
อีกอย่างแจบอมอยู่ที่นี่
ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว
"ยังไม่หายซะหน่อย
แค่กำลังใจดี"แจบอมเดินกลับไปที่เตียงของเขา นอนลงบนหมอนใบเดิม
จินยองที่ยืนอยู่ไม่ห่างเดินตามไปที่เตียง นอนลงให้ห่างกับอีกคนที่สุดเพราะกลัวว่าจะไปเบียดแจบอมอีก
พร้อมดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาห่มตัวเขาและแจบอมไว้
การนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันมันน่าอึดอัดอยู่ไม่น้อย แจบอมต้องคอยหักห้ามอารมณ์ฟุ้งซ่านไว้ข้างในเพราะกลิ่นตัวของอีกคนหอมฟุ้งไปทั่วแถมยังเลือกใส่เสื้อแบบนั้นมาอีก ส่วนจินยองเองก็ต้องตีหน้าตายเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งที่จริงความรู้สึกมันเปลี่ยนจากเพื่อนมาสักพักแล้ว พวกเขาหันหน้าเขาหากัน แม้ว่าจะหวั่นแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะแสดงอะไรออกมาให้แปลกเกินไป
จินยองใช้มือแตะไปที่ใบหน้าของอีกคนเพื่อวัดความร้อน ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นมากแล้ว แต่คืนนี้คงต้องตื่นมาดูอาการตลอด
"ดูเหมือนไม่มีอะไรต้องห่วงมากแล้วล่ะ งั้นฉันนอนก่อนนะ ฝันดี"จินยองชักมือกลับมากอดอดไว้ใต้ผ้าห่ม ตาปิดลงจนสนิท แล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสบางอย่างที่แก้มของเขา จินยองโพล่งลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เห็นอีกคนนอนยิ้มอยู่ เดาไม่ยากเลยว่าสัมผัสเมื่อนั้นคืออะไร
"อะไรของนายเนี่ย จู่ๆก็.."จินยองลูบแก้มข้างที่โดนลอบหอมไปโดยแจบอม
"กำลังใจไง"แค่หอมยังน้อยไปสำหรับคนอย่างอิมแจบอม เขาดึงอีกคนเข้ามากอดไว้แน่น จินยองชะงักไปสักพัก
"ไหนนายเคยบอกว่าเตียงมันเล็กไปสำหรับเราสองคนไง แล้วแบบนี้มันจะไม่เบียดกว่าเดิมหรอ"
"ก็ไม่เห็นต้องทำห่างเหินแบบนั้นเลยหนิ"
"ก็ฉันคิดว่านายไม่ชอบให้นอนเบียดซะอีก"
"ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ ก็แค่.."
"แค่อะไร"
"แค่ช่วงนั้นควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่น่ะ"
"ควบคุมอารมณ์.."
"มันก็แค่อารมณ์ของวัยรุ่นเลือดร้อนเท่านั้นละ อย่าไปสนใจเลย"
"แล้วตอนนี้คุมได้แล้วหรอถึงยอมให้ฉันนอนด้วย"
"ก็ไม่เชิงหรอก.."
"งั้นหรอ.."มือที่กอดอกอยู่ค่อยๆคลายออกแล้วกอดอีกคนเอาไว้ไม่ต่างกัน จินยองได้แต่ยิ้มในใจอยู่ลึกๆ
ก่อนที่ทั้งสองจะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
ตลอดทั้งคืนจินยองคอยตื่นมาเช็ดตัวให้แจบอมเป็นระยะๆจนแทบไม่ได้นอนพัก พอเริ่มเช้าจินยองเลยเผลอหลับไปจากความอ่อนเพลีย
แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านผืนบาง แจบอมตื่นขึ้นในเวลาเช้ากว่าทุกวัน คงเพราะได้กำลังใจจากคนข้างๆมาเยอะ วันนี้เลยรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน ไข้ที่เคยเป็นก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะเห็นว่ายังเช้าอยู่จึงไม่อยากจะปลุกอีกคนให้ตื่นก่อน
แจบอมลุกขึ้นจากเตียง ดึงผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป เพราะเป็นผู้ชายอาบน้ำเร็ว ไม่นานก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
จินยองยังนอนหลับอยู่ที่เดิม แจบอมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคน แก้มย้วยๆของจินยองทำให้เขาอดใจไม่ไหว ลอบหอมแก้มไปอีกที กลิ่นหอมอ่อนๆของจินยองไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
แต่ความจริงแล้วแจบอมก็ไม่ได้อยากจะแค่หอมแก้มหรอก
"ตื่นได้แล้วครับ คุณพัคจินยอง"ไม่มีการตอบสนองใดๆต่อเสียงของแจบอม
"ไม่ยอมตื่นหรอครับ"แจบอมแกล้งจี้เอวของอีกคนเพราะรู้ว่าจินยองเป็นพวกบ้าจี้ขั้นรุนแรง แล้วมันก็ได้ผล จินยองเริ่มขยับตัว ดิ้นไปมา แรงขึ้นเรื่อยๆ
"อืออ แจบอมหยุดดด ฉันตื่นแล้ววว"ปากก็บอกว่าตื่นทั้งที่ตายังไม่ลืมเลยด้วยซ้ำ ถึงแจบอมจะจี้อีกคนมากแค่ไหนจินยองก็ไม่มีวี่แววจะลุกขึ้นมาจากเตียงเลย ในเมื่อปลุกแบบนี้ไม่ตื่นแจบอมก็คิดวิธีที่ต้องทำให้อีกคนถึงกับสะดุ้งโหย่งได้แน่นอน แล้วเขาเองก็จะพลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วย
"นายจะไม่ตื่นแน่นะ"
"..."
"นับหนึ่งถึงสามถ้านายยังไม่ลุก ฉันจะจูบนาย"
"ขออีกสองวิ"จินยองนับเลขหนึ่งสองในใจก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง แต่กลับโดนมือของอีกคนกดเอาไว้กับที่ ปากร้อนผ่าวแตะกับปากอวบอิ่มตรงหน้าอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว เพียงแค่สัมผัสอย่างแผ่วเบาจากแจบอมก็สามารถปลุกจินยองได้อย่างดีถึงจะตกใจอยู่ไม่น้อย ก็ทำได้เพียงแค่หลับตาลงรับความรู้สึกนี้เอาไว้ ปล่อยให้อีกคนฉวยเอาจูบแรกของเขาไปต่อหน้าต่อตา
และต่อจากนี้ไป ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหน ผู้ชายอย่างอิมแจบอมก็จะขึ้นชื่อว่าเป็นจูบแรกของพัคจินยองไปตลอดกาล
แจบอมถอนจูบออก ปล่อยให้ปากอิ่มของอีกคนเป็นอิสระหลังจากที่ตัวเองเก็บเกี่ยวจนพอใจ จินยองค่อยๆลืมตาขึ้นจากภวังค์
ไม่มีใครกล้าพอที่จะสบตาอีกฝ่ายก่อน แม้แต่คนเริ่มเกมอย่างแจบอมก็ได้แอบลอบยิ้มอยู่คนเดียว ส่วนจินยองก็ยังมึนงงไม่ต่างกับคนเพิ่งสร่างเมา มันเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว รู้ตัวอีกที่ก็เสียจูบแรกให้กับเพื่อนสนิทตัวเองไปซะแล้ว
"ฉะ..ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ"จินยองรวบรวมสติทั้งหมดตอบก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป
กอนประตูห้องถูกปิดไว้อย่างแน่นหนาด้วยฝีมือของพัคจินยอง เขาตบหน้าตัวเองอยู่ด้านหน้าของกระจกบานใหญ่ถึงสามสี่หน เขาไม่รู้ว่าที่ตัวเองจะส่งผลยังไงต่อไป ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจ อยากจะลืมมันไปให้หมด แต่ในความเป็นจริงก็ทำแบบนั้นไม่ได้
ด้านแจบอมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะขโมยจูบแรกของอีกคนมาได้สำเร็จ สำหรับเขามันก็ค่อนข้างจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่จูบไปแบบนั้น แต่สำหรับจินยองแล้วมันคงเป็นเรื่องที่ทำให้เกือบหยุดหายใจไปเลยก็ได้
ตื้อตึง
(แจ็คสัน : ทักทายยามเช้า)
(แจ็คสัน : หวังว่านายจะมีชมรมในใจแล้วนะจินยอง)
โทรศัพท์ของจินยองที่ชาร์ตแบตอยู่บนโต๊ะข้างๆดังขึ้น แจบอมถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความจากแจ็คสัน ก็ไม่อยากจะใส่ใจอะไรมากเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรมากไปกว่าที่เห็น อีกอย่างเขากับแจ็คสันก็เริ่มจะเข้ากันได้ดี ไม่อยากจะคิดไปเองจนทำให้เสียเพื่อนอีก แม้ว่าก่อนหน้านี้ลางสังหรณ์ของแจบอมจะบอกว่าไม่ควรไปยุ่งแจ็คสันนัก
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าสองคนนี้เขาสนิทกันไปถึงขั้นไหนแล้ว...
แจบอมวางโทรศัพท์กลับไปไว้ที่เดิม ก่อนจะพาตัวเองลงมารอข้างล่างซึ่งตอนนี้ก็ยังเหลือเวลาอีกมากเลยไม่ต้องรีบร้อนอะไร ไม่นานจินยองก็เดินลงมา
"จินยองนายหิวรึยัง อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า"ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันก็ใส่รองเท้าไปด้วย
"ฉะ..ฉันหรอ แล้วแต่นายเลย"จินยองใส่เสร็จก่อนเลยรีบเดินออกมา มองก็รู้ว่าตั้งใจจะหลบหน้ากัน
"งั้นไปกินรามยอนที่มินิมาร์ทหน้าโรงเรียนกันนะ"แจบอมที่เดินตามหลังมาติดๆเสนอความคิดเกี่ยวกับอาหารเช้า
"อ่อได้สิ..ได้อยู่แล้ว"จินยองเอาแต่ก้มหน้าก้มตา จนแจบอมผิดสังเกต
"นายดูแปลกๆนะจินยอง โกรธที่ฉัน.."
"เปล่าา เปล่าหนิ"
"หรือว่านายเขินฉัน?"
"แล้วทำไมฉันต้องเขินนายด้วย"
"เพราะนายอาจจะตกหลุมรักฉันไปแล้วก็ได้"
"..."
ฉันจะกล้าไปตกหลุมรักกับเพื่อนที่สนิทที่สุดอย่างนายได้ยังไงกันอิมแจบอม..
เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับพวกเรา
________________________ 60%
มุมนึงของร้านมินิมาร์ทเล็กๆถูกเลือกให้เป็นที่ทานอาหารเช้าของแจบอมและจินยอง
อาหารง่ายๆอย่างรามยอนถ้วยถูกเลือกมาวางไว้ตรงหน้าของทั้งสอง
"แล้วนายได้เลือกชมรมไว้บ้างรึยังจินยอง"แจบอมถามอีกคนหลังจากปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่นาน
"ฉันก็มีในใจแล้วล่ะ นายก็คงเข้าชมรมดนตรีเหมือนเดิมใช่มั้ย"
"คงงั้นแหละ จะไปไหนได้"
"จะว่าไปก็ไม่ได้ฟังแจบอมร้องเพลงเลยนะช่วงนี้"
"เดี๋ยวนายก็จะย้ายมาอยู่กับฉันแล้วหนิ
ตอนนั้นฉันจะร้องให้ฟังเอง"
"จริงด้วยสินะ.."
วันอาทิตย์นี้พ่อกับแม่ก็จะไปแล้วด้วย
ใกล้ถึงเวลาที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่กับแจบอมแล้ว แค่เมื่อเช้ายังแทบแย่
ถ้าอยู่ไปอีกเป็นปี ตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้แล้ว หวั่นใจซะแล้วสิ ทั้งที่ตอนแรกเป็นคนงอแงไม่อยากไปเองแท้ๆ
ถ้วยรามยอนเปล่าถูกทิ้งลงถังขยะแถวนั้นหลังจากที่มันหมดไปโดยแจบอมและจินยอง
เพียงก้าวเท้าออกจากมินิมาร์มาแค่สิบก้าว
ประตูโรงเรียนก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว ภายในรั้วโรงเรียนเหมือนเดิมจนน่าเบื่อ
ต่างออกไปแค่ผู้คนที่พลุกพล่านจนน่ารำคาญ แจบอมเกลียดบรรยากาศแบบนี้จริงๆ
แต่ละปีก็ต้องคอยทนกับมันมาตลอด ไหนจะเข้าค่าย ไหนจะงานประจำปีอีก มีดีแค่อย่างเดียวคือไม่ต้องมานั่งเรียนในห้องเหมือนทุกวัน
กับกิจกรรมพวกนี้คำว่าสนุกสนานไม่เคยอยู่ในหัวแจบอมมาก่อน
แต่หลังจากที่จินยองเข้ามา อะไรที่เคยเป็นก็เปลี่ยนไปหมด
แค่อีกคนบอกว่าชอบ เขาก็ชอบตาม แค่อีกคนบอกว่าดี
ทุกอย่างก็ดีไปหมด
"แจบอมงั้นเราแยกกันตรงนี้เลยนะ
ฉันต้องไปตามหาชมรมแล้ว"
"แล้วไอ้ชมรมที่ว่านี่
มันชมรมอะไรล่ะ"
"ไม่บอกหรอก แบร่"พูดจบ
จินยองก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่รอให้อีกคนได้พูดอะไร
ในเมื่อไม่ยอมบอก อิมแจบอมก็ต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง
แค่เดินตามไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็รู้เองแหละ
จินยองเดินเข้าไปตรงลานใหญ่ ซึ่งตรงส่วนนี้วุ่นวายสุดๆ
เพราะหลากหลายชมรมมาเปิดรับสมัครที่นี่
นักเรียนทุกระดับชั้นจึงหลั่งไหลเข้ามาสมัครชมรมที่สนใจกันอย่างไม่ขาดสาย
ทำให้แจบอมคาดสายตาจากจินยองไปง่ายๆ
แจบอมเดินวนไปจนทั่วลานใหญ่
หลายชมรมเริ่มทยอยปิดป้ายรับสมัครเพราะชมรมนึงจะรับคนได้เพียงแค่สามสิบคนเท่านั้น ทำให้ผู้คนบางตาลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือชมรมที่คนอย่างแจบอมไม่ค่อยให้ความสนใจนักอย่างชมรมละครเวทีที่มีคนต่อแถวอยู่เยียดยาว
แจบอมที่ยืนอยู่ไกลๆไล่เพ่งมองไปตามแถวยาวจนถึงช่วงกลาง และสิ่งที่เขาเห็นก็ต้องทำให้ประหลาดใจ
เมื่อหนึ่งในนั้นมีจินยองยืนอยู่ด้วย
ยิ่งนานเข้า แถวยิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆจนเหมือนใกล้จะครบสามสิบคนเต็มที
แจบอมกำลังลังเล...
ตอนนี้เขาควรจะไปยืนอยู่หน้าชมรมดนตรีสิ
ใครก็ได้ช่วยเขาคิดทีว่าควรจะเลือกอะไร
"อ้าวแจบอม นายเป็นไงบ้าง
หายดีแล้วหรอ"แจ็คสันเดินมาสะกิดทักทายแจบอมจากด้านหลัง
"จะไม่ให้ฉันหายได้ยังไง มีจินยองคอยเช็ดตัวให้ทั้งคืน..."แจบอมหลุดปากออกไปอย่างจงใจ
หวังจะให้แจ็คสันได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับจินยองไว้บ้าง
"ดีจังเลยนะพวกนายน่ะ แต่เสียดายที่เมื่อวานนายไม่ได้มาโรงเรียน จินยองกับฉันเลยต้องไปเดินเล่นกันแค่สองคน.."แจ็คสันพูดถึงเรื่องเมื่อวานให้คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อย่างแจบอมฟัง
เขารู้ว่าทำไมแจบอมถึงได้พูดแบบนั้นออกมา
ไม่มีเหตุผลอะไรที่แจ็คสันจะไม่ตอบกลับบ้าง
"..คงสนุกมากเลยสินะ
เมื่อวานน่ะ"ภายใต้ใบหน้าเฉยชาของแจบอม
กำลังเอาแต่คิดว่าทำไมจินยองถึงไม่ยอมบอกเรื่องเมื่อวานกับตน
ไม่น่าล่ะ..เมื่อวานถึงกลับช้านัก
มัวแต่ไปเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นนี่เอง
"แน่นอนสิ ก็ไปกับจินยองหนิ
ว่าแต่นายเห็นเจ้าตัวบ้างรึเปล่า"
"จินยองหรอ
ไม่หนิ"แจบอมตอบหน้าตาย ทั้งที่มาอยู่ตรงนี้ได้เพราะมาแอบดูจินยองแท้ๆ
ตืด ตืด ตืด
"อ่า จินยองโทรมาแล้วล่ะ ดูสิ"แจ็คสันยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นดู เมื่อเห็นว่าเป็นจินยองที่โทรมา ก็หันไปให้แจบอมดูบ้าง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าจินยองมีเบอร์เขา หรือ เขามีเบอร์จินยองหรอกนะ
เขาก็แค่อยากบอก..เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหนิที่จะมีของเบอร์ของคนที่ตอนนี้เขาเรียกว่าเพื่อนอยู่ในเครื่อง
"..."แจบอมได้แต่ยืนมอง
ถึงแม้ว่าในใจมันจะร้อนรุ่มขนาดไหนก็ตาม
ก็เดี๋ยวนี้มีแจ็คสันแล้วหนิ
อย่างเขาจะไปมีความสำคัญอะไรให้โทรหาล่ะ
"ว่าไงจินยอง ฉันอยู่ที่ลานใหญ่แล้ว
นายอยู่ไหนล่ะ"
'ฉันต่อแถวชมรมละครเวทีอยู่นี่ไง
ตรงกลางๆลานใหญ่เลย ฉันจองคิวไว้ให้นายแล้วนะ รีบมาล่ะ'
"โอเค ฉันจะรีบไป"
'ฉันจะรอนะ'
"แจบอม
งั้นฉันไปก่อนนะไว้ค่อยคุยกัน"
"อืม ไว้เจอกัน"แจบอมโบกมือให้ตามมารยาท แจ็คสันโบกมือตอบก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตรงกลางลานใหญ่ที่มีป้ายชมรมละครเวทีอยู่ตั้งห่างออกไปจากที่พวกเขายืนอยู่
ตอนนี้แจบอมเริ่มคิดแล้วว่า ลางสังหรณ์ของเขาอาจจะเป็นจริง...
"มาแล้วหรอแจ็คสัน
นายนี่โคตรช้าเลย"จินยองที่กอดอกอยู่ในตอนแรก
ยื่นบัตรคิวให้แจ็คสันเมื่อเห็นอีกคนมาถึงแล้ว
"เมื่อกี้แวะคุยกับแจบอมแปบนึงน่ะ
ขอบใจสำหรับบัตรคิวนี่นะ"แจ็คสันรับบัตรคิวมาจากจินยอง
"งั้นหรอ แล้วแจบอมอยู่ไหนล่ะ"
"เมื่อกี้เห็นอยู่ตรง.."
"เอ้าจินยองแจ็คสัน
พวกนายจะเข้าชมรมละครเวทีกันหรอ ฉันก็ว่าจะเข้าอยู่เหมือนกัน
บังเอิญจังนะ"พูดยังไม่ทันขาดคำเจ้าของชื่อ อิมแจบอม ก็เดินฝ่ากลุ่มคนออกมายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
พร้อมกับโผเข้ากอดคอของทั้งสองคนเอาไว้
"เมื่อเช้านายยังบอกจะเข้าชมรมดนตรีอยู่เลยหนิ
แล้วทำไมถึง.."จินยองถามอย่างแปลกใจ
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่คนอย่างแจบอมจะไม่เข้าชมรมดนตรีแล้วเปลี่ยนมาอยู่ชมรมอย่างละครเวทีแทน
"ฉันเพิ่งจะคิดได้ว่าละครเวทีมันน่าสนใจซะยิ่งกว่าดนตรีอีก"
"ฉันไม่รู้ว่านายจะเข้าด้วยเลยไม่ได้จองคิวไว้ให้..
นายคงต้องไปต่อท้ายแล้วล่ะ ขอโทษนะแจบอม"จินยองแกะมือแจบอมที่กอดคอเขาออก
ก่อนจะชี้ไปที่ท้ายแถวแสนยาวเหยียด
"อ่อ.. งั้นฉันไปต่อแถวก่อนนะ"แจบอมชักแขนข้างที่กอดคอแจ็คสันกลับมาแนบลำตัวเหมือนเดิม แล้วเดินไปต่อท้ายแถวอย่างว่าง่ายโดยมีจินยองกับแจ็คสันมองตามหลังไป ถึงเขาจะรู้สึกเสียหน้าที่จินยองพูดจาเย็นชาแบบนั้นกับเขาแต่คงต้องยอมรับว่าเขาผิดเองที่ตัดสินใจช้าไป
เมื่อเดินมาถึงท้ายแถว
แจบอมก็ต้องยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นรุ่นน้องที่เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ดูขี้โรคแต่ก็ดูน่ารักน่าหยิกในเวลาเดียวกัน
นั่งเหลอหลาอยู่เป็นคนสุดท้ายของแถว เพราะอะไรเขาถึงยิ้มนะหรอ
เด็กนี่ดูง่ายที่เขาจะข่มไงล่ะ
"เฮ้รุ่นน้อง
นายได้คนที่เท่าไร"แจบอมเดินเข้าไปใกล้เด็กคนนั้น
ก่อนถามด้วยสีหน้าท่าทางแบบรุ่นพี่ที่น่าเกรงขามควรจะทำ
"ผมได้คนที่สามสิบพอดีเลยครับ
รุ่นพี่..จะเข้าเหมือนกันหรอครับ"เด็กตรงหน้าจับบัตรคิวที่สามสิบไว้แน่น
เหมือนกับรู้ว่าแจบอมจะกระชากไปจากเขา
"ก็ใช่นะสิ"
"แต่ว่าผมก็จะเข้าเหมือนกัน.."
"เอางี้มั้ยล่ะ ฉันจะแนะนำชมรมอื่นให้นาย แล้วบัตรคิวที่สามสิบนั่น
ฉันขอ"เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ข่มง่ายๆอย่างที่คิด แจบอมเลยยื่นข้อเสนอให้แทนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะโดนปฏิเสธ เขาเองก็ไม่ได้เป็นพวกอันธพาลจริงๆ ไม่อยากจะถูกมองว่าเป็นพวกชอบใช้อำนาจข่มคนที่เด็กกว่าขนาดนั้นหรอก
"แบบนั้นจะดีหรอครับ"
"ดีสิ เชื่อฉัน มันจะดีกับเราทั้งคู่แน่นอน"
"เออ... แล้วที่รุ่นพี่พูดถึงนี่ชมรมอะไรล่ะครับ"
"ชมรมบาสเกตบอลไง"
"ทำไมต้องบาสด้วยล่ะครับ ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด"
"ไม่น่าล่ะ นายถึงได้ตัวกะเปี๊ยกเดียว
ฉันดูแวบเดียวก็รู้ว่านายคงจะโดนเพื่อนล้อโดนเพื่อนแกล้งตลอด
ถ้านายยังไม่ลองเปลี่ยนมาเล่นกีฬา แล้วเมื่อไรเพื่อนนายจะหยุดล้อหยุดแกล้งสักที"เด็กนั่นดูตกตะลึงกับประโยคที่แจบอมพูดมาก
คงจะตรงเป๊ะเลยล่ะสิ
ที่แจบอมรู้ก็เพราะถ้าเป็นเขาเองก็คงจะแกล้งเด็กนี่เหมือนกัน
"พี่รู้ได้ไงอะครับ แม่นอย่างกับตาเห็น"
"ฉันเห็นมาหลายคนแล้ว ตัวเล็กๆแบบนายเนี่ย พอเริ่มเล่นกีฬานะ ตัวก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีใครกล้ามาแหยมอีกแน่นอน นายไม่อยากเป็นแบบนั้นบ้างรึไง"แจบอมพยายามโน้มน้าวรุ่นน้องตรงหน้าสุดๆ เด็กนั่นทำท่าลังเลเหมือนกำลังคิด
"อืม.. ผมเชื่อพี่แล้วก็ได้ครับ"เด็กนี่หลอกง่ายสุดๆ แจบอมมั่นใจอยู่แล้วเชียวว่าบัตรคิวนั่นจะต้องกลายเป็นของเขาในที่สุด
"มันต้องอย่างงี้สิรุ่นน้อง ว่าแต่นายชื่ออะไร"
"ผมหรอ แบมแบมครับ"
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนอื่นเลย เราต้องขอโทษจริงๆนะคะ
ที่เราไม่ได้มาอัพภายในสองสามวันอย่างที่บอกไว้
พอดีมีงานด่วนมั่กๆต้องทำเราเลยเพิ่งจะได้แต่งต่อ งืออเค้าขอโตดดดดT^T
พูดถึงฟิคกันบ้างตอนนี้ แบมแบมปรากฏตัวมาก็โดนไล่เลย
แต่ไล่ไปชมรมบาสนี่จะมีอัลไลรึเปล่าา
แจ็คสันเริ่มไม่อ่อนข้อให้แล้วนะศึกชิงจินยองใกล้เข้ามาแล้ว
ว่าแต่ชมรมละครเวทีนี้เขาจะเข้าไปทำไรกันอ่ะ
ต้องติดตามตอนต่อไปกันนะคะ มาแบมแบมพาร์ทกันบ้าง
สุดท้ายก็อย่าลืมแสดงความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆกันด้วยน้าา
ความคิดเห็น