สาเหตุที่มาเรื่อง พระสังข์(ทอง)หนีนางพันธุรัต - สาเหตุที่มาเรื่อง พระสังข์(ทอง)หนีนางพันธุรัต นิยาย สาเหตุที่มาเรื่อง พระสังข์(ทอง)หนีนางพันธุรัต : Dek-D.com - Writer

    สาเหตุที่มาเรื่อง พระสังข์(ทอง)หนีนางพันธุรัต

    ผู้เข้าชมรวม

    452

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    452

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ม.ค. 59 / 14:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    คนสมัยนี้อ่านตอน พระสังข์หนีนางพันธุรัตน์ แล้วด่าแต่พระสังข์เละเลย เนรคุณมั่งล่ะ อกตัญญูมั่งล่ะ ดีแต่อวดปัญญาตื้นๆต่ำๆไม่ได้มีความรู้พื้นฐานเรื่องพฤติกรรม อารมณ์ อุปนิสัย ของยักษ์เลยไม่เคยศึกษากันเลย จึงขอยกตัวอย่างตัดตอนมาจากช่วงท้ายตอน นางพันธุรัตเลี้ยงพระสังข์ ดังนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      จากกลอนชุดนี้ แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของนางพันธุรัตที่มีอยู่ลึกๆในใจ ซึ่งทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนได้ กล่าวคือ ถ้าอยู่ๆไปพวกพี่เลี้ยงถูกลงโทษหนักเพราะพระสังข์ พระสังข์ก็คงอึดอัดใจไม่น้อย ขณะเดียวกัน พวกพี่เลี้ยงที่ถูกลงโทษอาจผูกใจเจ็บ และอาจทำร้ายพระสังข์ได้ในอนาคตหากสิ้นนางพันธุรัตไปแล้วด้วย

       

      เมื่อพิจารณาลงลึกตั้งแต่ต้นจริงๆนั้น พระสังข์เองก็ไม่เป็นที่พึงปรารถนาในเมืองยักษ์อยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่เริ่มรับพระสังข์มาเลี้ยงตามสารท้าวภุชงค์ที่ว่า

       

      ๏ สารท้าวภุชงค์ทรงศักดิ์      คิดถึงแม่รักยักษา

      แต่สหายวายปราณนานมา     ชั่วช้ามิได้มาเยี่ยมเยือน

      องค์ท้าวกุมภัณฑ์ที่บรรลัย     ความสมัครรักใคร่ใครจะเหมือน

      เจ้าน้อยใจที่ไม่เยี่ยมเยือน     รักเจ้าเท่าเทียมเหมือนกัน

      เป็นหญิงครองเมืองมณฑล    เสนีรี้พลจะเดียดฉันท์

      เราไซร้ได้บุตรบุญธรรม์         มนุษย์จ้อยน้อยนั้นถือสารไป

      เจ้าจงเลี้ยงไว้เป็นลูกรัก         เราเห็นบุญหนักศักดิ์ใหญ่

      จะได้ครอบครองพระเวียงชัย   เลี้ยงไว้ค้ำชูแทนหูตา

      ฯ ๘ คำ ฯ

       

      จากประโยคที่ว่า เป็นหญิงครองเมืองมณฑล    เสนีรี้พลจะเดียดฉันท์ แสดงว่า หลังจากนางพันธุรัตได้ครองเมืองต่อจากสามีที่ป่วยตาย นางก็ถูกเพ่งเล็งมาตลอด เพราะบรรดาเสนายักษ์ไม่พอใจที่ต้องทำงานรับใช้สตรี! การที่ท้าวภุชงค์ส่งพระสังข์มาจึงน่าจะมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝงแน่นอน!!! นางพันธุรัตเองจึงเห็นดีด้วยรับเลี้ยงพระสังข์ด้วยความเต็มใจ แต่ทว่าในการประชุมโหรหลวงฝ่ายขวากลับมีมติแจงในที่ประชุมว่า

       

      ๏ บัดนั้น                        กุมภัณฑ์โหรใหญ่ฝ่ายขวา

      พินิจคิดคูณแล้วทูลมา       โหราขอโทษได้โปรดปราน

      อย่าเพ่อชื่นชมภิรมย์ใจ      มิได้สงสัยที่ในสาร

      ตำราทายว่าพระกุมาร        มิใช่ลูกหลานท้าวนาคา

      มนุษย์กับยักษ์จะรักกัน      ห้ามปรามกวดขันเป็นหนักหนา

      เหมือนหนึ่งดุเหว่าเหล่กา   เลี้ยงรักษาได้เมื่อไรมี

      ทำนองเมรีกับพระรถ         ลักหยูกยาหมดแล้วลอบหนี

      โฉมยงเหมือนองค์เมรี       รับมาน่าที่จะวายปราณ

      ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

       

      คือ มีการยกกรณีตัวอย่างของ พระรถ เมรี มาอ้างถึงความอันตรายของยักษ์ที่คิดจะรักมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของคนรักรึลูกบุญธรรมก็ตาม เพราะตามเหตุผลแล้ว มนุษย์น้อยคนนักที่จะสามารถอดทนต่อความโหดเหี้ยมอันเป็นกมลสันดานดั้งเดิมของยักษ์ได้ และยักษ์ส่วนมากมักจะมีโรคทางใจ(หวงหึงห่วงหนักรักมากจนเกินไป)ซึ่งเป็นสาเหตุหลักให้ยักษ์ในวรรณคดีหลายเรื่องเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรเมื่อถูกกระตุ้นอาการอย่างรุนแรงโดยฉับพลัน แต่ด้วยนิสัยชอบเอาแต่ใจดั้งเดิมของนางเองบวกกับอารมณ์รุนแรงตามสัญชาติยักษ์ นางจึงคิดว่า

       

      ๏ ได้เอยได้ฟัง                มืดคลุ้มกลุ้มคลั่งดังเพลิงผลาญ

      เหม่อ้ายโหรใหญ่ใจพาล    ช่างเปรียบเทียบทัดทานด้วยมารยา

      มึงนี้ผูกจิตคิดคด              จะขบถจริงจังกระมังหนา

      กูไซร้จะได้ลูกยา              กีดหน้าขวางตาหรือว่าไร

      กูไซร้ใช่นางเมรี               หลงด้วยโลกีย์หาดีไม่

      อันท้าวภุชงค์ทรงชัย         ชั่วแล้วที่ไหนจะให้มา

      ว่าพลางทางสั่งสาวสวรรค์  จงช่วยกันขับไล่ไสเกศา

      แต่นี้สืบไปอย่าให้มา         มันว่ากูเล่นให้เป็นลาง

      ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

       

      ดูจากลิมิตความโกรธของนางแล้ว นางพันธุรัตน่าจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขับขันสุดขีด สาเหตุหลักก็น่าจะเป็นเรื่องที่นางสำเร็จราชการแทนสามีที่ตายไปอยู่แบบนี้เอง เนื่องด้วยตัวนางเองก็ไม่มีลูกหลานที่ไหนจะสืบทอด ไม่ช้าก็เร็วนางก็คงต้องถูกบีบให้สละอำนาจออกจากบัลลังก์ตำแหน่งแน่นอน แล้วสถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายลง พวกขุนนางผู้ใหญ่คงได้ก่อสงครามชิงอำนาจกันวุ่นวายจนอาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง นางเองก็มีแค่นางกำนัลกับคนสนิทใกล้ตัวที่ไว้ใจได้ไม่กี่คน(พวกที่มารวมกันตอนนางตีกลองเรียกเพื่อตามหาตอนพระสังข์หนีนั่นแหละ)คงจะหยุดเรื่องนี้ไม่ได้แน่ การที่รับพระสังข์มาเลี้ยงจึงน่าจะเป็นการเบี่ยงประเด็นที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้น(แต่การรับลูกบุญธรรมก็เป็นแค่การถ่วงเวลาเรื่องหาตัวผู้ครองบัลลังก์ออกไปสักหลายปีหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่การแก้ปัญหาอะไรเลย)

       

      แต่ด้วยความกลัวว่าพระสังข์จะตกใจกลัวจนถึงขั้นเสียชีวิต นางจึงออกคำสั่งบังคับให้ยักษ์ทั้งเมืองทำการ"สร้างภาพ"ครั้งมโหฬารตามนิสัยชอบเอาแต่ใจของนางเองด้วย คือ

       

      ๏ แล้วสั่งกุมภัณฑ์ให้จัดแจง          ตกแต่งเร่งรัดอย่าขัดขวาง

      อีกทั้งข้าเฝ้าท้าวนาง                   ต่างต่างแผลงฤทธิ์นิมิตกาย

      ให้เป็นมนุษย์สุดสิ้น                     ตรัสพลางเทพินผันผาย

      เข้าที่นฤมิตบิดเบือนกาย               เฉิดฉายโสภาอ่าองค์

      ออกจากวังแก้วแพรวพรรณ           กำนัลพรั่งพรูดูระหง

      แห่แหนแน่นอัดจัตุรงค์                 เสนาพาลงไปคงคา

      ฯ ๖ คำ ฯ กลองโยน เชิด

       

       

      และเพื่อกลบกระแสข่าวลือที่ว่า ยักษ์ไม่ควรสมาคมกับมนุษย์ ที่เหล่าขุนนางต่างไม่ไว้วางใจอยู่ นางจึงได้ทำการอธิษฐานเสี่ยงทายว่า

       

      ๏ มาถึงหาดทรายชายทะเล           เห็นเภตราลอยคอยท่า

      ลดองค์ลงริมชลธาร์                     หัตถาจบน้ำได้สามที

      แล้วนางตั้งจิตพิษฐาน                  กุมารบุญหนักศักดิ์ศรี

      จะมาเป็นลูกข้าในครานี้                เทวัญจันทรีจงเล็งแล

      ขอให้ลอยเข้ามาถึงฝั่ง                 เหมือนหนึ่งยังข้าเห็นให้เป็นแน่

      เสี่ยงพลางแล้วนางผันแปร            ลุกยืนชะแง้แลไป

      สำเภาลอยเลื่อนเคลื่อนคลา          ไม่ทันพริบตาเข้ามาใกล้

      เกยยังฝั่งพลันทันใด                    บัดใจเห็นทั่วทุกตัวมาร

      ฯ ๘ คำ ฯ สาธุการ

       

      แน่นอนว่า หลังภาพนี้ได้ประจักต์เป็นหลักฐานแก่สายตาเหล่ายักษ์(แปลง)ทั้งหลาย ข่าวลือต่างๆก็เป็นอันยุติไปในทันที แต่ความไม่พอใจน่าจะยังมีอยู่ลึกๆเป็นคลื่นใต้น้ำ

       

      แต่พอวันแรกที่นางพันธุรัตรับพระสังข์มาเลี้ยง นางก็บอกเรื่องที่ทำให้พระสังข์งานเข้าในทันที ซึ่งเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่และหนักมากสำหรับเด็กตัวน้อยๆ คือ

       

      ๏ ฟังเอยฟังการ                นางมารสงสารเป็นหนักหนา

      รับขวัญไม่กลั้นน้ำตา          ลูบหลังลูบหน้าให้ปรานี

      แม่จะถนอมกล่อมเกลี้ยง     จะเลี้ยงเจ้าเป็นบุตรนะโฉมศรี

      พ่ออย่าได้กังขาราคี           พระบุรีจะให้แก่ลูกยา

      จูบพลางนางอุ้มขึ้นใส่ตัก    ความรักแสนสุดเสน่หา

      ดังดวงฤทัยนัยนา             แล้วสั่งมหาเสนาใน

      ท่านจงเร่งรัดจัดแจง          ตกแต่งพาราอย่าช้าได้

      จะสมโภชลูกแก้วแววไว     บาดหมายกันไปอย่าได้นาน

      ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

       

      ตัวกลอนชุดนี้ แสดงถึงปัญหาหนักอึ้ง ๒ ประการ

       

      ๑.พ่ออย่าได้กังขาราคี           พระบุรีจะให้แก่ลูกยา

           ประโยคนี้ นางพันธุรัตบอกกับพระสังข์ถึงกาลอนาคตข้างหน้าว่า ต่อไป นางจะให้พระสังข์ได้ครองเมืองยักษ์นี้! โดยที่นางเองไม่ได้ถามความต้องการของพระสังข์เลย มาถึงนางก็ยัดตำแหน่งให้ ขณะนั้นพระสังข์ก็ยังเล็ก ยังไม่หายคิดถึงแม่กับตายาย นางพันธุรัตก็จัดแจงวางแปลนระยะยาวให้พระสังข์อยู่ในเมืองนี้ไปตลอดชีวิตเสียแล้ว!!!(ให้คนปกครองยักษ์ทั้งเมืองมันจะไปรอดมั้ย???)

       

      ๒.จะสมโภชลูกแก้วแววไว     บาดหมายกันไปอย่าได้นาน

          หลังจากรับพระสังข์ขึ้นมาแล้ว นางจึงสั่งให้จัดงานมหรสพขึ้นทันที โดยหวังว่า ความบาดหมางทั้งหลายจะหายไป คำถามคือ ใครบางหมางกับใคร???

      คำตอบนั้น น่าจะเป็นความบาดหมางที่นางพันธุรัตมีต่อบรรดาขุนนางเรื่องทายาทบัลลังก์นั่นแหละ นางจึงได้ประกาศในวังกลางที่ประชุมว่า พระบุรีจะให้แก่ลูกยา และขอให้นับแต่นี้ไป บาดหมายกันไปอย่าได้นาน เรื่องอะไรที่สมควรจบก็ให้รีบจบๆไปซะถ้าไม่อยากจะมีปัญหา!(กระแสการต่อต้าน(แอนตี้)พระสังข์ของพวกยักษ์ในเมืองจึงค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับ)

       

       

      จากเรื่องนี้เองทำให้พระสังข์อึดอัดใจมากเพราะตนเองก็มีภารกิจตามหาแม่แท้ๆอยู่ในใจอยู่ก่อนแล้ว ยังมาถูกยัดเยียดความหวังอันริบหรี่ใส่มืออีก พระสังข์จึงต้องอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะบอกใครก็ไม่ได้เพราะว่า

       

      ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนแท่นแก้ว            ผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมศรี

      แล้วจัดแจงนักเทศน์ขันที               นางนมทั้งสี่พี่เลี้ยง

      กำนัลนางมโหรีขับไม้                    สำหรับให้ขับกล่อมพระเนื้อเกลี้ยง

      แม่มอบให้พระสังข์ทั้งวังเวียง          ใครทุ่มเถียงจงเฆี่ยนฆ่าตี

      นางถนอมกล่อมเกลี้ยงรักษา          มิให้พระลูกยาเจ้าหมองศรี

      จนพระชันษาสิบห้าปี                    ยังทวีความรักอยู่ทุกวัน

      นางค่อยเคลื่อนคลายสบายใจ         จะใคร่ไปเที่ยวป่าพนาสัณฑ์

      เผอิญใจทึกทึนนึกผูกพัน               คิดพรั่นกลัวลูกจะหนีไป

      อย่าเลยจะแสร้งแกล้งล่อลวง          อย่าให้ล่วงหมายคำสำคัญได้

      ว่าไปช้าแล้วกลับมาเร็วไว              ถึงจะหนีไปไม่พ้นกร

      แม่จะไปป่าเจ็ดราตรี                     พันปีจงฟังแม่สั่งสอน

      บ่อน้ำซ้ายขวาเจ้าอย่าจร                หอข้างหัวนอนเจ้าอย่าไป

      สั่งลูกแล้วพบันมิทันช้า                  พรั่งพร้อมทหารหน้าห้องใหญ่

      ออกจากพาราคลาไคล                  แปลงไปเป็นยักษ์ฉับพลัน

      ฯ ๑๔ คำ ฯ กราว

       

      นางพันธุรัตเล่นจัดพี่เลี้ยงประกบเป็นบอดี้การ์ดคอยจับตาดูตลอด๒๔ชั่วโมง ไม่ว่าพระสังข์จะทำอะไรก็อยู่ในสายตาตลอด แถมแอบโหดเหี้ยมนิดๆด้วยการบอกว่า แม่มอบให้พระสังข์ทั้งวังเวียง          ใครทุ่มเถียงจงเฆี่ยนฆ่าตี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางจะโหดไปไหน ขนาดบอกว่ายกวังทั้งวังให้พระสังข์จัดการแล้ว ยังจะบอกอีกว่า พระสังข์มีอำนาจในวังนี้เต็มที่ใครทุ่มเถียงจงเฆี่ยนฆ่าตี! นางไปบอกเด็กตัวเล็กๆอย่างนั้นได้ยังไง ลูกคนโหดเหมือนลูกยักษ์ซะที่ไหน นางเองก็ไม่เคยเลี้ยงลูกเลี้ยงเด็ก ถ้ามีคงตามใจลูกจนเสียสันดานแน่ๆ นิสัยนางเองก็น่ากลัวมากจริงๆจะให้ใครมีความเห็นค้านรัชทายาทไม่ได้เลยรึไง? นางเองคงปกครองเมืองและขุนนางด้วยการสร้างความหวาดกลัวมาตลอดแน่ๆถึงไม่มีใครขัดนางเลย

       

      แต่พระสังข์เองก็เก่งนะ อดทนมาได้จนอายุ๑๕ นางพันธุรัตก็วางใจ(นางพันธุรัตน่าจะเป็นพวกมีนิสัยเอ็นดูคนใกล้ตัวนะ) นางคงคิดว่า พระสังข์คงลืมๆเรื่องเก่าๆได้แล้ว และคงยกบัลลังก์ให้ได้แน่นอนจึงออกไปหากินบ่อยเข้าๆจนพระสังข์จับทางได้ และหาช่องโหว่จากการที่ถูกจับตาจากเหล่าพี่เลี้ยงตลอดเวลาแอบหนีจนไปพบความจริงของนางพันธุรัตจนได้(พวกพี้เลี้ยงคงเฝ้าพระสังข์จนเหนื่อยเลยเผลอหลับไป พระสังเลยแอบๆหลบมาได้) เพราะตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่ พระสังข์ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวดูเมืองด้วยตัวคนเดียวสักครั้ง ซึ่งการไม่ให้พระสังข์อกไปไหนน่าจะมาจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน คือ

       

      ๑.ป้องกันไม่ให้พระสังข์ได้รับอันตรายจากพวกยักษ์ในเมืองที่ไม่พอใจตัวพระสังข์ ถ้าออกไปเที่ยวเล่นในเมืองอาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกลักพาตัวรึลอบสังหารได้(รัชทายาทเจอแบบนี้แทบทุกราย!)

       

      ๒.ป้องกันไม่ให้ชาวเมืองยักษ์ลุกฮือขึ้นต่อต้าน เพราะไม่พอใจที่ต้องคอยนิมิตแปลงสภาพบ้านเมืองเพื่อสร้างภาพให้พระสังข์เห็นในทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวเล่นในเมือง(มันอึดอัดไม่ใช่นิสัยยักษ์เลยที่ต้องมาแปลงเป็นคนแล้วต้องคอยยิ้มแย้มสมานฉันท์รับแขกตลอดเวลาแบบนี้!)

       

      หากพระสังข์ยังคงอยู่ในเมืองยักษ์ต่อไป ถ้านางพันธุรัตสิ้นแล้ว พระสังข์ได้ปกครองเมืองต่อ พระสังข์จะทำยังไง เป็นผู้นำแต่มีศัตรูอยู่ทั้งเมืองแบบนี้? แล้วไหนจะภาพมายาที่สร้างไว้อีก ถ้าพระสังข์ครองเมืองแล้วมารู้ทีหลังว่าเมืองนี้เป็นของยักษ์อะไรจะเกิดขึ้น?

       

      อนึ่ง เราพบว่า คำว่า พันธุรัต มาจาก พันธุ = พวกพ้อง + รัต = ยินดี,ชอบใจ หรือ ราตรี

      ดังนั้น จึงอาจแปลรวมๆได้ว่า เป็นผู้ยินดีในพวกพ้อง ไม่ก็ เป็นความมืดมนของพวกพ้อง(แต่ส่วนตัวเชื่อความหมามแรกมากกว่า)

       

      ถ้าจะให้วินิจฉัยสรุปสาเหตุการตายของนางพันธุรัต ณ ตอนนี้ คงสรุปได้ว่า การตายของนางพันธุรัตน่าจะมาจากการที่นางฝากฝังและตั้งความหวังไว้กับตัวพระสังข์มากเกินไปจนมองไม่เห็นทางออกอื่นๆที่อาจใช้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าตัวพระสังข์ได้ เมื่อไม่ได้ตามที่ใจตนต้องการ(นางเป็นคนเอาแตาใจอย่างร้ายกาจ)นางจึงต้องเผชิญกับโรคทางใจจนเสียชีวิต

       

      ถ้าสังเกตดีๆอีกก็จะพบว่า ตั้งแต่พระสังข์ออกจากหอยสังข์มา(จริงๆแล้วไม่ได้ออกเองแต่โดนทุบแตกเลยไม่เหลือไว้ให้หลบ)พระสังข์ไม่เคยมีเพื่อนรุ่นเดียวกับตนเลย อาจเคยเล่นกับแม่และตายายมาบ้าง แต่ว่านับตั้งแต่ตอนที่มาอยู่กับนางพันธุรัตก็ยิ่งแล้วใหญ่ พระสังข์ไม่เคยมีใครเล่นด้วยเลย(อาจเพราะพวกนางกำนัลพี่เลี้ยงกลัวว่าหากทำผิดจะถูกนางพันธุรัตลงโทษรึด้วยความรังเกียจในตัวพระสังข์) หลังจากที่นางพันธุรัตเสียชีวิตแล้ว พระสังข์จึงออกคำสั่งในฐานะของเจ้าเมืองยักษ์เป็นครั้งแรก คือ

       

      ๏ ครั้นคลายวายโศกเศร้าหมอง              พระจึงร้องสั่งเหล่ายักษา

      ท่านจงเชิญศพพระมารดา                     คืนไปพาราของเรา

      แล้วตระเตรียมการไว้ให้เสร็จสรรพ          คอยท่าข้ากลับมาจึงเผา

      การพระเมรุใหญ่อยู่อย่าดูเบา                 ท่านจงเอาใจใส่ไตรตรา

      ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

       

      นับว่า พระสังข์ได้ทำความคาดหวังของนางพันธุรัตแล้ว แม้ว่าออกจะช้าเกินไปก็ตามที การสั่งให้เชิญศพของนางพันธุรัตคืนไปพาราของเราเป็นการตอกย้ำเหล่าเสนาอำมาตย์ขุนนางต่างๆแล้วว่า พระสังข์ยินดีรับตำแหน่งเจ้าเมืองยักษ์ขึ้นนั่งบัลลังก์ต่อจากนางพันธุรัต และได้กำชับตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า แล้วตระเตรียมการไว้ให้เสร็จสรรพ          คอยท่าข้ากลับมาจึงเผา เป็นการออกคำสั่งที่ชัดเจนเด็ดขาด คือ ต้องรอเจ้าเมือง คือพระสังข์เป็นคนกลับไปจัดการเองในฐานะของลูกและ"เจ้าเมือง"!

       

      เมื่อได้ท่องจำจินดามนตร์จนขึ้นใจแล้ว พระสังข์ก็สวมชุดเงาะ เกือกแก้ว และถือไม้เท้าเหาะมาจนถึงเขตแดนเมืองของท้าวสามนต์แห่งหนึ่ง อนึ่ง สามนต์ มาจากคำว่า สามันตราช คือ ราชาของหัวเมือง ไม่ใช่กษัตริย์ที่ปกครองแผ่นดิน ฉะนั้น คำว่า สามนต์จึงไม่ใช่ชื่อเมือง แต่เป็นสรรพนามใช้เรียกเป็นตำแหน่งของบุคคลที่ปกครองหัวเมือง!!! ในท้องเรื่อง ท้าวสามนต์ในที่นี้ น่าจะเป็นผู้ปกครองหัวเมืองหนึ่งในดินแดนของท้าวยศวิมลพ่อของพระสังข์นั่นเอง(เพราะอยู่ไม่ไกลเมืองกันถึงหากันเจอได้ง่ายนัก)

       

      หลังจากลงมาในเขตชายแดนของเมืองท้าวสามนต์นี้แล้ว พระสังข์ได้เจอกับพวกเด็กๆเลี้ยงวัวที่พาวัวออกมากินหญ้า พระสังข์จึงไปเล่นกับพวกเด็กๆเพราะพระสังข์ไม่เคยมีเพื่อนเล่นด้วยเลย จึงมีการชดเชยปมด้อยในวัยเด็กของพระสังข์กันเล็กน้อยในเหตุการณ์นี้ และการที่พระสังข์ทองต้องสวมรูปเงาะและมาลงอาศัยที่ชายแดนเมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่าต้องการปลอมตัวและหลบซ่อนตัวจากพวกยักษ์ที่คิดตามล่าตนก็เป็นได้ เพราะเมื่อสิ้นนางพันธุรัตแล้วการกำจัดพระสังข์ที่ขาดการคุ้มกันนั้นมันง่ายมากๆ! พระสังข์ทองจึงต้องสวมรูปเงาะปลอมตัวอยู่ในเมืองนั้นไปก่อนจนกว่าจะแน่ใจในสถานการณ์

       

      ส่วนตอนที่ ท้าวสามนต์ให้ลูกเขยหาปลาหาเนื้อ นั้น พระสังข์ได้แสดงพฤติกรรมแปลกๆออกมา ตอนที่สั่งให้ทั้ง๖เขยตัด(ปลาย?)หูและจมูกเพื่อแลกกับเนื้อและปลา ซึ่งพฤติกรรมพิสดาร(ปนซาดิสต์!)นี้ น่าจะเป็นความขี้เล่นแบบโหดๆที่ติดมาจากนิสัยของนางพันธุรัตก็เป็นได้!!!

      สาเหตุที่มาเรื่อง การเนรเทศนางจันท์เทวี(แม่พระสังข์)

      https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%8C/722877217841423

       

      สาเหตุที่มาเรื่อง การถ่วงพระสังข์

      https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%8C/723727747756370

       

      ท้าวสามนต์ คือ...

      https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2/%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/203400216455795

      จาก

      https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95/555993347863145

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×