ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) BTS | AllV | Lareina Seven Wings #ลาเรียน่าออลวี

    ลำดับตอนที่ #1 : #ลาเรียน่าออลวี | CHAPTER I [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.1K
      190
      15 เม.ย. 62

    01





    ณ ปราสาทแห่งหนึ่งที่ตั้งระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งปราสาทแห่งนี้ปกครองโดยราชาและราชินีผู้เป็นที่รักของไพร่ฟ้าประชาชน ทั้งราชาและราชินีต่างก็ปกครองปราสาทและบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขมานานนับปี แต่ก็ยังไม่มีบุตรหรือราชธิดามาสืบทอดบัลลังก์เลยสักคนเดียว


    วันหนึ่งในเหมันตฤดู ในขณะที่ราชินีกำลังดำเนินอยู่ในสวนแห่งหนึ่งของปราสาทอย่างอิ่มเอิบใจ พลันนั้นพระนางก็พบกับดอกกุหลาบสีแดงฉานที่ผลิดอกสู้กับความหนาวเหน็บ ขณะนั้นเองหนามก็ตำนิ้วของพระนางเมื่อเอื้อมสัมผัสกับดอกกุหลาบดอกนั้น หยดโลหิตหยดลงบนพื้นพสุธาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสามหยด


    ฉับพลันที่หยดโลหิตสามหยดตกลงบนพื้น พระนางจึงใคร่ครวญคิดคำนึงขึ้นมาว่า



    หากเรามีบุตรสักคนที่มีริมฝีปากสีแดงฉาน ผิวกายขาวดุจดั่งหิมะ ผมสีดำขลับปานไม้มะเกลือ และมีจิตวิญญาณที่เข้มแข็งเยี่ยงดอกกุหลาบดอกนั้นก็คงจะดี



    วันเดือนปีผันผ่าน ฤดูกาผันเปลี่ยน ราชินีก็ได้ให้กำเนิดองค์รัชทายาทที่มีริมฝีปากสีแดงฉาน ผิวกายขาวดุจดั่งหิมะและผมสีดำขลับปานไม้มะเกลือตามที่พระนางได้ดำริขึ้นมาเมื่อครั้งนั้น ราชาปลาบปลื้มปิติยิ่งนักกับการที่บัลลังก์มีองค์รัชทายาทสืบทอดแล้ว ทั้งราชาและราชินีก็ได้ให้นามแก่รัชทายาทว่า 'สโนว์ไวต์'


    สโนว์ไวต์เติบโตขึ้นเมื่อกาลเวลาผันผ่าน เธอก็ได้กลายเป็นเด็กหญิงที่เหล่าประชาชนนั้นได้ให้ความเคารพและรักใคร่เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเธอนั้นเปี่ยมไปด้วยจิตใจโอบอ้อมอารีและอ่อนโยน แต่ที่สำคัญก็คือหัวใจที่แกร่งดุจดั่งกุหลาบดอกนั้นที่ผลิบานท่ามกลางไอเย็น


    เหมันตฤดูอันหนาวเหน็บได้เข้ามาเยือนอีกครั้งท่ามกลางความโศกเศร้าของราชอาณาจักร เมื่อราชินีอันเป็นที่รักได้สวรรคตจากสโนว์ไวต์ไปชั่วกาลนาน และการสวรรคตของราชินีนั้นทำให้ราชารู้สึกโทมนัสเป็นอย่างมาก เพราะพระนางนั้นเป็นชายาที่พระองค์ทรงผูกพันและรักสุดหัวใจ ยากยิ่งนักที่จะหายจากความโทมนัสได้


    อยู่มาวันหนึ่งราชาได้พบรักกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่มีสิริโฉมงดงามหลังจากที่เขาทำศึกกับมารทมิฬและได้รับชัยชนะ ทหารบอกว่านางเป็นเชลยที่ถูกพวกมารทมิฬจับตัวมา


    "ไม่ต้องห่วง" พระองค์ตรัส "คนของข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก"


    หญิงสาวเงียบ ไม่ได้ตอบบทสนทนาของราชา


    "เจ้ามีนามว่ากระไรหรือแม่หญิง"


    นางเงยหน้าขึ้นมาหลังจากที่ซบลงบนแขนขวาที่ถูกโซ่ล่าม เนื้อตัวของนางมอมแมมเนื่องจากเปรอเปื้อนไปด้วยเถ้าสีดำ ทั้งใบหน้า แขนและขา พระองค์มั่นใจเลยว่านางถูกพวกมารทมิฬจับตัวมาอย่างแน่นอน


    "โรเวนนา" นางพูด "เพคะฝ่าบาท"



     พระองค์ไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้นั้นกลับทมิฬยิ่งกว่าที่พระองค์ได้จินตนาการเอาไว้



    ความงดงามของหญิงสาวที่มีนามว่าโรเวนนาผู้นั้นเหมือนเป็นมนต์สะกดที่ทำให้ราชานั้นหน้ามืดตามัว และหลุดออกจากความโทมนัสเป็นปลิดทิ้ง พระองค์ได้พานางกลับมาที่อาณาจักรและเริ่มพิธีสมรสกับนางในวันรุ่งขึ้น ประชาชนต่างปลาบปลื้มปิติที่พระราชาของตนเองหลุดออกจากความโทมนัสได้


    และหลังจากคืนสมรส ราชาถูกโรเวนนาสังหารอย่างโหดเหี้ยม ความมืดมิดเข้าปกคลุมทั่วราชาอาณาจักรอย่างฉับพลัน ทัพของมารทมิฬบุกโจมตีและยึดครองอาณาจักรเอาไว้ในกำมือ


    อาณาจักรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง ไพร่ฟ้าประชาชนมีความสุข ราชาและราชินีครองคู่กันอย่างมีความสุขโดยมีพระธิดาเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของทั้งสอง บัดนี้กลับสูญสิ้นราวกับเถ้าที่ปลิดปลิวไปตามอากาศยามลมพัดผ่านมาเสียแล้ว



    สโนว์ไวต์ก็ได้หนีออกไปจากอาณาจักรและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีผู้ใดได้ยินชื่อของนางอีกต่อไป







    ++






    คิมแทฮยองกำลังมึนงงถึงขีดสุด


    เมื่อสองสามนาทีที่แล้วหลังจากที่เขาหยิบหนังสือเทพนิยายดังก้องโลกอย่างสโนว์ไวต์มาอ่าน จริงๆแล้วมันควรจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนอย่างที่เขาเคยได้ยินมาสิ ทำไมมันถึงหักมุมจบได้ค้างคาเช่นนี้เล่า


    แต่แล้วแทฮยองก็ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นมาอ่านในที่สุด เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะซื้อหนังสือการ์ตูนที่เขาชอบอ่านสักหน่อยแต่ดันหมด ยังโชคดีที่มีหนังสือเทพนิยายอย่างสโนว์ไวต์มาแก้ขัดแทนหนังสือการ์ตูนที่เขาอยากจะได้แทน


    ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆก็มีอะไรสักอย่างมาดลใจให้เขาเปิดหนังสือสโนว์ไวต์เล่มนั้นอ่านทุกครั้งที่มาที่ร้านหนังสือแห่งนี้ แล้วครั้งนี้ก็หยิบซื้อมันมาทั้งๆที่ยังงงกับตนเองอยู่เช่นกัน


    อากาศด้านนอกร้านหนังสือใจกลางกรุงโซลนั้นเย็นลงฉับพลัน หิมะสีขาวโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าจนมันปกคลุมตัวเมืองจนขาวโพลนไปหมด แทฮยองเกลียดฤดูหนาวมากที่สุด เพราะเนื่องจากว่าการเดินไปไหนมาไหนก็ยากลำบากแล้ว กว่าจะก้าวขาเดินได้ก็กินเวลาไม่รู้ไม่กี่นาที แถมการเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบากอีกด้วย



    แต่สิ่งที่เขากลับสงสัยฤดูหนาวมากขึ้น คือการที่เขาแวะร้านหนังสือบ่อยๆและหยิบหนังสือเทพนิยายเรื่องสโนว์ไวต์มาอ่านเป็นว่าเล่น เขาพยายามหักห้ามใจไม่ให้อ่านแล้วแต่ทำไมได้เลย



    "หนาวจัง..." แทฮยองพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้าๆจนเกิดไอความร้อนสีขาว อากาศลดต่ำลงเป็นว่าเล่น แถมเขาก็อยู่ในอารมณ์อะไรก็ไม่รู้ออกมาเดินตอนที่อากาศหนาวเข้ากระดูกดำแบบนี้


    เขาเดินกลับบ้านด้วยท่าทีและอารมณ์ในโหมดเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว และอีกหลายๆปีที่ผ่านมา เขาเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็พบกับสภาพของบ้านเดิมๆ โซฟาสีดำทึบ พรมสีน้ำตาลอ่อน ทีวีราคาถูกๆ โต๊ะทานข้าวสีน้ำตาลเข้มกับเก้าอี้ไม้สองตัวที่วางตรงข้ามกัน



    แทฮยองทิ้งอดีตทุกอย่างเอาไว้ที่เบื้องหลังของตนเองและมาเรียนคนเดียวที่โซล



    เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แม่ของเขาก็มาเที่ยวหาที่ห้องพักราคาถูกๆพร้อมกับอาหารติดมือมาให้ลูกด้วย เธอมองไปรอบๆห้องก่อนจะเอ่ยประโยคที่เขาคิดว่าจะต้องเจอแน่นอน "ไม่ตกแต่งห้องหน่อยเหรอลูก ทำบ้านให้เป็นบ้านน่ะ"


    ไม่ล่ะ เขาทำไม่ทำหรอก แค่การตกแต่งห้องนั้นก็ยุ่งยากลำบากพอแล้ว เขาคิดเอาไว้ว่าจะเรียนที่โรงเรียนในช่วงมัธยมปลายแค่สามปีเท่านั้นก่อนจะเรียนในระดับที่สูงกว่าก็คือมหาวิทยาลัย


    ถ้าหากว่าตกแต่งห้องมากเกินไปก็ยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น เพราะต้องเก็บข้าวของอีก ซึ่งเขานั้นไม่ชอบเป็นอย่างมาก นอกจากจะหนักแล้วก็เหนื่อย ยังจะต้องขนของจากชั้นสี่ลงไปชั้นหนึ่งอีก เขาไม่ใช่จอมพลังเสียหน่อย



    และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาไม่คิดที่จะตกแต่งห้องก็คือ 'ขี้เกียจ'



    แทฮยองมองไปที่ปฏิทินรูปแมวสีเทา วันนี้เป็นวันที่หนึ่ง เดือนธันวาคม เดือนแห่งฤดูหนาวและหนาวที่สุดของรอบปีเลยก็ว่าได้ เขาจำได้เลยว่าแค่ดื่มช็อกโกแลตร้อนแก้วเดียวก็เอาความหนาวเอาไว้ไม่อยู่ ต้องดื่มอย่างน้อยสองสามแก้วจนกว่าร่างกายจะหายหนาว แล้วหลังจากนั้นก็จะเกิดมหกรรมวิ่งเข้าห้องน้ำของคิมแทฮยอง



    และโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด เขาจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน



    ด้านนอกหน้าต่างยังมีหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณ ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีแสงอาทิตย์ส่องลงมาเลยแม้แต่น้อย แทฮยองนั่งอยู่หน้ากระจกเพื่อสำรวจร่างกายของตนเองว่าควรจะทาครีมประเภทไหนลงบนส่วนไหนของใบหน้าเป็นอันดับแรกดี เพราะเมื่อกี้เขาไปอาบน้ำเพื่อให้ความเย็นที่เขาเพิ่งออกไปด้านนอกก่อนหน้านี้ออกไป


    แม่ของเขาเคยบอกเอาไว้ว่าการรักษาผิวใบหน้าและร่างกายของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้ดูเด็กลงแล้วยังทำให้คนอื่นมองเห็นคุณค่าและรักในตัวของเราด้วย


    แทฮยองเองก็ทำตามที่แม่บอกทุกครั้งแล้วมันก็เป็นจริงทุกครั้งเช่นกัน เพราะใครหลายคนที่แทฮยองไม่ได้พบเจอหน้ามานานแล้วกลับมาพบกันอีกครั้ง โดยเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของคนทั้งหมดนั้นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "นายไปทำอะไรมาน่ะ ทำไมใบหน้ายังดูเด็กจัง"


    ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็จัดการกับธุระส่วนตัวของตนเองเสร็จ รายการทีวีรายการโปรดของเขายังไม่ถึงเวลาออกอากาศ แถมพวกจานชามที่เขาค้างเอาไว้ในอ่างล้างจานก็จัดการล้างเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยิ่งทิ้งเอาไว้ตรงนั้นนานก็เริ่มส่งกลิ่นเหม็น แล้วเขาเองก็เป็นพวกอนามัยจัดเช่นกันก็เลยรีบล้างอย่างเร็วไว



    เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ตนเองยังไม่ได้ลงมือทำก็คือ อ่านหนังสือการ์ตูนหรือนิยายที่เขาซื้อมาเท่านั้น



    ซื้อมาได้ไงเนี่ยเรา... แทฮยองพึมพำกับตนเองในขณะที่มือนั้นแกะซองพลาสติกที่ห่อหนังสือออก เล่มที่เขาอ่านในร้านหนังสือนั้นมันเป็นเล่มตัวอย่างให้เด็กหรือคนที่สนใจอ่าน เขาก็เลยหยิบเล่มใหม่เอี่ยมที่มีพลาสติกห่อแทน ในใจของเขาเองก็พูดซ้ำๆว่าเรื่องราวต่อจากนี้มันอาจจะสนุกก็ได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องสโนว์ไวต์คงไม่ติดอันดับตลอดกาลเช่นนี้หรอก


    คนตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ มือก็เอื้อมไปที่ถังขยะและทิ้งซองพลาสติกที่ตนเองแกะเสร็จเมื่อกี้ทิ้งลงไป เขานอนพิงหัวเตียงก่อนจะเปิดอ่านหนังสือที่เขาซื้อมา


    ตามความเป็นจริงแล้ว เรื่องสโนว์ไวต์ที่เขาคุ้นเคยนั้นดูสวยงามเสียยิ่งกว่าโลกในจินตนาการของเขาเสียอีก คนอะไรพูดคุยกับสัตว์ได้ แถมกระจกวิเศษบอกว่านางนั้นงามเลิศในปฐพีจนทำให้แม่มดอิจฉา แล้วนางต้องกัดแอปเปิ้ลที่อาบยาพิษและมีเจ้าชายรูปงามมาแก้คำสาปให้โดยจุมพิศจากรักแท้ แล้วเรื่องนี้ก็จบอย่างสวยงามตามฉบับของเจ้าหญิงในเทพนิยาย


    ในอีกความคิดหนึ่งของแทฮยองนั้นรู้สึกว่าตนเองมีมุมหนึ่งที่คล้ายๆกับสโนว์ไวต์ แม่ของเขาเคยบอกเอาไว้ว่าตอนเด็กๆนั้นเขามีริมฝีปากสีแดงสดราวกับเลือด ผิวก็ขาวดุจดั่งหิมะ ผมก็มีสีดำราวกับไม้มะเกลือที่ถูกเผา เขาเองก็จำได้ว่าเพื่อนในสมัยเด็กของเขานั้นก็เคยตั้งฉายาให้เขาว่าสโนว์ไวต์เลย


    แต่แล้วก็มีบางอย่างที่เขาคิดว่าตนเองนั้นไม่เหมือนสโนว์ไวต์แม้แต่น้อย ตรงที่ว่าเขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง เขาใช้ชีวิตเหมือนคนไร้ตัวตน แต่สโนว์ไวต์มีชีวิตเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์และดูสวยงามไปเสียหมดจนน่าเหลือเชื่อ แถมเรื่องของสโนว์ไวต์นั้นก็เป็นเพียงแค่เรื่องหลอกเด็ก มิใช่เรื่องจริง



    แทฮยองเปิดหนังสืออ่านต่อไป เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าเรื่องราวหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้นกับนาง






    ++





    สโนว์ไวต์ดิ้นรนและวิ่งเข้าไปในป่าลึกอย่างไร้จุดหมาย นางไม่อยากจะนึกไม่อยากจะฝันเลยว่าทำไมชีวิตของตนเองจะต้องมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่นางจะทนได้ ทั้งเรื่องของเสด็จแม่ เสด็จพ่อและเรื่องของแม่มดที่ชื่อว่าโรเวนนาอีก นางไม่อยากจะรับรู้อะไรต่อไปแล้ว


    ป่าสีดำโอบล้อมนางเอาไว้ไม่ให้โรเวนนาพบเห็น สโนว์ไวต์วิ่งต่อไปเรื่อยๆไม่หยุดพัก จนกระทั่งนางก็ต้องหยุดลงเนื่องจากว่าเท้าของนางนั้นกลับเหยียบใส่กับดักที่ถูกวางอยู่บนพื้น เชือกกระตุกและรัดข้อเท้าของนางพร้อมกับยกร่างสูงขึ้น สโนว์ไวต์ดิ้นไปดิ้นมาเพื่อให้เชือกที่รัดข้อเท้านั้นปล่อยนางลงไป


    ฉับพลันนั้นเอง เหล่านายพรานก็ออกมาจากพุ่มไม้และตรงมาที่สโนว์ไวต์ นางรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ชายผู้นี้จะทำร้ายนางหรือไม่ จะฆ่านางโยนให้สิงสาราสัตว์กินหรือไม่ สโนว์ไวต์พูดอะไรไม่ออกเพราะนางกำลังกลัวสุดขีด มีนายพรานสามคน ไม่สิ หกคนกำลังมองมาที่นางต่างหาก ทันใดนั้นเองก็มีนายพรานคนหนึ่งพูดขึ้นมา


    "นางผู้นี้เป็นใครกัน" เขาพูด "ทำไมถึงมาติดกับดักล่าสัตว์ของพวกเรา"


    "แม่หญิง เจ้ามีนามว่ากระไรหรือ"


    สโนว์ไวต์เม้มปาก ก่อนจะบอกชื่อของตนเองให้นางพรานได้ทราบ


    "สโนว์ไวต์" นางบอก "ข้ามีนามว่าสโนว์ไวต์"


    เหล่านางพรานมองหน้ากันไปมา สโนว์ไวต์มองเห็นสีหน้าของพวกเขานั้นก็เดาออกเลยว่าเหล่านางพรานเหล่านี้ไม่รู้จักนางอย่างแน่นอน หากพวกเขารู้จักนางก็ต้องมีสีหน้าอึ้งหลังจากที่นางบอกชื่อแน่นอน เพราะนางมียศถาบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าหญิง เป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรแห่งนี้



    แต่กลับไม่รู้จักเชื้อพระวงศ์อย่างนาง ให้ตายเถอะ...



    "สโนว์ไวต์" นางพรานที่ถือหน้าไม้พูด "สโนว์ไวต์" เขาพูดซ้ำอีกครั้งพร้อมกับพยักหน้าไปมา "ข้าชอบชื่อของนางนะ ฟังดูแล้วหนาวๆจนอยากจะผิงไฟดี"


    "มันหนาวตรงไหนกัน ดูอากาศสิ หม่นหมองเสียยิ่งกว่าเงามืดของตอนกลางคืนเสียอีก เจ้าเอาอะไรมาพูดว่าตอนนี้มันหนาวจนอยากจะผิงไฟ"


    "นี่! ถ้าพูดถึงผิงไฟก็น่าจะมีเนื้อกวางอร่อยๆย่างอยู่นะ ข้าจะได้ผิงไฟไปด้วยกินไปด้วยไง" นายพรานอีกคนพูดพลางเลียริมฝีปากของตนเอง "ไวน์สักขวดด้วยเห็นจะดี"


    "เจ้านี่ก็คิดแต่ของกินนะ ผ่านมาตั้งสองชั่วโมงแล้วเรายังล่าสัตว์ไม่ได้สักตัว แล้วจะเอาอะไรมาตกถึงท้องเล่า เงินพวกเราก็ไม่มีพอที่จะซื้อไวน์มากินระหว่างผิงไฟด้วย"


    "พูดล่ะข้าก็หิวเลย" นางพรานที่ถือหน้าไม้พูด "อยากจะกินเนื้อย่างแล้วสิ"


    "เจ้าโง่เง่า" นางพรานบอก "ตอนนี้ช่วยพานางลงมาก่อนเถอะ นางห้อยหัวเช่นนี้มานานแล้วนะ"


    สโนว์ไวต์กกอดอกตนเองพน้อทกับลอกตามองบนหลังจากที่นายพรานอีกคนพูดขึ้นมาให้สนใจนางบ้าง กว่าพวกเขาจะพานางลงมาได้ก็เลือดไหลลงศีรษะเป็นจำนวนมากไปแล้ว แถมสโนว์ไวต์ก็ร่วงลงมาบนพื้นนั้นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ทำให้ใบหน้าของนางนั้นกระแทกพื้นและรู้สึกเจ็บเล็กน้อย


    มองไปที่ข้อเท้าของตนเองก็พบว่ามีเศษเชือกสีน้ำตาลติดอยู่เล็กน้อย แสดงว่ามีนายพรานอีกคนปีนขึ้นไปบนต้นไม้และจัดการตัดเชือกเพื่อให้นางลงมาแน่นอน


    "ขอบคุณมาก"


    สโนว์ไวต์บอก มือก็ปัดฝุ่นออกจากร่างของตนเอง


    "ด้วยความยินดีพะย่ะค่ะองค์หญิง" นายพรานร่างท้วมที่บ่นเรื่องของกินบ่อยๆโค้งตัวให้ สโนว์ไวต์ยิ้มบางๆส่งกลับไปให้ "หากพระองค์ไม่รังเกียจ กระหม่อมขออนุญาตเชิญองค์หญิงไปที่หมู่บ้านกับพวกเราพะย่ะค่ะ เอ้า! นำทางองค์หญิงไปเร็วเข้า"


    "เจ้าเดินนำนางสิ" นางพรานที่ถือหน้าไม้บอก พลางยักไหล่ไปมาอย่างไม่ยี่หระ


    "นี่ๆ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงแสดงกิริยาเช่นนี้ออกมาต่อหน้าองค์หญิง" นายพรานอีกคนบอกและส่ายหน้าไปมา "ไม่สุภาพเอาเสียเลย"


    "อย่าทะเลาะกันเลย ข้าจะเดินตามทุกคนไปอย่างเงียบๆนี่แหละ"


    สโนว์ไวต์กล่าว ก่อนจะเดินตามเหล่านายพรานที่บ่นกันเองไปอย่างเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกหลังจากนั้น นางคิดว่าวิถีของตนเองหลังจากนี้แหละที่จะสามารถหนีจากเงื้อมมือของโรเวนนา แม่มดที่สังหารบิดาของนางได้ อย่างน้อยที่นางหนีออกมาจากวังได้ก็มาพบกับเหล่านายพรานเหล่านี้ที่ดูไม่มีพิษภัยอะไร



    แต่หารู้ไม่ว่า โรเวนนานั้นยังคงไล่ตามที่จะสังหารนางให้ได้



    เช่นเดียวกับคิมแทฮยอง ที่ยังไม่รู้ความจริงของตนเองในตอนนี้...







    #ลาเรียน่าออลวี







    TBC. [05/03/2019]

    สวัสดีค่าทุกคนนน เรื่องนี้เองก็หายไปนานเช่นกัน 5555555 มาแบบเซิร์ฟๆ เบาะๆก่อนที่จะพบกับความเข้มข้นในตอนต่อไปค่า

    คือเรื่องเนี๊ยะอะ เราแบบขมวดคิ้วกับเนื้อเรื่องก่อนรีไรต์มากค่ะ รู้สึกว่ามันออกทะเลเสียยิ่งกว่าเรื่องไหนๆซะอีก แถมภาษานี่คือ... ย๊ากกกกก ชั้นแต่งไปได้งายยยยย (กุมขมับ) และนั่นก็ส่งผลให้เราจัดการรีเนื้อเรื่องใหม่หมดโดยนำเทพนิยายที่ทุกคนรู้จักเรื่องสโนว์ไวต์มาเป็นเค้าโครงนั่นเองค่ะทุกคน...


    เราก็ขอฝากติดตามเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ อย่าลืมเฟบ โหวต กดให้กำลังใจ สกรีมฟิคในทวิตเตอร์และคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ

    ฟีดแบคดีเท่ากับเรามีกำลังใจและตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณค่าาาา

    //ปาหัวใจ >3<


    ปล. เรื่องสโนว์ไวต์จะมีบางส่วนที่เราแต่งเพิ่มขึ้นมาจากต้นฉบับเองด้วย เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นกับเนื้อเรื่องทั้งในเทพนิยายและพาร์ทของแทแทด้วยค่า

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×