[Fanfic Fire Emblem] I will sing a song [Artur x Lute]
"เฮ้ยยย... แมงมุม !!!!!" เสียงร้องดังขึ้นจากเด็กหนุ่มผู้อยู่ในห้อง ซึ่งรู้สึกถึงกองทัพเล็กๆของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เข้ามาอยู่ในห้องของเขา และบางส่วน..ขึ้นมาบนเตียงเขาแล้ว.. (fanfic เกม FE8 ค่ะ)
ผู้เข้าชมรวม
816
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
I will sing a song , I will sing at your side.
Fire Emblem -the sacred stones- (seima no ken) Fanfic. [ArturxLute]
[note] แฟนฟิคค่ะ แต่คิดว่าคนที่ไม่ได้เล่นเกมนี้ก็น่าจะอ่านได้เพราะไม่ได้แต่งตามอีเว้นท์อะไรในเกมเท่าไหร่ ประมาณว่าแต่งเพื่อคู่ที่จับในเกมว่างั้นเถอะ ^^' อาเทอร์ กับ ลิวท์ค่ะ
เช้าวันใหม่เริ่มขึ้นอย่างสดใส น้ำค้างที่เหลือค้างตามยอดหญ้าสะท้อนแสงแดดที่สาดส่องลงมาวิบวับจับตา เสียงนกร้องคลอกันดังเจื้อยแจ้วดังให้ได้ยินเช่นทุกเช้า
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า สิ่งที่จะปลุกเขาจากการหลับพักผ่อนอันเงียบสงบนี้คือ...
ที่หน้าประตูห้องของเขา เด็กสาวผู้มีผมสีม่วงกำลังยืนถือขวดโหลไว้อย่างระมัดระวัง เธอแอบแง้มประตูเปิดอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ผู้ที่หลับอยู่ในห้องตื่น แล้วค่อยๆนั่งลงกับพื้นหน้าห้องนั้นอย่างเงียบเชียบ จ้องมองดูสิ่งมีชีวิตตัวน้อยหลายสิบตัวที่เดินไปมาขวักไขว่ในขวดที่เธอถืออยู่นั้น
"สู้เขานะ เจ้าสัตว์น้อยที่แสนน่ารักของฉันทั้งหลาย.." เธอพูดพลางเปิดฝาขวด เจ้าพวกตัวน้อยทั้งหลายเหล่านั้นต่างพากับรีบเดินออกมาจากขวดโหลอันเป็นที่ซึ่งกักขังมันไว้ ขาทั้งแปดพาร่างของมันตรงดิ่งเข้าสู่ห้องของเด็กหนุ่มผู้นอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เด็กสาวแอบยิ้มในผลงาน ก่อนที่จะค่อยๆเดินไปนั่งหลบอยู่หลังประตูและเฝ้าคอย...
เงียบ... ไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เธอส่ายศีรษะเบาๆ แผนมันไม่พลาดหรอกน่า.. เธอเป็นถึงอัจฉริยะ ไม่มีทางที่แผนจะพลาดเอาง่ายๆหรอก.. คงอีกไม่นานแหละ...
"เฮ้ยยย... แมงมุม !!!!!" เสียงร้องดังขึ้นจากเด็กหนุ่มผู้อยู่ในห้อง ซึ่งรู้สึกถึงกองทัพเล็กๆของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เข้ามาอยู่ในห้องของเขา และบางส่วน..ขึ้นมาบนเตียงเขาแล้ว..
"ลิวท์ !!!!"
ลิวท์หัวเราะอย่างอดไม่ไหวอยู่หน้าห้อง ดูเหมือนว่าแผนในการบำบัดอาเทอร์ให้หายจากโรคกลัวแมงมุมจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่อัจฉริยะอย่างเธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆแค่นี้หรอก อย่างไรเสียอาเทอร์ก็เป็นเคสพิเศษที่ต้องได้รับการบำบัดในขั้นพิเศษเช่นกัน บางที เธอคงต้องลองใหม่ในคราวหน้า แต่ตอนนี้เธอต้องเข้าไปช่วยเขาเสียก่อน แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในการฆ่าสัตว์โลกที่แสนจะน่ารักอย่างพวกแมงมุม แต่หากปล่อยไว้แบบนี้ อาเทอร์ก็จะยังคงแหกปากพร้อมกับยืนตัวแข็งอยู่แบบนั้นโดยไม่เป็นอันต้องทำอะไรกัน และนั่นหมายถึงมันจะไม่เงียบพอให้เธออ่านหนังสือที่ยังอ่านค้างไว้ให้จบได้
******************************************************************
สงสัยจัง ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตประเภทไหนที่หลบอยู่ภายใต้ร่มเงาอันอันมืดมิดของป่าตรงนั้นกันนะ แล้วยิ่งเป็นช่วงเวลาที่หมอกลงแล้วด้วย.. ลิวท์นึกในใจพลางเหม่อมองไปยังผืนป่าไกลๆ ซึ่งบัดนี้ถูกหมอกลงมาปกคลุมเสีย โดยที่ไม่ทันรู้สึกตัว ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น
"ลิวท์ นี่เธอนั่งเหม่ออะไรอีกแล้วเหรอ อย่ามัวแต่อยู่ในโลกส่วนตัวนักเลย" อาเทอร์เอ่ยขึ้นพลางส่ายศีรษะเบาๆ ลิวท์หันไปมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัวก่อนที่จะพูดขึ้น
"ฉันไม่ได้เหม่อนะ ฉันกำลังคิดว่าจะมีพวกสิ่งมีชีวิตประเภทไหนอยู่ในป่าตรงแถบนั้นต่างหาก ดูสิ มันน่าสนใจดีไหมล่ะ แม้ว่าหมอกจะลงหรือไม่ก็ตาม ที่ตรงนั้นก็ไม่เคยโดนแสงอาทิตย์อยู่ดี" เธอพูดพลางชี้นิ้วไปยังทิศทางที่เป็นที่ตั้งของป่าทึบ อาเทอร์ถอนหายใจเบาๆกับนิสัยที่แก้ได้ยากของนักเวทผู้นี้
"เธอนี่นะ เจ้าหญิงเอริก้าทรงเรียกประชุมอยู่น่ะ เราไม่ควรจะให้ท่านรอนานนะ" อาเทอร์พูดขึ้น
"อือฮึ" ลิวท์ตอบรับก่อนที่จะเดินล่วงหน้าไปก่อนโดยทิ้งอาเทอร์อยู่เบื้องหลัง
"อ้าว..ลิวท์ รอด้วยสิ" อาเทอร์ร้องเรียกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินออกไปโดยไม่สนใจที่จะรอเขาเลย
****************************************************************
ภายในเต้นท์ขนาดใหญ่ของเจ้าหญิงเอริก้าอันเป็นสถานที่ไว้ใช้สำหรับวางแผนการรบ เจ้าหญิงเอริก้าประทับอยู่ที่เก้าอี้หลัก ด้านขวาของเธอคือเซธ ราชองครักษ์ผู้มีฉายาว่า ซิลเวอร์ ไนท์ แห่งเรเนส ทุกคนในกองทัพต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อประชุมเรื่องแผนการรบ เอริก้ามองดูเหล่าคนในทัพของเธอ รอจนเมื่อทุกคนมาครบเธอจึงเอ่ยขึ้น
"ที่ฉันเรียกทุกคนมาก็เพราะว่า... ฉันเห็นว่าการที่จะยกทัพกลับไปที่ปราสาทเฟรเลียคงต้องผ่านป่า ซาฮา อีกรอบ ก็อย่างที่พวกเรารู้กัน ป่านี้เต็มไปด้วยพวกมอนสเตอร์.. คงจะไม่ดีแน่หากพวกเราไปตกอยู่ในวงล้อมของพวกมันทั้งหมด ฉันอยากให้ใครสักคนล่วงหน้าไปดูลาดเลาเสียก่อน.." เอริคก้าพูดพลางมองดูทุกๆคน ก่อนที่จะเอ่ยต่อ...
"อาเทอร์ ฉันขอให้ท่านช่วยรับหน้าที่นี้ได้ไหม.. เวทแสงของท่านเป็นสิ่งที่ปราบพวกมันได้ดีที่สุด.." เอริก้าเอ่ยขึ้นพลางมองมายังหนุ่มนักเวทแห่งแสง เขาก้าวออกมาด้านหน้าและโน้มตัวลง
"รับด้วยเกล้ากระหม่อม.." เขาพูดขึ้น
"งั้น.. ฉันก็ขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ ขอให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อนตามสบายนะ" เอริก้าเอ่ยขึ้น ในขณะที่คนอื่นๆพากันทยอยเดินออกจากเต้นท์ แต่ทว่า เด็กสาวนักเวทยังไม่ยอมออกไป เธอเดินเข้าไปหาเอริก้าก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
"ให้หม่อมฉันไปกับอาเทอร์ด้วยนะเพคะ" เธอพูด เอริก้ามองเธออย่างสงสัย ก่อนที่จะเอ่ยถาม
"ทำไมล่ะ ลิวท์ ถ้าฉันจำไม่ผิด สายเวทของเธอจะเสียเปรียบพวกนั้นไม่ใช่หรือ" เอริคก้าพูดด้วยความสงสัย แต่อีกฝ่ายส่ายศีรษะอย่างมุ่งมั่น
"ไม่หรอก หม่อมฉันฉลาดพอที่จะไม่เข้าใกล้อันตรายแบบนั้น และอย่างไรก็ตาม หม่อมฉันอยากรู้ว่าพวกมันจะมีรูปร่างอย่างไร จะเหมือนอย่างที่หนังสือได้เขียนเอาไว้หรือเปล่า.. หรือ..." เธอยังพูดไม่จบก็ถูกขัดขึ้นก่อน
"พอเถอะ ลิวท์ ฉันไม่ได้ไปเดินเล่นนะ อย่ารบกวนเจ้าหญิงด้วยคำขอไร้สาระนี่เลย"
"คำขอฉันไม่ไร้สาระนะ อาเทอร์ นี่ฉันกำลังจะไปศึกษาถึงความลึกลับของพวกสิ่งมีชีวิตที่น่าหลงใหลเหล่านั้น.. ฉันต้องได้เห็นพวกมันด้วยตาของฉันเองคู่นี้..!!" ลิวท์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เอริก้ามองดูยิ้มๆก่อนที่จะพูดตอบ
"ไปเถอะ ลิวท์ แล้วขอให้ได้ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์นั้นมานะ" เอริก้าพูด ซึ่งจบคำพูดเธอ นักเวทสาวก็ลากเอาเด็กหนุ่มนักเวทแห่งแสงออกจากห้องไปทันที
"เป็นคู่ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิดเลยนะ ว่าไหม เซธ" เธอเอ่ยพลางหันไปมองชายหนุ่มผู้ยังคงยืนนิ่งอยู่ด้านขวา เขาตอบรับ
"จริงกระหม่อม.."
"เซธ.." เอริก้าเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบอีกครั้ง เขาหันมามองเธอด้วยแววตาสงสัย
"ทรงประสงค์สิ่งใดหรือกระหม่อม.." เขาเอ่ยถาม
"แผล.. เมื่อตอนนั้น หายหรือยัง..??" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"ขอบพระทัยที่ทรงห่วง แต่แผลหายดีแล้ว ไม่ต้องทรงห่วงใดๆหรอกกระหม่อม" เขาตอบ ก่อนที่จะเสริมขึ้น "ข้าว่าท่านควรจะพักผ่อนได้แล้ว.. วันนี้ท่านทรงงานมาทั้งวัน หากเกิดอะไรขึ้นกับท่าน คนทั้งกองทัพจะวุ่นวายได้กระหม่อม.."
"..นั่นสินะ.. พักผ่อนตามสบายนะ เซธ.." เธอเอ่ยเบาๆ ก่อนที่จะลุกไปด้านในสุดของเต้นท์อันเป็นที่ตั้งของเตียง ชายหนุ่มเดินออกไปด้านนอกเต้นท์โดยปล่อยให้ผู้ที่อยู่ด้านในพักผ่อนตามสบาย โดยที่ตัวเขายืนเฝ้าอยู่ด้านนอกเต้นท์ เพื่อปกป้องร่างเธอที่พักอยู่ด้านในโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย
********************************************************
"ลิวท์ เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเมื่อครู่เธอทำเสียมารยาทกับเจ้าหญิงมากนะ" อาเทอร์พูดขึ้นในที่สุด หลังจากเดินออกจากเต้นท์ของเจ้าหญิงเอริก้ามาได้ระยะหนึ่ง แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจเขาเลย
"รีบนอนซะ อาเทอร์.. เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะได้รีบออกเดินทางกัน ฉันอดใจรอไม่ไหวแล้วว่าจะเจอกับพวกไหนที่อาศัยอยู่ในป่านั้นกันนะ" เธอสั่งพลางรีบออกวิ่งไปยังเต้นท์ที่พักของเธอเอง ทิ้งให้อาเทอร์ยืนงงอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่หน้าเต้นท์เขาเอง ก่อนที่จะส่ายศีรษะเบาๆพลางพึมพำอะไรบางอย่างแล้วเดินเข้าด้านในเต้นท์ไป
********************************************************
ในที่สุด เช้าวันใหม่ก็าถึง ถึงแม้ว่าอาเทอร์จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ลิวท์ก็เตรียมพร้อมสำหรับ "การเดินทางไปศึกษาสัตว์ที่น่าพิศวง" ที่ป่าซาฮาแล้ว หนำซ้ำเธอยังมาปลุกเขาเสียตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่มาเยือนขอบฟ้าเลยเสียด้วย และทั้งที่ตัวเขายังคงสะลึมสะลือแต่เธอก็ลากเขาลงจากเตียงเสียแล้ว
"เร็วๆเข้า อาเทอร์ ตื่นเร็วๆเข้า วันนี้เราจะไปที่ป่าซาฮากันนะ" ลิวท์ร้องเร่ง พลางดันตัวอาเทอร์ออกมาจากเต้นท์
"แต่ลิวท์.. มันไม่เห็นต้องรีบขนาดที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลยนี่นา" เขาคราง
"ไม่ได้หรอก อาเทอร์ ฉันเพิ่งนึกออกเมื่อคืนวานที่ฉันกลับไปที่เต้นท์ อย่างที่อัจริยะอย่างฉันสามารถที่จะจำมันได้ในที่สุด ว่า.. พวกสัตว์สายพันธุ์ดาแมนคูล่ามันไม่ชอบออกมาเดินในช่วงเวลากลางวัน ดังนั้นเราต้องไปให้ถึงที่นั่นก่อนเที่ยง" ลิวท์บอก
"อะไรนะ เธอว่า.. ดาแมนคูล่างั้นหรือ..?? อย่าบอกนะว่า..พวกนั้นมัน.." เขาเอ่ยเสียงขาดๆหายๆ.. พลางนึกถึงชื่อที่เขาเพิ่งได้ยินผ่านหูไปเมื่อครู่
"พวกมัน..?? อ๋อ ใช่ พวกมันเป็นแมงมุมน่ะ เร็วๆเข้าสิ อาเทอร์ ฉันอยากเห็นพวกมันเร็วๆนะ" ลิวท์เร่งพลางมุ่งไปยังทิศทางที่พาไปสู่ป่าซาฮา โดยที่อาเทอร์ยืนตัวแข็งอยู่เบื้องหลัง
"อาเทอร์.. รีบๆหน่อย" เธอหันกลับมาเร่งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่กระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย ที่จริงเขาไม่ขยับตัวเลยตั้งแต่รู้ว่า "สายพันธุ์ดาแมนคูล่า" เป็นพวกแมงมุมแล้วต่างหาก
"โอ.. ไม่.. มัน.. แมงมุม.." อาเทอร์พึมพำเสียงสั่น ลิวท์เดินกลับมายืนตรงหน้าเขาพลางถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น
"อาเทอร์ นี่เป็นโอกาสดีที่นายจะได้เลิกกลัวพวกมันนะ ฉันจะทำให้นายรู้เองว่าพวกมันน่าหลงใหลและน่าพิศวงขนาดไหน" ลิวท์พูดให้กำลังใจเขา แต่ทว่าอาเทอร์นั้นขวัญได้บินหายไปจากร่างแล้ว.. ลิวท์จึงดึงแขนเขาแล้วลากไปตามทางเดินมุ่งไปสู่ป่าซาฮา
"ไปเถอะ อย่าปล่อยให้พวกมันต้องรอเรานาน" ลิวท์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ซึ่งขัดกับความรู้สึกของอาเทอร์โดยสิ้นเชิง
********************************************************
เสียงลมพัดวีดวิวดังแว่วให้ได้ยินจากภายในป่าซาฮาที่เต็มไปด้วยร่มเงาไม้หนาทึบ ตรงปากทางเข้าป่า นักเวททั้งสองยืนมองด้วยความรู้สึกที่แกตต่างกันโดยสิ้นเชิง อาเทอร์มองอย่างหนักใจและนึกหวั่นกับสิ่งมีชีวิตที่เขาจะได้พบเจออย่างยิ่ง ถ้ามันเป็นพวก.. แมงมุม ส่วนลิวท์นั้นกลับมองอย่างสนอกสนใจ เธออยากพบพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในความมืดของป่าซาฮาอย่างยิ่ง
"โอ..พระเจ้า ทรงคุ้มครองพวกเราด้วย.." อาเทอร์พึมพำ
"ช่างน่าพิศวงจริงๆ ฉันอยากรู้จังว่าพวกดาแมนคูล่ามันจะอยู่ส่วนไหนของป่า.." ลิวท์พูดพลางออกเดินเข้าไปก่อน โดยที่อาเทอร์ท้วงแทบไม่ทัน
"ลิวท์ เดี๋ยวสิ เธออย่าเดินดุ่มๆเข้าไปโดยไม่ได้ดูรอบข้างให้ดีสิ" อาเทอร์ร้องแต่เจ้าหล่อนไม่ฟังเขาเลยแม้แต่นิด จนเขาต้องตามเข้าไปอย่างละล้าละลัง
แต่ทันใดนั้น โดยที่ไม่ทันคาดคิด สัตว์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็เดินออกมาจากพุ่มไม้ตรงหน้าทั้งคู่ เสียงกริ๊กๆอันน่าสยดสยองดังขึ้นพร้อมๆกับร่างสูงใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยขนเส้นเล็กๆสีน้ำตาล ขาทั้งแปดของมันเดินอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาหลายคู่ของมันจับจ้องอยู่ที่ผู้บุกรุกเข้ามายังแหล่งที่อยู่อาศัยของมันอย่างไม่ประสงค์ดี อารเทอร์นั่น ยืนตัวแข็งไปแล้วเมื่อพบว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวยักษ์ที่เพิ่งปรากฏกายมานั้นคือ.. แมงมุม
"ว้าว.. มันน่ารักจัง" ลิวท์อุทานอย่างชอบใจกับร่างยักษ์ตรงหน้า "งั้นนี่คงเป็นหนึ่งในบรรดาดาแมนคูล่าที่อยู่ในป่านี้สินะ.. หวังว่ามันคงยอมให้ฉันไปศึกษามันใกล้ๆนะ" เธอพูด ไม่รอช้าเธอเดินลิ่วตรงไปที่แมงมุมตัวนั้นโดยทันที โดยไม่เกรงกลัวต่อความสูงที่มากกว่าร่างกายเธอเลยแม้แต่น้อย
"..ดูขนมันสิ สีน้ำตาล ละเอียดด้วย ฉันอยากได้มันไปเป็นสัตว์เลี้ยงจังเลย" ลิวท์พึมพำอย่างถูกใจ
"ไม่เอานะ ลิวท์.. ฉัน..ไม่.." อาเทอร์ครางอย่างสิ้นหวังเมื่อได้ยินความหวังของเธอ
"ทำไมล่ะ อาเทอร์ นายก็เห็นว่ามันน่ารักออกขนาดไหน แถมมันจะได้เป็นหัวข้อการวิจัยของฉันอันถัดไปด้วยนะ"
"..." ไร้คำพูดจากอีกฝ่ายที่บัดนี้หน้าซีดเผือกไปแล้ว.. ในขณะที่ลิวท์เริ่มสังเกตุแมงมุมตัวนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
"ไหนดูสิ ความสูงของเจ้าจะขนาดไหนกันนะ.. ตัวสูงกว่าฉันอีกนะเนี่ย อืม.." ลิวท์พึมพำกับตัวเอง แล้วทันใดนั้นแมงมุมซึ่งไม่คิดว่าตัวมันเป็นเพียงอุปกรณ์การศึกษาเท่านั้นก็พุ่งเข้ามาหมายจะฝังเขี้ยวลงไปในร่างของมนุษย์ที่พยายามจะทำอะไรสักอย่างกับตัวมัน
"นี่เจ้าคิดจะทำอะไรกันน่ะ" ลิวท์เอ็ด แต่เธอก็หลบการจู่โจมโดยไม่คาดคิดของแมงมุมไปได้ "เป็นเด็กดีให้ฉันศึกษาเถอะนะ" เธอพูด แต่ทว่าแน่นอน..แมงมุมมันไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่เธอพูดแน่นอนอยู่แล้ว มันก็เพียงแค่ส่งเสียงกริ๊กๆอย่างรำคาญร่างตรงหน้า
"ลิวท์ ถอยออกมาเถอะ เราไม่รู้ว่ามันพยายามจะทำอะไรอีกหรือเปล่านะ" อาเทอร์ร้องเรียก
"ไม่ล่ะ นี่เป็นโอกาสที่ฉันจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพวกดาแมนคูล่าที่ยังอยู่ในธรรมชาตินะ.. ฉัน.." เธอไม่มีโอกาสพูดจนจบประโยค เพราะแมงมุมพุ่งเข้าหาเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอหลบมันไม่พ้น เคี้ยวใหญ่ของมันฝังลงไปที่เนื้อตรงไหล่ซ้ายของเธอ ยังดีที่เธอร่ายเวทไฟได้ทันเวลา แมงมุมจึงปล่อยเธอลงเพราะลูกไฟสองสามลูกพุ่งลงสู่หลังของมัน แต่นั่นคือ..ร่างของเธอกระเด็นลงสู่พื้นโดยที่ไม่ได้ป้องกันตัวใดๆเลย
"โอ๊ย.." ลิวท์ร้องเมื่อตกลงสู่พื้น อาเทอร์วิ่งเข้ามาหาเธอทันที
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" เขาเอ่ยถาม โดยลืมเสียสนิทว่าแมงมุมที่เขากลัวยังคงอยู่ตรงหน้า
"ไม่.. แผลแค่นี้ เรื่องเล็กน้อย.. อึ๊ก.." เธอร้อง เมื่อรู้สึกว่าแผลที่ได้รับมันเจ็บปวดเกินกว่าจะเป็นแผลธรรมดาๆ อาเทอร์มองหน้าเธอที่ซีดลงอย่างน่ากลัวด้วยความกังวลใจ "ไม่เป็นไร แค่พิษ..แมงมุม เรื่องเล็กน้อย ฉันมียา" เธอกัดฟันตอบ
"ฉัน...ไม่..เป็นไรหรอกน่ะ นาย..ไปจัดการเจ้าแมงมุมนั่นได้แล้ว.." ลิวท์พูดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงนั่งอยู่ข้างเธอ
"ต..แต่ว่าฉัน.. แมงมุม.." อาเทอร์พูดตะกุกตะกัก
"จนป่านนี้แล้ว...นายยัง...กลัวมันอีกเหรอ.. ฉันยัง...เรียนรู้ได้ไม่มากพอที่หวังไว้...ก่อนที่จะตายหรอกนะ" ลิวท์พูด
"ก..ก็ได้. ฉ.. ฉันจะลองดู" อาเทอร์รับคำอย่างหวั่นๆ ก่อนที่จะหันไปเผชิญหน้ากับแมงมุม มันยังคงส่งเสียงกริ๊กที่ฟังสยองหูสำหรับเขาอยู่ อาเทอร์รีบร่ายคาถาเวทแห่งแสงอย่างรวดเร็ว พยายามลืมความกลัวตรงหน้าไป
"โอ.. ลำแสงแห่งสวรรค์... หวา.." เขาร้องขึ้นเมื่อแมงมุมเดินเข้ามาใกล้เขา มันมองเขาอย่างนึกรำคาญพลางนึกหาวิธีใดดีที่จะใช้ฆ่าร่างตรงหน้านี้ เสียงกริ๊กๆยังคงดังให้ได้ยินอย่างน่าหวาดกลัว อาเทอร์มองมันอย่างหวั่นๆ เขาเกลียดแมงมุมเป็นที่สุด..
"ลำแสงแห่ง...สวรรค์..." อีกครั้งที่ความกลัวแล่นเข้ามาเกาะจิตใจของเขาอย่างเสียไม่ได้ ดวงตาหลายคู่ที่จ้องมองมาทางเขาทำให้เขาลนจนนึกคาถาร่ายเวทต่อไม่ออก.. บางที..ชีวิตเขาอาจจะขบลงที่นี่...
"พระผู้เป็นเจ้า.. ได้โปรดคุ้มครองวิญญาณของลูกด้วย" เขาเริ่มเอ่ยพึมพำขอพรต่อพระเจ้าอย่างไร้หนทาง แมงมุมขยับเดินเข้าใกล้เขามากขึ้นมาอีก
...ฉันยัง.. เรียนรู้ได้ไม่มากพอที่หวังไว้... ก่อนที่จะตายหรอกนะ...
คำพูดที่ลิวท์เพิ่งพูดกับเขาเมื่อครู่ดังแว่วในหัวเขา อาเทอร์เริ่มรู้สึกตัว จะเกิดอะไรหากว่าเขายอมแพ้ง่ายดายเช่นนี้ ลิวท์.. เธอเองก็จะตายไปด้วยเหมือนกันที่นี่...
"ไม่สิ เราต้องทำได้" อาเทอร์พึมพำก่อนที่จะเริ่มร่ายเวทแห่งแสงใหม่อีกครา
"โอ.. ลำแสงแห่งสวรรค์ ได้โปรดลงทัณฑ์ศัตรูตรงหน้าข้าด้วย" อาเทอร์ร่ายคาถาจนจบได้ในที่สุด ลำแสงสาดส่องลงไปยังแมงมุมส่งผลให้มันเริ่มถอยหนีเพราะไม่ชินกับแสงสว่าง ร่างของมันสั่นริกด้วยผลของเวทมนตร์ จนในที่สุดมันก็ล้มแน่นิ่งไป ด้วยคาถาแห่งแสงเพียงบทเดียว
ลิวท์มองภาพตรงหน้าอย่างนึกพอใจ บางที..เขาคงหายกลัวแมงมุมได้เสียทีล่ะมั้ง เธอลองขยับแขนดูแบะพบว่ายาที่ใส่ไปเมื่อครู่เริ่มได้ผลแล้ว อาการชาที่ค่อยๆหายไปพร้อมๆกับความเจ็บปวด เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาอาเทอร์... ผู้ที่ยังคงยืนแน่นิ่งอยู่ท่านั้นโดยไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
"เป็นไง.. แล้วในที่สุด นายก็หายกลัวแมงมุม จริงไหม..??" ลิวท์ถาม แต่ไร้คำตอบกลับจากร่างที่ยังคงยืนนิ่งเงียบ.. หน้าซีดเผือกราวกับกระดาษ และในที่สุด..
ร่างของอาเทอร์ก็ล้มแน่นิ่งไปกับพื้น...
".. เออดี.. พัฒนาการรูปแบบใหม่รึ" ลิวท์พูดพลางมองร่างไร้สติของอีกฝ่าย
*****************************************************
หลายชั่วโมงต่อมากว่าที่อาเทอร์จะรู้สึกตัว ภาพที่ค่อยๆแจ่มชัดขึ้นในตาเขาไม่ใช่บรรยากาสอึมครึมป่าซาฮา หากแต่เป็นเพดานเต้นท์เรียบๆที่ดูคุ้นตา เต้นท์ของเขาที่ค่ายทหารของเจ้าหญิงเอริก้านั่นเอง เขาเหลียวมองอย่างนึกแปลกใจ ก่อนพึมพำขึ้น
"สวรรค์เป็นที่ๆดูเรียบง่ายเช่นนี้เองหรือนี่..."
"ถ้านายอยากไปสวรรค์ขนาดนั้น... ไม่บอกก่อน ฉันจะได้ไม่ต้องช่วย" เสียงหนึ่งตอบกลับอย่างมีอารมณ์ ลิวท์เดินเข้ามาในเต้นท์พร้อมกับอ่างน้ำเพื่อที่จะเปลี่ยนผ้าชุบน้ำที่โปะอยู่บนหน้าผากของเขา
"ลิวท์ เธอปลอดภัยดีรึ..?? ขอบคุณสวรรค์" เขาอุทานขึ้นอย่างดีใจ
"ปลอดภัยสิ อัจฉริยะอย่างฉันจะตายง่ายๆได้ยังไง" ลิวท์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ พร้อมกับคว้าผ้าที่หน้าผากของอีกฝ่ายมาชุบน้ำอีกรอบ "งี่เง่าจัง มีใครที่ไหนเขาร่ายเวทฆ่าแมงมุมจนตาย แล้วตัวเองหน้าซีดสลบลงไปแบบนั้นบ้างล่ะ"
"แมงมุม.. มันตายแล้วใช่ไหม ขอบคุณพระเจ้า.." เขาพึมพำอย่างโล่งอก
"แม้ว่าฉันจะไม่เห็นด้วยกับการที่นายฆ่ามันไปก็ตาม.. เพราะฉันเลยอดศึกษาเกี่ยวกับสัตว์โลกที่สุดแสนจะพิศวงและน่าหลงใหลอย่างมันไปเลย.. และถึงแม้ว่าฉันจะสามารถจัดการมันได้ด้วยตัวคนเดียว..." เธอหยุดไปชั่วขณะก่อนที่จะพูดต่ออย่างลังเล " แต่.. ก็..เอ้อ.. ขอบคุณนะ.. เพราะนาย.. ทำให้เรารอดมาได้ทั้งคู่... กองทัพนี้เสียนักเวทผู้มากไปด้วยพรสวรรค์แบบฉันไปไม่ได้หรอก" เธอเสริมประโยคท้ายขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้มันจะดูขัดกับประโยคแรกไปไม่นิด แต่ก็เป็นนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ อาเทอร์มองเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างเตียงเขาก่อนที่จะขำออกมาอย่างอดไม่ได้
"ฮะ..ฮ่าๆๆๆ เธอเองไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเลยนะ ลิวท์"
"นี่..!! หัวเราะฉันทำไมน่ะ ที่พูดมามันมีอะไรน่าขำหรือไง ที่ไม่เปลี่ยนนั่นมันนายต่างหาก ที่ยังกลัวแมงมุมอยู่ทั้งอย่างนั้นน่ะ" ลิวท์ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ทว่าอาเทอร์ยังคงหัวเราะไม่เลิก จนในที่สุด..
"ดีล่ะ นายไม่หยุดหัวเราะใช่ไหม งั้นฉันไปละ" ลิวท์พูดก่อนที่จะหันตัวเดินออกไป
"เดี๋ยวสิ ลิวท์" อาเทอร์ร้องเรียก
"อะไรอีกล่ะ" ลิวท์หยุดถาม
"เธอนั่งอยู่ตรงนี้เถอะ ฉันไม่หัวเราะแล้ว" เขาพูด ลิวท์มองอย่างงงๆ แต่ก็ยอมทำตามที่อีกฝ่ายว่าแต่โดยดี
"มีอะไรล่ะ อาเทอร์..??" เธอเอ่ยถามเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง
"ไม่มีอะไร..แค่.." เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก "ถ้า.. เอ้อ.. เธอ.. จะช่วยฮัมเพลงให้ฉันฟังได้ไหม" เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะต่อด้วยเสียงโทนที่แปลกออกไป "ฉัน..เอ้อ ชอบฟังน่ะ.."
"..เอ้อ.. ก็ได้..แต่ทำไมล่ะ อาเทอร์.. ทุกที..นายไม่เห็นจะสนใจการฮัมเพลงของฉันเท่าไหร่ไม่ใช่รึ" ลิวท์ถามด้วยความสงสัย หากแต่อีกฝ่ายไม่ตอบ..นอกเพียงจากใบหน้าของเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ "ดูเหมือนว่านายจะหายหน้ามืดแล้วสินะ.. เพราะหน้านายเริ่มมีสีเลือดแล้ว แต่ดูเหมือนจะมากเกินไปสักหน่อยนะ.." เธอสรุปอาการของอาเทอร์อย่างสงสัยในอาการป่วยใหม่ของเขา
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ลิวท์ เธอ..ฮัมเพลงให้ฉันฟังเถอะ" อาเทอร์ตอบเมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่จ้องมองเขาอย่างสงสัยมาตั้งแต่เมื่อครู่
"ก็ได้.. แต่นายไม่เป็นอะไรแน่นะ" เธอถาม "หรือจะเป็นอาการป่วยใหม่..?? ให้ฉันดูอาการหน่อยไหม..?? เคยมีตำราที่บันทึกเรื่องโรคภัยไข้เจ็บเล่มหนึ่งเขียนไว้ว่า.."
"..ไม่หรอกลิวท์ ฉัน..เอ้อ..ไม่เป็นอะไรจริงๆ" อาเทอร์ตอบ
"อือฮึ... ก็ได้.." เธอตอบด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวเล็กน้อย แต่ก็ยอมฮัมเพลงให้ตามที่เขาขอแต่โดยดี
ภายในค่ายทหารในช่วงค่ำวันนั้น ก็มีเสียงฮัมเพลงของลิวท์ดังแว่วออกมาจากเต้นท์ของอาเทอร์ เสียงเพลงที่ไพเราะอ่อนหวานอันเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้ฟัง เสียงนี้ยังคงดังอยู่จนกระทั่งดวงจันทร์ลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ไฟในค่ายทหารค่อยๆดับไปทีละนิด จนเหลือเพียงแสงจากธรรมชาติและกองไฟหลักเท่านั้น
ลิวท์นั่งมองดูชายหนุ่มตรงหน้าที่บัดนี้จังหวะการหายใจเริ่มเป็นไปอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวเข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว แต่เธอก็ยังคงนั่งอย่ตรงนั้นต่อไปโดยไม่นึกเบื่อพลางนึกถึงเรื่องที่ผ่านๆมา ถึงแม้ว่าอาเทอร์จะเกลียดกลัวแมงมุมที่น่ารักในสายตาเธอ แต่เธอก็ชอบให้เขาอยู่ข้างๆอยู่ดี บางทีเธอคงจะชอบที่จะนึกหาวิธีใหม่ๆในการบำบัดรักษาโรคกลัวแมงมุมของเขาล่ะมั้ง เธอไม่ปฏิเสธหรอกว่ามันสนุกที่จะคิดหาวิธีต่างๆมารักษาโรคกลัวแมงมุมนี้ หรือมันจะด้วยเหตุผลอื่น..อันนี้เธอก็ไม่อาจรู้ได้
ลิวท์ยังคงนั่งฮัมเพลงอยู่อีกครู่ใหญ่ จนเวลาล่วงไปจนดึกดื่น เธอจึงหยุดฮัมเพลงก่อนที่ยิ้มกับความคิดบางอย่างในใจ บางทีพรุ่งนี้..เธอจะเริ่ม "แผนการบำบัดโรคกลัวแมงมุมของอาเทอร์ครั้งที่13" ได้.. ลิวท์หาวขึ้นครั้งหนึ่งด้วยความรู้สึกง่วงนอนอย่างมาก ก่อนที่จะฟุบลงไปด้านข้างเตียงแล้วหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว...
I will sing a song.
I will sing at your side.
I will sing a song.
I will sing at your side.
*********************THE END************************
แต่งเก็บไว้นานแล้วล่ะค่ะ แต่คิดว่ากันหายไปจากเครื่อง มาเก็บลงไว้ที่นี่หน่อยก็ดี - -* Fire Emblem เป็นเกมที่เล่นอยู่ช่วงหนึ่ง (ตอนนี้ก็เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง ก็มัวแต่เข้าแอเรียน่าเพิ่มเพิ่มเลเวลและเก็บเงิน ^^') จะว่าก็ว่า... สำหรับภาคนี้ คู่ที่เราชอบมากที่สุดคือคู่ Seth x Erika แท้ๆ แต่ให้แต่งฟิคคู่นี้...ก็ไม่ไหวแฮะ - -* ดีกรีความเครียดมันเยอะกว่านี่นา (ฮือ..เจ้าหญิงกับองครักษ์... แต่เหมาะสมกันจริงๆเลย.. - -+) แต่ตัวละครที่ชอบที่สุดกลับกลายเป็นบอสซะนี่...แงๆๆๆ ลีออน.... TT TT!!!! นี่เราต้องฆ่านายจริงๆเหรอ... ไม่น่าโดนคิงปีศาจครอบงำเลยง่า....(จบการคร่ำครวญดีกว่า - -) ตอนนี้กลับไปนั่งเล่นภาคฟูอินอยู่ แล้วกำลังสาละวนกับการเข้าแอเรียน่า (ก็อุตส่าห์จัดทัพเอาพวกไม่เก่งลงด่านนี้ที่มีแอเรียน่าทั้งที ก็ต้องเอาให้ทุกตัวเลเวลเต็มให้หมดสิ - -+) แต่ภาคฟูอินไม่ได้มีคู่ที่ชอบเป็นพิเศษเท่าไหร่แฮะ... อืมๆ... ใครที่บ่นว่าเราไม่ยอมอับเรื่องอื่นแต่อับอันนี้ได้ ก็ขอบอกว่าเรื่องนี้เราแต่งมาเกือบปีแล้วมั้ง ^^' แต่ไม่ได้เอาลงที่นี่เท่านั้นเองค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ tsukasa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ tsukasa
ความคิดเห็น