คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - Take care of you -
The
t(h)ree of us V
-
Take care of you -
Jinyoung's part ;
หลังจากที่ผมเดินตามแม่เข้ามาในบ้าน
สิ่งที่ผมเห็นมีแต่ลังกระดาษอยู่เต็มไปหมด
บ้านของผมในตอนนี้ว่างเปล่าเหมือนเมื่อสิบสองปีที่แล้วไม่มีผิด
เว้นแต่รอยดินสอที่พ่อเป็นคนขีดมันตามความสูงของผมที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ไม่อยากเชื่อเลยว่าครั้งนึงผมเคยสูงแค่นั้น
ผมเดินขึ้นไปบนห้อง
อาบน้ำให้ร่างกายที่อ่อนล้าของตัวเองได้ผ่อนคลายกับลิ่นเหม็นเขียวของยาสีฟัน
ปลดปล่อยความทุกข์ทั้งหมดลงไปตามสายน้ำเย็นชืดที่ไหลรินออกมาตามฝักบัว
ไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ
ผ้าแห้งกรอบสีขาวถูกทำให้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตามร่างกายของผมก่อนที่ผมจะคาดมันไว้ที่เอว
กระจกบานใหญ่ฉายภาพของผมออกมา เผยให้เห็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึง
ผมไม่ได้หุ่นดีแต่ก็ไม่ได้ผอมแห้ง เพื่อนมักจะบอกว่าผมตัวเล็กเกินไป
ทั้งที่ผมก็แทบไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ชายคนอื่นๆเลย
นอกจากเวลาที่ผมข้างๆแจบอม
เขาไหล่กว้างกว่าผมมากแถมเขายีงดูเท่ในแบนักดนตรี ตอนนี้มีแจ็คสันเพิ่มขึ้นอีกคน
ขึ้นชื่อว่านักกีฬาแล้ว ร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาอย่างหนักย่ิมแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป
ดีที่ยองแจไม่ได้ต่างจากผมมากนัก เขาเลยโดนบอกว่าตัวเล็กไม่ต่างจากผม
แบบนี้ ผมเลยกลายเป็นคนแคระในสายตาคนอื่นไปกันหมด
ผมควานหาชุดนอนที่ผมชอบใส่เป็นประจำถึงมันจะเก่ามากแล้วก็ตาม
แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะทิ้งมันเลย
ตื้อตึง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากผมใส่เสื้อเสร็จพอดี
ผมเปิดมันขึ้น
อิมแจบอม : กินยารึยัง
พัคจินยอง : กินทำไม
อิมแจบอม : จะได้ไม่เป็นไข้ไง
พัคจินยอง : แล้วแจบอมกินรึยัง
อิมแจบอม : กินแล้ว^^
พัคจินยอง : จริงอะ
อิมแจบอม : ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า~
ผมรู้ว่าแจบอมเป็นคนที่เกลียดการกินยาเม็ดที่สุดแถมทุกครั้งที่เขาโกหกจะใส่อิโมชั่นมาด้วยเขาไม่มีทางกินยาเหมือนเขาบอกหรอก
ผมวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงก่อนจะลงไปข้างล่าง
แม่กำลังตักอาหารร้อนๆจากหม้อลงใส่ถ้วย พ่อนั่งรออยู่ตรงโต๊ะอาหารแล้ว
ผมเดินเข้าไปหาแม่
"มาครับ ผมช่วย"
ผมถืออาหารหอมกรุ่นฝืมือแม่มาวางบนโต๊ะจนครบทุกจาน
ผมนั่งลงตรงข้ามแม่ มีพ่อนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ พวกเราลงมือกินอาหารตรงหน้ากันเงียบๆ
"แกจะไม่ไปกับพ่อจริงๆหรอ"พ่อโพลงขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดบนโต๊ะอาหาร
มือของผมชะงักไปชั่วครู่
"ครับ
ผมตัดสินใจแล้ว"ผมรวบช้อนส้อมเข้าหากันไว้ตรงกลางจาน
ก่อนจะตอบพ่อไปอย่างจริงจัง
"พ่อไม่ได้จะว่าหรอกนะ ถ้าจะอยู่กับแจบอมก็ได้
แต่ต้องทำตัวดีๆด้วย เกรงใจเขาบ้าง"
"ครับ ผมจะไม่ทำตัวเกเร จะช่วยแจบอมทำงานบ้าน จะหารายได้พิเศษเองไม่ต้องรบกวนทั้งพ่อแม่ของแจบอมแล้วก็พ่อกับแม่เองด้วย"
"ลูกของพ่อโตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย"พ่อขยี้หัวผมเหมือนที่แจบอมชอบแกล้งบ่อยๆ
ผมได้แต่ยิ้มแก้เขินเพราะพ่อไม่ค่อยจะชมผมแบบนี้บ่อยนัก
"กินข้าวต่อเถอะ
จะได้โตเร็วๆ"พ่อตักกับข้าวใส่จานผม
"ขอบคุณครับพ่อ"
หลังที่พวกเรากินอาหารเย็นเสร็จ
ผมอาสาเป็นเก็บจานฃปล้าง ระหว่างนั้นแม่ถือกล่องใบนึงเข้ามา
"เร็วจังนะ
แปบเดียวก็ผ่านมาตั้งสิบสองปีแล้ว"แม่พูดพร้อมเริ่มเก็บอุปกรณ์เครื่องครัวจัดเข้ากล่องอย่างเรียบร้อย
มีจานกระเบื้องเคลือบเงาวับมากมายตั้งโชว์ไว้บนชั้นวางของ
ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมต้องหยิบมันลงทั้งที่เมื่อสิบสองปีที่แล้วผมยังต้องให้พ่ออุ้มเอามันขึ้นไปวางไว้ตรงนั้นกับมือ
"ก็ลูกแม่คนนี้อายุตั้งสิบเจ็ดแล้วนิครับ"ผมเอื้อมมือขึ้นไปหยิบจานกระเบื้องพวกนั้นที่ตั้งโชว์อยู่ชั้นบนสุดลงมาส่งให้แม่
"ไม่ว่าตอนไหนในสายตาแม่ ลูกก็เพิ่งจะห้าขวบเอง"แม่มองผมด้วยสายตาห่วงใย
"ผมโตแล้วนะครับ แม่เชื่อผมสิ
ผมดูแลตัวเองได้"ผมหันไปเบ่งกล้ามแขนที่ไม่ได้ใหญ่จนน่าอวดให้แม่ดู
"ฮ่าๆๆ แต่แม่เป็นห่วงนิ
ดีที่แจบอมเป็นคนอาสามาช่วยดูแลลูกแทนแม่
ไม่อย่างนั้นลูกคงต้องเก็บกระเป๋าไปกับแม่แล้วล่ะ"แม่แสร้งหัวเราะออกมา
แค่มองก็สามารถรู้ได้แล้วว่าแม่ไม่ได้ตลกไปกับผมเลยซักนิด
"ผมเชื่อ...แจบอมไม่มีวันทิ้งผมหรอกครับแม่"ผมเข้าไปกอดแม่จากด้านหลัง
กอดแน่นที่สุด ให้ความอบอุ่นของผมส่งไปถึงแม่
ให้แม่ได้รับรู้ว่าผมจะไม่เป็นไรเมื่อแม่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ
เพราะแจบอมจะอยู่ข้างผมเสมอ
หลังจากเก็บของในห้องครัวไปบางส่วน
แม่ก็บอกผมว่าให้พักไว้แค่นี้ก่อน ดึกมากแล้วให้ผมขึ้นไปเตรียมตัวเข้านอนได้แล้ว
แม่ขึ้นห้องไปแล้ว เหลือแต่ผมจะยังไม่ขึ้นห้องนอนหรอกนะ ผมยังอยู่ในห้องครัว
หยิบกาขนาดเล็กออกมาจากตู้ ใส่น้ำกับใบชาแห้งกรอบลงไปด้วยกัน เปิดเตาแก็สขึ้น
เปลวไฟอ่อนๆแต่เต็มไปด้วยความร้อนระอุ ผมตั้งกาไว้บนนั้น รอซักพัก
กลิ่นหอมของใบชาก็ฟุ้งกระจายไปทั้งห้อง ผมปิดไฟลง
เทน้ำชาที่ผมต้มเองกับมือลงในขวดน้ำสีฟ้าอ่อน
ผมหยิบเศษกระดาษขึ้นมาเขียนข้อความบางอย่าง
เป็นประโยคสั้นๆที่ผมคิดว่ามันน่ารักดี ผมถือขวดน้ำชาและกระดาษแผ่นเล็กไว้ในมือ
กอนประตูบ้านถูกหมุนให้เปิดออก ท้องฟ้ายามนี้มืดมน
มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมาช่วยเพิ่มความสว่างให้ทางระหว่างหน้าบ้านของผมและแจบอม
ผมเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านของอีกคน ผมวางกระดาษแผ่นเล็กลงบนพื้นปูนหนา
เอาขวดน้ำในมือทับมันไว้อีกทีไม่ให้มันปลิวหายไปไหนได้
ผมกดออดหน้าบ้านเขาหนึ่งครั้งก่อนจะออกตัววิ่งเข้าบ้านให้เร็วพอ
ที่แจบอมจะไม่ออกมาเห็นผมเข้าก่อน
ผมเดินขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง
ตื้อตึง
อิมแจบอม : ขอบใจสำหรับน้ำชาร้อนๆและข้อความดีๆนะ
พัคจินยอง : แล้วน้ำชาเป็นไงบ้าง
อิมแจบอม : ขม..
พัคจินยอง : งั้นฝันดี...
ผมล็อกหน้าจอโทรศัพท์ทันทีที่ตอบกลับไป
อุตส่าห์ทำให้จะชมกันหน่อยก็ไม่ได้ ผมจะไม่คุยกับเขาต่อแล้ว
ผมกระโดดขึ้นไปบนเตียง
นั่งกอดอกใส่โทรศัพท์ของตัวเองอย่างไม่พอใจ ทั้งๆที่มันไม่ได้ผิดอะไรซักนิด
ตื้อตึง
อิมแจบอม : โกรธหรอ
ตื้อตึง
อิมแจบอม : ฉันแค่ล้อเล่นน่า น้ำชาของนายมันยอดสุดๆไปเลยต่างหาก
ตื้อตึง
อิมแจบอม : จะไม่ตอบฉันจริงๆหรอ
ตื้อตึง
อิมแจบอม : ส่งรูปภาพ
ผมไม่รอช้ารีบเปิดดูภาพที่แจบอมส่งมาทันที ภาพที่เห็น คือ
ขวดน้ำสีฟ้าอ่อนของผมว่างเปล่า ไม่มีน้ำชาเหมือนที่ควรจะเป็น เขากินมันไปแล้วหรอ
พัคจินยอง : ไม่ขมแล้วหรอ
อิมแจบอม : เพราะจินยองเป็นคนทำให้ อะไรๆก็หวานไปหมดนั้นแหละ
พัคจินยอง : ไม่ต้องมาโกหกเลย
รีบนอนได้แล้ว เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก
อิมแจบอม : ครับๆ งั้นฝันดีนะ
จินยองงี่~
พัคจินยอง : ฝันดีเหมือนกันนะ
แจบอมงี่~
ผมล้มตัวนอนราบลงไปกับเตียงสีขาว
โทรศัพท์ของผมถูกปิดลงก่อนผมจะวางมันไว้ที่หัวเตียง
แสงสีเหลืองอ่อนๆสาดส่องกระจายไปทั่วห้อง ผมไม่ชอบความมืด แม้จะหลับตาก็ตาม
ผ้านวมสีเดียวกันกับเตียงถูกดึงขึ้นมาปกคลุมร่างกายของผมไว้
ก่อนที่เปลือกตาหนักอึ้งทั้งสองข้างจะปิดลง
ปลดความรู้สึกหนักหนาที่แบกมาทั้งวันออกไปกับการนอนหลับ
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น
ยังคงเป็นวันเวลาแห่งการเรียนหนังสือเช่นเคย
ผมลุกขึ้นจากเตียงทำกิจวัตรทุกอย่างจนเสร็จ
เดินออกมารอแจบอมที่หน้าบ้านเหมือนเคย ไม่นานนักประตูตรงหน้าก็ถูกเปิดออกก่อนที่จะมีคนเดินออกมา
"จินยอง
วันนี้แจบอมไม่ไปโรงเรียนนะจ๊ะ"แทนที่จะเหมือนที่คุ้นเคยแต่คนที่เดินออกมาเปิดประตูกลับเป็นคุณแม่ของแจบอมแทน
ว่าแต่ทำไมวันนี้ถึงไม่ไปโรงเรียนนะหรือจะเป็นไข้...
"แจบอมเป็นอะไรหรอครับ"ทั้งๆที่ผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะตัวเอง
ผมเป็นคนทำให้เขาต้องมาตากฝนเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังเลือกที่จะถามออกไป
"เป็นไข้นะจ๊ะ ดีนะที่จินยองไม่เป็นไปด้วย
งั้นวันนี้หนูคงต้องเดินไปโรงเรียนคนเดียวนะจินยอง"
"ไม่เป็นไรครับ
ขอแค่แจบอมหายไวๆก็พอ งั้นผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมจะเยี่ยมแจบอมใหม่
สวัสดีครับ"
ผมเดินไปตามทางเท้าแคบๆที่ตอนนี้กว้างกว่าเดิมมาก
ขาดไปแค่ไม่มีคนคอยเดินอยู่ข้างๆเหมือนเมื่อวาน
โรงเรียนในตอนเช้าที่แสนจะวุ่นวาย
ผมเดินผ่านกลุ่มคนนับไม่ถ้วน ในสนามบาสดูคึกคักเป็นพิเศษ
คงเพราะว่าพรุ่งนี้จะมีการเลือกชมรมกัน แจ็คสัน มาร์คและจองยอนก็อยู่ในนั้นด้วย
พวกเขาดูสนุกกันสุดๆ
แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกลงชมรมอะไรดี
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแจบอมกับยองแจต้องเลือกชมรมดนตรี
เป็นถึงนักร้องแนวหน้าของโรงเรียนจะไปอยู่ชมรมอื่นได้ไง
ส่วนแจ็คสันก็ต้องเป็นชมรมกีฬาไม่ผิดแน่
แต่ชมรมกีฬามีตั้งหลายชมรม เขาจะเลือกอะไรล่ะ ในเมื่อเขาเก่งทุกๆอย่าง
ผมเดินคิดไปเรื่อยเปื่อย
ห้องเรียนของผมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มีเพื่อนไม่กี่คนอยู่ที่นี่ตอนนี้
คงเพราะยังเช้าอยู่เลยยังไม่มากัน
ทุกทีผมจะมากับแจบอมทำให้ไม่เคยได้เห็นภาพแบบนี้เท่าไร
ผมนั่งลงบนที่ประจำของตัวเอง
นั่งคิดว่าจะเข้าชมรมอะไรดี ผมไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยซักอย่าง
มือหนาของใครซักคนยกขึ้นมาปิดตาของผมจากด้านหลังจนมืดไปหมด
มีเพียงแสงบางๆที่สาดผ่านช่องนิ้วที่ปิดไม่มิดของเขา
ผมไล่มือเรียวของตัวเองไปตามมือหนาของอีกคน แขนแกร่งนั่น
ผมยังไม่คุ้นเคยกับมันนักแต่ผมก็จำได้ดีว่ากลิ่นนี้เป็นของใคร
"แจ็คสัน"ผมเอ่ยชื่อที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของมือคนนั้น
"นายมีตาหลังรึไงกันจินยอง"
ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าผม คือ ผู้ชายคนนึง
เสื้อสีขาวที่เขาสวมใส่แนบไปตามร่างกายที่แข็งแรงราวกับหิน
เพราะเหงื่อชื้นจากการเล่นกีฬาก่อนหน้านี้
ถึงผมจะเป็นผู้ชายแต่การได้เห็นผู้ชายที่หุ่นดีขนาดนี้ยืนอยู่ตรงหน้าก็ทำเอาผมเกือบหยุดหายใจไปเหมือนกัน
เหงื่อที่เหมือนจะไม่มีวันหยุดไหล
ถูกผมหยุดมันด้วยผ้าเช็ดหน้าสีขาวสว่าง
หยาดเหงื่อตรงปลายจมูกคมถูกซึมหายไปในผ้าผืนบาง
เพราะอะไรกันที่จู่ๆมือของผมมันก็ถือวิสาสะทำแบบนั้น แจ็คสันเงยหน้าขึ้น
ไล่มองจากมือบางไปจนถึงใบหน้าของเจ้าของมือนั้น
สายตาทั้งสองประสานเข้าหากัน ผมมองลึกลงไป
ลงไปจนเห็นได้ว่าอีกคนคิดอะไรอยู่
และผมก็คิดว่าอีกคนก็เห็นว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่เช่นกัน
"ทำไรกันน่ะ"ยองแจเดินเข้ามาอยู่ระหว่างเราทั้งสอง
ช่วยเรียกสติให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
"พอดีแจ็คสันเพิ่งเล่นบาสมาน่ะ
ฉันเห็นเหงื่อเยอะเลยช่วยเช็ดให้...เท่านั้นเอง"ผมชักมือออกทันที
ยองแจมองผมสลับกับแจ็คสันด้วยสายตาแปลกๆ
"แค่นั้นจริงหรอ พวกนายคงไม่ได้..."
"เปล่า!"
"เปล่า!"
เสียงของแจ็คสันกับผมดังไปทั่วห้องจนเพื่อนหันมามองกันหมด
พวกเรารอจนเพื่อนเลิกสนใจไปจึงค่อยหันมาคุยกับต่อ
"หน้านายแดงไปหมดแล้วจินยองไม่สบายรึเปล่า"แจ็คสันยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผมมากขึ้นเรื่อยๆ
มือของเขาเลื่อนขึ้นมาวางอยู่บนหน้าผากร้อนผ่าวของผม
"จินยองน่ะไม่ได้เป็นอะไรหรอก ก็แค่กำลังเขินเฉยๆ"ยองแจแอบหัวเราะแต่ผมก็เห็นมันอยู่ดี
"จริงหรอ
ตอนนายเขินน่ารักดีนะ"แจ็คสันพูดประโยคแบบนั้นออกมาโดยไม่เคอะเขินเลยสักนิด
ส่วนคนฟังอย่างผมเกือบจะเอือมมือไปบีบคอเขาให้ตาย
เพราะคิดว่าเขาคงพูดให้ผมขายหน้าเล่นๆ ได้แต่ยับยั้งอารมณ์ไว้ในใจ
"ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย!!!"ผมเตรียมจะลุกออกไปจากตรงนั้นแต่ถูกแจ็คสันจับข้อมือผมเอาไว้เสียก่อน
สายตาแบบนี้อีกแล้ว
ไม่รู้ว่าผมควรชอบหรือเกลียดมันดี แต่ถึงอย่างนั้นผมก็นั่งลง
เพียงเพราะสายตาของเขากำลังสั่งให้ผมทำและผมก็ทำตามอย่างไม่มีข้อแม้
"ฉันไม่ได้โกหก..
นายน่ารักจริงๆ"เขายังจับข้อมือผมไว้ไม่ปล่อย
ไม่ได้จับให้เจ็บแค่ให้รู้ว่าเขากำลังจับอยู่เท่านั้น
ถึงผมจะไม่ได้มองหน้าตอนพูดประโยคนั้นแต่ผมก็นึกออกเลยล่ะว่าหน้าเขาเป็นยังไง
"โอ้ววววว เรื่องใหญ่แล้วสิ"
"..."ผมฟุบหน้าลงกับแขนเพียงข้างเดียวที่เหลือรอดจากการควบคุมของแจ็คสัน
เพราะหวังว่าเรื่องที่ได้ยินมาทั้งหมดจะหายไปจากหัวได้
ปล่อยความอายทั้งหมดลงไปกับมัน
สำหรับผมไม่เคยมีใครพูดแบบนี้ด้วยมาก่อน
ความรู้สึกเขินอายจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ผมก็ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน เขาเป็นคนแรก...
แบบนี้รึเปล่านะ ที่เขาเรียกว่า
จีบ
คุณครูในคาบเดินเข้ามาพอดี
ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ พอหันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่กาย
รอยยิ้มสดใสถูกส่งกลับมาให้ผม ไม่มีความเขินอายอยู่บนรอยยิ้มนั้นเลยแม้แต่น้อย
นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยรึไงกัน...แจ็คสัน
"ปล่อยฉันได้แล้ว"
"นายต้องบอกก่อนว่าไม่ได้โกรธฉันใช่ไหม"
"อืม ไม่ได้โกรธเลย"
"ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง
ในเมื่อนายทำสีหน้าแบบนั้น"
"ฉันเปล่า"
"งั้นเพื่อเป็นการขอโทษ
ฉันขอเลี้ยงไอติมนายได้มั้ยเย็นนี้"
"ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้โกรธ"
"งั้นฉันจะจับมือนายไปจนถึงเลิกเรียนเลย"
" ห้ามไม่ได้เลยสินะ ก็ได้
ไปกินไอติมกัน"
กริ๊งงงงง
ก่อนจะถึงเวลาที่ผมนัดกับแจ็คสันเอาไว้
คือหลังจากนี้อีกชั่วโมงครึ่ง แจ็คสันขอตัวไปทำธุระก่อน
ส่วนผมก็เอาเวลาส่วนนี้ไปไว้กับลานเล็ก
การได้งีบใต้ต้นไม้ถือเป็นเรื่องที่เยี่ยมที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้เลย
ผมนอนในท่าประจำและไม่ลืมหาหนังสือสักเล่มมาปิดบังอำพรางหน้าไว้เผื่อมีใครหลงเขาจะได้ไม่หลอนไปว่าเห็นศพอยู่ใต้ต้นไม้
ตาหนักอึ้งปิดลงตามน้ำหนักของมัน โลกทั้งใบกลายเป็นสีดำและค่อยๆจางหายไป
เปิดทางให้โลกแห่งความฝันที่ผมรอคอยค่อยๆสว่างขึ้นมาแทน
"ตื่นแล้วหรอ นายจะนอนต่อก็ได้นะ"เสียงพูดดังขึ้นข้างหูของผม
ผมกำลังนอนอยู่บนไหล่กว้างของเจ้าของเสียงแต่ก็เดาได้ไม่ยากนักเพราะเราเพิ่งคุยกันไปเอง
"แจ็คสัน นายอีกแล้วหรอ"
"นายเบื่อฉันหรอ งั้นฉันไปก็ได้นะ"เขาทำท่าจะลุกขึ้น
ผมคว้าแขนเขาไว้ทัน
"ไม่เบื่อเลย ฉันอยากจะฝันถึงนายทุกวันด้วยซ้ำ"ผมกอดแขนของเขาไว้อย่างกับหมอนข้าง
แต่ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกเขินอะไรเลยสักนิด คงเพราะผมรู้ดีว่ามันเป็นแค่ฝัน
"เดี๋ยวนายก็ต้องตื่นแล้ว ที่นี่มันก็แค่ความฝัน"
"แต่ตอนนี้ฉันก็ยังอยู่ที่นี่
อยู่กับนายไง"ผมกอดแขนเขาไว้แน่นกว่าเดิม
"แล้วอย่างนั้นนายจะไม่หน้าแดงทุกครั้งที่ฝันเลยหรอ"เขาหันมาพูดกับผมแถมยิ้มกรุ่มกริ่มใส่อีก
หลงตัวเองไปแล้วแต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ที่ผมเขินเขา
"ถ้าเป็นนายทุกครั้งฉันคงตอบว่าใช่"
"จะเขินดีมั้ยนะ
ฮ่าๆๆ"แจ็คสันเกาะหัว คงจะเขินผมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ถือว่าการแก้แค้นสำเร็จ
"แจ็คสัน
ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย"ผมต้องบ้ามากแน่ๆเลยที่กำลังจะถามคำถามนี้ออกไป
แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นแค่แจ็คสันในความฝันของผมหนิ
จะถามอะไรไปมันก็เป็นแค่สิ่งที่ผมจินตนาการไปเอง ไม่ใช่เขาจริงๆสักหน่อย
"มีอะไรหรอ"ผมเงยหน้ามองเขาและเขาก้มหน้ามองผมทั้งที่ผมยังอยู่ในวงแขนกว้างของเขา
"นายกำลังจีบฉันอยู่รึเปล่า..แจ็คสัน"ผมถามออกไปแล้ว
ทั้งที่เพิ่งจะว่าเขาหลงตัวเองแท้ๆ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าหลงตัวเองกว่าร้อยเท่า
ทำไมถึงรู้สึกผิดจังนะ
"ไม่รู้สิ อาจจะใช่"
"เพราะฉันแค่น่ารักหรอ"
"เพราะเป็นนายต่างหาก"
เพราะเป็นนายต่างหาก
เพราะเป็นนายต่างหาก
เพราะเป็นนายต่างหาก
ประโยคนี้ซ้ำวนอยู่ในหัวผม
เหมือนเป็นคาถาร่ายมนตร์ให้ผมหลับลงไปอีกครั้ง และโลกแห่งความฝันของผมก็จบลง
ตืด ตืด ตืด
ผมตื่นขึ้นมาบนโลกแห่งความจริงอีกครั้ง
ทุกอย่างเหมือนเดิมยกเว้นแสงแดดที่กำลังสาดส่องกลายเป็นสีส้มสด
เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งล่วงเลยไปหมดแล้วเสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อของผม
เบอร์ที่มันไม่รู้จักปรากฎขึ้นบนจอสี่เหลี่ยม ผมกดรับ
'จินยอง นายอยู่ไหนแล้ว'
"แจ็คสันหรอ
นายมีเบอร์ฉันได้ไง"
'เรื่องนั้นไว้ฉันบอกที่หลัง
ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าโรงเรียนแล้ว นายเดินมาเลย ฉันจะรอนะ'
"โอเค ฉันกำลังไป"
ตอนที่ผมเดินออกมาก็เย็นมากแล้ว
เหลือนักเรียนไม่กี่คน ส่วนมากก็เป็นพวกนักกีฬาโรงเรียนทั้งนั้น
ผมเดินไปตามทางที่จะพาผมไปสู่ประตูหน้าโรงเรียน
เดินมาได้ไม่นาน ผมก็เห็นแจ็คสันที่กำลังยืนกอดอกอยู่หันมาโบกมือให้ผม
คงรอมาสักพักแล้วสินะ ผมบ่อยให้เขารอนานไปรึเปล่า
"ขอโทษนะที่ปล่อยให้รอตั้งนาน"
"อะไรกันเรื่องแค่นี้เอง
แค่นายยอมไปกับฉันก็ดีมากแล้วล่ะ"เขาลูบหัวผมเบาๆ
มือข้างนั้นเลื่อนลงมาจับกับมือของผมเอาไว้ ผมมองหน้าเขาก่อนเล็กน้อย
"ต้องจับมือด้วยหรอ"ผมชูมือที่ถูกจับให้อีกคนดู
"นายจะได้ไม่ไปหลงรักใครเข้าไง
เพราะงั้นจับมือฉันไว้เถอะ"
"..."
"ฉันจะดูแลนายเอง"
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กลับมาอีกครั้ง นี้วันอะไรแล้วเนี่ย
รู้สึกว่าตัวเองอัพช้ามากกกก
คือเราแต่งไปได้สักพักแล้วแต่อยากเปลี่ยนขึ้นมาเฉยๆเลยยาวเลยจ้า
ตอนนี้แจ็คสันกับจินยองเขากำลังจะไปเที่ยวกัน
ปล่อยแจบอมไว้บ้านซะเลย เหงาแย่
เรื่องยังไม่ค่อยคืบหน้าเลยเนอะ
ไม่เบื่อกันใช่มั้ย แง่มแง่ม
เราไม่รู้ว่าอ่านแล้วเป็นไงบ้าง ก็อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้เราด้วยล่ะ
ติดตามฟิคเราต่อไปนะคะ
ขอบคุณค่ะ กิกิ
ความคิดเห็น