ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] THE T(H)REE OF US ต้นไม้ของเรา #BNIOR #JACKNIOR #MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #5 : - Take care of you -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 139
      0
      14 ต.ค. 58

    The t(h)ree of us V

     

     

    - Take care of you -








    Jinyoung's part ;

     

     


    หลังจากที่ผมเดินตามแม่เข้ามาในบ้าน สิ่งที่ผมเห็นมีแต่ลังกระดาษอยู่เต็มไปหมด บ้านของผมในตอนนี้ว่างเปล่าเหมือนเมื่อสิบสองปีที่แล้วไม่มีผิด 


    เว้นแต่รอยดินสอที่พ่อเป็นคนขีดมันตามความสูงของผมที่เพิ่มขึ้นทุกปี ไม่อยากเชื่อเลยว่าครั้งนึงผมเคยสูงแค่นั้น


    ผมเดินขึ้นไปบนห้อง อาบน้ำให้ร่างกายที่อ่อนล้าของตัวเองได้ผ่อนคลายกับลิ่นเหม็นเขียวของยาสีฟัน ปลดปล่อยความทุกข์ทั้งหมดลงไปตามสายน้ำเย็นชืดที่ไหลรินออกมาตามฝักบัว ไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ


    ผ้าแห้งกรอบสีขาวถูกทำให้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตามร่างกายของผมก่อนที่ผมจะคาดมันไว้ที่เอว 


    กระจกบานใหญ่ฉายภาพของผมออกมา เผยให้เห็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึง ผมไม่ได้หุ่นดีแต่ก็ไม่ได้ผอมแห้ง เพื่อนมักจะบอกว่าผมตัวเล็กเกินไป ทั้งที่ผมก็แทบไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ชายคนอื่นๆเลย 


    นอกจากเวลาที่ผมข้างๆแจบอม เขาไหล่กว้างกว่าผมมากแถมเขายีงดูเท่ในแบนักดนตรี ตอนนี้มีแจ็คสันเพิ่มขึ้นอีกคน ขึ้นชื่อว่านักกีฬาแล้ว ร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาอย่างหนักย่ิมแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ดีที่ยองแจไม่ได้ต่างจากผมมากนัก เขาเลยโดนบอกว่าตัวเล็กไม่ต่างจากผม


    แบบนี้ ผมเลยกลายเป็นคนแคระในสายตาคนอื่นไปกันหมด


    ผมควานหาชุดนอนที่ผมชอบใส่เป็นประจำถึงมันจะเก่ามากแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะทิ้งมันเลย


    ตื้อตึง

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากผมใส่เสื้อเสร็จพอดี 


    ผมเปิดมันขึ้น

     


         อิมแจบอม : กินยารึยัง


         พัคจินยอง : กินทำไม


         อิมแจบอม : จะได้ไม่เป็นไข้ไง


         พัคจินยอง : แล้วแจบอมกินรึยัง


         อิมแจบอม : กินแล้ว^^


         พัคจินยอง : จริงอะ 


         อิมแจบอม : ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า~


     

    ผมรู้ว่าแจบอมเป็นคนที่เกลียดการกินยาเม็ดที่สุดแถมทุกครั้งที่เขาโกหกจะใส่อิโมชั่นมาด้วยเขาไม่มีทางกินยาเหมือนเขาบอกหรอก


    ผมวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงก่อนจะลงไปข้างล่าง แม่กำลังตักอาหารร้อนๆจากหม้อลงใส่ถ้วย พ่อนั่งรออยู่ตรงโต๊ะอาหารแล้ว ผมเดินเข้าไปหาแม่

     


         "มาครับ ผมช่วย"


     

    ผมถืออาหารหอมกรุ่นฝืมือแม่มาวางบนโต๊ะจนครบทุกจาน ผมนั่งลงตรงข้ามแม่ มีพ่อนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ พวกเราลงมือกินอาหารตรงหน้ากันเงียบๆ

     


         "แกจะไม่ไปกับพ่อจริงๆหรอ"พ่อโพลงขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดบนโต๊ะอาหาร มือของผมชะงักไปชั่วครู่


         "ครับ ผมตัดสินใจแล้ว"ผมรวบช้อนส้อมเข้าหากันไว้ตรงกลางจาน ก่อนจะตอบพ่อไปอย่างจริงจัง


         "พ่อไม่ได้จะว่าหรอกนะ ถ้าจะอยู่กับแจบอมก็ได้ แต่ต้องทำตัวดีๆด้วย เกรงใจเขาบ้าง"


         "ครับ ผมจะไม่ทำตัวเกเร จะช่วยแจบอมทำงานบ้าน จะหารายได้พิเศษเองไม่ต้องรบกวนทั้งพ่อแม่ของแจบอมแล้วก็พ่อกับแม่เองด้วย"


         "ลูกของพ่อโตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย"พ่อขยี้หัวผมเหมือนที่แจบอมชอบแกล้งบ่อยๆ ผมได้แต่ยิ้มแก้เขินเพราะพ่อไม่ค่อยจะชมผมแบบนี้บ่อยนัก


         "กินข้าวต่อเถอะ จะได้โตเร็วๆ"พ่อตักกับข้าวใส่จานผม 


         "ขอบคุณครับพ่อ"


     

    หลังที่พวกเรากินอาหารเย็นเสร็จ ผมอาสาเป็นเก็บจานฃปล้าง ระหว่างนั้นแม่ถือกล่องใบนึงเข้ามา


         "เร็วจังนะ แปบเดียวก็ผ่านมาตั้งสิบสองปีแล้ว"แม่พูดพร้อมเริ่มเก็บอุปกรณ์เครื่องครัวจัดเข้ากล่องอย่างเรียบร้อย มีจานกระเบื้องเคลือบเงาวับมากมายตั้งโชว์ไว้บนชั้นวางของ ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมต้องหยิบมันลงทั้งที่เมื่อสิบสองปีที่แล้วผมยังต้องให้พ่ออุ้มเอามันขึ้นไปวางไว้ตรงนั้นกับมือ 


         "ก็ลูกแม่คนนี้อายุตั้งสิบเจ็ดแล้วนิครับ"ผมเอื้อมมือขึ้นไปหยิบจานกระเบื้องพวกนั้นที่ตั้งโชว์อยู่ชั้นบนสุดลงมาส่งให้แม่


         "ไม่ว่าตอนไหนในสายตาแม่ ลูกก็เพิ่งจะห้าขวบเอง"แม่มองผมด้วยสายตาห่วงใย


         "ผมโตแล้วนะครับ แม่เชื่อผมสิ ผมดูแลตัวเองได้"ผมหันไปเบ่งกล้ามแขนที่ไม่ได้ใหญ่จนน่าอวดให้แม่ดู


         "ฮ่าๆๆ แต่แม่เป็นห่วงนิ ดีที่แจบอมเป็นคนอาสามาช่วยดูแลลูกแทนแม่ ไม่อย่างนั้นลูกคงต้องเก็บกระเป๋าไปกับแม่แล้วล่ะ"แม่แสร้งหัวเราะออกมา แค่มองก็สามารถรู้ได้แล้วว่าแม่ไม่ได้ตลกไปกับผมเลยซักนิด 


         "ผมเชื่อ...แจบอมไม่มีวันทิ้งผมหรอกครับแม่"ผมเข้าไปกอดแม่จากด้านหลัง กอดแน่นที่สุด ให้ความอบอุ่นของผมส่งไปถึงแม่ ให้แม่ได้รับรู้ว่าผมจะไม่เป็นไรเมื่อแม่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ 

     


    เพราะแจบอมจะอยู่ข้างผมเสมอ



    หลังจากเก็บของในห้องครัวไปบางส่วน แม่ก็บอกผมว่าให้พักไว้แค่นี้ก่อน ดึกมากแล้วให้ผมขึ้นไปเตรียมตัวเข้านอนได้แล้ว แม่ขึ้นห้องไปแล้ว เหลือแต่ผมจะยังไม่ขึ้นห้องนอนหรอกนะ ผมยังอยู่ในห้องครัว หยิบกาขนาดเล็กออกมาจากตู้ ใส่น้ำกับใบชาแห้งกรอบลงไปด้วยกัน เปิดเตาแก็สขึ้น เปลวไฟอ่อนๆแต่เต็มไปด้วยความร้อนระอุ ผมตั้งกาไว้บนนั้น รอซักพัก กลิ่นหอมของใบชาก็ฟุ้งกระจายไปทั้งห้อง ผมปิดไฟลง เทน้ำชาที่ผมต้มเองกับมือลงในขวดน้ำสีฟ้าอ่อน 


    ผมหยิบเศษกระดาษขึ้นมาเขียนข้อความบางอย่าง เป็นประโยคสั้นๆที่ผมคิดว่ามันน่ารักดี ผมถือขวดน้ำชาและกระดาษแผ่นเล็กไว้ในมือ 


    กอนประตูบ้านถูกหมุนให้เปิดออก ท้องฟ้ายามนี้มืดมน มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมาช่วยเพิ่มความสว่างให้ทางระหว่างหน้าบ้านของผมและแจบอม ผมเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านของอีกคน ผมวางกระดาษแผ่นเล็กลงบนพื้นปูนหนา เอาขวดน้ำในมือทับมันไว้อีกทีไม่ให้มันปลิวหายไปไหนได้ 


    ผมกดออดหน้าบ้านเขาหนึ่งครั้งก่อนจะออกตัววิ่งเข้าบ้านให้เร็วพอ ที่แจบอมจะไม่ออกมาเห็นผมเข้าก่อน 


    ผมเดินขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง 

     


    ตื้อตึง

         อิมแจบอม : ขอบใจสำหรับน้ำชาร้อนๆและข้อความดีๆนะ 


         พัคจินยอง : แล้วน้ำชาเป็นไงบ้าง


         อิมแจบอม : ขม..


         พัคจินยอง : งั้นฝันดี...


     

    ผมล็อกหน้าจอโทรศัพท์ทันทีที่ตอบกลับไป อุตส่าห์ทำให้จะชมกันหน่อยก็ไม่ได้ ผมจะไม่คุยกับเขาต่อแล้ว 


    ผมกระโดดขึ้นไปบนเตียง นั่งกอดอกใส่โทรศัพท์ของตัวเองอย่างไม่พอใจ ทั้งๆที่มันไม่ได้ผิดอะไรซักนิด 


     

    ตื้อตึง

         อิมแจบอม : โกรธหรอ 


    ตื้อตึง

         อิมแจบอม : ฉันแค่ล้อเล่นน่า น้ำชาของนายมันยอดสุดๆไปเลยต่างหาก


     

    ตื้อตึง

         อิมแจบอม : จะไม่ตอบฉันจริงๆหรอ 


     

    ตื้อตึง


         อิมแจบอม : ส่งรูปภาพ

     


    ผมไม่รอช้ารีบเปิดดูภาพที่แจบอมส่งมาทันที ภาพที่เห็น คือ ขวดน้ำสีฟ้าอ่อนของผมว่างเปล่า ไม่มีน้ำชาเหมือนที่ควรจะเป็น เขากินมันไปแล้วหรอ 

     


         พัคจินยอง : ไม่ขมแล้วหรอ


         อิมแจบอม : เพราะจินยองเป็นคนทำให้ อะไรๆก็หวานไปหมดนั้นแหละ


         พัคจินยอง : ไม่ต้องมาโกหกเลย รีบนอนได้แล้ว เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก


         อิมแจบอม : ครับๆ งั้นฝันดีนะ จินยองงี่~


         พัคจินยอง : ฝันดีเหมือนกันนะ แจบอมงี่~

     


    ผมล้มตัวนอนราบลงไปกับเตียงสีขาว โทรศัพท์ของผมถูกปิดลงก่อนผมจะวางมันไว้ที่หัวเตียง แสงสีเหลืองอ่อนๆสาดส่องกระจายไปทั่วห้อง ผมไม่ชอบความมืด แม้จะหลับตาก็ตาม

     

    ผ้านวมสีเดียวกันกับเตียงถูกดึงขึ้นมาปกคลุมร่างกายของผมไว้ ก่อนที่เปลือกตาหนักอึ้งทั้งสองข้างจะปิดลง ปลดความรู้สึกหนักหนาที่แบกมาทั้งวันออกไปกับการนอนหลับ


     


    เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น ยังคงเป็นวันเวลาแห่งการเรียนหนังสือเช่นเคย


    ผมลุกขึ้นจากเตียงทำกิจวัตรทุกอย่างจนเสร็จ เดินออกมารอแจบอมที่หน้าบ้านเหมือนเคย ไม่นานนักประตูตรงหน้าก็ถูกเปิดออกก่อนที่จะมีคนเดินออกมา

     


         "จินยอง วันนี้แจบอมไม่ไปโรงเรียนนะจ๊ะ"แทนที่จะเหมือนที่คุ้นเคยแต่คนที่เดินออกมาเปิดประตูกลับเป็นคุณแม่ของแจบอมแทน 


    ว่าแต่ทำไมวันนี้ถึงไม่ไปโรงเรียนนะหรือจะเป็นไข้...


         "แจบอมเป็นอะไรหรอครับ"ทั้งๆที่ผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะตัวเอง ผมเป็นคนทำให้เขาต้องมาตากฝนเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังเลือกที่จะถามออกไป


         "เป็นไข้นะจ๊ะ ดีนะที่จินยองไม่เป็นไปด้วย งั้นวันนี้หนูคงต้องเดินไปโรงเรียนคนเดียวนะจินยอง"


         "ไม่เป็นไรครับ ขอแค่แจบอมหายไวๆก็พอ งั้นผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมจะเยี่ยมแจบอมใหม่ สวัสดีครับ"



    ผมเดินไปตามทางเท้าแคบๆที่ตอนนี้กว้างกว่าเดิมมาก ขาดไปแค่ไม่มีคนคอยเดินอยู่ข้างๆเหมือนเมื่อวาน 


    โรงเรียนในตอนเช้าที่แสนจะวุ่นวาย ผมเดินผ่านกลุ่มคนนับไม่ถ้วน ในสนามบาสดูคึกคักเป็นพิเศษ คงเพราะว่าพรุ่งนี้จะมีการเลือกชมรมกัน แจ็คสัน มาร์คและจองยอนก็อยู่ในนั้นด้วย พวกเขาดูสนุกกันสุดๆ 


    แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกลงชมรมอะไรดี


    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแจบอมกับยองแจต้องเลือกชมรมดนตรี เป็นถึงนักร้องแนวหน้าของโรงเรียนจะไปอยู่ชมรมอื่นได้ไง 


    ส่วนแจ็คสันก็ต้องเป็นชมรมกีฬาไม่ผิดแน่ แต่ชมรมกีฬามีตั้งหลายชมรม เขาจะเลือกอะไรล่ะ ในเมื่อเขาเก่งทุกๆอย่าง


    ผมเดินคิดไปเรื่อยเปื่อย ห้องเรียนของผมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มีเพื่อนไม่กี่คนอยู่ที่นี่ตอนนี้ คงเพราะยังเช้าอยู่เลยยังไม่มากัน ทุกทีผมจะมากับแจบอมทำให้ไม่เคยได้เห็นภาพแบบนี้เท่าไร


    ผมนั่งลงบนที่ประจำของตัวเอง นั่งคิดว่าจะเข้าชมรมอะไรดี ผมไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยซักอย่าง 


    มือหนาของใครซักคนยกขึ้นมาปิดตาของผมจากด้านหลังจนมืดไปหมด มีเพียงแสงบางๆที่สาดผ่านช่องนิ้วที่ปิดไม่มิดของเขา ผมไล่มือเรียวของตัวเองไปตามมือหนาของอีกคน แขนแกร่งนั่น ผมยังไม่คุ้นเคยกับมันนักแต่ผมก็จำได้ดีว่ากลิ่นนี้เป็นของใคร

     


         "แจ็คสัน"ผมเอ่ยชื่อที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของมือคนนั้น


         "นายมีตาหลังรึไงกันจินยอง"

     


    ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าผม คือ ผู้ชายคนนึง เสื้อสีขาวที่เขาสวมใส่แนบไปตามร่างกายที่แข็งแรงราวกับหิน เพราะเหงื่อชื้นจากการเล่นกีฬาก่อนหน้านี้


    ถึงผมจะเป็นผู้ชายแต่การได้เห็นผู้ชายที่หุ่นดีขนาดนี้ยืนอยู่ตรงหน้าก็ทำเอาผมเกือบหยุดหายใจไปเหมือนกัน


    เหงื่อที่เหมือนจะไม่มีวันหยุดไหล ถูกผมหยุดมันด้วยผ้าเช็ดหน้าสีขาวสว่าง หยาดเหงื่อตรงปลายจมูกคมถูกซึมหายไปในผ้าผืนบาง เพราะอะไรกันที่จู่ๆมือของผมมันก็ถือวิสาสะทำแบบนั้น แจ็คสันเงยหน้าขึ้น ไล่มองจากมือบางไปจนถึงใบหน้าของเจ้าของมือนั้น


    สายตาทั้งสองประสานเข้าหากัน ผมมองลึกลงไป ลงไปจนเห็นได้ว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ 

    และผมก็คิดว่าอีกคนก็เห็นว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่เช่นกัน

     


         "ทำไรกันน่ะ"ยองแจเดินเข้ามาอยู่ระหว่างเราทั้งสอง ช่วยเรียกสติให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่


         "พอดีแจ็คสันเพิ่งเล่นบาสมาน่ะ ฉันเห็นเหงื่อเยอะเลยช่วยเช็ดให้...เท่านั้นเอง"ผมชักมือออกทันที ยองแจมองผมสลับกับแจ็คสันด้วยสายตาแปลกๆ


         "แค่นั้นจริงหรอ พวกนายคงไม่ได้..."


         "เปล่า!"
         "เปล่า!"


    เสียงของแจ็คสันกับผมดังไปทั่วห้องจนเพื่อนหันมามองกันหมด พวกเรารอจนเพื่อนเลิกสนใจไปจึงค่อยหันมาคุยกับต่อ


         "หน้านายแดงไปหมดแล้วจินยองไม่สบายรึเปล่า"แจ็คสันยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผมมากขึ้นเรื่อยๆ มือของเขาเลื่อนขึ้นมาวางอยู่บนหน้าผากร้อนผ่าวของผม 


         "จินยองน่ะไม่ได้เป็นอะไรหรอก ก็แค่กำลังเขินเฉยๆ"ยองแจแอบหัวเราะแต่ผมก็เห็นมันอยู่ดี


         "จริงหรอ ตอนนายเขินน่ารักดีนะ"แจ็คสันพูดประโยคแบบนั้นออกมาโดยไม่เคอะเขินเลยสักนิด ส่วนคนฟังอย่างผมเกือบจะเอือมมือไปบีบคอเขาให้ตาย เพราะคิดว่าเขาคงพูดให้ผมขายหน้าเล่นๆ ได้แต่ยับยั้งอารมณ์ไว้ในใจ 


         "ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย!!!"ผมเตรียมจะลุกออกไปจากตรงนั้นแต่ถูกแจ็คสันจับข้อมือผมเอาไว้เสียก่อน 


     

    สายตาแบบนี้อีกแล้ว ไม่รู้ว่าผมควรชอบหรือเกลียดมันดี แต่ถึงอย่างนั้นผมก็นั่งลง เพียงเพราะสายตาของเขากำลังสั่งให้ผมทำและผมก็ทำตามอย่างไม่มีข้อแม้


     

         "ฉันไม่ได้โกหก.. นายน่ารักจริงๆ"เขายังจับข้อมือผมไว้ไม่ปล่อย ไม่ได้จับให้เจ็บแค่ให้รู้ว่าเขากำลังจับอยู่เท่านั้น ถึงผมจะไม่ได้มองหน้าตอนพูดประโยคนั้นแต่ผมก็นึกออกเลยล่ะว่าหน้าเขาเป็นยังไง


         "โอ้ววววว เรื่องใหญ่แล้วสิ"


         "..."ผมฟุบหน้าลงกับแขนเพียงข้างเดียวที่เหลือรอดจากการควบคุมของแจ็คสัน เพราะหวังว่าเรื่องที่ได้ยินมาทั้งหมดจะหายไปจากหัวได้ ปล่อยความอายทั้งหมดลงไปกับมัน 


     

    สำหรับผมไม่เคยมีใครพูดแบบนี้ด้วยมาก่อน ความรู้สึกเขินอายจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ผมก็ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน เขาเป็นคนแรก...


     

    แบบนี้รึเปล่านะ ที่เขาเรียกว่า จีบ


     

    คุณครูในคาบเดินเข้ามาพอดี ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ พอหันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่กาย รอยยิ้มสดใสถูกส่งกลับมาให้ผม ไม่มีความเขินอายอยู่บนรอยยิ้มนั้นเลยแม้แต่น้อย 


    นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยรึไงกัน...แจ็คสัน


     

         "ปล่อยฉันได้แล้ว"


         "นายต้องบอกก่อนว่าไม่ได้โกรธฉันใช่ไหม"


         "อืม ไม่ได้โกรธเลย"


         "ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง ในเมื่อนายทำสีหน้าแบบนั้น"


         "ฉันเปล่า"


         "งั้นเพื่อเป็นการขอโทษ ฉันขอเลี้ยงไอติมนายได้มั้ยเย็นนี้"


         "ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้โกรธ"


         "งั้นฉันจะจับมือนายไปจนถึงเลิกเรียนเลย"


         " ห้ามไม่ได้เลยสินะ ก็ได้ ไปกินไอติมกัน"


     

     

    กริ๊งงงงง


     

    ก่อนจะถึงเวลาที่ผมนัดกับแจ็คสันเอาไว้ คือหลังจากนี้อีกชั่วโมงครึ่ง แจ็คสันขอตัวไปทำธุระก่อน ส่วนผมก็เอาเวลาส่วนนี้ไปไว้กับลานเล็ก การได้งีบใต้ต้นไม้ถือเป็นเรื่องที่เยี่ยมที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้เลย 


    ผมนอนในท่าประจำและไม่ลืมหาหนังสือสักเล่มมาปิดบังอำพรางหน้าไว้เผื่อมีใครหลงเขาจะได้ไม่หลอนไปว่าเห็นศพอยู่ใต้ต้นไม้ ตาหนักอึ้งปิดลงตามน้ำหนักของมัน โลกทั้งใบกลายเป็นสีดำและค่อยๆจางหายไป เปิดทางให้โลกแห่งความฝันที่ผมรอคอยค่อยๆสว่างขึ้นมาแทน 


     

         "ตื่นแล้วหรอ นายจะนอนต่อก็ได้นะ"เสียงพูดดังขึ้นข้างหูของผม ผมกำลังนอนอยู่บนไหล่กว้างของเจ้าของเสียงแต่ก็เดาได้ไม่ยากนักเพราะเราเพิ่งคุยกันไปเอง


         "แจ็คสัน นายอีกแล้วหรอ"


         "นายเบื่อฉันหรอ งั้นฉันไปก็ได้นะ"เขาทำท่าจะลุกขึ้น ผมคว้าแขนเขาไว้ทัน


         "ไม่เบื่อเลย ฉันอยากจะฝันถึงนายทุกวันด้วยซ้ำ"ผมกอดแขนของเขาไว้อย่างกับหมอนข้าง แต่ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกเขินอะไรเลยสักนิด คงเพราะผมรู้ดีว่ามันเป็นแค่ฝัน


         "เดี๋ยวนายก็ต้องตื่นแล้ว ที่นี่มันก็แค่ความฝัน"


         "แต่ตอนนี้ฉันก็ยังอยู่ที่นี่ อยู่กับนายไง"ผมกอดแขนเขาไว้แน่นกว่าเดิม


         "แล้วอย่างนั้นนายจะไม่หน้าแดงทุกครั้งที่ฝันเลยหรอ"เขาหันมาพูดกับผมแถมยิ้มกรุ่มกริ่มใส่อีก หลงตัวเองไปแล้วแต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ที่ผมเขินเขา


         "ถ้าเป็นนายทุกครั้งฉันคงตอบว่าใช่"


         "จะเขินดีมั้ยนะ ฮ่าๆๆ"แจ็คสันเกาะหัว คงจะเขินผมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ถือว่าการแก้แค้นสำเร็จ


         "แจ็คสัน ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย"ผมต้องบ้ามากแน่ๆเลยที่กำลังจะถามคำถามนี้ออกไป แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นแค่แจ็คสันในความฝันของผมหนิ จะถามอะไรไปมันก็เป็นแค่สิ่งที่ผมจินตนาการไปเอง ไม่ใช่เขาจริงๆสักหน่อย


         "มีอะไรหรอ"ผมเงยหน้ามองเขาและเขาก้มหน้ามองผมทั้งที่ผมยังอยู่ในวงแขนกว้างของเขา 


         "นายกำลังจีบฉันอยู่รึเปล่า..แจ็คสัน"ผมถามออกไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะว่าเขาหลงตัวเองแท้ๆ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าหลงตัวเองกว่าร้อยเท่า ทำไมถึงรู้สึกผิดจังนะ


         "ไม่รู้สิ อาจจะใช่"


         "เพราะฉันแค่น่ารักหรอ"


         "เพราะเป็นนายต่างหาก"


     

    เพราะเป็นนายต่างหาก


    เพราะเป็นนายต่างหาก


    เพราะเป็นนายต่างหาก


     

    ประโยคนี้ซ้ำวนอยู่ในหัวผม เหมือนเป็นคาถาร่ายมนตร์ให้ผมหลับลงไปอีกครั้ง และโลกแห่งความฝันของผมก็จบลง 

     

     

     


    ตืด ตืด ตืด 


    ผมตื่นขึ้นมาบนโลกแห่งความจริงอีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนเดิมยกเว้นแสงแดดที่กำลังสาดส่องกลายเป็นสีส้มสด เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งล่วงเลยไปหมดแล้วเสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อของผม เบอร์ที่มันไม่รู้จักปรากฎขึ้นบนจอสี่เหลี่ยม ผมกดรับ


     

         'จินยอง นายอยู่ไหนแล้ว'


         "แจ็คสันหรอ นายมีเบอร์ฉันได้ไง"


         'เรื่องนั้นไว้ฉันบอกที่หลัง ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าโรงเรียนแล้ว นายเดินมาเลย ฉันจะรอนะ'


         "โอเค ฉันกำลังไป"


     

    ตอนที่ผมเดินออกมาก็เย็นมากแล้ว เหลือนักเรียนไม่กี่คน ส่วนมากก็เป็นพวกนักกีฬาโรงเรียนทั้งนั้น 


    ผมเดินไปตามทางที่จะพาผมไปสู่ประตูหน้าโรงเรียน เดินมาได้ไม่นาน ผมก็เห็นแจ็คสันที่กำลังยืนกอดอกอยู่หันมาโบกมือให้ผม คงรอมาสักพักแล้วสินะ ผมบ่อยให้เขารอนานไปรึเปล่า


     

         "ขอโทษนะที่ปล่อยให้รอตั้งนาน"


         "อะไรกันเรื่องแค่นี้เอง แค่นายยอมไปกับฉันก็ดีมากแล้วล่ะ"เขาลูบหัวผมเบาๆ มือข้างนั้นเลื่อนลงมาจับกับมือของผมเอาไว้ ผมมองหน้าเขาก่อนเล็กน้อย


         "ต้องจับมือด้วยหรอ"ผมชูมือที่ถูกจับให้อีกคนดู


         "นายจะได้ไม่ไปหลงรักใครเข้าไง เพราะงั้นจับมือฉันไว้เถอะ"


         "..."



     

         "ฉันจะดูแลนายเอง"

     

     

     

     

    ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||

     

    กลับมาอีกครั้ง นี้วันอะไรแล้วเนี่ย รู้สึกว่าตัวเองอัพช้ามากกกก

    คือเราแต่งไปได้สักพักแล้วแต่อยากเปลี่ยนขึ้นมาเฉยๆเลยยาวเลยจ้า

    ตอนนี้แจ็คสันกับจินยองเขากำลังจะไปเที่ยวกัน ปล่อยแจบอมไว้บ้านซะเลย เหงาแย่

    เรื่องยังไม่ค่อยคืบหน้าเลยเนอะ ไม่เบื่อกันใช่มั้ย แง่มแง่ม

    เราไม่รู้ว่าอ่านแล้วเป็นไงบ้าง ก็อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้เราด้วยล่ะ

    ติดตามฟิคเราต่อไปนะคะ

    ขอบคุณค่ะ กิกิ

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×