ว่าด้วย ช้างฉัททันต์ - นิยาย ว่าด้วย ช้างฉัททันต์ : Dek-D.com - Writer
×

    ว่าด้วย ช้างฉัททันต์

    รวบรวมและชำระข้อมูลที่ถูกบิดเบือนเกี่ยวกับ ช้างฉัททันต์(Chaddanta Elephant)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,387

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    1.38K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 ธ.ค. 59 / 13:49 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บันทึกทางพระพุทธศาสนา ได้มีการจำแนกสายพันธุ์ของช้างไว้ ๑๐ ชนิด และได้กำหนดพละกำลังของช้างแต่ละสายพันธุ์โดยเทียบกับพละกำลังของชายฉกรรจ์ปกติไว้ เรียกว่า ช้าง ๑๐ ตระกูล ดังนี้


    ๑๐ กำลังกายของชายฉกรรจ์ปกติ เป็น ๑ กำลังช้างกาฬวก(ช้างสีดำธรรมดา)
    ๑๐ กำลังช้างกาฬวกหัตถี เป็น ๑ กำลังช้างคังไคย(กังไขยะ-ช้างสีเทาเงาน้ำไหล)
    ๑๐ กำลังช้างคังไคย เป็น ๑ กำลังช้างปัณฑระ(จันทระ-ช้างสีเหลืองจันทร์)
    ๑๐ กำลังช้างปัณฑระ เป็น ๑ กำลังช้างตามพระ(ตัมพะ-ช้างสีทองแดง)
    ๑๐ กำลังช้างตามพระ เป็น ๑ กำลังช้างปิงคละ(ช้างสีน้ำตาลแสด)
    ๑๐ กำลังช้างปิงคละ เป็น ๑ กำลังช้างคันธะ(ช้างกลิ่นไม้หอม คือ กฤษณา)
    ๑๐ กำลังช้างคันธะ เป็น ๑ กำลังช้างมังคล(ช้างสีดอกอัญชัน)
    ช้างมังคลเป็นตระกูลของช้างนาฬาคิรี[ธนบาล]ด้วย
    ๑๐ กำลังช้างมังคละ เป็น ๑ กำลังช้างเหมะ(โปจะ-ช้างสีหลืองทอง)
    ๑๐ กำลังช้างเหมะ เป็น ๑ กำลังช้างอุโปสถะ(ช้างสีนวลจันทร์ขึ้น๑๕ค่ำ)
    ๑๐ กำลังช้างอุโปสถะ เป็น ๑ กำลังช้างฉัททันต์(ช้างสีเงินยวง มี ๖ งา)
    ๑๐ กำลังช้างฉัททันต์ เป็น ๑ นารายณพล
    นารายณพล คือ กายพลเพื่อกำลังตรัสรู้ของพระบรมโพธิสัตว์
    *หมายเหตุ หน่วยวัดแบบกำลังช้างในที่นี้ ให้นึกถึงหน่วยวัดแบบ แรงม้า ดังนั้น ในที่นี้ จึงขอเรียกว่า แรงช้าง

    ช้างแต่ละสายพันธุ์(ตระกูล) ยกเว้น ช้างกาฬวก มีถิ่นที่อาศัยอยู่ในแดนหิมพานต์เป็นหลัก ดังนั้น พละกำลังของช้างแต่ละสายพันธุ์จึงเพิ่มขึ้นตามส่วนสูงและขนาดของร่างกาย โดยมีลิมิตสูงสุดอยู่ที่ ช้างสายพันธุ์ ฉัททันต์ ตามข้อมูลว่า

    (พญา)ช้างฉัททันต์
    ส่วนสูงประมาณ ๔๔เมตร(๘๘ ศอก)
    [๑๔๔ฟุต๔นิ้ว โดยประมาณ]

    ความยาวจากด้านหน้าถึงด้านหลังประมาณ ๖๐เมตร(๑๒๐ ศอก)
    [๑๙ตฟุต๑๐นิ้ว โดยประมาณ]

    ส่วนงวงมีสีคล้ายพวงเงินมีความยาวยาวประมาณ ๒๙เมตร(๕๘ ศอก)
    [๙๕ฟุต๗นิ้ว โดยประมาณ]

    ส่วนงาวัดโดยรอบ(เส้นรอบวง)ประมาณ ๗.๕เมตร(๑๕ ศอก)
    [๒๔ฟุต๗นิ้ว โดยประมาณ]

    งามีความยาวประมาณ ๑๕เมตร(๓๐ ศอก)
    [๔๙ฟุต๒นิ้ว โดยประมาณ]

    ช้างฉัททันต์ ๑ ตัว(ใช้สรรพนามตามช้างป่า)มีงาทั้งหมด ๖ ข้าง ซ้าย-ขวา ข้างละ ๓ งา
    งาทั้ง๖ ของช้างฉัททันต์ มีรัศมีสีทอง
    *หมายเหตุ ๑เมตร = ๒ศอก
    *หมายเหตุตัวโตๆ ตามอรรถกถาชาดกที่แปลไว้ในภาษาไทย ต่างบอกตามๆกันมาว่า ช้างฉัททันต์ มีงา ๑ คู่ ที่เปล่งแสง ๖ รัศมี ซึ่งการแปลว่า มีงา ๑ คู่ ที่เปล่งแสง ๖ รัศมี นั้น เป็นการแปลเองโดยฝ่ายไทยเพียงข้างเดียว ไม่มีการเทียบเคียงกับหลักฐานอื่นใดจากต่างประเทศ ทั้งๆที่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาสากล และเคยรุ่งเรืองอยู่ในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการค้นคว้าในวงกว้าง ทางเราพบข้อมูลประกอบคำแปลที่แท้จริงของคำว่า ฉัททันต์ คือ ฉ แปลว่า ๖ / ทันต์ แปลว่า ฟัน
        ะนั้น ช้างฉัททันต์ตามความหมายดั้งเดิมจริง ต้องเป็นช้าง ๖ งา ซึ่งภาษาอังกฤษ เรียกลักษณะช้างฉัททันต์ว่า White Elephant Six Tusks แปลว่า ช้างเผือก ๖ งา อย่างตรงตัว และชื่อนี้เป็นที่ยอมรับกันในสากล จะมีก็แต่ไทยเท่านั้นที่ยังคงยึดว่า ช้างฉัททันต์นั้น มีงา ๑ คู่ ที่เปล่งแสง ๖ รัศมี(หากมีประเทศอื่นอีกต้องขออภัย) ซึ่งหลักฐานเก่าแกชิ้นหนึ่งเป็นภาพหินแกะสลักจากถ้ำหมายเลข ๑๐ ของถ้ำอชันตา(Ajanta)ซึ่งมีอายุราว พุทธศตรรษที่ ๗ ซึ่งมีความเก่าแก่พอที่จะยึดได้ว่า เป็นหลักฐานยืนยันลักษณะของช้างฉัททันต์ที่เก่าแก่และถูกต้องมากที่สุด และยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่วิหารHindagalaซึ่งวาดช้างฉัททันต์มี ๖ งา เช่นกัน


        ส่วนสูงของพญาช้างฉัททันต์นี้ มีความใก้เคียงกับ Bewilderbeast ซึ่งปรากฏตัวใน อนิเมชั่นเรื่อง How to Train Your Dragon 2 
    Bewilderbeast มีความสูงประมาณ ๑๖๐ฟุต๕นิ้วครึ่ง หรือก็คือ ๔๘เมตร๙นิ้ว โดยประมาณ

    ดังนั้น พญาช้างฉัททันต์ตามบันทึกในชาดก จึงเตี้ยกว่า Bewilderbeast เพียง ๔เมตร เท่านั้น(แต่หากวัดส่วนสูงในเวลาที่ Bewilderbeast ยืน ๔ เท้า พญาช้างฉัททันต์น่าจะสูงกว่าเล็กน้อย)


        อนึ่ง งายาว ๓๐ ศอกนั้น เป็นความยาวของงาขณะที่พญาฉัททันต์ยังมีชีวิตในช่วงนั้นตามท้องเรื่องในชาดก ส่วนช้างลูกโขลงตัวอื่นๆอาจมีงาที่ยาวน้อยกว่านี้ก็เป็นได้ และที่สำคัญ พญาฉัททันต์(ตามท้องเรื่อง)ไม่ได้สิ้นตามอายุขัย หมายความว่า หากช้างฉัททันต์อยู่ไปเรื่อยๆจนสิ้นตามอายุขัยจริงแล้ว(ซึ่งยังไม่ทราบว่ากี่ปีแต่ก็น่าจะเป็นร้อยปีขึ้นไป) งาช้างอาจยาวได้มากกว่า ๓๐ ศอกก็เป็นได้ ส่วนความสูงของช้างลูกโขลงตัวอื่นๆอาจน้อยกว่าพญาช้างฉัททันต์

        นอกจากนี้ ช้างฉัททันต์ยังเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วว่องไว ด้วยสามารถเดินหนในอากาศได้ ซึ่งนับว่า เป็นสายพันธุ์ช้างซึ่งเคลื่อนที่รวดเร็วที่สุดในบรรดาช้างทุกสายพันธุ์(ช้างหิมพานต์สามารถเดินหนได้ทุกสายพันธุ์ แต่ต่างกันที่ระยะทางที่เดินทางได้ใน๑วัน[พลังกายต่างกัน])

    ภาพวาดจำลองพญาฉัททันต์[Chaddanta king]


    จากการค้นหาเพิ่มเติมในมิลินทปัญหา พบว่า ตามชาดกนั้น พระโพธิสัตว์เคยเสวยชาติเป็น พญาช้างฉัททันต์ถึง ๓ ครั้ง ดังปารกฏข้อมูลโดยย่อ ดังนี้

    ชาติหนึ่งเล่า พระบรมโพธิสัตว์เจ้าเป็นพระยาช้างฉัททันต์ พระเทวทัตนั้นเป็นพรานตามฆ่าเอางา

    ชาติหนึ่งเล่า พระโพธิสัตว์เจ้าเป็นพระยาช้าง พระเทวทัตเป็นพรานชื่อว่าสุสามะตามไปเลื่อยงาถึง ๓ ครั้ง(ตามตำราเดิมว่า ๗ ครั้ง แต่พิจารณาแล้ว ควรเป็น ๓ ครั้งมากกว่า คาดว่าเกิดความคลาดเคลื่อนในการคัดลอกตำรา)

    เมื่อพระตถาคตเสวยพระชาติเป็นพระยาคชสารชื่อว่าฉัททันต์นั้น ยังมีพรานคนหนึ่งเห็นพระยาฉัททันต์นั้นกับบริวารนมัสการพระสมณะนุ่งห่มกาสาวพัสตร์โดยเคารพนับถือยิ่งนักหนา พรานป่านั้นจึงเอาผ้ากาสาวพัสตร์ย้อมฝาดนุ่งห่มเข้าแล้วก็ปลอมเป็นสมณะนั่งอยู่ที่ร่มไม้ ส่วนว่าหมู่ช้างบริวารกับพระยาฉัททันต์ก็อภิวันท์ไหว้พรานนั้นด้วยสำคัญว่าเป็นสมณะ ยกงวงจบแล้วพากันไป พรานนั้นจึงยิงช้างตัวหลังที่ล้าๆ อยู่นั้นคราวละตัวๆ จนบริวารพระยาฉัททันต์น้อยไป พระยาฉัททันต์ประกอบด้วยปัญญาจึงคิดคุมบริวารตามมาต่อภายหลัง ก็เห็นนายพรานกระทำดังนั้น พระยาฉัททันต์จึงเอางวงฉวยจับพรานนั้นได้ คิดว่าจะฆ่าพรานนั้นให้ตายแต่ได้เห็นกาสาวพัสตร์พันกายพรายอยู่ ก็มิได้ฆ่าพรานนั้นด้วยจิตสำคัญว่าผ้ากาสาวพัสตร์
    เป็นธงชัยพระอรหันต์อันเลิศ

    กล่าวโดยสรุป จากมิลินทปัญหา จึงสรุปความได้ว่า พระโพธิสัตว์ได้เสวยชาติเป็นพญาช้างฉัททันต์ ๓ ชาติ และถูกตัดงาถึง ๒ ชาติด้วยกัน
    ชาติหนึ่งโดนตัดงาแล้วเสียชีวิต คือเหตุการณ์ใน ฉัททันตชาดก
    ชาติหนึ่งโดนตัดงาแล้วไม่เสียชีวิต คือเหตุการณ์ใน สีลวนาคชาดก
    ชาติหนึ่งไม่ถูกตัดงาไป คือเหตุการณ์ใน กาสาวชาดก

    และจากข้อมูลเท่าที่รวบรวมได้ ทางเราจึงได้ชำระบางส่วนของชาดกทั้ง ๓ เรื่องโดยอิงตามรูปประโยคเดิมจากอรรถกถาเป็นหลัก ดังนี้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น